~ วั น ที่ ไ ม่ มี พ่ อ ~
20 กรกฎาคม 2549 เวลา 9 โมงกว่าๆ บทสนทนาทางโทรศัพท์เริ่มขึ้น "พ่อ อย่าลืมค่ากล้องนะ" "อื้ม ไม่ลืมหรอก เดี๋ยววันนี้เบิกงบได้จะโอนไปให้นะ" " ค่ะ เนี่ย ว่าจะไปหาหมอนะพ่อ ถ้าไม่ดี จะขอหมอ admit สักวันสองวัน"
11 โมงกว่าๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หน้าจอโชว์ขึ้นมาว่า Papa
"คะ" "เป็นไร ทำไมต้องไปหาหมอ" "จะให้ไล่ให้ฟังหมดไหมล่ะ? " "ว่ามา" "หมอบอกว่า เป็นลำไส้อักเสบ เป็นกระเพาะ เป็นโรคเครียด ไมเกรนกำเริบ โรคนอนไม่หลับ"
ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา สักครู่หนึ่ง
"กลับมาอยู่บ้านเราเถอะลูก" คราวนี้ตานังลูกอึ้งบ้าง ....... "ยังไม่ครบปีเลยนี่คะพ่อ" "กลับมาเถอะ ตอนที่พ่อยังมีแรงพอดูแลเรื่องงานให้เราบ้าง" "นะคะพ่อ อีกไม่กี่เดือนเอง จะสิ้นปีแล้วนะ"
บทสนทนาวนกลับไปลูปเดิมๆ ตลอดปีที่ผ่านมา เพราะลูกขอเวลาอีกหนึ่งปี กับการจะใช้ชีวิตอย่างตามใจตัวเอง ก่อนจะกลับไปเป็นลูกน้อย เป็นคุณหนูของพ่อ
วางสายลง พร้อมกับบ่นๆ ให้เพื่อนๆ ในเอ็ม และคนในออฟฟิศฟังว่า ดูดิ๊ พ่อตามกลับบ้านอีกแล้ว ยังไม่ถึงกำหนดเล้ย
บ่ายสองกว่าๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง พ่อโทรมาอีกแล้ว เอวันนี้เป็นอะไร รักเราจังแฮะ
"โอนเงินค่ากล้องไปให้แล้วนะ" "ค่า"
บทสนทนาสั้นๆ แต่ไม่คิดเลยสักนิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ยินเสียงของพ่อ......
บ่นๆ กับเพื่อน ๆในเอ็มฯ อีกครั้ง แปลกที่วันนี้พูดถึงพ่อหลายคราว ปกติจะเลี่ยงไม่ค่อยพูดถึงพ่อตัวเองเท่าไหร่ ยังคุยกับพี่นู๊นู อยู่เลยว่า "พ่อ เขาก็รักจุ๊บดีนะพี่" ยังโดนว่าให้ว่า "พ่อแม่ที่ไหนไม่รักลูก"
กลับจากออฟฟิศทัวร์ 4 โมงนิดๆ เดินไปเช็คเงิน อ๊ะ คราวนี้พ่อใจดี โอนเกินด้วยแฮะ น่ารักจังวุ้ย สักพักเตรียมตัวอาบน้ำ จะลงมาทำงานต่อ โทรศัพท์ดังขึ้น ใครโทรมานะ อ๊ะ เลขาพ่อ มีอะไรจะถามเรื่องงานอีกละมั้ง "หนู พ่อช็อคนะ กำลังปั๊มหัวใจอยู่ กำลังจะส่งโรงพยาบาล" เสียงสั่นๆ บอกมาตามสาย ทั้งยังเสียงไซเรนที่กรีดร้องอยู่รอบ "งั้นเดี๋ยวกลับไปเลย พี่ตามไปดูพ่อนะ พรุ่งนี้เช้าเจอกัน"
รู้สึกงงๆ สับสน ว่าควรทำตัวยังไงดี พ่อไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่อีกใจก็คิดว่า อยู่กับมือหมอแล้วคงไม่เป็นอะไร แล้วก็กดโทรศัพท์ต่อหาน้องชายทุกเบอร์ จนติด บอกข่าวน้องชายแล้ว ตัวเองก็โทรเรียกรถให้มารับเข้ากรุงเทพฯ พร้อมเก็บของไปเรื่อยๆ เก็บแบบงงๆ ว่าควรเอาอะไรไปบ้าง หยิบเสื้อผ้ามาสองสามชิ้น กะว่าอย่างมากพ่อก็คงนอนโรงพยาบาลไม่กี่วัน โทรศัพท์หาเจ้านาย ลางานทั้งสองที่ และบอกเพื่อนและคนสนิทอีกสองสามคน
