ชะโงกทัวร์ ยุโรป 9 วัน
Memory ชะโงกทัวร์ ยุโรป 9 วัน วันที่ 26 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 53



ลั้ลลา………. ถึงวันเดินทาง แล้ว //www.tourguru.co.th ไกด์ประจำของเรา ชื่อคุณใหญ่  ราคา 65,900 บาท เดินทางโดย อียิปแอร์ ก่อนไปได้ยินกิติศัพท์เกี่ยวกับกลิ่นไม่พึงประสงค์มาเยอะ พอไปก็ไม่เห็นมีอะไร ทั้งลำมีแต่คนไทย กะคนเอเชียอ่ะ แต่ขากลับนี่ซิ Oh! God กลิ่นเหม็นเครื่องเทศ แปลก ๆ มาเลย แต่เราโชคดีได้นั่งกับคนไทยที่เดินทางไปทำงานที่อียิป อิอิ เครื่องออกเกือบตีหนึ่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง เวลาที่อียิป และยุโรป ช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง

วันที่สอง ถึงกรุงไคโร ตอน 6 โมงเช้า เดินทางไปเมืองกิซ่า ไปหมู่มหาปิรามิด มี 3 องค์ เป็นสุสานของฟาโรห์ คีออปส์ (ตรงกลางใหญ่สุด) ฟาโรห์เคฟเรน และฟาโรห์ไมเครานุส และสฟิงค์ แห่งเมืองกีซ่า ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมวิวทะเลทรายโดยนั่งอูฐ ก็แปลกดีนะ แต่กลิ่นบนทราย อืม ใช้ได้เลย คุณอูฐท่านได้ปล่อยเอาไว้


ชมสฟิงค์ เฝ้าปิรามิด ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวและคนขายของเยอะมาก ระวังกระเป๋าสตางค์ด้วยเด้อ หลังจากนั้นก็ เดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์ ข้างใน เค้าไม่ให้ถ่ายรูปนะ แต่อลังการจริง ๆ wow ได้เห็นหน้ากาก ทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมนของจริงแล้ว

ถึงเวลา Shopping ตลาดข่านอัลคาลิลี่แกรนด์บาซ่าร์ ส่วนใหญ่ก็ซื้อภาพวาดกระดาษปาปิรุส ของที่ระลึกเกี่ยวกับฟาโรห์ เสื้อผ้าแขกเหมือนพาหุรัด ต่อราคาประมาณ 50 % บางร้านก็พูดภาษาไทยได้



หลังจากนั้น ทานอาหารเย็น ล่องเรือชมแม่น้ำไนล์ ชมระบำหน้าท้อง รสชาติอาหารแต่ละมื้อ ทำใจหน่อยละกัน ดึก ๆ ก็นั่งคำนับกันและกัน(สัปหงกนะ) สงสารแต่นักร้อง คงเสีย Self น่าดู


วันที่สาม นั่งเครื่องต่อไป 3 ชั่วโมง ไปกรุงโรม อิตาลี ถึงประมาณ 10 โมงเช้า เวลายุโรปเท่ากับอียิปน่ะ เข้าชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ที่กรุงวาติกัน คนเยอะมาก ช่วงนี้เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ อากาศประมาณ 8 – 15 องศา


อีกมุมนึง ของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ตรงกลางลานเป็นเสาโอบีลิสก์ที่นำมาจากอียิปต์ วันที่ไปเหมือนจะมีงานเก้าอี้เต็มไปหมดเลย


ชมมหาวิหาร เดินเข้าไปแล้วเลี้ยวขวา จะพบรูปปั้นหินอ่อน ปิเอต้า ของไมเคิล แองเจิลโร่ สร้างตอนอายุ 24 ปี เป็นรูปที่พระแม่มารีประคองพระเยซูหลังจากปลดลงจากไม้กางเขน


