你还好吗?
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
2 พฤษภาคม 2551

《聊斋奇女子》โปเยโปโลเย ตอนตำนานสาวประหลาด

2/05/08


Smileyโปเยโปโลเย ตอน ตำนานสาวประหลาดSmileyซึ่งเป็นตอนใหม่ล่าสุดนี้มีด้วยกันทั้งหมดสี่ตอน คือ

1. 《连城》: เหลียนเฉิง
2. 《宦娘》: ฮ่วนเหนียง
3. 《侠女》: เสียหนี่
4. 《辛十四娘》:ซิงสือซื่อเหนียง

ดูตอนแรก "เหลียนเฉิง" ไม่ค่อยมันส์ เลยหยุดไปเสียตั้งนาน และมาต่อด้วยตอน ซิงสือซื่อเหนียง《辛十四娘》ซึ่งค่อนข้างโดนใจมิใช่น้อย น่าแปลกที่ตามข้อมูลแล้วเรื่องนี้มี 4 ตอน แต่ดีวีดีที่ซื้อมากลับมีแค่สองตอน เรื่องละ 20 ตอนรวมทั้งหมดก็ 40 ตอนพอดี ไม่รู้ว่าที่เหลือหายไปไหน เช็คเว็บไซท์แล้วก็มีรูปของแต่ละเรื่องครบนี่นา และข้อมูลบอกว่ามีทั้งหมด 40 ตอนคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องละ 10 ตอนมากกว่า 4 เรื่องเป็น 40 ตอน เห็นท่าจะเป็นเพราะดีวีดีอันหลากหลายของเมืองจีนเป็นแน่แท้ แบ่งไม่เหมือนกันทำให้เกิดความงุนงง จะว่าไปแล้วค่อยหามาดูก็ได้ มาเข้าเรื่องกันก่อน

เรื่องนี้ทำเอาเราน้ำตาไหล หรืออาจเป็นเพราะความเงียบของยามอรุณรุ่งที่ดูต่อเนื่องกันจนอินเป็นอย่างมากก็เป็นได้ พอดูจบแล้ว ต้องบอกว่า

"มนุษย์นั้นอ่อนแอ"


ในโลกเรานี้มีสรรพสัตว์อยู่รวมกัน ทั้งมนุษย์และปีศาจ หรือที่เรียกว่า "เยา"(妖) อยู่ร่วมด้วย แต่ไม่ว่าปีศาจจะร้ายกาจปานใด ก็ไม่อาจร้ายกาจไปกว่าจิตใจของมนุษย์ได้เลย ปีศาจที่ถูกตราหน้าว่าเป็นตัวร้ายแต่หากมีจิตใจดีงามก็ไม่ต่างกับเทพ หากมนุษย์ที่มีใจโหดร้ายก็ย่อมไม่ต่างกับปีศาจ"

เหมือนกับเรื่องราวของ "ซิงสือซื่อเหนียง"(แม่นางที่ 14 แซ่ซิง)



"ซิงสือซื่อเหนียง" เป็นลูกสาวคนที่ 14 ของครอบครัวจิ้งจอกที่บำเพ็ญเพียรมาหลายร้อยปี ทั้งครอบครัวอาศัยอยู่ในป่าลึก สือซื่อเหนียง นอกจากจะมีสติปัญญาชาญฉลาดแล้วยังมีรูปโฉมงดงาม และยังเป็นนางจิ้งจอกที่ใจดีชอบช่วยเหลือคนอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลาที่นางบำเพ็ญเพียร มีจุดประสงค์สูงสุดอยู่ที่การสำเร็จเป็นเทพ

หลี่ซือซือ แสดงเป็น ซิงสือซื่อเหนียง

การบำเพ็ญเพียรของนางต้องมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่หากไม่มีวิบากกรรมนี้ นางคงไม่อาจสำเร็จเป็นเทพได้ เขาผู้นี้เป็นวิบากกรรมของนาง

เฝิงเซิง (冯生) หนุ่มน้อยนักดนตรี เขาเชี่ยวชาญในการดีดฉินเป็นที่สุด ยามเสียงฉินอันแสนประทับใจบรรเลงออกไป ไม่ว่าสัตว์ใหญ่น้อย แม้แต่ เยา อย่างครอบครัวจิ้งจอก ก็ล้วนแต่ออกมาฟังด้วยความชื่นชมยินดีทุกคราไป นอกจากเชี่ยวชาญทางการดนตรีแล้วเฝิงเซิงยังเป็นคนดีที่พวกปีศาจชอบจะจับกินเนื้อเพื่อเพิ่มพลังอีกด้วย เขาเป็นเจ้าของร้านฉินเล็ก ๆ ในเมืองน้อยแห่งนี้ ปีนี้เขาสอบจอหงวนและแน่นอนสติปัญญาของเขาต้องได้เป็นจอหงวนอย่างไม่ต้องสงสัย เฝิงเซิงชอบหาที่เงียบ ๆ ดีดฉิน โดยเฉพาะในป่าลึก เขาหาที่สงบดีดฉินเป็นประจำ และที่นี่เอง ครอบครัวจิ้งจอก ซึ่งมีลูกสาวสิบกว่าคนได้คอยจับจ้องมองเขาอยู่เป็นประจำ


Tae แสดงเป็นเฝิงเซิง นักดนตรีหนุ่ม

ลู่เอ๋อร์(绿儿) สาวน้อยผู้ยากจน มักโดนคนในเมืองนี้ข่มเหงรังแกตลอดเวลา นางขี้ขลาด เจียมตน วางตัวเองไว้ในฐานะต่ำกว่าคนอื่นเสมอ ลู่เอ๋อร์ไม่กล้าสู้หน้าใคร ขาดความมั่นใจ ชอบก้มศีรษะเดิน สองมือจับกันไว้เพื่อให้กำลังใจแก่ตนเอง นางยากจนกว่าใคร ๆ อยู่กระท่อมผุพังแทบจะถล่มลงมาได้ทุกเวลา แต่ละมื้อแทบจะไม่มีข้าวกิน ตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง คนแบบนี้ใครจะนึกว่าเนื้อแท้แล้วนางแยกแยะผิดชอบดีชั่วได้อย่างชัดเจน คนแบบนี้ใครจะเชื่อว่านางกล้าหาญขัดแย้งกับชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน คนแบบนี้ใครจะเชื่อว่านางใจเด็ดกล้าเข้าวังผ่านทหารองครักษ์มากมายเพื่อช่วยคนที่นางรัก คนแบบนี้ใครจะเชื่อว่านางเป็นตัวของตัวเองมีความคิดและยังให้สติแก่สามีของนางให้ตื่นขึ้นจากความหลงผิด ลู่เอ๋อร์บอกเราว่าความกล้าหาญมิได้มองกันที่ภายนอก

หลี่เชี่ยน แสดงเป็น ลู่เอ๋อร์ สาวน้อยยาจกที่เปลี่ยนเป็นฮูหยินผู้ดีงาม

ไฉหลังเยา(豺狼妖) ปีศาจจิ้งจอกภูเขา ไอ้เจ้าตัวนี้แหละที่ชอบจะกินเนื้อบัณฑิตคุณธรรมเพื่อเพิ่มพลัง จนทำให้จิ้งจอกสาวเข้ามาช่วยและเกิดเรื่องตามมามากมาย และก็เพราะเจ้าไฉหลังเยานี้อีกนั่นแหละที่ทำให้ซิงสือซื่อเหนียงได้กลายเป็นเทพสวรรค์ในที่สุด ไฉหลังเยา ปีศาจที่ออกอาละวาดจับคนกินเพื่อเพิ่มพลัง เมื่อสือซื่อเหนียงพบเข้าจึงเข้าขัดขวางทุกวิถีทาง ด้วยความโอหังของไฉหลังเยาที่อาละวาดไปถึงในเมือง แต่ก็เจอดีเมื่อนักพรตที่ชอบลองของได้จับเอาไฉหลังเยาไปขังไว้และพยายามทดลองเวทย์มนต์ของตนด้วยการเอาพลังของปีศาจจิ้งจอกภูเขามาใส่ในตัวมนุษย์ไร้น้ำยาอย่างฉู่ปั้นซัน กรรมที่ไฉหลังเยาทำไว้ก็ตอบสนองตัวเองอย่างสาสมด้วยการถูกนักพรตทรมานและจับเป็นตัวทดลองอย่างเลือดเย็น จนไฉหลังเยาเสียกายเนื้อไป และสุดท้ายวิญญาณก็สูญสลายไปในที่สุด



ฉู่ปั้นซาน(楚半山) ลูกเขยขุนนางใหญ่ สติปัญญาน้อยนิด แต่ความขี้โกงเต็มสมอง ซ้ำได้เมียนิสัยเลวเลยกระพือความชั่วไปทั่วเมือง ด้วยอำนาจของพ่อตา ไม่มีหน้าไหนกล้าทัดทานฉู่ปั้นซาน และเมื่ออำนาจทำให้เขาได้ตำแหน่งจอหงวนมาครองทำให้ยิ่งกระพือความชั่วได้หนักข้อกว่าเดิม ฉู่ปั้นซานเป็นชายไร้น้ำยา ดังนั้นความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาจอมโวยจึงไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อได้พลังจากไฉหลังเยา ฉู่ปั้นซานได้เติมเต็มความรู้สึกบกพร่องของตนเองจนลำเลิกลวนลามแม้กระทั่งสาวใช้ เขาเริ่มคิดอยากครอบครองพลังทั้งหมดของไฉหลังเยา จึงทุ่มเงินให้นักพรตทำพิธีให้ ด้วยเวทย์มนต์ของนักพรตฉู่ปั้นซานกลายเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจแต่เขาก็เต็มใจและไม่เสียดาย ด้วยหวังว่าพลังของเขาจะทัดเทียมกับซิงสือซื่อเหนียงและชนะดึงนางมาเป็นของเขาได้ แต่เขาผิดไปแล้ว สวรรค์ไม่เคยเข้าข้างคนชั่ว ฉู่ปั้นซานต้องพบกับความทุกข์ทรมานและความน่ากลัวของเวทย์มนต์ที่เขาหวังพึ่งพานั่นเอง



สือเอ้อเหนียง พี่สาวของสือซื่อเหนียง ชอบทะเลาะกับสือซื่อเหนียงอยู่เรื่อยเพราะนางไม่สนใจอะไรนอกจากใช้เสน่ห์หลอกล่อผู้ชายตามแบบฉบับของนางจิ้งจอกขนานแท้และดั้งเดิม แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นนางเป็นคนที่ทุ่มเทช่วยพี่น้องอย่างที่สุด ลึก ๆ แล้วนางเป็นจิ้งจอกที่ดีคิดกำจัดเภทภัยให้ชาวบ้านเหมือนกัน แต่นางชอบทำอะไรตามใจตัวเอง คืออยากทำก็ทำไม่อยากทำก็ไม่ทำ ไม่สนใจว่าเพราะเป็นความดีแล้วจึงทำ เป็นความชั่วแล้วไม่ควรทำ ขอเพียงมีอารมณ์จะทำก็ไม่ค่อยลังเลที่จะลงมือทันที ด้วยนิสัยเอาแต่ใจของนางเช่นนี้ จึงทำให้นางพลาดและจบชีวิตในที่สุด







เรื่องย่อ



เฝิงเซิงบัณฑิตหนุ่มเขาเก่งทั้งดนตรีและอักษรศาสตร์ เป็นคนดีที่โดดเด่นกว่าคนทั่วไป เขามีร้านฉินเล็ก ๆ ในเมือง เมื่อมีโอกาสมักจะไปหาที่สงบในป่าลึกเพื่อดึดฉินเสมอ ปีนี้เขาสอบจอหงวน และหวังว่าจะได้เข้ารับราชการ ทุกครั้งที่เขาดีดฉินจะมีสัตว์ใหญ่น้อยออกมาฟังเสมอ ในจำนวนนั้นมีครอบครัวของหูหลิงจิง(ปีศาจจิ้งจอก)ที่มีลูกสาวสิบกว่าตนที่มักออกมาฟังด้วยเสมอ พวกนางชื่นชมเฝิงเซิงมานานเนื่องจากเป็นคนหล่อเหลา สุภาพ จิตใจดี และดีดฉินไพเราะเป็นยิ่งนัก

ด้วยความเป็นคนดีของเฝิงเซิงทำให้ไฉหลังเยาที่ฝึกวิชามารอยู่ในป่าคอยจะดักจับกินอยู่เพราะเห็นรัศมีอันบริสุทธิ์ปรากฎทั่วร่างของเฝิงเซิง มันเฝ้าติดตามเฝิงเซิงคอยหาโอกาสอันเหมาะสม



ในจำนวนบุตรสาวทั้งหมด ซิงสือซื่อเหนียง ไม่ได้เข้าร่วมฟังด้วย เนื่องจากนางมีภาระกิจในการช่วยเหลือชาวบ้าน นางมักไปเก็บสมุนไพรมาต้มและตั้งเพิงในตลาดเพื่อรักษาชาวบ้านโดยไม่คิดมูลค่าอยู่เป็นประจำ เมื่อเฝิงเซิงเดินผ่านมานางเห็นไฉหลังเยากำลังจะจับเขากิน จึงหาทางช่วย จนเกิดความบาดหมางกับไฉหลังเยา



หลายต่อหลายครั้งที่สือซื่อเหนียงพบหน้ากับเฝิงเซิงและเขาก็อดหลงรักนางไม่ได้ เขาพยายามหาทางพบหน้านางแต่ไม่สำเร็จจนต้องไปศาลเจ้าแม่เพื่ออธิษฐานให้พบกับนาง



ส่วนสือซื่อเหนียงเอง เนื่องจากนางมีปณิธานตั้งมั่นจะสำเร็จเป็นเทพ แม้จะหวั่นไหวในความเอาใจใส่ของเฝิงเซิงแต่นางมักหลีกเลี่ยงเขา เพื่อไม่ให้ตนเองต้องถลำลึกไปกว่านี้ การหลบไม่พบหน้าของสือซื่อเหนียงทำให้เฝิงเซิงร้อนรนกว่าเดิม



แต่วิบากกรรมครั้งนี้ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงได้ สือซื่อเหนียงได้ไปปรึกษาเจ้าแม่ประจำเมืองเพื่อให้ได้ทราบวิธีบำเพ็ญเพียรเพื่อสำเร็จเป็นเซ๊ยน เจ้าแม่ให้คำแนะนำแก่นางว่าให้ไปหาเฝิงเซิงเพราะก่อนสำเร็จเป็นเซียนได้ นางจะต้องทราบว่า อะไรคือ "ชิง"(情ความรู้สึก หรือ อาจหมายถึงความรัก) อะไรคือ "อ้าย" (爱 อันนี้ความรักแน่นอน) เฝิงเซิงบัณฑิตหนุ่มจะเป็นผู้ให้คำตอบแก่นางได้



สือซื่อเหนียงจึงไปหาเฝิงเซิงและถามเขาตรง ๆ ว่าความรักคืออะไร เฝิงเซิงแม้นประหลาดใจ แต่ก็บอกกับนางว่า เขาจะสอนนางเองว่าสิ่งใดคือ"ฉิง" และสิ่งใดกันที่เรียกว่า"อ้าย" ความหมายของเฝิงเซิงคือการนำพานางไปเข้าใจธรรมชาติ การอยู่ร่วมกันของสรรพสัตว์จะต้องมีการพึ่งพาอาศัยกันและกัน มีความรักเมตตาให้แก่กัน แต่สือซื่อเหนียงยังไม่เข้าใจเท่าใดนัก เขาบอกว่าให้มาหาเขาอีก นางจะค่อย ๆ เข้าใจถึงความหมายอันลึกซึ้งของสองคำนี้เอง



ระหว่างที่สือซื่อเหนียงเรียนรู้จากเฝิงเซิง ทั้งสองได้ช่วยลู่เอ๋อร์สาวน้อยผู้น่าสงสารไว้ นางถูกฉู่ปั่นซันรังแกและดูถูก ทั้งสองช่วยกันดูแลลู่เอ๋อร์ที่ถูกฉู่ปั้นซันเหยียบมือจนได้รับบาดเจ็บ ลู่เอ๋อร์ซึ้งใจคนทั้งสองมาก ลึก ๆ แล้วนางแอบพึงใจในตัวเฝิงเซิงอยู่เงียบ ๆ และไม่กล้าบอกใครเพราะนางรู้ฐานะของตนเองดี

จากการพบหน้าพูดคุย สือซื่อเหนียงเริ่มรู้สึกว่าปณิธานของนางสั่นคลอน นางเริ่มตั้งสติและย้ำถึงความปรารถนาของตน และตั้งใจว่าจะไม่ขอพบหน้ากับเฝิงเซิงอีก แต่เขาก็มาหานางอีกจนได้ บิดาของสือซื่อเหนียงและพี่น้องในครอบครัวซึ่งต่างก็ชื่นชอบเฝิงเซิง พากันสนับสนุนให้ทั้งสองเป็นคู่กัน แม้แต่เจ้าแม่ประจำเมืองที่เป็นบรรพบุรุษของเฝิงเซิงก็ช่วยเหลือเต็มที่



