ชีวิตแม่บ้า(น)...ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต
ถึงแม้ว่า่ที่ NZ ไม่มีการเล่น Trick or Treat แบบจริงๆจังๆ ในวันฮาโลวีนที่ผ่านมา แต่ที่บ้านดิชั้นมีการปล่อยผีเพื่อไม่ใหเป็นการ้ตกเทรนด์
เนื่องด้วยอายุของสามีครบรอบมาบรรจบครบ 29 ปีเมื่อคืนปล่อยผี ดิชั้นจึงมีไอเดียคิดหาของขวัญให้สามีแบบ(ที่เข้าใจไปเองว่า) ง่่ายๆ
ผีที่ว่าแฝงตัวมากับเค้กวันเกิดของสามีค่ะ ด้วยความที่เป็นมือใหม่หัดอบมากๆ บวกกับความตั้งใจเกินร้อย เลยทำให้เค้ก chocolate soft fudge ที่ออกมา น่ากลัวยิ่งกว่าผีไม่มีญาติ
เห็นใครๆเค้ามีอาหารน่ารับทานกันใน blog เอามั่งค่ะ กะว่าเดี๋ยวชั้นก็ทำได้ เริ่มแรกหยิบตำรามาอ่าน หลอกถามสามีว่าชอบเค้กก้อนไหน ได้ความเสร็จ เดินลงเขาไปซื้อส่วนผสมที่ซุปเปอร์ในหมู่บ้าน หายนะเล็กๆมันเริ่มตั้งแต่ตอนนี้
ส่วนผสมที่อ่านมาเป็นภาษาไทย บวกกับ Bakery English Technical Term ที่อ่อนมาก ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะหยิบอะไรดี มาดูกันค่ะ ว่าส่วนผสมที่ดิชั้นยืนงง มันมีอะไรบ้าง
1.แป้งสาลี : พอไปถึงร้านเจอแป้งเข้าไปสี่ถุง มี Cake flour, All purpose flour, Plain flour, Self rising flour งงค่ะ มันต่างกันไง คนขายเลยช่วยมาบอกให้ว่าสามอย่างหลังมันเหมือนๆกัน แต่ Cake Flour จะเหมาะกับเค้กเนื้อเบาๆนุ่มๆ เพราะฉะนั้นตัดไปได้
2. Baking Soda อันนี้หยิบง่ายค่ะ เพราะในตำราทับศัพท์มา แต่ชักจะไม่แน่ใจเมือเหลือบไปเห็น Baking Powder อันไหนแน่หว่า
3. ผงฟู : เอาแล้วดิ ดูจากชื่อ Self rising ฟังดูเข้าเค้า แต่คนขายบอกแล้วไงว่ามันเป็นแป้ง สุดท้ายได้คำตอบมันคือ Baking Powder นั่นเอง เฮ้อ ชื่อตั้งเยอะแยะ ต้องทำให้คล้ายๆกันด้วย
4. อันสุดท้าย นมข้นจืด อยู่เมืองไทยเคยได้ยินแต่นมข้นหวาน นมข้นจืดเป็นไงหว่า อาศัยทักษะการเดาค่ะ บนชั้นมันมีสองกระป๋อง Sweeten Condensed Milk กับ Evaporated Milk ไม่เข้าใจว่าการระเหยมันเกี่ยวอะไร แต่อีกอันมันบอกว่าหวาน เลยคว้าอีกอัน กว่าจะรู้ว่าถูกก็ตอนกลับบ้านมาเปิดกระป๋องดูอ่ะค่ะ
พอมาถึงบ้าน ก่อนจะลงมือ อ่านตำราอีกที เค้าบอกว่า ให้ใช้เนย 1/4 ถ้วย อืม
เนยมันเป็นก้อนตันๆ แล้วจะได้ปริมาณเป๊ะๆยังๆไง อย่ากระนั้นเลย ดิชั้นโทรไปถาม คุณเมย์ เจ้าแม่เบเกอรี่ที่เพิ่งย้ายขึ้นมาจาก Christchurch ได้ความว่า ให้เอาเนยเข้าไมโครเวฟพอให้ละลาย หรือ ไม่ก็หั่นเนยเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ หรือไม่อีกทีเปลี่ยนเป็นใช้น้ำมันก็ได้ เพื่อความนุ่มและเนี่ยนแถมอ้วนน้อยกว่า
เอาล่ะค่ะ พอซักถามเป็นอันมั่นใจแล้วก็เริ่มลงมือกันล่ะ ทำไปเปิดตำราไป เจอศัพท์เทคนิคอีกแล้ว ตีเนยกับน้ำตาลจนขึ้นฟู ขึ้นฟูมันเป็นยังไง ดิชั้นก็ไม่เข้าใจ ดิชั้นก็ใช้เครื่องตีไปเรื่อยอ่ะค่ะ ตีจนนานสองนานก็ไม่เห็นน้ำตาลมันจะละลายซะที ก็เลยเทส่วนผสมอื่นๆลงไปซะเลย
จากนั้นเทใส่พิมพ์เอาเข้าเตาอบที่เปิดท้ิงไว้ที่ 180 องศา ใช้เวลา 30 นาที ปิ๊ง เอาออกมา
คุณผู้ชมคะ เค้กก้อนนี้ได้กลายเป็นศพไปแล้ว ทั้งแฟ่บ แข็ง แห้ง และ เกรียม
ศพที่หนึ่ง
สาเหตุของการตายหาทราบไม่
.
แต่ดิชั้นก็ยังไม่ลดละความพยายามค่ะ หลังจากทำพิธีฌาปนกิจ เอาใหม่
คราวนี้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสูตร เพิ่มน้ำมันเข้าไปขณะตี ทำให้เนื้อน้ำตาลและเนยเนียนขึ้นกว่าที่ทำครั้งแรกมาก ส่วนผสมอื่นๆค่อยๆเททีละนิดตีไปเรื่อยๆ จนเข้ากันดี เสร็จแล้วเอาเข้าเตาอบ 15ุ นาที.....
ผลที่ออกมาคราวนี้ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตค่ะ ไม่ทราบว่าทำไมสภาพเค้กที่ได้ก็ยังคงไม่พองฟูเหมือนในหนังสือ ????
ไหนๆก็ไหนๆ แอบชิมหน่อย รสชาติก็พอไหว ยังไงก็ใส่ตามสูตร ไม่อยากฝังศพอีกรอบ แต่ด้วยความที่เกรงว่ามันจะไม่น่ากลัวพอ จำได้ว่า six feet under จะต้องมีการแต่งศพ ดิชั้นได้เอา m&m มาแต่งหน้า เพื่อลบรอยพุพอง เอาเป็นว่า ไหนๆเป็นวันฮาโลวีน ดิชั้นก็ถือโอกาสปล่อยผีกะเค้ามั่งแล้วกันค่ะ เอ้า สามีกินเข้าไป
ศพที่สอง
ถ้าใครพอทราบสาเหตุการตาย รบกวนช่วยชันสูตรด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณค่ะ วันหน้าวันหลังจะพยายามใหม่ ฮือๆๆ (สามีนะคะ ที่ฮือๆ ไม่ใช่ดิชั้น อิอิ)
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2549 |
|
37 comments |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2549 4:12:07 น. |
Counter : 826 Pageviews. |
|
|
|