ธันวาคม 2557

 
1
3
6
7
8
10
11
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
บทที่ 6 เรื่องบนเตียง 100%


(ต่อ)



เสียงข้อความเตือนให้คนเผลอหลับเพราะนอนนับแกะสะดุ้งตื่น คว้าโทรศัพท์ตรงหัวเตียงกดอ่าน มุกตาภาหยีตาสู้แสงไฟหน้าจอ


[แก้วใส: ตื่นหรือยังแก]


อ่านจบก็ไม่คิดจะโต้ตอบ เลือกเหวี่ยงโทรศัพท์ลงข้างตัว ความปวดปร่ายึดพื้นที่ตามร่างกายจนไม่อยากขยับเขยื้อน ‘ยังเช้าอยู่เลย’ เธอนึกขณะค่อยๆ หลับตา ฉับพลันเรื่องเมื่อคืนก็วิ่งผ่านความคิด มุกตาภาดีดตัวลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองรอบห้อง ไม่มีอะไรผิดปกติ นอกจากชายหนุ่มบนโซฟาหายตัวไป มุกตาภาชะเง้อไปทางห้องน้ำเห็นประตูปิดอยู่ อาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังทำธุระส่วนตัว


คนเพิ่งตื่นลังเลเกี่ยวกับ‘ผี’ ที่เจอเมื่อคืนนี้ อยากเล่าให้รติมาฟังแต่เกรงจะถูกกล่าวหาว่าบ้า ความคิดสองฝ่ายขัดแย้งกันเอง ใจหนึ่งอยากเล่าเผื่อเขาอาจปกป้องเธอบ้าง แต่อีกใจหนึ่ง เขาอาจไม่เชื่อเรื่องผีสางและกลั่นแกล้งให้เธอเผชิญหน้ากับผีตามลำพัง


เมื่อรติมาก้าวออกจากห้องน้ำความคิดขัดแย้งเมื่อครู่จึงรวมตัวกลายเป็นคำถาม “เลิฟ! เมื่อคืนเห็นอะไรแปลกๆ บ้างหรือเปล่า”


เจ้าของร่างสูงชะลอฝีเท้าและหันมองคนตั้งคำถาม “ก็ไม่มีอะไร นอกจากเสียงแปลกๆ”


“เสียงอะไรแปลกๆ เหรอ” มุกตาภาตื่นเต้น ขยับร่างเข้ามาใกล้ขอบเตียงพร้อมคว้าผ้าห่มหนาห่อกาย ยังนับว่าเขาโชคดีมากกว่าเธอ ที่ได้ยินแค่เสียง ไม่เห็นผีเป็นตัวๆ เช่นเดียวกัน


“ก็คุณนอนกรน ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนนอนกรนเสียงดังแบบนี้มาก่อน หรือเมื่อวานเที่ยวเหนื่อยเกินไปวันนี้พักอยู่ในห้องดีไหม ผมจะบอกไกด์ให้”


มุกตาภาทำหน้าเหรอหราพวงแก้มแดงฝาด ตัวชา ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่านอนกรน เท่าที่จำได้ก็ไม่เคยมีประวัติว่าเพื่อนจะล้อเลียนเรื่องนี้ซักครั้ง


รติมาลอบยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าขาดความมั่นใจของเธอ แสร้งทำเฉย สาวเท้าไปยังกระเป๋าเดินทางเก็บสัมภาระที่เพิ่งถอดเปลี่ยนหลังอาบน้ำเสร็จ อันที่จริงมุกตาภาไม่ได้นอนกรนเสียงดัง เพียงแค่นอนตัวสั่นภายใต้ผ้าห่มตอนใกล้สว่าง เป็นช่วงที่เขาลุกจากโซฟาและต่อสายหาแฟนสาว แต่หล่อนก็ไม่ยอมรับสายอยู่ดี ด้วยความร้อนใจจึงเดินไปเดินมาให้ใจเย็นลงจนสงบจึงนอนต่อสักพักและลุกอาบน้ำ


“ฉันนอนกรนจริงๆ เหรอ” มุกตาภานึกหวั่นจนลืมเรื่อง ‘ผี’ ไปเสียสนิท


“สรุปคุณจะออกไปร่วมกิจกรรมกับผมหรือซักไซ้เรื่องนอนกรน”