โดมด้านบน จะมีแสงแดด ส่องลงมาสวยดี


อีกรุปนึง


นั่งรถไปอีกนิดนึง ก็ถึง สนามกีฬาโคลีเซียม


อีกมุมนึง ของสนามกีฬาโคลีเซียม แต่ชะโงกทัวร์ ก็เลยถ่ายรูปเ ฉพาะด้านนอก ไม่ได้เข้าไปด้านใน


น้ำพุเทรวี่ โยนเหรียญเสี่ยงทายเพื่อให้ได้เดินทางกลับมาที่กรุงโรมอีก ใช้เหรียญบาทแทนเงินยูโร(ก็มันแพงอะ) ไม่รู้ว่าจะขลังมั้ยเนี่ย


อย่าลืม กินไอศครีมเจลลาโต้ ไม่งั้นก็มาไม่ถึงนะ ร้านนี้อยู่ใกล้ ๆ น้ำพุเทรวี่


แล้วก็ วิ่ง ๆ ตามไกด์ ไป บันไดสเปน เหมือนแถวสยาม แหล่งนัดพบของวัยรุ่น พอดีเป็นวันอาทิตย์ ร้านเบรนด์เนม ชื่อดัง ของกรุงโรมปิดหมดเลย เลยไม่ได้ละลายทรัพย์



วันที่สี่ เดินทางไปหอเอนปิซ่า เป็นหอระฆังของศาสนาคริส มี 8 ชั้น ไกด์ปล่อยให้ชื่นชม
ได้ตามสบาย ก็เลย Act กันอย่างสนุกสนาน


เจ๊ อย่าให้ล้มนะ ยัน ๆ เอาไว้


ร้านขายของที่ด้านหน้า ทางเข้าหอเอนปิซ่า เจ้าของร้านน่ารักมาก ไม่ซื้อก็ไม่ว่า


วันที่ห้า เดินทางไปเวนิส ที่ท่าเรือข้ามฝั่งไป จตุรัสเซนต์มาร์ค เสาจะถูกประดับไว้ด้วย หมากฝรั่ง ยี้ (ขนาดสูง ๆ ยังอุตสาห์แปะไว้ได้เล้ย) ก็เก๋ไปอีกแบบนะ


เราไป จัตุรัสเซนต์มาร์คกัน เย้


เกือบถึงแล้ว จัตุรัสเซนต์มาร์ค เป็นชุมชนใหญ่ของเวนิช


อีกรูปนึง


สะพานทอดถอดใจ เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างศาลและคุกหลวง(นักโทษเดินข้ามสะพานจะต้องถอนหายใจ)


ชมโรงงานทำเครื่องแก้วมูราโน ดูเค้าสาธิตการทำเครื่องแก้ว แล้วก็แอบไปเข้าห้องน้ำ ฟรี อิอิ ก็ค่าเข้าห้องน้ำ ราคาตั้ง 1-2 ยูโร เนียนกันทั้งกลุ่มเลย


ล่องเรือกอนโดล่า แม่น้ำก็มีกลิ่นนิด ๆ ก็คาดไว้ว่าคนพายน่าจะร้องเพลงให้ฟัง แต่จริง ๆ คนพายเค้าตะโกนคุยกันตลอดทางเลย พวกเราก็เลยคุยกันเองมั่งจะได้ไม่น้อยหน้า 555




พายเรือผ่านตึกกลางแม่น้ำ คดเคี้ยว ตลอดทาง ได้ข่าวว่าน้ำเริ่มท่วมเวนิชแล้ว ถ้ามีโอกาสก็น่าจะมาเที่ยวกันก่อนนะ


สนใจมั้ยคะ หน้ากากคาร์นิวัล แต่ของที่ระลึกที่เกาะจะแพง แถมยังไม่ง้ออีก พอซื้อเสร็จ go go ไล่เลย น่าเกลียดมาก อยากจะเอาของขว้างกลับไปแล้ว(แต่เสียดายอ่ะ)ถ้ามีเวลาไปซื้อที่ฝั่ง จะถูกกว่า ราคาสามารถต่อรองกันได้


