พวกผู้ใหญ่ห่วยๆอย่างพวกเรากำลังสร้างประเทศของตัวเองแบบไหน เราใช้ชีวิตไปทุกวันจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา สังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ เรากำลังบอกเด็กๆของพวกเราว่ามันไม่เป็นไรหรอกเมื่อทำผิด...ผิดทั้งกฎหมายและกฏศีลธรรม หากหนูมีแบ็คที่แกร่งพอ เรากำลังบอกเด็กๆด้วยการทำให้ดูว่าความผิดนั้นแก้ไขได้ง่าย...แค่หนูเป็นใครสัำกคนที่มีชื่อเสียง มีคนรู้จัก ไม่เป็นแค่ตาสีตาสา เรากำลังทำให้เด็กเหล่านั้นรู้ว่าผิดถูกไม่สำคัญ หากคุณมีพ่อแม่ญาติพี่น้อง คนรู้จัก แม้แต่มีความเกี่ยวพันผ่านทางผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่พอจะกลับผิดเป็นถูก หรือกระทั่งผิดก็ผิดแล้วยังไงล่ะ ไม่มีผลอะไรเลวร้ายตามมาสักหน่อย เรากำลังสร้างประเทศของเราแบบนั้น ตอนที่เรายังเด็ก ครูบาอาจารย์ คนในสังคมต่างบอกเราฝากอนาคตของประเทศไทยไว้ในกำมือเด็กๆ ทิ้งความหวังว่าเด็กจะโตขึ้นมาสร้างประเทศที่ดีกว่าเดิม ประเทศที่กฎหมายคือกฏหมาย ประเทศที่ไม่มีการคอรับชั่น ประเทศที่หัวใจของคนพัฒนาไม่เห็นแก่แค่ตัวเอง ผ่านมากี่ปีแล้ว เราก็ยังหวังแบบเดิม เด็กในวันนั้นโตขึ้นมา กลับมาฝากความหวังแบบเดิมๆกับเด็กในวันนี้ ในขณะที่ผู้ใหญ่เฮงซวยแบบพวกเรากำลังใช้ชีิวิต ยอมชีวิต ผ่านสังคมเฮงซวยโดยไม่คิดแก้ไขด้วยมือตัวเอง แถมยังช่วยก่อร่างแบบความเฮงซวยของสังคมต่อเติมกว้างใหญ่และสูงขึ้นไปเรื่อยๆโดยที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว โดยผ่านการวางเฉย การปล่อยผ่าน การก่นด่า แต่อย่างเดียวที่ไม่ทำ คือ การลงมือแก้ไข สังคมไทยตอนนี้เป็นแบบไหนกัน สังคมที่ผู้หญิงจนๆคนหนึ่งเอาวีซีดีเก่ามาขายแล้วโดนจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ติดคุกหลายปี สังคมที่ลูกคนรวยเมาแล้วขับลากตำรวจจราจรไปหลายร้อยเมตรจนตายอย่างน่าอนาถแต่กลับพ้นผิดโดนแค่โทษรอลงอาญา เราจะไม่โทษว่ากฎหมายมาตรามันต่างกัน เพราะมันก็ต่างในข้อกฎหมายจริงๆ ซึ่งต้องยอมรับ แต่มันสะท้อนอะไรให้เห็นไหม มันสะท้อนว่าความยุติธรรมไม่มีอยู่ในสังคมไทยเลย มันยังสะท้อนว่าถ้าคุณรวยพอ คุณมีเงินจ้างทนาย ถ้าคุณมีชื่อเสียงพอ ถ้าคุณมีแบ็คดีพอ กฎหมายก็แตะต้องคุณไม่ได้ เราอยู่ในสังคมที่ยื่นเงินให้ตำรวจจราจรเวลาตัวเองทำผิดกฎหมาย แล้วกลับมาก่นด่าหาว่าตำรวจรีดไถ เราอยู่ในสังคมที่ยอมเสียค่าปรับ500บาทเพื่อขอให้ได้ตบคนสักทีเพื่อความสะใจ เพราะรู้ว่ากฎหมายมันอ่อนจนทำอะไรเรามากกว่านั้นไม่ได้ นี่ล่ะเรากำลังสร้างประเทศของเรา เราเห็นเด็กติดยาแล้วถูกผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมาออกหน้าว่าไม่ได้ทำอะไรผิด กลับดำเป็นขาว โดยไม่มีใครกล้าร้องเรียนว่ากำลังขัดขวางกระบวนการยุติธรรม