แม้ว่าในตลาดโซนยุโรปของ BMW จะซบเซาลงในช่วงนี้ แต่ก็ยังมีข่าวดีสำหรับ BMW Group ที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้นในแถบเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน และแถบอเมริกาเหนือ ได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

ในช่วงระยะเวลาสามเดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน รายได้สำหรับบริษัทรถสัญชาติเยอรมันทั้ง BMW, MINI และ Rolls-Royce เพิ่มขึ้น 13.7% เป็น 18,817 ล้าน (2011: 16,547 ล้าน) ในขณะที่กำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 17.6 % เป็น 1,987 ล้าน (2011: 1,689 ล้าน)

จำนวนรวมของยานพาหนะ BMW, MINI และ Rolls-Royce ขายให้กับลูกค้าในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2012 เพิ่มขึ้น 9.0% เป็น 434,963 คัน (2011: 399,218 คัน)

Norbert Reithofer ซีอีโอของบริษัท BMW ยังกล่าวอีกว่า “เรามีไตรมาสที่สามที่ดี มีการสถิติยอดขายใหม่ และยังมีรายได้ ผลกำไรในภายใต้สภาพแวดล้อมในตลาดที่ท้าทายเช่นนี้”

เขาเสริมต่อว่า “เราคาดว่าปริมาณการขายจะยังคงเติบโตได้ต่อไปได้ในไตรมาสที่สี่ แม้ว่าธุรกิจจะมีแนวโน้มที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่พึงประสงค์”

ระยะเวลา 9 เดือนแรกของปีนี้ BMW ได้ทำยอดขายไปถึง 1,335,502 คันของทั้งสามแบรนด์ดัง ซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นของร้อยละ 8.3 จากในช่วงเดียวกันของปี ค.ศ.2011 ที่ผ่านมา (2011: 1,232,584 คัน)

ขณะที่ยอดขายในยุโรปเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% คือ 640,207 คัน จากเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในทวีปอเมริกาเหนือมียอดขายรถสัญชาติเยอรมันนี้เพิ่มขึ้นถึง 7.4% ซึ่งคิดเป็น 264,207 คัน ซึ่งเป็นยอดขายในประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 235,487 คัน (7.1%)

ที่น่าตกใจกว่านั้นน่าจะเป็นยอดขายทางเอเชีย เพราะทำยอดขายให้กับ BMW ได้ถึง 359,103 คัน (27.1%) ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน โดยเป็นยอดขายจากประเทศจีน 237,650 คัน (33.3%) และ 42,038 คัน (21.5%) ในประเทศญี่ปุ่น

ที่มา  9carthai.com