Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
2 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ชีวิตแม่บ้า(น)...ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต

ถึงแม้ว่า่ที่ NZ ไม่มีการเล่น Trick or Treat แบบจริงๆจังๆ ในวันฮาโลวีนที่ผ่านมา แต่ที่บ้านดิชั้นมีการปล่อยผีเพื่อไม่ใหเป็นการ้ตกเทรนด์

เนื่องด้วยอายุของสามีครบรอบมาบรรจบครบ 29 ปีเมื่อคืนปล่อยผี ดิชั้นจึงมีไอเดียคิดหาของขวัญให้สามีแบบ(ที่เข้าใจไปเองว่า) ง่่ายๆ

ผีที่ว่าแฝงตัวมากับเค้กวันเกิดของสามีค่ะ ด้วยความที่เป็นมือใหม่หัดอบมากๆ บวกกับความตั้งใจเกินร้อย เลยทำให้เค้ก chocolate soft fudge ที่ออกมา น่ากลัวยิ่งกว่าผีไม่มีญาติ

เห็นใครๆเค้ามีอาหารน่ารับทานกันใน blog เอามั่งค่ะ กะว่าเดี๋ยวชั้นก็ทำได้
เริ่มแรกหยิบตำรามาอ่าน หลอกถามสามีว่าชอบเค้กก้อนไหน ได้ความเสร็จ เดินลงเขาไปซื้อส่วนผสมที่ซุปเปอร์ในหมู่บ้าน หายนะเล็กๆมันเริ่มตั้งแต่ตอนนี้

ส่วนผสมที่อ่านมาเป็นภาษาไทย บวกกับ Bakery English Technical Term ที่อ่อนมาก ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะหยิบอะไรดี มาดูกันค่ะ ว่าส่วนผสมที่ดิชั้นยืนงง มันมีอะไรบ้าง

1.แป้งสาลี : พอไปถึงร้านเจอแป้งเข้าไปสี่ถุง มี Cake flour, All purpose flour, Plain flour, Self rising flour งงค่ะ มันต่างกันไง คนขายเลยช่วยมาบอกให้ว่าสามอย่างหลังมันเหมือนๆกัน แต่ Cake Flour จะเหมาะกับเค้กเนื้อเบาๆนุ่มๆ เพราะฉะนั้นตัดไปได้

2. Baking Soda อันนี้หยิบง่ายค่ะ เพราะในตำราทับศัพท์มา แต่ชักจะไม่แน่ใจเมือเหลือบไปเห็น Baking Powder อันไหนแน่หว่า

3. ผงฟู : เอาแล้วดิ ดูจากชื่อ Self rising ฟังดูเข้าเค้า แต่คนขายบอกแล้วไงว่ามันเป็นแป้ง สุดท้ายได้คำตอบมันคือ Baking Powder นั่นเอง เฮ้อ ชื่อตั้งเยอะแยะ ต้องทำให้คล้ายๆกันด้วย

4. อันสุดท้าย นมข้นจืด อยู่เมืองไทยเคยได้ยินแต่นมข้นหวาน นมข้นจืดเป็นไงหว่า อาศัยทักษะการเดาค่ะ บนชั้นมันมีสองกระป๋อง Sweeten Condensed Milk กับ Evaporated Milk ไม่เข้าใจว่าการระเหยมันเกี่ยวอะไร แต่อีกอันมันบอกว่าหวาน เลยคว้าอีกอัน กว่าจะรู้ว่าถูกก็ตอนกลับบ้านมาเปิดกระป๋องดูอ่ะค่ะ

พอมาถึงบ้าน ก่อนจะลงมือ อ่านตำราอีกที เค้าบอกว่า ให้ใช้เนย 1/4 ถ้วย อืม…เนยมันเป็นก้อนตันๆ แล้วจะได้ปริมาณเป๊ะๆยังๆไง อย่ากระนั้นเลย ดิชั้นโทรไปถาม คุณเมย์ เจ้าแม่เบเกอรี่ที่เพิ่งย้ายขึ้นมาจาก Christchurch ได้ความว่า ให้เอาเนยเข้าไมโครเวฟพอให้ละลาย หรือ ไม่ก็หั่นเนยเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ หรือไม่อีกทีเปลี่ยนเป็นใช้น้ำมันก็ได้ เพื่อความนุ่มและเนี่ยนแถมอ้วนน้อยกว่า