ท่านเจ้าแม่ประจำเมืองเคยช่วยให้เมืองนี้ให้พ้นภัยด้วยการสละแม้ชีวิตของตน ทำให้ชาวบ้านสร้างศาลให้และนางเองก็คอยคุ้มครองเมืองนี้มาแต่โบราณกาล เจ้าแม่ได้ไปหาครอบครัวตระกูลซิงเพื่อสู่ขอสือซื่อเหนียงให้กับเฝิงเซิง พี่น้องของสือซื่อเหนียงเห็นว่าสือซื่อเหนียงมัวแต่มุ่งมั่นในการบำเพ็ญเพียรจึงวางแผนให้นางยอมรับการสู่ขอของเจ้าแม่ สือซื่อเหนียงรู้สึกเหมือนถูกปั่นหัวจึงไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก และยิ่งเมื่อรู้ว่าเจ้าแม่เป็นบรรพบุรุษของเฝิงเซิง จึงรู้สึกเหมือนตนเองถูกจับวางให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้อื่น นางจึงตกลงบางอย่างในใจ



ในวันแต่งงานนางบังคับให้เฝิงเซิงยอมรับภรรยาน้อยคือลู่เอ๋อร์ให้แต่งเข้าบ้านตระกูลเฝิงด้วย



แม้เฝิงเซิงจะไม่พอใจในการกระทำของสือซื่อเหนียงแต่เขารักนางมาก จึงยอมรับข้อเสนอนี้



เฝิงเซิงกับสือซื่อเหนียงแม้อยู่ใกล้กันก็เหมือนห่างไกลด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้สัมพันธ์ของทั้งสองตึง ๆ กันอยู่





ลู่เอ๋อร์วางแผนให้ทั้งสองเอาเชือกแดงมารัดข้อมือไว้เพื่อให้อยู่ด้วยกันและเข้าใจกัน จนสำเร็จในที่สุด ทั้งหมดอยู่กันด้วยความรักความเข้าใจ




แม้แต่ลู่เอ๋อร์เองก็ได้เรียนหนังสือจากเฝิงเซิง และได้รับการสอนสิ่งที่ดี ๆ จากสือซื่อเหนียงให้ปฎิบัติตัวอยูในคุณธรรมของภรรยาที่ดี จนลู่เอ๋อร์เริ่มเป็นที่จับตามองของคนในตลาดว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก



และแล้วอุปสรรคก็ปรากฎ เมื่อฉู่ปั้นซานเห็นเฝิงเซิงมีภรรยาสวยตั้งสองคน โดยเฉพาะสือซื่อเหนียงที่สวยปานนางฟ้า เขาริษยามาก ดื่มเหล้าและเลือดของไฉหลังเยาจนสติแตกไปลวนลามสาวใช้ และยังพยายามลอบเข้าบ้านเฝิงเซิงเพื่อจับตัวสือซื่อเหนียง แต่ไม่สำเร็จเพราะวิชาฝีมือนางเหนือกว่าเขามาก



ฉู่ปั้นซานเอาเงินฟาดหัวนักพรตอธรรมเพื่อช่วยให้เขาได้รับพลังมารของไฉหลังเยาทั้งหมด โดยไม่สนใจว่าจะต้องเสียค่าตอบแทนอะไร เขาหวังเพียงว่าจะชนะสือซื่อเหนียงและชิงเอานางมาเป็นของตนให้จงได้ แต่ยิ่งดื่มเลือดของไฉหลังเยา เขายิ่งรู้สึกไม่สบายตัวจนเกิดอาการประหลาด ๆ และต้องเอาเครื่องในของสัตว์มากินเพื่อดับพลังมารในตัวในลดลงเสมอ จนคนรับใช้รู้สึกกลัวกันไปหมด



ในที่สุดผลสอบจอหงวนปีนี้ออกมาแล้ว เฝิงเซิงที่มั่นใจเต็มเปี่ยมต้องเสียใจจนเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าคนที่สอบได้จอหงวนมิใช่ตนแต่เป็นฉู่ปั้นซาน เขาได้ที่สองแค่ตำแหน่งปั๋งเหยี่ยน เฝิงเซิงทั้งเสียใจทั้งผิดหวังและสงสัย ส่วนคนทั่วไปก็รู้กันทั้งนั้นว่าฉู่ปั้นซานไม่ได้ได้ตำแหน่งมาด้วยความสามารถ แต่เป็นเพราะอำนาจของพ่อตาเสียมากกว่าที่ขี้โกงสลับตำแหน่งให้เขยของตนได้ที่หนึ่ง

เมื่อทั้งสองเข้าวัง ฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับทั้ง 3 ตำแหน่ง( สามตำแหน่งคือ 1. จอหงวน 2. ปั๋งเหยี่ยน 3. ทั่นฮวา)และหวังพึ่งพาให้ช่วยงานราชการ ฉู่ปั้นซานลำพองเพราะได้รับการยกยอปอปั้นจากพวกชอบเลียจนแทบลอย เขาเชิญทุกคนไปงานเลี้ยงรวมทั้งเฝิงเซิงด้วย เฝิงเซิงไม่อยากไป แต่ก็ยากที่จะปฎิเสธได้ เมื่อไปถึงงานเลี้ยงทุกคนที่ชอบเลียก็พากันเลียฉู่ปั้นซานจนทำให้เฝิงเซิงที่มึนเมาพูดออกมาว่า ความจริงแล้วกลอนที่ทุกคนชื่นชมกันนั้นไม่ได้มีสัมผัสที่ถูกต้องแม้แต่น้อย ฉู่ปั้นซานโกรธมากที่โดนฉีกหน้า เฝิงเซิงเมาจนครอบสติไม่อยู่เมื่อกลับบ้านมาจึงรู้ว่ทำพลาดไปแล้ว จึงได้ให้สัญญากับภรรยาทั้งสองว่าจะไม่ดื่มเหล้าอีก



วันหนึ่งสาวใช้ที่ฉู่ปั้นซานได้เป็นเมียเข้ามาหาเขาถึงในห้องและเมื่อโดนภรรยาจอมโวยจับได้ ภรรยาของฉู่ปั้นซานจึงพลั้งมือฆ่าสาวใช้ตาย ฉู่ปั้นซานคิดแผนชั่วหาทางป้ายความผิดให้กับเฝิงเซิงโดยไปเชิญเฝิงเซิงมาที่บ้านเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการแต่งกลอน เฝิงเซิงเห็นว่าตนเคยล่วงเกินฉู่แต่ฉู่ปันซานกลับไม่เอาเรื่องและยังมาหาตนถึงบ้านเพื่อถกเรื่องวิชาความรู้ด้วยกัน จึงยอมตามไปที่บ้านฉู่ปั้นซานตามคำชวน แต่เมื่อไปถึง ฉู่ปั้นซานกลับเอาสาวน้อยมาดีดพิณขับกล่อมและคะยั้นคะยอให้เฝิงเซิงดื่มเหล้าโดยอ้างเหตุสารพัด เฝิงเซิงขัดไม่ได้ดื่มเหล้าเมาหลับไปเมื่อดื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง แต่ที่ข้างกายกลับศพสาวใช้อยู่ด้วย เขาตกใจมาก



ทันใดนั้นเองฉู่ปั้นซานและเหล่าบริวารรวมทั้งภรรยาก็พากันยกโขยงเข้ามาและตรวจสอบพบว่าสาวใช้ของตนสิ้นลมแล้ว ฉู่ปั้นซานบอกว่าเฝิงเซิงฆ่าคนตายเพราะคิดลวนลามสาวใช้ของตนด้วยความมึนเมา แต่สาวใช้ขัดขืน เฝิงเซิงจึงลงมือฆ่านางตาย ด้วยหลักฐานและพยานที่ฉู่ปั้นซานสร้างขึ้นมา เฝิงเซิงดิ้นไม่หลุด และถูกบังคับให้ยอมรับความผิด ศาลตัดสินประหารในอีก 3 วันข้างหน้า



สือซื่อเหนียงหาวิธีช่วยต่าง ๆ นานาและก็รู้ว่าเป็นแผนของฉู่ปั้นซาน นางไปหาฉู่ปั้นซาน ซึ่งฉู่เองก็ยอมรับว่าทำไปเพราะต้องการครอบครอบสือซื่อเหนียง นางบอกว่าหากรู้ว่านางเป็นอะไรฉู่จะต้องไม่คิดทำแบบนี้แน่ แต่ฉู่รู้ดีว่านางเป็นปีศาจจิ้งจอก จากที่เขาลอบเข้าไปคิดชิงตัวนางและนางมีวิชาต่อสู้และเวทย์มนต์ ฉู่ปั้นซานยิ่งนึกชอบเพราะตัวเขาเองก็มีพลังมารของจิ้งจอกเหมือนกัน

สือซื่อเหนียงพยายามช่วยสามีของตนแต่นางทราบดีว่าคนที่ช่วยได้ก็คือฮ่องเต้เท่านั้น เพราะขุนนางต่าง ๆ ล้วนอยู่ใต้อำนาจของพ่อตาฉู่ปั้นซานทั้งสิ้น นางคิดหาทางให้ฮ่องเต้สั่งสืบคดีโดยพยายามเข้าวังเพื่อจะกราบทูลเรื่องนี้ให้ฮ่องเต้ทราบ แต่ด้วยนางเป็นปีศาจไม่อาจเข้าวังได้ด้วยบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครอบวังของโอรสมังกรอยู่ ในเมื่อเข้าวังไม่ได้มีแต่ให้ฮ่องเต้ออกมา นางจึงให้ลู่เอ๋อร์เอาภาพใบหนึ่งไปให้พี่น้องของนางและออกอุบายให้วาดรูปขึ้นใหม่ โดยให้วาดเป็นรูปสาวงามเริงระบำแล้วให้ลู่เอ๋อร์พยายามหาทางเข้าวังไปล่อให้ฮ่องเต้เสด็จออกมาจากวัง




ลู่เอ่อร์ที่ปรกติไม่กล้าสู้หน้าใคร ครานี้เพื่อช่วยสามี นางกล้าบุกเดี่ยวเข้าวังเพื่อขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้ด้วยความกล้าหาญ



กาพดังกล่าวเป็นภาพของสาวงามดุจนางฟ้าซึ่งก็คือสือซื่อเหนียงกับเหล่าพี่น้องนั่นเอง ฮ่องเต้เมื่อเห็นภาพของนางก็หลงใหลและต้องการเห็นตัวจริงเป็นอย่างยิ่ง จึงออกจากวังมาตามหานางในภาพ



ด้านสือเอ้อเหนียงนำเรื่องอุบายของน้องสาวเล่าให้เฝิงเซิงฟัง เขาเกรงว่าภรรยาจะยอมมอบกายให้ฮ่องเต้เพื่อช่วยเขาจึงให้สือเอ้อเหนียงนำจดหมายมีใจความว่าเขายอมตายที่ทำหน้าที่สามีได้ไม่ดีทำให้ภรรยาต้องลำบาก และขอให้ภรรยาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้ทำอะไรที่ผิดต่อหน้าที่ของภรรยา เขาไม่เสียดายชีวิตแต่ขอให้สือซื่อเหนียงรักษาตัวให้ดีหลังจากเขาตายไปแล้ว



สือซื่อเหนียงมาหาเขาและบอกว่าอุบายของนางต้องสำเร็จ หากได้พบฮ่องเต้แล้วนางจะใช้เหตุและผลสนทนากับท่าน โดยไม่ทำผิดคุณธรรมของภรรยาอย่างแน่นอน เฝิงเซิงดีดฉินที่สือซื่อเหนียงนำมาให้และนางก็ออกไปเต้นรำเพื่อหาโอกาสเข้าเฝ้าฮ่องเต้

ที่ฮ่องเต้ออกมาคราวนี้ก็เพื่อพบหน้านางระบำที่อยู่ในภาพ ฮ่องเต้ดูเริงระบำจบแล้ว สือซื่อเหนียงพยายามทูลร้องทุกข์ ฮ่องเต้บอกให้นางกลับวังไปด้วยกันเพื่อจะได้ค่อย ๆ เล่าให้ท่านฟัง แต่สือซื่อเหนียงไม่ยอม ฮ่องเต้โกรธมากที่นางขัดใจจึงเสด็จกลับวังไป

สือซื่อเหนียงต้องผิดหวังอย่างมาก แต่นางก็มิได้ละเลยหน้าที่ของสะใภ้ที่ดี กลับบ้านไปดูและความเรียบร้อยและหาอาหารให้ท่านปู่รับประทาน แต่ท่านปู่กลุ้มใจไม่ยอมรับประทานอะไรเลย สือซื่อเหนียงพยายามหาทางให้ท่านรับประทานอาหารบ้างแต่กลับโดนท่านปู่ว่านางเอาแต่กินในขณะที่สามียังอยู่ในคุก ไม่ยอมทำอะไรเลย แม้นางเสียใจก็ได้แต่นิ่งเงียบไว้

ครบสามวันแล้วเฝิงเซิงถูกนำไปยังลานประหาร นักพรตอธรรมมาคอยดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้างเพราะเกรงว่าจะมีเหตุนอกเหนื่อความคาดหมายเพชฌฆาตจะลงดาบที่คอของเฝิงเซิง สือซือเหนียงอดใช้เวทย์มนต์ระงับเหตุการณ์ไม่ได้ นางทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งโดยหยุดเวลาเอาไว้ นักพรตอธรรมเห็นเข้าจึงต่อสู้กับนางเสียยกใหญ่



โชคดีที่ฮ่องเต้ส่งม้าด่วนมาพร้อมราชโองการอภัยโทษ ที่แท้สือเอ้อเหนียงใช้เสน่ห์ของนางทำให้ฮ่องเต้อยอมฟังเรื่องราวและได้ส่งคนมาช่วยไว้ในที่สุด เฝิงเซิงได้กลับบ้านไป สือซื่อเหนียงบาดเจ็บ นางกลับบ้านของนางและทราบความจริงว่าพี่สาวได้ช่วยเข้าไปเจรจากับฮ่องเต้จนเฝิงเซิงรอดชีวิต นางรู้สึกขอบคุณพี่สาวและบรรดาพี่น้องของนางเป็นอย่างมาก คราวนี้นางบาดเจ็บสาหัสจนผมหงอกขาวประปราย เมื่อเฝิงเซิงกับลู่เอ๋อร์ตามหานางจนพบก็รู้สึกสงสารนางเป็นอย่างมาก ทั้งสองพาสือซื่อเหนียงกลับมาที่บ้านรักษาตัว

ขณะที่นางบาดเจ็บเฝิงเซิงดูแลเป็นอย่างดี แต่ตอนที่นางหมดสติมือของนางกลายเป็นมือจิ้งจอกและตะกุยจนเฝิงเซิงได้รับบาดเจ็บ เขาบอกนางว่าไม่เป็นอะไร และขอให้นางนอนพักได้อย่างสบายใจ เมื่อเป็นสามี-ภรรยากันต้องดูแลกันไปตลอดชีวิต สือซื่อเหนียงซึ้งใจมาก




ฉู่ปั้นซานโดนถอดออกจากตำแหน่ง ภรรยาถูกประหาร เมื่อเสียหน้าที่การงานไป เขาแค้นสือซื่อเหนียงมาก ให้นักพรตเอาพลังของไฉหลังเยามาใส่ให้ตนทั้งหมด นักพรตย้ำว่าเขาจะไม่เสียใจภายหลังแน่หรือ ฉู่ปั้นซานยืนยันว่ายอมแลกทุกอย่าง นักพรตจึงทำพิธีเอาวิญญาณของไฉหลังเยาออกมา และทำลายกายเนื้อของไฉหลังเยาเสีย ฉู่ปั้นซานลำเลิกใหญ่ เมื่อได้พลังมาก็หาปีศาจใหญ่น้อยมาเป็นเครื่องบำรุงโดยดูดเอาวิญญาณของปีศาจอื่นมาเพิ่มพลัง เขาสังหารพี่น้องของสือซื่อเหนียงจนหมด สือซื่อเหนียงฉุกคิดถึงคำเตือนของเจ้าแม่ประจำเมืองว่านางจะมีเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ นางสังหรณ์ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับฉู่ปั้นซาน

นักพรตและฉู่ปั้นซานไม่วายมาหาเรื่องสือซื่อเหนียงอีก พวกเขาพาชาวบ้านส่วนหนึ่งมาถึงบ้านและเปิดโปงว่าสือซื่อเหนียงเป็นนางจิ้งจอกจ้องทำร้ายคน ชาวบ้านจึงเป็นเดือดเป็นแค้น พยายามจะกำจัดสือซื่อเหนียงให้ได้ โดยไม่ฟังว่าแต่ก่อนนางเคยทำอะไรให้พวกเขาบ้าง ฉู่ปั้นซานเองก็ปั่นหูเฝิงเซิงจนเขาชักไม่แน่ใจว่าสือซื่อเหนียงปกปิดอะไรเขาบ้างโดยเฉพาะเรื่องที่ฮ่องเต้ยอมเข้ามาช่วยคดีของเขา เขาไม่แน่ใจว่านางทำผิดหน้าที่ของภรรยาโดยพลีกายให้ฮ่องเต้ไปหรือไม่ เมื่อไม่แน่ใจ เขาจึงได้แต่นิ่งเฉย ไม่ช่วยเหลือสือซื่อเหนียงที่กำลังโดนนักพรตใช้เวทย์มนต์จับตัว และไม่ยอมช่วยอธิบายใด ๆ เพื่อแก้ต่างให้กับคนที่เขารักเลยแม้แต่น้อย




