Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2560
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 สิงหาคม 2560
 
All Blogs
 

2017 England trip: Marriott Heathrow และที่พักที่ Stratford-upon-Avon และเปิดถุงช็อปจากอังกฤษฮ่ะ



มาเริ่มวันที่ 1 ในอังกฤษ หลังจากลงเครื่องกันตอนหัวค่ำละ เราจองที่พักไว้คืนนึงแถว ๆ สนามบิน เพราะจะต้องขึ้นบัสไปต่ออีกประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ถึงจะถึงที่ ๆ เราจะไป ดังนั้น มานอนเพิ่มพลังซักคืนก่อนน่าจะดี 


อาเฮียจึงจองที่นี่เอาไว้  Marriott Heathrow Airport นั่งรถบัสรับส่งมาใกล้ ๆ ไม่เกิน 10 นาทีก็ถึง


อันนี้ลงเครื่องมา




นั่งรถบัสมาแป๊บเดียวก็ถึงที่พัก   รถบัสราคา 5 ปอนด์ต่อคนต่อเที่ยว หรือประมาณ 200 บาทหน่อยๆ  แต่ถ้าจอง online แบบไปกลับ รู้สึกจะได้ลด 1 ปอนด์

บนรถจะมีคอกกั้นไว้ทั้งสองฝั่งสำหรับเก็บกระเป๋า ซึ่งการกั้นคอกสำหรับกระเป๋ามันก็สะดวกดีสำหรับรถรับส่งที่สนามบิน

แต่การกั้นทั้งสองฝั่ง โดยที่สามารถเก็บกระเป๋าใบใหญ่ได้ไม่กี่ใบ แล้วเจือกเหลือพื้นที่ไว้ให้คนยืนตรงกลางระหว่างสองคอกพร้อมกระเป๋าใบยักษ์ที่ไม่มีที่เก็บเนื่องจากที่เต็มแล้วนั้น นับเป็นหายนะอย่างแท้จริง เพราะมันไม่เหลือที่ให้คนเดินผ่านได้เลย

ในรูปนี้เป็นขากลับที่รถโล่ง จึงดูสะดวกดี แค่อีขามานี่ รถแน่นเอี๊ยด อิฉันกะอาเฮียต้องยืนอยู่กลางสองคอก พร้อมกระเป๋าใบยักษ์ เมื่อคนต้องการจะลงที่โรงแรมซึ่งอยู่ก่อนหน้าของโรงแรมอิฉัน ก็ไม่สามารถเดินฝ่าไปได้ ต้องใช้วิธีลากกระเป๋าหลบหลีกแบบวางสนุ๊กกันขยับทีละนิดทีละหน่อย กว่าจะออกได้แต่ละคน Smiley




มาจนถึงโรงแรมจนได้ด้วยความยากลำบาก Smiley



เตียงน่านอนมากก  แต่ทำไมต้องมีคอกเด็กฟระ Smiley




มีทุกอย่างให้เลือกสรรตามมาตรฐานของมาริออท








Amenities ที่นี่ใช้ของยี่ห้อ Acca Cappa เป็นยี่ห้อโปรดของอิฉัน ซึ่งหาซื้อยากโคตร



ล็อบบี้




หลังจากเจอเตียงดูดวิญญาณ เราหลับสนิทกัน เตรียมพร้อมร่างกายจะได้ตื่นมาสดชื่นพร้อมเที่ยวอย่างหักโหมได้เต็มที่  (//me// เวลาทำงานแกรตั้งใจขนาดนี้ม้ายยยย  ห๊ะ Smiley)



ตื่นเช้ายังไม่พร้อมเดินทางต่อ  เพราะต้องหาของกินก่อน จึงเดินไปแถว ๆ หน้าโรงแรม  มีร้านอาหารแบบตะวันตกชื่อดัง เราจึงฝากท้องไว้ที่นั่น


