ทริปนี้เตรียมตัวมานานพอควรเพราะการเดินทางต้องขอวีซ่าด้วย ซึ่งปัจจุบันการทำวีซ่าก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนักใช้เวลาไม่ถึงอาทิตย์ก็เสร็จ ออกเดินทางกันคืนวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ด้วยสายการบินไทยของเราอีกเช่นเคย ออกจากสุวรรรภูมิตอนเที่ยงคืนกว่า ๆ ไปถึงลอนดอนตอนเช้า 6 โมงกว่า ๆ ของวันเดียวกัน เวลาที่นี่ช้ากว่าเมืองไทย 7 ชั่วโมง

     ดูพยากรณ์ไว้แต่แรกแล้วว่าช่วงนี้ที่ลอนดอนอากาศค่อนข้างเย็น ก็เตรียมชุด เตรียมของไปเยอะพอควร ... เยอะแค่ไหน ก็แค่น้ำหนักที่สายการบินให้สำหรับ 3 คนเกือบไม่พอ (90 กิโล) ... 555 ... ที่เตรียมไปเยอะสุดก็เสื้อผ้าของคุณชายที่ถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมานี่เรื่องใหญ่ เลยต้องเตรียมไปให้พอ ทริปนี้เราไปแบบสบาย ๆ อีกเช่นเคย เพราะที่นี่เราเคยมากันแล้วและพาคุณชายมาด้วย จะต้องมาเก็บทุกอย่างตื่นแต่เช้ากลับดึก ๆ ก็คงไม่ไหว เอาสบาย ๆ และเน้นหนักกับการเข้าพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเปิดโลกให้กับคุณชายของเรา พิพิธภัณฑ์สำหรับทริปนี้ก็มีตามนี้ แต่ละที่น่าสนใจและที่สำคัญส่วนใหญ่จะเข้าฟรีอีกด้วย

Natural History Museum

คุณชายชอบมากกก

     ที่แรกที่อยากแนะนำคือ Natural History Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ที่นี่คุณชายชอบมาก มีหลายส่วนจัดแสดง ในช่วงที่ไปตรงโถงส่วนกลางนำเสนอเกี่ยวกับปลาวาฬ แต่ส่วนที่คุณชายชอบคือส่วนจัดแสดงของไดโนเสาร์นั่นเอง ที่นี่นำเสนอได้น่าสนใจทั้งหุ่นจำลอง โครงกระดูกทั้งตัวและส่วนต่าง ๆ ของไดโนเสาร์สายพันธ์ต่าง ๆ มีตัวอย่างให้เด็ก ๆ ได้ลองสัมผัสรับรู้ถึงความต่างอีกด้วย การเดินทางไม่อยากไปลงสถานี South Kensington ออกทางออกพิพิธภัณฑ์แค่นั้น

     เดินมาอีกนิดก็จะเจออีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์คือ Victoria and Albert Museum ที่นี่จัดแสดงงานศิลปะหลากหลายแขนง หลายรูปแบบ สวยงามแปลกตาดี เดินดูได้เรื่อย ๆ อีกหนึ่งที่คือ National Gallery ที่นี่จัดแสดงงานจิตกรรม ภาพเขียนมีค่าต่าง ๆ มีห้องจัดแสดงหลายห้อง ใช้เวลาเดินดูพอสมควร แต่ทั้ง 2 ที่นี้คุณชายไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ น่าจะเหมาะกับผู้ใหญ่ที่ชอบงานศิลปะจริง ๆ มากกว่า

     ที่ขาดไม่ได้น่าไปมาก ๆ คือ British Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอความเป็นมาของอารยธรรมในส่วนต่าง ๆ ของโลกได้น่าสนใจมาก ๆ ที่โดดเด่นก็เห็นจะเป็นเรื่องราวของมัมมี่ ที่มีการนำเอาโลงใส่มัมมี่และมัมมี่มาจัดแสดง 

    อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ไปคราวนี้คือ Imperial War Museum ที่นี่จัดแสดงยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ทางการทหาร สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทำสงคราม คุณชายชอบดูรถถัง ฯลฯ แต่ในส่วนของความเสียหายจากสงคราม เราก็ต้องอธิบายให้เขาฟังด้วยว่าสงครามไม่ใช่สิ่งที่ดี มีอีกหนึ่งที่ที่น่าไปแต่เราไม่ได้ไปคือ London Transport Museum ที่นี่นำเสนอถึงยานพาหนะต่างๆ ที่ใช้สำหรับการเดินทางในลอนดอนตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน ทำตัวสบาย ๆ ไปหน่อยเลยไม่ได้ไปเลย...

     ลืมบอกไปว่าทริปนี้พอเครื่องลง รับรู้ได้ว่าอากาศเย็นมาก ๆ ใส่เสื้อผ้าให้คุณชายไป 5 ชั้น เพราะกลัวจะไม่สบาย วันรุ่งขึ้นหิมะก็ตกกันมาเลย และก็ตกอย่างต่อเนื่องจนลอนดอนที่หิมะไม่ตกมานาน...กลายเป็นสีขาวไปทั้งเมือง ตกทุกวันจนวันกลับถึงเริ่มมีแดดออก ... 555 ... คนที่สนุกที่สุดก็คุณชายนี่แหละ เพราะอยากเห็นหิมะตกมาก เคยเห็นแต่ที่กองอยู่กับพื้นตอนไปญี่ปุ่น บ่นมาหลายทีหละ ... คราวนี้สมใจเขาหละ

ได้เจอแล้ว...ยิ้มแป้นเลย  

     หนึ่งสวนสนุกที่ไปคราวนี้คือ Paulton’s Park ที่นี่เป็นสวนสนุกที่มีหลายโซน โซนหนึ่งที่ตั้งใจมาก็คือโซนของ Peppa Pig หมูสีชมพูพี่น้องที่โด่งดัง คุณชายรู้จักจาก DVD การ์ตูนที่แบ่งเป็นตอน ๆ เรื่องนี้สอนภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพราะมีเนื้อหาสนุกและใช้ศัพท์ไม่ยาก เหมาะกับเด็ก ๆ มาถึงอังกฤษถิ่น Peppa ทั้งทีเลยต้องแวะไปเยี่ยมเยียนซะหน่อย ซึ่งก็ไม่ผิดหวังคุณชายชอบมาก ๆ ยกให้เป็นที่ที่ชอบอันดับสองของทริป

     ทริปนี้มีเดินทางไปนอกเมือง 2 เมืองซึ่งน่าสนใจทั้ง 2 เมืองคือ bibury และ Ely เมืองแรกคือ Bibury ขอเรียกว่า ไบบุรี หละกันดูไทย ๆ ดี ... 555 ... ที่นี่คุณนายระบุมาเลยว่าอยากไป ... ผมเองก็แอบงงมาก เมืองอะไรรถไฟก็ไปไม่ถึง เดินทางก็ลำบาก ที่ช้อปปิ้งก็ไม่มี ไปทำไมกัน ... เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ในเขต Cotswolds สิ่งที่โดดเด่นคือ กลุ่มบ้านเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1380 และได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนปัจจุบันก็ยังมีคนอยู่อาศัยอยู่ด้วย นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้เราดั้นด้นมาดู ...

