ข่าวน้ำท่วมเริ่มมีผลกระทบต่อตลาดหุ้น สังเกตุได้จาก ปริมาณ วอลุ่มที่ลดลงอย่างรวดเร็วของกลุ่มลงทุน ทั้งต่างชาติและรายย่อย ทั้งนี้อาจเกิดจากรายย่อยเป็นกลุ่มนำที่ส่วนใหญ่ประสพปัญหาน้ำท่วม จึงหยุดการเล่นหุ้น ทำให้กลุ่มอื่นต้องลดปริมาณการเล่นลดลงตามส่วน
สภาวะตลาดแบบนี้ อาจส่งผลให้เกิดการหยุดพักการเล่นระยะสั้น หรือระยะกลาง ทำให้ราคาหุ้นในตลาด ซึมลงมากกว่า ในขณะที่หุ้นที่มีข่าวดีก็ถูกกระทบตามไปด้วยได้ ลักษณะเช่นนี้หากดำเนินไปนานเกิน สัปดาห์ จะมีผลทางจิตวิทยาลงทุนได้ วิธีแก้ไข คือ การปรับฐานราคาเสมือนการเปลี่ยนฐานตลาด (หรือทางการค้าเรียกว่า รุสต๊อก หรือ ลดราคาเลหลัง)
เมื่อแนวทางคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การเทขายรุนแรง หรือที่เรียกว่า ตื่นตระหนกขาย panic sale ประมาณ ลบระหว่าง -1.5% ถึง - 5 % ของดัชนีขณะนั้น และอาจจะเกิดการตื่นขาย รุนแรง มากกว่า หนึ่งครั้ง ในระยะเวลาห่างกัน ไม่เกิน 2 3 สัปดาห์
ในทางปฎิบัติ เราคงไม่รอให้เกิดเหตุก่อนค่อยขาย แต่สิ่งที่ยากคือ ไม่สามารถตัดสินใจ หรือคาดคะเน อนาคตได้ จึงขอฝากให้สังเกตุดังนี้
1...ปริมาณวอลุ่มวันนี้ลดลงจากวันก่อนหน้า มากกว่า -20 % โดยไม่มีเหตุผลปัจจัย
2...ปริมาณวอลุ่ม ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ วันละเล็กละน้อย มีมากขึ้นก็เพียงบางวันเพียงเล็กน้อย
3...ดัชนีควรเดินทิศทางเดียวกับวอลุ่ม คือ วอลุ่มน้อยลงดัชนีก็ควรลดลงตาม วอลุ่มมากขึ้นดัชนี
ควรเพิ่มสูงขึ้น แต่หากเป็นการเดินสวนกัน ก็คาดได้ว่า จะเกิดการเปลี่ยนแนวโน้มแบบทันทีในไม่ใช้
4...วอลุ่มตลาด หากมากกว่า 25 ล้านบาทต่อ จุด ยังพอเล่นได้
วอลุ่มตลาด ระหว่าง 20 ถึง 24 ล้านบาทต่อ จุด ไม่ค่อยน่าเล่น
วอลุ่มตลาด ระหว่าง 15 ถึง 20 ล้านบาทต่อจุด ไม่น่าเล่น
วอลุ่มตลาด น้อยกว่า 15 ล้านบาทต่อจุด ให้หยุดเล่น เพราะอาจไม่มีแก็ปให้เล่น
(สถิติ ข้อ 4 ใช้ได้เฉพาะช่วงเวลา 30 วัน 24ตค-24พย 54 หากจากนั้นต้องประเมิณใหม่)
กลยุทธการเล่นหุ้นกับสภาวะตลาด แบบนี้ ตามหลักวิธีที่ดีคือ ควรหยุดการเล่นเก็งกำไรเลย หรือ หยุดการลงทุนชั่วคราวไว้ก่อน แต่หากมีหุ้นในมือ หรือ ยังติดดอยอยู่ ก็ควรมีการวางแผนเล่นที่รัดกุมไว้ (ควรมีโปรแกรมช่วยเล่นหุ้นใช้วางแผน ตัวอย่าง โปรแกรม NOWYA METHOD) การอ่านจากกราฟในสภาวะวอลุ่มน้อยไป ไม่เกิดความแม่นยำมากนัก
23 ตค 2554
Free TextEditor