Hokkaido ใบไม้เปลี่ยนสี #Trip พาแม่เที่ยว

Kokkaido ใบไม้เปลี่ยนสี #Trip พาแม่เที่ยว 19-24.10.61 จน. 6 วัน 4 คืน
Tripพาแม่เที่ยว เล็งไปที่ ญี่ปุ่น จบลงที่ ฮอกไกโด ไปดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นไกด์เดินเร็วมาก เลยเอา wheelchair แบบพับได้ ไปด้วย ใช้บริการ Thiafly.com ราคา 36,888 บาท อิสระ อาหาร 5 มื้อ ค่าทิปไกด์ 1,000 บาท อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน เงินไทย 30 บาท
ไกด์นัด 20.00 น. เดินทาง สายการบิน Air Asia X ที่ ดอนเมือง ออกเดินทาง 23.55 น. ถึง สนามบิน ชิโตเช่ เกาะฮอกไกโด เวลา 8.20 น. เวลาเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางเกือบ 7 ชั่วโมง

วันแรก 20.10.61 หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า(Asahiyama Zoo) อุทยานไดเซ็ตสึซัง น้ำตกกิงกะและน้ำตกริวเซ

อิสสระ มื้อกลางวัน ไกด์พาไป หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า ( Asahikawa Ramen Village ) ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่านี้มีร้านราเมง 8 ร้านมาอยู่รวสระมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว อากาศประมาณ 12-15 องศา อากาศเย็น ๆ

ถึงที่ร้านเกือบเที่ยงแล้ว แต่ละร้าน ต่อคิวยาว เดินวนไปจนร้านสุดท้าย ยังว่าง เลยรีบเข้าไป ณ บัดนาว แป๊บเดียวคิวยาวจ้า ราเม็ง อร่อยมาก ๆ รสชาติเข้มข้น ร้านอาหารที่ญี่ปุ่น มีน้ำเปล่าให้ทาน ไม่ต้องสั่งน้ำชา หรือ น้ำอัดลม ก็ได้ ราคาประมาณ 1,000-1,500 เยน อิ่ม อร่อย พร้อมเดินทางค่า

สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า(Asahiyama Zoo) ตั้งอยู่ในเมือง อะซาฮิกาว่า(Asahikawa) ไฮไลท์เด็ดของที่นี่นั่นก็คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งจะเป็นอุโมงค์ที่จะผ่านบริเวณสระว่ายน้ำของเจ้าฝูงเพนกวินทั้งหลาย ทำให้เราเหมือนได้เข้าไปใกล้ชิดกับเจ้าเพนกวินได้อย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ อีกส่วนหนึ่งที่ก็ดีงามไม่แพ้กันก็คือ “โดมแก้วขนาดเล็ก” ซึ่งจะตั้งอยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี สวย ๆ ให้เห็นแล้ว

เพนกวิ้น ออกมาให้ยลโฉม ยืนนิ่งมาก ตอนแรกนึกว่าหุ่น

แมวน้ำ ว่ายน้ำขึ้นลง เล่นกับเด็กน้อย น่ารักมากกกกกก

อุทยานไดเซ็ตสึซัง ฝั่งภูเขาคุโรดาเกะ (Kurodake)

กระเช้าคุโรดาเกะ ขึ้นชมวิววบนภูเขาคุโรดาเกะ ตั้งอยู่บริเวณ ชุมชนออนเซ็น ถือว่าเป็นจุดชมวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งของ โซอุนคียว กระเช้าขนาดใหญ่โดยสารคนได้ 101 คน ใช้เวลา 7 นาที ถึงจุดชม ระหว่างทางจะพบกับดอกไม้ป่าชนิดต่างๆ หินภูเขาไฟ ใบไม้ที่เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองส้มในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และเมื่อขึ้นถึงยอดก็จะสามารถชมวิวบริเวณรอบหุบเขาได้ 360 องศา

