Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
เส้นขีดเวลาของตัวเรา

 

 

 

<><>

 

 

 


เรามีหลานคนหนึ่งที่มีนิสัยคล้ายกับเรามาก เรียกว่ามากจริงๆเพราะดูแลเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดเลยไอ้เด็กคนนี้ หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่เราคิด รับรู้มา เราก็มักถ่ายทอดให้เจ้านี่ฟัง

แต่ก็ใช่ว่าอิหนูจะมีนิสัยเหมือนเราเป๊ะหรอกนะ ก็ชีวิตอีกเก้าส่วนของเขาน่ะขึ้นอยู่กับครอบครัวและสภาพแวดล้อม...มันแน่อยู่แล้วนินะ ^ ^~

 

วันหนึ่งหลานคนนี้ก็บ่นเรื่องว่าบางทีเพื่อนเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตตัวเองมากเกินไป (คิดดูยังเด็กตัวกะเปี๊ยกแท้ๆนะเนี่ย....เง้อออ)

เราก็ตะล่อมให้เขาค่อยๆ เล่าให้ฟังว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ซึ่งพอรู้แล้วแทบเก็บรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ เจ้าเด็กนี่ช่างมีโลกส่วนตัวสูงแท้

 

แล้วเราก็เลยพูดออกมาแบบเรื่อยๆเปื่อยๆไม่ให้ออกไปเชิงสั่งสอน เราบอกว่าทุกคนต่างก็มีเส้นแบ่งของตัวเองทั้งนั้น เส้นที่จะกั้นไม่ให้คนอื่นเข้ามาในโลกของตัวเอง ซึ่งเส้นของบางคนก็กว้่างและไกลจากตัว แต่บางคนก็ตีเส้นแทบติดกับหัวใจตัวเอง

แล้วเส้นนั้นก็ใช่ว่าจะตายตัวเท่ากันไปทุกคนทุกที่

 

เจ้าหลานก็เริ่มขมวดคิ้วละ ไอ้นี่มันใจร้อนจริงให้ตาย

 

เส้นของเรา เราอาจขีดให้คนหนึ่งใกล้ แต่อีกคนซะไกล...ก็ได้

แล้วเส้นของคนที่เราขีดให้ไกลแต่เขาอาจชอบที่จะเข้ามาใกล้เราก็เป็นได้ แบบเดียวกับที่เส้นที่เราขีดให้เขาคนนั้นเข้ามาใกล้แต่เขานั่นอาจพอใจที่จะอยู่ไกลๆได้เหมือนกัน

 

อิหนูพยักหน้าเหมือนพอเข้าใจแล้วถามว่าแล้วถ้าอีกฝ่ายล้ำเส้นที่เราขีดไว้เข้ามาล่ะจะทำไง

 

เง้อ...อิหนูนี่เป็นพวกรักษาสิทธิส่วนบุคคลเต็มศักยภาพเลยฟุ้ย

 

เราก็ตอบไปว่ามันเป็นเรื่องยากถ้าจะทำแบบยังรักษาน้ำใจอีกฝ่าย ถ้าจะเอาง่ายๆ ตรงๆ ก็บอกออกไปเลยว่าเราไม่พอใจในสิ่งที่เขาทำ บอกว่าเขาก้าวก่ายเกินไปแล้ว ถ้าเขาเข้าใจก็จะเข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจแล้วก็อาจผิดใจกันได้

เราย้ำว่าพอหนูโตขึ้นหนูจะรู้ว่าบางสิ่งเราก็พูดออกไปตรงๆไม่ได้ มันมีคำว่ามารยาททางสังคมครอบเราอยู่เพราะงั้นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดคือถอยตัวเองออกมา เป็นการเตือนเขาครั้งแรกว่าเขาใกล้เกินไปแล้วนะ

 

หลานยังไม่พอใจกับคำตอบ ถามต่อว่าถ้าเขายังเดินตามมาอีกล่ะ

 

เราแทบส่ายหัวแล้วสงสัยว่าเราเลี้ยงเจ้าเด็กนี่ดีเกินไปแล้วนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

งั้นก็ลองถอยมาอีกหลายก้าว เป็นการเตือนเขาอีกสักครั้ง ซึ่งถ้าเขายังไม่เข้าใจอีกก็ขึ้นอยู่กับเราล่ะว่าคนคนนั้นสำคัญกับเราแค่ไหน ตัวเรายอมอึดอัดเองเพื่อเขาได้หรือเปล่าหรือไม่ก็ได้แค่ไหน

...แล้วถึงตอนนั้นหนูจะรู้ว่าหนูต้องจัดการแบบไหนเอง

 

อิหนูเลยทำหน้ามุ่ยบอกว่าอีกละ ชอบพูดแบบนี้อยู่เรื่อย

 

 

เรามักสอนหลานแบบนี้ สอนให้หลานรู้ว่าประสบการณ์จะสอนคนเราเองว่าต้องจัดการชีวิตตัวเองอย่างไร คนเรานั้นจะเจอทั้งผิดและถูก พอใจและขัดใจ ฝืนใจและจำทน

...ไม่มีทางได้ดั่งใจไปเสียทุกอย่างหรอกอิหนู

และสิ่งที่ทำในตอนนี้ อีกหน่อยเราอาจจะจัดการในวิธีที่ต่างออกไปในเรื่องเดียวกันนี้ล่ะ

และเรื่องเดียวกัน ต่างคน วิธีก็ต่าง แถมเมื่อเวลาต่าง เรื่องเดียวกัน คนคนเดิม วิธีก็ยังอาจต่างนะ(จะบอกให้)

 

เราไม่อยากยัดเยียดความคิดแบบหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองให้กับหลาน

เพราะเราโตเกินพอจะรู้ว่ากับโจทย์ของชีวิต  คำตอบมันอาจไม่ใช่สอง และบางคราวมันอาจมีหลายคำตอบให้เราต้องตัดสินใจเลือกแม้ไม่อยากเลือกด้วยซ้ำไป

 

 

เด็กคนนี้ที่เราปลูกฝัง เราอยากให้เขามีรากแก้วทางความคิดที่แข็งแรงเพื่อที่ไม่ว่าจะเจอลมพายุหนักจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า แดดร้อนจนแผ่นดินละลาย หรือลมหนาวเกาะกินถึงขั้วกระดูก เขาก็ยังสามารถยืนหยัดฝ่าฤดูกาลของชีวิตตัวเองไปได้แม้อาจต้องรากเลือดแทบตายแค่ไหนก็ตาม

 

คิดถึงชะมัดเจ้าหลานหัวดื้อคนนี้ จะได้เจอกันอีกทีก็ปีหน้าเลยนะเนี่ย หวังว่าเจ้าตัวคงไม่ไปล้ำเส้นใครเขาเข้าให้หรอกนะป่านฉะนี้

 

Smiley

 

 

 




Create Date : 09 สิงหาคม 2556
Last Update : 9 สิงหาคม 2556 19:27:27 น. 0 comments
Counter : 911 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.