เอาล่ะค่ะ พอซักถามเป็นอันมั่นใจแล้วก็เริ่มลงมือกันล่ะ ทำไปเปิดตำราไป เจอศัพท์เทคนิคอีกแล้ว “ตีเนยกับน้ำตาลจนขึ้นฟู” ขึ้นฟูมันเป็นยังไง ดิชั้นก็ไม่เข้าใจ ดิชั้นก็ใช้เครื่องตีไปเรื่อยอ่ะค่ะ ตีจนนานสองนานก็ไม่เห็นน้ำตาลมันจะละลายซะที ก็เลยเทส่วนผสมอื่นๆลงไปซะเลย

จากนั้นเทใส่พิมพ์เอาเข้าเตาอบที่เปิดท้ิงไว้ที่ 180 องศา ใช้เวลา 30 นาที ปิ๊ง เอาออกมา…คุณผู้ชมคะ เค้กก้อนนี้ได้กลายเป็นศพไปแล้ว ทั้งแฟ่บ แข็ง แห้ง และ เกรียม


ศพที่หนึ่ง



สาเหตุของการตายหาทราบไม่….

แต่ดิชั้นก็ยังไม่ลดละความพยายามค่ะ หลังจากทำพิธีฌาปนกิจ เอาใหม่

คราวนี้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสูตร เพิ่มน้ำมันเข้าไปขณะตี ทำให้เนื้อน้ำตาลและเนยเนียนขึ้นกว่าที่ทำครั้งแรกมาก ส่วนผสมอื่นๆค่อยๆเททีละนิดตีไปเรื่อยๆ จนเข้ากันดี เสร็จแล้วเอาเข้าเตาอบ 15ุ นาที.....

ผลที่ออกมาคราวนี้ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตค่ะ ไม่ทราบว่าทำไมสภาพเค้กที่ได้ก็ยังคงไม่พองฟูเหมือนในหนังสือ ????

ไหนๆก็ไหนๆ แอบชิมหน่อย รสชาติก็พอไหว ยังไงก็ใส่ตามสูตร ไม่อยากฝังศพอีกรอบ แต่ด้วยความที่เกรงว่ามันจะไม่น่ากลัวพอ จำได้ว่า six feet under จะต้องมีการแต่งศพ ดิชั้นได้เอา m&m มาแต่งหน้า เพื่อลบรอยพุพอง เอาเป็นว่า ไหนๆเป็นวันฮาโลวีน ดิชั้นก็ถือโอกาสปล่อยผีกะเค้ามั่งแล้วกันค่ะ เอ้า สามีกินเข้าไป


ศพที่สอง



ถ้าใครพอทราบสาเหตุการตาย รบกวนช่วยชันสูตรด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณค่ะ วันหน้าวันหลังจะพยายามใหม่ ฮือๆๆ (สามีนะคะ ที่ฮือๆ ไม่ใช่ดิชั้น อิอิ)



Create Date : 02 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2549 4:12:07 น. 37 comments
Counter : 822 Pageviews.

 
ทำบ่อยๆไม่ดีก็ทิ้งไปสักวันมันต้องได้ดีสักก้อนสิน่า...ให้กำลังใจจ้า


โดย: Willkommen วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:30:54 น.  

 
เราก็เป็นแบบนี้เหมือนกันค่า ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่


โดย: ตา (Febie ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:42:33 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปให้กำลังใจนะคะ

วันนี้แวะมาเยี่ยมค่ะ เห้นเค้กแล้วฮา สงสารเจ้าของวันเกิดจังค่ะ แต่ไม่เป้นไรนะ คุณศรีภริยาอุตส่าห์ทำให้ แถมมีชอคโกแลตสีๆ ปะรอยไว้อีก น่ารักจังค่ะ


โดย: the Vicky วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:02:14 น.  

