แบกเป้ ลุยเดี่ยวฯ วันที่ 41 กำแพงเมืองจีน สุสานหมิง วันที่ 16 เมษา กินอาหารเช้าแถวโรงแรมก่อนไปทัวร์ เป็นติ่มซำกับข้าวต้ม เหมือนร้านที่เคยกินก่อนหน้านี้ทุกอย่าง แต่ราคาแค่ 10 หยวน ถูกกว่าตั้งเท่าตัว เป็นนักท่องเที่ยวเลยต้องจ่ายแพงแบบนี้ ทัวร์นี้มีลูกทัวร์แค่ 5 คน เป็นหนุ่มอิหร่าน 2 คน กับคู่สามีภรรยาชาวลักเซมเบิร์ก ก่อนจะไปถึงกำแพงเมืองจีน เราต้องแวะช๊อปก่อน 2 ที่ตามธรรมเนียมทัวร์จีน ที่แรกเป็นโรงงานผลิตและขายหยก ได้เห็นคนงานนั่งเจียรหยกด้วย ร้านขายหยกมีหยกให้เลือกหลายสี ร้านใหญ่มาก เดินไปเดินมา ไม่รู้จะทำอะไรดิฉันเลยหลวมตัวซื้อของฝากมาชิ้นนึง ไม่รู้ซื้อมาทำไมเหมือนกัน เหมือนโดนสะกดจิต แถมพอจบทัวร์กลับบ้าน มาเปิดดูหยกที่ซื้อมาดันแตกซะอีก เซ็งเลย คิดว่าลูกทัวร์ส่วนใหญ่คงเป็นแบบนี้ พาเข้ามายังงัยก็ขายได้ ไม่มากก็น้อย จุดที่ 2 เป็นโรงงานผลิตแจกัน ที่นี่ 2 หนุ่มอิหร่านเริ่มออกลายนักช๊อป ซื้อพรมผืนใหญ่ พวกเราที่เหลือเลยต้องรอนานเกือบชม. กว่าของจะแพ็คของเสร็จ แต่สุดท้ายเขาให้เอาพรมไปส่งที่โรงแรมทีหลัง แล้วจะให้เรารอกันทำไมเนี่ย ระหว่างรอเขาแพ็คของก็ได้คุยกับ คู่สามีภรรยาชาวลักเซมเบิร์ก เขาเล่าว่าเขาลาพัก 1 ปีจากงานกันทั้งคู่ แล้วติดสินใจมาเที่ยวเอเชีย 6 เดือน เขาบอกว่าเขาสามารถลาหยุดงานโดยได้เงินเดือนแบบนี้ 6 ปี ถ้าทำงานกับรัฐบาล โห อะไรจะน่าอิจฉาขนาดนี้ อยากได้บ้างอะงานแบบนี้ เที่ยงพอดียังไม่ถึงกำแพงเมืองจีนเลย ออกมาแต่เช้า แวะกินอาหารเที่ยงก่อนขึ้นไปข้างบน ค่าอาหารรวมอยู่ในทัวร์แล้ว อาหารอร่อยค่ะ มีซุปเนื้อกับมะเขือเทศไม่รู้ชื่อว่าอะไรน้ำข้นๆ อร่อยมาก หลังอาหารเที่ยงก็ได้ขึ้นกำแพงเมืองจีนซะที ทางเข้าค่ะ ถ้าใครขึ้นโดยกระเช้าซื้อตั๋วตรงนี้แล้ว เข้าประตูไปได้เลย ถ้าจะเดินขึ้นก็เดินไปทางซ้ายมือ คู่สามีภรรยา จะขึ้นเคเบิ้ลและลงด้วย Toboggan ส่วนพวกเราที่เหลือตัดสินใจเดินขึ้น เพราะความงก เดินไปยังไม่ถึงนาที ดิฉันเจอป้ายโฆษณาว่า Toboggan คืออะไร เลยตัดสินใจขึ้นเคเบิ้ลแทน หนุ่มอิหร่าน 2 คนเลยเอาด้วย เคเบิ้ลที่นี่จะเสียวหน่อย ที่นั่งเป็นเหมือนชิงช้าธรรมดา ดูเหมือนไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่เลย ที่ล็อคก็ดูไม่หนาแน่น เวลาจะขึ้นต้องไปยืนตรงจุดที่เจ้าหน้าที่บอก แล้วเอาก้นจ่อเตรียมนั่งไว้ พอชิงช้ามันจะไม่จอด