รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
อย่าให้กิเลสค้างแช่อยู่ในจิต

ในการปฏิบัติเพื่อการพ้นจากทุกข์นั้น มีคำสอนปฏิบัติที่ต่างกันในเรื่องที่ว่า เมื่อกิเลสเกิดขึ้นใจติตใจ แล้วไม่ต้องทำอะไร ให้ตามรู้ ตามดู เฉย ๆ แล้วกิเลสนั้นจะหยุดลงไปเองด้วยกฏแห่งไตรลักษณ์ อย่าเข้าไปแทรกแซงใด ๆ

และ ยังมีคำสอนที่เห็นต่างในเรื่องนี้ที่ว่า

ถ้ากิเลสเกิดขึ้นแล้ว กิเลสจะดับไปได้เองอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าผู้ปฏิบัติธรรมมีกำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่ตั้งมั่น แต่ถ้ากิเลสไม่ดับไปเองโดยเร็ว แต่กลับค้างอยู่อย่างนั้นไม่ยอมสลายไป ให้ใช้สมถะ เพื่อหยุดกิเลส นั้นทันที

ซึ่งเรื่องนี้ขอให้ท่านสาธุชนได้สอบเทียบกับพระไตรปิฏกดังต่อไปนี้ เพื่อให้ท่านใช้ปัญญาพิจารณาด้วยตนเอง

................................................
พระบรมศาสดาทรงเปล่งพระสุรเสียงดังเสียงพรหม ทรงเตือนภิกษุทั้งหลาย ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาภิกษุไม่ควรตรึกอกุศลวิตกทั้ง ๓ นี้ คือ กามวิตก ความตรึกในกาม พยาบาทวิตก ความตรึกในพยาบาท วิหิงสาวิตก ความตรึกในวิหิงสา ขึ้นชื่อว่า กิเลสเป็นเช่นกับปัจจามิตร และปัจจามิตรเล่าจะชื่อว่าเล็กน้อยไม่มีเลย ได้โอกาสแล้วย่อมทำให้ถึงความพินาศโดยส่วนเดียว
กิเลส แม้ถึงจะมีประมาณน้อย เกิดขึ้นแล้วได้โอกาสเพื่อจะเพิ่มพูน ย่อมยังความพินาศอย่างใหญ่หลวงให้เกิดขึ้นได้อย่างนั้นทีเดียว ขึ้นชื่อว่ากิเลสนี้ เปรียบด้วยยาพิษที่ร้ายแรง เป็นเช่นกับด้วยหัวฝีที่มีผิวหนังปอกไปแล้ว เทียบกันได้กับอสรพิษ คล้ายกับไฟที่เกิดจากอสนีบาต ไม่ควรเลยที่จะนิยมยินดี ควรจะกีดกันเสีย ด้วยพลังแห่งการพิจารณา ด้วยพลังแห่งภาวนา ในขณะที่เกิดทีเดียว ควรจะละเสีย ด้วยการที่กองกิเลสทั้งนั้น จะเลือนไปไม่ทันตั้งอยู่ในหทัย แม้เพียงครู่เดียว เหมือนหยาดน้ำกลิ้งตกไปจากใบบัว ฉันใดก็ฉันนั้น
แม้ถึงบัณฑิตในครั้งก่อนทั้งหลาย ก็ติเตียนกิเลสแม้มีประมาณน้อย ข่มมันเสียไม่ยอมให้เกิดขึ้นในภายในได้อีก ฉะนั้น ดังนี้แล้ว

...........
ท่านสามารถอ่านเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่
อรรถกถา สิคาลชาดก
ว่าด้วย สุนัขเข้าอยู่ในท้องช้าง
//84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=148





Create Date : 30 สิงหาคม 2552
Last Update : 30 สิงหาคม 2552 8:21:55 น. 0 comments
Counter : 950 Pageviews.

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.