     ตอนแรกตั้งใจจะขับรถไปเอง แต่ก็ด้วยหิมะที่ตกลงมาทำให้ถนนลื่นและเราไม่คุ้นทางเลยต้องเปลี่ยนแผน ลองค้นมีรถไฟวิ่งไปเมืองใกล้ ๆ แต่ก็ยกเลิกอีก เนื่องจากจองห้องพักที่ Swan Hotel ไปเรียบร้อยแล้ว เราเลยต้องดั้นด้นกันต่อไป สุดท้ายยังมีรถบัสของ National Express วิ่งอยู่จองกันคืนนั้นแล้วไปขึ้นตอนเช้าที่ Victoria coach station รถออก 10 โมง ไปถึง 9 โมง 55 นาทีเกือบตกรถกันเลยทีเดียว ... 555  ... รถไปส่งเราลงที่เมือง Cirencester ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ Bibury แล้วเรานั่งรถแท็กซี่ต่อไปอีกประมาณ 20 นาทีก็ถึง ... เมืองนี้เป็นอย่างไร น่าไปแค่ไหนไปชมกัน

ภายในและภายนอกห้องพักที่ Swan Hotel

     พักที่ Swan Hotel หนึ่งคืน ห้องน่าพัก เตียงนอนหลับสบาย เป็นที่ที่คุณชายชอบเป็นอันดับหนึ่งสำหรับทริปนี้ ... 555 ... อาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารเย็น ฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารของโรงแรมหมด เป็นสถานที่ที่แทบจะตัดขาดกับโลกภายนอกกันเลย เพราะสัญญาณโทรศัพท์แทบไม่มี ยังดีที่มีสัญญาณ wifi ของโรงแรมให้ใช้ เป็นเมืองที่เหมาะกับการ Eat Read Sleep ตามแนวคิดของเมืองจริง ๆ

     ขากลับนัดแท็กซี่ที่มาส่งไว้ให้มารับ แต่ก่อนที่แท็กซี่จะมามี SMS จากบริษัทรถมาบอกก่อนว่ายกเลิกเที่ยวรถที่เราจองไว้เนื่องจากหิมะ ... ไม่รู้ว่าเพราะคุณชายกล่าวไว้หรือเปล่าไม่รู้ว่าอยากนอนที่นี่ต่อทำไมต้องรีบกลับ ... 555 ... ดีที่ยังเพิ่งจะบ่ายโมงเลยติดต่อให้ที่ลอนดอนส่งรถตู้มารับได้ทัน ไม่งั้นได้นอนต่ออีกคืนสมดังที่คุณชายตั้งใจแน่ ๆ ... ด้วยสถาพหิมะที่ตก ถนนลื่นมาก ต้องค่อย ๆ ไป ขนาดรถเราเป็นรถตู้ยังไถลไปตั้งหลายรอบ เข้าใจเลยว่าทำไมรถบัสถึงต้องยกเลิก ในที่สุดก็กลับเข้าลอนดอนได้อย่างปลอดภัย ถึงจะดึกไปหน่อยก็ตาม

     วันรุ่งขึ้นไปเมือง Ely อีกหนึ่งเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ขึ้นรถไฟที่สถานี King’s cross ไปประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองนี้อยู่เลย Cambridge ไปเพียง 15 นาทีเท่านั้น แต่ไม่ค่อยถูกพูดถึงนัก อาจจะเพราะความใหญ่และดังของ Cambridge ที่ดึงความสนใจไปหมดนั่นเอง เมืองนี้มีมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ซ่อนอยู่นั่นคือ Ely Cathedral นั่นเอง ยิ่งใหญ่และสวยงามแค่ไหนไปดูกันครับ

    นอกนั้นเราก็เดินชมส่วนต่าง ๆ ในลอนดอนทั้ง London eye และ Big Ben (ที่ตอนนี้ปิดปรับปรุง คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4-5 ปีถึงจะแล้วเสร็จ) ใครไปตอนนี้ก็จะเห็นภาพแบบด้านล่างนี่หละครับ การเดินทางหมื่นลี้เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ... ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเดินทางนะครับ

Big Ben

London Eye

Tower Bridge

Create Date : 22 มีนาคม 2561
Last Update : 22 มีนาคม 2561 16:51:12 น.		0 comments
Counter : 803 Pageviews.
Share Tweet