ไม่ชะลอ ต้องรีบนั่งเลย แล้วเจ้าหน้าที่จะเอาที่ล็อคลงให้ แต่ดีหน่อยที่มีที่วางขา ไม่ต้องนั่งห้อยขาต่องแต่ง เวลาลงก็เหมือนกัน พอชิงช้าผ่านจุดที่มีเครื่องหมายลูกศรให้เราวิ่งออก 2 ข้าง ตามเครื่องหมาย ห้ามช้า ไม่งั้นเดี๋ยวได้นั่งลงไปข้างล่างอีกรอบ เสียวไม่กี่นาทีก็มาถึงกำแพงเมืองจีนแล้ว ทัวร์นี้เหมาะกับป้าๆอย่างเรามาก ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย ก่อนซื้อทัวร์ ดิฉันเห็นมีโปรแกรมอีกอันนึง เดิน 2 วันที่กำเมืองจีน Simatai อยากลองอันนี้มาก แต่กลัวเดินไม่ไหว ไม่ได้ฟิตร่างกายมา เลยเลือกมาที่กำแพงเมืองจีนระดับกลาง ไม่ถึกมากอย่าง Mutianyu นี่ เจ้าหน้าที่ที่โรงแรมแนะนำว่าคนจะไม่เยอะมากเท่าที่ Bandaling ส่วนทางเดินก็ลำบากนิดนึง ไม่เหมือนที่ Bandaling ซึ่งเหมาะสำหรับคนแก่ไป ส่วนใหญ่ทัวร์จะไปลงที่นั่น จากจุดที่ขึ้นเคเบิ้ล เดินขึ้นมาข้างบนได้อีก พอให้หอบ นี่ถ้าไม่ขึ้นเคเบิ้ลมาท่าจะแย่เหมือนกัน วันนี้ฟ้าครึ้มมาก พอถึงข้างบนปุ๊บฝนตกเลย แต่ตกไม่ถึง 5 นาทีก็หยุด ค่อยยังชั่วหน่อย นักท่องเที่ยวน้อยอย่างที่เขาบอกจริงๆ ได้ดื่มด่ำบรรยากาศเงียบๆ แบบไม่พลุกพล่าน ดิฉันเดินไปจนสุดทาง จนไม่สามารถไปต่อได้ เพราะทางปิด กำแพงส่วนนี้พัง ขากลับเราจะนั่ง Toboggan ลงไปกัน ที่จ่ายเงินขึ้นเคเบิ้ลก็เพราะอยากเล่นอันนี้แหละ มันจะเป็นรถรูปร่างคล้ายโกลคาร์ท แล้ววิ่งไปตามราง เราไม่ต้องทำอะไร นอกจากเบรคเวลาเข้าโค้งเท่านั้น ถ้าไม่เบรคมาเร็วๆรถอาจตกรางได้ สนุกดีค่ะ เสียอย่างเดียว มันแซงไม่ได้ เจอคนหน้าช้า เราก็ต้องรอเขาไป แล้วเที่ยวนี้เราก็เจอคนช้า ยังสาวแท้ๆ ดันไม่กล้าซิ่ง ไม่เหมือนกลุ่มป้าๆอย่างเราเลย หลังจากออกจากกำแพงเมืองจีน ต้องไปสุสานหมิง แต่ไกด์บอกว่าไม่มีใครแจ้งเขาว่าต้องไป เราก็บอกว่าเราจ่ายเงินมามันรวมนะ ถ้าไม่รวมต้องราคาถูกกว่านี้ซี คุยกันอยู่ซักพักสรุปว่าไปให้เรา สุสานราชวงศ์หมิง Changling ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยซักคน แปลกมากๆ ไกด์บอกว่าส่วนใหญ่เขามากันตอนเช้า แล้วถึงไปกำแพงเมืองจีน ที่นี่ไม่มีอะไรเลย หนุ่มอิหร่านคนนึงเคยมาที่นี่แล้ว บอกว่าต้องไปทางเข้าอีกที่นึง ซึ่งมีพวกรูปปั้นสัตว์ และลงไปดูใต้ดินได้ โชคไม่ดีเลยพวกเรา พวกเขาประสานงานกันไม่ดีเลยทำให้พวกเราอดดู ได้คุยกับคู่สามีภรรยาที่มาด้วยกันทีหลัง