你还好吗?
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
10 มกราคม 2551

诗佛王维--หวังเหวยพุทธกวี

10/01/08

สมัยราชวงศ์ถังมีกวีหลายคนที่ดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลี่ไป๋ ไป๋จวีอี้ เมิ่งเฮ่าหราน แต่ใคร ๆ ก็อยากเขียนเรื่องของพวกเขา แล้วเราจะเขียนเรื่องใครดีนะ คิดไปคิดมา อยากได้กวีที่อยู่ในยุค "อันสื่อจือล่วน"(安史之乱) หรือ กบฎอันลู่ซาน เลือกใครดีล่ะ เอ่อ....หวังเหวยก็แล้วกัน เพราะเราถามใจดูแล้ว แรก ๆ ว่าจะเขียนเรื่องของ "เถายวนหมิง" กวีธรรมชาติเหมือนกันแต่ท่านอยู่ยุคก่อนถัง เลยหันมาเลือกหวังเหวยที่อยู่ในยุคอันสื่อจือล่วนตามต้องการพอดี

เพราะการเขียนถึงหวังเหวยนี่เอง ทำให้ต้องอ่านเรื่องของหวังเหวยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหวังเหวยนี่เองที่สอนให้เรารู้จักดูหนังของโกวเล้งในอีกรูปแบบหนึ่ง และมันก็สนุกขึ้นจริง ๆ หลังจากใช้วิธีเก่า ๆ ดูมาตั้งนานและมักจะดูไม่สนุกอยู่เสมอ

หนังโกวเล้งทำออกมามักจะสู้หนังกิมย้งไม่ได้ เพราะอะไรหนอ?


อาจเป็นเพราะว่านิยายของโกวเล้งเน้นความรู้สึกเกินไปทำให้เป็นนามธรรมเกินกว่าจะสื่อได้ แต่นิยายของกิมย้งเป็นรูปธรรมมากกว่าจึงสื่อออกมาได้ดีกว่า เอ้า แล้วจะเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ


Wang Wei(王维)



มาว่ากันถึงเรื่องหวังเหวยก่อน

หวังเหวย 王维 (701 -761) ชื่อตัวว่าหมอเจี๋ย(摩诘)ชื่อนี้เป็นชื่อคัมภีร์พุทธด้วยเพราะแม่ของเขานับถือศาสนาพุทธมาก จากชื่อลูกชายคงจะเห็นได้ชัดเจนแล้ว หวังเหวยไม่เพียงแต่เป็นกวี ยังเป็นนักวาดภาพ นักดนตรีที่โดดเด่นเป็นเอกอีกด้วย

หวังเหวยมีพี่น้อง 5 คน เขาเป็นคนโต พ่อรับราชการแต่เสียไปตั้งแต่เขาอายุยังน้อย หวังเหวยที่ได้รับการศึกษามาอย่างดีจึงพยายามดูแลครอบครัวต่อจากพ่อด้วยการดิ้นรนเข้าไปเรียนในเมืองเพื่อสอบเข้ารับราชการให้ได้

หวังเหวยรู้จักการแต่งกลอนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ กับน้องชาย "หวังจิ้น" (王缙)เรียกได้ว่าเป็นเด็กอัจฉริยะเลยของยุคนั้นเลยก็ว่าได้ หวังเหวยเริ่มมีชื่อเสียงด้านการแต่งกลอนตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ ระหว่างเข้าไปเรียนในนครฉางอัน เขาก็ไม่วายคิดถึงพี่น้องที่อยู่บ้านเดิม蒲州 (ปัจุจบันคือหย่งจี้อยู่ในมณฑลซันซี-(今山西永济หรือทางตะวันออกของเขาหัวซาน))เขาได้แต่งบทกลอนที่ชื่อว่า "จิ่วเยว่จิ่วยื่ออี้ซันตงซยงตี้" กลอนบทนี้ได้กล่าวถึงประเพณีโบราณคือเทศกาลฉงหยางด้วยค่ะ


《九月九日亿山东兄弟》

独在异乡为异客,
每逢佳节倍思亲。
遥知兄弟登高处,
遍插茱萸少一人。


กลอนบทนี้กล่าวว่าหวังเหวยอยู่ต่างเมืองคนเดียว เมื่อถึงเทศกาลฉงหยางที่ครอบครัวจะได้พบหน้ากันเขาก็คิดถึงพี่น้อง และคิดไปว่าตอนนี้พวกพี่น้องของเขาคงไปรวมตัวกันบนภูเขาแต่มองไปแล้วกลับขาดเขาเพียงคนเดียวที่อยู่ต่างเมืองไม่สามารถไปพบหน้ากันได้

นอกจากกลอนแล้วหวังเหวยยังเล่นดนตรีเก่ง หน้าตาหล่อเหลา แสดงหน้าพระพักต์องค์หญิงจนตะลึงมาแล้ว

เรื่องแสดงหน้าพระพักต์นี้เป็นตำนาน มีเล่าขานกันมาแต่ไม่รู้ว่าจะจริงเท็จแค่ไหน เดี๋ยวค่อย ๆ เล่านะค หวังเหวยอายุ 15 ก็เข้ามาที่เมืองหลวงคือฉางอันเพื่อหาทางสอบเข้ารับราชการตามหน้าที่ของชายในสมัยโบราณ ก็สอบจอหงวนนั่นแหละค่ะ

เมื่อมาถึงฉางอันหวังเหวยมีแก๊งค์ของตนเองก็พวกเพื่อน ๆ นักกวีทั้งหลายนั่นเอง นั่งที่เหลาและพลางแต่งกลอนประชันกันไปด้วย กลอนในยุคต้น ๆ ของหวังเหวยจะฮึกเหิมมากเช่นบทนี้ค่ะ "เส้าเหนียนสิง"(การเดินทางของวัยหนุ่ม)



《少年行》
新丰美酒斗十千,咸阳游侠多少年。
相逢意气为君饮,系马高楼垂柳边。
出身仁汉羽林郎,初随骠骑战渔阳。
孰知不向边庭苦,纵死犹闻侠骨香


กลอนบทนี้กล่าวถึงพวกหนุ่ม ๆ ที่มีปณิธานที่เรียกว่า "หยิวเสีย" มาเจอกันดื่มสุราบนเหลาซึ่งมีต้นหลิวพริ้วอยู่ข้าง ๆ สีเขียวขจีสวยงาม ส่วนบนเหลาก็มีเสียงคุยกันจอแจไปหมด เห็นเป็นภาพการพบปะสังสรรค์ที่สนุกสนานมีชีวิตชีวา

หลังจากการพบปะแต่งกลอนแล้วชื่อเสียงของ "หวังเหวย" ก็ขจรขจายไปอย่างรวดเร็วจนหนิงหวัง(宁王)、เซียหวัง(薛王) คบหาเหมือนเพื่อนและนับถือเสมือนครู จากบันทึกจี๋อี้จี้ 《集异记》กล่าวไว้ว่าสมัยนั้นมีคนหนึ่งขื่อจางจิ่วกาว(张九皋)เล่นเส้นสายพยายามทำให้ตนเองได้ตำแหน่งจอหงวนมาครองโดยหาคนสนับสนุนคือองค์หญิงองค์หนึ่ง

หวังเวยเองรู้จักกับฉีหวัง(岐王)ฉีหวังบอกว่าหวังเวยมีความสามารถมากกว่าน่าจะได้รับตำแหน่ง เลยพยายามดันหวังเวยให้องค์หญิงได้เห็นความสามารถ วันหนึ่งมีงานเลี้ยงฉีหวังได้จัดให้หวังเหวยแต่งตัวสวยงามเข้าไปเล่นผีผาในงานเลี้ยง พอองค์หญิงได้ยิน ก็ทึ่งในฝีมือนักดนตรีเลยตรัสถามและก็พบว่าหวังเหวยแต่งกลอนได้เก่งมาก เป็นกลอนที่องค์หญิงได้อ่านมาก่อนคิดว่าคนโบราณแต่ง แต่ไม่นึกว่าจะเป็นหนุ่มน้อยอย่างหวังเวย จึงเปลี่ยนมาสนับสนุนหวังเหวยให้ได้รับตำแหน่งจอหงวนและได้รับราชการแทนจางจิ่วกาว