แมคโดนัลนี่เอง Smiley


เหมือนที่กินแถวๆ สำโรงเป๊ะ






เดินกลับมาโรงแรม






แถวนั้นดอกไม้กำลังสวย บลอสซั่มบานเต็มเมืองเลยฮ่ะ




เราต้องเดินทางต่อโดยขึ้นรถบัสไปลงเมือง Cheltenham โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง  National Express bus station โดยค่าโดยสารประมาณ 37 ปอนด์หรือประมาณ 1600 บาท สำหรับตั๋วไปกลับต่อคน ที่มาลงนี่เพราะมันใกล้ Stratford ที่ป๊ากะม๊าจะมารับง่าย ๆ 

นั่งรอรถออกก็หาของกินไปเรื่อย

คิทแคทพีนัทบัตเตอร์อร่อยนะเออ  ส่วนน้ำแบบนี้อิฉันก็ชอบ น้ำเปล่าที่ผสมรสหวานปะแล่มๆ กลิ่นผลไม้ แบบไม่อ้วน




ต่อด้วยคาปูร้อนซักแก้ว




ขึ้นรถละ




นั่งกันหลวม ๆ ค่ะ ไม่ค่อยมีคนขึ้นเท่าไหร่ ที่นั่งค่อนข้างแคบ Legroom สั้นเชียว แต่โดยรวมแล้วอิฉันและอาเฮียชอบการเดินทางกับ National express bus มาก เพราะตรงต่อเวลา สะอาด Wifi สัญญาณดี ที่นั่งรอก่อนขึ้นรถก็สะดวกสบายมีร้านกาแฟร้านหนังสือร้านขนม ห้องน้ำสะอาดเอี่ยม  

ที่เราค่อนข้าง Happy ก็เพราะก่อนมาอีอาเฮียมันเล่าถึง  Bus station ในรูปแบบหม่นหมองแบบยุค 80 ที่อาเฮียฝังใจว่ามันเป็นอย่างงั้น  แต่พอมาเจอในรูปแบบที่เค้าปรับปรุงแล้วเลยรู้สึกว่ามันดีกว่าที่คาดไว้นะ Smiley


นั่งชิล ๆ ไปพักนึง ถ่ายรูปวิวริมทางไปเรื่อย ๆ 


ฟ้าใสเชียว




ระหว่างทางก็จะเห็นทุ่งเรพซีด (Rapeseed)  ที่อังกฤษนี่มีปลูกมากมายเลย เค้าเอาไปสกัดทำน้ำมันเหมือน ๆ น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และกากมันยังเอาไปทำเป็นอาหารสัตว์




รถบัสพาเราวิ่งมาบนมอเตอร์เวย์พักใหญ่ๆที่วิวทิวทัศน์ออกจะน่าเบื่อ แต่บางครั้งก็พาเราลัดเลาะเข้ามาตามหมู่บ้าน    

ระหว่างทางจะเห็น Allotment ซึ่งเป็นที่นิยมในอังกฤษ  มันคืออะไรน่ะรึ? Smiley

Allotment ก็คือพื้นที่ที่เทศบาลเค้าให้ชาวบ้านเช่าทำพื้นที่ปลูกผักปลูกดอกไม้กัน โดยคิดค่าเช่าเป็นรายปี  ราคาประมาณ 20 ปอนด์/ปี (900บาท) สำหรับบล็อกเล็ก ๆ  จริง ๆ บ้านที่อังกฤษมักจะมีสวนขนาดย่อมๆ อยู่ด้านหลังบ้าน แต่คนแถวนั้นเค้าก็ชอบให้สวนมันสวยแบบสวนอวดแขก ไม่อยากให้มันกลายเป็นแปลงผักหรือดอกไม้ตัดดอกอยู่ในสวนหลังบ้านกันเท่าไหร่ ดังนั้น เค้าจึงมาเช่าพื้นที่ใกล้ ๆ บ้านแบบเดินมาได้ มาปลูกผักเล่น ๆ กัน 

