เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ดิฉันมีเหตุให้เคร่งเครียดเรื่องเกี่ยวการต่อวีซ่าให้สามีที่กำลังจะลาออกจากงาน ถึงเพิ่งรู้ว่ามีระเบียบ ตม. ใหม่ สำหรับคนที่จะเข้าเมืองไทยแบบวีซ่าคู่สมรส ก็เลยไปโพสต์ไว้ในห้องไกลบ้านค่ะ เลยนำมาไว้ในบล็อกด้วย เผื่อใครไม่ได้เข้าในกระทู้จะได้เข้ามาอ่านเก็บข้อมูลเอาไว้สำหรับเตรียมการในอนาคตนะคะ

และแล้ววันที่ฉันต้องเจอฤทธิ์ ตม. ไทยก็มาถึง (กระทู้ระบายสำหรับคนที่อยากหอบคู่สมรสมาอยู่เมืองไทยจ้า)

เห็นกระทู้แนะนำขึ้นเป็นกระทู้บ่นเกี่ยวกับการขอวีซ่าของคนสัญชาติไทยในต่างประเทศ แล้วก็อยากระบาย (มั่ง) เกี่ยวกับเคราะห์กรรมของสาวไทยที่หอบหิ้วฝาละมีฝรั่งต่างชาติมาอยู่เมืองไทยต้องประสบเกี่ยวกับเรื่องการขอวีซ่าของไทย ที่น่ากัวไม่แพ้กันจ้า

ที่ผ่านมา เป็นโชคของดิฉันจริง ๆ ที่ไม่ต้องขอวีซ่าให้คุณแฟน เพราะเธอมีงานประจำทำตลอด แต่ในไม่ช้า ดิฉันมีอันต้องจรลีไปทำงานในต่างบ้านต่างเมือง และแน่นอนว่า คู่หูคู่ฮาที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่กับดิฉันที่ประเทศห่างไกลถึงเมืองไทยเยี่ยงนี้ ก็ต้องถ่อตามดิฉันไปด้วย เข้าทำนอง "Your heart is my home" คือไปไหนก็ต้องไปกัน ไม่งั้นเราจะมีครอบครัวเดียวกันได้หรือ???

คุณแฟนดิฉันรีบไปติดต่อขอลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ทันที จะมีผลในเดือนตุลาคมนี้ ดิฉันก็รีบติดต่อ ตม. ทันที เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการต่อวีซ่า เพราะถ้าลาออกจากงาน และแจ้ง ตม. คุณแฟนก็ต้องออกจากเมืองไทยภายใน 7 วัน ถ้าไม่เปลี่ยนประเภทวีซ่า แน่นอนวีซ่าที่คุณแฟนต้องเปลี่ยนก็คือวีซ่าคู่สมรส หรือ Non Immigrant O นั่นเองค่ะ ประเภทที่อยู่ได้เพราะความอนุเคราะห์ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรมที่ปรากฏในเวบของ ตม. นั่นแหระ ดิฉันโทรหา ตม. เมื่อบ่ายวันนี้ (ตามเวลากรุงเทพฯ ค่ะ) แต่โทรประมาณหนึ่งชั่วโมงไม่ประสบผล ไม่มีคนรับโทรศัพท์ ดิฉันจึงต้องขอพึ่ง เบอร์โทรหมายเลข 1111

1111 : "สวัสดีค่ะ ดิฉัน......รับสาย ยินดีให้บริการค่ะ"

ดิฉัน : "สวัสดีค่ะ ดิฉันขอสอบถามเกี่ยวกับการขอต่อวีซ่าให้กับชาวต่างชาตินะคะ คือสามีดิฉันถือวีซ่าทำงานอยู่ แต่จะลาออกจากงาน ถ้าดิฉันจะต่อวีซ่า จะต้องแสดงหลักฐานการเงินอย่างไรคะ"

1111 : "เรื่องการต่อวีซ่านะคะ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะโอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่ค่ะ"

--หายไปครู่หนึ่ง--

1111 : "สวัสดีครับ ผม...รับสาย ยินดีให้บริการนะครับ"

ดิฉัน : "ค่ะ คือดิฉันอยากสอบถามเกี่ยวกับการขอเปลี่ยนประเภทวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติค่ะ บลา บลา....."