จัตุรัสเซนต์มาร์ค


ก่อนจากลาเวนิช เรามาจิบกาแฟ ฟังเพลง กลางจัตุรัสเซนต์มาร์ค กันดีกว่า (เค้าคิดค่าฟังเพลงด้วยนะ)


ระหว่างเดินทางจากเวนิช ไปสวิสเซอร์แลนด์ ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง หิมะตก กรี๊ดกันทั้งรถเลย พอจอดรถให้เข้าห้องน้ำ ที่ super market ทุกคนวิ่งมาถ่ายรูป หิมะเหมือนกับเกล็ดน้ำแข็งใส เป็นเพราะว่าพอขับรถเลยไปหน่อย ฝนตกน่ะ


วันที่หก สวิสเซอร์แลนด์ มาดูทะเลสาบ Luzern ที่นี่เราเดินเที่ยวจากโรงแรม ไม่ไกล รถจะมารับสุดทางแถวแหล่ง Shopping


สะพานไม้คาเบลบรุค มุมฮิต


อนุสาวรีย์สิงโต หลังจากนี้ก็เป็นอิสสระ Shopping ได้เลย ร้านส่วนใหญ่จะมีพนักงานสามารถพูดไทยได้ ช็อคโกแลต ที่สวิส รสชาติอร่อยกว่าที่อิตาลี สามารถซื้อในห้างได้เลย ราคาถูกกว่าร้านข้างล่าง ส่วนเราทยอยซื้อช็อคแลต มาตั้งแต่อิตาลีแล้ว (แวะ ปั้มน้ำมัน ซื้อ 1 แถม 1 อันนี้กวาด มาตรึม)


ที่นี่รถส่วนใหญ่จะคันเล็ก ๆ ไปด้วยคนดิ


เดินทางไปเมืองแองเกิลเบิร์ก ขึ้นยอดขาทิสลิส สูง 3020 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หิมะขาวโพลน เต็มไปหมด


ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าหมุนรอบตัวเอง ชมทัศนียภาพ เทือกเขาแอลป์ 360 องศา มีภาษาไทยด้วยละ


เย้ ! คราวนี้เจอหิมะสีขาวแล้ว หนาวของจริงเลย น่าจะติดลบ 2-3 องศา แต่ทุกคนอุปกรณ์กันหนาวครบชุด เลยไม่ค่อยรู้สึกหนาว 1 2 3 กระโดด แหมแต่กระโดดกันไม่ค่อยขึ้นเลย น่าจะน้ำหนักเกิน อิอิ


สวัสดีจ้า อยู่กลางหิมะนาน ๆ มันก็หนาวเลยไปนั่งกิน ไอศครีม แก้หนาวซะเลย


ถึงเวลาอำลาเทือกเขาทิสลิสกันแล้ว ภาพนี้ถ่ายจากบนกระเช้า


เดินทางจากสวิส ไปปารีส ฝรั่งเศส ใช้เวลา 5 ชั่วโมง


วันที่เจ็ด เดินทางไปปารีส แวะพักผ่อนที่ปั้มน้ำมัน ก็ style ไทยแลนด์ shopping ได้ทุกที่




ตามเรามา พระราชวังแวร์ซายน์ ได้คิวเข้าชม บ่าย 2 มีไกด์คนไทยบรรยายข้างในพระราชวังด้วย(เค้าบังคับน่ะ)


สวนที่พระราชวังแวร์ซายน์ อยุ่ด้านหลังพระราชวัง


ด้านในพระราชวังแวร์ซายน์ หรูหรา อลังการ สร้างในยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่วนหลุยส์ที่ 15 เสวยสุข และหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารีอังตัวเนต ต้องรับเคราะห์ จากที่ใช้จ่ายกันฟุ่มเฟือยจนประเทศไม่มีเงิน




เตียงนอนสั้น ๆ ไม่ใช่ตัวเตี้ยนะ แต่เป็นเพราะไม่ได้นอนราบ แต่เป็นลักษณะครึ่งนั่งครึ่งนอน(ไกด์บอก)