ถ้าเป็นเมืองไทย คงมีคนไปแอบตัดผักของบล็อกชาวบ้านมากินกันแหง ๆ  Smiley





คุณน้องชายเล่าให้ฟังว่า เคยมีคนเช่า Allotment ปลูกดอกไม้ แต่เหมือนคนบล็อกข้าง ๆ ไม่ค่อย happy เท่าไหร่ เพราะพอปลูกดอกไ้ม้ แมลงก็มาเยอะ มากินผักของเค้า  แต่ส่วนใหญ่ก็ดูถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่ เห็นมีหยิบยืมพลั่วถังรดน้ำอะไรกันได้อยู่


และแล้วเราก็มาถึงบ้านพักซักที


ปกติถ้าเราไปเยี่ยมป๊าม๊าของอาเฮียไม่ว่าจะเป็นที่เบอร์มิงแฮมหรือสเปน เรามักจะไปพักกันที่บ้านป๊าม๊ากัน แต่หลังจากที่เค้าขายบ้านที่สเปนที่หลังใหญ่ยักษ์ไป เข้าใจว่าผู้เฒ่าสองคนคงเข็ดหลาบกับการต้องดูแลบ้านหลังใหญ่อายุ 250 ปี พร้อมสระว่ายน้ำขนาดแข่งโอลิมปิคที่ต้องการการดูแลรักษามากจนทำให้เปลี่ยนใจมาซื้อบ้านหลังเล็กจิ๋วที่ Stratford กัน

ซึ่งก็เป็นการณ์ดีที่เราจะได้หาที่พักใกล้ ๆ แทน จะได้มีเวลาแว่บออกมาแรดกันตามใจได้ง่าย ๆ 

นึกไปถึงตอนที่ไปเยี่ยมเค้าที่สเปนกันหนแรก บ้านป๊าม๊าอยู่ในหุบเขาในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ห่างไกลชุมชนรอบด้านมีแต่ไร่องุ่นทำไวน์แบบสุดลูกหูลูกตา บ้านเค้าสวยมากกกก เป็นบ้านเก่าโบราณที่เคยเป็นบ้านของนายกเทศมนตรีของเมืองแถว ๆ นั้น (รู้สึกอิฉันจะเคยทำรีวิวเอาไว้ในบล็อกสเปน)   แต่ความสวยความขลังในราคาที่รับได้ มันทำให้บ้านนั้นอยู่แบบห่างตัวเมืองร้านค้าไกลโขอยู่ ถ้าอยากจะหาซื้อของในร้านสะดวกซื้อหรือหาร้านกาแฟซักร้าน เมืองที่ใกล้สุดจะต้องขับรถไปประมาณ 20 นาที Smiley  ซึ่งทำให้เรารู้สึกประหนึ่งว่าติดเกาะ การออกไปเดินเล่น คือเดินขึ้นเขาไปหาเบอรี่ป่าหรือองุ่นแถวนั้นกินกันเท่านั้น

แต่คราวนี้อยู่ในเมืองท่องเที่ยวเลยยยย  ดี๊ดีย์ Smiley


มัวแต่เม้าท์มอยอะไรกันนี่  มาดูที่พักกันนะคะ

ที่พักที่นี่เราได้มาจาก Airbnb ในราคา 75 ปอนด์ต่อคืน (ประมาณ 3,300 บาท) ทำเลน่ะรึ ดี๊ดีย์ บริการน่ะรึ ดี๊ดีย์ ที่พักเตียงนอนห้องน้ำอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ อาหารเช้า โคตรจะดี๊ดีย์ Smiley

ที่นี่อยู่ในมุมที่เงียบสงบ แต่เดินไปนิดเดียวก็จะถึงใจกลางตัวเมือง Stratford Upon Avon เลย