วิวถ่ายบนกระเช้า เริ่มเห็น ใบไม้ร่วงเกือบหมดเขา หิมะเริ่มตกบนเขาแล้ว

สถานี ขึ้นกระเช้า ด้านบนจะเป็นจุดชมวิว และมีของที่ระลึกขาย

จุดชมวิว 360 องศา

ตอนกลางคืน หิมะเริ่มตก บนเขา อากาศเย็น น่าจะไม่ถึง 10 องศา

น้ำตก Ryusei และน้ำตก Ginga น้ำตกสองสายที่ไหลจากบนภูเขาลงมาจากผาเป็นริ้วสวยงาม น้ำตกทั้งสองสายตั้งอยู่ห่างกันเพียง 300 เมตร สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย น้ำตก Ryusei ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น “น้ำตกแห่งดาวตก” เพราะสายน้ำเส้นใหญ่ไหลลงมาจากซอกผา เวลาถูกแสงอาทิตย์จะแลดูคล้ายดาวตก สายน้ำของน้ำตก Ryusei มีลักษณะไหลแรง ดูแข็งแรงจึงเทียบได้เป็นตัวแทนของเพศชาย เคียงคู่กับน้ำตก Ginga หรือ “น้ำตกแห่งแม่น้ำสีเงิน” ที่ในฤดูร้อนจะเห็นสายน้ำเป็นริ้วเล็กๆ ไขว้กันไปมา แลดูชดช้อย เป็นดั่งตัวแทนของผู้หญิง น้ำตกทั้งสองเส้นนี้ในฤดูหนาวจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง น่าชมไปอีกแบบ

อิสระ อาหารเย็น ไกด์พามา ห้างอิออน อยู่ใกล้ โรงแรม เดิน shopping(ไม่มีอะไรน่าสนใจ) และทานอาหาร ที่ food center อาหารอร่อย ราคาประมาณ 1,000 - 2500 เยน

วันที่สอง 21.10.61 บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond (Aoi-ike) คลองโอตารุ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี shopping ถนน ทานุกิโคจิ

บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond (Aoi-ike) ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ (Biei) ของจังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) เป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันโคลนถล่มบริเวณภูเขาไฟในแถวนั้น การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดกว่าบ่อน้ำทั่วไปๆ ก็เป็นเพราะอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมา ซึ่งคำว่า “Aoi-ike” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นแปลเป็นไทยได้ว่า “บ่อน้ำสีฟ้า”

ความเห็นส่วนตัว ประเทศไทย มีของดีมากมาย แต่ยังขาดการสนับสนุน ปรับแต่งหรือโปรโมท ให้เห็นคุณค่า แค่ สระมรกต กระบี่ ก็สวยงาม มากมายแล้ว

ช่วยกันลุ้น คุณแม่ สู้ สู้ ค่า

ทานอาหารกลางวันที่นี่ วิวสวย

ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area) เป็นแลนด์มาร์ก ถ้าไม่มาเหมือนมาไม่ถึงเมืองโอตารู โดยริมคลองแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอตารุ อดีตเป็นท่าเรือที่คึกคักในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เรือลำใหญ่จะถ่ายสินค้าลงเรือลำเล็กและลำเลียงไปตามคลอง ต่อมาเมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมาขึ้น ก็สามารถขนส่งสินค้าผ่านเรือลำใหญ่โดยตรงได้เลย เพิ่งจะมาช่วงปี ค.ศ.1980ที่บริเวณคลองแห่งนี้ได้รับการบูรณะให้สวยงามขึ้นจนน่าเที่ยวขนาดนี้ แถมโกดังริมคลองก็เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ช่วงกลางคืนนี่เรียกว่าเป็นไฮไลต์สำหรับการท่องเที่ยว

เดินจากคลอง Otaru เลี้ยวเข้าถนน Sakaimachi เดินตรงไปอีก 800 เมตรก็จะเห็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่มีนาฬิกาไอน้ำ ระหว่างทางมีของกิน ร้านซาริโอ คิตตี้

พิธภัณฑ์กล่องดนตรี ร้านนี้มีชื่อว่า Otaru Orgel Emporium ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1910 โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น

ด้านหน้าตึกพิธภัณฑ์กล่องดนตรี จะมี นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Stream Clock) สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนนาดา

นาฬิกาไอน้ำโบราณ กำลังพ่นไอน้ำ

เที่ยวญี่ปุ่นเดินเยอะ ใช้ wheelchair สดวกดี ไกด์เดินเร็วมาก ก็ต้องเข็นตาม ถ้าให้คุณแม่เดินเอง ช้าเดินไม่ทัน

ถนน ทานุกิโคจิ (tanukikoji) อยู่ใจกลางเมืองซับโปโร อยู่ไม่ไกลจากย่านกลางคืนซูซูกินโนะ ซึ่งแหล่งชอปปิ้งที่อยู่ภายใต้หลังคาคลุมยาวระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ถูกแบ่งเป็น 7 บล็อค สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายสินค้ามากมายกว่า 100 ร้าน ทั้งร้านขนม อาหาร ยา เสื้อผ้า รองเท้า ABC Mart หรือแม้แต่ร้านDon Quijote โอยย สารพัดร้านค้าในย่านนี้

อิสระอาหารเย็น ไกด์พาเดินมาที่ ถนนทานุกิโคจะ อยู่ใกล้โรงงแรม รออาราย หลังทางข้าวเสร็จ ก็ shopping กันสนุกสนาน พักโรงงแรมนี้ 3 คืนเดินมาทุกวัน อย่าลืมใช้สิทธิ Tax ด้วย ให้ดูร้านค้าที่ Tax free ซื้อสินค้า 5,000 เยน แจ้งที่ร้านพร้อมยื่น passport ก็จะไม่เสีย Tax สินค้าที่ญี่ปุ่น ที่แจ้งไว้ ไม่รวม Tax นะ

วันที่สาม 22.10.61 ตลาดปลานิโจ ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ

"ตลาดนิโจ (Nijo Fish Market)" อยู่ในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด เป็นตลาดสดที่คึกคักไปด้วยผู้คนแทบทุกวัน เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศไปเยือนเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่านอกจากร้านขายอาหารทะเลสด และร้านขายผักผลไม้ ยังมีร้านขายของฝาก ร้านอาหารต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของตลาดนิโจ ที่สามารถเพลิดเพลินกับหลายสิ่งหลายอย่างได้

ตลาดเล็ก ๆ แต่สะอาดไม่ค่อยมีกลิ่นคาว มีเขียนภาษาไทย กำกับด้วย

เดินจากตลาดปลามาไม่ไกล จะเห็น หอคอยซัปโปโรทีวีทาวน์เวอร์ (Sapporo TV Tower)

หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองซัปโปโร ตั้งอยู่ในย่านโอโดริ (Odori) ในเขตของวิทยาลัยเกษตรซัปโปโร (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยซัปโปโร) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1878 (ปีเมจิที่ 11) ใช้เวลาสร้าง 3 ปีจึงแล้วเสร็จ โดยตัวนาฬิกานั้น นำเข้าโดยการสั่งซื้อมาจากเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ในปัจจุบันนอกจากจะเป็นแลนด์มาร์คของซัปโปโรแล้ว ยังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมือง ชั้น 1 จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติการก่อร่างสร้างเมืองซัปโปโร มีแบบจำลองต่างๆ ให้ชม ส่วนชั้นที่ 2 แสดงเกี่ยวกับกลไกของนาฬิกา และห้องโถงสำหรับไว้ใช้จัดงานต่างๆ

ที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building) สถานที่ทางราชการที่สำคัญในยุคสมัยก่อนที่ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร(Sapporo) นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้นเชียวนะคะ ซึ่งเมื่อก่อนเค้าจะนิยมสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โตขนาดนี้กันที่นี่เลยจะโดดเด่นมาแต่ไหนแต่ไร สิ่งหนึ่งที่ทำให้อาคารมีเอกลักษณ์เฉพาะก็จากการที่มีสไตล์การสร้างแนวอิฐแดงดูแล้วจะอาร์ทๆให้ความรู้สึกไม่เป็นทางการมากเกิน รูปแบบด้านนอกอาจจะเน้นผสมผสานตะวันตกอยู่มากทีเดียวค่ะ โดยที่นี่นั้นถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1888 ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย

โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ(Shiroi Koibito Park)ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร(Sapporo) เป็นโรงงานของบริษัท Ishiya บริษัทช็อกโกแลตของท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของบริษัท คือ คุ้กกี้ Shiroi Koibio คุ้กกี้เนยสอดไส้ช็อกโกแลตขาวที่กินไปทีแทบละลายกับความอร่อย ยิ่งช่วงฤดูหนาวจะยิ่งสวยมากกว่าปกติหลายเท่า เพราะในช่วงหน้าหนาวนั้นที่โรงงานแห่งนี้จะมีการเปิดไฟ Illumination ด้วยตึกเป็นอาคารสไตล์ยุโรปจึงทำให้บรรยากาศนั้นเหมือนหลุดไปเดินอยู่ในเมืองโรแมนติคของยุโรปเลยก็ว่าได้

โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ ภายในบริเวณสวนสนุกประกอบด้วย ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์โรงงานช็อกโกแลตพร้อมจำหน่ายช็อกโกแลตหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญแค่ช็อปเฉยๆนี่ไม่ใช่แน่ๆเนื่องจากผู้เข้าชมสามารถสังเกตกระบวนการผลิตคุ้กกี้ได้ในระยะใกล้ๆ แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆให้เราได้เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช้อปทำคุ้กกี้ด้วยตนเองอีกด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีสนาม Shiroi Koibito Park สนามฟุตบอลที่เคยเป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลท้องถิ่น J-League อีกด้วย

ด้านในมีสาธิต ปั้นน้ำตาลรูปหอยทาก คนมุงดูเยอะมาก แบบว่าแถวตลาดนัดบ้านเราปั้นสวยงามกว่ามาก อุปกรณ์ ก็ไม่อลังการณ์ขนาดนี้

วันที่สี่ 23.10.61 หุบเขานรกจิโงคุดานิ ฟาร์มหมีโชวะชินซัง ภูเขาโชวะ ทะเลสาบโทยะ สวนฟูกิดาชิ

หุบเขานรกจิโงคุดานิ(Jigokudani noboribetsu ) หรือมีอีกชื่อหนึ่งที่เป็นฉายาที่ได้รับการขนานนามว่า “Hell Valley”ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ(Noboribetsu Hot Springs) ภายในจังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) เรียกได้ว่าเป็นหุบเขาที่มีความงดงามอันเลื่องชื่อเลยนะคะ อีกทั้ง น้ร้อนในลำธารของหุบเขาแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งก็เป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึนั่นเองล่ะค่ะ โดยคนที่ชื่นชอบการผจญภัยแบบเบาๆน่าจะชอบที่นี่ไม่น้อย เพราะจะมีเส้นทางตามหุบเขาสามารถเดินไต่ขึ้นเนินไปเรื่อยๆประมาณ 20-30 นาที วิ่งแรกที่จะเห็นก็จะเป็นบ่อโอยุนุมะ(Oyunuma) ซึ่งบ่อนี้เป็นเป็นบ่อน้ำร้อนกำมะถัน อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส พอยิ่งขึ้นไปสิ่งที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนก็ตรงที่จะมีบ่อน้ำร้อนให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆตลอดทาง ก็จะเป็นบ่อเล็กๆ บางบ่อมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่า และยังมีบ่อโคลนอีกด้วย น้ำที่ไหลออกจากบ่อโอยุนุมะ เป็นลำธารเรียกว่า “โอยุนุมะกาว่า(Oyunumagawa)” ซึ่งไหลผ่านป่านเป็นแม่น้ำหลายร้อยเมตร จุดนี้เองเราสามารถนั่งเพลินพร้อมแช่เท้าท่ามกลางทัศนียภาพกันงดงามตระการตาของธรรมชาติที่แน่นมากๆ ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีประมาณกลางเดือนตุลาคนของทุกปี