สือซื่อเหนียงเห็นท่าทางของสามี แม้ประหลาดใจแต่ก็ยังไม่คิดว่าเขาจะไม่เชื่อถือนางไปด้วย

นางถามเขาด้วยน้ำเสียงอันน่าเวทนายิ่งนักในขณะที่ชาวบ้านพากันรุมประชาทัณฑ์

"เซี่ยงกง(ท่านพี่)ท่านก็ไม่เชื่อถือข้าหรือ? เซี่ยงกง"

เฝิงเซิงรู้สึกสับสนเป็นอย่ายิ่ง เขาไม่อาจประสานสายตากับนาง เกรงว่าเมื่อเห็นสายตาอันวิงวอนของนางแล้ว เขาจะใจอ่อน แต่ไม่ทราบว่านางปกปิดอะไรเขาอยู่บ้าง เขาจึงได้แต่เมินหน้าไปอีกทางหนึ่ง กริยาเช่นนี้สือซื่อเหนียงเข้าใจดี นางได้แต่ใช้สายตาที่หม่นหมองมองดูเขา มองดูคนที่นางรัก มองดูคนที่เคยให้สัญญาว่าจะดูแลกันไปชั่วชีวิต บัดนี้คำสัญญาเหล่านั้นกลายเป็นแค่ลมปากหวานหูเท่านั้น



นักพรตได้โอกาสใช้ยันต์กักขังและทำร้ายนาง สือซื่อเหนียงบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วจึงสู้ไม่ได้ แม้บิดาของนางที่เข้ามาช่วยก็ช่วยไม่สำเร็จต้องพ่ายแพ้ให้แก่นักพรตจนถูกจับตัวไปขังและเดินประจานรอบเมือง มีแต่ลู่เอ๋อร์เท่านั้นที่ตามขบวนประจานไปและคอยขอความเมตตาจากชาวเมือง พร้อมทั้งร้องเรียกสือซื่อเหนียงด้วยความเป็นห่วงอย่างที่สุด

เฝิงเซิงเก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่สนใจคำนินทาใด ๆ ทั้งสิ้น เขาโดนท่านปู่ด่าเสียยกใหญ่ว่าเป็นทายาทคนสุดท้ายที่ท่านหวังพึ่งให้สืบตระกูลแต่กลับไปเอานางจิ้งจอกน่ากลัวเข้าบ้าน เฝิงเซิงนิ่งเงียบ ความดีของสือซื่อเหนียง ความรักของเขาที่มีต่อนาง กับความสงสัยที่บังเกิดในใจ กำลังตีกันวุ่นวายในจิตใจเขาจนปั่นป่วนไปหมด เขาทำผิดไปแล้วหรือไม่ที่ไม่เชื่อใจนาง? ทั้ง ๆ ที่สือซื่อเหนียงทำดีตลอดมา ในสายตาเขานางไม่เคยบกพร่องต่อหน้าที่ของภรรยามาก่อน นอกจากครั้งนี้เท่านั้น เขาควรทำอย่างไรต่อไป?

ลู่เอ๋อร์เห็นสือซื่อเหนียงกับบิดากำลังจะถูกเผา นางขอเอาน้ำไปให้ทั้งสองดื่ม ชาวบ้านเป็นลู่เอ๋อร์ไม่มีพิษมีภัยจึงอนุญาต บิดาของสือซื่อเหนียงตั้งคำถามกับบุตรสาวว่า ไม่ว่านางจะทำอะไรให้ชาวบ้านมาเท่าไหร่ พวกเขาไม่เคยจะแยกแยะออก เมื่อเห็นว่าเป็นจิ้งจอก ก็สรุปว่าชั่วร้าย พวกเขาลืมความดีทุกอย่างที่นางเคยทำ เอาแต่จะเผานางให้สิ้นซากเสียถ่ายเดียว และยังมีเฝิงเซิงที่นางรัก แต่กลับไม่ยอมออกหหน้าช่วยเลย สือซื่อเหนียงเริ่มทบทวนคำพูดของบิดาและเริ่มสำนึกเสียใจ

แต่เมื่อได้ยินลู่เอ๋อร์บอกว่าพวกชาวบ้านไม่รู้ความ เซี่ยงกงก็ไม่ตั้งใจ สือซื่อเหนียงเห็นว่าที่แท้การเป็นมนุษย์นั้นช่างอ่อนแอและน่าสงสาร นางให้อภัยพวกเขาและจะทำความดีต่อไป กับเฝิงเซิงนางรู้สึกเสียใจไม่น้อย นางจะหาเหตุผลอะไรมาอธิบายแทนเขาดีเล่า?

ลู่เอ๋อร์เห็นสถานการณ์ไม่ดี ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปหาเฝิงเซิง และเกลี้ยกล่อมให้เขายอมมาช่วยสือซื่อเหนียง แต่เฝิงเซิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสงสัยจึงไม่ยอมไป ลู่เอ๋อร์เห็นสามีขลาดกลัวพลังของชาวบ้าน นางตกลงใจไปช่วยเอง และบอกว่า หากเซี่ยงกงไม่ไปช่วยสือซื่อเหนียงตอนนี้ ชาตินี้จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว พูดจบก็รีบวิ่งจากไป

ที่ลานหมู่บ้าน เปลวเพลิงโชติช่วง สือซื่อเหนียงกับบิดากำลังจะถูกเผาทั้งเป็น พวกชาวบ้านพากันตกใจเมื่อมีคนใช้รถขนถังน้ำใบใหญ่มาดับเพลิงและตะโกนว่า

"สือซื่อเหนียง ไม่ต้องกลัว ข้ามาช่วยแล้ว"

เขานั่นเอง เฝิงเซิง เขาคิดตกแล้ว เขามาช่วยภรรยาที่เป็นปีศาจแต่จิตใจงดงาม เขาผิดต่อนาง เขาสำนึกแล้ว! แม้จะต้องขัดแย้งกับคนทั้งเมืองรวมทั้งญาติผู้ใหญ่อย่างท่านปู่ก็ตาม

นักพรตไม่ยอมละเว้นจะทำร้ายสือซื่อเหนียงอีก แต่บิดาของนางเข้าช่วยโดยยอมสละชีวิต สือซื่อเหนียงได้แต่หนีไป นางใช้เวทย์มนต์เสียพลังไปมาก ผมที่หงอกขาวประปรายกลายเป็นขาวโพลน!




ทั้งสามพากันไปหลบภัยในถ้ำ สือซื่อเหนียงบาดเจ็บหนักและร่างกายอ่อนแอ บิดากับพี่น้องของนางตายจนหมดสิ้นแล้ว แม้แต่สือเอ้อเจี่ย(พี่สาวคนที่สิบสอง)ที่ฉลาดเฉลียวก็ต้องตายเพราะฝีมือของฉู่ปั้นซาน ก่อนตายสือเอ้อเหนียงได้บอกสาเหตุการตายของพี่น้องทุกคนให้สือซื่อเหนียงทราบ นางปลงตกต่อคำว่า "ฉิง" และคำว่า "อ้าย" แต่เริ่มเข้าใจโลกและความเป็นไปของโลก ตอนนี้นางเปลี่ยนมา "เมตตา" สรรพสัตว์และคิดว่าหากไม่รีบช่วยฉู่ปั้นซาน และหาทางกำจัดนั้นนักพรต สองคนนี้จะต้องก่อเภทภัยอันใหญ่หลวงให้แก่ชาวบ้านชาวเมือง นางปรึกษากับเจ้าแม่ประจำเมือง ขอให้พลังการบำเพ็ญเพียรที่สะสมมาหลายร้อยปีมาสะสมและสามารถใช้ออกได้ในวันเดียว ซึ่งการนี้จะส่งผลให้นางกลายเป็นอากาศธาตุไปในยามสนธยาของวันนั่นเอง



สือซื่อเหนียงไม่นำพา นางหวังว่าจะช่วยฉู่ปั้นซานที่ตอนนี้เริ่มแย่เพราะไฉหลังเยาบงการอวัยวะในร่างกายของเขาให้ทำชั่วโดยร่างกายของฉู่ปั้นซานเองไม่สามารถจะบังคับตนเองได้ แม้ฉู่ปั้นซานจะเริ่มคิดได้ว่าค่าตอบแทนนี้ไม่คุ้มแม้แต่น้อย แต่เขาบังคับตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ยังมีนักพรตชั่ว สือซื่อเหนียงต้องหาทางกำจัดเภทภัยนี้โดยเร็ว






นางต่อสู้กับนักพรตอย่างดุเดือด และพยายามไล่วิญญาณของไฉหลังเยาออกจากร่างฉู่ปั้นซาน พอดีเฝิงเซิงเข้ามาจึงโดนวิญญาณของไฉหลังเยาสิง โชคดีที่เฝิงเซิงตั้งมั่นในความดีและด้วยความช่วยเหลือของสือซื่อเหนียง วิญญาณของไฉหลังเยาออกไปในที่สุด เมื่อไม่มีกายเนื้อ ไฉหลังเยาจึงเข้าสิงร่างนักพรตอธรรมแทน ทั้งสองไม่ชอบหน้ากันอยู่แล้วเมื่ออยู่ในร่างเดียวกันจึงเกิดการทะเลาะเบาะแว้งและหวังครอบครอองกายเนื้อนี้ทั้งคู่ ทั้งสองอธรรมต่อสู้กันในร่างของนักพรต และก็แพ้ภัยตัวเอง ต้องมอดไหม้ไปจนเป็นเถ้าถ่านในที่สุด



ใกล้สนธยาแล้ว สือซื่อเหนียงต้องจากทุกคนไป นางขอให้เอาเงินที่นางทำงานฝีมือไปขายจนสะสมได้มาจำนวนไม่น้อยนั้นไปซื้ออาหารช่วยคนจน เฝิงเซิง ลู่เอ๋อร์ และแม้แต่ฉู่ปั้นซานที่สำนึกผิดแล้วเข้ามาช่วยแจกทานด้วย ชาวบ้านเองก็เริ่มรู้สึกว่าทำผิดต่อสือซื่อเหนียง พวกเขาไม่กล้าเข้ามารับอาหารที่สือซื่อเหนียงแจก



สือซื่อเหนียงพยายามเกลี้ยกล่อมทุกคนให้เข้ามารับอาหารไป ท้องที่หิวโหยของทุกคนรอไม่ได้อีกแล้ว ด้วยความซึ้งใจจึงคุกเข่าให้กับสือซื่อเหนียงที่ทุกคนเคยคิดจับนางเผาทั้งเป็น ขอให้นางอภัยให้แก่ความไม่รู้ของพวกเขาด้วย



สนธยาแล้ว อาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า สือซื่อเหนียงยืนมองทุกคนด้วยสายตาอันเมตตา มือของนางเริ่มกลายเป็นละออง ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ฝนตกลงมาเหมือนร่ำไห้ให้กับใครบางคน หรืออาจเป็นการปลอบประโลมแผ่นดินที่แห้งแล้งมานาน สายฝนอันชุ่มฉ่ำที่โปรยปรายปรากฎเป็นประกายสีทองอันเจิดจรัส ทุกคนเห็นสือซื่อเหนียงบนท้องฟ้า และทราบว่า นางได้สำเร็จเป็น "เซียน" ดังปรารถนาแล้ว




อวสาน



จบเสียแล้ว รุ่งอรุณที่ดูจบก็มาถามตนเองว่า เรื่องนี้สอนอะไร? ดูเอามันส์ก็ใช่ ดูงานสร้าง และอะไรต่าง ๆ นานาของหนังก็ใช่อยู่ แต่ต้องฉุกคิดสักนิดนึงเหมือนกัน คำแรกในหัวเลยก็คือ "มนุษย์นั้นอ่อนแอ" เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางมากจริง ๆ

แยกเป็นข้อ ๆ กันไป อ้อ ความคิดเห็นนะคะ ต้องออกตัวไว้ก่อน

1. ฉู่ปั้นซาน คนนี้เรียกลมเรียกฝนได้ อ้อ.... หมายความว่ามีอำนาจมากมาย แต่มีปัญหาสุขภาพ เลยอยากแกร่ง พอได้นักพรตมาช่วยเอาพลังของไฉหลังเยาใส่ในกายตน ก็ลบข้อบกพร่องไปได้ ทำให้ฉู่ปั้นซานสนุกสนานกับการใช้ชีวิตมากขึ้น ทีนี้เลยเกิดกลัวว่าถ้ากลับมาเหมือนเดิมอีก เขาจะโดนดูถูกอีก ก็เลยให้นักพรตทำพิธีดูดพลังของไฉหลังเยา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า "เยา" คือปีศาจกลับไม่กลัว แต่กลัวเกิดข้อบกพร่องของบุรุษเพศมากกว่าเลยยอมเสี่ยงทุกอย่าง ไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะกลัวคนอื่นจะมาดูถูกนั่นเอง ความอ่อนแอในจิตใจของเขาทำให้เกิดความกลัว และเมื่อกลัวเรื่องหนึ่งมากกว่าอีกเรื่องหนึ่งเลยทำให้ทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง ฉู่ปั้นซานนับว่าเป็นคนน่าสงสารคนหนึ่ง แต่ความชั่วไม่เคยส่งเสริมให้ใครได้ดีอยู่แล้ว เขาต้องได้รับกรรมและกลับมาคิดได้ในที่สุด

2. พระเอกของเรื่องอีกคน เฝิงเซิง อยู่ ๆ ก็เกิดสงสัยในตัวของซิงสือซื่อเหนียงขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย กับการทำดีมาตลอด พอเจอคำพูดเป่าหูไม่กี่คำก็หวาดกลัวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ เพียงเพราะกับการที่ "ภรรยา" ของตนเองเป็นปีศาจ คำว่าปีศาจที่ทุกคนเกรงกลัวพลอยทำให้เขารู้สึกเกรงกลัวไปด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเฝิงเซิงที่รู้แต่แรกแล้วว่าสือซื่อเหนียงเป็นอะไรจะเกิดความกลัวและไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ ในภรรยาเช่นนี้ มาคิดหาเหตุผลให้เขาสักหน่อย เฝิงเซิงอาจจะกลัวและคิดไม่ถึงว่า ภรรยาของตนจะมีอำนาจเพียงนี้ เพียงตะกุยเขาเบา ๆ ตอนที่นางไม่รู้สึกตัว ทำให้เขาต้องเจ็บระบมไปทั้งตัว เอาเถอะ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เฝิงเซิงจะให้สัญญาทำไม ตอนให้สัญญายังตั้งมั่นและจริงใจขนาดนั้น เอ...หรือว่าจะกลัวท่านปู่รู้และตำหนิ และกลัวไปถึงว่าท่านปู่จะผิดหวังในตนเอง จึงได้แสดงอาการเมินเฉยต่อสือซื่อเหนียงในขณะที่นางต้องการคนให้กำลังใจมากที่สุด อย่าลืมว่า ตอนนั้นนางเสียพี่น้องทั้งหมดไปแล้ว แถมยังบาดเจ็บสาหัส และตอนที่นางทำเพื่อเฝิงเซิงนางก็บอกเขาจนกระจ่างทุกอย่าง แล้วทำไมเฝิงเซิงยังไม่เชื่อมั่นในตัวนางอีก เอาเป็นว่าเป็นเพราะบทหนังก็แล้วกัน สรุปห้วนไปหรือเปล่าเนี่ย?


3. ชาวบ้าน ในเรื่องก็ช่างเชื่ออะไรง่าย ๆ เสียเหลือเกิน พอได้ยินคำว่า "ปีศาจ" ก็กลัวกันใหญ่ แม้สือซื่อเหนียงจะเคยเอายามาต้มแจก และไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ แต่ชาวบ้านลืมความดีของนางหมดเลย จะเผานางจิ้งจอกท่าเดียว ถึงว่า ความดีทำยาก ทำตั้งนาน แต่ความชั่วมันยั่วเย้าให้ทำมากกว่า หากสือซือเหนียงทำเพราะต้องการให้เห็นความดี คงไม่มีทางสำเร็จเป็นเทพแน่ ๆ ชาวบ้านที่จิตใจอ่อนแอและเปราะบาง โดนอะไรกระทบนิดหน่อยก็เอนไปตามกระแส ก็ไม่ว่ากันเพราะชาวบ้านก็คือชาวบ้าน เป็นตัวละครที่คอยทรมานทรกรรมคนทำดี จนให้บรรลุถึงคุณธรรมชั้นสูง มาเถอะ มาทำดีกัน แม้มันจะยากแต่ก็เป็นนิรันดร์

อยากให้มีหนังแนวบาปบุญคุณโทษออกมาเยอะ ๆ คนจะได้เกรงบ้าง สมัยนี้เพื่อความอยู่รอดแล้ว อะไรก็เอา แม้แต่น็อตเสาไฟฟ้า ของหลวง โลงศพอลูมิเนียมของเหยื่อสีนามิหรือเว้นแม้แต่แผ่นทองบนองค์พระ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คนทำลายธรรมชาติ และแล้วทุกวันนี้ธรรมชาติก็น่ากลัวขึ้นทุกวัน ไม่อารีเหมือนก่อนอีกแล้ว นี่แหละ "กฎแห่งกรรม" ผู้ทำกรรมย่อมได้รับผลของการกระทำนั้น ๆ อย่างสาสม (นึกถึงฉู่ปั้นซานกับนักพรตอธรรม กลับมาเข้าเรื่องอีกจนได้)

จบแล้วจริง ๆ ค่ะ ไว้คุยกันเรื่องอื่นค่อไป


Create Date : 02 พฤษภาคม 2551
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 22:14:39 น. 47 comments
Counter : 14402 Pageviews.  