หลังจาก Shopping duty free –Benlux เรื่องขอคืนภาษี ทางร้านจะหักให้เลยแต่ส่วนภาษีจะต้อง รูดบัตรเครดิตค้ำประกันไว้ เมื่อถึงสนามบินให้นำเอกสารขอคืนภาษีที่ศุลกากร แล้วส่งตู้ไปรษณีย์ ถ้าไม่ดำเนินการศุลการกร ที่รูดบัตรเครดิตค้ำประกันก็จะถูกเรียกเก็บ ข้ามฝั่งมาจะพบกับ ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟ รถจอดที่นั่น ก็วิ่ง ๆ อีก เพื่อจะเดินทางไปนั่งเรือบาโตมุช ชมวิว


จัตุรัสคองคอร์ต ที่ตั้งเสาหิน โอเบลิส ซึ่งนำมาจากวิหารลุกซอร์ในอียิป


ล่องเรือบาโตมุช ชมความงามบนแม่น้ำแซนด์ ตอนนี้เป็นเวลา ทุ่มกว่า แต่ยังสว่างอยู่เลย โชคดีจริง ๆ ฟ้าสวยมากแถมไม่ร้อนอีกต่างหาก




หอไอเฟล


วันที่แปด ก็ถึงวันกลับบ้านแล้วซิเรา เช้านี้ฝนตกปรอย ปรอย แต่คนขับก็สามารถหาที่จอดรถใกล้ ๆ ประตูชัย ให้พวกเราได้ถ่ายรูป




วันนี้ก็ได้สัมผัสกับ เสาโอบิลิส จริง ๆ ที่ จัตุรัสคองคอร์ต เมื่อวานได้แต่ชะโงกดู


สัมผัส หอไอเฟล ใกล้ ๆ แต่ฝนเพิ่งหยุดตก ก็เลยได้อีกบรรยากาศนึง จากเมื่อวานที่ถ่ายรูปหอไอเฟล จากบนเรือ




และแล้วก็ถึงแวลา ละลายทรัพย์ กะห้างดัง แกลเลอร์รี่ ราฟาแยส การขอคืนภาษีที่นี่ ต้องเผื่อเวลา ไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงกว่า คือทำเรื่อง Refund และขอคืนเป็นเงินสดได้ที่นี่ พอถึงสนามบินก็ทำเรื่อง Refund กับศุลกากร อีกครั้งนึง และนำเอกสารหยอดตู้ไปรษณีย์ ได้เลย ถ้าสินค้ามีราคาแพงต้องเตรียมของไว้ให้เค้าดูด้วยนะ




อำลา ปารีส กับ สามเสือสาว



Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
Last Update : 11 มกราคม 2558 23:27:58 น.
Counter : 7526 Pageviews.

5 comments
  
แหม นึกว่าทริปเดียวกันนะคะเนี่ย
โดย: apple.007 วันที่: 8 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:05:03 น.
  
โชคดีเรื่องกลิ่นคะ อาจเพราะเดินทางเป็นกลุ่ม แต่เราเคยใช้บริการสายการบินแขก โอ.. นรกลอยมาเลยคะ ชอบรูปที่มีอูฐสองตัว สวยมากมาย
โดย: marzo วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:55:30 น.
  
เริ่มต้นที่อิยิปต์ ไหนมาจบที่โคลอสเซียมล่ะนี่ อิอิ ตามเที่ยวจนเพลิน
โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:18:58 น.
  
รอชม สวิส กะฝรั่งเศสนะคะ
โดย: apple.007 วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:29:29 น.
  
ดูรูปเพลินเลยละคะ แต่ละที่สวย ๆ ทั้งนั้น
โดย: mariabamboo วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:15:53 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Meanangtatalim
Location :
สมุทรสาคร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



บันทึกการเดินทางจาก ตะลอนทัวร์ไปเรื่อย
กรกฏาคม 2553

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog