Passwords nightmare

21 ม.ค.2009

เช้านี้ตื่นสายเพราะเมื่อคืนนั่งเฝ้าดูถ่ายทอดสดการแต่งตั้งประธานาธิบดี Obama ทาง CNN กว่าจะได้เข้านอนก้อเกือบเที่ยงคืนครึ่ง ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกแล้วตอน 6 โมงครึ่ง คิดว่าเดี๋ยวขอนอนต่ออีก 10 นาที นาฬิกาจะปลุกทุกๆ 10 นาทีถ้าไม่กด switch off จำไม่ได้ว่ากดปุ่มให้มันหยุดปลุกไม่รู้กี่ครั้ง รู้สึกตัวอีกทีเหลือบมองนาฬิกาเท่านั้นแหละตาลีตาเหลือกกระเด้งตัวออกจากเตียงแทบไม่ทันเพราะมันปาเข้าไป 8 โมงครึ่ง รีบโทรไปที่ทำงานบอกว่านอนเพลินคงจะไปถึงที่ทำงานระหว่าง 9 โมงครึ่ง-สิบโมง โทรไปแล้วก้อสบายใจจะได้ไม่ต้องรีบร้อนมาก ยังไงก้อขอให้ดื่มกาแฟซักถ้วยก่อนออกจากบ้านเป็นอันใช้ได้

ถึงที่ทำงานอีก 10 นาทีสิบโมงเช้า say good morning กับทุกคนแล้วก้อขอโทษที่มาช้า เพื่อนที่ทำงานก้อแสนดีต่างก้อพูดว่า โอ๊ยไม่เป็นไรเรื่องธรรมดา มาสายไม่ว่าขอให้มาก้อแล้วกัน เราก้อเลยยิ้มแฉ่งเดินไปเอาน้ำกับกาแฟอีกถ้วยมาไว้ที่โต๊ะทำงาน เรื่ม log on เข้าระบบรออีกเกือบ 10 นาทีเพราะมันกำลัง update โปรแกรมอีก 2-3 ตัว ก้อถามเพื่อนว่าเมื่อเช้าตอนเธอ log on มันมี update อะไรรึเปล่า เพื่อนบอกว่ามี ก้อ โอเคแล้วไป

เมื่อเข้าไปใน system แล้วก้อต้อง log on อีก system หนึ่ง ลง password ไป 2 ครั้งมันก้อไม่เข้าให้ เปิดลิ้นชักเอาสมุดที่จด password ออกมาดูเขียนลงไปอีกที อ้าวเครื่องมัน lock เราแล้ว เลยต้องโทรไปที่ help desk บอกว่าช่วยหน่อย เค้าก้อให้ temporary password มาแล้วก้อให้เราเปลี่ยนลง password ของเราเอง ก้อเลยถามเค้าว่าใช้ password ตัวเดิมที่ใช้อยู่ได้รึเปล่า เค้าบอกว่าไม่ได้ต้องเปลี่ยนใหม่ OK เปลี่ยนก้อเปลี่ยน ขอบคุณเสร็จก้อวางสาย

ทีนี้ก้อต้องนั่งนึกอีกจะเอา password อะไรดีที่จำได้ง่ายๆ เพราะมีอีก 2 โปรแกรมที่จะต้องลง password อีกเผื่อมันหมดอายุคราวหน้าจะได้เปลี่ยนให้เหมือนกันหมด พอนึกคำออกก้อรีบจดลงในสมุด เปิดโปรแกรม ลง password ที่อยู่ใน system นี้กลายเป็นว่า password หมดอายุ ก้อดีใจคิดว่าหมดอายุก้อดีจะได้เปลี่ยนพร้อมกันไปเลย เพราะโปรแกรมนี้จะต้องเปลี่ยน password ทุกๆเดือน พอเปลี่ยนแล้วก้อใช้ไม่ได้อีก เพราะมันบอกว่ามีตัวอักษรที่ซ้ำกันอยู่ที่เดิม เอาอีกแล้ว หยิบสมุดบันทึกออกมาดูว่า เราลง password อะไรไปบ้างในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา เป็นอันว่าต้องมานั่งนึกเอาใหม่อีก กว่าจะได้เริ่มทำงานก้อเกือบ 11 โมงเลยนึกโมโหตัวเองแล้วบ่นให้เพื่อนฟังว่า วันนี้ไม่ใช่วันของเราเลย