มุกตาภาเบ้หน้าใส่เขาซึ่งคล้ายจะรำคาญเธอเต็มแก่ นึกในใจ ไม่บอกเรื่องผีสางก็ดี คืนนี้ให้มันหักคอเสียให้เข็ด คนแอบแง่งอนลุกพรวดจากเตียงและเดินเข้าห้องน้ำบ้าง


โทรศัพท์ข้างหมอนส่งเสียงเรียกหาเจ้าของซึ่งเดินเข้าห้องน้ำไปหยกๆ รติมาเดินไปยังต้นเสียงพลางชะโงกมองและยิ้มมุมปากเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏหน้าจอ ‘คุณระ’ อย่างนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ารพีภพให้ความสนใจมุกตาภาถึงขนาดโทรหาบ่อยครั้ง คงจะอ้างถึงกำหนดเดินทางซึ่งนัดหมายกันไว้ตอนสิบโมง ทว่าเวลานี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเท่านั้น ยิ่งนึกก็ยิ่งขำ อยากจีบสาวที่อยู่ในสถานะมีแฟนแล้ว



“นี่เลิฟ เราจะไปไหนกันเหรอ” มุกตาภาสงสัยตั้งแต่ย่างกรายออกจากโรงแรม ในเมื่อชายคนนี้บอกว่ากิจกรรมของวันนี้คือเดินทางไปเซนโตซ่าถิ่นสวนสนุก แต่เขากลับไม่รอคณะทัวร์ ซ้ำยังพาเธอเร่ร่อนไร้จุดหมายปลายทาง


“จะพาไปกินอาหารเช้า ผมหิว เลิกถามได้แล้ว”


มุกตาภาปิดปากเงียบ เลิกเซ้าซี้ เดินตามหลังไปอย่างว่านอนสอนง่ายราวกับเด็กน้อย ทั้งสองใช้การเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ติน ต่างคนต่างนิ่งเฉย ไม่พูดอะไรกันเสมือนคนไม่เคยรู้จักกัน เมื่อขึ้นรถไฟเป็นที่เรียบร้อยมุกตาภาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดแก้เซ็ง


นึกได้ว่าแก้วใสทักทายเมื่อเช้านี้เธอจึงตอบกลับ ป้ายเตือนสีแดงแสดงเลขการติดต่อดึงความสนใจให้กดเปิดโปรแกรมออนไลน์เฟซบุ๊ก และหัวใจก็เต้นตึกตักพองโต เมื่อเห็นว่ารติมารับการติดต่อเป็นเพื่อนแล้ว เธอเหลือบมองใบหน้าคมคายและอมยิ้มโดยที่เขาไม่รู้ตัว และยืนชื่นชมเฟซบุ๊กอยู่อย่างนั้นราวกับมันคือสมบัติล้ำค่า


“เมื่อคืนปันปันมาหา” รติมาเอ่ยโดยไม่ได้หันมามองคู่สนทนา เขาแอบเห็นว่าเธอกำลังกดโทรศัพท์เล่นจึงนึกได้


“อ่อ ฉันตอบปันปันทางเฟซแล้วล่ะ ขอบคุณนะ”


“เคยกินโทสต์หรือเปล่า” คำถามทำมุกตาภาหุบยิ้มและเหล่มองรติมาพลางส่ายหน้า


“มันคืออะไร”


“ที-โอ-เอ-เอส-ที โทสต์ ขนมปังปิ้ง”


มุกตาภาหัวเราะร่วนแอบแขวะเขาในใจ หากพูดตรงๆ ว่าขนมปังปิ้งเธอคงไม่ต้องยืนงงเป็นไก่ตาแตกแบบนั้น และไม่คิดว่าที่สิงคโปร์จะมีขนมพื้นๆ ให้ได้ลิ้มลอง ตอนคราวข้าวมันไก่ก็ทีหนึ่งแล้ว อาหารซึ่งมีขายในประเทศไทยกลับกลายเป็นอาหารยอดนิยมของสิงคโปร์ หรือขนมปังปิ้งก็เป็นอีกเมนูซึ่งโด่งดังของที่นี่


“ถ้าบอกว่าขนมปังปิ้งฉันก็เคยกินอยู่นะ หรือคุณไม่เคย” น้ำเสียงล้อเลียนของเธอทำให้รติมายักไหล่และเตรียมลงจากรถไฟฟ้าเมื่อถึงสถานีไชน่าทาวน์ “นี่เราจะไปกินขนมปังปิ้งเป็นอาหารเช้าจริงๆ เหรอ แล้วทำไมไม่กินที่โรงแรมล่ะ เมนูอาจดีกว่าขนมปังปิ้งก็ได้นะ”