สวยงามมาก ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งหุบเขา

มาถึง บ่อ กลิ่นกำมะถัน รุนแรงมาก

สวนหมีประจำ ฮอกไกโด รู้จักกันในชื่อ สวนหมีโชวะชินซัง Showashinzan Kuma Bokujo 昭和新山熊牧場 ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟโชวะชินซัน Showa-Shinzan Bear Park ใกล้กับสถานีกระเช้า Usuzan Ropeway เป็นสถานีที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล เปิดตั้งแต่ปี 1958 เพื่อศึกษาและสังเกตการใช้ชีวิตของสัตว์ป่าในฮอกไกโด คุณจะพบหมีประมาน 100 ตัว ที่ใกล้สูญพันธุ์และหาดูได้ยากในญี่ปุ่นจะพบเฉพาะบนเกาะ ฮอกไกโด เท่านั้น

ตู้หยอดซื้อคุกกี้ ถุงละ 200 เยน หมดไปหลายตัง เพราะความน่ารักของเจ้าหมี

น้องหมี ยืนไหว้ขอของเกินตลอด ก็โยนขนมไปซิค้า รออาราย 555

ทานูกิ หรือ จิ้งจอกแรคคูนญี่ปุ่น ไกด์แนะนำ ให้ซื้อ ครีมน้ำมันม้าที่นี่ หมดไปหลาย ใช้ดีเหมือนกัน ราคาไม่แพง

ทะเลสาบโทยะ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองโทยะ เเละเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ เเละเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยมันเป็นทะเลสาบรูปวงกลมที่มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร โดยเกิดจากการเป็นปากปล่องภูเขาไฟดั้งเดิม เเละตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบชิโกสึมากนัก ทำให้กลายมาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างมากอีกเเห่งของเมืองโทยะ เเละฮอกไกโด

บริเวณตีนภูเขาYotei จะมีสวนชื่อว่า สวนฟูกิดาชิ Fukidashi เป็นสวนที่ผู้คนทุกวัยต่างชื่นชอบกันมาก สำหรับน้ำในบ่อน้ำพุแห่งนี้มีรสชาติอร่อย ด้วยความอร่อยนี้เองจึงทำให้ได้รับเลือกจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น ให้เป็น 1 ใน 100 น้ำบริสุทธิ์ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น บ่อน้ำพุแห่งนี้มีแหล่งกำเนิดมาจากน้ำฝนและหิมะละลายไหลลงมาอยู่บนภูเขาYotei มาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุจากธรรมชาติอย่างแท้จริง อุณหภูมิปกติจะอยู่ประมาณ 6 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี น้ำเหล่านี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน จากธรรมชาติแท้ๆ เปิดให้ชิมฟรี คนส่วนใหญ่จึงสามารถนำมันกลับไปได้ด้วย รวมทั้งร้านอาหารต่างๆ จะมาขนน้ำของที่นี้กลับไปทำเป็นน้ำซุปเดือนล่ะครั้ง เขาทำรางน้ำต่อยาวมาเป็นทอดๆ พร้อมทั้งมีแก้วแขวนไว้ให้ ตักดื่มกินได้อย่างสะดวก

Buffet ชาบู ขาปูยักษ์ หรือ ปูทาราบะ ราคาแสนแพง สั่งไม่อั้น เสร็จคนมหาชัย แกะขาปูสบาย ๆ น้องที่นั่งข้าง ๆ บอก แกะ ให้หนูหน่อย แกะปูไม่เป็น buffet มีอาหารให้สั่งหลายอย่าง แต่เราเน้นปู สั่งจนตอนหลังทำเป็นไม่ได้ยินเฉยเลย ไกด์เอาน้ำจิ้มมาให้ด้วย ยิ่งอร่อย รสชาติอร่อยกว่า ปูอลาสก้าเยอะ

กลับโรงแรม ก็ออกมา shopping กันต่อ ละลายเงินเยนให้หมด ก่อนกลับบ้านพรุ่งนี้เช้า รอบนี้เซ็งโรงแรมมาก ไม่มีแอร์ แล้วก็เปิดหน้าต่างไม่ได้(เค้ากลัวคนกระโดดตึก) มีแต่เครื่องฟอกอากาศ อากาศข้างนอกเย็น ๆ แต่พอปิดหน้าต่างเลยร้อน

Create Date : 18 สิงหาคม 2562
Last Update : 23 สิงหาคม 2562 10:37:13 น.
Counter : 1863 Pageviews.

0 comments