 
Hu Hu,
you wrote your experience with such a cool words ^^.
If the taste was great, you don't have to worry about how was it look like naka. After you took a bite, it had to be digest anyway.


โดย: toey IP: 128.206.18.50 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:35:55 น.  

 
น่ารักและน่าทานจังเลยค่ะ ชอบทานช็อคโกแล๊ตเป็นสีๆข้างบนด้วยค่ะ ถ้าเ็ป็นแม่ติ๊กคงทำไม่ได้ขนาดนี้จริงๆค่ะ..


โดย: tiktoth วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:23:11 น.  

 
ขำมากๆๆค่ะ สู้เค้าค่ะสู้เค้า แล้วตกลงคุณสามีได้เป่าเทียนไม๊คะ


โดย: สาวเขียน วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:58:38 น.  

 
ช่วงนี้ พราวก็ อบมัฟฟิ่นทุกวัน กินจนแฟลตเมทบอกเลิกอบได้แล้ว เบื่อ วันนี้เลยกะทำช็อคโกแล็ต มูส
ไม่รู้จะได้เททิ้ง รึป่าว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: นางสาว ภูมิใจ วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:12:48 น.  

 
อยากทำเค้กแบบนี้ให้ลูกๆตอนวันเกิดเหมือนกันค่ะ
ป.ล. จริงๆแล้ว อยากหม่ำด้วยล่ะ


โดย: ShiEri วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:28:47 น.  

 
แฮะๆ ไม่เีคยทำเค้กสำเร็จซักที

แต่ว่านะ...มันอยู่ที่รสชาติค่ะ ฮี่ๆๆ

เข้าบรรยากาศดีออกนะคะ ^^


โดย: Clear Ice วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:38:56 น.  

 
คุณ Willcommen ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ จะพยายามต่อไป ไฟโตะๆ

คุณ ตา สงสัยเราต้องมาช่วยกันทำดีมั้ยคะ จะได้ไม่เปลืองแป้ง อิอิ

คุณ วิค อย่าขำเซ่ อิอิ สามีต้องหลับหูหลับตากินให้มันหมดเลยนะ

คุณ toey ปลอบใจตัวเองและสามีแบบนี้เหมือนกันค่ะ 55 กินๆเข้าไปเหอะ

คุณ ติ๊ก คุณแม่ติ๊กต้องทำได้ไม่เละขนาดนี้แน่ๆเลยค่ะรับรอง อิอิ

คุณ สาวเขียน คุณสามีไม่ได้เป่าเที่ยนค่า ไม่มีที่ปัก อิอิ แล้วจะพยายามต่อไปค่ะ


โดย: nzmum วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:49:18 น.  

 
น้องพราว สู้ๆ พวกเราฝั่งกีวีต้องทำสำเร้จ วู้ๆๆ

คุณ Shieri อย่าค่ะอย่า อย่าทำเค้กแบบนี้ให้ลูกๆค่ะ เดี๋ยวตกใจแย่เลย

คุณ Clear Ice อิอิ สงสัยต้องรอให้ถึงฮาโลวีนปีหน้า แล้วค่อยทำเค้กใหม่เนอะ จะได้โทษเทศกาลอีก 55


โดย: nzmum วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:52:46 น.  

 
แต่งศพได้สวยคะ อิอิ

เข้ามาเป็นกำลังใจนะคะ


โดย: ลิตเติ้ลเกิร์ล วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:21:59 น.  

 
กะลังจะเริ่มหัดทำเค้กเหมือนกันค่ะ ไม่รู้เค้กชิ้นแรกจะออกมาสภาพแบบไหน ของกะลังขึ้น เด๋วต้องไปหาซื้อเตรียมของเหมือนกัน จะเป็นปัญหาตอนซื้อเหมือนคุณนิ่แหละ เพราะไม่มีความรู้เรื่องการทำเค้ก และชื่อต่างๆเลย เฮ้อ
น่าหนุกแล้ว


โดย: เกด (Cutekate79 ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:48:55 น.  