จริง ๆ ที่พักแถวนี้มีให้เลือกมากมายนะคะ แต่อิฉันเลือกที่นี่เพราะที่นี่มีมอลลี่ น้องหมารับแขกของบ้าน ตอนนี้รู้สึกอดอยากหิวอยากกอดหมามาก หลังจากไมโลไม่อยู่ ก็ไม่อยากมีหมาเป็นของตัวเองต้องไปขโมยกอดหมาชาวบ้านละ Smiley


คุณเจ้าของชื่อเมลานี่ย์ เคยเป็นแอร์ของบริทิชแอร์เวย์และมาเมืองไทยบ่อย ๆ นางชอบโรงแรมดุสิตมาก ออกจะเสียอกเสียใจที่ดุสิตจะโดนทุบ  


เข้ามาปุ๊บเจอห้องโถงเล็ก ๆ มีโซฟาไว้นั่งใส่รองเท้า




เดินเลี้ยวไปอีกห้องจะเป็นห้องกินข้าวและห้องนั่งเล่น
เรามากินข้าวเช้ากันทุกวันที่ห้องนี้






สวนหลังบ้าน  มันก็ออกจะแห้ง ๆ หน่อย





ขึ้นมาชั้นสอง ห้องนอนและห้องน้ำเราอยู่ชั้นสอง

นี่ห้องนอนฮ่ะ สวยงามที่นอนหนานุ่ม Smiley




มีผ้าขนหนูวางไว้ให้บนเตียงคนละชุด และในตู้ยังมีให้อีกหลายชุด









วิวจากหน้าต่างห้องนอน




ข้างเตียงมีมุมชากาแฟ อัดแน่นด้วยสต็อกกาแฟที่กินได้เป็นเดือน  และขนมปังคุ้กกี้แห้ง ๆ ที่เมลานีย์มาเติมให้ทุกวัน

ที่อิฉันชอบคือช็อคโกแลตแคดบูรี่แบบถ้วยฮ่ะ ห่อสีม่วง ๆ นั่นแหละ มันเป็นช็อคโกแลตผง ๆ ไว้ชงน้ำร้อนกิน ทั้งอ้วนทั้งอร่อย







มาดูอีกฝั่งของเตียงบ้าง



ในลิ้นชักมีอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ให้ใช้







มีช็อคโกแลตห่อใหญ่ และน้ำขวดวันละ 2 ขวดไว้ข้างเตียงด้วย




ดีเทลชนะเลิศ 





มาดูเตียงมุมสูงอีกรอบ




ห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน แต่เป็นของเราเท่านั้น ไม่ต้องแบ่งกับใคร ในนั้นเจ้าของบ้านเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณไว้ให้เต็มที่ สบู่แชมพูโลชั่นทุกอย่างเป็นแบบขวดยักษ์ มีกระทั่งดีออเดอเรนต์  มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์








น้ำหอมสำหรับห้องน้ำใช้โจมาโลนเลยทีเดียว








ทางลงจากชั้นสอง




ลงมาข้างล่างเจอมอลลี่  มอลลี่เป็นหมาที่เมลานี่ย์เจ้าของบ้านหอบหิ้วมาจากแอฟริกาใต้ เป็นหมาพันธุ์มิดเดิลโร้ดอันมีชื่อเสียง  เมลานีย์รักนางมากเลย  Smiley






เช้า ๆ นางมักจะมาแอบมองแบบเรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ชะเง้อน้ำลายหยดแบบนังไมโล 









มาดูบ้านแบบเต็ม ๆ 



มองออกไปเยื้อง ๆ จะเป็นโบสถ์




ที่พักที่นี่ดีงามมากค่ะ อาเฮียจะกลับไปหาป๊าม๊าตอนเดือนกันยานี้ ก็ว่าจะพักที่นี่อีก  ใครจะไปเที่ยวแถว Stratford แนะนำเลยนะคะ


****************************************************************************************
****************************************************************************************

ต่อไปมาดูช่วงที่ (อิฉัน) รอคอยยยยย .....

เปิดกุเป๋าของฝากจากอังกฤษ  Smiley



ยังไปไม่ถึงไหนเลย แต่ริจะเปิดกระเป๋า..   Smiley


เอาน่า.. ความสนุกตอนกลับมาถึงบ้านเราแล้วก็มีแค่ตรงนี้แหละ  มามะมาดูว่าได้อะไรมั่ง

ช่วงนั้นสตรอเบอรี่แดงฉาน ไม่ได้ซื้อกลับบ้านหรอกฮ่ะ แต่ซื้อกินที่นู่นแหละ ราคาถู๊กถูก





กองนี้ได้จาก TK Max เป็นร้านขายของ  Outlet brandname  ซึ่งมีหลายสาขาทั่วอังกฤษ ถ้ามีเวลาจะคุ้ยได้ของดี ๆ ในราคาย่อมเยาอยู่เรื่อยเลย





ส่วนกองนี้ เสื้อผ้า แว่นตา กระจกจากบูทเซลล์  เสื้อยีนส์ของ M&S ราคาแค่ 3 ปอนด์ หรือ 135 บาท  แว่นตา Tom Ford ซึ่งดูแล้วน่าจะปลอม แต่น่ารักดี ราคา 1.5 ปอนด์

กระจกแต่งหน้าดูเป็นของเก่า จึงต้องซื้อน้ำยามาขัดด้วย น้ำยามีขายในตลาดนั่นเองกระป๋องละปอนด์เดียว ส่วนกระจกซื้อมาในราคา 15 ปอนด์ หรือ 675 บาทราคาไม่แพงแต่หนักสุด ๆ อิฉันหอบข้ามน้ำข้ามทะเลมาอย่างทะนุถนอม หวังว่าอยากให้มีคุณหลวงมาเรียกข้ามภพไปหาเหมือนทวิภพ Smiley






ช่วงเมษานั้นเป็นช่วงอีสเตอร์ ดังนั้น จะเห็นไข่ช็อคโกแลตอยู่ทั่วทุกมุมถนน ยิ่งถ้าเลยวันอีสเตอร์ไปแล้ว มันจะราคาถูกเหมือนแจกฟรี  และถึงแม้อิฉันกะอาเฮียจะโตเป็นงัวแล้ว แต่เมื่อเราเจอเครือญาติของอาเฮียซึ่งมักจะเห็นว่าเราเป็นเด็กอยู่เสมอ ก็ให้ไข่ยักษ์มาคนละลูก พร้อมกับเด็ก ๆ คนอื่น Smiley




ข้างในเป็นงี้  ใหญ่เบ้อเร่อ




ไข่จะกลวง ๆ  แต่ก็ใหญ่โตพอที่จะต้องกินกันหลายวัน Smiley





สำหรับครอบครัวอาเฮีย การให้ของมันจะไม่หยุดอยู่แค่ไข่อีสเตอร์แน่นอน  ถึงแม้อิฉันจะหัวหงอกขนาดนี้แล้ว คุณอายังให้น้องกุต่ายอีสเตอร์มาอีก 1 ตัว Smiley







ถัดมาเป็นสร้อยข้อมือจากบู้ทเซลส์อีกแล้วราคาน่าจะ 3 ปอนด์ ร้อยกว่าบาท



ส่วนสร้อยข้อมืออีกอันเป็นของใหม่เอี่ยมจากร้านตลาดนัดที่ได้ในวันขากลับ อันนี้ดีเทลเยอะ แพงหน่อย น่าจะ 8 ปอนด์




กองเสื้อผ้าที่กองรวม ๆ ฮ่ะ มีทั้งจากบู้ทเซลส์ Charity shop ที่มีของแบรนด์ไฮสตรีทอยู่มากมาย สามารถซื้อได้ในราคาตัวละ 2-5 ปอนด์เท่านั้น




อันนี้เป็นแพ็ค Amenity จากที่บิน Premium Economy ห่อสีดำข้าง ๆ คือกุงเกงลิง Marks & Spencer ที่ใช้ดี๊ดี ทนทานมากมายและราคาไม่แพง มาอังกฤษทีไรอิฉันต้องสอยมาทุกครั้ง แพ็ค 5 ตัว 7 ปอนด์ หรือ 315 บาท 





ถัดไปเป็นข้าวของจุ๊กจิ๊กที่ได้มาจากร้าน Poundland ทุกสิ่งทุกอย่างราคา 1 ปอนด์ 45 บาทเท่านั้น  ดีโอเดอแรนท์ของ Yardley แบรนด์เก่าแก่ที่คุณป้าอิฉันชอบมากก็ปอนด์เดียว  Argan oil ยอดฮิตไว้ใส่ผม ก็ดี แต่ที่เด็ดสุด ๆ คืออีครีมทามือหลอดฟ้า ๆ นั่น ดีงามมากฮ่ะ ซึมเร็ว หอมสะอาด ๆ ครีมอาบน้ำของ Imperial กลิ่นมะม่วงก็หอมมากกกกก  Smiley

เครื่องสำอางกรุบกริบก็มีให้เลือกเยอะซื้อมาฝากเด็ก ๆ 




ในร้าน Poundland อิฉันว่าต่างจากไดโซะอยู่นิดนึงตรงที่ที่นี่จะเน้นเรื่องอาหารและขนมเป็น Section ใหญ่มากกกกกกกกก ประมาณ 1/3 ของร้าน  ทุกอย่างในนี้อย่างละ  45 บาท อิฉันชอบแฮปปี้ฮิปโป้มาก และช็อคโกแลตรูปส้มก็อร่อย ไม่เห็นในไทยมานานละ


อันนี้ได้จากตลาดนัด กล่องเหล็กสวยงาม ข้างในมีชุดถ้วยชาเล็กจิ๋ว สำหรับตุ๊กตาตัวน้อย ซึ่งรายละเอียดทำได้ดูดีทีเดียว ไม่กะโหลกกะลา  ชุดนี้ 9.99 ปอนด์






รูปนี้ อันล่างมีกล่องขนม Next stop เค้ก ซึ่งเป็นเค้กที่รถไฟของอังกฤษเค้าแจกฟรีในช่วงอีสเตอร์ อิฉันกะอาเฮียเดินเข้าสถานีเพื่อไปดูตารางรถไฟเฉย ๆ นายสถานีเค้าหยิบให้บอก Happy Easter น่ารักที่สุด แถมอร่อยด้วย  บราวนี่เคี้ยวหนึบเนื้อเค้กชุ่มฉ่ำมาก Smiley




การช็อปปิ้งในอังกฤษ เป็นเรื่องหนุกหนาน เพราะของไม่แพงเลย แถมของมือสองที่อิฉันชอบก็เยอะ สนุกและมีลุ้นกว่าไปช็อปที่ญี่ปุ่นหรือเกาหลีซะอีก 


บล็กหน้าจะเริ่มพาไปเที่ยวในตัวเมือง Stratford Upon Avon ซะทีฮ่ะ




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2560
0 comments
Last Update : 31 สิงหาคม 2560 21:46:28 น.
Counter : 1740 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนดีผีคุ้ม
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




อิฉันทำรีวิวเพื่อที่จะเก็บบันทึกการเดินทางไว้เหมือนไดอารี่ เอาไว้มาดูอัลบั้มการท่องเที่ยวของตัวเองที่ผ่านมา ดังนั้น จึงมีรูปตัวเองและอาเฮียเยอะแยะ ไม่ได้เป็นรีวิวเพื่อแนะนำการท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครผ่านไปผ่านมาและอาจได้ประโยชน์จากบล็อกบ้าง ก็นับเป็นโชคดีของอิฉันที่ยังอุตส่าห์มีอะไรมาแบ่งปันนะคะ
Friends' blogs
[Add คนดีผีคุ้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.