**เรื่องนี้มีบันทึกแต่ไม่แน่ว่าเป็นจริงเท็จแค่ไหนแต่ที่จริงแท้แน่นอนคือ หวังเหวยสอบได้ตำแหน่งจอหงวนและรับราชการในเวลาต่อมาด้วยวัยเพียง 21 ปี

ตำแหน่งแรกที่ได้รับคือตำแหน่งที่ดูแลทางดนตรีและศิลปะการร่ายรำของประเทศเรียกว่าตำแหน่ง 太乐丞 แต่ทำได้ไม่นานก็เกิดปํญหาขัดแย้งจนถูกส่งไปเป็นทหารเล็ก ๆ ที่ดูแลด้านเสบียงของกองทัพที่จี้โจว หวังเหวยอยู่ที่นี่ถึง 4 ปีแม้จะเงียบเหงาแต่ก็อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติจนเกิดความรักในทิวทัศน์อันสวยงามและเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีเวลาวางก็แต่งกลอนคุยกับเหล่าบัณฑิต ปี 706 หวังเหวยจึงลาออกจากราชการ และท่องเที่ยวไปในโลกกว้างเป็นเวลา 2 ปี

จากนั้นหวังเหวยเดินทางกลับไปที่ฉางอันอีกในปี 729 และได้เจอกับ เมิงเฮ่าหราน( 孟浩然)ที่มาสอบจอหงวนแต่ไม่ติดเลยพักอยู่ในฉางอัน ปีต่อมาเมิ่งเฮ่าหรานจึงกลับบ้านที่เมืองเสียนหยาง(襄阳)หวังเหวยแต่งกลอนส่งเมิ่งเฮ่าหรานไว้ว่า

“杜门不欲出,久与世情疏。以此为长策,劝君归旧庐。”

เป็นกลอนที่เตือนให้เมิ่งเฮ่าหรานกลับบ้านไป อย่าได้เข้ามาสอบจอหงวนเพื่อรับราชการเลย อาจเป็นเพราะตัวเขาได้รับทราบความแก่งแย่งชิงดีและความลำบากในการรับราชการที่ทำให้ใจไม่สงบเหมือนอยู่กับธรรมชาติก็เป็นได้ และยิ่งในปี 731 หวังเหวยอายุ 31 ปีได้สูญเสียภรรยาสุดที่รักไปจนอาจทำให้เขาหมดอาลัยตายอยากก็เป็นได้จึงทำให้เตือนเมิ่งเฮ่าหรานที่อายุมากแล้วให้กลับบ้านนอกไปเสีย หลังจากภรรยาตายแล้ว หวังเหวยก็มิได้แต่งงานใหม่ ยังครองตัวเป็นโสดจวบจนวันตาย

นอกจากเมิ่งเฮ่าหรานแล้ว หวังเหวยยังมีสหายมากมายดังต่อไปนี้

1. หลูเซ๊ยง(庐象) คนนี้คบนานมาก 18 ปีกว่า ต่างนับถือกันและกัน และนับถือพุทธเหมือนกัน

บทกลอนที่หวังเหวยเขียนถึง หลูเซี่ยงคือบทนี้

《过卢四员外宅看饭僧共题七韵》

三贤异七贤,青眼慕青莲。
乞饭从香积,裁衣学水田。
上人飞锡杖,檀越施金钱。
趺坐檐前日,焚香竹下烟。
寒空法云地,秋色净居天。
身逐因缘法,心过次第禅。
不须愁日暮,自有一灯然。



2. จู่หย่ง(祖咏) คนนี้เป็นชาวลั่วหยาง คบกับหวังเหวยมาแต่เด็ก และเวลาเดินทางผ่านบ้านหวังเหวยชอบมาพักอยู่ด้วยเป็นประจำ



กลอนที่หวังเหวยเขียนถึงจู่หย่งคือบทนี้

《喜祖三至留宿》

门前洛阳客,下马拂征衣。
不枉故人驾,平生多掩扉。
行人返深巷,积雪带馀晖。
早岁同袍者,高车何处归。


3.หลี่ฉี(李颀) เป็นชาวตงชวน ในบรรดากลอนของหวังเหวยมีกล่าวถึง หลี่ฉีอยู่แค่บทเดียว แต่ทั้งสองคบกันเพราะมีความสนใจในศาสนาเต๋าเหมือนกัน



กลอนที่หวังเหวยเขียนถึงหลี่ฉีคือบทนี้


《赠李颀》
闻君饵丹砂。
甚有好颜色。
不知从今去。
几时生羽翼。
王母翳华芝。
望尔昆仑侧。
文螭从赤豹。
万里方一息。
悲哉世上人。
甘此膻腥食。


4.ชีอู๋เฉียน(綦毋潜 qí wú qián)ชื่อตัวว่าหลีทง(李通) คนนี้คบกับหวังเหวยกว่า 20 ปี



กลอนบทนี้หวังเหวยเขียนให้เพื่อนก่อนปี 726 ซึ่งชีอู๋เฉียนยังสอบไม่ติด

《送綦毋潜落第还乡》

圣代无隐者,英灵尽来归。
遂令东山客,不得顾采薇。
既至金门远,孰云吾道非?
江淮度寒食,京洛缝春衣。
置酒长安道,同心与我逢。
行当浮桂棹,未几拂荆扉。
远树带行客,孤城当落晖。
吾谋适不用,勿谓知音稀。


5.หวังชังหลิง(王昌龄) กวีดังอีกคนหนึ่ง ตายในกบฎอันลู่ซาน หวังชังหลิงกับหวังเหวยสนใจในเต๋า พุทธ และการพ้นทุกข์



กลอนบทนี้หวังเหวยเขียนถึงหวังชังหลิง

《青龙寺昙璧上人兄院集》

高处敞招提,虚空讵有倪。
坐看南陌骑,下听秦城鸡。
眇眇孤烟起,芊芊远树齐。
青山万井外,落日五陵西。
眼界今无染,心空安可迷。



6.เมิ่งเฮ่าหราน(孟浩然) เป็นคนเสียนหยาง ชอบธรรมชาติเหมือนหวังเหวย เนื่องจากไม่ได้รับใช้ชาติและอายุมากแล้ว เมื่อกลับมาบ้านแล้วไม่ได้ทำตามปณิธานเลยตรอมใจ



กลอนบทนี้เป็นกลอนที่หวังเหวยเขียนไว้อาลัยเมิ่งเฮ่าหราน


《哭孟浩然》

故人不可见,江水日东流。
借问襄阳老,江山空蔡州。



7. เผยตี๋(裴迪) เป็นคนกวนจง สนิทกับหวังเหวยมากในยุคหลัง ๆ เป็นเพื่อนนักกวีที่หวังเหวยเขียนกลอนที่เกี่ยวกับเขาถึง 9 บท ตัวอย่างเช่นบทนี้เป็นต้น




《赠裴十迪》

风景日夕佳。
与君赋新诗。
澹然望远空。
如意方支颐。
春风动百草。
兰蕙生我篱。
暧暧日暖闺。
田家来致词。
欣欣春还皋。
淡淡水生陂。
桃李虽未开。
荑萼满芳(一作其)枝。
请君理还策。
敢告将农时。



ปี ค.ศ. 733 จางจิ่วหลิง(张九龄)กลับมามีอำนาจการปรกครองอีกครั้งทำให้หวังเหวยมีความหวังในการรับใช้ชาติเพิ่มขึ้น ปีนนั้นเขามีอายุ 34 ปี รับราชการต่อมาจนอายุ 50 ปี มารดาถึงแก่กรรมจึงกลับไปไว้ทุกข์ให้มารดาจนครบกำหนดแล้วกลับมารับราชการต่อ แต่แล้วก็ต้องเจอกับกบฎอันลู่ซานที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่าเขาไปสวามิภักดิ์อันลู่ซานไม่ภักดีต่อราชวงศ์ถัง

ทั้งนี้เนื่องจากตอนอันลู่ซานบุกเข้าฉางอัน ถังเสวียนจงหนีไปได้แต่หวังเหวยยังไม่ทันหนีก็ถูกจับ เนื่องจากเป็นบัณฑิตผู้มีปัญญาที่อันลู่ซานต้องการตัวจึงจับตัวไปขังไว้ แต่หวังเหวยภักดีต่อราชวงศ์ถัง จึงกินยาทำให้ตัวเองป่วยลุกไม่ขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการบีบบังคับของอันลู่ซาน แต่หวังเหวยชื่อดังเกินไป ถูกอันลู่ซานเชิญ(จับ)ตัวมาที่ลั่วหยางยัดเยียดตำแหน่งให้ ตอนนั้นเองโชคดีที่หวังเหวยได้แต่งกลอนไว้บทหนึ่งตอนอันลู่ซานจัดงานฉลองในวัง กลอนบทนี้คือ