1111 : "ถ้าสามีคุณเข้าเมืองไทยก่อนเดือนตุลาคม 2549 คุณต้องแสดงหลักฐานการเงินว่ามีเงินในบัญชี 400,000 บาท แต่ถ้าเข้าหลังเดือนตุลาคม สามีคุณและตัวคุณเองต้องมีรายได้รวมกัน 40,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป"

ดิฉัน : "คือว่า สามีดิฉันเขาจะลาออกจากงานแล้วน่ะค่ะ แล้วเขาก็จะไม่มีรายได้ ส่วนดิฉันมีรายได้ไม่ถึงสี่หมื่นบาท จะขอวีซ่าได้ยังไงล่ะค่ะ"

1111 : "คือว่า ต้องมีเงินรายได้รวมกันสี่หมื่นน่ะฮะ จะเป็นเงินรายได้อะไรก็ได้ เงินดอกเบี้ย หรืออะไรก็ได้นะครับ โอนมาจากต่างประเทศก็ได้ครับ ขอให้เป็นรายได้" (น้ำเสียงเริ่มฉุนเฉียวพองาม)

ดิฉัน : "ดิฉันบอกแล้วไงคะว่า สามีดิฉันไม่มีรายได้น่ะค่ะ แล้วถ้าสามีดิฉันมีเงินฝากประจำในธนาคารสี่แสน จะใช้ได้ไหมคะ เพราะเฉลี่ยก็มีรายได้เกินเดือนละสี่หมื่นแล้วน่ะค่ะ"

1111 : "ระเบียบบอกว่าต้องมีเงินเดือนครับคุณพี่...สำหรับเงินฝากในบัญชีไม่เกี่ยวอ่ะครับ....." (น้ำเสียงอ่อนแรง)

ดิฉัน : "งั้นขอบคุณนะคะ"

1111 : "ไม่ทราบจะมีอะไรถามอีกไหมครับ"

ดิฉัน : "ก็ไม่รู้จะถามอะไรนะคะ แต่คำอธิบายของคุณไม่ได้ช่วยอะไรเลย สงสัยว่าดิฉันต้องหย่าสามีก็อีกงวดนี้แหละค่ะ เพราะคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ สามีอิฉันเป็นคนจน ไม่มีรายได้ ก็อยู่เมืองไทยไม่ได้...." (น้ำเสียงไม่วีนนะคะ แต่อ่อนระโหยโรยแรงจริง ๆ)

ดิฉันวางหูไปแบบงง ๆ กะว่าอาทิตย์หน้าจะเดินทางไป ตม. ซอยสวนพลู เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่งั้น สามีอิฉันจะอยู่เมืองไทยได้อย่างไร ถ้าไม่มีรายได้ สามีอิฉันก็อยู่เมืองไทยไม่ได้งั้นหรือ แล้วระเบียบอันนี้ มันมีเพื่อมนุษยธรรมตรงไหนกัน

ดูสิคะ การขอวีซ่าของไทยยากกกว่าต่างประเทศเป็นไหน ๆ นี่ก็ไม่รู้ว่าจะได้อยู่เมืองไทยไหม เอาใจช่วยดิฉันด้วยนะคะ ขอบคุณที่รับฟังความทุกข์ใจ และความเครียดของดิฉันค่ะ นี่ทำเอานอนไม่หลับเลยนะคะ

อันที่จริง ดิฉันเข้าใจผิดตลอดเรื่องวีซ่า ว่ามีเงินสี่แสนในบัญชีก็พอ แต่นั่นสำหรับผู้ที่เข้าเมืองไทยก่อนตุลา 49 ค่ะ สำหรับคนที่เข้ามาทีหลังก็ต้องมีเงินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือสองคนรวมกันสี่หมื่นบาทต่อเดือน โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากของสามีอีกแล้ว เดี๋ยวมีข้อมูลชัดเจนกว่านี้ จะเข้าไปเขียนในบล็อกเพิ่มเติมค่ะ เพราะข้อมูลยังเก่าอยู่ (เผื่อมีใครแวะเข้าไปอ่านในบล็อก)

กระทู้ระบายสำหรับคนที่อยากหอบ หรือหอบคู่สมรสมาอยู่เมืองไทยแล้วจ้า ภาค 2 ค่า

เมื่อวานดิฉันไปพบ ตม. ท่านมาแล้วค่ะ

ขอมาส่งข่าวนะคะ...ว่า....พี่แจสกับดิฉันยังแต่งงานและอยู่เมืองไทยกันได้อยู่ค่า แต่ก็จนถึงเดือนธันวาคมนี้เท่านั้นนะคะ

