|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
Babel
"โดดเดี่ยวในโลกกว้าง อ้างว้างท่ามกลางฝูงชน"
อ้าง อิงจากบทปฐมกาล เจเนซิส กล่าวไว้ว่า หลังจากมนุษย์ชาติและสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้อาศัยเรืออาร์ค (ของ โนอาห์)รอดพ้นจากอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเป็นดลบันดาลของพระ ผู้เป็นเจ้าเพื่อชะล้างให้ผืนแผ่นดินสะอาดสดใสแล้ว เหล่าผู้รอดชีวิตเหล่านั้นได้รวมตัวกันสร้างเมือง บาบิโลนและหอคอยบาเบลขึ้นมา
หอคอยอันสูงเด่นตระหง่านนับเป็น สัญลักษณ์ความสมานฉันท์และการอาจเอื้อมเหลือประมาณที่คิดจะล่วงล้ำขึ้นไป สู่เขตแดนของพระผู้เป็นเจ้า... ด้วยความพิโรธ หอคอยเสียดฟ้าพังทลายลงทันใดจากพระมหินทรา
และสิ่งที่ตามมาคือ ผู้สร้างหอคอยทุกคนกลับพูดจาด้วยภาษาที่แตกต่างกัน นับจากนาทีนั้นความสับสนอลหม่านก็เกิดขึ้นบนโลกนี้ และนั่นคือเรื่องราวของหอคอยบาเบลที่หลายๆคนรู้จัก
มากกว่านี้คง ต้องรบกวนให้ไปหาอ่านเอง เพราะอันที่จริงตัวผมก็ไม่แม่นพระคัมภีร์สักเท่าไหร่นัก เข้าทำนองว่าเขียนเยอะก็ผิดเยอะ แต่จะอย่างไรก็ดี บาเบลในศักราชนี้ไม่ใช่เรื่องราวที่บอกเล่าถึงหอคอยในตำนาน หากแต่บอกถึงความสับสนเมื่อมนุษย์มิอาจเข้าใจกันด้วยคำพูด
Babel เป็นงานดราม่าขายความกดดันชิ้นล่าสุดของ Alejandro Gonzalez Inarritu (เจ้าของฝีมือกำกับ 21 Grams) ที่ครั้งนี้ได้ดาราแม่เหล็กอย่าง แบรด พิตต์และเคท แบลนเชตต์มาช่วยเรียกคนดู
มาครั้งนี้ผู้กำกับพรสวรรค์ อย่างอินาริตูเล่าเรื่องที่โศกนาฏกรรมที่กินเวลาราวๆ 5 วันซึ่งผูกโยงคน 4 กลุ่มใน 3 ประเทศเข้าด้วยกันจากจุดเริ่มต้นเพียงปืนกระบอกเดียว ดูไปดูมาคล้ายๆกับว่าอินาริตูพาเราเฉี่ยวทฤษฏีปีกผีเสื้อ (Butterfly effect) หรือการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวไปแบบเฉียดฉิว
ที่ต้องบอกอย่างนั้นเพราะว่าการมองข้ามประเด็นเรื่องเล็กลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ไปเพราะหนังมีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าไว้ขายเรานั่นเอง
บาเบลเริ่มต้นเรื่องราวพร้อมๆ กับการเปลี่ยนเจ้าของของปืนไรเฟิลกระบอกหนึ่งที่ครอบครัวชาวบ้านในทะเลทราย ของโมร็อคโคซื้อไว้ให้ลูกชายวัยรุ่นทั้งสองของเขาล่าหมาไนเพื่อเป็นการปก ป้องฝูงแพะ แต่ด้วยความคึกคะนองของทั้งคู่ที่ยังสงสัยในอานุภาพของอาวุธ กระสุนนัดหนึ่งก็พุ่งเข้าหาเป้าหมายที่ไม่มีใครคาดถึง
หนังพาเราไป พบในเวลาถัดมาว่าเหยื่อของกระสุนนัดนั้นเป็นคุณแม่ลูกสองชาวอเมริกันที่มา พักผ่อนและหาทางปรับความเข้าใจกับสามีเพียงลำพัง 2 คน จากเหตุการณ์แห่งความคึกคะนองลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลกอยู่ในยุคแห่งความตื่นตระหนกต่อการก่อการร้าย