 
คุณ nzmum เล่าได้ฮามากค่ะ ยังไงก็อย่าพึ่งท้อนะคะ คราวหน้าทำใหม่

cake flour , all purpose flour , plain flour , self-rising flour, bread flour
ทั้งหมดนี้เป็นแป้งสาลีหมดเลยค่ะ แตกต่างกันบางอันตรงปริมาณโปรตีน ตามสมการข้างล่างนี่
แป้งเค้ก (cake flour) < แป้งอเนกประสงค์ (all purpose flour หรือ plain flour) < แป้งขนมปัง (bread flour)
ส่วน self-rising flour นั้นคือแป้งอเนกประสงค์แบบมีผงฟู (baking powder) ผสมมาแล้ว

เรื่องผงฟูกับเบ้กกิ้งโซดา อ่านเอาจากย่อหน้าสองในคคห.12 กระทู้นี้ดูค่ะ
//topicstock.pantip.com/food/topicstock/D3644190/D3644190.html#12

นมข้นจืดคือ evaporated milk ค่ะ คืออย่างเดียวกะนมคาร์เนชั่นบ้านเราที่ไว้ใส่ชาเย็นนั่นเลยค่ะ

สำหรับเนย อย่างเนยที่อเมริกานี่จะมีแบ่งมาเป็นแท่งๆ แท่งละ 8 ช้อนโต๊ะ (= ครึ่งถ้วย = 113g.)
ก็จะทำให้ตัดแบ่งมาใช้งานได้ง่าย ไม่ทราบว่าที่ NZ เนยขายมาเป็นก้อนขนาดเท่าไหน
ก็ลดหลั่นกันไปตามสัดส่วนน้ำหนักที่ให้ไว้ข้างบนได้เลยค่ะ แนะนำให้ซื้อตาชั่ง(ดิจิตอลจะดีสุด)ติดครัวไว้
ถ้าสูตรไม่ได้บอกว่าใช้เนยละลาย อย่าเอาไปละลายแล้วมาตวงนะคะ เพราะหลายๆสูตรสำคัญตรงเนยต้องเย็น
ไปเอาเนยละลาย (melted butter) หรือเนยนิ่ม / เนยอุณหภูมิห้อง (softened butter / room-temperature butter)
มาก็จะผิดสูตรไปเสีย ออกมาไม่ได้อย่างตามสูตร ถ้าจะใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพแทนเนยก็ได้ค่ะ
แต่ไม่ได้ไปทุกสูตรและจะทำให้ขนมที่ได้ออกมา texture อะไรต่างกับใช้เนยนะคะ
ถ้าจะให้ออกมาดีกว่านั้นหน่อยลองหามาการีนไขมันต่ำที่ทำจากน้ำมัน (canola oil, olive oil etc.)มาใช้ดูค่ะ
เรื่องจะอ้วนน้อยกว่านี่บุกว่าคงจะไม่หรอกค่ะ แต่คงจะดีกับสุขภาพกว่าแน่ๆ
เพราะเนยมี saturated fat สูงกว่ามาก

ลักษณะ "ตีเนยกับน้ำตาลจนขึ้นฟู" คือจากที่ตอนแรกๆเรายังพอเห็นสีเหลืองนวลของเนย
พอตีไปได้สักพัก สีจะอ่อนลง แล้วก็รู้สึกว่าปริมาณส่วนผสมที่ตีอยู่เพิ่มขึ้น (เนื่องจากฟองอากาศที่เราตีเข้าไป)
ลองเข้าไปดูกระทู้สาธิตทำขนมที่ห้องก้นครัว น่าจะมีรูปให้ดูค่ะว่าตีเนยกับน้ำตาลขึ้นฟูแล้วหน้าตาเป็นอย่างไร

หวังว่าที่พล่ามๆข้างบนนนี่คงจะเป็นประโยชน์กับคุณ nzmum มั่งนะคะ


โดย: BRo0Ke. วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:21:35 น.  

 
ตกใจหมดเลยค่ะ อิอิ ที่แท้ก็เค้กนี่เอง


โดย: Htervo วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:37:35 น.  