ตกลงตอนนี้มี password ที่ทำงาน 7 ตัว 2 system + 5 โปรแกรม แล้วก้อไอ้ password 7 ตัวเนี๊ยะจะต้อง log on ใหม่อีกถ้าเครื่องไม่ได้ใช้นาน 10 นาทีเพราะฉะนั้นเวลาที่เปลี่ยน password ทีไรทำเอาเราปวดหัวทุกที

เลิกงานลงลิฟท์มาชั้นล่างเพื่อถอนเงินจากตู้ ATM หยิบบัตรออกมาสอดเข้าเครื่องแล้วกดรหัสมันกลับบอกว่าผิด นึกในใจว่ารหัสนี้เราก้อใช้อยู่ทุกวันเพราะเวลาซื้อของก้อใช้บัตรรูดและต้องกดรหัสทุกครั้ง ลองสอดใหม่กดดูอีกมันก้อยังบอกว่ารหัสไม่ถูกต้องเหมือนเดิม เริ่มใจไม่ดีแล้วเพราะถ้ากดอีกหนแล้วผิดอีก ที่นี้แหละบัตรจะโดนสูบเข้าเครื่องไปเลย ทำไงดีมีบัตรอีกใบแต่ไม่ค่อยได้ใช้ รหัสก้อจำไม่ได้ หันไปมองข้างหลังมีคนต่อแถวอยู่ 5 คนเลยขอโทษพวกเขาบอกว่าหยิบบัตรผิด นึกในใจว่ามันต้องผิดแน่ๆ หยิบบัตรอันใหม่ออกมาแล้วก้อกดรหัสเดิมนั่นแหละ โล่งอกเมื่อเครื่องมันบอกว่ากรุณาดึงบัตรออกและรอรับเงิน

คิดไม่ออกว่าทำไมบัตรมันจึงเปลี่ยนที่สลับกัน บัตร 2 ใบนี้เหมือนกันเปี๊ยบเพราะธนาคารเดียวกันจะต่างกันเแค่เลขบัญชีของบัตร ที่จำเป็นต้องมี 2 ใบก้อเพราะว่ามี 2 บัญชีคือบัญชีส่วนตัวและบัญชีที่เงินเดือนเข้าซื่งปกติก้อใช้บัตรของบัญชีเงินเดือนตลอดเวลา ส่วนบัตรของบัญชีส่วนตัวจะใช้เมื่อเวลาซื้อของทาง Internet หรือเอาไว้ใช้เวลาไปต่างประเทศเพราะถ้าถูกคนมัน hack เข้าบัญชีเราจะได้ไม่ต้องช้ำใจมาก

ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถไฟกลับบ้านก้อนั่งนึกไปตลอดเวลาว่าเรามีรหัสกับ password อะไรบ้างที่เราต้องจำและใช้อยู่ในชีวิตประจำวันแล้วเราจะไปจดเอาไว้ที่ไหนดี พอถึงบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหาสมุดฉีกเริ่มเขียนลงไปว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องใช้รหัสกับ password แล้วมันก้อออกมาเป็นแบบนี้

- รหัสเข้าประตูตัวอาคารที่อยู่ รหัสนี้จะเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือนถ้ามีคนถามก้อจะตอบไม่ได้ทันทีเพราะจำไม่ได้เนื่องจากเวลากดจะจำว่าเอานิ้วจิ้มตรงไหน เช่นเดียวกับเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองเวลาไปติดต่อกับใครที่ไหนแล้วเค้าถามเบอร์โทรจะต้องนั่งนึกก่อน แล้วก้อบอกเค้าไปตรงๆว่าไม่เคยโทรเข้าเบอร์ตัวเองก้อเลยไม่ค่อยได้จำ
- รหัส pin มือถือ ตั้งแต่กลับจากเมืองไทยซื้อเครื่องใหม่แล้วก้อใช้มายังไม่เคยปิด เพราะถ้าปิดแล้วจะต้องกดรหัส pin นี่ก้อยังหาไม่เจอเลยไม่รู้เอาไปซ่อนไว้ที่ไหน

- ที่ทำงาน 7 password กับ 1 รหัสที่สำหรับเข้าไปในแผนกที่ทำงานถ้าไปถึงก่อน 8 โมงเช้า

