จากสัปดาห์ก่อน ที่ดัชนีลงสองวันต่อเนื่องกว่า 70 จุด ถ้าวัน จันทร์ มีรีบาวน์ ถือว่า ตลาดแค่ผันผวน  แต่ ปรากฏว่า  เกิดแรงขายรุนแรงจนเกือบติดเซอร์กิต เบรกเก่อร์ -9.46%   ซึ่งถือว่า รุนแรงจนกลายเป็น panic ไป  ลักษณะแบบนี้ จะทำให้เกิดเป็นตลาดวิกฤต
ผันผวนคือ ..มีขึ้น สองวัน มีลงสองวัน หรือสลับขึ้นลง
วิกฤต คือ ขึ้น 1 วัน ลง 3 วัน แล้วก็ซึมไปเรื่อย ๆ เป็นเดือนๆ

อธิบาย..ภาพจากกราฟ(กราฟดัชนี เป็นรายเดือน)
1..วอลุ่มทั้งเดือน(เหลืออีก 4 วันทำการ คงไม่มากกว่าเดือนก่อน  แสดงว่ามีคนติดดอยมากค้างอยู่ข้างบน
2..วอลุ่มดัชนีเดือนก่อน มีมาก แต่ก็น้อยกว่า 9  เดือนที่แล้ว  แสดงว่า ยังมีของราคาถูกกว่าขายไม่หมด ซึ่งกลุ่มนี้หากตกใจแรงขายก็รุนแรงได้ เพราะราคากำลังใกล้เสมอทุน
3...ปี 2550มีลักษณะลงของดัชนีต่อเดือนลงมากอยู่ สองเดือน แต่ เป็นแบบมีรีบาวน์ มีไส้เทียนอยู่ล่าง และเนื่องจากระยะห่างแค่ 4  เดือนจากนั้น หุ้นก็เป็นวิกฤตซึมลงยาว 7  เดือน และมาลงรุนแรงปี 2551อีกครั้ง
4...2เดือนที่ผ่านมาดัชนีลงพร้อมวอลุ่ม แต่ก็น้อยลงตามกัน ยืนยันคนยังมั่นใจ แต่ราคาลง จึงอาจเกิด panic รอบสองในอีก 4 - 5 เดือนข้างหน้าได้  ดูเลข 6
5...ปี 2549 ช่วงปฎิวัติ แท่งเทียนมีไส้ล่างแต่ถัดมาอีกเดือนกลับไม่ลงลึก แสดงว่าแม้มีปฎิวัติซึ่งเป็นข่าวร้าย แบบหนึ่งแต่ราคากลับย้อน  หลังจากนั้นหุ้นขึ้น 6- 7  เดือน
6...หลังจากการรีบาวน์ในรอบนี้ คาดว่า ประมาณเดือน 10 -12 ส่วนต้นปีหน้า หุ้นก็จะลงและอาจรุนแรงได้

ทั้งหมดคือภาพทางเดินของดัชนีหลังเกิดวิกฤตวันที่ 26  กย 54 ที่จะทำให้เป็นไซค์เวย์ลงและจะออกฤทธิ์ ต้นปีหน้าได้(คาดการณ์)

จึงขอให้ท่านที่มีหุ้นติดดอยควรลดลงจากดอยโดยการใช้โอกาสทุกครั้งที่มีรีบาวน์ ตั้งแต่ +>1%ของดัชนีขึ้นไป ปล่อยของและรอรับคืนเมื่อราคาต่ำลงจากที่ขาย ->5% ของราคาหุ้นเป็นอย่างน้อย