ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
13 ธันวาคม 2554

โตโยต้า พริอุส C : ไฮบริดโฉมท้ายตัด

แม้จะใช้ชื่อพริอุส แต่ทว่าที่เห็นอยู่นี้กลับไม่ได้มีความเกี่ยวพันในเชิงรูปลักษณ์จากพริอุ สรุ่นที่ขายอยู่ในตลาดหมือนกับพริอุส พลัส หรือพริอุส V ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ แต่เป็นพริอุสในเวอร์ชันแฮทช์แบ็ก 5 ประตูแท้ที่มีขนาดกะทัดรัด ด้วยความยาวไม่ถึง 4 เมตร เพื่อเอาใจคนเมือง โดยจะขายในตลาดโลกด้วยชื่อพริอุส C แต่เปลี่ยนมาเป็นอะควอ (Aqua) เมื่อเป็นเวอร์ชัน JDM ในญี่ปุ่น

พริอุส C หรืออะควอ ถือเป็นผลผลิตที่มาจากต้นแบบ เมื่อครั้งโตโยต้าเคยนำออกจัดแสดงในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2011 ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และถือเป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากไอเดียการแตกไลน์รถยนต์ไฮบริดในตระกูลพริอุ สให้ครอบคลุมกับทุกความต้องการมากที่สุด ซึ่งตรงนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายปี 2010 เมื่อโตโยต้าเปิดตัวรุ่นพริอุส V หรือเวอร์ชันอเนกประสงค์ออกมา

อย่างไรก็ตาม พริอุส C ตรงนี้เป็นอะไรที่แตกต่างออกไป เพราะว่าตัวรถไม่ได้มีความเกี่ยวพันอะไรเลยกับพริอุสในเชิงวิศวกรรม นอกจากชื่อเท่านั้น ตัวถังทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตูมีความยาว 3,995 มิลลิเมตร หรือยาวกกว่ายาริสใหม่ประมาณ 300 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,550 มิลลิเมตร

ดังนั้น ใครที่ห่วงว่ารถยนต์รุ่นนี้จะทับไลน์กับยาริส ไฮบริด ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ อาจจะไม่ต้องกังวล เพราะโตโยต้าวางระดับตลาดของพริอุส C เอาไว้สูงกว่า



ไม่เพียงแค่นั้น เครื่องยนต์ของพริอุส C ก็แตกต่างออกไป โดยใช้ขุมพลังแบบ 1500 ซีซี ไฮบริด ในการขับเคลื่อน ซึ่งจากการเปิดเผยของสเปก JDM รุ่นอะควอที่ขายอยู่ในญี่ปีน รถ ยนต์รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1500 ซีซี 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 11.3 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที เป็นขุมพลังหลักในการขับเคลื่อน โดยที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 17.2 กก.-ม. ช่วยขับเคลื่อน และเมื่อทั้งเครื่องยนต์รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันจะมีกำลังสูงสุดอยู่ ราวๆ 100 แรงม้า

สำหรับการเปิดตัวทางโตโยต้าเผยว่าเวอร์ชันญี่ปุ่นจะมาก่อน ด้วยการเผยโฉมในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 ต้นเดือนธันวาคมนี้ ส่วนเวอร์ชันตลาดโลกและอเมริกาจะเปิดตัวในเดือนมกราคมที่งานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2012 ก่อนที่จะเริ่มขายอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ส่วนราคาในสหรัฐอเมริกาคาดว่าน่าจะไม่เกิน 19,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 590,000 บาท






Create Date : 13 ธันวาคม 2554
Last Update : 13 ธันวาคม 2554 12:25:00 น. 1 comments
Counter : 918 Pageviews.  

 


โดย: winza1 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:22:42:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]