“ไม่เบื่อบ้างหรือไงอาหารโรงแรมมันก็เมนูคล้ายๆ กันหมดทุกที่ อีกอย่างเราก็ต้องพักที่นั่นอีกหลายวัน คุณไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้กิน”


“แล้วเราต้องไปอีกไกลไหม ฉันกลัวกลับไปไม่ทันสิบโมง” เพราะวันนี้คงเบี้ยวการเดินทางร่วมคณะทัวร์ไม่ได้อีกแล้วมุกตาภาจึงแอบกังวลกลัวรติมาพาเหลวไหลแบบเมื่อวานอีก


“ไม่ไกลหรอกเดิน เข้าไชน่าทาวน์ประมาณสิบนาทีก็ถึงร้านแล้ว”


ระหว่างทางมุกตาภาก็นึกถึงลักษณะร้านขายขนมปังปิ้งคงเป็นรถเข็นเล็กๆ และมีโต๊ะไม้ตั้งเรียงข้างทางอย่างที่เคยเห็นในประเทศบ้านเกิด ทว่าเดินตามทางเท้ามาเรื่อยๆ ยังไม่เห็นร้านอาหารริมทาง บรรยากาศยามเช้าสงบเงียบนานๆ จะมีรถราวิ่งบนถนนโล่งกว้างซักคัน ตลอดแนวเป็นตึกแถวมีของขายบ้างพอประปราย แต่ส่วนใหญ่จะยังไม่เปิดทำการ กระทั่งเดินมาถึงมุมตึกซึ่งทาสีเหลืองโดดเด่นหน้าร้านมีป้ายชื่อ ‘YaKun Kaya Toast’ คำหลังเป็นคำเดียวกับที่รติมาสะกดให้ฟังเมื่อครู่นี้ คงใช่ร้านนี้


กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยแตะจมูก กลิ่นคล้ายกับขนมปัง เนย กาแฟ ปะปน ชวนน้ำลายสอ ภายในร้านมีลูกค้าจับจองโต๊ะ คนในร้านเดินเสิรฟ์อาหารน่าตาแปลกประหลาด ไม่เหมือนขนมปังปิ้งที่คุ้นตาสักนิด รติมาเดินนำไปยังโต๊ะว่าง หยิบเมนูจากชายหน้าตี๋บ่งบอกสัญชาติว่ามีเชื้อสายจีน


“จะกินอะไรบ้าง” เขายื่นเมนูให้มุกตาภาเลือกก่อน


“ฉันสั่งไม่เป็นคุณเลือกเถอะ” คนปฎิเสธดันเมนูกลับ และสำรวจไปรอบๆ ร้าน ดูเมนูแต่ละจานซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขนมปังแข็งๆ ประกบทับเนยหรืออะไรสักอย่างที่ดูไม่ออก มุกตาภาหันกลับไปมองรติมาแปลกใจกับเมนูซึ่งมีภาษาไทยแปลอยู่ด้านล่างในแต่ละเมนูต่างๆ “นี่คุณ เมนูมีภาษาไทยกำกับไว้ด้วยเหรอ”


รติมาพยักหน้า “ก็ร้านดัง คนไทยมาแวะเวียนเยอะ เลยทำเอาใจลูกค้ามั้ง”


บนเมนูจะมีรายการซึ่งจัดไว้เป็นเซต บางเซตเหมาะกับมาคนเดียวหรือสองคน บางเซตก็เหมาะกับมาเป็นกลุ่ม รติมาพูดภาษาอังกฤษกับหญิงวัยกลางคนซึ่งจดเมนูพร้อมทวนคำพูดของเขา สำเนียงออกไปทางจีนแต่ก็สื่อสารกันรู้เรื่องจนอาหารเช้ามาเสิร์ฟ


จานทรงกลมสีเขียวมีขนมปังปิ้งแผ่นบางกรอบประกบกับเนยถั่วและสังขยาตัดครึ่ง ขนมปังแผ่นชุบไข่และเนยเหลืองอร่ามน่ารับประทาน ไข่ลวก เครื่องดื่มร้อนและเย็นอย่างละแก้ว


“คุณสั่งน้ำอะไรมาอะ” มุกตาภามองถ้วยเครื่องดื่มร้อนลักษณะคล้ายกาแฟดำ ควันอ่อนๆ ลอยอยู่เหนือแก้วแต่กลิ่นคล้ายโอเลี้ยงมากกว่าจะเป็นกาแฟอย่างอื่น


