Journey Journal with NineNoname

 
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ตุลาคม 2557
 

First Trip พาเด็กเที่ยวนอก (Osaka)

     เพิ่งกลับจากโอซากะมา ทริปนี้เป็นครั้งแรกของทั้งพ่อ แม่และลูก ที่ได้เดินทางขึ้นเครื่องไปต่างประเทศด้วยกัน พ่อกับแม่นี่เตรียมตัวกันมานานมากกก … ก ทั้งทำพาสปอร์ต ประเทศที่จะไป ช่วงเวลาที่จะเดินทาง เลือกโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้คุณชาย ด้วยการฝึกให้เขานั่งรถเข็นไปตามที่ต่าง ๆ ให้เจอคนเยอะ ๆ ฯลฯ ถ้าไปกันเองก็ไม่ต้องคิดเยอะ ไปกันได้เลย แต่พาคุณชายไปด้วยต้องเตรียมให้พร้อม ไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด


 
เล่นให้เต็ม กินให้อิ่ม ... ก่อนขึ้นเครื่อง

     ที่เลือกญี่ปุ่น เพราะเป็นประเทศที่เรา 2 คนชอบ วีซ่าก็ไม่ต้องทำ เคยไปมาก็หลายครั้ง เดินทางเองจึงไม่น่าจะหลง (มากนัก) ทั้งเมืองทั้งผู้คนก็โอเค ... สวยงามไม่มีอันตราย รวมทั้งค่าใช้จ่ายก็ไม่น่าจะเกินเลย (สักเท่าไหร่) ฯลฯ ด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวง ก็เลยมาจบลงที่ประเทศนี้นั่นเอง ... เราเลือกเดินทางไฟล์ทกลางคืนเพราะคิดว่าเป็นเวลาที่คุณชายนอน น่าจะสบายหน่อย เลยออกจากกรุงเทพฯด้วย TG622 ตอน 5 ทุ่มครึ่งถึงนู่นเช้า และกลับด้วย TG673 ตอนเที่ยงคืนครึ่งมาถึงนี่ตี 4
 

ขึ้นเครื่องครั้งแรก ตื่นตาตื่นใจไปหมด ถ้าไม่ง่วงคงวิ่งรอบลำ


     เนื่องจากอายุ 1 ขวบ 8 เดือนยังถือว่าเป็นทารก (ที่หลายคนบอกตัวใหญ่) อยู่ เลยไม่มีที่นั่งให้ พ่อกับแม่ก็เลยต้องอุ้มกันไป เราก็พยายามเลือกช่วงเวลาที่ไป (ไปปลายเดือนน่าจะเต็ม) เลือกไฟล์ทที่ยังพอมีที่นั่งว่าง ตอนขาไปก็เลยได้ 3 ที่นั่งคุณชายเลยได้นอนยาว เอาหัวไปทางแม่ เอาเท้ามาทางพ่อ เลยหลับยาว แต่พ่อ-แม่ ไม่ค่อยได้หลับเพราะกลัวเขากลิ้งตก ส่วนขากลับนี่สิโดนเช็คอิน (Outsource) ใจร้ายจับให้นั่งแยกกัน ทั้ง ๆ ที่ไฟล์ทก็ว่าง ไปเช็คอินก็ไม่ได้ช้า ... ขอแค่ที่นั่งติดกันยังไม่ให้ ซึ่งถ้าต้องนั่งแยกจริง ๆ จะทรมานมากเพราะต้องอุ้มทารกน้ำหนัก 11 กิโลตลอดเวลา เลยต้องพยายามดิ้นรนจนได้ที่นั่งติดกันในที่สุด แล้วให้ลูกนอนบนตัก พ่อแม่ก็ไม่ได้นอนอีกเพราะคุณชายดิ้นมาก ... 555 ... ทรมานสุดก็บนเครื่องนี่แหละครับผมว่า



จากกระเป๋าที่เคยใส่กล้องและอุปกรณ์ คราวนี้ไม่ใช่อีกต่อไป

     หลายคนอาจสงสัย นมเด็กเอาขึ้นเครื่องได้ไหม ผมมีคำตอบให้ครับ ... ผมถามไปที่การท่าเลยทีเดียว (เตรียมพร้อมสุด ๆ) ที่สุวรรณภูมิบอกว่าเราสามารถชงขึ้นเครื่องไปได้ 8 ออนซ์ 2 ขวดครับ โดยเอาออกมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนสแกนกระเป๋า ส่วนถ้าจะไปชงเพิ่มเขาให้เราไปขอน้ำจากบนเครื่อง ซึ่งคงต้องไปขอตั้งแต่เครื่องขึ้นเพื่อน้ำจะได้ไม่ร้อนเกินไป ก่อนขึ้นเครื่องก็ให้คุณชายกินให้อิ่ม เล่นให้เหนื่อย จะได้ไปหลับบนเครื่อง ซึ่งเอาเข้าจริงก็หลับก่อนเครื่องขึ้นแป๊บเดียวเอง พอเครื่องจะขึ้นและลงก็เอานมให้กิน เนื่องจากความกดอากาศที่เปลี่ยนจะทำให้หูอื้อได้ อาจจะทำให้เขางอแง และเขาก็ไม่เข้าใจหรอกว่าต้องกลืนน้ำลายถึงจะหาย ใช้วิธีให้กินนมเลยสะดวกสุดครับ

