ปัจจุบันโตโยต้าผลิตรถยนต์รุ่นคัมรี ไฮบริด ออกมาจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น โดยราคาถูกสุดคือรุ่น 2.5 ไฮบริด ซีดี 1.649 ล้านบาท สูงขึ้นมาอีกหน่อยจะเป็นรุ่น 2.5 ไฮบริด ดีวีดี ราคา 1.699 ล้านบาท และรุ่นสูงสุดคือ2.5 ไฮบริด เนวิเกเตอร์ ราคา 1.869 ล้านบาทซึ่งเป็นรุ่นที่โตโยต้านำมาจัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับกัน บนเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาะช้าง จังหวัดตราด

ถ้าเทียบกับคัมรีตัวปกติแล้ว รูปทรงภายนอกของรถทั้ง 2 รุ่นจะมีข้อแตกต่างกันอยู่หลายจุด อาทิ ตัวกระจังหน้าเป็นคนละแบบกัน และโลโก้ 3 ห่วงที่ด้านหน้าและด้านหลังของรุ่นไฮบริดใช้สีฟ้าเป็นสีพื้น โคมไฟหน้าเป็นแบบ ดูอัล-แอลอีดีรมดำ ปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มีไฟตัดหมอกที่มุมทั้ง 2 ข้างของช่องรับลมและใช้โคมรูปทรงสามเหลี่ยม ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายใหม่ 10 ก้าน พร้อมยางขนาด 215/55R17

พื้นที่ภายในห้องโดยสารของคัมรีใหม่กว้างขวางขึ้นตามขนาดของตัวถังที่ถูกขยายให้ใหญ่โตขึ้นกว่ารุ่นก่อน ส่วนการตกแต่งยังคงเน้นความหรูหรา โดยยังคงใช้สีเบจเป็นพื้นตัดกับลายไม้สีน้ำตาลดำเช่นเดิม แต่จุดที่ดูดีกว่าเดิมก็คือ คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีดำ เบาะคู่หน้ามีขนาดใหญ่นั่งสบาย ทำการปรับได้ง่ายด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัยปรับไฟฟ้าแบบ 4 ก้านจับถนัดมือ มีน้ำหนักเบาและตอบสนองได้แม่นยำดี
ทัศนวิสัยโดยรอบตัวรถมองเห็นได้ชัดเจนดี การจัดตำแหน่งของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ บนคอนโซลกลางอยู่ในระยะที่ใช้งานง่าย สำหรับห้องโดยสารตอนหลัง ส่วนพนักพิงสามารถปรับเอนลงได้ช่วยเพิ่มความสบายยิ่งขึ้นขณะเดินทางไกล และตรงที่วางแขนด้านหลังยังมีปุ่มสำหรับควบคุมเครื่องเสียงและอุณหภูมิแยกมาให้อีกด้วย เรื่องความเงียบภายในห้องโดยสารก็ทำได้ดีเยี่ยมเพราะแทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ทำงานเลย

ทางด้านสมรรถนะเมื่อเทียบกับคัมรี รุ่นธรรมดา เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแล้ว ช่วงออกตัวและการเร่งแซงในช่วงความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ทำได้ดีไม่หนีกันเท่าไร แต่ช่วงที่ใช้ความเร็วสูงกว่า 100 กม./ชม. ขึ้นไป รู้สึกได้เลยว่ายังเป็นรองรุ่นธรรมดาอยู่พอควร ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการใช้เกียร์ซีวีทีและมีระบบวาล์วแปรผันมาให้เฉพาะด้านไอดี เลยทำให้อัตราเร่งช่วงปลายไม่เร้าใจนัก แต่สิ่งที่จะได้กลับมาแทนก็คืออัตราการกินน้ำมันที่ประหยัดขึ้น เฉลี่ยประมาณ 14-15 กม./ลิตร

ส่วนระบบช่วงล่างเน้นไปทางนิ่มนวลแต่หนักแน่น ในช่วงทางตรงให้ความรู้สึกราวกับถูกดูดให้ติดอยู่กับพื้นถนนอย่างมั่นคง แต่ถ้าใช้ความเร็วมากเกินไป และขับในทางโค้งที่แคบหรือโค้งตัวเอส รถจะมีอาการท้ายโยนบ้าง ซึ่งคงเป็นผลมาจากช่วงล้อที่ยาวขึ้น แต่ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะคัมรี ไฮบริดมีระบบควบคุมการทรงตัว และระบบช่วยเบรกที่มีประสิทธิภาพ

สรุปโดยรวมแล้ว ถ้ามีงบน้อยหน่อย แต่ชอบรถที่ขับสนุก ๆ และต้องการอัตราเร่งช่วงปลายที่ไหลลื่น ควรเลือกคัมรี รุ่นธรรมดา เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร แต่ถ้าใช้ชีวิตในเมือง รักความไฮเทคและความประหยัด เลือกคัมรี ไฮบริดน่าจะโดนใจกว่า.

สมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์

ที่มา  เดลินิวส์