“กาแฟร้อนลองชิมไหม” มุกตาภายิ้มแหย่ ส่ายหน้าอย่างเกรงใจ “ไม่เป็นไรผมไม่ถือ ถ้ากลัวผมรังเกียจเอาหลอดในแก้วคุณมากินแก้วผมก็ได้ ถ้าชอบจะได้สั่งเพิ่ม” ในเมื่อเขายื่นข้อเสนอเธอก็ไม่เกรงใจทำตามที่เขาว่า ลิ้มลองรถชายแปลกใหม่ของกาแฟดำขมลิ้น มุกตาภาทำหน้าเหยเก รสชาติช่างไม่ถูกปากเสียเลย รติมาขบขัน “ผมยังไม่ได้ใส่น้ำตาล” เท่านั่นแหละ มุกตาภาจึงหันกลับมาให้ความสนใจกับเครื่องดื่มของตัวเอง


“แก้วนี้คือน้ำอะไร” คนถามยกแก้วขึ้นจิบๆ รสชาติคล้ายกับโอวัลตินผสมมอลต์ แต่อร่อยกว่ามาก


“ฮอรลิคส์เย็นอย่ามัวแต่กินน้ำ เดี๋ยวกินขนมปังไม่หมด”


รติมาหยิบขนมปังครึ่งแผ่นใส่จานตรงหน้ามุกตาภาให้เธอลองเมนูเด็ดของร้าน และดันจานไข่ลวกไปไว้ตรงหน้าพร้อมกับพวงเครื่องปรุงซึ่งมีเกลือ พริกไท ซีอิ๊วครบสูตร ขนมปังกรอบผสมผสานความหวานมันของสังขยากับเนยถั่วลงตัวจนต้องหยิบอีกชิ้นขึ้นมาถือไว้


“ไม่เหมือนขนมปังปิ้งบ้านเราเลยเนอะ”


“อร่อยใช่ไหม” รติมาวาดยิ้มเมื่อเห็นเธอพอใจกับเมนูอาหารเช้าที่เขาเลือกให้


จู่ๆ ก็มีชายสูงวัยอายุราวๆ เจ็ดสิบปีเดินมายืนอยู่ข้างๆ มุกตาภาจดจ้องเธอด้วยสายตาดุดัน รติมาคอยมองสถานการณ์และลอบยิ้มสีหน้าซีดเผือดของมุกตาภา เธอเริ่มส่งสายตาของความช่วยเหลือ กลัวจะสื่อสารกับชายสูงวัยไม่รู้เรื่องเขาพูดอะไรอยู่สองสามคำก็ชี้ให้เธอหยิบขวดซีอิ๊ว เทใส่ไข่ลวก และชี้ขนมปังปิ้งให้จุ่มลงในจานไข่ลวก


มุกตาภาทำตามก่อนใส่เข้าปากเธอทำตาโตและยกนิ้วโป้งส่งยิ้มให้ขายสูงวัยคนนั้น คราวนี้เขาส่งยิ้มให้เธอและชูนิ้วโป้งตอบกลับก่อนเดินไปโต๊ะอื่นๆ


“ลองกินดูสิอร่อยนะ ว่าแต่คุณตาเขาเป็นใครไม่รู้เนอะสอนให้กินแปลกๆ” รติมาส่ายหน้าและยิ้มๆ เท่าที่อยู่ด้วยกันมาสองวัน เธอคนนี้ไม่เคยสังเกตอะไรเลย เก่งแต่ซักไซ้อย่างเดียว เขาชี้ให้เธอมองไปที่กำแพงร้านซึ่งมีกรอบรูปเล็กๆ ลักษณะคล้ายตัดหนังสือพิมพ์มาใส่กรอบไว้เพื่ออวดความภูมิใจของกิจการขนมปังปิ้งซึ่งเปิดมากว่า
60 ปี และชายสูงวัยที่เดินมาสอนให้เธอกินขนมปังจุ่มไข่ลวกก็คือเจ้าของกิจการนั่นเอง และร้านนี้เปิดเป็นแฟรนไชส์ทั่วสิงคโปร์และประเทศอื่นๆ อาทิ ไต้หวัน อินโดฯ เกาหลีญี่ปุ่น และ ฟิลิปปินส์


To be...


ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ 










Create Date : 27 ธันวาคม 2557
Last Update : 27 ธันวาคม 2557 8:38:17 น.
Counter : 934 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments