|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตแม่บ้า(น)… “ครั้งแรก” ไม่เจ็บกว่าเสมอไปหรอก!
คำบอกเล่าที่ว่า “ครั้งสองเจ็บน้อยกว่าและยุ่งยากน้อยกว่า” สำหรับชั้นแล้วมันไม่จริง…ชั้นคิดว่าชั้นคงเป็นคนจำนวนน้อยที่ต้องเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้
ครั้งสอง “คลอดก่อนกำหนดอีกมั้ย”
ตั้งแต่เริ่มท้องครั้งที่สอง ชั้นกับอินเตอร์เน็ตเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนซี้กัน ด้วยความที่ท้องแรกของชั้นมีปัญหาหลักๆคือเรื่องคลอดก่อนกำหนด ใครๆก็บอกชั้นว่า โอกาสที่ท้องนี้จะคลอดก่อนกำหนดอีก็มีเปอร์เซนต์สูง ชั้นจึงหาข้อมูลของคุณแม่ทั้งไทยและเทศ เกี่ยวกับประสบการณ์ของคนที่เคยคลอดก่อนกำหนด แต่ข้อมูลที่หาได้ส่วนใหญ่ก็มีเปอร์เซนต์ใกล้เคียงกัน บางคนก็คลอดตามกำหนด บางคนก็คลอดก่อนกำหนด แต่เพื่อความปลอดภัย ชั้นเลยใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งๆนอนๆ ไม่ค่อยได้ออกไปต่อไหน
ครั้งสอง “โดนหลอก”
โดยทั่วไปผู้หญิงส่วนใหญ่จะคลอดระหว่างสัปดาห์ที่ 38-40 ท้องที่แล้วชั้นคลอดตอนอายุครรภ์ได้แค่ 36 สัปดาห์ พอมาท้องนี้ เมื่อย่างเข้าสัปดาห์ที่ 35 ชั้นก็นอยด์มันได้ทุกวันว่าจะคลอดแน่ๆ โดยที่มีอาการ “เจ็บเตือน” ที่สมจริงสมจังมาสบทบอย่างสม่ำเสมอ
ในที่สุดเมื่อถึงสัปดาห์ที่ 36…ความวิตกจริตของชั้นก็พาชั้นไปร.พ.ครั้งแรก เนื่องจากลูกไม่ดิ้นทั้งวัน ชั้นตัดสินใจไปร.พ. ตอนประมาณ 1 ทุ่ม แต่ก็ปรากฎว่าลูกกลับลุกขึ้นมาแดนซ์กระหน่ำเมื่อถึงมือหมอ วันนั้นชั้นจึงต้องกลับบ้านมานอนเหมือนเดิม การไปร.พ.ครั้งนี้ ชั้นถือว่าเป็นการซ้อมไปร.พ. ชั้นลองเอาลูกชายคนโตที่เพิ่งจะ 2 ขวบหยกๆ ติดไปร.พ.ด้วย ผลปรากฎว่ามันเป็นทางเลือกที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง นอกจากอาการเจ็บท้องจะจี๊ดๆกวนอารมณ์อย่างสม่ำเสมอ การที่ได้เห็นลูกตัวเล็กๆวิ่งไปวิ่งมา ดึงนั่นจับนี่ มันทำให้ชั้นนยิ่งเครียดไปหนัก
เมื่อชั้นผ่านเข้ามาถึงสัปดาห์ที่ 37 ความกระวนกระวายก็เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ อาการปวดบีบถื่ๆมาพร้อมๆกับอาการปวดหลัง ชั้นลังเลที่จะไปหาหมออีกครั้ง แต่เมื่อรอดูอาการอยู่ 4 ชั่วโมง ความถื่ของการบีบยังคงสม่ำเสมอ ชั้นตัดสินใจไปเรียกคุณยายของเคหลิบมานอนเป็นเพื่อนหลาน แล้วจึงแบกหน้าที่ยังเย็บไม่สนิทดีไปร.พ.อีกครั้ง คราวนี้ชั้นโดนตรวจภายในเพื่อเช็คดูว่าปากมดลูกของชั้นเปิดรึยัง ผลก็คือ ปากมดลูกเพิ่งเริ่มนิ่ม ซึ่งก็หมายความว่ามันพร้อมจะเปิดได้ทุกเวลาตั้งแต่คืนนี้ หรือ อีกสองอาทิตย์ก็เป็นได้ แต่การตรวจภายในกลับทำให้ชั้นกลับมานอนบ้านเจ็บอย่างทรมานไปกว่าครึีงคืน
2 วันผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น หมอนัดชั้นเข้าไปคุยถึง birth plan ว่าจะทำยังไงกันบ้าง ด้วยความไม่แน่นอนของการคลอดครั้งนี้ คุณหมอได้เสนอการ “เร่งคลอด” ด้วยวิธีกวาดปากมดลูก ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ปากมดลูกเปิดภายในเวลาที่สามารถจำกัดได้ โดยส่วนใหญ่การทำ membrane sweep หรือ การกว่าดปากมดลูกนั้นจะทำให้เกิดการคลอดภายใน 48 ช.ม. ซึ่งจริงๆแล้วทางการแพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีนี้เมื่อเข้าวีคที่ 39 หรือ 40 ส่วนในกรณีของชั้น ถึงชั้นจะอาศัยอยู่กับครอบครัวใหญ่ แต่ตายายของเคหลิบยังไม่เกษียณ ทำให้ทุกคนต้องเข้านอนตามเวลาปกติ การจะต้องขอให้ใครๆมาช่วยดูแลลูกยามค่ำคืนเป็นเรื่องที่ชั้นลำบากใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการเจ็บครั้งนั้นๆไม่ใช่ของจริง คุณหมอเห็นว่าถ้ามีความจำเป็นทางครอบครัว คุณหมอเลยเสนอทางเลือกนี้มาให้ชั้น
ชั้นกลับไปคิดหนักหลายตลบถึงความเหมาะสมหลายๆด้าน ในที่สุดชั้นจึงเลือกที่จะให้ทุกอย่างเป็นไปตามฤกษ์ของมันดีกว่า อะไรจะเกิดก็ให้เค้ามาเกิดเอง คุณหมอเลยเสนอวิธีการเร่งคลอดแบบธรรมชาติด้วยการ เดิน เดิน เดิน ไม่ว่าจะเป็นการเดินในบ้าน เดินขึ้นบันได หรือ แม้กระทั่งเดินชอปปิ้ง ถึงแม้ว่าช่วงนั้นร่างกายชั้นมันไม่ค่อยจะอำนวยในการเคลื่อนไหวเท่าไหร่นัก แต่การอยู่บ้านเฉยๆ นั่งๆนอนๆเหมือนที่ผ่านมาคงจะทำให้ชั้นประสาทกินมัวแต่นั่งใจจดใจจ่อว่าสัญญาณคลอดที่แท้จริงจะมาเมื่อไหร่
เพื่อนถามชั้นว่า “ทำไมไม่ทำใจสบายๆ รอไปเรื่อยๆจนวีค 40” ชั้นว่าเหตุผลหลักๆก็คือ ร่างกายชั้นมันจะไม่ไหวแล้วน่ะสิ กระดูกเชิงกรานของชั้นก็มีเสียงกร๊อบๆแกร๊บๆเวลาจะลุกจะเดินจะนั่ง แล้วก็ยังเจ็บแปล๊บๆอีกด้วย ซึ่งอาการนี้ชั้นไม่มีเลยเมื่อตอนที่ท้องครั้งแรก
เช้าวันที่ 16 พ.ค. ชั้นเริ่มออกเดินเที่ยวอีกครั้งเป็นเวลาเกือบๆชั่๋วโมง พอกลับมาถึงบ้าน ชั้นอยากจะเข้าห้องน้ำมาก พอถอดกางเกงออกมา ชั้นก็ตกใจมากที่เห็นรอยน้ำวงใหญ่เลอะอยู่ที่กางเกง ชั้นเลยไม่รอช้าที่จะไปร.พ.อีกครั้ง ด้วยความเข้าใจว่าชั้นกำลังอยู่ในอาการที่เรียกว่า “น้ำเดิน”
“ไม่ใช่ค่ะ คุณแม่…มันแค่เป็นน้ำส่วนเกินของร่างกายเท่านั้น” แป่ว….ชั้นหน้าแตกเป็นครั้งที่ 3 บอกตรงๆว่าชั้นเริ่มเบื่อเอามากๆกับการท้องครั้งนี้ หมอนัดตรวจภายในอีกครั้งในอีก 2 วันต่อมา อย่างน้อยผลที่ออกมาก็ทำให้ชั้นตื่นเต้นบ้าง “ปากมดลูกเปิดได้ 3 ซ.ม. แล้วนะ” หมอบอกให้ชั้นเตรียมตัวไว้ คาดว่าภายใน 48 ช.ม. ชั้นและลูกชายคนใหม่คงได้เห็นหน้ากัน
วันที่ 19 พ.ค. ชั้นยังคงออกไปเดินเล่นตามห้าง หม่ำไอติมอย่างสบายใจ โดยที่มีโทรศัพท์จากเพื่อนๆโทรเข้ามาถามเป็นระยะๆ เอาใจช่วยลุ้นไปกับชั้นด้วย หลายๆคนอยากให้ชั้นคลอดวันนั้น เพราะเป็นวันมงคลวิสาขบูชา ชั้นก็อยากอยู่..แต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แวว
แต่แล้วขณะที่ชั้นกำลังนั่งดูบรรดาเหล่า AF 5 ซ้อมเต้นกันในบ้านช่วง 5 โมงเย็น ชั้นก็เริ่มมีอาการปวดเมื่อยแถวหลังด้านล่าง แต่ชั้นคิดว่าชั้นคงนั่งดูทีวีนานไปจึงเปลี่ยนไปเป็นท่านอน 2 ช.ม. ผ่านไป ชั้นว่าชั้นเริ่มดู AF ด้วยความกระสับกระส่าย เพราะอาการปวดหลังมันลามมาที่ท้องน้อย ปวดบีบๆ ถึ่ๆ หนักๆขึ้นเรื่อยๆ ชั้นเริ่มสับสนที่จะคิดว่า “ของจริง” กำลังจะมา…ชั้นไม่อยากหน้าแตกเป็นครั้งที่ 4
คิดแล้วมันก็บ้าจริงๆเชียว ชั้นไม่สามารถวิเคราะห์อาการตัวเอง จนใครๆก็ล้อว่าชั้นเหมือนคุณแม่ท้องแรก ในที่สุดชั้นตัดสินใจว่าชั้นควรจะไปนอนดูอาการที่ร.พ.ดีกว่า ดีกว่าดึกกว่านี้จะฉุกละหุก แถมจะเรียกใครมาช่วยดูลูกคนโตก็จะลำบาก
ชั้นเรียกพ่อของชั้นมารับไปร.พ. ส่วนสามีให้พาลูกเข้านอนก่อนแล้วค่อยมาสับมือเปลี่ยนกันกับพ่อของชั้นทีหลัง เจ็บคราวนี้เล่นเอาชั้นนั่งเงียบไปตลอดทาง ชั้นว่าถ้าคราวนี้ไม่ใช่ อย่างน้อยชั้นว่ามาอยู่ใกล้มือหมอ มือพยาบาลก็น่าจะช่วยให้ชั้นสบายใจมากกว่าอยู่ที่บ้านแล้วกัน
หลังจากนางพยาบาลติดเครื่องไม้เครื่องมือบนพุงโตๆเป็นที่เรียบร้อย คำที่ชั้นอยากได้ยินมา 38 อาทิตย์กับอีก 3 วันก็มาถึง “คราวนี้มาแน่ค่ะคุณแม่ ไม่น่าจะเกินตี 2 นะ” เอาล่่ะ หลังจากนี้ชั้นกำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สำคัญอีกครั้งในชีวิตของชั้น…
Create Date : 03 มิถุนายน 2551 |
|
5 comments |
Last Update : 3 มิถุนายน 2551 5:10:15 น. |
Counter : 1006 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: namfonJC 3 มิถุนายน 2551 7:33:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: viji (viji ) 4 มิถุนายน 2551 9:04:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Aommy IP: 202.183.232.35 4 มิถุนายน 2551 16:04:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: สองตัวบาท IP: 113.53.66.150 15 ธันวาคม 2553 11:11:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พอมาอ่านบล็อกพี่ได้ความรู้มากมายถ้าเป็นไปได้อยากคลอดเองท้องนี้่แต่คงยากค่ะ ไม่รู้ว่าบ้านเราทำหรือเปล่า