ถึงแล้วครับสนามบินคันไซ เมืองโอซากะ

     เราไปถึงโอซากะตอน 7 โมงเช้าทริปนี้เราวางแผนไปนอนค้างสักคืนบนภูเขาโคยะ หรือที่เรียกกันติดปากว่า โคยะซัง (Koyasan) ที่นี่เป็นเมืองมรดกโลก ตั้งอยู่ในจังหวัดวากายามะ (Wakayama) ลงมาทางใต้ของโอซากะ คราวนี้เราเลยจัดกระเป๋าไป 2 ใบ เอาไปเก็บที่โรงแรมก่อน 1 ใบอีกใบขนขึ้นเขา ก่อนเข้าเมืองก็ไม่ลืมซื้อ Kansai Thru Pass แบบ 3 วัน ราคาตอนนี้ขึ้นเป็น 5,200 เยนแล้วครับ เดินข้ามฝั่งไปยังสถานีของ Nankai เพื่อประหยัดเวลาเลยจ่ายเพิ่มอีกคนละ 510 เยนเพื่อนั่ง Express หน้าตาเหมือน Dark vader คันนี้เข้าไปสถานีนัมบะที่โอซากะ เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม (คืนที่ 2 เราจะกลับมาพักที่โอซากะกัน) แล้วก็ออกเดินทางไปโคยะซัง

     ข้อดีอย่างหนึ่งของ KTP คือใช้แบบเว้นวรรคได้ ทริปนี้เรามากัน 4 วันแต่ใช้ KTP ได้แค่ 3 วัน เราวางแผนใช้วันแรกที่ไปโคยะซัง พรุ่งนี้เดินทางกลับแล้วไปต่อที่โกเบ วันที่ 3 เดินเล่นแถว ๆ นี้ก็ใช้แบบหยอดเหรียญเอา ใช้อีกทีวันสุดท้ายเพราะต้องกลับสนามบิน ตอนเช้าเลยใช้ไปเกียวโตก่อนกลับ ... เอาให้คุ้มครับ ... บัตร KTP ใช้งานสะดวกมาก ใช้ได้ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รถราง ในเมืองโอซากะ เกียวโต นารา ฮิเมจิ โกเบ วากายามะ จนถึง โคยะซังที่เราจะไปกัน

     การเดินทางไปโคยะซังก็ไม่ยากจากสถานีนัมบะขึ้นไปชั้น 3 เพื่อขึ้น Koya Line เพิ่มเงินอีกประมาณ 780 เยนเพื่อขึ้นแบบ Express ใช้เวละประมาณ 90 นาทีลงสถานี Gokuraku-Bashi หลังจากนั้นก็ต่อ Cable car ขึ้นเขาไปอีกประมาณ 5 นาที บนเขาก็ใช้บริการรถประจำทางจากสถานีได้เลย มาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางแสวงบุญทั้งที ที่พักของเราคืนนี้จะเป็นโรงแรมคงไม่ได้ต้องเป็นวัดสถานเดียวครับ คราวนี้เราพักกันที่วัด Sekisho-in เอากระเป๋าไปเก็บที่วัดและก็ออกเดินเที่ยวชมธรรมชาติและเก็บบรรยากาศกัน ที่จุดเที่ยวหลัก ๆ ของโคยะซังมี 2 ส่วนคือ สุสาน Okunoin ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักเรามาก อีกส่วนคือ วัด ที่มีสถานที่สำคัญหลายแห่งให้ชม

 

อากาศเย็นสบายกับสถานที่สำคัญ Okunoin Gobyo และ Danjo Garan

     เนื่องจากอยู่บนเขาอากาศที่นี่จะเย็นกว่าที่โอซากะค่อนข้างมาก ใบไม้บริเวณนี้เริ่มมีสีส้ม สีแดง แซมออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว เราเลือกช่วงเวลานี้เพราะจะได้บรรยากาศที่ต่างจากเมืองไทย และไม่หนาวจนเกินไปจนคุณชายไม่สบาย (เขายังบอกเราไม่ได้ว่าหนาวหรือร้อน) เดินเล่นสักพักก็กลับมาทานข้าวเย็นที่วัดตอน 6 โมงเย็น เป็นอาหารมังสวิรัติที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ ปกติต้องไปทานรวมกันที่ห้องอาหารรวม แต่เนื่องจากคราวนี้เราจองห้องใหญ่ไว้ คือมีห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องอาหาร จึงยกมาบริการให้ถึงห้องพักกันเลย ถามว่าอร่อยไหม ... อืม ... เอาเป็นว่าถ้าใครทานอาหารแบบนี้อยู่แล้วน่าจะชอบ แต่ผมว่า ... มันไม่ใช่แนวผมอะครับ ... เข้าใจตรงกันนะ ... 555

 
สัมผัสธรรมชาติบ้าง ...