เกือบๆ 5 โมง ออกจากพัทยาได้ หลับเพราะความอ่อนเพลีย พักนี้ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าไหร่เลย ขอนอนเอาแรงก่อนดีกว่า 6 โมงเศษๆ สะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำไมที่บ้านไม่โทรมาเลย หรือพ่อไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ใจไม่ดีเสียแล้วตอนนั้น คว้าโทรศัพท์กดโทรหาที่เบอร์แม่
"แม่ เป็นไงบ้าง" "อยู่ไหนแล้ว" "อยู่บนรถ เกือบถึงกรุงเทพฯ แล้วค่ะ จะต่อรถจากกรุงเทพฯ" "ค่อย ๆมานะ " แล้วเสียงแม่ก็ขาดหายไป แทนที่ด้วยเสียงสะอื้น "แม่....." "กลับมาค่อยคุยกันนะ เดินทางดีๆ นะ" "แม่....." "พ่อเขาไปแล้ว แม่ทำอะไรไม่ถูกแล้ว" ".......... พี่ยุ้ยล่ะแม่ อยู่นี่" วินาทีนั้น ได้ยินแต่เสียงสะอื้นดังอยู่ในสายโทรศัพท์ เลขาของพ่อรับสาย "พี่ หนูฝากแม่ด้วย อย่าบอกน้องนะ กำลังขับรถอยู่ไม่อยากบอกให้รู้"
วางโทรศัพท์ลง ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก น้ำตาร่วงลงมาเป็นสาย คิดว่าควรทำอย่างไร ควรโทรหาใคร ตัดสินใจโทรหาเพื่อนสนิทของพ่อก่อน "อาคะ พ่อเสียแล้วนะ" ไม่มีใครสักคนที่จะเชื่อว่าข่าวที่บอกนั้นเป็นความจริง ต้องย้ำอีกหลายคำ กว่าจะรับฟังกัน โดยหัวใจของคนเป็นลูกยิ่งเจ็บทุกครั้งที่ต้องย้ำว่า พ่อไม่อยู่แล้ว พ่อไปแล้ว
ค่อยๆ กดโทรหาเพื่อนที่ฝากให้ไปซื้อตั๋วรถให้ โทรหาพี่นุ โทรหาพี่เขา ค่อยๆ บอก วินาทีนั้น อยากได้ไหล่ใครสักคนมาอยู่ข้างๆ น้ำตามันไหลออกมาเรื่อยๆ ค่อยๆ ริน ค่อยๆ ไหล แต่เหมือนความเจ็บปวดในหัวใจไม่ได้ลดลงเลยสักกระผีกริ้น
พยายามทำใจนิ่งๆ สงบๆ เรายังมีอะไรต้องทำอีกหลายอย่างนี่ แต่ทำไมอะไรๆ มันประเดประดังเข้ามาเร็วขนาดนี้ ตอนบ่าย เรายังเพิ่งคุยกันอยู่ไม่ใช่เหรอคะพ่อ ทำไมด่วนจากไปนักล่ะ พยายามคิดว่า จะมีใครโทรมาบอกไหมว่า ที่พ่อฟื้นแล้ว ว่าที่บอกว่าพ่อเสียแล้วมันไม่จริง ย้ำกับตัวเองหลายต่อหลายครั้ง ว่ามันไม่จริง แต่ความจริงก็คือความจริง ปุบปับที่ไม่มีพ่อ มันเหมือนอยู่ดีๆ ก็เจอพายุใหญ่เข้ามาในชีวิตโดยไม่มีเค้า จะเดินอย่างไรต่อ จะทำอย่างไรดี ตอนนั้นนาทีนั้นคิดอะไรไม่ออกเลยสักนิด
ถึงหมอชิตด้วยความงุนงง เพื่อนมารับพร้อมตั๋ว นั่งอยู่เป็นเพื่อน คอยกุมมือให้กำลังใจ หลายครั้งที่อยากจะปล่อยโฮที่ตรงนั้น แต่ก็ยังไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาค่อยๆ ไหล จนถึงเวลาขึ้นรถนั่งรถไป มีคนโทรหา เป็นครั้งแรกที่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ไปเรื่อยๆ เพราะรู้ดีว่า เมื่อกลับถึงบ้าน จะร้องไห้แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว....
