ไม้ก๊อกหรือ cork เอามาใช้ทำอะไรได้บ้าง



หลังจากที่เขียนเรื่องการนำวัสดุเหลือหรือที่ถูกทอดทิ้งมาสร้างบ้านโดย Mr.Dan Phillips ชาวอเมริกันและเห็นว่าเขาได้นำเอาจุกไม้ก๊อกมาทำเป็นพื้นของบ้าน อีกทั้งได้อ่านเจอเรื่องราวของจุกไม้ก๊อกที่กำลังจะเลือนหายไปจากอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ทำให้สนใจเรื่องนี้มากขึ้น


มีความสงสัยมานานเป็นปีแล้วเหมือนกันว่าทำไมมันเป็นจุกพลาสติก เวลาไปซื้อไวน์ไม่เคยได้สังเกตุว่าจุกขวดไวน์ใช้อะไรจนกระทั่งมาถึงบ้านจะเปิดดื่มถึงได้เห็นว่ามันเป็นจุกเกลียวบ้างและจุกพลาสติกบ้าง มันเสียความรู้สึกเอามากๆ โดยเฉพาะไวน์แดง ถ้าเป็นไวน์ขาวก็ยังพอทำใจได้แต่เดี๋ยวนี้ซื้อแบบไวน์กล่องเสียมากกว่าเพราะมันสะดวกในการหิ้วกลับบ้าน

ได้รับคำแนะนำจาก คนสวีดิชใน twitter เมื่อประมาณ 2-3เดือนที่ผ่านมาถึงไวน์แดงที่ชื่อว่า Tim Adams ของออสเตรเลียซึ่งไม่มีขายในร้านขายแอลกอฮอลของสวีเดนต้องสั่งซื้อและใช้เวลาถึง 1 สัปดาห์กว่าจะได้ราคาประมาณ 100 กว่าโครนเมื่อได้มาแล้วก็รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างแรงเพราะมันเป็นจุกเกลียว



ตั้งแต่นั้นมาเลยไม่ซื้อไวน์แดงของออสเตรเลียอีกเลยเพราะไม่รู้ว่าจะเจอกับจุกประเภทไหนอีก และก็หลีกเลี่ยงซื้อไวน์ที่เป็นจุกเกลียวด้วย จากที่ได้หาอ่านทางอินเทอร์เนทถึงได้รู้สาเหตุว่าทำไมบริษัทผู้ผลิตไวน์ถึงได้เลิกใช้จุกไม้ก๊อกเพราะเขาตรวจพบว่าไม้ก๊อกมีมวลสารและสิ่งสกปรกในเนื้อไม้และอาจทำให้รสชาดของไวน์เสียไปเมื่อเก็บไว้นาน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นสองประเทศแรกที่ยกเลิกใช้จุ๊กไม้ก๊อก แต่ข้อคัดค้านก็มีอยู่มากและเจ้าของบ้านคิดว่าเป็นเรื่องของการลดต้นทุนเสียมากกว่าเพราะจุ๊กไม้ก๊อกต้องนำเข้า การใช้จุ๊กไม้ก๊อกในการผลิตไวน์มีมานานเป็นร้อยๆปีทำไมไม่มีการทดลองตรวจสอบว่าเนื้อไม้มีสิ่งสกปรกเจือปน ที่จริงแล้วการผลิตจุ๊กไม้ก๊อกมีขบวนการและขั้นตอนในการผลิตที่ทันสมัย

และเนื่องจากป่าไม้ก๊อกหรือที่เรียกว่า Cork Oak tree มีอยู่เพียงไม่กีประเทศในโลกที่ปลูกกันเป็นล่ำเป็นสันก็คือ โปรตุเกส สเปน อัลจีเรีย โมรอกโค รองลงมาก็คือฝรั่งเศสกับอิตาลี่ สิ่งที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นำมาเป็นข้ออ้างในเรื่องสภาวะสิ่งแวดล้อมก็คือช่วยลดคาร์บอนในบรรยากาศของโลกในด้านการขนส่งซึ่งมันฟังดูแล้วไม่ค่อยเข้าหูเท่าไรเพราะการบินและการเดินเรือก็ยังคงมีอยู่และก็ดูเหมือนจะมีเพิ่มมากขึ้้น


อยากจะรู้เหมือนกันว่าแชมเปญที่ขวดหนึ่งราคาเป็นพันเป็นหมื่นบาทจะเปลี่ยนไปใช้จุกเกลียวหรือจุกพลาสติกหรือไม่ในอนาคต