 
กร้าก อ่านไปก็ขำไป เห็นศพแล้วก็เอ๊ะ ตายสวยนะ ยิ่งพอแต่งหน้าเสร็จนี่ไม่รู้เลยว่าตายแล้ว เอิ้ก แต่แน่ใจว่าเจ้าของวันเกิดต้องปลื้มแน่ๆเลย

คุณ brooke อธิบายซะดีเลย เป็นวิทยาทานให้แม่บ้านอย่างพัทด้วย ฮ่า ปกติก็ไม่ค่อยทำเค้กอ่ะค่ะ ไม่มีคนกินด้วย กินคนเดียวก็นะ เดี๋ยวกลิ้ง เลยทำแต่มัฟฟิ่นง่ายๆ แจกเพื่อนบ้านพอไหว ฮ่า

อ้อ อวนลองทำชีสเค้กแบบไม่ต้องอบสิ จะได้ไม่ต้องฝังศพนะ เดี๋ยวเราค้นสูตรคุณปริศนาให้ เอามั้ยๆๆ


โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:54:11 น.  

 
ดิฉันเองก็ไม่ถนัดเรื่องทำขนมเหมือนกัน แต่ดิฉันใช้วิธีนี้ค่ะไปซื้ออันที่เขาผสมทุกอย่างเข้าดว้ยแล้ว นำมาเทใส่แม่พิมพ์ แล้วนำไปอบ แค่นี้คุณก็มีเค็กอร่อยๆทานแล้วค่ะ


โดย: Raynu IP: 84.101.180.105 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:13:05 น.  

 
คุณ ลิตเติ้ลเกิร์ล สงสัยต้องหารายได้เสริมรับแต่งหน้าศพดีกว่า น่าจะเวิร์คดีนะ 555

คุณ เกด เอาใจช่วยนะคะ ได้ความยังไงเขียนเล่าในบลอกให้ฟังมั่งนะ แล้วจะตามไปอ่านจ้า

คุณ Brooke ไม่พล่ามเลยค่ะ มีประโยชน์มากๆ เพื่อนๆคนอื่นจะได้เป็นวิทยาทานอย่างคุณพัทว่า ขอบคุณนะคะ

พัท เอาเลยๆ หามาๆ โพสไว้ใน blog พัทก็ได้นะ เดี๋ยวจะตามไปดู และ หัดทำ ฝังไม่ฝังจะได้รู้กันไป อิอิ


โดย: nzmum วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:17:39 น.  

 
คุณ ลิตเติ้ลเกิร์ล สงสัยต้องหารายได้เสริมรับแต่งหน้าศพดีกว่า น่าจะเวิร์คดีนะ 555

คุณ เกด เอาใจช่วยนะคะ ได้ความยังไงเขียนเล่าในบลอกให้ฟังมั่งนะ แล้วจะตามไปอ่านจ้า

คุณ Brooke ไม่พล่ามเลยค่ะ มีประโยชน์มากๆ เพื่อนๆคนอื่นจะได้เป็นวิทยาทานอย่างคุณพัทว่า ขอบคุณนะคะ

คุณ Htervo เป็นเค้กก็มีหัวใจนะคะ 55

พัท เอาเลยๆ หามาๆ โพสไว้ใน blog พัทก็ได้นะ เดี๋ยวจะตามไปดู และ หัดทำ ฝังไม่ฝังจะได้รู้กันไป อิอิ


โดย: nzmum วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:18:41 น.  

 
คุณ Raynu กู๊ดไอเดียค่ะ ไม่เสียความรู้สึกดีด้วย ที่สำคัญสามีจะได้ไม่ต้องกลัวท้องเสีย อิอิ


โดย: nzmum วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:43:08 น.  

 
มาบอกคะ ว่ามูสเราไม่ต้องเททิ้ง แฟลตเมทบอกพอรับได้ ฮ่าๆๆ
มาอ่านคอมเม้นคุณ brooke ด้วยคนแบบว่ากำลังงงเกี่ยวกับเรื่องเนยพอดี


โดย: นางสาว ภูมิใจ วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:16:45 น.  

 
แวะมาดูศพค่ะ แต่ละศพน่ากลัว ปรือๆๆๆ


โดย: Katja วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:57:09 น.  