เด็กคนหนึ่งให้บทเรียนกับเด็กไทยทั้งประเทศแบบนั้น บอกพวกเขาว่าคุณต้องใหญ่ให้พอ มีชื่อเสียงพอ มีเงินพอ มีคนรู้จักให้พอ แล้วไม่ว่าจะทำผิดแค่ไหนคุณก็จะรอดตัว โดยไม่ต้องได้รับผลของการกระทำผิดของตัวเองเลยด้วยซ้ำและพอรอเวลาไม่นานพอก็จะสามารถกลับมาเชิดหน้าแบบเดิมได้โดยแทบจะมองหาความสำนึกผิดไม่เห็น เราคนไทยบอกกันว่าเราเป็นพวกลืมง่าย ให้อภัยง่าย ที่เป็นแบบนั้นไม่ใช่้เพราะคนไทยเราเป็นเมืองพุทธหรอกนะ แต่มันเพราะสันดานของคนไทยเรามันขี้เกียจเอาเรื่องเอาราวต่างหาก เพราะทำแล้วรู้สึกมันเป็นภาระต่อชีวิต เอาเรื่องไปแล้ว"ตัวเอง"ก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นคือไม่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนการกระทำนั่นเอง เราเป็นประเทศที่หมูไปไก่มามาแต่ไหนแต่ไร มีค่าตอบแทนค่าเหนื่อยกับการลงมือลงแรงไปในทุกอย่างโดยใช้คำว่า "น้ำใจ" เป็นฉากบังหน้า สิ่งที่ทำแล้วเหนื่อยเปล่าสู้ไม่ทำเสียจะดีกว่า หรือทำก็ทำได้แค่ไม่นาน พอขี้เกียจแล้วก็เลิกทำ เพราะงั้นไอ้คนทำผิดในบ้านในเมืองเรา มันถึงได้กลับมาเหยียบหัวเราซ้ำแล้วซ้ำอีก กลับมาทำเลวได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะอ้างว่าคนไทยใจดี ลืมง่ายนี่ล่ะ เมื่อไรกันที่เราจะเริ่มนิสัยจำฝังใจกันบ้างเสียที ทั้งเรื่องดีเรื่องเลว จำเรื่องดีเพื่ออย่างน้อยเป็นกำลังใจให้คนที่เขาลงมือกระทำ จำเรื่องเลวไว้เพื่อมาเป็นเครื่องกีดขวางพอให้ไอ้คนที่จะกลับมาทำผิด ทำเลวซ้ำ คิดทบทวนสักนิดก่อนจะลงมืออีกรอบ และกลัวไม่เหลือที่ยืนในสังคมไทยกันเสียบ้าง เลิกขี้ลืมกันบ้าง โลกยุคปัจจบันมันไม่เหมาะสำหรับความขี้ลืมแบบไทยๆอีกต่อไปแล้ว นี่ล่ะเรากำลังสร้างประเทศของเรา มีคนลงมือทำด้วยการขัดขวางการทำลายป่าของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง คนกลุ่มๆหนึงทำ หวังว่าการกระทำเล็กๆของเขาจะสื่อให้คนในประเทศสนใจขึ้นมาได้บ้าง แต่สื่อสำคัญของประเทศทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์โดยเฉพาะรายการข่าวกลับไม่ให้ความสำคัญจะเผยแพร่ ทำเป็นหลับตามองไม่เห็น หากแต่สื่อกลับนำเสนอข่าวฆ่าคนตาย กล้วยงอกหางออกมาเป็นจิ้งจก ลูกหมูแปดขา ไหว้ผีสางที่หาทางพิสูจน์ไม่ได้แค่บอกเพียงอย่าลบหลู่ นี่ล่ะเรากำลังสร้างประเทศเรา บอกให้เด็กๆรู้ ทำให้เด็กๆเห็นว่าอะไรคือคือเรื่องสำคัญของประเทศ ของบ้านเมืองนี้ ไม่ใช่การดูแลบ้านเมือง แต่คือความฉาบฉวยของกระแสสังคม นี่เรายังหวังให้เด็กเหล่านี้ในวันนี้เป็นอนาคตของประเทศไทยอีกอย่างงั้นหรือ ในเมื่อตัวเราเองกำลังสร้างประเทศเฮงซวยด้วยการลงเสาเข็มเป็นฐานลากอย่างมั่นคงมาเรื่อยๆแบบนั้น เด็กที่ไหน แค่ไหนจะมีแรงพอล้มรากฐานความเฮงซวยของประเทศนี้กัน |