 
เกาะติดขอบจอ ว้าว เต๊ะเล่นด้วยเหรอเนี่ย


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:32:37 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณจอมยุทธหญิง จะบอกว่าเราได้ไทเก๊กของน้องฟงมาแล้วค่ะ และก็นิยายเรื่อง "ไจ้เซิงหยวน" อ้อ เรื่องที่ฟงฟงเล่นเป็น "หวงผู่เส้าหัว" น่ะค่ะ จำได้ไหมเอ่ย


ตอนซื้อสองเรื่องนี้คิดถึงท่านจอมยุทธหญิงจังเลยล่ะค่ะ


โดย: มามิยะ IP: 124.120.85.98 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:58:12 น.  

 
ตามอ่านอยู่นะคะ
หลี่ซือซือ หน้าเฉยมากเลย แสดงจริงเป็นยังไงบ้างคะ


โดย: หลิงเอ่อร์ IP: 125.26.145.187 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:35:31 น.  

 
หวัดดีจ้าหลิงเอ๋อร์ หากได้ดูหลี่ซือซือใน "เส้าเหนียงหยางเจียเจี้ยง"(เวอร์ชั่นเดียวกับหูเกอ) จะเห็นว่าเรื่องนี้มีพัฒนาการขึ้นมาแล้วจ้า เรื่องนั้น แข็งกว่านี้เป็นพันเท่า ตอนนี้เรื่องนี้ดูมีอารมณ์ดีขึ้นมาก เรียกได้ว่าพัฒนาจากท่อนไม้เป็นมนุษย์แล้วล่ะจ้า เปรียบแบบอย่างนี้เห็นภาพชัดไหมคะ

การแสดงอาศัยประสบการณ์จริง ๆ ต้องคอยดูต่อไป เรื่องนี้ที่ยกนิ้วให้หลี่ซือซือคือเรื่องบินจ้าบินโฉบไปโฉบมาได้เนียนกว่าที่คิดมาก ท่ากังฟูก็ไม่เลว พัฒนาการ พัฒนาการมีจริง ๆ จ้า



โดย: มามิยะ (mamiya ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:49:07 น.  

 
คุณมามิยะ เรื่องไทเก๊ก เราดูแบบเจาะเป็นช่วงๆ ไปอ่ะค่ะ
ยังรอฉบับซับอังกฤษอยู่

ส่วนเรื่อง Eternal Happiness ที่ฟงฟงเล่นเป็นหวงผู่เส้าหัวนั้น
สารภาพว่ายังดูไม่จบเลยค่ะ ดูข้ามๆ เป็นบางช่วงเช่นกัน
เพราะตอนที่ได้มายังไม่มีซับอังกฤษ เพิ่งมาได้ฉบับแฟนซับทีหลัง
เลยหมดความกระตือรือล้นที่จะดูซะงั้น

ยังไงก็รบกวนช่วยเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ จะได้ดูสนุกยิ่งขึ้น


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:32:38 น.  

 
คุณจอมยุทธหญิงคะ กำลังคิดถึงพอดี มีเรื่องอยากจะบอกค่ะ

1. ไทเก๊ก ตอนนี้หายสาบสูญไปไหนก็ไม่รู้ เราว่าซื้อกลับมาแล้ว ซองก็อยู่นา กลับบ้านมาแกะซองแยกแผ่นออกมา แต่มันหายไปแล้ว หาไม่เจอเลย ตอนแรกนึกว่าอยู่แต่ตอนนี้เพิ่งค้นพบว่ามันอันตรธานไปเสียแล้ว เลยยังมาคุยไม่ได้ค่ะ

2.เรื่อง "ไจ้เซิงหยวน" (Eternal Happiness) เราดูจบนานเกินไปจนจำไม่ค่อยได้แล้วล่ะค่ะ ส่วนนิยายตอนนี้กำงเดินทางกลับเนื่องจากเราซื้อหนังสือกลับมาเยอะมาก เกือบ 40 กิโลฯ จึงต้องส่งลงเรือมา อีกเดือนกว่าจะถึง ถ้าเปิดอ่านแล้วมีประเด็นน่าคุย จะมาคุยอีกทีนะคะ

3. ตอนนี้รู้สึกสมองกลวง ๆ เราเลยอ่านหนังสืออีกหลาย ๆ เล่มและดูสารคดี บังเอิญว่าเราได้ดู "ไป่เจียเจี่ยงถาน" ซึ่งเป็นสารดีเอาอาจารย์ดัง ๆ มาวิเคราะห์เรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง แรก ๆ เราว่าจะดู "ลู่หยิว"(กวีคนหนึ่ง) แต่ในแผ่นดันเริ่มด้วยเรื่อง "ความรักคืออะไร?" เราก็เลยลอง ๆ ดูเพราะ คิดถึงซื่อหยี กับ เซิ่งหนาน และเราก็พบว่าจากทฤษฏีความรัก ที่วิทยากรพูด ซื่อหยี ไม่ได้"รัก" เซิ่งหนานค่ะ แต่เป็นความ "สงสารและสำนึกผิด" มากกว่า เพราะหากเป็นความรักจะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
1. มีแต่การให้และไม่คิดครอบครอง
ขอวิจารณ์จากในหนังสือนะคะ ซื่อหยีมีแต่คิดหลบหนีจากเซิ่งหนานตลอด พอถูกบังคับให้แต่งงานก็กะว่าจะฆ่าตัวตายเสียเลย เพื่อขู่เอายาถอนพิษไปให้กู่จือหัว ตลอดมา เขาไม่เคยคิดเป็นผู้ให้หรือคิดถนุถนอมเซิ่งหนานเลย ในทางกลับกัน เขาขึ้นเขาไป เบื้องหน้าจะไปไหว้ศพหลี่ซื่อเหนียง แต่ใจลึก ๆ อยากเจอหน้าจือหัว เมื่อเห็นจือหัวถูกรังแก เขาก็ช่วยเหลือ ถนุถนอมนาง ส่วนเซิ่งหนานล่ะคะ หวังดีกับซื่อหยีตลอด พวกตำราวิชาต่าง ๆ ของสำคัญของนางก่อนตายมอบให้ซื่อหยีทั้งหมด แม้นางจะตายขอเพียงให้ซื่อหยีจดจำว่ามีคนเคยรักเขามาก แต่เมื่อนางตายไปแล้วขอให้ซื่อหยีครองรักกับจือหัวอย่างมีความสุข

เห็นไหมล่ะคะ? ว่าเซิ่งหนานต่างหากที่เข้ากฎข้อนี้ เป็นผู้ให้มิได้คิดครอบครอง

2. ต้องมีความต่อเนื่องยาวนาน มิใช่แค่ประเดี๋ยวประด๋าว
มาดูซื่อหยีก่อน แต่แรกเห็นจือหัวแล้ว เขาชอบนางและเห็นว่าเป็นนางในฝัน ขณะเดียวกันเขาได้รับความรักจากเซิ่งหนานที่ทำทุกอย่างเพื่อเขา เมื่อนางตายเขาจึงรู้สึกว่าเขายังดีกับนางไม่เพียงพอเท่ากับการที่นางทำเพื่อเขา ดังนั้น เขาจึงหยุดคิดถึงความรักของตนกับจือหัว แต่หันมาเฝ้าหลุมศพเซิ่งหนานตอบแทนค่าความรักของนาง เขาได้แต่นึกถึงความดีของนางอยู่พักหนึ่ง ใช่ค่ะ พักใหญ่ ๆ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็กลับไปหากู่จือหัวอีก และได้แต่งงานกันในที่สุด ใครที่ชอบ "ลี่เซิ่งหนาน" ห้ามอ่านเรื่อง "ปิงเหอสี่เจี้ยนลู่" (冰河洗剑录) เป็นอันขาด เพราะเรื่องนี้จือหัว ซื่อหยีออกมาอีก เพราะเป็นเนื้อความหลังจากเรื่อง "อวิ๋นไห่อวี้กงหยวน" (รักเหนือฟ้าฯ) 20 ปี

ความจริงเป็นการดีแล้วที่ทีวีบีทำออกมาแบบนั้น มันคลุมเครือแต่ก็ดีกว่าชัดเจน เพราะเมื่อชัดเจนคนอ่านบางคน หรืออาจเรียกได้ว่ากลุ่มหนึ่งก็ต้องเกิดอาการไม่ชอบใจบ้างเป็นธรรมดา หรือในทางตรงข้ามบางกลุ่มอาจชอบใจก็เป็นได้

ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เพียงแต่เราคิดไปคิดมาแล้ว ก็อยากให้เกิดความชัดเจนเท่านั้นเอง พอชัดเจนแล้ว ตัวเราเองกลับไม่ชอบ "จินซื่อหยี" เอาเสียเลย

แถมได้ข่าวที่ไม่ชัดเจนนักว่า จางจี้จง อาจเอาเรื่องนี้มาทำใหม่ แต่ตอนนี้ข่าวยังเงียบ ๆ อยู่เลย ไม่แน่อาจเปลี่ยนใจก็ได้ เพราะหลังจาก จ.จ.จ. (จางจี้จง)หันหลังให้ป๋ากิมย้งและมาจ๊ะจ๋ากับปู่เนี่ย(อุ่เช็ง) แทน นักดูรุ่นใหม่กลับไม่ค่อย่รู้จัก ปู่เนี่ยฯ สักเท่าใดนัก ไม่แน่ว่าท่านจางอาจเปลี่ยนใจก็เป็นได้ แต่ที่แน่ ๆ คือ เราชอบปู่เนี่ยฯ ปู่เนี่ยฯ ภาษาสวย แม้ดำเนินเรื่องช้า แต่ภาษาละเมียดละไม


คุยแค่นี้ก่อนนะคะ นอกประเด็นไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้


โดย: มามิยะ IP: 124.121.241.178 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:26:21 น.  

 
มาอ่านค่ะ คุณมามิยะ เรื่องนี้ เราเองก็มีแผ่นค่ะ แต่โหลดมา มันไม่ครบด้วยล่ะ แต่มันก็มีตอนนี้นะ สรุปว่ามันมีกี่ตอนจบกันแน่ยังสงสัยอยู่ค่ะ น้องหลี่น่ารัก ดูแปลกไหมคะ แทนที่จะดูพระเอกนางเอก

---------------------------

เรื่องรักเหนือฟ้า ดีแล้วค่ะที่ไม่ได้อ่าน ไม่งั้นอาจพาลเกลียดซื่อหยีจริงๆ เพราะตอนดูก็รู้สึกว่าพี่ชายไม่แฟร์กะเสิ่นหนานเลย ให้ตายสิ(นี่ขนาดเป็นฟงฟงเล่นนะ ยังไม่คิดเข้าข้างเลย)

---------------------------------
ส่วน EH เราดูจบแล้วค่ะ ตะยี้ตะบันดูจนจบเลย อันนี้พอดีพี่เพลงส่งอผ่นซับอังกฤษมาให้เลยดูยาวเลยค่ะ สนุกนะเรื่องนี้ ไม่รู้ว่ามันมีนิยายด้วย ชอบบรรยากาศของเรื่องนี้ค่ะ มันอบอุ่นน่ารักสมชื่อเรื่อง


โดย: midori (momoka ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:33:03 น.  

 
คุณมามิยะ

555 สงสัยของเขาแรงจริงๆ ซื้อมากับมือยังหายไปได้
จริงๆ ก็ดีค่ะ เผื่อเราได้ฉบับซับอังกฤษมา จะได้คุยกันได้สนุกขึ้น

เรื่อง Eternal Happiness เคยอ่านที่ไหนไม่ทราบว่านางเอกจริงๆ แล้วรักอิสระ
ไม่ได้อยากแต่งงานกับใครเลย ไม่ว่าจะเป็นหวงผู่เส้าหัว หรือองค์ชายมองโกล
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ขอดูหนังอย่างเดียวดีกว่า

สำหรับเรื่องความรักนั้น โดยส่วนตัวเชื่อว่า ความรักมีหลากหลายรูปแบบค่ะ
การรักโดยไม่หวังครอบครอง เป็นความรักในอุดมคติ ที่หาได้ยาก
ไม่ใช่ความรักที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่
จินซื่อหยีอาจจะรักลี่เซ่ินหนาน ก็อาจจะรักกุ๊จื่อหัวด้วยในเวลาเดียวกัน
ถ้าเซิ่นหนานไม่ตาย ซื่อหยีอาจจะไม่ได้แต่งกับจื่อหัว
ความรักที่ซื่อหยีมีให้กับเซิ่นหนาน เป็นทั้งความรัก สงสาร ซาบซึ้ง
ส่วนความรักที่มีให้กับจื่อหัว เป็นความรัก ที่มีนับถือ และอยากปกป้อง
ถ้าพูดตามประสาจะเด็ด ก็ต้องบอกว่ารักตะละแม่จันทราด้วยใจภักดิ์
รักตะละแม่กุสุมาด้วยใจปอง ฟันธงว่าพี่ซื่อหยีขอสองค่ะ




โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:53:11 น.  

 
โห พี่เพลง ซื่อหยี่ขอสองเลยรึคะ

งั้นก็ต้องพวกอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนสิคะ

เลือกไม่ได้เพราะคนนั้นก็แสนดี คนนี้ก็รักจริง

ถ้าในหนังน่ะรับได้ แต่ของจริง เออ เลือกใครคนหนึ่งไปเลยดีกว่า ได้อย่างเสียอย่างไง

แต่พี่วิเคราะห์ได้เด็ดดวงมากสมเป็นผู้เชี่ยวชาญ


โดย: midori IP: 124.120.204.58 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:19:04 น.  

 
คุณจอมยุทธหญิง

ในที่สุดก็หาไทเก๊กเจอแล้วดูไปสองตอนแล้วล่ะค่ะ เฮ้อ รอฟงฟงอยู่ยังไม่ออกเลย

สำหรับเรื่องซื่อหยี เซิ่งหนาน จือหัว ความรัก ที่คุณจอมยุทธหญิงว่ามาก็ไม่ผิดค่ะ ความรักมีหลายรูปแบบจริง และทั้งนี้ก็ไม่จำกัดเฉพาะความรักหญิงชายเท่านั้น ในโลกนี้ยังประกอบไปด้วยความรักมากมายหลายรูปแบบซึ่งเป็นที่เข้าใจได้อยู่

ความรักที่ไม่หวังครอบครองและการเป็นผู้ให้นั้น ว่ากันตามความจริงในปัจจุบันที่คุณจอมยุทธหญิงบอกว่าไม่ได้เกิดกับคนส่วนใหญ่นั้นก็ไม่ผิด ความรักแบบนี้เหมือนสัตว์ประหลาดล็อคเนส เชื่อว่ามีและเหมือนมีคนเคยเห็นแต่ก็เหมือนตำนาน จนแทบกลายเป็นอุดมคดิไปแล้ว แต่มันก็เคยมีอยู่ และจัดเป็นความรักอันบริสุทธิ์ ซึ่งประโยชน์ของมันก็คืออาจเป็นทฤษฎีอธิบายข้อสงสัยบางประการได้

สำหรับความรักของซื่อหยีนั้น เราสองคน คงจะวิจารณ์ออกจากแหล่งที่ต่างกัน ของคุณจอมยุทธหญิงคงจากหนัง แต่มามิยะคงจากหนังสือ นับว่าเป็นความหลากหลายที่แลกเปลี่ยนกันได้

โดยที่แรก ๆ แล้ว มามิยะเองพยายามหาคำตอบ แน่นอนเริ่มต้นจากหนัง เมื่อหาคำตอบไม่ได้จึงพยายามหาจากหนังสือ ซึ่งการอธิบายสิ่งใดก็ตามอิงจากความคิดของเราเองอาจดูเลื่อนลอยไปหน่อย นี่เป็นเหตุว่าทำไมจึงขบคิดประเด็นซื่อหยีนี้จังเลย เพราะคำตอบที่ตนเองได้ยังรู้สึกว่าไม่เติมเต็มเสียที จึงต้องอาศัยหลักการตามที่นักวิชาการทั้งหลายว่าเอาไว้ เมื่อได้ขบคิดทบทวนหาคำตอบแล้วจึงอดคิดถึงคุณจอมยุทธหญิงไม่ได้เลยพยายามส่งข่าวไปบอกเมื่อมีเรื่องเกี่ยวกับจินซื่อหยี กู่จือหัว และลี่เซิ่งหนาน

มาบัดนี้ มามิยะทราบแล้วว่าคุณจอมยุทธหญิงก็ได้คำอธิบายที่ชัดเจนให้กับตัวเองแล้ว มามิยะเองก็ได้คำอธิบายให้แก่ตัวเองแล้วเช่นกัน


ในเมื่อเราทั้งสองต่างได้คำอธิบายให้แก่ตัวเองแล้ว ประเด็นนี้ก็ถือว่าเคลียร์ไปเสียที อย่างน้อยความเห็นที่แตกต่างก็ช่วยให้เรื่องราวมีสีสันขึ้น มีเหลี่ยมมีมุมที่มองจากหลายด้านขึ้น เพราะไม่ใช่ว่าคน ๆ เดียวจะมองเห็นทุกแง่ทุกมุม ซึ่งนับเป็นเรื่องดีของการได้คุยกัน

เรื่องการแต่งงานของซื่อหยีกับจื่อหัวนั้น สำหรับมามิยะยังมีคำถามอยู่นิดหน่อยว่า กลับไปเจอกันได้ยังไงอีกนั่น และเมื่อแต่งงานกับจือหัวแล้ว เซิ่งหนานในใจซื่อหยีเป็นอย่างไร คงจะต้องค่อย ๆ ตามอ่านงานของท่านเนี่ยฯ ต่อไป

เซิ่งหนานในหนังสือมีสาวใช้ฝีมือดีถึง 4 คน ความจริงแล้วเท่ห์ไม่หยอกเลย แต่ในหนังดูโดดเดี่ยวไปหน่อยนะคะ

เรื่องนี้ เยี่ยเซวียน หลินฟง เล่นไว้ดีมากจนเจ้าใหม่ที่มาเล่นคงลำบากหน่อย เหมือนกับเรื่อง "ไจ้เซิงหยวน" ที่หลี่ปิงปิงเล่นกับหวงไห่ปิงก็ออกมาได้ไม่สู้เวอร์ชั่นเดิม หรือเพราะว่าเวอร์ชั่นเดิมมันประทับอยู่ในใจแล้วก็ไม่ทราบ จึงทำให้รู้สึกเช่นนี้

กลับมาไทเก๊ก เปิดเรื่องด้วยฉากสวยงามเลยทีเดียว หนังทีวีบีทำดี แต่ตอนนี้ติดอยู่ประการเดียวคือ รู้จักหน้าดาราเกือบหมดเลย เลยออกจะเบื่อ ๆ ไปนิดหน่อย สำหรับคนที่รอคอยก็มีบางฉาก ซึ่งอาจจะเลือกดูแต่ฉากที่คนที่อยากดูออกละกระมังคะ

หลับฝันดีค่ะ ขอให้เจอฟงฟงในฝันนะคะ ขอแอบเจอโค่วจงด้วยแล้วกันค่ะ




โดย: mamiya วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:57:57 น.  