 
เอาสูตรมาฝากค่ะ ไว้ที่บล็อกอวนแหล่ะดีกว่า เผื่อคนมาดูจะได้เห็นเลย

สรุปว่าพอไปเปิดๆดูแล้ว เจ้าชีสเค้กไม่อบของคุณปริศนายากและซับซ้อนกว่าแบบอบอีกแฮะ พัทเลยเอาอันนี้มาแทน New York Cheesecake เพราะมันอร่อยจริงๆนะ แล้วก็ไม่ยุ่งด้วย (จะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ป่าวเนี่ย)

สูตรเขาว่าสำหรับ 8-10 คนนะ

สัดส่วนชีสเค้ก
ขนมปังไดเจสตีฟบดละเอียด 200 กรัม เนยสดรสจืดละลาย 60 กรัม น้ำตาล 200 กรัมกับอีก 3 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ ครีมชีส 500 กรัม ทิ้งให้นิ่ม ไข่แยกไข่แดงไข่ขาว 4 ฟอง วานิลลา 2 ช้อนชา ครีม 100 กรัม ครีมเปรี้ยว 100 กรัม เกลือ 1/2 ช้อนชา มะนาวขูดผิว 1 ลูก น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า หรือผลไม้กระป๋องตามชอบ

1. ทาเนยพิมพ์อบแบบถอดข้างได้ขนาด 8 นิ้ว ผสมขนมปังกับเนยละลายและน้ำตาล 3 ช้อน เทลงในพิมพ์อบ กดให้คลุมก้นถาด แช่เย็น 1 ชั่วโมง

2. ตีครีมชีส น้ำตาล ไข่แดง แป้งข้าวโพดและวานิลลาเข้าด้วยกัน ใส่ครีมเปรี้ยว ตีให้เข้ากัน ค่อยๆเทครีมใส่ขณะตีไปเรื่อยๆจนเข้ากันดี ใส่เกลือและผิวมะนาว คนให้เข้ากัน

3. ตีไข่ขาวจนตั้งยอด ผสมอย่างเบามือเข้ากับส่วนผสมครีมชีส เทใส่พิมพ์บนฐานที่แช่เย็น เข้าอบในเตาอบร้อน 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 50 นาที โดยไม่เปิดเตาอบเลย จนชีสเค้กได้สีสวย ปิดไฟเตาอบ ปล่อยให้เค้กพักในเตาอีก 2 ชั่วโมง เปิดประตูเตาให้เค้กเย็นอีก 1 ชั่วโมง แล้วแช่เย็นหลายๆชั่วโมงหรือค้างคืน

4. วันต่อมาถอดเค้กจากพิมพ์อบ โรยหน้าด้วยไอซิ่งหรือหน้าผลไม้ตามชอบ

พัทว่าราดบลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ หรือพวกรี่ๆกระป๋องที่มีน้ำเชื่อมข้นๆอ่ะอร่อย มันจะมีแอ่งให้ราดพอดีเลย ทะนี้จากประสบการณ์จริง พัทเคยทำตอนเรียนที่นิวนั่นล่ะ แล้วพวกเพื่อนใจร้อนมันผลัดกันเปิดเตา สวยเลย หน้าเค้กงี้แตกระแหงยังกะทุ่งกุลาร้องไห้ แถมตอนเปิดเราก็ไม่เห็นอีกนะ ไม่งั้นมีว้ากเพ่ยแล้ว ส่วนที่ให้ทิ้งไว้ก็เหตุผลคล้ายกันจ้ะ เค้กจะได้อยู่ตัวและหน้าไม่แตกนะ

ส่วนตรงที่ว่าตีไข่ขาวจนตั้งยอดเนี่ยพัทจำได้ว่าในห้องจตุจักรเคยมีสาธิตและอธิบาย แต่สรุปง่ายๆก็คือไข่ขาวที่เราตีแล้วจะฟูขึ้นมาประมาณ 7-8 เท่า พอเอาไม้ตีที่จุ่มไว้ยกขึ้นมายอดมันจะไม่ล้ม จะฟูๆ เขาให้ใส่เกลือไปนิดด้วยจะได้ขึ้นง่ายๆนะ อ้อ ตำราท่านว่าควรตีในโถแก้วหรือสเตนเลสที่ไม่มีคราบมัน โถพลาสติกไม่เหมาะกับการตีไข่ขาวเพราะพลาสติกเป็นสารที่พรุนและอาจมีคราบมันแทรกอยู่

