แลนด์ โรเวอร์ยังคงนำพื้นฐานจากดีเฟนเดอร์90, 110 และ 130 รุ่นปี ค.ศ. 2012 มาใช้ในดีเฟนเดอร์ รุ่นปี ค.ศ. 2013 โดยเฉพาะรุ่นสเปเชียล อิดิชั่นที่แลนด์ โรเวอร์ต้องการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอะไรที่แตกต่างกว่ารุ่นเดิม โดยเพิ่มรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าไป ซึ่งมีไฮไลต์คือสีของตัวถังที่มีให้เลือก 2 สีคือ เทา ออร์คนี่และทองแดง นาร่า
การตกแต่งภายในของรุ่นสเปเชียลอิดิชั่นนั้นใช้เบาะนั่งที่ทางผู้ผลิตเลือกใช้วัสดุหนังแท้ระดับพรีเมียม เป็นสีทูโทน อีโบนี่ และอัลมอนด์ พร้อมติดตราสัญลักษณ์ “Land Rover” บริเวณพนักพิง โดยออกแบบรูปทรงของเบาะให้มีความกระชับกับตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้ามากขึ้น เป็นเบาะนั่งแบบชิ้นเดียวทรงสูงกึ่งสปอร์ต ซึ่งเหมาะทั้งทางเรียบและทางฝุ่น ในด้านสถาปัตยกรรม โครงสร้างดีเฟนเดอร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยลูกค้าสามารถเลือกขนาดความยาวของฐานล้อได้ 3 ขนาดเหมือนเดิม และมีรูปแบบของตัวถังแตกต่างกันถึง 14 แบบ ทั้งแบบกระบะ แบบหลังคาอ่อน แบบที่นั่งตอนเดียว หรือ 2 ตอน และแบบสเตชั่นแวกอนขุมกำลังเครื่องยนต์ดีเซลของ ดีเฟนเดอร์เป็นรหัส EU5 ความจุกระบอกสูบ 2.2 ลิตร ถูกนำมาแทนที่เครื่องยนต์ที่ใช้ในรุ่นปี ค.ศ. 2012 รหัส EU4 ความจุ 2.4 ลิตร ซึ่งเครื่องยนต์ EU5 มีกำลัง 122 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที และมีจุดเด่นคือ เสียงทำงานที่เบากว่า ก่อมลภาวะน้อยกว่า รวมถึงประสิทธิภาพด้านความประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีกว่า ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้ก็คือเครื่องยนต์ดีเซล ตระกูลดูราทอร์ค รหัส ZSD422 ที่นำมาจากฟอร์ดนั่นเอง
ส่วนระบบเกียร์ส่งกำลังเป็นชุดเกียร์ 6 จังหวะ รหัส GFT MT 82 เป็นเกียร์ที่มีอัตราทดที่เหมาะสมและทำให้รอบเครื่องยนต์ขณะเดินทางต่ำ มีประสิทธิภาพในการถ่ายเทกำลังไปยังล้อทั้งสี่ ขณะขับขี่บนเส้นทางลาดชัน รวมถึงเส้นทางทุรกันดารจอห์น เอ็ดเวิร์ด ผู้บริหารแลนด์ โรเวอร์เปิดเผยถึงดีเฟนเดอร์ สเปเชียล อิดิชั่นใหม่ว่าเป็นการยกระดับการขับขี่ให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบในรถยนต์รุ่นนี้ ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น.
พีรพล กนิษฐะเสน
ที่มา เดลินิวส์