 
แวะมาทักทาย

ได้ข่าวว่าไปเจอะเจอเหล่าสหายมาด้วยนี่นา

ดูรูปแรกนึกไม่ถึงว่าเป็นเต๊ะ ทำไมโทรมจัง (หรือเราคิดไปเอง)

ยังไม่ได้อ่านเรื่องย่อหรอกค่ะ แค่ดูรูปไปก่อน เวลาไม่เอื้ออำนวยเลยค่ะ

สวัสดีหลิงเอ๋อร์กับคุณจอมยุทธหญิงด้วยค่ะ


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:41:35 น.  

 
รออ่านตอนอื่นๆนะคะ
อิอิอิ


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.142.147 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:44:29 น.  

 
พี่ฟง คิดถึงจังเลยค่ะ

กลับมาป่วยไป 2 อาทิตย์ ตอนนี้หายเกือบดีแล้วค่ะ

พี่คะด้วยความเมาแผ่นของมามิ ได้ซื้อ "ต้วนฉางเจี้ยน" มา2 ชุด พี่ช่วยเอาไปดูหนึ่งชุด เดี๋ยวจะส่งให้เลย แหะ แหะ พากย์จีนค่ะพี่ มามิก็ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน ออกแนวตลกไม่ค่อยโปรดสักเท่าไหร่ เอาไว้ว่าง ๆ เบื่อ ๆ ค่อยดู

ส่วนกระบี่หงส์ แผ่น 1 มันมีปัญหาจริง ๆ ค่ะ ต้องรอเพื่อนเอามาให้ใหม่อย่างเดียวเลย ยังขาด ๆ อยู่ค่ะ

วันนั้นพอดีไปให้กำลังใจท่าน น.(ที่นานมีซอยสุขุมวิท 31)เพราะท่านได้รางวัลนักแปลอาวุโสดีเด่น จากสมาคมล่ามและนักแปลแห่งประเทศไทยค่ะ พี่คะ ท่าน น. ใจดี๊ดี น่ารัก ชอบ ชอบค่ะ(ชอบ 2 ตัวหมายความว่าชอบมาก แหะ แหะ) เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือจริง ๆ เสร็จงานเลยลากเพื่อนไปด้วยที่งาน แต่อยู่ได้แป๊บเดียวก็กลับ พร้อมหลิงเอ๋อร์ที่ได้พยากรณ์ประกาศิตไปด้วย ส่วนมามิก็ซื้อเล่ม 2 มาด้วย กลับมาแล้วก็ไม่ได้อ่าน พอเห็น "เมี่ยฉิน" (อวสานจิ๋นซี) ซื้ออีกแล้ว อ่านไปนิดหน่อย เวลามีจำกัด ต้องแบ่ง ๆ ไปทำหลายอย่างเหลือเกิน

น้องเล็กเป็นอย่างไรบ้างคะ พี่คะ ตอนนี้บอร์ดกำลังมีปัญหา ชุมนุมชาวยุทธไม่รู้จะดำเนินไปได้หรือเปล่านะคะ อาจมีใครบางคนทำหน้าที่นัดก็ได้

หลิงเอ๋อร์จ๊ะ มือหายดีหรือยัง? โปเยฯตอนอื่น ๆ ยังหาแผ่นไม่ได้ ที่มีอยู่ก็ตอน "เหลียนเฉิง" แต่ไม่หนุกเลย ไม่คุ้มค่าเล่า ความจริง "ซิงสือซื่อเหนียง" ก็ไม่ถึงกับหนุกสุด ๆ แต่ในระยะเวลานี้นับว่าเป็นเรื่องที่ใช้ได้ที่สุดแล้ว ไม่รู้ว่าปลายปีจะมีเรื่องใหม่ออกมาอีกหรือเปล่า เช่น
1.มังกรหยก (หูเกอ กะน้องเอเรี่ยล คนโปรดของหลิงเอ๋อร์ไงคะ พี่จะคิดว่าเป็นหลิงเอ๋อร์แล้วกันนะ หรืออาจจะเปลี่ยนมาเรียกหลิงเอ๋อร์ว่า "ย้งยี้" ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
2.หงเฟิ่น(จางจื้อหลิน) ฉายมาตั้งนานแล้วที่จีน แต่ไม่เคยเห็นแผ่นเลย ไม่รู้ทำไม
3.ต้าถังหยิวเสียจ้วน อีก 2 เดือนจะฉายแล้ว รอร้อรอ รอตั้งแต่เริ่มไหว้เจ้าเปิดกล้องเลยล่ะ
4.ต้าหม่าโถว(อู๋ฉีหลง - เฉินเต๋อหยง) ดูมาตอนอยู่จีน มันส์ดีเหมือนกัน เป็นเรื่องชีวิตฝ่าฟันของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แล้วมีคุณหนูมาหลงรัก (จะดีเหรอ? เหอ เหอ...)

อ้อ..ขอบ่นนิดนะคะ ตอนนี้ค่าครองชีพแพงมาก อะไร ๆ ก็แพง ข้าวจานละ 35 กินไม่อิ่มเลย ม่าม่า ก็ลดปริมาณลง แล้วใครอยากกินอิ่มก็ไปซื้อบิ๊กแพ็คเอา ไม่เพิ่มตังค์ก็ลดคุณภาพ เฮ้อ เฮ้อ ....ตอนนี้ค่ารถตู้คิวประจำก็ขึ้นเป็นขาละ 50 บาทแล้ว ชีวิตหนอชีวิต อย่างกะบ่นแล้วจะดีขึ้นแหน่ะ แหะ แหะ ......


พี่ฟง มาคุยต่อ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ ไปญี่ปุ่นมาใช่ไหมคะ? เล่าให้ฟังบ้างสิคะ


คิดถึงค่ะ ทุกคน


โดย: มามิยะ IP: 124.122.133.214 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:09:49 น.  

 
คุณมามิยะเจ้าขา กว่าฟงฟงจะออกน่ะหรือ โอ๊ย รอไปอีกหลายตอนเลยเชียวค่ะ
ดีที่ไม่ต้องรอนานเท่าเรื่อง Heart of Greed 8 ตอน ออกมา 7 วินาที
เล่นเอาแม่ยกเซ็ง หนีไปดู The Drive of Life ดีกว่า ออกมันทุกตอน

ไทเก๊ก ก็กระโดดดูเฉพาะช่วงฟงฟงออก อาศัยมีแฟนคลับทำเรื่องย่อให้อ่านทุกตอน
เลยเข้าใจเรื่องเป็นอย่างดี บางช่วงที่อินกันมากๆ ถึงกับมีบางคนทำซับอังกฤษกันเลยทีเดียว

เรื่องพี่ซื่อหยีนั้น เคยคิดเหมือนกันว่าถ้านางเอกอีกคนไม่ใช่น้องหลี่ไฉ่หัว ความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ค่ะ
ด้วยความที่น้องหลี่เธอเล่นได้แข็งมาก ไม่ทำให้เราเอาใจช่วยเธอเลย
ทั้งๆ ที่บทเธอออกจะนางเอ๊ก นางเอก สมมติว่าเอาหยังอี้มาเล่น คงจะสนุกกว่านี้
เหมือนมังกรคู่ ชอบทั้งหยังอี้ และน้องหลี่เชียนเลยค่ะ เชียร์ไม่ถูกเลย
อยากจะให้พี่โค่วจง ลงเอยกับสองสาว จะดีไม่น้อย

พูดถึงฝันเนี่ย หมู่นี้หลับไม่ฝันเลยค่ะ เหมือนไม่ได้หลับยังไงไม่รู้ สงสัยจะงานหนักเกินไป เดือนนี้สาหัสสุดๆ มีงานซ้อนกัน 6 งานได้ค่ะ
ถ้าคืนนี้ฝันถึงฟงฟง คงจะต้องขอบคุณคุณมามิยะล่ะ

ผลงานของท่านเนี่ย ไม่ค่อยได้ติดตามเลยค่ะ เคยอ่านเรื่องนางพญาผมขาวแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะผู้แปลหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเย่ินเย้อเกินไป
เลยทำให้ไม่ได้ติดตามเรื่องอื่นๆ

เรื่องพยากรณ์ประกาศิต อ่านนิยายแล้ว คิดว่าหนังผูกเรื่องได้ตื่นเต้น น่าติดตามกว่า ในนิยายดูจะโหดร้ายเสียเหลือเกิน ตายกันเป็นว่าเล่น
บางตัวละคร โผล่มาหน่อยเดียวก็ตายเสียแล้ว คนอ่านยังไม่ทันรู้สึกผูกพันเลย
ไม่เหมือนในละคร หรือจะเป็นเพราะฟงฟงเล่นก็อาจจะมีส่วน
ทำให้ชอบบทท่านหมอมากกว่าบทพระเอก ในนิยายกลับให้ตายง่ายๆ ซะงั้น

สวัสดีท่านน้องมิ คุณฟงเฟยเซียะ และคุณหลิงเอ๋อร์ด้วยค่ะ


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:25:51 น.  

 
แวะมาทักทายพี่มามิคับ
ยังอ่านไม่หมดนะครับ เดี๋ยวดึกๆมาอ่านต่อ อิ อิ
เรื่องนี้ตอนนี้เอามาฉายช่อง 3 ด้วย ตอนน้องเล็กเห็นหน้าเต๊ะครั้งแรก
ไม่แน่ใจว่าใช่เค้าหรือเปล่า แต่งชุดจีนแล้วเนียนกลมกลืนมากกก
น้องเล็กเพิ่งไปโหลดเรื่อง ฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่นกับหมอดูเทวดามาดู
ดูจบแล้ว ชอบคนที่เล่นเป็นหมอดูมาก เค้าเล่นเป็นฮ่องเต้ในเรื่อง Hero อะครับ
ในซี่รี่ยส์เรื่องนี้ ภาษาไทยออกเสียงชื่อเค้าว่า ตงฟางซั้ว
( แต่ไปดูอีกเวอร์ดันออกเสียงพยางค์หลังคนละเสียงกัน )
ตอนนี้ช่อง 3 กำลังฉายภาค 2 อยู่ อยากดูมากกกกกกกกกกกกก เง้อๆๆๆ

ลองเอารูปมาแปะไม่รู้จะขึ้นอะป่าว ถ้าไม่ขึ้น ฝากพี่มามิลบโค๊ดคำสั่งทิ้งได้เลยนะคับ

Image Hosted by ImageShack.us


โดย: หงส์น้อยแซ่เล็ก IP: 58.9.165.201 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:41:16 น.  

 
อิ อิ อิ แปะรูปได้แล้ว โย๊วๆๆๆๆๆ
ลืมบอกไปอีกอย่าง เรื่องนี้ The prince of han dynasty ชอบพระเอกที่เล่นเป็นฮ่องเต้มาก
เท่ห์โคตรๆ แถมเล่นเก่งด้วย ภาค 2 ก็เล่นดีไม่แพ้ภาคแรกเลย ได้ดูแว๊ปๆ




โดย: หงส์น้อยแซ่เล็ก IP: 58.9.165.201 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:45:10 น.  

 
ใช่ หวงเสี่ยวหมิง รึเปล่าคะพี่เซี่ยวหงส์

พี่มามิยะคะ หลิงเอ๋อร์อ่านพยากรณ์ประกาศิตแล้วอยากกรี๊ด ไหนเอี๊ยยี้ ทำไมน่ารักแบบนี้ ไม่น่าเลยยยย
อ่านบลอคพี่ magarita30แล้วเป็นอีกแบบเลย
รออ่านเล่มสามค่ะ


โดย: อึ้งเหล็งยี้ IP: 125.26.138.134 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:52:15 น.  

 
อ้าว หลิงเอ๋อร์ เปลี่ยนชื่อซะแล้วรึเนี๊ยะ

แล้วพี่จะเรียกว่าไงดีค่ะ อึ้งเหล็งยี้ ..อืมมมม สาวน้อยแก้มป่องรึนี่

ว่าแต่ว่าพยากรณ์นี่ได้ข่าวมาว่า เล่ม 3 ออกแล้วนี่คะ

อย่างว่าจริงๆจ้า ไหน่เอี๊ยะยี้เท่ห์มากๆเลยค่ะ แม้ว่าในหนังฟงฟงจะเล่นได้ทะเล้นไปซะหน่อย
เพราะตามบทน่าจะเป็นคนนิ่ง ทำนองพูดน้อยต่อยหนักมากกว่า

แต่เนื่องจากความน่ารักของฟงฟง ยอมค่ะยอม

ท่านจอมยุทธหญิงคะ ในหนัง รู้สึกได้ว่าบทเด่นดูจะเทให้ให้ฟงฟงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ เป็นการผสมระหว่าง 2 ภาค
คือพยากรณ์ประกาศิตกับแพทย์เหนือแพทย์นะคะ

แต่บทเด่นฟงฟงขโมยซีนหมดค่ะ (รู้สึกแบบนี้จริงๆ)

มามิจ๋า ได้คุยกันแบบนี้ดีแล้วค่ะ คิดว่าคงไม่ต้องทำไรแล้วล่ะ

เก็บมาเล่าเล็กน้อยว่าด้วยเรื่องไปญี่ปุ่นนี่ดีกว่า
สำหรับพี่ ต้องเรียกว่ามีโชคนะคะ
เพราะแต่เดิมแผนเป็นช่วงปีใหม่ แต่ว่าด้วยการเป็นโรคกลัวหนาวสุดๆของพี่
เลยขออัปเปหิตัวเองไปช่วงสงกรานต์แทน นับว่าโชคเข้าข้างเพราะได้เห็นซากุระสวยๆที่กำลังบานพอดีเลยค่ะ
อากาศก็ไม่หนาวจัด แล้วก็ แต๊น แต่น แต๊น ดีสนีย์แลนด์ค่ะได้เล่นเครื่องเล่นตั้งโหลนึง โชคดีมั่กๆจริงๆ(คุยค่ะ ขอคุย..อายุเท่าไหร่เนี๊ยะเรา????) เนื่องจากบางท่านเล่นได้ไม่ถึง10 ค่ะ

จะแปะรูปให้ดุก็ เอ่อ..เขาแปะกันยังไงคะ

(สงสัยต้องไปถามน้องเล็ก อีกทีก็ให้แปะให้นะแหละ)

สนุกตอนเที่ยวค่ะ กลับมาก็งานนนนนนนนนนค่ะ งาน
เต็มโต๊ะเลยค่ะ ขอเวลาสะสางงานก่อนนะคะ

ว่าแล้วเหลียวไจ๋ เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่านเลยง่ะ

ดูรูปไปพลางๆก่อนก็แล้วกัน



โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:48:36 น.  

