10 วัน 7 คืน วันที่ 13 มิถนายน ถึง 22 มิถุนายน 2561

วันที่หก 18 มิถุนายน 2561 วอส – ล่องเรือชมความงามของซองฟยอร์ด–เมืองกอล

นอนที่นี่ สกีรีสอร์ท สวยมากมาย ยังมีหิมะเหลืออยู่นิดหน่อย เมื่อคืนเจอ กุ๊กกู๋ ด้วย บรื๋อ อากาศประมาณ 18-22 องศา 

เมืองกุดวานเก้น (Gudvangenล่องเรือชมความงามของซองฟยอร์ด(SOGNE FJORD) ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์มี ความยาวถึง 204 กิโลเมตร จากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน โดยเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะ แผ่นดินของธารน้ำแข็งเมื่อหลายล้านปีก่อน

ซองน์ฟยอร์ด (Sognefjord) เป็นฟยอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์และยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก สกอร์เรสบี้ ซุนด์ (ScoresbySund)

ล่องเรือในซองน์ ฟยอร์ด (Sogne Fjord) ที่ได้ชือว่าเป็น King ofFjord และนับได้ว่าเป็นฟยอร์ดที่ลึกเข้ามาในแผ่นดินมากทีสุด

ระหว่าง ล่องเรือจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันแปลกตาและสวยงามอย่างไม่รู้เบื่อ ชายฝั่งนอร์เวย์มีความเว้าแหว่งมากกว่าที่อื่นในโลก 

และเป็นประเทศที่บัญญัติศัพท์ คำว่า “ฟยอร์ด” ขึ้นมาอีกด้วยจากนั้นเรือจะเทียบท่าที่เมือง ฟลัม FLAM ดินแดนแห่งเขตชายฝั่งทะเลแบบฟยอร์ดของนอรเวย์ซึ่งเป็นลักษณะของการเกิดการกัดเซาะของน้้าแข็งเมื่อครั้งที่บริเวณชายฝั่งทะเล เหล่านั้นยังเป็นน้้าแข็งอยู่เกิดการละลาย และกระเทาะจนมีลักษณะเว้าแหว่งเข้ามาในแผ่นดินเป็นธรรมชาติที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก

อากาศดี วิวสวยมาก เหมือน wallpaper เลย  ระหว่างล่องเรือมีฝนตกบ้างนิดหน่อย 

แก๊งเราเริ่ดมาก สามารถสั่งธงให้กางได้ด้วยละ  555

เบื้องหลัง คนจีนที่อยู่ด้านล่างเค้าดึงธงให้กางเพื่อถ่ายรูป แต่พวกเราอยู่ด้านบน ได้รับอนิสงค์ไปด้วย อย่างฮา 

ทานข้าวกลางวัน ที่นี่ วิวสวยมาก ๆ 

แวะให้เข้าห้องน้ำและเป็นจุดชมวิว   น้ำใส สีเขียว สวยมาก

ระหว่างทาง ก็ถ่ายรูปบนรถ  หิมะยังละลายไม่หมด แม่น้ำไม่สามารถเล่นได้ อุณหภูมิ ติดลบ

วันที่เจ็ด 19 มิถุนายน 2561 เมืองกอล –กรุงออสโล – พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งโบราณ-ล่องเรือDFDS

 “พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง”(The Viking Ship Museum) สถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของหนึ่งในพาหนะชิ้นสำคัญที่สุดของโลกอย่างเรือไวกิ้งและพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะไม่ยิ่งใหญ่ระดับโลกเลยหากไม่มีการจัดแสดงเรือไวกิ้งโบราณ3 ลำอายุพันกว่าปีที่เคยจมอยู่ใต้ดินรอบๆออสโลฟยอร์ดและมีการขุดพบในปี 1867 หรือเมื่อ 150 ปีก่อน สันนิษฐานว่าเรือไวกิ้งที่ขุดค้นพบนี้สร้างขึ้นช่วงคริสต์ศตวรรษที่9 โดยยังอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์มีเพียงบางลำเท่านั้นที่แตกหักไปบ้างจากเรี่ยวแรงของรถแทรกเตอร์ที่เข้าไปบุกเบิกพื้นที่บริเวณที่เรือถูกฝังอยู่และพบเรือเข้าโดยบังเอิญก่อนจะมีการเริ่มต้นขุดค้นอย่างเป็นทางการ