ตี 4 กว่าถึงบ้านน้องชายมารับ ไปถึงมูลนิธิที่ตั้งศพพ่อ นั่นพ่อเราแน่หรือที่นอนอยู่ตรงนั้น แม่ลุกขึ้นมาทันทีที่เห็น แล้วบอกว่า ไปไหว้พ่อเขาหน่อยเถอะ เดินงงๆ ไปไหว้พ่อ จุดธูปมือไม้สั่น พร้อมกับย้ำตัวเองว่า นี่คือความจริง นี่คือสิ่งที่ต้องยอมรับ
"พ่อขา ทำไมไม่รอกันสักนิด นี่พ่อไม่อยู่แล้วจริงๆ เหรอ ทำไมพ่อไม่รอสักหน่อย ทำไมปุบปับด่วนจากไปเหลือเกิน"
เดินกลับหาแม่ กุมมือ และกอดแม่ไว้แน่นๆ แม่ร้องไห้อีกแล้ว รีบปาดน้ำตาออก ไม่อยากให้แม่เห็นว่าตัวเองก็ร้องไห้
"แม่จ๋า แม่อยู่เฉยๆ นะ แม่นอนนะ เดี๋ยวจุ๊บกับน้องจะดูแลเอง" สงสารแม่เหลือเกิน ณ ตอนนั้น หน้าแม่ซีด ผมแม่ยุ่ง หน้าตาอิดโรย ไม่ได้นอนแน่เลยแม่ "แม่ไม่ต้องห่วงนะ จุ๊บมาแล้ว น้องมาแล้ว แม่อยู่เฉยๆ นะคะ พักนะแม่" ยิ่งสะท้อนใจ เมื่อแม่บอกว่า แม่นอนไม่หลับ แม่ข่มตาไม่ลง ได้แต่กอดแม่ไว้ และกลั้นน้ำตาต่อไป เพราะรู้ว่าถ้าน้ำตาไหลตรงนั้น แม่คงแย่ยิ่งกว่า
เช้าวันต่อมา รดน้ำศพพ่อ ทำไมพ่อยังเหมือนคนนอนหลับอยู่เลยล่ะ มือพ่อยังไม่แข็งเลย ได้แต่จับมือพ่อไว้ ย้ำกับตัวเองว่า พ่อไม่อยู่แล้วจริงๆ
วุ่นกับงานอยู่หลายวัน เราสองคนพี่น้อง ไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้ ขาดตกบกพร่องไปหลายอย่างเหลือเกิน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว กระทั่งวันเผา ก่อนจะเผา ไปนั่งคุยกับพ่อหน้าโลงทุกวัน พยายามบอกพ่อว่า ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ห่วงบ้านแล้ว ลูกสองคนจะดูแลเอง
วันนี้พ่อไม่อยู่แล้ว ไม่มีพ่อแล้วจริงๆ เราสองคนพาแม่ไปอยู่เขาใหญ่กับน้อง เพราะแม่ทนไม่ได้ที่จะเดินเข้าบ้าน แม่ทนกับการยืนอยู่คนเดียวในบ้านหลังนั้นไม่ได้ แม่บอกว่าความทรงจำมันมากมายเกินไป และแม่ยังทำใจไม่ได้ พ่อด่วนจากไปเหลือเกิน พ่อไปสบาย ไม่เจ็บไม่ปวด แต่คนที่อยู่ข้างหลัง ทั้งเจ็บปวด และสับสนกับชีวิต แต่รู้ดีว่าชีวิตต้องเดินต่อไป เมื่อไม่มีพ่อ เราก็ต้องอยู่ต่อไป จะไหวหรือไม่นั้นไม่สำคัญ เพราะเราไม่สามารถจะล้มหรือเสียใจได้นานอีกต่อไปแล้ว
พ่อคะ รู้ไหมตั้งแต่วันนั้นที่พ่อจากไป ไม่มีวันไหนที่ไม่อยากคุยกับพ่อ พยายามจุดธูปบอกพ่อ อยากฝันเห็น อยากคุย ถึงแม้จะเป็นความฝันก็ยังดี แต่พ่อไม่เคยมาหา ลูกไม่เคยฝันถึงพ่อเลยสักครั้ง ครั้งเดียวก็ไม่เคย
หลับเถอะค่ะ หลับให้สบายนะคะพ่อ ไม่ต้องห่วงอะไรทางนี้แล้ว เราจะดูแลแม่ และเราจะเข้มแข็ง ถึงไม่ไหว เราก็ต้องไหวค่ะ
รักพ่อนะคะ
ปล. ขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้กลับมาพร้อมเกาะลั่นทม แต่กลับมาพร้อมความระทมแทน ปล.อีกครั้ง ขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจ ขอบคุณทุกๆ คน ขอบคุณพี่คนดีที่ให้กำลังใจเสมอมา
Create Date : 01 สิงหาคม 2549 |
|
38 comments |
Last Update : 1 สิงหาคม 2549 1:12:55 น. |
Counter : 650 Pageviews. |
|
|
|
เสียใจด้วยครับพี่
เข้มแข็งนะครับ