《凝碧池》

万户伤心生野烟,
百官何日再朝天。
秋槐叶落空宫里,
凝碧池头奏管弦。

กล่าวถึงคนที่สูญเสียชาติบ้านเมืองและคิดถึงราชวงศ์ก่อน กลอนบทนี้ได้ช่วยชีวิตหวังเหวยไว้ และปรับความเข้าใจของทุกคนใหม่ว่าเขาไม่ได้ทรยศต่อราชวงศ์ถัง แต่ถูกบังคับ ต่อมาราชวงศ์ถังฟื้นตัว น้องของหวังเหวยมีความชอบ หวังเหวยได้กลอนบทนี้ช่วยชีวิตไว้และอธิบายความจริงต่อทุกคน ทำให้เขาได้รับอภัยโทษในที่สุด ตอนนั้นหวังเหวยอายุ 57 ปี

รับราชการจนอายุ 60 ปีหวังเหวยจึงถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 760 บทกลอนของเขาสืบทอดถึงปัจจุบันประมาณ 400 บท ส่วนใหญ่จะบรรยาถึงไร่นาป่าเขาธรรมชาติและแทรกคติธรรมแห่งพุทธศาสนา จนได้ชื่อว่า เป็น "พุทธกวี" ที่ฝากชื่อไว้ให้คนจดจำตราบชั่วกาลนาน



เกือบลืมบอกไปค่ะ เรื่องว่าทำไมถึงไปเกี่ยวกับหนังโกวเล้งได้ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากอ่านเรื่องของหวังเหวย มีอยุ่ตอนหนึ่งเขียนไว้ว่า ภาพบางภาพของเขาแม้จะเป็นฤดูหนาวมีหิมะในภาพแต่ดอกไม้บางชนิดที่อยู่ในภาพนั้นไม่ใช่ดอกไม้ของฤดูหนาวเลย ทั้งยังมาบานแข่งกันสีสันสวยงามอีกด้วย บางทีจิตกรไม่ได้ต้องการความจริงแต่เป็นความงดงามทางศิลปะ ที่จะทำให้ภาพออกมาโดดเด่น

คิดไปคิดมา เลยคิดไปได้ว่า หนังบางเรื่องอาจทำเพื่อความงดงามของศิลปะแต่ไม่ได้อิงความจริงก็ได้ จากจุดนี้เมื่อดูหนังของโกวเล้งเรื่อง "ฮ่วนฮวาสี่เจี้ยนลู่" หรือนักสู้ผู้พิชิตเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่มีข้อน่าติงเรื่องชุด ซึ่งไม่สมกับเป็นหนังจีนกำลังภายในเลย มามิยะเลยลองเลิกติชุดแล้วหันมาให้ความสำคัญกับอารมณ์ที่มากระทบเหมือนคลื่นที่สื่อเข้ามาแทน ปรากฎว่าได้ผลค่ะ ความรู้สึกรันทดเกิดขึนทันทีในตอนแรก แต่ตอนต่อ ๆ ไปก็มีอารมณ์ต่าง ๆ สอดแทรกเข้ามาตลอด ทำให้รู้สึกว่า หรือนี่คือสิ่งที่ผู้สร้างต้องการสื่อ หากเราตัดบางประเด็นที่ปิดหูปิดตาออกไปแล้วให้ความสำคัญกับอีกสิ่งหนึ่งแทน เราก็อาจจะมองเห็น

เช่นเดียวกันกับการดูภาพ ภาพที่แสนสวยต้องการสื่ออะไร ความเป็นจริง หรือความงดงามสดใสอันทำให้อารมณ์เบิกบาน ภาพบางครั้งไม่ได้อยู่ที่ความเป็นว้ตถุ แต่อาจให้ความรู้สึกบางประการทางจิตใจ พวกเราคงเคยทีบางครั้งดูภาพสวยงามแล้วรู้สึกดีขึ้น ไม่อย่างนั้นหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเราก็คงไม่มีวอล์ลเปเปอร์สวย ๆ อย่างที่เราชอบมาให้เรารู้สึกดี ๆ ทุกครั้งที่เห็นหรอก จริงไหมคะ?

แม้หวังเหวยจะไม่อยู่ในโลกแล้ว แต่วันนี้คงคาดไม่ถึงว่าชนรุ่นหลังจะให้ความยกย่องถึงเพียงนี้ (ยุคซ่งมีบางคนไม่ยอมอ่านงานของหวังเหวยเพราะเรื่องเข้าใจผิดที่ไปรับใช้อันลู่ซานเหมือนกันค่ะ แต่ต่อมาก็ทราบว่าเป็นความเข้าใจผิด)

ถึงว่า.....ความดีย่อมอยู่คู่ฟ้าเป็นนิรันดร



Create Date : 10 มกราคม 2551
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2551 22:21:25 น. 37 comments
Counter : 10685 Pageviews.  

 
หวังเหวย นี่ออกเสียงเป็นแต้จิ๋วว่าไงคะ มามิ
ไม่มีรูปหวังเหวยให้ดูหรือคะ

อยากเห็นจริงๆ อายุน้อยมากนะนั่น

หวังเหวย "นับถือศาสนาพุทธ" เป็นพุทธสายไหนคะ มหายานหรือหินยานมีบอกไว้รึเปล่า

ที่สนใจจริงๆนะคือ
"อาจเป็นเพราะว่านิยายของโกวเล้งเน้นความรู้สึกเกินไปทำให้เป็นนามธรรมเกินกว่าจะสื่อได้ แต่นิยายของกิมย้งเป็นรูปธรรมมากกว่าจึงสื่อออกมาได้ดีกว่า"

ที่เขียนช่วงบนแว๊บๆนะ

พูดได้ตรงใจจริงๆว่านิยายโกวเล้ง เล่นกับอารมณ์ตัวละครมาก ทำให้นักแสดง แสดงได้ยากกว่าด้วย
(นักแสดงบางบางคนกลายเป็นตำนานไปเลยเพราะเหตุนี้)

อ้าววว ไปคนละเรื่องแล้วเรา

กลับมา กลับมา ว่าด้วยหวังเหวยต่อ

ดนตรีที่หวังเหวยเล่นได้นี่ นอกจากผีผาแล้วมีอย่างอื่นอีกไหมคะ
อยากได้ความหมายของบทกวีด้วยค่ะ (เสียดายตัวจีนไม่ขึ้น)

จริงด้วย ขอบคุณสำหรับคุ๊กกี้อร่อยๆนะคะ



โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:7:38:43 น.  

 
หวังเหวยเป็นภาษาจีนกลางค่ะ มีรูปด้วยแต่เป็นรูปวาดแบบโบราณนะคะ และก็มีรูปที่หวังเหวยวาด สวยมากเลยค่ะ ไว้จะเอามาใส่อีกทีนะคะ

ตามที่บันทึกดีดผีผาค่ะ แบบที่หวังเจาจวินดีด(เรียกถูกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ใช้กริยานี้ไปก่อนก็แล้วกัน) ส่วนนิกายไหนน่าขอดูข้อมูลอีกทีค่ะ ตอนนั้นน่าจะมีเป็นการฟักตัวของศาสนาพุทธในจีนก่อนจะเฟื่องเมื่อถังไท่จงส่งเสวียนจั้งหรือพระถังซำจั๋งไปชมพูทวีปนะคะ ไว้มาบอกอีกทีค่ะ

ความหมายของบทกวีคืนวันเสาร์มาใส่นะคะ


โดย: มามิยะ IP: 58.8.191.205 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:12:09:35 น.  

