Welcome to My World ...จากเมืองนอก..สู่บ้านนา ลั้ลลาสุดๆ
Brighton... เมืองเดิม แตกต่างด้วยความรู้สึก...

เรื่องราวที่จะเล่าให้ฟังนี้ ก็ว่าด้วยการเดินทางไปยังเที่ยว (รึเปล่า...ชักไม่แน่ใจ) ยังเมือง Brighton ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ... นั่งรถไฟจากลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณชั่วโมงนิดๆ ถ้าเป็นรถแบบด่วนอ่ะนะ ... แต่ที่พักของเราอยู่ในส่วนของมหาวิทยาลัย Sussex ที่อยู่ห่างเมืองออกมานิดหน่อย (แค่สามสถานีรถไฟเอง... เดินทางสะดวกสุดๆ...)

เรื่องของเรื่องก็คือว่า... เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว...โชคชะตาได้นำพาให้เราได้รู้จักการประชุมเชิงปฏิบัติการ ที่ชื่อว่า HCT (Human Centered Technology) หรือชื่อเป็นภาษาประกิต...แบบเท่ๆ ว่า HCT2006-workshop conference ซึ่งจัดมาได้เก้าครั้งแล้วก่อนที่จะถึงครั้งนี้ โดยมีผู้หวังดี ส่งอีเมล์เชิญชวนส่งผลงาน ... ไอ้เราก็เป็นพวกบ้าพลังอ่ะนะ... เค้ากล้าชวน เราก็กล้าส่ง...

เมื่อส่งไปแล้ว ก็สงสัยว่า...เอ๊ ทำไมไม่ตอบกลับมาน้า... สงสัยไม่เข้าขั้นอีกแล้ว... รอจนลืม...อยู่มาวันหนึ่ง ได้รับจม. ถามประมาณว่า ตกลงไม่ต้องการจะส่งผลงานใช่มั้ย... อะไรทำนองนั้น... ไอ้เราก็ตาเหลือก เพราะว่าไม่เคยเห็นจม. ตอบรับก่อนหน้านี้ แล้วพอเข้าไปดู มันเลยกำหนดส่งตัวเอกสารต้นฉบับที่ทำการแก้ไขตามข้อเสนอแนะของกรรมการ เค้าเลยอีเมล์ถามด้วยความสงสัย ประมาณว่า ถ้าไม่ต้องการมา แล้วส่งมาแต่แรกทำไม เราเลยชี้แจงและขอขยายเวลา สุดท้ายก็ได้มาหนึ่งสัปดาห์... และด้วยภาคบังคับว่าจะต้องกลับเมืองไทยด้วย... งานก็เลยเสร็จภายในสามวัน ด้วยความช่วยเหลืออย่างกระตือรือร้นของอาจารย์ที่ปรึกษา.. เราจึงมีวันนี้...ที่ Sussex U.

งานประชุม มีกำหนดสองวัน คือวันที่ 11-12 กันยายน แต่เนื่องจากว่า หนังสือเดินทางของเราถูกส่งไปต่อวีซ่า ดังนั้น เราจึงหายซ่า เพราะต้องเดินทางโดยรถไฟ 8 ชม. ไปยังสถานที่ประชุม งานประชุมเริ่มวันจันทร์ แต่เราต้องไปตั้งแต่วันเสาร์ เพราะวันอาทิตย์มีรถไฟเที่ยวเดียว ซึ่งกว่าจะไปถึงโน่น ก็เกือบหกโมงเย็น... แล้วเราไม่อยากจินตนาการว่า... เข้าไปในส่วนของมหาวิทยาลัยช่วงปิดเทอมวันอาทิตย์ (หาสิ่งมีชีวิต ยากมาก) แล้วยังต้องเดินหาตึกที่พัก ซึ่งเดินลึกเข้าไปเกือบหนึ่งกิโลได้... หลงทาง คงต้องภาวนากันไป... สุดท้าย ตัดสินใจไปก่อนอีกหนึ่งวัน ... เมื่อได้รับไปเขียวจากคุณครูที่ปรึกษา... เราก็เลยปร๋อไปอยู่ที่ไบรตั้นตั้งแต่วันเสาร์ เหอๆๆๆ

วันเสาร์ มีรถไฟหลายเที่ยว ... เราออกเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวเจ็ดโมงเช้า ไปถึงสถานี London Euston ประมาณเที่ยงครึ่ง.. จากนั้นต่อรถใต้ดินทำตัวเป็นจิ้งจกเกาะกระจก (อยากให้จินตนาการรถเมล์บ้านเรา ตอนอัดแน่นไปด้วยคน...ขนาดว่าปล่อยขบวนแรกให้ผ่านเลยไปแล้วนะ เพราะเบียดขึ้นไปไม่ได้...) ไปสถานีรถไฟ Victoria ก็ต่อรถไฟไป Brighton และ Falmer ตามลำดับ... ด้วยการเดินทางที่ทรหดวัดใจกันตั้งแต่เช้ามืด... ประกอบกับวันก่อนหน้า มี Farewell Party กันถึงห้าทุ่ม กว่าจะจัดของเสร็จหายตื่นเต้นก็ตีสาม... ตื่นตีห้าครึ่ง เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นรถเมล์หกโมงกว่า... เพื่อไปขึ้นรถไฟให้ทัน ... พอถึงที่พัก ก็หลับเป็นตาย หมดไปอีกหนึ่งวัน...

วันรุ่งขึ้น ก็เช็คเอาท์เพื่อไปเข้าพักอีกที่นึง ที่ทางผู้จัดประชุมได้เตรียมไว้ ... วันนี้ ได้เข้าไปในเมือง แต่พอถึงตัวเมือง ก็รู้ว่า ความงี่เง่าได้มาเยือนอีกครั้ง เพราะลืมหยิบกล้องถ่ายรูปมา... ก็เลยไม่มีภาพสวยๆ ของเมืองไบรตั้น มาอวดกัน ด้วยประการฉะนี้...

เช้าวันจันทร์ ก็เริ่มประชุมแต่เช้า กินข้าวไม่ลง เพราะต้องพรีเซนต์ตอนสิบเอ็ดโมงสี่สิบ (หลังพักดื่มน้ำชา) เครียด เพราะส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ ส่วนที่เป็นต่างชาติ ก็พ่นภาษาอังกฤษกันเป็นไฟ... ได้แต่แอบสงสัย ว่าทำไมเค้าพูดกันเก่งนัก พอตกเย็น เค้าก็พาไปกินอาหาร ที่ร้านชื่อว่า Iguana เป็นสไตล์บราซิล อาหารอร่อยดี เราชอบ... กินจนหมด แล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า... ต๊าย...ลืมถ่ายรูปอีกแล้วสิเรา แต่ก็ยังดี ที่ยังได้มีโอกาสบันทึกภาพเพื่อนๆ ที่ไปร่วมการประชุมครั้งนี้





ไปคราวนี้ เหมือนคนเป็นใบ้ เพราะลิ้นมันคับปาก เหมือนนางอาย ไม่ค่อยจะกล้าสบตาใคร เหมือนเป็นพวกไม่มีความคิด ไม่ซักถามอะไรเลย เหมือนฟังให้ผ่านเลย... แต่ถ้าใครที่เคยมีประสบการณ์ตอนเรียน ประมาณว่า ในคาบเรียนครูตั้งคำถามแล้วเราไม่รู้เรื่อง ... แต่ครูจะหาคนตอบให้ได้ โดยมองไปรอบห้อง...แล้วทุกคนนะหลบตากันยังกับเป็นปอบ ก็คงจะรู้ว่าตอนนั้นเรารู้สึกยังไง

เนื่องจากงานนี้เป็นการประชุมแบบกลุ่มเล็กๆ ดังนั้น เมื่อจบการนำเสนอแต่ละคน เค้าก็จะเปิดโอกาสในซักถาม... คนแย่งกันยกมือยังกับดอกเห็ด... ส่วนเรา หลบตาเค้ายังกับปอบ... แต่ก็ขอบ่นหน่อยเหอะนะ ว่าลำพังฟังให้ทันเนี่ยะ ก็ยากแล้ว ยังต้องเอาความรู้ที่ได้ ณ ขณะนั้นมาประมวลผลอีก จากนั้น สร้างเป็นคำถาม... คิดคำถามออกมาเป็นอีกภาษาที่เราไม่คุ้นเคย... แล้วที่เราไม่มั่นใจก็คือ สิ่งที่เราอยากรู้ เค้าได้พูดถึงไปแล้วตอนที่นำเสอนแล้วเราฟังไม่ทันหรือไม่เข้ารึเปล่า... โอ๊ยย...เครียด เค้าไม่รู้รึไง ว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาประจำชาติเรา... ขนาดภาษาไทยยังตกม้าตาย ประสาอะไรกับภาษาอื่น

บ่นไปก็เท่านั้นแหละ สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดี และตอนนี้เราก็กลับมาถึงกสาสโกว์โดยสวัสดิภาพแล้ว... ไม่งั้น คงไม่ได้มีโอกาสมาเล่าเรื่องราว (จริงๆ ระบายอารมณ์ซะมากกว่า) ให้ฟังหรอก... พิมพ์จนเมื่อยมือแล้ว... ขอไปพักผ่อนก่อนแล้วกันนะ ขอให้สนุกกับการอ่านก็แล้วกันจ้ะ



Create Date : 16 กันยายน 2549
Last Update : 16 กันยายน 2549 10:25:50 น. 0 comments
Counter : 626 Pageviews.

I_am_Nin
Location :
กาญจนบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน... ทางเว็บของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บล็อกแห่งนี้...

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่มีอุปนิสัยสนุกสนานร่าเริง รักการอ่านทุกประเภท ชอบท่องเที่ยว (ไม่รักสัตว์ ไม่รักเด็ก เพราะไม่คิดจะเป็นนางงาม อิอิ)... ส่วนใหญ่ก็ไปเที่ยวตามแต่กำลังทรัพย์ ชอบเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ ปัจจุบันตอนนี้มีความสนใจและความชอบเพิ่มขึ้น ตามวงปีที่ได้เรียนรู้โลกที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ ซีรีส์ วาไรตี้ และนักร้องเกาหลี (เข้าสู่วงการเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว และบัดนี้ก็ยังไม่ได้ออกมา ...ก็อย่างที่เค้าบอก ว่าวงการนี้เข้าง่าย แต่ออกยาก)

... หน้าที่การงานตอนนี้ ก็หลบเลี่ยงจากความวุ่นวายของเมืองกรุงฯ มาทำงานอยู่ในจังหวัดใกล้ๆ ที่ขับรถ 2-3 ชั่วโมงก็มาถึงแล้ว (อยู่ที่ว่าจะมาเส้นไหน ขับรถเร็วมั้ย และติดไฟแดงเยอะรึเปล่า) มีสโลแกนของจังหวัดว่า 'แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์' หลังจากที่เรียนจบมานานจากเกาะอันไกลโพ้น
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add I_am_Nin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.