 
หวัดดีค่า ทุกท่าน

คุณจอมยุทธหญิงคะ ต้องรอไปอีกนานแค่ไหน ฟงฟงถึงจะออกคะ? (อ้อ....ความจริงfeng จะต้องเขียนว่าเฟิง อันนี้ตารางถอดเสียงเขาให้มา)แต่เพื่อความคุ้นเคยแล้ว ก็ขอ "ฟง" ด้วยคนแล้วกันค่ะ บางทีก็เลือกไม่ถูกระหว่างความถูกต้องกับความคุ้นเคย ซึ่งบางทีความคุ้นเคยจะกลายเป็นความถูกต้องไป เช่นคำว่า จอมยุทธ แต่ก่อน ไม่เป็นต้องประการันต์ เดี๋ยวกันประกันเป็นว่าเล่น หาในดิกก็ไม่มีเลยไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันต่อไป เคยไปหาเอกสารวิทยานิพนธิ์เก่า ๆ (ไม่ใช่ปัจจุบัน) จอมยุทธ ไม่มีการันต์แน่นอน ถึงบอกว่า ไม่รู้ความเคยชินจากการใช้แบบรุ่นใหม่จะกลายเป็นความถูกต้องหรือเปล่า พูดมากไปก็จะกลายเป็นซีเรียส แต่คิดว่าควรมีมาตรฐานเพื่อความถูกต้องเหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้าเขียนหนังสือแล้วพิมพ์ออกมาเนี่ยยิ่งต้องระวัง

ไปไกลอีก....กลับมาค่ะ เรื่องนิยายของป๋าเวิน(รุ่ยอัน) ก็เป็นงี้อีกแล้ว เคยอ่านบทวิจารณ์ แกก็โดนว่าเรื่องฆ่าตัวละครง่ายไปเหมือนกัน อีกเรื่องที่โดนว่าคือวิทยายุทธเลิศเกินแบบซูปเปอร์แมนไปหน่อย ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่แนวสูซัน(ศึกเทพยุทธเขาสูซัน)


น้องหลิงเอ๋อร์จ๋า ด๊อกเตอร์ด้วยกัน เปลี่ยน เป็น ด.ร. ล่ายหลิงเอ๋อร์ ด้วยก็ได้นะ คนหนึ่งแผนโบราณ อีกคนแผนปัจจุบัน เข้ากันเป็นเนื้อคู่ ชะเอิงเอย(ล้อเล่นจ้า) อิ.... อิ...

อ้อ...เล่ม 3 ออกแล้วจ้า ปกเดิมแต่เปลี่ยนสี คือแบบว่าไม่สังเกตุไม่รู้ว่าเล่ม 3 เลยอ่ะจ้า

น้องเล็กขา มาแล้วหรือ คิดถึง คิดถึง รู้สึกว่าเคยดูนะเรื่องนี้ แต่ว่าออกมาแรก ๆ หมั่นไส้พระเอก อะไร ๆ ก็ "เนี่ยนหนูเจียว" เลยหมั่นไส้ซะเลิกดูไปเลย ผู้ชายแทนที่จะทำการใหญ่ มัวไปหลงผู้หญิง ไม่ถูกใจเลยหยุดดู ไม่รู้ว่าต่อไปจะหายมัวเมาหรือเปล่าเนาะ แต่หยุดดูไปแล้ว

จะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าหยิบมาดูโดยไม่ดูดาราเลย ชื่อเรื่อง "มู่เต้า"(แปลว่าทาง(วิถี)สุสานหรืออาจจะแปลชั้นสองได้ว่าทางไปสู่ความตายก็อนุโลมได้ตามท้องเรื่อง) เป็นเรื่องเกี่ยวกับตำรวจจีนที่จับพวกชอบลักลอบขโมยของเก่า ของโบราณโดยการไปขุดสุสาน แรก ๆ กะว่าจะดูว่ามีอาถรรณพ์อะไร เผื่อเก็บมาคิดเรื่องบาปบุญคุณโทษได้บ้าง แต่เปล่าค่ะ เป็นเรื่องของโจรค้าของเก่าที่ทำผิดโดยการลักลอบขุดสุสานก่อนที่จะขึ้นทะเบียนเป็นของหลวง โดยโจรพวกนี้จะสืบหาข้อมูลจากอาจารย์ทางโบราณคดีแล้วไปเจาะสุสานก่อนทางการไปถึง โดยมีพระเอก(หน้าตาแบบว่าธรรมดามาก ๆ ใครได้ดูอาจถามว่ามาเล่นหนังได้ไง) เป็นตำรวจคอยสืบและขัดขวาง ที่เห็นได้จากเรื่องนี้คือ เรื่อง ของ "กรรม" หมายถึงการกระทำที่ทำให้ใครคนหนึ่งต้องลำบาก ซึ่งบางที การกระทำนั้นมีแรงจูงใจมาจากนิสัย(ขอเรียกขั้นสุดว่าสันดานนะคะ)ขั้นสุดของคนผู้นั้น จนนำให้เขาต้องพบจุดจบอย่างสาสม

จะบอกว่าหนังนอกสายตาพวกนี้ทำให้เห็นฉากเมืองจีนที่ห่างไกลและวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบบ้าน ๆ มาก ๆ ที่บางทีเราเองไม่เคยเห็นเลยล่ะค่ะ ดีเหมือนกันเป็นมุมหลืบ ๆ ที่ท้องถิ่นที่สุด


พี่ฟงคะ เล่าอีก ไปเล่นอะไรบ้างคะ มามิไม่กล้าเล่น เพราะกลัวค่า พี่ฟงเด็ดจริง ๆ และพี่ขาเมื่อวานว่าจะส่งแผ่น "ต้วนฉางเจี้ยน"ให้ รีบร้อนใหญ่ แต่ไปรษณีย์ปิด พี่คิดดู คนเรามันเบอะปะเฟอะฟะ ขนาด เฮ้อ


ไว้มาอีกทีค่ะ ยังเขียนเรื่องไม่จบ


โดย: มามิยะ IP: 124.120.72.8 วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:43:14 น.  

 
ดู "ไทเก๊ก" ไปจนถึงฟงฟงออกแล้วค่ะ นักเรียนนอกนี่นา ฝีมือหมัดมวยก็ไม่เลว

เรื่องนี้เจ้าเหวินจั๋วดูดีมากในชุดจีน ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไปกำลังดีเลย

ส่วนการดำเนินเรื่อง ไวดีมาก สำหรับเราข้อเสียคือ รู้จักหน้ามากไปจนทำให้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง เป็นแค่ละคร พูดแบบนี้พอเข้าใจอารมณ์ไหมคะ อย่างคนที่เป็นตำรวจที่ชอบรังแก "จื่อกุย" (แสดงหูซิ่งเอ๋อร์) เห็นหน้ามาไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ทั้งเลวทั้งดี เหมือนรู้จักกันเลยไม่ค่อยอินกับเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่

ก็กรอ ๆ ดูแค่ฟงฟงเหมือนกันค่ะ บางทีก็หยุดดูท่ากังฟู ว่าสวยแค่ไหน


โดย: มามิยะ IP: 124.121.241.250 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:23:52 น.  

 
เพลงโปเยฯรุ่นยอดนิยม



โดย: มามิยะ IP: 124.121.241.250 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:42:00 น.  

 
เคยเอาเพลงนี้มาใช้เป็นเสียงเรียกเข้าด้วยค่ะ
ดังทีคนอื่นตกกะใจกันหมด รวมทั้งตัวเองด้วย
ล่าสุดเปลี่ยนเป็นเพลงกู่เจิงแทน


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.138.202 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:23:32 น.  

 
ถามนิดเถอะค่ะ มามิ

หลินฟง นี่ตัวจริงเล่นกังฟูเป็นรึเปล่าคะ เจ้าเหวินจั๋ว นะเล่นเป็นแน่ ท่าสวยด้วย

แต่ฟงฟงนี่ไม่น่าจะเป็นนะ เวลาเล่นหนังพวกกังฟูคงต้องฝึกน่าดู จริงๆ หนังกำลังภายในน่าจะใช้ตัวแสดงแทนง่ายกว่าหนังที่เป็นหมัดมวย

เคยเห็นเรื่องไทเก๊กนี่แว่บๆเหมือนกัน แต่ฟงฟงแต่งแบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบนะ

สำหรับเจ้าเหวินจั๋วนี่เห็นหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องนี้ดูดีเหมือนกัน ไม่ต้องโกนหัวด้วยเพราะไม่ใช่ยุคแมนจู

ยังแปะรูปไม่ได้เลย

เพลงโปเยนี่เป็นเสียงร้องของใครคะ มามิ


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:46:01 น.  

 
หลินฟงไม่แน่ใจค่ะ คงต้องถามท่านจอมยุทธหญิงกระมังคะ ส่วนเจ้าเหวินจั๋วเห็น ๆ อยู่ค่ะ

มามิรู้แต่ว่าบ้านหลินฟงรวย และพูดจีนกลางเก่งมาก (เก่งกว่าขวัญใจมามิค่ะพี่ อิ อิ คนนั้นพูดไม่ได้เรื่อง )


เรื่องนี้เฮียเจ้าเขาดูดีจริง ๆ ค่ะ


พี่ฟงถามน้องเล็กชิ้นสดสิคะ รายนั้นเขาเป็นแล้ว

เพลงโปเยฯ นี้เป็นเสียงร้องาของ"เฉินเสี่ยวตง" ค่ะพี่ ก็ตอนที่เล่นโปเยฯ ดาราเยอะ ๆ คู่กับต้าเอสนั่นแหละค่ะ ความจริงถ้าจะขลังของของฉบับเลสลี่แตมามิหาไม่ได้เลยเอาเพลงนี้แปะแทนค่ะ

เมื่อกี้อ่าน "ทายาทมังกร" โกรธพระเอกนิด ๆ อารมณ์ยังค้างอยู่เลยค่ะ ฮี ฮี.......


พี่คะ มามิอ่านจน "ต้าถังฯ" หลุดเป็นชิ้น ๆ เลย ฮือ ฮือ ตอนนี้ต้องเอาไปซ่อม ไปแถวแยกเกษตรเห็นว่ามีเย็บด้าย(เชือก) แต่หาตั้งหลายร้านไม่เจอ หาไปหามาตั้งนานก็ได้มา 1 ร้าน แต่ต้อง 3-4 วันกว่าจะเสร็จใจจะขาดรอน ๆ แลวล่ะค่ะ ก็เลยเอาทายาทมังกรมาอ่านขัดตาทัพไปก่อน

คิดถึงเถี่ยหมอเล่ออีกแล้วค่ะพี่.......

พี่อ่านอะไรอยู่คะ? น้องเล็กชิ้นสดด้วย ตอนนี้ชักเริ่มอยากอ่านเรื่อง "เยวี่ยหนี่เจี้ยน" ของกิมย้งซะแล้ว เหอ เหอ เหอ จะเอาเวลาที่ไหนเนี่ย?......

หนังมันส์ ๆ ไม่มีเลยค่าพี่ระยะนี้เป็นไรไปไม่รู้ สั่ง "ลู่ติ่งจี้"(อุ้ยเสี่ยวป้อ) ฉบับเสี่ยวหมิงไปแล้ว ต้องรอ ร้อ รอ อยู่เนี่ยแหละค่า



..........


โดย: มามิยะ IP: 124.120.76.254 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:40:46 น.  

 
จำไม่ได้เหมือนกันค่ะว่ามีฉบับที่เลสลี่จางร้องไว้รึเปล่า

เหมือนจะมีconcert ของเลสลี่จาง แต่ไม่รู้ว่ามีเพลงนี้อยู่ใน
concert รึเปล่า

ตอนนี้หรือคะ อ่านจิ้งเหลนมหากาฬ(ชื่อน่ากลัวดี)ของอึ้งเงกับดาบล่าวิญญาณของท่านอ้อเล้งเช็งอยู่ค่ะเห็นว่าเป็นเรื่องเดียวกับนักสู้ผู้เกรียงไกรไม่รู้ใช่รึเปล่า

ช่วงนี้พี่กำลังติดหนับกับอ้อเล้งเช็งค่ะ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะอืดไปบางช่วง แต่ก็มันส์ดีค่ะ

อ่านควบสองเรื่องนี่หนักค่ะ แถมอ่านๆหยุดๆเพราะไม่ค่อยมีเวลา

ฝนตกหนักช่วงนี้ บ้านก็รั่ว

มามิ แปะรูปหลินฟงในเรื่องไทเก็กให้ซัก2-3รูปได้เปล่าคะ
จะเก็บไว้หน่อย อ๋อ ขอเฮียเจ้าด้วยนะ เท่ห์ดี

ว่าแต่นี่พูดเรื่องโปเยนะแต่ไหง๋ไปโผล่ที่ไทเก๊กแล้วหว่า

เพิ่งรู้นะคะว่าหวงเสี่ยวหมิง เล่นหนังใหญ่เรื่อง Banquet(สะกดถูกรึเปล่าหว่า) ด้วย

ระวังเป็นหวัดนะคะ ฝนตกทุกวัน ดูแลสุขภาพด้วย


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:48:29 น.  

 
มาตามคำเรียกร้องค่าพี่ขา.....

段晓星 ต้วนเสี่ยวซิง(ดาวประกายพรึก morning star) ชอบชื่อนี้จังเล้ย เสี่ยวซิง เสี่ยวซิง......... (เรียกแล้วดูเพ้อ เพ้อไงก็ไม่รู้ เหอ เหอ เหอ)






巫马 อูหม่า






ต้วนเสี่ยวซิง+อูหม่า





"ไท่จี๋" หรือ "ไทเก๊ก" หนังชุดจากค่ายทีวีบี ดาราหน้าคุ้นทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ



โดย: มามิยะ IP: 124.121.244.62 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:05:43 น.  

 
เจ้าเหวินจั๋ว ดูดีมากๆค่ะ กับเรื่องนี้ หน้าละอ่อนลงเยอะ
เวลาไว้ผมยาวๆ ดูไม่ค่อยได้เลย

ฟงฟง ชื่อเสี่ยวซิง หรือ อืมมมม ความหมายเพราะจังเลยค่ะ (ถึงกับเพ้อเลยรึ)

ผู้ชายอีกคนในรูปบนใครคะ มามิ

ส่วนดาราหญิงนี่จำหน้าได้ คล้ายแซมมี่จังเลยค่ะ

มาว่าโปเยดีกว่า หลีซือซือนี่ มองบางมุมคล้ายหลิวอี้เฟยจังแต่ยังสวยไม่ถึงขั้นนะ
หน้าตาแบบนี้แต่งง่ายดีค่ะ
อ่านเนื้อเรื่องจบแล้ว ชอบความหมายที่ว่า มนุษย์นั้นช่างอ่อนแอจริงๆค่ะ



โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:00:16 น.  

 
ผู้ชายอีกคนในรูปบนใครคะ มามิ

คนผมม้าชื่อ "หม่ากั๋วหมิง" เล่นเป็นเพื่อนรักของอูหม่า(เจ้าเหวินจั๋ว) ทั้งสองออกจากหมู่บ้านมาแสวงหาโชคข้างนอก และเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ดาราหญิง ตัวละครเอกที่คู่กับเจ้าเหวินจั๋ว คือ "อู๋เหม่ยเหิง"

ส่วนอีกคนคู่หลินฟงชื่อหูซิ่งเอ๋อร์ ครบ 4 คนแล้วนะคะ ยังมีอีกคนที่เด่นคือ "เหอซือยวิ่น" เล่นเป็นพี่สาวของหูซิ่งเอ๋อร์และได้กับหม่ากั๋วหมิงทั้ง ๆ ที่หม่ากั๋วหมิงมีภาระหมั้นหมายกับอู๋เหม่ยเหิงมาก่อน

เดี๋ยวงง เพิ่มเรื่องให้ย่อ ๆ ค่ะ

เจ้าเหวินจั๋วเป็นเด็กถูกทิ้ง อาจารย์เลี้ยงไว้และสอนวิชาให้ แต่อยู่มาวันหนึ่งอาจาย์ก็หายไปไหนไม่รู้ เจ้าเหวินจั๋วต้องเผชิญชีวิตตามลำพัง โดยมีหม่ากั๋วหมิงคบเขาเป็นเพื่อน แต่เจ้าเหวินจั๋วไปขัดใจกับคนมีอำนาจในเมืองนี้เข้าเลยถูกจับ หม่ากั๋วหมิงพยายามช่วย ช่วยไปช่วยมาหนีออกจากเมืองนี้ไปเสี่ยงโชค โดยการเป็นทหาร เพราะคิดว่ากลับมาจะได้ใหญ่ คานอำนาจกับพวกอิทธิพลในเมืองที่ตัวเองอยู่ได้ แต่ผิดคาด ทหารสมัยนั้นปล้นชิง ฆ่าคน ทั้งสองเลยช่วยครอบครัวของหูซิ่งเอ๋อร์กับพี่สาวเหอซือยวิ่นไว้โดยบังเอิญ เจ้าเหวินจั๋วช่วยกำจัดศัตรูที่ฆ่าพ่อหูซิ่งเอ๋อร์เพราะเข้าใจผิด แต่หูซิ่งเอ๋อร์กลับเห็นว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณเลยหลงรักเขา ส่วนหม่ากั๋วหมิงก็ไปมีสัมพันธ์กับพี่สาวของหูซิ่งเอ๋อร์ก็คือเหอซือยวิ่น ทำให้หม่ากั๋วหมิงที่มีภาระหมั้นหมายกับอู๋เหม่ยเหิงอยู่แล้วทำผิดต่อคนรัก คือไม่รักษาสัญญา