ระเบียบ ตม. วีซ่าประเภท Non Immigrant "o" หรือที่เรียกว่าวีซ่าคู่สมรสนั้น หากคุณสามีเข้ามาประเทศไทยก่อนตุลาคม 2549 ก็ยังใช้ระเบียบเดิมได้คือ มีเงินในธนาคาร 400,000 บาท แต่ปัจจุบันนี้ ระเบียบใหม่ชื่อ 606 ไม่มีช่องให้ดิ้นหนีไปไหนได้เลย คือ สรุปว่าตัวสามี หรือภรรยาต้องมีรายได้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือรวมกัน เดือนละ 40,000 บาทขึ้นไป จึงจะสามารถขอวีซ่า Non "O" ได้ ถ้าไม่มีรายได้ ก็อยู่ไม่ได้ค่ะ อยู่ไม่ได้จริง ๆ นะคะ เป็นกฎเหล็กโหดมากทีเดียว และไม่มีวลีไหนที่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่สามารถอะลุ้มอะล่วยได้เลย เพราะฉะนั้น หากพี่แจสไม่มีรายได้ ก็อาจจะต้องจรลีออกจากประเทศไทย กระนั้นหรือ???


แต่โชคยังเข้าข้างดิฉันอยู่บ้าง เพราะพี่แจสจะลาออกในเดือนตุลาคมนี้ และเราจะเดินทางไปที่ประเทศรัสเซียเพื่อทำงานที่นั่น 3-4 ปี พี่แจสต้องอยู่เมืองไทยอีก 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) เราเลยสามารถทำวีซ่า "เยี่ยมภรรยา" ให้พี่แจสได้ โดยวีซ่าประเภทนี้ ไม่ต้องใช้เอกสารการเงิน และขยายเวลาอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วันค่ะ

หลักฐานที่ต้องใช้สำหรับวีซ่า "เยี่ยมภรรยา" **ควรนำเอกสารตัวจริงไปทุกอย่าง**

1. ฟอร์ม ตม. 7 พร้อมรูปถ่ายขนาด 4X6 ซม.
2. สำเนาพาสปอร์ตของสามี
3. สำเนาเอกสารการแต่งงาน เช่น ทะเบียนสมรส
4. สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนของภรรยา

ถ้าท่านใด อยากอยู่ประเทศไทยเกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 5 เดือน ขอแนะนำให้ทำวิธีนี้นะคะ คือขอวีซ่าจากสถานทูต/สถานกงสุลไทยมา 3 เดือน และมาต่อเป็นวีซ่าเยี่ยมภรรยาอีก 60 วัน รวมเป็น 5 เดือนค่ะ วีซ่าเยี่ยมภรรยา (ซึ่งดิฉันก็เพิ่งทราบว่ามี) เสียเงินค่าธรรมเนียมเพียง 1,900 บาท ก็ถูกกว่าเดินทางข้ามพรมแดนนะคะ อันนั้นอาจแพงกว่า เพราะฉะนั้นขอแนะนำค่ะ

สำหรับวีซ่าเกษียณอายุ ต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยมีบัญชีเงินฝาก 800,000 บาทค่ะ

แม้ว่าทาง ตม. จะเข้าใจปัญหาในทางปฏิบัติ และเห็นใจทางด้านมนุษยธรรมของคู่สมรส และกำลังเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนระเบียบให้เหมาะสมมากขึ้น เพื่อให้การบริการสะดวกและเอื้อต่อการสร้างครอบครัว แต่ก็ไม่รู้ว่าระเบียบจะเปลี่ยนไปบ้างไหม ดิฉันหวังว่า ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า คงมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเกิดขึ้นค่ะ ตอนนี้ ถ้าใครเข้ามาเมืองไทย โดยอาศัยประโยชน์จากระเบียบเดิม และต้องการสงวนสิทธิ์ไว้ ก็ทำได้ โดยเข้ามาต่อวีซ่าที่ ตม. ทุกปี สำหรับการรายงานตัวทุก 90 วัน (แบบคนเพิ่งพ้นโทษ ต้องคดี <--แบบที่สามีค่อนขอด) ถ้าไม่ได้อยู่ในเมืองไทยเกิน 90 วัน ก็ไม่จำเป็นต้องทำนะคะ

ขอให้พวกเราทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากระเบียบเจ้าปัญหา 606 พ้นทุกข์เร็ว ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ตอนนี้ ดิฉันก็ทำแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน กลับมาจากรัสเซียค่อยว่ากันค่า

ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