เทคนิคผสมไข่ขาวที่ตีแล้วอย่างเบามือ (fold) คุณปริศนาว่าไว้ว่าเป็นเทคนิคที่สำคัญที่สุดในการทำขนมให้นุ่มฟู เป็นการผสมส่วนผสมที่เบาเข้ากับส่วนที่หนัก โดยไม่ให้ส่วนผสมที่เบาเสียความเบาของมัน (ฟังแล้ว zen เหมือนกันแฮะ) ยกตัวอย่างก็คือไข่ขาวที่ตีจนฟูขึ้นหลายเท่าเป็นการเอาอากาศเข้าไปในนั้น จะทำให้เนื้อเค้กเบาฟู ถ้าผสมแรกอากาศก็จะหายไปหมด เค้กก็ไม่ฟูอร่อย วิธีทำให้ตักไข่ขาวทีละไม่มากใส่ในโถเนื้อเค้ก ใช้พายพลาสติกตัดไปตรงกลางโถให้ลึกๆ คือตัดผ่านไข่ขาวและเนื้อเค้กลงไปจนถึงก้นโถ แล้วกวาดส่วนผสมที่ก้นโถขึ้นมา เอาปลายพายเกลี่ยเบาๆตรงส่วนบน ให้ไข่ขาวกระจายตัวผสมกับเนื้อเค้ก หมุนโถนิดหน่อย แล้วทำซ้ำให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอ เมื่อไข่ขาวหายไปหมดแล้วก็ตักใส่เพิ่ม จนหมด

อ่านแล้วอาจจะดูยุ่งนิดๆ แต่จริงๆไม่นะ อร่อยด้วย ชอบๆๆ ลองดูนะจ๊ะ คราวนี้ศพอาจสวย แซวๆๆ เอิ้ก


โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:13:21 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพัท คุณอวน

เดี๋ยวนี้บุกใช้ซื้อพิมพ์ขนาดเล็ก (ขนาด6" สูง 3")แล้วหารสูตรครึ่งนึงทำค่ะ
ไม่งั้นไม่ไหว ทำที กินกันเป็นอาทิตย์กว่าจะหมด

สูตรชีสเค้กแบบไม่อบบุกมีอยู่สองอัน คิดว่าทำไม่ยากนะคะ เผื่อใครสนใจจะลอง
No-bake White Chocolate Cheesecake
Rare Mango Cheesecake (low-fat version)
ตัวครัสไม่ค่อยทำ ปรกติซื้อสำเร็จรูปเอา แต่ถ้าจะทำก็ตามสูตรที่คุณพัทกรุณาโพสมานั่นได้เลยค่ะ


โดย: BRo0Ke. วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:58:26 น.  

 
อร้ายยยยยยยย สภาพศพน่ากลัวกว่าที่ได้ยินนะคะคุณขา
555

เอาตีเนย ตีไข่ไม่กล้าทำอ่ะ.. กลัวต้องฌาปนกิจเช่นกันฮ่ะ
เมย์เอาสูตรที่ไม่มีไข่ ไม่มีเนยที่บอกมาฝากจ้า เอามาจาก
พันธุ์ทิพย์เหมือนกัน ลองคลิกไปดูน้า

//kiwithai.diaryis.com/?20060307

พรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ... อยากกินเค้กอ่ะ.. ทำให้หน่อยเด่ะ
ได้ป่ะ 555



โดย: kiwimay IP: 222.155.45.209 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:01:27 น.  

 
อ้อ.. ลืมไป..
แฮ้ปปี้เบิร์ดเดย์ย้อนหลังให้คุณสามีทีน่ารักด้วยนะจ๊ะ
^^



โดย: kiwimay IP: 222.155.45.209 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:18:02 น.  