     ตื่นเช้ามากับอากาศเย็น ๆ สบาย ๆ มีนำสวดมนต์ตอน 6 โมงครึ่งและทานอาหารเช้าตอน 7 โมง พาคุณชายออกมาชื่นชมธรรมชาติ ชมบรรยากาศสวนญี่ปุ่น พร้อมให้อาหารปลา ก่อนกลับมาโอซากะเพื่อเก็บกระเป๋าและออกไปเที่ยวโกเบกันต่อ การเดินทางก็ไม่ยากใช้ KTP เช่นเคยมาขึ้นรถไฟสาย Hankyu ที่สถานี Umeda ไปลงสถานี Sannomiya ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เรามาถึงโกเบตอนบ่าย ๆ พาคุณชายไปเล่นที่ Anpanman Children’s Museum&Mall สนุกคุณชายเขาหละครับ สำหรับค่าเข้าก็คนละ 1500 เยนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ของเล่นส่วนใหญ่ก็ธรรมดา เครื่องบิน รถไฟ ไม้เลื่อน ฯลฯ มีโชว์ให้ชมบ้างนิดหน่อย ส่วนตัวผมว่าค่อนข้างแพงทีเดียวเมื่อเทียบกับของเล่นที่ไม่ได้ลงทุนมาก แต่เมื่อเห็นคุณชายสนุก มีความสุขก็โอเคครับ ... จัดไป

 
เที่ยวโกเบ ... กับอังปังแมน

     มื้อเย็นแวะทานร้านบุฟเฟ่ต์ที่ร้าน Fisherman’s Market อยู่ชั้น 2 ของห้าง Mosaic ตึกติด ๆ กันนี่แหละครับ สนนราคาก็ 2 พันกว่าเยน ราคาไม่รวมน้ำดื่ม ถ้าจะทานด้วยก็เพิ่มอีก 200 เยน ทานได้ไม่จำกัดเวลา อาหารหลากหลาย ใครชอบอาหารทะเลที่นี่มีให้เลือกเยอะครับ โดยเฉพาะปลาอลาสกู้ ... เอ้ย ...ปูอลาสก้านี่จัดเต็มได้เลย ส่วนตัวไม่ค่อยชอบอาหารทะเลเท่าไหร่ เลยเลือกทานอาหารแบบอื่นก็มีหลากหลายให้เลือก สปาเก็ตตี้ที่นี่อร่อยดี อย่างอื่นก็ธรรมดา ที่ไม่ค่อยธรรมดาคือของหวานทั้งขนมและไอศกรีมนี่อร่อยมาก อาจเป็นเพราะที่โกเบขึ้นชื่อด้านของหวานอยู่แล้ว ... ด้วยราคาและปริมาณที่กินได้ ถือว่าโอเคครับสำหรับที่นี่ ... All you can eat จริง ๆ 

 
จัดเต็มกับบุฟเฟต์ที่ Fisherman’s Market

     วันรุ่งขึ้นก็เดินเล่นเรื่อย ๆ ช๊อป ชิม ชิว กันแถว ๆ โรงแรม เราเลือกโรงแรมใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งที่ชื่อ Shinsaibashi เช่นเคย เดินกันไป พักไป ชมไป เรื่อย ๆ ร้านค้าเปลี่ยนแปลงไปเยอะทั้งขนาด สีสันและที่ตั้ง เพิ่งไปมาไม่นานเองนะยังรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง ที่เห็นชัด ๆ คือนักวิ่งกูลิโกะที่เคยเห็นว่าเป็นผู้ชาย มาครั้งนี้เขาเปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงเรียบร้อยแล้วครับ ... ให้ความรู้สึกเหมือนคิตตี้ไม่ใช่แมวยังไงไม่รู้ ... 555 ...

 
ช้อป ชิม ชิว ที่โอซากะ


     เราใช้บัตร KTP วันสุดท้ายก่อนกลับอย่างคุ้มค่า ด้วยการไปเที่ยวเกียวโตในตอนเช้า โดยครั้งนี้เราไป 2 วัดหลัก ๆ คือวัดทองและวัดน้ำใส ถึงจะใช้เวลาเดินทางนานอยู่เพราะอยู่กันคนละฝั่งของเมืองก็เถอะ แต่เนื่องจากเป็นวันธรรมดา ถนนหนทางเลยไม่คับคั่งเท่าไหร่ มหานครร้อยไฟแดงเลยดูไม่เลวร้ายนัก ใช้เวลาจากวัดทองไปวัดน้ำใสไม่ถึงชั่วโมง หลังจากนั้นก็เดินเล่นแถว Gion ก่อนกลับมาเอากระเป๋าที่โอซากะและออกเดินทางสู่สนามบิน ... การเดินทางหมื่นลี้ เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ... ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเดินทางนะครับ

 
อากาศดี ๆ ที่เกียวโต ... ไปวัดทองต่อวัดน้ำใส

 

๓-๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ 

 




Create Date : 13 ตุลาคม 2557
Last Update : 29 มกราคม 2559 16:34:10 น. 0 comments
Counter : 731 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

iamnoname
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]





[Add iamnoname's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com