สำหรับชาวไวกิ้งแล้วเรือเหล่านี้คือพาหนะแห่งชีวิตที่พวกเขาใช้เป็นทั้งพาหนะออกค้าขายทำมาหากินเป็นที่อยู่อาศัย สำรวจดินแดนใหม่กระทั่งถึงออกรบ ดังนั้นเมื่อเราได้เข้าชมเรือไวกิ้งโบราณจึงให้ความรู้สึกถึงความกล้าหาญและยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในอดีตสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ลำแรกมีชื่อว่า “The Oseberg Ship” เรือที่สร้างด้วยไม้โอ๊กและมีขนาดความยาวถึง22 เมตร มีส่วนกว้างของลำเรือ 5 เมตรสันนิษฐานว่าจะสร้างในปี 820 ขนาดลำเรือใหญ่ขนาดต้องใช้ฝีพายประมาณ30 คน แต่ที่ทำให้ทีมผู้ขุดค้นเรือฮือฮากันมากคือการพบร่างหญิงสาวสองร่างบนเรือที่ทำให้นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเรืออาจเคยถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีศพของชาวไวกิ้งมาก่อน

ฉายประวัติไวกิ้ง ฉายเป็นรอบ ๆ 

เดินเล่น เมืองออสโล นอร์เวย์ ระหว่างรอก่อนนั่งรถไปขึี้นเรือสำราญ DFDS   (Crown Seaways) 

นั่งเรือสำราญ DFDS จากเมืองออสโล นอร์เวย์ ไปยังเมืองโคเปญเฮเกน เดนมาร์ค 

รอขึ้นเรือสำราญ

เครื่องจำหน่ายตั๋ว

แผนผังบนเรือ มี 12 ชั้น ชั้น 7 ขายของปลอดภาษี พวกน้ำหอมเครื่องสำอางค์ บางอย่างลดราคา ถูกมาก ๆ ว่าง ๆ ก็เข้าไป shopping กัน

ห้องพัก มีห้องน้ำในตัว เปิดเข้ามาจะเห็นโซฟา และเตียงนอน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

แต่ถ้าจะนอน ให้พับโซฟาลงจะเป็นเตียง ทั้งสองด้านและด้านบนสามารถดึงเป็นเตียงได้ รวมแล้ว มี 4 เตียง

พวกเราพักกัน 2 คนต่อห้อง sea view ถ้ามากกว่านี้คนที่นอนด้านบน คงเมาเรือแน่นอน ขนาดนอน 2 คน ตอนกลางคืน เรือโคลงมาก คลื่นลมแรง เดินยังเซ ต้องกินยาแก้เมาก่อนนอน 

Dinner บนเรือสำราญ ดูดีจัง  บุฟเฟ่ต์ อาหาร สไตล์ สแกนดิเนเวียร์   

อาหารสไตล์ สแกนดิเนเวียร์  เป็นพวกอาหารทะเล ได้น้ำจิ้มซีฟู้ด จากไกด์ พอใช้ได้   รวม  ๆ ไม่ค่อยถูกปาก 

ขี้นดาดฟ้า มาชมวิว และถ่ายรูป

ฟ้าสีสวย ลมแรงมาก หนาว โชคดียังมีแดด

วันที่ 8 20 มิถุนายน 2561

โคเปนเฮเกน –ลิตเติ้ลเมอร์เมด– น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน -พระราชวังอมาเลียเบอร์ก - shopping