 
มาหม่ำเค้กอร่อยๆก่อนเข้านอนอีกค่ะ..
ิติ๊กยังไม่เคยได้ลองทำเค้กทานเองเลยค่ะ
ฮือๆ..อยากลองทำทานเหมือนกันค่ะ
กลัวทำออกมาแล้วพ่อบ้านไม่ทานด้วยน่ะค่ะ
ขอเซฟสูตรไว้เลยน่ะค่ะ..ขอบคุณมากๆเลยค่า..


โดย: tiktoth วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:49:10 น.  

 
หวัดดีจ้า แวะมาอ่าน


โดย: Belle vie IP: 202.57.148.146 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:52:15 น.  

 
ไม่ทราบว่าคุณได้ร่อนแป้งก่อนทำหรือเปล่า


โดย: namfomJC IP: 68.124.102.136 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:14:14 น.  

 
เรียกว่าทำด้วยใจ เดี๋ยวทำไปก็เก่งเองค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ...

แบบว่าพูดบอกเค้าได้นะ แต่ว่าตัวเองก็ไม่กล้าทำเหมือนกัน เพราะกลัวว่าทำแล้วเกิดสำเร็จคงจะต้องแข่งกันกินแข่งกันอ้วนกว่าเดิมนี้เป็นแน่แท้ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:25:30 น.  

 
หมอนวดว่า ส่วนผสมของเนย ครีม นําตาล ไข่ ไม่สมดุลย์กันค่ะ
ลองใหม่ค่ะ


โดย: หมอนวดจ้ะ (Odense ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:42:27 น.  

 
มาเยี่ยมคืนวันศุกร์ค่ะ เอ้อ...เค้กหมดยังคะ


โดย: the Vicky วันที่: 4 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:23:55 น.  

 
คุณเพื่อนคะ เก็บเงียบเลยนะ เค้กศพเนี่ย เดี๋ยวต้องเเอบไปเม้าต่อในเเดนสนทยาประสาชาวคณะซะหน่อย ขอก็อปรูปไปเม้าประกอบด้วยได้มั้ย เห็นเเล้วอยากกินเป็นบ้า 555 เเต่ขออย่างเดียว อย่าเลี้ยงหลานชั้นด้วยก้อนนี้นะ ป้าไม่ยอม ป้าไม่ยอม (เป็นกำลังใจให้ศพต่อไปนะ) คิดถึงมากกกกกกกกก ปล. ทำเลย (ที่บอกน่ะ) สำนวนกวนอุ้ง ใช้ได้เลย!! :-D


โดย: newtampo IP: 203.118.73.231 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2549 เวลา:3:36:35 น.  

 


โดย: Willkommen วันที่: 5 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:48:56 น.  

 
มาเยี่ยมค่า..
..สุขสันต์วันลอยกระทงนะคะ..


โดย: tiktoth วันที่: 5 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:25:52 น.  

 


โดย: fa4 s.9.; IP: 203.172.162.84 วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:11:23:48 น.  

 


โดย: fa4 ห.ต.ว IP: 203.172.162.84 วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:11:24:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nzmum
Location :
กรุงเทพ New Zealand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บันทึก...แม่บ้า(น)ตัวอย่าง
ชีิวิตเก่าๆของแม่ลูกสอง ทั้งในและนอกประเทศไทย
หวังว่าวันนึงคงได้กลับมาอยู่บ้านเราอย่างถาวร



+KL and that second (3)+
+KL hours later(2)+
+KL in 24 HRS (1)+
+HBD CALEB 3 YRS OLD+
+ไม่ใช่ตุ๊กตา+
+ของขวัญจากโรงเรียน+
+วีคแรกที่ Kindy+
+Bye Bye Nappy+
+โรงเรียนของเคหลิบ+
+เกมแก้เซ็ง+
+ด้วยเกียรติของแม่บ้า(น)+
+ถึงคราวมีเจ๊ดัน+
+Headline Blog+
+Smile Upon The Sky+
+Caleb’s Language Milestone+
+Snap Shots ริมเจ้าพระยา+
+กลับ!+
+AF5: Me, My Dream & My Producer+
+วีรกรรมทำแสบ+
+Fuji Five Lakes+



+My Book+





Friends' blogs
[Add nzmum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.