อู๋เหม่ยเหิงมาตามหาคนรัก เพราะเธอกำพร้าแม่หม่ากั๋วหมิงเก็บเธอมาเลี้ยง เธอจึงพยายามตอบแทนทุกวิถีทางและตามธรรมเนียมก็ต้องแต่งงานกับลูกชายของผู้มีพระคุณและดูแลรับใช้เขาตลอดไป แต่เมื่อพบว่าหม่ากั๋วหมิงผิดต่อเธอ เธอจึงรู้ว่าความจริงแล้ว "ครอบครัว" ต่างหากที่เธอพยายามรักษาไว้ การมีครอบครัวที่พึ่งพาอาศัยกันและอยุ่ด้วยกันช่วยเหลือกันต่างหากคือสิ่งที่เธอไขว่าคว้า เมื่อเสียไปแล้วเธอจึงไม่มีที่ไป

พอดีเจ้าเหวินจั๋วเจออาจารย์ที่หายไป และอาจารย์ได้ช่วยให้เขาพ้นคดีฆ่าทหารตาย อาจารย์พาเขาไปอยู่ด้วยเมื่อเห็นอู๋เหม่ยเหิงไม่มีที่พึ่งจึงให้มาอยู่หุงหาอาหารให้ อู๋และเจ้าเริ่มมีใจให้กัน

ส่วนหูซิ่งเอ๋อร์ไปมีเรื่องกับทหารในเมืองนี้จึงไปหาเจ้าเหวินจั๋วเพื่อขอร้องให้พาหนีและบอกว่าเธอรักเขา อยากหนีไปด้วยกัน แต่เจ้าไม่เล่นด้วย หูเลยโกรธเพราะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ เลยหนีไปเซี่ยงไฮ้ ไปพักโรงแรมไม่มีเงินจ่าย คิดถึงเรื่องเจ้าเหวินจั๋วไม่รับรัก เลยเมาหนัก เมาแล้วทะเลาะกับเจ้าของโรงแรมเรื่องเงินค่าห้อง ผลักกันไปผลักกันมาหัวกระแทกขอบโต๊ะ แล้วถูกโยนออกนอกโรงแรม เช้ามา หนุ่มนักเรียนนอกหลินฟงกำลังเตะบอลกับเพื่อน เจอหญิงสาวในพุ่มหญ้าที่บอลกระเด็นเข้าไป เมื่อหลินฟงไปเก็บจึงเจอสาวหัวแตกสลบอยู่ หูซิ่งเอ๋อร์นั่นเอง แต่ความจำเสื่อมไปแล้ว

หลิงฟงเลยรับมาดูแล

อ้าว.....ชักจะไม่ย่อ เอาแค่นี้ก่อนนะคะ


กลับมาเรื่อง"โปเยฯ" ค่ะพี่ขา คล้ายหลิวอี้เฟยเหมือนกัน ระยะนี้รู้สึกดีกับหลิวอี้เฟย เธอบริจาคเงินช่วยเหลือแผ่นดินไหวที่เสฉวน ถึง 1 ล้านเหรียญค่ะ พี่เสี่ยวหมิง เอี้ยก้วย บริจาคแสนห้า ดาราทั้งหลายช่วยกันทั้งภาครัฐและเอกชน

อ้อ กลับมาที่หลี่ซือซือ เล่นหนังดีขึ้นค่ะ

ส่วน มนุษย์นั้น อ่อนแอค่ะ พี่ จงถนอมเวลาให้ดี เพราะเวลาไม่อาจหวนคืน และที่สำคัญชีวิตไม่แน่นอน มันเปราะบางกว่าที่คิด และคาดเสมอ

ไปไหนแล้วก็ไม่รู้


โดย: มามิยะ IP: 124.120.82.136 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:03:32 น.  

 
จงถนอมเวลาให้ดี เพราะเวลาไม่อาจหวนคืน และที่สำคัญชีวิตไม่แน่นอน มันเปราะบางกว่าที่คิด และคาดเสมอ


อันนี้ได้จากการดูเรื่องนี้ค่ะ ความจริงหลาย ๆ เรื่องก็เป็นแบบนี้ เรียกว่า "ชะตาชีวิต" กระมังคะ

อ้อ....เริ่มง่วง เริ่มร้อนใจ ยังไม่ได้ทำการบ้านเลย ฮือ ฮือ ดองมาเป็นเดือน ชักจะไม่ไหวแล้ว ฮือ ฮือ อีกครา

โอดครวญสักหน่อย ปรับทุกข์สักนิด คงรู้สึกดีขึ้นล่ะมั๊งเรา แหะ แหะ โทษทีค่ะพี่ บ่นอีกแล้ว


โดย: มามิยะ IP: 124.120.82.136 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:39:54 น.  

 
ย้อนกลับไปอ่านด้านบนใหม่อีกรอบ

Eternal Happiness ชื่อเรื่องภาษาไทยว่าอะไรคะ แล้วมีเป็นนิยายด้วยหรือ
เห็นมามิคุยกับคุณจอมยุทธหญิงแล้วน่าดูจัง

เหมือนเคยเห็นตัวอย่างหนังรึไงนี่ ไม่รู้ใช่เรื่องเดียวกันรึเปล่า
แต่เห็นหลินฟงเล่นนะใช่ค่ะ เป็นนิยายของท่านเนี่ยอู๋เซ็งเหมือนที่บอกไว้แล้วมีแปลเป็นไทยรึเปล่าคะ
อยากอ่านแล้วล่ะ
ตอนนี้กำลังจะตกม้าตายเพราะอ่านดาบล่าวิญญาณของอ้อเล้งเช็งของสร้างสรรค์ที่พิมพ์ใหม่

โอยยยย สำนวนอ่านยากมากค่ะ แถมบางคำยังฟังแปลกๆ
เช่น เราจะสอนทีเด็ดเคล็ดลับให้กับเจ้า จงตั้งใจให้ดี

ฟังแล้วขัดๆพิกลเลย จะว่าภาษามันโบราณก็ใช่นะ แต่คำบางคำหรือบางประโยคไม่ไหวจริงๆค่ะ

ไม่ต้องกังวลเรื่องบ่นให้พี่ฟังนะ เพราะพี่ก็คงพอๆกันนะแหละค่ะ

ฝนตกหนักพอดีตอนนี้ ลมแรงมากเลย


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:54:49 น.  

 
Eternal Happiness ชื่อเรื่องภาษาไทยว่าอะไรคะ แล้วมีเป็นนิยายด้วยหรือ
เห็นมามิคุยกับคุณจอมยุทธหญิงแล้วน่าดูจัง

เรื่องนี้สนุกค่ะ ไม่มีชื่อภาษาไทย ถ้าจำไม่ผิดไม่ได้เข้าไทยนะคะ ต้องลองถามคุณจอมยุทธหญิงดูค่ะ เห็นว่าหลาย ๆ คนดูจากซับอังกฤษ ดีเหมือนกันที่ทีวีบีทำออกมาทำให้กลุ่มผู้ชมกว้างขึ้น

เรื่องนี้มาถึงแล้วค่ะ หลังจากรอคอยมานาน อ้อ หนังสือที่บอกว่าส่งมาทางเรือน่ะคะ ตอนไปอ่านในห้องสมุด มีหลายเวอร์ชั่นมาก แต่เขียนแบบบทงิ้วเลยล่ะค่ะ เซ็งชะมัด อ่านแล้วยืดเยื้อจังเลย เล่มนี้ว่าน่าจะอ่านได้แล้ว ยังยืดมาก ๆ บรรยายซะยิบ เพิ่งอ่านไปคร่าว ๆ เริ่มคิดว่า ดูหนังดีกว่า มามิชอบฉากที่เส้าหัว(หลินฟง)ขี่ม้าเพื่อมาหาเมิ่งลี่จวิน(เยี่ยเซวียน)แล้วโดนดักทำร้าย กับฉากที่เส้าหัวช่วยลี่จวินจนหัวไปโขกกับเสาตอนบ้านถล่มแล้วก็สลบไป ลี่จวินที่ปฎิเสธตัวเองว่าไม่เคยรักเส้าหัวมาตลอด บ่อน้ำตาแตกเลย สนุกดีค่ะพี่

เรื่อง "ไจ้เซิงหยวน" ไม่ใช่ของปู่เนี่ยฯค่ะ เป็นของ "เฉินตวนเซิง" (นักเขียนหญิงสมัยเฉียนหลง เกิด 1751 ที่หังโจว) เขียนเรื่องนี้ตั้งแต่อายุ 19 ปี พออายุ 20 ปีเขียนได้ 16 บทแต่เพราะมารดาจากไปจึงหยุดเขียน ชีวิตมีอุปสรรคมากมาย มาเขียนต่ออีกที 1784 เขียนได้ถึงบทที่ 17 แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เสียชีวิตด้วยอายุเพียง 46 ปี เรื่องไจ้เซิงหยวน มีทั้งหมด 20 บท 3 บทหลังนักเขียนหญิงสมัยชิงอีกท่านหนึ่งชื่อ เหลียงเต๋อเซิง(ฉู่เซิง) เป็นคนแต่งต่อ

ลักษณะการประพันธ์น่าจะเป็นกลอน จึงอ่านยากต้องมีคนมาเขียนให้อ่านใหม่ถึงจะเข้าใจได้



------

เช่น เราจะสอนทีเด็ดเคล็ดลับให้กับเจ้า จงตั้งใจให้ดี

โอ๊ะ....โอ...........เห็นด้วยขอรับ


พี่คะ หนังสืออีกลังมาแล้ว แต่ไม่ยอมส่งถึงบ้าน จะต้องออกไปขนเอามา ลังนี้น่าจะ เฉียด 20 โล ทำไงดี ไปรษณีย์เขตมามิไม่ยอมส่ง ของเพื่อนกล่องเท่ากันเลย น้ำหนักก็ไม่น่าจะต่างกันสักเท่าไหร่ เขาส่งถึงบ้านเลยล่ะค่ะ โอละหนอ วาสนาเรานี้.....

ไปก่อนนะคะ เย็น ๆ กลับมาใหม่


โดย: มามิยะ IP: 124.120.59.18 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:23:10 น.  

 
ว่าแล้วว่ายังไม่เห็นเรื่องนี้เข้าไทย

เอ...เรื่องที่หลินฟงเล่นเป็นหวังผู่เส้าหัวนี่ เหมือนเคยคุยกันกันหน้านี้
นึกไม่ออกว่า ไปแทรกอยู่ในเรื่องอะไร แต่น่าจะเป็นละครสมัยก่อนนู้น ชื่อเรื่องจอหงวนหญิง

ที่จำได้เพราะชื่อพระเอกนางเอกแหละ หวังผู่เส้าหัวกับเมิ่งลี่จิน ใช่เรื่องนี้รึเปล่าคะ มามิ

ถ้าใช่อยากให้เข้ามาจังจะได้ดูบ้าง ที่จริงซับอังกฤษก็ดูได้นะแต่บางทีก็ดูไม่ทันเอาซะเลย
ยิ่งถ้าบทพูดเยอะๆแล้วเถียงกันไปๆมาๆนะ สมองทำงานม่ะค่อยจาทันค่ะ

แปลกใจจังค่ะ จำไม่ได้จริงๆว่าเขากำหนดน้ำหนักของๆที่จะส่งเป็นเขตๆด้วยรึเนี๊ยะ เพิ่งรู้นะ
ว่าแต่ 20 โลนี่ก็เอาการอยู่เหมือนกันนะ เวลายกก็ระวังด้วยค่ะ มากกว่าข้าว 1 ถังอีก


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:35:23 น.  

 
เอ...เรื่องที่หลินฟงเล่นเป็นหวังผู่เส้าหัวนี่ เหมือนเคยคุยกันกันหน้านี้
นึกไม่ออกว่า ไปแทรกอยู่ในเรื่องอะไร แต่น่าจะเป็นละครสมัยก่อนนู้น ชื่อเรื่องจอหงวนหญิง


เหรอคะพี่ มีเรื่อง จอหงวนหญิง ด้วยหรือคะ แล้วใครเล่นล่ะคะ? พระเอกหวงผู่เส้าหัว นางเอกเมิ่งลี่จวิน แล้วก็มีพระรอง (หม่าเต๋อจง)เล่นเป็นเจ้าชายต่างเมือง มารักนางเอก และนางเอกก็ได้รับราชการ และได้เกิดการสอบจอหงวนขึ้นหลังจากเจ้าชายต่างเมืองห็นว่าน่าจะได้คนดีมีฝีมือมารับราชการจากการสอบจอหงวน(ว่าไปตามเนื้อหาของหนัง) นอกจากเวอร์ชั่นของหลินฟงแล้วก็ยังมีของหลี่ปิงปิงด้วย ดูไปตอนเดียวเลิกดู เพราะยังติดอยู่กับหลินฟง เยี่ยเซวียน แหะ แหะ สารภาพจ้า

ส่วนเรื่องหนังสือมา เขตของเพื่อนเขาจัดส่งถึงบ้าน เขาน่าจะน้ำหนักมากกว่าของมามิอีกค่ะ แต่ของมามิไม่ถึงวันนี้เห็นเขียนที่ลังว่า 18.7 น่าจะเป็นน้ำหนัก รีบไปเอาแต่เช้าเลย กลัวไปรษณีย์ปิด คราวนี้ได้เรื่อง "ทายาทมังกร" สุดโปรดกลับมาด้วย หลังจากอ่านในเว็บแล้วเจอตัวหนังสือต่างดาว คราวนี้น่าจะอ่านมันส์พะยะค่ะ ไปเลยล่ะค่ะ

พี่ฟงคะ มามิชอบพระเอกในเรื่องนี้จัง เพราะฉากเปิดตัวก็จินตนาการได้สวยงามจริง ๆ คิดภาพนะคะ อยากเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์งานฉลองของเมืองน้อยนั้นจังเลย เผื่อได้ยลโฉมพระเอกนักบู๊ นักดนตรี นักการศึกษา และเป็นอาจารย์ที่รักของเด็ก ๆ บ้านนอก แหะ แหะ ไปเพ้อที่อื่นไป๊....

หนังสือมันกินที่อยู่ของคนไปแล้วค่ะพี่ ซื้ออีกแม่ต้องให้พรแน่เลยค่ะ ฮิ ฮิ

เจ้าเพื่อนตัวแสบลืมก๊อปกระบี่หงส์ แผ่น 1 ให้ ต้องส่งแน่ ๆ ค่ะ ไม่ลืมค่ะ ส่งข่าวก่อน เดี๋ยวจะคิดว่ามามิลืมไปเสียแล้ว

พี่คะ ตอนนี้อยากดูเรื่อง "อุ้ยเสี่ยวป้อ" มากเลย เมื่อหลายวันก่อน ดูยูบีซี เรื่อง มังกรฟัดโลก ช่องเอเชี่ยนซีรียส์ เห็นหวงเสี่ยวหมิงเล่นเป็นลูกหงจินเป่า เลยนั่งดูเล่น ๆ เพราะเห็นหวงเสี่ยวหมิงแล้วนึกถึงเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ ขึ้นมาตะหงิด ๆ

อยากอีกอย่างคือ อยากเจอปู่เนี่ยฯตัวจริง เฮ้อ คงแค่ฝัน......




โดย: มามิยะ IP: 124.120.77.188 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:26:06 น.  

 
มีเรื่อง จอหงวนหญิง ด้วยหรือคะ แล้วใครเล่นล่ะคะ? พระเอกหวงผู่เส้าหัว นางเอกเมิ่งลี่จวิน

มีจริงๆค่ะ มามิ แต่เป็นละครสมัยช่อง 3 หรือช่อง 5 พี่ก็จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ
ที่จำได้แม่นแล้วขำจนทุกวันนี้คือ ฉากที่พระเอกรู้แล้วว่านางเอกเป็นผู้หญิง

พระเอกไปที่บ้านนางเอก (ซึ่งตอนนั้นสอบได้จอหงวนแล้วก็คงเป็นจวนประจำตำแหน่งนั่นแหละ)
ตอนโผล่เข้าไปในห้องหนังสือ แล้วเจอนางเอก(เพิ่งสอบสวนคดีเสร็จมั๊งยังแต่งชุดจอหงวนอยู่) พระเอกเผลอตัวเรียกหานางเอกว่า "เมิ่ง........(แล้วทำท่าจะพูดต่อ)"
ทำท่าจะเดินเข้าไปกอดด้วยนะ

นางเอกเราก็สวนฉับทันที "กลางวันแสกๆ ม่ง..เมิ่งอะไรกัน" (พยายามนึกตามนะคะ)

เพราะตอนนั้นความลับเรื่องปลอมตัวมาสอบจนได้จอหงวนนี่ ฮ่องเต้ยังไม่ทราบ
นางกลัวว่าถ้าทราบจะโดนโทษฐานหลอกลวง ต้องโทษอีก
พระเอกของเราก็อยากอยู่กับนางเอก เทียวไล้ เทียวคื่อทุกวัน เพื่อให้ได้พบได้เจอ

แต่ละครเรื่องนี้พี่ดูสมัยก่อนนู้นนนน ตอนนั้นยังเด็กมากเลยค่ะ ดาราเก่ามากๆ รุ่นเปาบุ้นจิ้นเวอร์ชั่นอี้หมิงได้ล่ะ (ที่มีเถียนเผิงเป็นพระเอกนะคะ ไม่รูว่ามามิรูจักรึเปล่า เป็นพระเอกในดวงใจอีกคนเลย) แต่พี่จำชื่อจริงของคนเล่นไม่ได้เลยค่ะ แต่พอจำหน้าได้ค่ะ
แต่เพลงเพราะติดหูมากค่ะ (มีเทปด้วยนะ) แต่เล่นได้รึเปล่าไม่ชัวร์ 555

หลังจากจบเรื่องนี้ ก็มีละครยอดหญิงกตัญญูตามมา เนื้อเรื่องคล้ายๆกันคือปลอมตัวมาสอบจอหงวนเหมือนกัน

ละครทั้งสองเรื่องนี่ ติดงอมแงมเลยค่ะ ต้องดูจบถึงยอมทำการบ้านค่ะ

ละครสมัยก่อนจะใช้ฉาก ไม่ได้ถ่ายทำนอกสถานที่
เวลาดูท่านเปาตัดสินคดี จะสังเกตว่า นักแสดงจะเดินออกมาจากทางซ้ายหรือขวาของฉาก

เคยนึกขำๆว่า ตอนนั้น ทำไมไม่มีใครเดินตรงๆเข้ามาซักคน ก็ฉากด้านหลังเป็นประตูนี่ค่ะ

อ้าว ดันรำพึงรำพันถึงความหลัง สมัยก่อนซะแล้ว

ถ้ามีภาพเรื่องจอหงวนหญิงเวอร์ชั่นหลินฟงนี่ มามิแปะภาพเรียกน้ำย่อยให้ดูด้วยนะคะ

เพิ่งเข้าไปดูบทบ้อเช้งที่หลินฟงเล่นในเวปกำลังภายใน
อืมมมม ไม่รูเนื้อเรื่องจะออกอ่าวออกทะเลหรือเปล่า

โอ้ ต้องไปละค่ะ ได้เวลาแล้ว



โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 61.91.83.66 วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:01:12 น.  