 
เวลา 14.30

ปลาบปลื้มเหลือเกิน พี่ฟงคะ ในที่สุดมามิยะก็ได้ฟังกู่เจิง ฝีมือหลิงเอ๋อร์แล้วค่ะ เพราะมาก ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าหลิงเอ๋อร์จะบอกว่ายังไม่เก่งหรืออะไร แต่ในความรู้สึกของผู้ฟังแล้ว ซาบซึ้งมากค่ะ หลิงเอ๋อร์มือเจ็บยังอุตส่าห์เล่นให้ฟัง ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

วันนี้ฟังไปประมาณ 3-4 เพลงค่ะ เป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากซีดีโดยสิ้นเชิง นี่ขนาดฟังทางโทรศัพท์นะคะ มันยังก้องในอารมณ์ขนาดนี้

หลังจากนั้นรีบเอาซีดีมาเปิด "ก่วงหลิงส่าน" ที่บรรเลงเป็นกู่เจิงค่ะ เสียงมันออกมาน่ะใช่ แต่อารมณ์ฟังของจริงกับฟังจากซีดี ยังมีความต่าง ถามตัวเองเหมือนกันว่ามันตรงไหน
เพราะน้องหลิงเอ๋อร์ที่ดีดทั้ง ๆ ที่มือเจ็บแล้วซาบซึ้งหรือเป็นเพราะของจริงย่อมต่างจากซีดี คำตอบคืออาจรวม ๆ กัน อย่าคิดว่าเวอร์นะคะ ได้ฟังของที่ชอบแล้วกระแทกอารมณ์จนน้ำตาซึมได้ค่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ คือว่าชอบก็เลยรู้สึกอิน นอนฟังสบายไปเลย

ชีวิตที่เร่งรีบทุกวันนี้ ทุกคนต่างทำงานและวุ่นวายกับภาระแห่งชีวิต ลองฟังดนตรีเถิดค่ะ "ชื่นใจ" แล้วจะหายเหนื่อยไปบ้าง รู้สึกเหมือนกับมีใครมาทุบหลังให้เบา ๆ แล้วจิบน้ำชาไปพลาง ช่างดีเหลือเกิน ไม่รีบไม่ร้อน ไม่ทุกข์ไม่สุข แต่อยู่ในความสงบอย่างนิ่ง ๆ

ชีวิตคนเรา หาความสุขจากสิ่งต่าง ๆ ได้หลายอย่าง แต่ความสุขทางใจต่างหากจะเป็นความสุขอันนิรันด์ โลกแห่งความสันติ ความสงบ หาได้ยากในปัจจุบัน ลองอยู่นิ่ง ๆ สักพัก อาจเหนื่อยน้อยลง และมีแรงสู้ต่อไป ทั้งกายและใจ

"เจ้าจงฟังดนตรีเถิด ชื่นใจ"





โดย: mamiya วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:14:37:58 น.  

 
ปลื้มเหมือนพี่เลยใช่ไหมล่ะ มามิ

ตอนที่หลิงเอ๋อร์เล่นให้ฟังครั้งแรกนะ เสียงมันขาดๆหายๆ
เพราะคลื่นโทรศัพท์มันไม่ดี
ครั้งที่สองนี่ได้ฟังเต็มๆเพลงเลยค่ะ(ทางโทรศัพท์เหมือนกันแหละ) ไม่มีวูบๆวาบๆ

เจ้าตัวก็ออกตัวแล้วนะว่ามือเจ็บแต่พี่ฟังแล้วยังนึกว่าขนาดมือเจ็บยังเพราะขนาดนี้ ถ้าตอนที่ไม่เจ็บคงเคลิ้มไปเลยมั๊ง



นี่แหละดนตรีจริงๆค่ะ เวลาฟังในซีดี อารมณ์มันยังครึ่งๆกลางๆมั๊งคะ
พอเราได้ยินคนเล่นเดี๋ยวนั้นแบบสดๆนี่ คงเป็นอีกแบบหนึ่งจริงๆ มันได้ใจมั่กๆค่ะ

ขอสนับสนุนด้วยว่าหลิงเอ๋อร์เล่นได้เพราะจริงๆ ยืนยันค่ะ มามิ


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:17:47:12 น.  

 
ชมมากไปรึเปล่าคะพี่ๆ
แหม ของหลิงเอ๋อรืยังเรียกว่า ไม่ติดฝุ่นของคนที่เป็น "มืออาชีพ"หรอกค่ะ
นี่ก็เล่นเพื่อความบันเทิงของตนเอง

เวลาเล่นแล้ว บางครั้งความเครียดมันหายไปกับเสียงเพลง
จนครูของหลิงเอ๋อร์(ครูหลี่หยาง)ยังทักว่า ทำไมเครียดจัง
อ้าว ก็ครูบอกเองนี่นา ให้สร้างอารมณ์ แล้วปล่อยพลังออกมากับเสียง ก็คนมันเครียดนี่

เชื่อว่า เสียงเพลง สื่ออารมณ์ได้ค่ะ

แหะๆ มาเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย กำลังอ่านเรื่อง หวังเหวย เพลินๆ



โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.140.193 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:20:58:09 น.  

 
พี่มามิยะ คะ
หลิงเอ๋อร์เคยซื้อหนังสือ"ร้อยบทกวีถาง" ของ คุณอุ้ย บุญภัทร สำนักพิมพ์ ไชน์ ถอดบทกวีภาษาจีนออกมาเป็นภาษาไทยได้สวยงามมากค่ะ แต่ยังอ่านได้ไม่ถึงไหนเลย แหะๆๆ
ตัวอย่าง บทกวี Song Bia ของหวังเหวย(ไม่มี font จีนค่ะ)
ส่งจากจรจากแล้ว ถิ่นภู
จึ่งค่ำปิดประตู แผ่นไม้
ต้นหญ้าชอุ่มฤดู- ชุนศก ใหม่นา
โอ้บุตรหลานท่านไท้ กลับย้อนมิย้อนหนอ


บทกวี โรงไม้ไผ่
เดี่ยวนั่งดงไม้ไผ่ เงียบงาม
ดีดเล่นพิณเพลงตาม โห่ร้อง
คนนอกทราบในความ ไผ่ลึก มีฤา
มีแต่จันทร์จรัสท้อง ทั่วฟ้า ฉายแสง


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.140.193 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:21:07:32 น.  

 
ส่วนบทกวีของหลี่ไป๋
เดียวดายดื่มใต้แสงจันทร์
ที่ท่านโกวเล้งชอบมากๆ ผู้เขียนก็ถอดเป็นกาพย์ฉบัง 16 ได้สวยงามค่ะ

ท่ามกลางมวลมาลย์บุปผา หนึ่งกาสุรา
ลำพังรินดื่มเดียวดาย
ยกแก้วชักชวนจันทร์หงาย ต่อหน้าเงากลาย
สามคนตั้งวงน้ำเมา
แม้จันทร์มิรู้ดื่มเหล้า อีกทั้งเจ้าเงา
คอยแต่ติดตามดำนู
หากถือจันทร์เงาเพื่อนครู่ สมควรชื่นชู
ทันกาลเสพสุขชีวา
ขับเพลงคล้อยเคลื่อนจันทรา ร่ายรำทำท่า
เงาตามลีลาแกว่งไกว
ยามตื่นร่วมสนุกสุขใจ ยามเมาหลับใหล
ต่างร้างราเลิกจากกัน
มิสนสถานะผูกพัน คบชั่วนิรันดร์
หมายมั่นนภันตร์เจอะเจอ


บทกวีของหลี่ซังอิ่น
(เคยมีในเรื่องเปาบุ้นจิ้น ตอน รักคนละโลก)
อู๋ถี

พบกันยากเย็น
จากกันอีกเช่น ทุกข์เข็ญดุจเดียว
ลมบูรพ์พัดเฉื่อย เอื่อยเอื่อยแรงเรี่ยว
หมูมาลย์ห่อเหี่ยว อับเฉาตามกัน

วสันต์ตัวไหม
จึ่งชีวาลัย สายใยหมดครัน
เทียนเล่มแสงฉาย กลายเถ้า คือ วัน
น้ำตาสิ้นสรรพ์ แห้งเหือดหลั่งแล

เช้าส่องคันฉ่อง
พาใจหม่นหมอง สีจอนเปลี่ยนแปร
ค่ำท่องกลอนกาพย์ อาบแสงเพ็ญแข
ผุดผาดมาสแม้ แท้หนาวเหน็บกาย

เมืองแมนเฝิงไหล
หนทางจักไป ไกลมิมากมาย
เจ้านกเขียวน้อย วานหน่อยเป็นสาย
ขยันบ่หน่าย สอดส่องเนืองเนือง

(ในเรื่อง พระเอกนางเอกท่องว่า
ตัวไหมจวบจนตายจึงคลายสิ้นเส้นสายใย
เทียนไขไหม้มลายไปน้ำตาค่อยแห้งเหือดหาย)


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.140.193 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:21:21:38 น.  