หน้าตาของต้นไม้ก๊อกมันก็เป็นอย่างนี้ค่ะ













องค์กร WWF และองค์กรอื่นๆที่สนับสนุนและร่วมกันป้องกันสภาวะสิ่งแวดล้อมของโลกได้เข้ามาออกความเห็นว่าการที่จะช่วยกันปกป้องสภาวะสิ่งแวดล้อมนั้นก็คือการใช้ไม้ก๊อกเพราะสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้ใช้และสามารถที่จะนำไป recycle ได้ อีกทั้งปกป้องการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ป่าต้นไม้ก๊อกนั้นกว้างใหญ่มหาศาลหากไม่มีการดูและเก็บเกี่ยวผลที่ตามมาก็อาจจะเกิดไฟไหม้ป่าได้ง่ายขึ้นพื้นที่เหล่านั้นอาจจะกลายเป็นทะเลทรายได้อนาคต เพราะไม้ก๊อกที่นำมาใช้นั่นก็คือเปลือกไม้ที่แห้งและเป็นเซลที่ตายแล้ว อุตสาหกรรมการทำไม้ก๊อกไม่ได้ตัดไม้ทำลายป่าแต่อย่างใด การเก็บเกี่ยวโดยลอกเอาเปลือกไม้ออกมาจากต้นไม้จะทำได้ในรอบ 10 ปีหมายถึงเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วครั้งต่อไปก็คือในอีก 10 ปีข้างหน้า ต้นไม้ก็จะผลิตเยื่อใยออกมาปลกคลุมโดยธรรมชาติต่อไป


ไม้ก๊อกเอามาใช้ทำอะไรได้บ้างนอกจากจุกขวด ที่เอามาทำก็คือพื้นบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องประดับบ้านอื่นๆ เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่จะเก็นสะสมจุกไม้ก๊อกเพื่อนำไปทำสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์ได้ต่อไป ลองมาดูรูปข้างล่างว่าเอาไปทำอะไรได้บ้าง


































































































บางคนที่เก็บสะสมจุ๊กไม้ก๊อกเป็นการส่วนตัวก็นำมาทำเป็นที่รองกันความร้อนหรือทำเป็นพรมในห้องน้ำตามแบบอย่างข้างล่างค่ะ





























ที่เขียนมาไม่ได้ยุยงส่งเสริมให้คนไทยหันไปดื่มไวน์มากขึ้นและเก็บสะสมจุกไม้ก๊อกเพราะราคาที่เมืองไทยมันค่อนข้างจะโหดเหลือเกิน คนมีเงินเดือนธรรมดาๆคงจะไม่มีปัญญาไปซื้อไวน์มาดื่มกับอาหารทุกวันหรือทุกอาทิตย์เป็นแน่ เพียงแต่เขียนเพื่อให้เป็นความรู้เล็กๆน้อยๆเท่านั้นเองค่ะ







 

Create Date : 11 ตุลาคม 2553
2 comments
Last Update : 11 ตุลาคม 2553 4:36:13 น.
Counter : 9575 Pageviews.

 

รูปสุดท้ายสวยค่ะเก๋ดีจัง

 

โดย: หัวใจแก้ว 11 ตุลาคม 2553 15:53:44 น.  

 







สวัสดียามเช้าค่ะ







 

โดย: d__d (มัชชาร ) 13 ตุลาคม 2553 7:45:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Mellitus
Location :
กาญจนบุรี Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




ขอปรับปรุงข้อมูลของตัวเองซักหน่อยเอาเป็นว่าเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสวีเดนมานานพอสมควรและชอบกับระบบและวัฒนธรรมของสวีเดนจึงทำให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ดีทีเดียว

เป็นคนเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรีแต่มาแก่อยู่ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม อายุเริ่มมากแล้วแต่จิตใจยังวัยรุ่นอยู่เพราะไม่มีเวลาที่จะมากังวลเรื่องความแก่ ถ้าคิดว่าตัวเองแก่มันก็แก่อย่างที่คิด
กำลังคิดที่จะเขียนประวัติย่อๆของตัวเองเพราะมีน้องคนหนึ่งเขียนถามมา ที่จริงไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยเท่าไร เพราะชีวิตจริงไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นแต่อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย เพราะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งที่ทำงานและในยามว่าง ไม่ค่อยมีคนไทยเป็นเพื่อนเนื่องจากเป็นคนตรงและปากเสีย เลยคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะคบ ไม่เคยเกรงกลัวคนประเภทโอ่ๆทั้งหลาย เคยทำงานที่ Office of Commercial Affairs มาก่อน (เดี๋ยวนี่คงจะไม่มีแล้วในสวีเดน ไม่ทราบเหมือนกัน) เจอประเภทพวกใหญ่ๆโตๆทั้งหลายที่มาสวีเดนมาแล้วทำตัวเหมือนเจ้าแล้วมองคนอื่นเหมือนทาส เลยเบื่อและออกห่างจากสังคมไทยมานานเกือบ 20 ปีแล้วเนื่องจากเห็นมาเยอะ เกลียดคนที่ชอบเลียก้นนักการเมืองและผู้ที่มีอิทธิพลทั้งหลาย วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยไม่เคยลืมแต่จะใช้และแสดงออกก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามสมควรที่จะได้รับ



Locations of visitors to this page







Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mellitus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.