 
ช่วงนี้ ยุ่งกับการย้ายบ้าน ไม่ค่อยได้เข้้าเน็ตเลยค่ะ
แถมบ้านใหม่ก็ใช้ TOT แสนเซ็ง กำลังอยู่ในช่วงขอโทรศัพท์ ยังไม่มีเน็ตใช้


หลินฟงไม่ได้เป็นมวยไทเก๊กเหมือนเฮียจ้าวหรอกค่ะ
ฝึกสำหรับเล่นหนังอย่างเดียว เป็นพวกท่าสวยอ่ะค่ะ

ชื่อฟงฟงในไทเก๊ก คือ ต้วนเสี่ยวชิงหรือนี่ เสียวชิง ฟังดูน่ารักหน่อมแน้มบอกไม่ถูก










โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:40:00 น.  

 
เรื่อง eternal happiness ไม่ได้เข้าไทยหรอกค่ะ
แล้วทีวีบีก็ไม่ออกซับอังกฤษด้วยล่ะ แต่โชคดีมีแฟนคลับแสนขยันทำแฟนซับให้



เรื่องศึกเทพพยากรณ์พิชิตมาร ฟงฟงเล่นได้น่ารักน่าหยิก เป็นท่านหมอที่กวนโอ๊ยมาก
ดูแล้ว แย่งซีนพระเอกตลอด โดยเฉพาะเวลาคู่กับหลี่ซือยวิ่น หรือ เหอซือยวิ่น ตกลงน้องเธอแซ่ไหนกันแน่คะเนี่ย
ตอนแรกที่รู้ว่าฟงฟงเล่นคู่กับเธอก็แอบเซ็ง เพราะอยากให้คู่กับหยังอี้มากกว่า
แต่พอดูหนัง ก็เปลี่ยนใจค่ะ บทหยังอี้น่าเบื่อพอพอกับบทหลี่ปู้อี
ส่วนคู่ท่านหมอกับเยี่ยนเยี่ยไหล น่ารัก น่าลุ้นกว่ากันเยอะค่ะ มีสีสันดี ช้อบ ชอบ


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:47:05 น.  

 
โดยเฉพาะเวลาคู่กับหลี่ซือยวิ่น หรือ เหอซือยวิ่น ตกลงน้องเธอแซ่ไหนกันแน่คะเนี่ย


โอ๊ะ โอ...ต้องรีบหยิบซองมาเบิ่งอีกครา มันเขียนหลี่จริง ๆ นะเนี่ย แต่อย่าเพิ่ง ปักใจ เพราะแผ่นดินใหญ่ชอบทำไรเพี้ยน ๆ เรื่อย โดยเฉพาะภาษาอังกฤษช่างน่าตกใจเป็นยิ่งนัก ดังนั้นเลยขอเสริชดูก่อนนะคะ

หาจากนักแสดงหนังเรื่องนี้ 3 ไซท์ เป็นแซ่หลี่หมดค่ะ

//ent.sina.com.cn/v/h/f/taiji/

//www.xiaoyun.cc/MQList/526.htm

//www.liulina.com/html/star/20080405/1270.html

หลังจากนั้นก็เอาชื่อมาเสิร์ชอีกที ได้ผลว่าเป็นดาราทีวีบี ชื่อ เซลีน่า ลี (Selena Li)ผู้ซึ่งเล่นเรื่องไท่จี๋กับเจ้าเหวินจั๋ว หลินเฟิง(ชอบติดเขียนแบบนี้ ขออภัยต้องไปตามมือเสียแล้ว เนื่องจากเคยบอกว่าตาราถอดเสียงไม่มีฟงน่ะค่ะ ไปอิงตารางเลยติดเขียนแบบนี้) อย่าไปขัดใจกับเรื่องขีด ๆ เขียน ๆ เรามาว่ากันต่อ

//www.baidu.com/s?ie=gb2312&bs=%CC%AB%BC%AB+%D5%D4%CE%C4%D7%BF%B5%E7%CA%D3%BE%E7&sr=&z=&cl=3&f=8&wd=%C0%EE%CA%AB%D4%CF&ct=0


คราวนี้มาลองหาเหอซือยวิ่นว่ามีเปล่า?เอาเหอแบบกวนหย่งเหอก่อน
//www.baidu.com/s?ie=gb2312&bs=%D5%D4%CE%C4%D7%BF%B0%E6%CC%AB%BC%AB&sr=&z=&cl=3&f=8&wd=%BA%CE%CA%AB%D4%CF&ct=0

กดลองหาดูตามที่เสิร์ชได้ มีไซด์นี้มีศิลปินชื่อนี้ด้วย เคยร่วมงานเพลงกับเจิ้งซิ่วเหวิน

//v.9you.com/watch/kvxny0hit.html


เอ๊ะ ลองมาดูหน้าเธอหน่อย คนใส่เสื้อสีฟ้าย้อมผม ไม่ได้ชื่อ เหอซือยวิ๋นนี่นา เธอชื่อ เหอยวิ่นซือ (ดูจากลิงค์ข้างบนนะคะ) หน้านี้ตลกดี ตรงข้างบนหัวข้อเขียน เหอซือยวิ่น แต่ในคลิปเขียนเหอยวิ๋นซือ เลยมึนไปเลย ชื่ออะไรกันแน่หว่า แต่น่าจะเหอซือยวิ่นเพราะปริมาณที่เสิร์ชออกมามากว่า

คราวนี้มาขอดูหน้าคนที่ชื่อ เหอยวิ๋นชือกันหน่อย

//image.baidu.com/i?tn=baiduimage&ct=201326592&cl=2&lm=-1&pv=&word=%BA%CE%CA%AB%D4%CF+&z=0


มีไม่เกี่ยวมาด้วยตัดออก แต่ดูแล้วหน้าไม่ใช่ และอาชีพคือศิลปินเหมือนกัน แต่ไม่ใช่นักแสดง เหอซือยวิ่น ไปทางดนตรี


ไม่มีอะไรมากค่ะ มามิยะเอง ก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องดาราใหม่ ๆ เท่าไหร่ เลยลองหาดู เน็ตน่ะค่ะ เลยต้องหาหลาย ๆ แห่งหน่อย

คราวนี้มาดูหน้าคนที่ชื่อ หลี่ซือยวิ่น

//image.baidu.com/i?tn=baiduimage&ct=201326592&cl=2&lm=-1&pv=&word=%C0%EE%CA%AB%D4%CF&z=0&rn=21&pn=0

หน้าตาแบบนี้ ใช่แล้วค่ะ

เอาล่ะค่ะ ต่อไป ขอ แฟ้มประวัติ

ข้างบนเขาบอกว่า หลี่ซือยวิ่น เคยประกวดนางงามฮ่องกง ได้เบอร์ 18

//ent.tom.com/1306/1362/2003821-52489.html


ส่วนแฟ้มประวัติต่อไป

ขอคอนเฟิร์มหน้าก่อน

//www.rendb.com/people/r1188/showphoto_140191.html

ต่อไป ประวัติจากแหล่งอื่น (ไม่ใช่ข้างบน)

//www.tvsou.com/starshtml/23/star_3_2328.htm

แซ่หลี่จริง ๆ มีหน้าด้วย


เอาล่ะค่ะ สรุปได้แล้ว ดาราคนที่เล่นเป็นพี่สาวของหูซิ่งเอ๋อร์ชื่อว่า หลี่ซือยวิ่นค่ะ

แหะ ๆ เล่นเอาเหนื่อย กว่าจะได้ข้อสรุป หาความเคลี่ยร์ให้ตัวเองด้วยเช่นกันค่ะ


คุณจอมยุทธหญิง ย้ายไปอยู่ไหนแล้วล่ะคะเนี่ย? เพิ่งไปดูบล็อคของท่านเห็นกำลังติดเรื่องหนึ่งอยู่นี่คะ มันส์ใช่ไหมคะ? แต่มามิยะไม่ค่อยติดหนังสมัยใหม่ ไว้จะตามไปดูอีกค่ะ

ตอนนี้ "ลู่ติ่งจี้" ได้แล้ว เหอ เหอ เหอ แล้วจะมาเขียนค่ะ อ้อ เรื่อง พี่อุ้ยของเสี่ยวหมิงน่ะค่ะ



โดย: มามิยะ IP: 124.120.71.90 วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:45:37 น.  

 
ตอนเสิร์ชข้างบน เรายังเข้าใจว่าตัวเองเขียนแซ่หลี่เสียอีก แต่พอมาอ่านที่เขียนเรื่องย่อข้างบน อุเหม่....

ขออภัยค่ะ เพิ่งเห็นว่าตัวเองเขียนแซ่เหอในเรื่องย่อ จริง ๆแล้ว แซ๋หลี่ค่ะ เพี้ยนขนาดหนอเรา ขอบคุณ คุณจอมยุทธหญิงที่มาบอกนะคะ

หลี่ซือยวิ่น(ขนาดรู้ยังจะพิมพ์สระเอขึ้นต้นอีกแล้ว เรามีสิทธิ์อะไรไปเปลี่ยนแซ่คนอื่นเนี่ย?) ต้องขอด่าตัวเองยกใหญ่ อ้อ...ปรับตัวเองด้วยการมอบภาพนี้แทนคำขอบคุณนะคะ เรื่องใหม่ของสุดเลิฟคุณจอมยุทธหญิง "สี่ยอดมือปราบ" ในบท "อู๋ฉิง" ค่ะ คาดว่าคุณจอมยุทธหญิงคงทราบแล้ว




พบกันในเรื่องต่อไปค่ะ


โดย: mamiya วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:11:35:09 น.  

 
ภาพบนนี่ เข้ากับบรรยากาศดีค่ะ มามิ

ดูแล้วค่อยรู้สึกว่าเป็นบ้อเช้งหน่อย หน้าเศร้าๆแบบนี้แหละค่ะ

ว่าแต่เนื้อเรื่องกับบทของมือปราบคนอื่นๆจะเป็นไงน๊อ

แล้วจะตามไปแจมด้วยในเรื่องต่อไปนะคะ (^_^'


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 61.91.83.66 วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:7:45:52 น.  

 
เรื่องสี่ยอดมือปราบถ่ายเสร็จไปพักใหญ่แล้วค่ะ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะฉายสิน่า อยากดูมากๆ
หวังว่าทีวีบีจะทำออกมาแนวดราม่า
พอดีเป็นคนไม่ชอบหนังตลกสไตล์ไต้หวันน่ะค่ะ
เวลาดูสี่ยอดมือปราบฉบับไต้หวัน แล้วเศร้าแทนคนเขียน


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:18:35:44 น.  

 
ว้าว อ่านเนื้อเรื่องแล้วน่าดูมากเลย ค่ะ มีสาระดีค่ะ
อยากให้มาฉายเมืองไทยจัง โดยเฉพาะในเวลาแบบนี้


โดย: แมว IP: 124.121.107.128 วันที่: 26 ตุลาคม 2551 เวลา:20:59:54 น.  

 
ว่าจะมาถามคำถามค่ะแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลย
หลังจากที่ได้ดูเรื่องนี้จบไป คือดูภาพเอาน่ะเพราะฟังไม่ออกเลย

แล้วก็เราไปเห็นในเวบเค้าเขียนชื่อเป็น Xin Si Shi Niang
ตามลิงค์นี้เลยค่ะ--//wiki.d-addicts.com/Liao_Zhai_Qi_Nu_Zi


โดย: loveshishi IP: 124.121.114.153 วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:21:20:41 น.  

 
ไม่ได้ดูละครเรื่องก่อนๆของซือซือ
เลยไม่รู้ว่าเป็นมนุษย์หรือท่อนไม้ 5555

แต่ว่าได้ดูเรื่องที่แสดงกับเฮียๆเหอเจียจิ้งเราว่าก็เล่นได้ดีนะ

ดูมีอารมณ์ดีแต่ก็ยังแสดงอารมณ์ได้ไม่มากนักแบบยังปล่อยอารมณ์มาไม่หมดน่ะ.....เฮ่ออ....อธิบายยากอะ

แต่แม่นางสือซื่อเหนียง แสดงได้ดีล่ะ
เต๊ะเล่นแข็งไปด้วยซ้ำในตอนแรกๆน่ะ

เราว่าเรื่องนี้ลู่เอ๋อร์ได้แสดงฝีมือเต็มๆ น่ารักมากๆด้วยล่ะ





โดย: loveshishi IP: 124.121.114.153 วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:21:31:59 น.  

 
ภาพจากละครเรื่องนี้ค่ะ เยอะมากๆนักแสดงครบทุกคนเลยล่ะ
//hi.baidu.com/liaozhai1/album/%D0%C1%CA%AE%CB%C4%C4%EF


โดย: loveshishi IP: 124.121.114.153 วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:23:39:55 น.  

 
ถ้าให้เทียบกันระหว่างอีเฟยกับซือ
สองคนนี้หน้าเหมือนกันในบางมุมที่แต่งหน้านะ
---------------------------------------------------------------
เราชอบซือมากกว่าล่ะ
เราว่าแฟนคลับเฟยพยายามจะเปรียบเทียบหน้ากับซือ
อยู่ตลอด ซึ่งไม่มีเหตุผลซะเลยล่ะ ทำไปเพื่อ........*
ถ้าหากคิดในมุมกลับกันแฟนคลับเฟยก็คงไม่พอใจเหมือนกัน
---------------------------------------------------------------
พวกคุณอาจรู้สึกดีกับการเปรียบเทียบ
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรหรอก
ให้นึกถึงจิตใจคนอื่นบ้างเขาจะรู้สึกอย่างไรคนที่โดนเปรียบ
ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง...เขาทั้งสองต่างก็เป็นมนุษย์
มีความรู้สึก น้อยใจ เสียใจ โกรธ ร้องไห้
ลึกๆแล้วคนเราต่างไม่ชอบการเปรียบเทียบ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีก็ตาม........(-เหนื่อยจัง-)
---------------------------------------------------------------
พูดเรื่องอื่นดีกว่าไหมนอกจากจะมาเปรียบเทียบใบหน้ากันน่ะ
ได้โปรดหยุดการเปรียบเทียบเถิด จงใช้ความคิดในเรื่องสร้างสรรค์ ดีกว่ามาเปรียบเทียบให้ขุ่นข้องหมองใจ
---------------------------------------------------------------
(ว่าแต่เราน่าจะไปเขียนในบอร์ดจีน...มาเขียนในนี้แล้วคนไทยจะรู้เรื่องไหมเนี่ย55555+ )
*งั้นช่วยแปลข้อความเป็นภาษาจีนหน่อยจะได้เอาไปโพส*
---------------------------------------------------------------
นิทานวันนี้ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
ขออนุญาตใช้เนื้อที่บล็อกนะคะ ขอบคุณค่ะ




โดย: loveshishi IP: 124.121.106.160 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:19:45:45 น.  

 
อยากดูมากๆๆๆ เข้าไทยมั้ยคะเรื่องนี้ พอจะแนะนำแหล่งซื้อให้ได้ไหม


โดย: mira IP: 58.10.102.60 วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:18:41:44 น.  

 
7890987654


โดย: 123456 IP: 222.123.156.39 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:5:59:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mamiya
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคนี้ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิทางปัญญา โดยลิขสิทธิเป็นของผู้เขียน กรุณาให้เกียรติผู้เขียนเมื่อนำไปเผยแพร่ต่อควรขออนุญาตก่อน
[Add mamiya's blog to your web]