 
ขอบคุณนะคะน้องหลิงเอ๋อร์ ใครว่าไม่เพราะ หลิงเอ๋อร์ถ่อมตัวไปกระมัง พี่ ๆ ชอบมาก หลังจากฟังหลิงเอ๋อร์แล้ว พี่เอาซีดีมาเปิด นอนหลับไปเลย ตอนนี้พี่ฟังเพลงจากเครื่องดนดรีจีนโบราณ ที่หน้าตาคล้ายระฆังน่ะค่ะ เพราะมากเลย แต่เพื่อนบอก ไปเอามาจากวัดไหน ไว้จะหาทางอัพขึ้นมาให้ฟังนะคะ วันนี้เน็ตช้ามาก ไม่รู้จะเขียนข้างบนเติมได้มากน้อยแค่ไหนนะคะ ลองดู


โดย: mamiya วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:23:19:06 น.  

 
ช่วงนี้มันอืดๆพิลึกเลยค่ะ

รู้สึกเหมือนพี่รึเปล่าเนี๊ยะ คงเพราะไม่ใช่นิยายกำลังภายในมั๊ง

ความรู้เราก็ไม่แน่นพอซะด้วยเลยไม่รู้ว่าจะคุยอะไรต่อดี
ว่าแต่ กลอนข้างบนเพราะมากนะ (น่าเสียดายที่อ่านภาษาจีนไม่เป็นฉบับจีนคงเพราะมากเลย)

เครื่องดนดรีจีนโบราณ ที่หน้าตาคล้ายระฆัง

นึกไม่ออกเหมือนกันว่าเป็นยังไง


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:7:37:33 น.  

 
มิน่าล่ะ พี่ฟงหายไปซะหลายวัน เหมือนกันค่ะ บางทีก็เข้าไม่ได้กลายเป็นหน้าขาว ๆ ไป เลยอัพได้ช้าเช่นกันค่ะ

อ้อ ถ้าไม่มีอะไรคุยก็ไม่เป็นไรค่ะ กลอนข้างบนเนื่องจากไม่มีเวลาพอค่ะ เลยใส่จีนไว้ประดับประดา แหะ แหะ....ตัวอักษรสวยไหมคะ? (แก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ)

ส่วนเครื่องดนตรีโบราณที่คล้ายระฆัง พี่ลองนึกถึงวังจิ๋นซีสิคะ จะมีเครื่องดนตรีแบบเคาะ ๆ ง้องแง้ง นั่นแหละค่า ถ้ายังคิดไม่ออก เดี๋ยวมามิอัพรูปให้ค่ะ รอนิดนะคะ

เรื่องศาสนาพุทธของหวังเหวย ยังไม่ได้เช็คเลยค่ะ ขอกลับไปดูหนังสืออีกที ไม่ได้ลืมนะคะ


โดย: มามิยะ IP: 61.7.134.188 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:8:28:35 น.  

 
ที่เป็นระฆังแขวนบนราวรึเปล่าคะ
เคยเห็นในเรื่อง นักฆ่าสะท้านฟ้า ตอน จิงเคอ


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.148.106 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:13:07:45 น.  

 
ใช่แล้วค่ะ หลิงเอ๋อร์มือหายเจ็บหรือยังคะ? ดีขึ้นบ้างไหม?

ตอนนี้พี่ดูเรื่อง "ฉู่หลิวเซียง" ที่เคน เอฟ4 เล่น ดูขำขำตลอดเรื่องเลยค่ะ แต่ละฉาก โหย ต้องหัวเราะ หึ หึ ในลำคอ เฮ้อ................ พี่ลิ้วเฮียง ของเรา

ตอนนี้เน็ตไม่ค่อยดีเลย อัพไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เป็นมาอาทิตย์กว่าแล้วเนี่ย มีใครเป็นบ้างไหมคะ?


โดย: มามิยะ IP: 124.120.86.104 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:22:24:29 น.  

 
โอย
เคนเอฟโฟร์ กับ ฉู่หลิวเซียง
คิดภาพตามแล้วเศร้าใจ
ถ้าท่านโกวเล้งมาเห็น จะกระอักเลือดไหมนี่


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.141.113 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:20:43:52 น.  

 
คิดว่ากระอักค่ะ แต่เคนบอกว่าลิ้วเฮียงอยู่บนเรือและชอบสุรา ดังนั้นจะให้ผอมเพรียวคงไม่น่าจะใช่ อยู่บนเรือก็ต้องกรำแดด ผิวแทน ๆ หน่อย หมายความว่าเขามั่นใจเล่นได้ค่ะ

โดยเฉพาะฉากเปิดตัวลิ้วเฮียงจะปลอมเป็นเสี่ยวเอ้อ ติดไผด้วย โหย...........................อย่างเดียวเลย พูดคำอื่นไม่ออก แต่ดูไปแล้ว 2 ตอน น้ำตาจะไหล สงสารพี่ลิ้วเฮียงในหนังสือ เมื่อเห็นพี่ลิ้วเฮียงบนจอ

เหอ เหอ เหอ จะดูได้นานอีกแค่ไหนหนอ? กลับไปดูเสี่ยวหงส์เหมือนเดิมดีกว่ามั๊ย?


เหอ เหอ ๖อีกครา)


โดย: มามิยะ IP: 58.8.180.194 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:12:37:28 น.  

 
พี่มามิยะคะ
ชอลิ้วเฮียงเป็นคนฝึกวิทยายุทธ บนร่างกายไม่ควรมีไขมันส่วนเกิน แม้จะร่ำสุรา แต่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ดังนั้น ควรมีรูปร่างสมส่วนมากกว่า
ส่วนผิวสีแทน ก็อาจใช่
คิดถึงเจิ้งเส้าชิวจัง


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.151.135 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:21:31:27 น.  

 
อ้าว หวังเหว่ย กลายเป็นเฮียชอไปซะแล้ว

หายไปหลายวัน ร่างกายไม่อำนวยค่ะ ป่วยไข้ไปหลายวัน


ช่วงนี้พอไหว แต่ยังออกเสียงมากไม่ได้ คออักเสบค่ะมามิ

ที่ว่าอยู่บนเรือผิวสีแทนคงจะจริง แต่มาดจอมยุทธ์นี่ เคนF4ไม่มีเลยค่ะ

เฮ้อออออออ ถอนหายใจยาวๆ เคยดูคลิปบางฉากแล้ว
เหมือนหนังสงครามเลย แต่พอเคนออกมาปุ๊บ โอ้ววว ม่ายหวายค่ะ

มามิ ยังหารูปเครื่องดนตรีไม่ได้หรือคะ
ความจริงตอนดูไซซี(เวอร์ชั่นเฉินคุนนะ)เคยเห็นลูกชายฟูซา เคาะเครื่องดนตรีคล้ายๆแท่งอะไรนี่แหละ ไม่รู้ใช่รึเปล่า

คิดถึงเจิ้งเส้าชิวเหมือนกันค่ะ หลิงเอ๋อร์


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:7:08:30 น.  

 
พี่ฟง ขอโทษนะคะ ช้าหน่อย ตอนนี้มามิจะถูกการบ้านทับตายแล้วค่า เลยไม่ได้ทำอะไรต่อเลย ได้แต่แวะมาคุยทุกวัน แต่ไม่มีเวลาต่อ พี่คะ ได้กระบี่หงส์เมื่อไหร่จะเผื่อชุดนะคะ จะได้มาลุ้นเซียวเซียวด้วยกัน ดีไหมคะ?

หลิงเอ๋อร์ด้วยไหม?


โดย: มามิยะ IP: 58.8.187.74 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:12:33:20 น.  

 
พี่ฟง รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
พี่มามิ ตอนนี้หลิงเอ่อร์คงจะ"ลุ้น(หน้า)เซียวเซียว"ของคนอื่นจนหมดแรงแล้วค่ะ ไว้อ่านที่พี่เล่าก็สนุกเหมือนได้ดูเองเลยค่ะ


โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.140.94 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:20:34:28 น.  

 
ขอบคุณนะคะน้องหลิงเอ๋อร์ที่ให้กำลังใจ

หารูปเจอแล้วค่ะ เป็นเครื่องดนตรีแบบนี้แหละค่ะ เพลงที่ได้มา ได้มาจากครูอีกทีหนึ่ง ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าฟังเพราะจริง ๆ เหมือนได้กลับไปสู่ธรรมชาติ พี่ฟงคะ ตอนนี้ยังหาวิธีอัพไม่ได้ไม่รู้ไพล์มันเป็นอะไร ขอให้หายไว ๆ นะคะพี่ขา

กระบี่หงส์ มีสหายกำนัลมาให้ 5 ดีวีดีเชียวค่ะ ไม่รู้พี่ฟงจะชอบหรือเปล่า ราชวงศ์ในเรื่องน่าจะเป็นราชวงศ์สมมตินะคะ

เอารูปไปดูก่อนค่ะ

เครื่องดนตรีโบราณค่ะ


โดย: mamiya วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:22:20:50 น.  

 
ไม่เป็นไรค่ะ การบ้านเยอะหรือคะ มามิ

เมื่อวานมีประชุมพูดไปประมาณ 2 ชม.เต็มๆ วันนี้คอเจ็บกว่าเดิม เสียงเป็ดไปเลยค่ะ แย่แย่

เห็นรูปเครื่องดนตรีแล้ว แปลกๆค่ะ ต้องมีไม้ไว้เคาะสินะ
ดูแล้วคง"หนัก" น่ะนั่น แต่เสียงจริงเวลาเล่นคงน่าฟัง
ติดใจรูปแบบ"แท่น"ที่เป็นคนทำท่าเทินคานแขวนระฆังนี่มากกว่าค่ะ สวยจริง


ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับกระบี่หงส์นะคะ

หลิงเอ๋อร์ แค่ลุ้นยังเหนื่อย แต่คุ้มค่ะ ดูหน้าเซียวเซียวเพลินดี ฮุฮุ
เสาร์-อาทิตย์นี่ คงต้องงดใช้เสียงจริงๆค่ะ แต่ไม่ได้หยุดนะ

ช่วงนี้บ้านพี่ซ่อมแซมหลายชั้นเหมือนกัน ต้องทำความสะอาดใหญ่หลังซ่อมอีกล่ะ

พี่"แวะ"เข้าบอร์ดกำลังภายในเมื่อวาน ท่านลีนเข้าไปทักทายสหายอยู่ที่นั่นเอง ไม่ได้หายไปไหน
แต่บล็อกท่านลีน ไม่ขยับเลยค่ะ


มามิ หลิงเอ๋อร์ ท่านลีน รักษาสุขภาพด้วยนะ


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:7:24:52 น.  

 
ไม่ได้แว่บมานานเลยครับ
สบายดีมั้ยคับพี่น้อง


โดย: ชัช (กู่ฉิน ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:50:30 น.  

 
สบายดีค่ะ คุณชัช ได้แวะไปที่บล็อคคุณชัชบ้างเหมือนกันค่ะ เรื่องฉินยังไม่ได้เลิกสนใจนะคะ แต่เวลาไม่ค่อยอำนวย หลายอาทิตย์ก่อนหลิงเอ๋อร์เล่นเจิงให้ฟัง ไพเราะมาก ได้อารมณ์กว่าซีดีเยอะมากเลย มิน่าบางคนถึงต้องไปดูคอนเสิร์ตที่เล่นจริง ไม่ใช่การนั่งดูดีวีดีที่บ้าน การฟังจากของจริงกับซีดี อย่างไรก็ยังมีความแตกต่างอยู่ดีแน่นอนค่ะ

คุณชัชฟังเพลงจากเครื่องดนตรีโบราณตามภาพข้างบนหรือเปล่าคะ ตอนนี้กำลังหาซื้อซีดีอยู่ค่ะ ฝาก ๆ เพือนที่จะไปเมืองจีน ลองหาดูเผื่อมีจะได้ฟังซีดี คุณภาพคงดีจากการโหลดฟังจากเว็บแน่นอนค่ะ

พี่ฟงคะ ตอนนี้มามิไม่ค่อยมีเวลาเลย ไว้มีเวลาจะมาเขียนเรื่องใหม่ต่อค่ะ เรื่องศาสนาของหวังเหวย ลองหาดูในหนังสือ ไม่ได้เขียนบอกค่ะ เขียนว่าพุทธ เข้าใจว่าคงเป็นระยะแรกเริ่ม หากอยากรู้จริง ๆ คงต้องหาศาสนาพุทธในยุคนี้ว่าเป็นอย่างไร ถึงจะพอรู้ว่าเป็นพุทธแบบไหน มามิว่าตอนนั้นยังมีเต๋าอยู่ด้วยและหวังเหวยเองก็สนใจเต๋าด้วยเช่นกันค่ะ ขอเป็นคำถามติดในใจ ว่าจะไปถามอาจารย์ที่เอกพุทธดูค่ะ ไว้ไปถึงเมืองจีนเจอหน้ากันมีโอกาสจะลองถามดูค่ะ หาข้อมูลสุดฤทธิ์ อาจารย์คนนี้น่ารักมากค่ะ ใจดีมีเมตตา และจริงใจ เขาเหมือนหลวงจีนเลยค่ะ อายุยังน้อยแท้ ๆ อ้าว มานินทาอาจารย์ได้อย่างไรกันเนี่ย? ห้ามเด็ดขาด ฮิ ฮิ

หลิงเอ๋อร์จ๋า ข้อมือดีขึ้นบ้างไหมคะ? รักษาสุขภาพนะคะ รู้สึกพี่กับพี่ฟงจะผลัดกันป่วย ตอนนี้พี่เริ่มเจ็บคอแล้ว คงจะเพราะนอนดึกติด ๆ กันมาสองอาทิตย์แล้ว เอ้อ.......อาจโดนหวัดเล่นงานได้ กำลังพยายามรักษาสุขภาพเหมือนกันค่ะ อาจทำอะไรต่อไม่ได้ถ้าสุขภาพไม่อำนวย

เพื่อน ๆ ที่รัก ทุกท่าน รักษาสุขภาพนะคะ



ตรุษจีนใกล้มาถึงแล้วขอให้มีความสุข เงินทองไหลมาเทมา อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว และมีแต่สิ่งที่ดี ๆในชีวิตค่ะ


โดย: mamiya วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:56:59 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่มามิ พี่ฟง พี่ชัช
หลิงเอ๋อร์ไม่ได้เข้ามาหลายวัน ส่วนหนึ่งเพราะยุ่ง แต่ส่วนที่สำคัย คือคอมของหลิงเอ๋อร์ติดไวรัสค่ะ เพิ่งเอาไปล้างวันนี้ แสกนคร่าวๆมีเชื้อโรคประมาณสามพันกว่าชนิด น่ากลัวมาก ก่อนหน้านี้สแกนประจำก็ไม่ยังเจอ รู้ตัวอีกทีเครื่องอืดมากเลย
หลังจากซ่อมคอมก็ไปดูหนังสือ ได้จอมดาบหิมะแดง(ของท่าน ว.)กับ น่ำปักซ้อง มาเก็บอีกแล้ว จะได้อ่านเมื่อไหร่เนี่ยเรา


โดย: หลิงเอ๋อร์ (หวงหลิง ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:10:29 น.  