หลังอาหารเช้า ก็เดินสำรวจเรือไปเรื่อย เพื่อรอขึ้นฝั่งโคเปนเฮเกน เดนมาร์ค  10.30 โมงเช้า

ตอนเช้าบนดาดฟ้า ขอบอก ลมแรง หนาวมาก

Bubble Zone ถ้าจะเข้าเสียตังส์เอง  

โซนเด็ก ๆ  รีบลดอายุกันทันที

ถึงฝั่งแล้วไปเที่ยว โคเปญเฮเกน Copenhagen เดนมาร์คกันต่อ

รูปปั้นนางเงือกน้อย The Little Mermaid ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือริมอ่าวโคเปนเฮเกนประเทศเดนมาร์กค่ะ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อวันที่ 23สิงหาคม พ.ศ. 2456 โดย คาร์ล จาค็อบเซนบุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์ก ได้มีความประทับใจจากการดูบัลเล่ต์เรื่อง The Little Mermaid ผลงานของ ฮันส์ คริสเตียนแอนเดอร์เซน เป็นอย่างมาก จึงว่าจ้างศิลปินชาวเดนมาร์กชื่อ เอ็ดวาร์ด อีริกเซนมาปั้นรูปเงือกน้อยนี้ โดยนำแบบใบหน้ามาจากนักเต้นบัลเลต์ชื่อ เอลเลน ไพรซ์ส่วนร่างกายที่เป็นหญิงเปลือยนำแบบมาจากภรรยาของตัวเขาเอง

รูปปั้นเงือกน้อยนี้นั่งอยู่บนก้อนหิน มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตรน้ำหนักประมาณ 175 กิโลกรัม บริเวณรอบๆ มีสวน Langelinieจะได้สัมผัสกับความผ่อนคลายฟังเสียงร้องของนกนางนวลและชมเรือสำราญที่จอดเทียบท่าอยู่

Highlight  ต้องไม่พลาด ถ่ายรูปกับ เงือกน้อย little mermaid

รถ city tour copenhogen ถ้าเห็นก็ไม่พลาดที่จะถ่ายเป็นที่ระลึกของทุกประเทศ 

น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน Gefion Fountain เป็นน้ำพุขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตาคล้ายธารน้ำตกที่ไหลริน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าท่าเรือเมืองโคเปนเฮเกนมีตำนานเล่าว่า ราชินีเกฟิออนได้รับมอบหมายจากเทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ให้กอบกู้ชาติบ้านเมือง พระนางจึงให้พระโอรสทั้งสี่ของพระองค์แปลงกายเป็นพระโคเพื่อช่วยกันไถพื้นดินจนกลายเป็นแผ่นดินเดนมาร์กในปัจจุบันแล้วชาวเดนนิชก็ได้สร้างอนุสาวรีย์ของพระนางและพระโอรสทั้งสี่พระองค์ไว้เพื่อเป็นเกียรติและเพื่อเป็นการระลึกถึงแต่สถานที่แห่งนี้มันให้ความร่มรื่นได้เป็นอย่างดีเพราะเสียงสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆบวกกับละอองน้ำที่กระเซ็นมาให้ความชุ่มชื่นชวนให้เปลือกตาเริ่มคล้อยลงต่ำ

Amalienborg Palace (พระราชวัง อามาเลียนบอร์ก)เป็นสถานที่ประทับในช่วงฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์กมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1794 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโคเปนเฮเกน ตัวสถาปัตยกรรมภายนอก และการตกแต่งภายในอาคารพระราชวังเป็นสไตล์ร็อคโคโค

บริเวณพระราชวัง ประกอบด้วยสี่ส่วนหลักๆและด้านหนึ่งได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชมห้องต่างๆที่เคยเป็นที่พำนักของราชวงศ์ในอดีตเมื่อปีค.ศ.1863-1947 เมื่อเดินเข้ามาภายในบริเวณพระราชวังสิ่งแรกที่พบคืออนุสาวรีย์ของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่4 ทรงประทับอยู่บนหลังม้าตั้งอยู่ตรงกลางลานแปดเหลี่ยม