เขาบอกว่าเขาจ่ายแค่ 150 หยวน เพื่อมากำแพงเมืองจีนอย่างเดียว แต่พวกที่เหลือจ่าย 220 หยวน สำหรับมา 2 ที่ คู่นั้นเลยได้กำไรไป ได้เที่ยว 2 ที่ในราคาถูก หารูปจากสุสานราชวงศ์หมิงที่ Dingling ให้ดูใคร ใครอยากไปจะได้ไม่พลาดเหมือนดิฉัน ออกจากสุสานราชวงศ์หมิง แวะไปร้านขายชาอีกเป็นที่สุดท้าย ถึงกลับโรงแรมได้ ไกด์บอกแค่ 3 ที่นี่ยังถือว่าน้อย ถ้าไปทัวร์ที่ Bandaling จะแวะเยอะกว่านี้อีก ก่อนกลับให้ไกด์เขียนชื่อร้านเป็ดปักกิ่งอร่อยๆ แถวที่พักให้เป็นภาษาจีน ต้องกินเป็ดปักกิ่งก่อนกลับ ไม่งั้นเดี๋ยวมาไม่ถึงปักกิ่ง ที่พักดิฉันทำเลดีมากค่ะ ใกล้ถนนคนเดินเฉียนเหมิน ตรงข้ามจะเป็นหอธนู ร้านนี้แหละค่ะ ที่ไกด์แนะนำ อยู่บนถนนคนเดินเฉียนเหมิน คนคอยคิวเยอะพอสมควรประมาณ 20 คนได้ตอนที่ดิฉันเข้าคิว รูปนี้ถ่ายตอนกินเสร็จแล้ว เกือบ 4 ทุ่ม คนเลยไม่ค่อยมี คนจองคิวพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ดิฉันเดาได้ว่าเขาถามว่าอะไรเลยยกนิ้วว่ามาคนเดียว ก็เลยได้กิน เมนูมีเป็นภาษาอังกฤษ เลยไม่ลำบากตอนสั่ง สั่งเป็ดปักกิ่งสำหรับ 1 คนมา ราคาแพงทีเดียวค่ะ ประมาณ 500 กว่าบาท ไม่น่ากินเลย ไม่ใช่ว่าแพงจนกินไม่ลงนะคะ แต่มันมันเยิ้มมาก เคยกินที่เมืองไทยมันไม่มันขนาดนี้ จริงๆมันก็อร่อยดี ถ้ากินแค่ไม่กี่คำ คืนนั้นนอนผะอืดผะอมอยากอ๊วกอยู่ตั้งนาน เซ็งเป็ดของแท้เลย กลับโรงแรมแล้ว ถามรีเซฟชั่นเรื่องราคารถแท๊กซี่ไปสนามบิน และให้เขาเขียนว่าเราจะไปสนามบินเป็นภาษาจีนให้ด้วย ก่อนนอนจองโรงแรมที่โซล 3 คืน ผ่าน hostel world เสียค่าธรรมเนียม 2 ดอลล่าร์ ค่าใช้จ่ายวันที่ 41 : ค่าอาหาร 785 บาท, โรงแรม 225 บาท, ล็อคเกอร์ 5 บาท, เคเบิ้ลขึ้นกำแพงเมืองจีน 325 บาท, ค่าธรรมเนียมจองโรงแรม 65 บาท รวมเป็นเงิน 1405 บาท ยอดรวมทั้งหมด 61,398 บาท   Create Date : 11 กรกฎาคม 2554 4 comments Last Update : 11 กรกฎาคม 2554 22:03:03 น. Counter : 3119 Pageviews. Share Tweet

ไปเที่นวเกาหลีด้วยคนนะคะ คืนนี้ฝันดีคะ   โดย: Yok IP: 223.204.66.3 11 กรกฎาคม 2554 23:26:22 น.

มาเลยค่ะ ตอนต่อไปถึงเกาหลีแล้ว   โดย: luvreise 12 กรกฎาคม 2554 0:01:37 น.

มาตามเที่ยวต่อครับ...   โดย: ปลาโอเค็ม 12 กรกฎาคม 2554 1:02:39 น.

เก่งจริงๆนับถือเลย   โดย: John13 IP: 101.108.60.64 12 กรกฎาคม 2554 1:04:55 น.