 
หลังจากสุขภาพไม่ดีมาเกือบ 2 สัปดาห์
ตอนนี้เป็นปกติแล้ว
แต่ อ้าว..มามิ จะป่วยแทนซะแล้ว

สวัสดีคุณชัช กับหลิงเอ๋อร์ด้วยค่ะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย
แถมฝนตกอีก รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

อีก 2 วันก็ตรุษจีนแล้ว อวยพรไว้ก่อนแล้วกัน

ว่านซื่อหยูอี้ ... สมความปรารถนา
กงสี่ฟาไฉ ... ขอให้ร่ำรวย
ไฉเหยียนกว่างจิ้น ... เงินทองไหลมา
เจาไฉ่จิ้นเป่า ... เงินทองไหลมา
เหนียนเหนียนโหย่วหยวี๋ ... เหลือกินเหลือใช้
ซื่อซื่อซุ่นลี่ ... ทุกเรื่องราบรื่น
จินยวี้หม่านถัง ... ร่ำรวยเงินทอง
อิ้เปิ่นว่านลี่ ... กำไรมากมาย
ต้าจี๋ต้าลี่ ... ค้าขายได้กำไร
เหนียนเหนียนฟาไฉ ... ร่ำรวยตลอดไป
หลงหม่าจินเสิน ... สุขภาพแข็งแรง
จี๋เสียงหยูอี้ ... สมปรารถนา
เห่ายวิ่นเหนียนเหนียน ... โชคดีตลอดไป
ซื่จี้ผิงอัน ... ปลอดภัยตลอดปี
อี้ฝันฟงซุ่น ... ทุกอย่างราบรื่น

(แอบเก็บคำอวยพรของคนอื่นมาใช้ ขอบคุณผู้เอื้อเฟื้อค่ะ)


ขอให้ทุกคนมีความสุขค่ะ


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:47:41 น.  

 
แวะมาแอบอ่านบ่อยๆ ปีนี้ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ
รออ่านหนังใหม่ๆ อยู่ค่ะ



โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:38:00 น.  

 
ซิงเจี่ยหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกใช้ค่า...........

ฟงฟงน่ารักดีนะคะ มามิยะขอพาอาเต๋อมาสวัสดีปีใหม่ด้วยก็แล้วกัน





โดย: mamiya วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:10:56 น.  

 
ฟงฟง ทำผมทรงนี้หน้าหวานไปเลยค่ะ 55555
แต่อาเต๋อสดใสดี (สีเสื้อด้วยล่ะ)

ได้พัก 1 วันเมื่อวาน แต่ก็(เดิน)เหนื่อยไปเลยค่ะ


กลับมาลุยงานต่อแล้ว

สวัสดีค่ะ คุณจอมยุทธหญิง เห็นในกระทู้หลายหนไม่ได้ทักทายซะที

ซินเจี่ยหยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ นะคะ
แล้วแวะเข้ามาคุยกันอีกนะ


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:36:36 น.  

 
ปีใหม่สากลก็ผ่านไปแล้ว


ปีใหม่จีนก็ผ่านไปอีกแลว


รอแต่ปีใหม่ไทยก็ใกล้เข้ามาทุกที


ระยะนี้เจ็บป่วย เลยห่างหายกันไป


มาแจ้งข่าวจ้า กำลังดูอยู่หลายเรื่อง ทั้ง "ชอลิ้วเคน" และ"เทียนเซียนเพ่ย" (เรื่องนี้นำแสดงโดยหวงเซิ่งอี กับหยางจื่อ เป็นหนังชุดเกี่ยวกับนางฟ้าเจ็ดและบัณฑิตหนุ่ม)ซึ่งก็ดูแบบแนวงิ้ว ๆ แต่ก็พอดูผ่านเวลาไปได้ สรุปคือยังไม่สนุกทั้งสองเรื่องเลยไม่เอามาเขียน

หลังตรุษจีนคงมีหนังใหม่ ๆ ออก ซึ่งตอนนี้ข่าวบันเทิงทั้งหลายก็มัวแต่ไปจับตามอง กรณีของเอดิสันกับดาราสาวสิบกว่าคนที่ตกเป็นกรณีถ่ายภาพลับ ๆ กว่า 400 รูปซึ่งกำลังระบาดโดยมือปล่อยที่ชื่อ "คิระ" แถมยังท้าทายตำรวจอีกแหน่ะว่า "เก่งจริงจับให้ได้สิ"

เรื่องนี้จะออกหัวออกก้อย ตอนนี้ จงซินถง หรือ อากิล ก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่าตอนนั้นไร้เดียงสามาก จึงได้เกิดเรื่องขึ้น และเอดิสันมือถ่ายในข่าวว่าจะกลับมาฮ่องกงภายในอาทิตย์นี้

แม่สามีของดาราสาวจางป๋อจือ ตีปอร่า หน้าตายิ้มแย้มตอนอยู่แอร์พอร์ต ข่าวว่ามาไหว้พระขอพรที่เมืองไทย

และรูปของดาราสาวคนล่าสุดที่ออกมา คือ แม๊กกี้ คิว ข่าวว่ายังจะมีต่อ ๆ ไป โดยมีสถิติการส่งต่อทางเน็ตที่น่ากลัวมาก ๆ


ทราบข่าวแล้วจะมาบอกจะว่าเป็นอย่างไรต่อไป แต่คาดว่าเพื่อน ๆ คงทราบกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ?


โดย: มามิยะ IP: 58.8.187.14 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:17:22 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่มามิ
ได้ข่าวเรื่องนั้นเหมือนกัน สงสารผู้หญิงจัง กลายเป็นเหยื่อไปเลย ทำให้รู้สึกว่าผู้ชายหน้าตาดีๆหลายคนก็น่ากลัวแฮะ ส่วนคนที่เผยแพร่ก็พอกันเลย ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าเป็นคนใกล้ตัวของตัวเองโดนเข้า จะรู้สึกยังไงนะ
(ไม่นานนี้เพิ่งมีรุ่นพี่คนนึงทำตัวเป็นคาสโนว่าทำให้พี่ๆผู้หญิงอีกหลายคนเสียใจแทบแย่ จนพี่คาสโนว่าต้องหลบไปพักหนึ่ง ทิ้งงานให้พวกหลิงเอ๋อร์ช่วยกันเคลียร์ ไม่รับผิดชอบเลยผู้ชายคนนี้)

บ่นแค่นี้ก่อนนะคะ ไปทำงานก่อนล่ะ
ขอให้พี่ๆเจอแต่คนดีๆเนอะ




โดย: หลิงเอ๋อร์ IP: 125.26.140.157 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:57:18 น.  

 
มามิ หลิงเอ๋อร์ สวัสดีทั้งสองคนจ๊ะ

มีความสุขมากๆในวันวาเลนไทน์นะ (เอไม่ค่อยเข้ากับที่นี่เท่าไหร่เลย)

ข่าวของเฉินกว่านซีนี่ดังแฮะ เพิ่งมาได้ข่าวจากหงส์น้อยเมื่อประมาณซัก 3 วันก่อนมั๊ง
ตอนแรกก็งงๆ (เมื่อวานน้องๆที่ทำงานก็ถามถึง เกือบตกข่าวแล้วล่ะ)

ข่าวแบบนี้มาเป็นพักๆแหละ เดี๋ยวก็ไป
แต่ก็ไม่เข็ดนะเรื่องเก็บภาพไว้แบบนี้แล้วมีมือดีเอาไปโพสท์ในเน็ตนี่
ฝ่ายหญิงเสียหายอย่างหนักแน่นอนค่ะ

เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ้นตลอดเวลา คงเป็นความเห็นแก่ตัวกับความประมาททั้งสองประการล่ะค่ะ
น่าจะต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกมาก เทคโนโลยียิ่งก้าวหน้ายิ่งอันตรายจริงๆ
เป็นอุทาหรณ์อีกครั้ง แต่ว่าไปน่าแปลกใจนะทำไมไม่ค่อยจำกันซักทีก็ไม่รู้นะ เรื่องเก็บภาพในคอมฯ นี่


ก็ไม่ใช่ว่าเคยเกิดครั้งแรกนี่นา เมื่อไม่นานมานี้ก็มีนี่เป็นดาราเวียดนามรึไงเนี๊ยะ นั่นก็อนาคตหมดไปเลย

อ่ะ อ่ะ วันวาเลนไทน์ ต้องพูดเรื่องความรักสินะ

ขอให้มีความสุขนะคะ เป็นวันที่สดใสวันหนึ่งนะ

ว่าแต่ว่ามามิ ชอลิ้วเคนนี่ แย่ขนาดนั้นจริงๆรึ
แล้ว ลู่เซี่ยวเฟิง ของจางจือหลินล่ะ เคยพูดไว้ว่า พอมีแววประมาณซักแผ่นที่4-5
ไม่งั้นรู้สึกว่าไม่มีหนังน่าดูเลยนะ เศร้าจัง


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:34:55 น.  

 
ขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักนะคะ

เมื่อคืนดูข่าววันใหม่ตอนหลังเที่ยงคืนก็มีเอ่ยถึงเหมือนกันค่ะ ดังสุด ๆ แล้วค่ะ

พี่คะ ชอลิ้วเคน ถ้าคนไม่เคยดูหนังจีนแล้วมาดูก็อาจจะโอเค หรือคนที่ไม่เคยดูหนังภาคเก่ามาก่อน ก็อาจจะโอเคด้วยเหมือนกัน หรือคนที่ชอบดาราที่เล่นก็คงโอเค แต่

คนที่เคยอ่านหนังสือ คนที่เคยดูหนังเวอร์ชั่นก๋อน คนที่เคยดูหนังจีนมาหลาย ๆ เรื่อง ชักจะไม่โอเคค่ะ หรือว่าดูก็ดูได้ แต่จะมีแต่...ตลอดเวลาค่ะ ถ้าจะว่าเหมาะ ก็เหมาะกับคนที่ชอบนักแสดงคนนั้น ๆ มากกว่าค่ะ อย่างมามิต้องการดูเปรียบเทียบกับของเก่าและกับหนังสือ และดูโปรดักชั่นและของเล่นใหม่ ๆ ค่ะ ว่ามีแนวอย่างไร แต่คิดว่าคงจะเลิกดูเร็ว ๆ นี้แหละค่ะ

ลู่เสี่ยวเฟิ่ง รอไว้ก่อนค่ะ เพราะเคยดูแล้วมีหลับ ต้องรออีกสักพัก มามิเชื่อ จางจื้อหลิน ว่าจะทำให้หนังสนุกได้ ต้องรออยากดูก่อนแล้วจะได้กลับมาดูค่ะ

ตอนนี้ไม่มีหนังน่าดูเลยค่ะ เลยอ่านหนังสือไปพลาง ๆก่อน และวันนี้ได้จอมนางกระบี่หงส์มาแล้วค่ะ เพิ่งได้มาค่ะ รีบเลยค่ะ กลับมาก็นั่งดูพากษ์ไทยค่ะพี่ ดูไปดูมา ก็นับว่าใช้ได้นะคะ แต่(มีแต่อีกแล้ว) เซียวเซียวไม่น่ารักเท่าเสียงจีนค่ะ มามิก็ไม่รู้ว่าทำไม ส่วนหวงอิงก็ไม่น่าเกลียดเท่าเสียงจีน คนที่ให้อารมณ์เหมือน ๆ กันทั้งสองเสียงคือ "เฟิ่งหวง" ค่ะ อาจได้เสียงพากษ์ที่เหมาะสมก็ได้ เพิ่งเริ่มดูค่ะ ต่อไปอาจเจออะไร ๆ เพิ่มขึ้นอีก แต่ที่แน่ ๆ คือชัดกว่าดูออนไลน์มากค่ะ ไม่ทรมานสายตาและไม่ทรมานโหลด

ของพี่ฟงรอสักพักนะคะ จะส่งไปให้ค่ะ

ตอนนี้ก็เลยดูแฉลบ ๆ อีกหลายเรื่อง นี่ค่ะ นานแล้ว ชื่อเรื่อง "เทียนหยาจุยซาลิ่ง" (คำสั่งฆ่าสุดขอบฟ้า) มีหลอเจียเหลียงเล่น น่าจะเป็นหนังนานแล้ว ไม่ค่อยเท่าไหร่

แต่ตอนดูใจก็มักจะคิดถึงเรื่อง "หักเหลี่ยมทรชน" เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง เนื่องจากทิ้งสิ่งคาใจเอาไว้ พยายามหาเรื่อง "ตี๋เหรินเจี๋ย" มันมีอยู่แต่ไม่รู้อยู่ที่ไหน หาไม่เจอ อยากดู หามาหลายอาทิตย์แล้ว เก็บจนจำไม่ได้


ตอนนี้คงดูเรื่อง "จอมนางกระบี่หงส์" เป็นหลัก แล้วกลับไปคุยในส่วนของ "หงส์ในยุทธจักร" แล้วไปเจอกันนะคะพี่



โดย: mamiya วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:12:04 น.  

 
เหงาไหมฦ เหงาไหม? เหงากันไหมคะ?


เหงาจังเลย ตอนนี้แก้เหงาอยู่แต่กับหนังสือล่ะค่ะ

ระยะนี้การบ้านท่วมไปหน่อย เลยไม่มีเวลาจะมาเขียนบล็อค เอาเป็นว่ามาทักทายกันเล่น ๆ ไปก่อนขึ้นเรื่องใหม่ก็แล้วกัน

เรื่องใหม่ยังไม่มีไอเดียเลย แต่ว่าจะเขียนเรื่อง "ข่งหมิง" ขอเวลาอีกสักหน่อย หวังว่าคงจะไม่เกิดอารมณ์อื่นมาแทรกแทรงไปเสียก่อน



โดย: มามิยะ IP: 124.121.240.138 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:11:32 น.  

 
ไม่มีเวลาให้ความเหงาแทรกเลยมามิ

เมื่อวานก็มาทำงาน โอยยยย เหนื่อย
ช่วงนี้แย่ๆๆๆๆ ทั้งงาน ทั้งร่างกาย

อากาศก็ไม่เป็นใจเลย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ทำตัวไม่ถูก

อาจต้องเว้นไปเป็นช่วงๆ เหมือนกันจ๊ะ แต่ไม่หายไปเลยหรอก
ถ้ามีหนังใหม่มาให้คุยอีก แฮ่ม....ยังไงก็ต้องมาแจม(แหม แหม ก็ช่วงนี้มันเงี๊ยบ เงียบนี่นา)


โดย: ฟงเฟยเซียะ IP: 202.183.185.87 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:29:14 น.  

 
ช่วงนี้ กำลังดูเรื่องนางพญาเหนือมังกรอยู่ค่ะ สนุกผิดคาดทีเดียว
ไม่ทราบว่าคุณมามิยะได้ดูแล้วหรือยัง

เป็นช่วงประวัติศาสตร์จีนที่ไม่เคยทราบมาก่อน เลยยิ่งดูสนุก ได้ลุ้นหน่อยค่ะ
ไม่งั้น ก็จะเป็นช่วงเดิมๆ ที่ทำซ้ำๆ จนเดาเรื่องได้
ดูมาเกือบถึง 3 ใน 4 ของเรื่องแล้วค่ะ

รู้สึกว่าฝงซูหยี เป็นฮองเฮาที่ซื่อจนไม่น่าจะได้เป็นไทเฮาในตอนท้ายเลยอ่ะ
แบบว่าไม่เคยแก่งแย่งชิงดีกับใคร แถมไม่รู้จักเอาใจฮ่องเต้ซะอีก
ขัดคอตลอด ดีที่ฮ่องเต้รักนางมาก ไม่อย่างนั้นคงโดนปลดไปตั้งนานแล้ว


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:56:23 น.  

 
บทกวีเพราะมากคับ


โดย: ชาน IP: 124.120.100.13 วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:8:42:30 น.  

 
ชอบครับ


โดย: สกินเฮด IP: 222.123.205.129 วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:19:57:10 น.  

 
ฝงไทเฮาไม่ไดเซื่อครับเขาจึงไปกราบอี้ฟูปู็หวุนเป็นพ่อบุญทำหรอกครับพอเปงไทเฮาแล้วก้อกำจัดกบดถึง2คนเตรียมแผนสำหรับฮองเต้องใหม่
พอเป็นไท่หวังไทเฮาแล้วเขาก็เปลี่ยนห้าประวัติศาสตร์จีนจากระบบหัวเมืองเป็นระบบที่นา และระบบให้รังวัลเป็นระบบให้เงินเดือนคอยคำ้ชูฮองเต้องค์ใหม่เป็นคนที่ฉลาดพอๆกับบูเช็คเทีบยเลยครับและเขาก็ได้เป็นฮองไทเฮา เขาจึงให้พี่ชายเขาแต่งงานกับน้องสาวอดีจฮองเต้เพื่อคุมอำนาจทางการทหารอ่าครับ
ลองคิดดูดีๆนะครับ


โดย: kimm IP: 58.9.187.212 วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:14:14:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mamiya
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคนี้ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิทางปัญญา โดยลิขสิทธิเป็นของผู้เขียน กรุณาให้เกียรติผู้เขียนเมื่อนำไปเผยแพร่ต่อควรขออนุญาตก่อน
[Add mamiya's blog to your web]