- รหัสบัตร visa 2ใบของสวีเดน อีก 3 ใบของธนาคารไทย ที่มีตั้ง 3 ใบนี่ไม่ใช่ว่ามีเงินหรอกนะต้องรีบบอกเดี๋ยวจะหาว่ารวย คือว่าตอนอยู่เมืองไทยปีนึงต้องใช้เงินบ่อยแล้วบัตรของสวีเดนมันมี limit ให้ถอนภายใน 1 อาทิตย์จึงโอนเงินเข้าบัญชีที่มีอยู่กับแบงค์กรุงเทพมานาน ต่อมารู้สึกว่าการติดต่ออะไรช่างรอนานเหลือเกินเพราะคนเยอะมากหาที่จอดรถก้อลำบาก พี่ชายเลยให้ลองไปเปิดบัญชีที่กสิกรเลยได้บัตรมาอีกใบ แต่ที่เลิกเพราะบริการแย่เนื่องจากว่าเราจะเอาเงินออกจาก visa เพื่อเอาเข้าบัญชีกลับให้เราไปถอนออกจาก ATM เค้าบอกว่าทางธนาคารสามารถเอาเงินออกจาก visa ต่างประเทศได้เพียงครั้งละ 20000 บาท เกิดมาก้อเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ เลยย้ายไปเข้าไทยพานิชย์ซะเลย บริการที่นี่ดีมากสมกับที่เห็นทางทีวี

- ทาง Internet ที่ต้องใช้ password เข้าใน website ต่างๆ อีก 19 แห่ง

- 6 e-mail 6 password

อ่านแล้วตัวเองก้อมึนหัว กำลังคิดอยู่ว่าเดี่ยวเสาร์-อาทิตย์นี้จะต้องทำการ organize รหัสและ password เหล่านี้ซะทีเพราะมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก.........ไม่รู้ว่าจะเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนดีกลัวหาไม่เจออีก..



Create Date : 22 มกราคม 2552
Last Update : 23 มกราคม 2552 3:50:08 น. 2 comments
Counter : 527 Pageviews.

 
เขียนได้ชวนอ่านดีครับ...

ทำงานอะไรที่นั่นเหรอครับ ถึงมีพาสเวิร์ดเยอะอะไรปานนั้น...


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:11:29:13 น.  

 
ทำงานธนาคารค่ะคุณหมีบางกอก


โดย: Mellitus วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:1:43:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mellitus
Location :
กาญจนบุรี Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




ขอปรับปรุงข้อมูลของตัวเองซักหน่อยเอาเป็นว่าเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสวีเดนมานานพอสมควรและชอบกับระบบและวัฒนธรรมของสวีเดนจึงทำให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ดีทีเดียว

เป็นคนเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรีแต่มาแก่อยู่ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม อายุเริ่มมากแล้วแต่จิตใจยังวัยรุ่นอยู่เพราะไม่มีเวลาที่จะมากังวลเรื่องความแก่ ถ้าคิดว่าตัวเองแก่มันก็แก่อย่างที่คิด
กำลังคิดที่จะเขียนประวัติย่อๆของตัวเองเพราะมีน้องคนหนึ่งเขียนถามมา ที่จริงไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยเท่าไร เพราะชีวิตจริงไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นแต่อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย เพราะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งที่ทำงานและในยามว่าง ไม่ค่อยมีคนไทยเป็นเพื่อนเนื่องจากเป็นคนตรงและปากเสีย เลยคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะคบ ไม่เคยเกรงกลัวคนประเภทโอ่ๆทั้งหลาย เคยทำงานที่ Office of Commercial Affairs มาก่อน (เดี๋ยวนี่คงจะไม่มีแล้วในสวีเดน ไม่ทราบเหมือนกัน) เจอประเภทพวกใหญ่ๆโตๆทั้งหลายที่มาสวีเดนมาแล้วทำตัวเหมือนเจ้าแล้วมองคนอื่นเหมือนทาส เลยเบื่อและออกห่างจากสังคมไทยมานานเกือบ 20 ปีแล้วเนื่องจากเห็นมาเยอะ เกลียดคนที่ชอบเลียก้นนักการเมืองและผู้ที่มีอิทธิพลทั้งหลาย วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยไม่เคยลืมแต่จะใช้และแสดงออกก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามสมควรที่จะได้รับ



Locations of visitors to this page







Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mellitus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.