โชคดีมาช่วง พิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารที่เฝ้าอยู่ภายในเขตพระราชวังแถมยังได้เห็นธงของทางสำนักพระราชวังถูกชักขึ้นเพื่อแสดงว่าพระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงประทับอยู่ภายในพระราชวัง

จตุรัส ซิตี้ฮอลล์(City hall)

Shopping ย่าน ถนนสตรอยก์ (Stroget Street)

ที่นี่ของแพง เลยไม่สนใจ shopping  ไปล่องเรือกันดีกว่า รออาราย  

แบบว่าตาไว เห็นคนนั่งล่องเรืออยากนั่งบ้าง ไกด์พามาทิ้งแถวนี้ ไกล้จุดนัดพบ ร้านแมคโดนัลด์

เรือออกทุก 15 นาที ล่องเรือ 50 นาที ราคาประมาณคนละ 500 บาท  ไปไม่ถูกก็ถามไกด์ละกัน

มีไกด์บรรยายตลอดทาง  แต่หาฟังไม่ 

บรรยากาศ little mermaid ถ่ายบนเรือ น่าสงสาร เงือกน้อย จัง มีคนมาวุ่นวายตลอดวัน

เดินหาอะไรหม่ำกัน ราคาแพงพอควร สั่งพิซซ่า สปาเก็ตตี้ เฉลี่ยคนละ 500 บาท

หน้าโรงละคร เห็นคนแจกใบปลิว ตาหน้าดี ขอแชะ ซะหน่อย

วันที่เก้า-สิบ 21-22 มิถุนายน 2561 ปราสาทโรเซนบอร์ก – สนามบิน– ดูไบ

พระราชวังโรเซนเบิร์กROSENBORGPALACE, COPENHAGEN เดนมาร์ก

เป็นพระราชวังที่ตกแต่งด้วยศิลปะแบบดัตช์เรอเนสซองส์สร้างในสมัยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่พระองค์ภาคภูมิใจเพราะนอกจากความงามของตัวตึกภายในและภายนอกที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยวัตถุที่ล้ำค่ามากมายแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ในบริเวณชั้นใต้ดินใช้เป็นที่เก็บเครื่องเพชร มหามงกุฎและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของราชวงศ์เดนมาร์กอีกด้วยค่า ซึ่งในอดีตพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างเพื่อจุดประสงค์ใช้ในการพำนักพักร้อนของเชื้อพระวงศ์ในสมัยนั้น ทั้งยังเคยถูกวางเพลิงจากกองทัพอังกฤษถึง 2ครั้งเลยนะคะ คือในปี 1794 และปี 1801

Class โยคะหน้าพระราชวังโรเซนเบิร์ก มันดีต่อใจ

เมื่อเดินออกไปด้านนอกกำแพงปราสาทจะได้พบและเพลิดเพลินกับพื้นหญ้าเขียวชอุ่มและทางเดินใต้ร่มเงา นั่นก็คือสวนคิงส์การ์เด้น ที่อยู่รอบปราสาทเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ให้ชาวโคเปนเฮเกนได้พักผ่อน ปิคนิคและทำกิจกรรมต่างๆ

เด็ก ๆ มา ทัศนศึกษา  แล้วคนใส่แว่นด้านหลังเด็ก ๆ มาทำอารายค้า

ระหว่างรอรถ เพื่อไปสนามบิน  รถไฟวิ่งตลอด เสียงดังมาก 

  กองทัพเดินด้วยท้อง กินที่สนามบิน ก่อนขึ้นเครื่อง   จะไป shopping ต่อที่ สนามบินดูไบ ที่ scandinaviaไม่ไหว แพงทุกอย่าง  แต่น้ำหอมที่ สนามบิน โคเปนเฮเกน เดนมาร์ค ถูก เห็นมีจัดโปรลดราคาก็พุ่งไปในทันที 

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=moon-light&month=07-2018&date=30&group=2&gblog=31