ตุลาคม 2554

 
 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
10
11
13
14
17
18
19
20
21
22
25
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
มองใกล้ยังทำนายผิด แล้วจะเชื่อมองไกลว่าแม่นได้อย่างใด
คนที่เข้าตลาดหุ้นทุกท่านก็หวังว่าจะเอาเงินทุนที่ตนเองมีอยู่ (จะมากน้อยแล้วแต่สถานะแต่ละคน)  เข้ามาเพื่อเอากำไรออกไป ตามระยะเวลาที่ตนเองกำหนด แต่90% ของบัญชีซื้อขายเป็นการปิดยอดแต่ตั้งตนมา เท่ากับ ขาดทุน   จึงเกิดคำถามมากมายตามมาว่า คนที่สามารถทำกำไรได้คือคนเก่ง หรือ ฉลาดสุดๆ เหนือกว่าคนอื่น  หรือ คนกลุ่มนี้ มีทุนหนาเงินเย็น กันแน่
คำตอบมีอยู่ในตัว ซึ่งทุกท่านก็พอคาดเดาออก ดังนี้
1...คนมีเงินทุนเย็น(ไม่ต้องใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีขึ้นไป) ย่อมได้เปรียบทางจิตวิทยาส่วนตัว
2...คนมีเงินทุนมาก ที่เป็นเงินเย็นด้วย  (ข้อนี้ยิ่งสนับสนุนผลกำไรให้คนอื่นมองแล้วตาโต เมื่อคราที่เปิดเผยผลกำไร)
3...คนที่มีอุปนิสัยการลงทุนที่เคร่งครัดวินัยการลงทุนสูงมาก ๆ (นั่นคือ คนมีความเชื่อมั่นตนเองสูงมากๆ ในการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน)
4...คนที่รู้และอ่านกราฟได้ขาด รู้รอบแนวรับแนวต้านได้แม่นยำ จึงกล้าถือเพื่อให้ถึงเป้าหมาย และรู้จังหวะ ซื้อ ๆ ขาย ๆตามรอบเป็น  ไม่ใช้ก้มหน้าก้มตาถือยาวแบบดันลุลัง  เรียกว่า รู้จักซื้อรู้จักขาย
5...คนที่เคยถือหุ้นตัวที่เคยกำไรมาก จึงเชื่อมั่นในตัวหุ้นนั้นอีก หลังจากราคาตกต่ำมาก
6...เป็นคนมีโชคทางเล่นหุ้น  ดีกว่าคนอื่นที่มีคุณสมบัติเทียบเท่า
ดังนั้นคนที่จะมีโอกาสได้กำไรจากตลาดหุ้นควรมีคุณสมบัติ อย่างน้อย 5 ใน 6 ข้อข้างต้น  (คงจะมีน้อยลงจากจำนวนคนเล่นหุ้นทั้งหมด)
ในบทความนี้จะยกเรื่องการคาดคะเนของมนุษย์ อันเนื่องจากมีสถิติข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และภายในเงื่อนไขปกติ    นั่นคือ
1...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติวิสัย ก็จะเกิดขึ้นตามปกติ ยกเว้นมีสิ่งเร้าอื่นมากระทบรุนแรงชัดเจน จึงจะเปลี่ยนไป
2...มิติเวลาเป็นตัวกำหนดสถานการณ์ เช่น คนที่จะทำราคาก็ต้องเริ่มแต่เช้า โอกาสย่อมง่ายและดีกว่า ไปเริ่มต้นตอนบ่าย หรือ ใกล้ปิดตลาดบ่าย
3...เงื่อนไขและกฎเกณท์กำหนด  เช่น หากซื้อมากกว่า 5% ของทุนจดทะเบียนต้องแจ้งต่อ กลต หรือ ตลท  , ราคา ATO  ATC ให้เงื่อนไขราคาที่เสนอดีที่สุดเป็นผู้ได้สิทธิ์จับคู่ราคาก่อน  ฯลฯ
4...สิ่งที่ใกล้ปัจจุบันต้องเกิดขึ้นก่อนสิ่งที่ไกลออกไป  ซึ่งถ้าจะให้เป็นไปได้ ต้องผ่านมิติเวลา  เช่น จะให้ราคาบวก 60% ต้องผ่านราคาซิลลิ่ง  2 ครั้ง หรืออย่างน้อยต้องผ่านไป 2 วันก่อน(หุ้นสามัญ)  ,  ราคาสูงสุดต้องผ่านราคาเปิดก่อน หรือเท่ากับราคาเปิดก็ได้ ฯลฯ  การคาดคะเนสิ่งที่ใกล้จะมีโอกาสเป็นไปได้และย่อมแม่นยำกว่า สิ่งที่ไกลออกไปมากๆ
5...ระบบตลาดหุ้นเป็นระบบที่ผสมหลากหลาย  ดังนั้นไม่มีอะไรที่แน่นอน จึงต้องคาดคะเนอย่างสุขุม และเผื่อทางเดินไว้ สองทางเป็นอย่างน้อย  นั่นคือ การตั้งแนวรับแนวต้านของราคาตนเองไว้เด็ดขาด (ตามสถานะที่ตนเองรับความเสี่ยงได้)
6...จงวางแผนในสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก่อน สิ่งที่ไม่แน่ใจต้องทีหลังเสมอ
กลยุทธและ  CONCEPT เหล่านี้ ต้องมีโปรแกรมช่วยเล่นหุ้นสนับสนุนความคิดต่อยอดเพื่อวางแผนการเล่นที่ปลอดภัยและเก็บเกี่ยวกำไรไปเรื่อย ๆ


คำเตือน เมื่ออยู่ในตลาดหุ้น  ตัวเราเองไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือ มือเก๋าแค่ไหน ก็ต้องอยู่ในความมีสติ อย่าเชื่อข่าวสุดตัว อย่าฟังเพื่อนสุดใจ อย่าดูคนอื่นรวยก็เชื่อสุดคิด อย่าเชื่อ IDOL ที่สื่อประโคม โดยที่ตัวเราไม่รู้ความติ่นลึกหนาบาง  จำไว้ว่า คนที่รวยรวดเร็วสุดขีด ต้องมีผ่านอะไรที่ผิดปกติ ซึ่งคนอื่นๆทั่วไป ไม่มีทางเลียนแบบได้อย่างแน่นอน   และหลักการที่ใครต่อใครเสนอก็มิใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้  รวมทั้งข้อคิดของบทความนี้ ก็ต้องใช้วิจารณญาณของตนเองมากที่สุด






Free TextEditor



Create Date : 24 ตุลาคม 2554
Last Update : 24 ตุลาคม 2554 21:32:04 น.
Counter : 3147 Pageviews.

1 comments
  
ท่านที่สนใจโปรแกรม สามารถสอบถามผ่านทางอีเมล์ nowya11@yahoo.com
โดย: nowya IP: 115.87.130.156 วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:23:47:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nowya
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]



ชาวกรุงเทพฯ เล่นหุ้นมาตั้งแต่ตลาดหุ้นอยู่สยามเซ็นเตอร์ ผ่านการกำไรและเจ๊ง ครบทุกรส มองเห็นขบวนการปั่นราคา และมองเห็นรายย่อยที่เล่นเจ๊งกันต่อหน้าต่อตา ยืนอยู่หลัง ผจก ตลาดฯ สมัยมีคนจะฆ่าตัวตายที่อาคารสินธร
เห็นใจรายย่อยที่เข้ามาเล่นแบบไม่รู้อะไร แต่อยากรวยเร็ว ๆ ด้วยทุนน้อยๆ อยากเก็งกำไร แต่ไม่รู้อะไรคือวิถีการเก็งกำไร
จึงอยากมีส่วนในการช่วยชี้แนะบ้างเท่านั้นเอง
New Comments