อีก ด้านหนึ่งลูกทั้งสองของนักท่องเที่ยวเคราะห์ร้ายก็พบเรื่องราวที่สาหัส เมื่อพี่เลี้ยงชาวเม็กซิโกตัดสินใจพาทั้งคู่ข้ามพรหมแดนไปร่วมงานแต่งงาน ลูกชายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากเหตุการณ์หนึ่งสู่อีกเหตุการณ์หนึ่งบาเบลนำพาผู้ชมไปสู่ลูกโซ่ของความ ผิดพลาดที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง
ไกลออกไปยังอีกซีกโลก หนึ่งเด็กสาววัยรุ่นชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งกำลังทนทุกข์และอ้างว้างในเมือง ใหญ่... เพราะในโลกที่แสนอึกทึกกลับเงียบสนิทสำหรับเธอ ครับ เธอเป็นผู้พิการทางการได้ยิน พวกเขาถูกดึงเข้ามาโยงใยกันและกันได้อย่างไรและอุบัติเหตุที่น่าเศร้าครั้ง นี้จะจบลงแบบไหนก็ต้องไปตามดูกันเองแล้วครับ
ว่ากันที่ตัวหนัง... บาเบลโดดเด่นสมชื่อหอคอยเสียดฟ้าในบทปฐมกาลด้วยการผูกเรื่องที่ไม่น่า เกี่ยวข้องกันให้เกิดเป็นโศกนาฏกรรมขึ้นมาได้ แต่การจะกระทำเช่นนั้นได้เทคนิคการเล่าเรื่องและลำดับภาพต้องเป็นระดับขึ้น หิ้งสุดแสนบรรเจิดเลิศเลอ ไม่งั้นจะพาลงงกันทั้งคนสร้างและคนดู
และ นี่คือส่วนที่ผมต้องติ (ซึ่งจริงก็ไม่ค่อยอยาก) บาเบลเลือกที่จะเล่าเรื่องโดยไม่ยึดติดกันลำดับเวลาและสถานที่ อาจเพราะหนังไม่ยอมปูพื้นความรู้ให้เราแม้สักประโยคเดียว ผู้กำกับจึงเลือกว่าอะไรที่คนดูของเขาควรจะรู้ก่อนและหลัง
บา เบลพาคนดูตัดกลับไปมาโดยไม่อิงกับเวลาและสถานที่ พาไปข้างหน้าและพาย้อนมาข้างหลัง พาไปที่นู่นทีจนพอใจ (ของผู้กำกับ) แล้วเขาก็จะพาเราเปลี่ยนไปอีกที่หนึ่ง ผมค่อนข้างเข้าใจว่าวิธีกำกับแบบนี้เป็นอะไรที่สุดแสนจะ แนว
แต่หาสมาธิหลุดและไม่ต้องใจติดตามแล้วล่ะก็... คุณได้หลงทางกลางทะเลทรายแน่ๆ เพราะหลายครั้งการลำดับภาพการเรากระโดดเร็วเหลือเกิน
ส่วน ที่ชัดเจนมากๆคือ แก่นของเรื่องที่เน้นว่า หากไปอยู่ในโลกที่เราไม่ได้รู้สึกกลมกลืน... จะอึดอัดขนาดไหน ทั้ง 2 สามี-ภรรยาที่ต้องติดแหง่กแถมบาดเจ็บในดินแดนที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจภาษาของ เรา เด็กๆที่สัมผัสกับโลกในอีกแบบหนึ่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องนักเรียนญี่ปุ่นที่อยู่ในโลกเงียบและใครหลายคนหัน หลังให้เธอ
พูดถึงเนื้อเรื่องในส่วนของครอบครัวชาวญี่ปุ่นแล้ว ผมออกจะสงสัยไม่น้อยว่านี่เป็นเพียงส่วนเติมเต็มของเรื่องราวหรือเป็นแค่ อะไรบางสิ่งที่ผู้กำกับยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างของการไม่เข้าใจภาษาในอยู่แบบ หนึ่งเท่านั้น เพราะตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนกับว่า ครอบครัวนี้กลายเป็นหนังอีกเรื่องที่ซ้อนทับอยู่
หากมองดูแล้วจะพบ ว่า ความเกี่ยวเนื่องของ 3 กลุ่มคนที่เหลือนั้นดูจะกลมกลืนและแนบเนียนกว่า แต่น่าแปลกที่แม้จะจะแค่เกาะกับเนื้อเรื่องหลักแค่เพียงปลายนิ้ว เรื่องราวของน้องหนูญี่ปุ่นกับโลกเงียบของเธอนั้นโดดเด่นและมีพลังในการ สื่อความหมายมากกว่าเสียอีก
การดำเนินเรื่องแบบคู่ขนานพร้อมการเล่า เรื่องแบบไม่ยึดติดกับลำดับเวลาขับให้ความขัดแย้งในเนื้อเรื่องเด่นชัดขึ้น มา เราจะเห็นทั้ง 2 ฝั่งของกลุ่มคนที่พัวพันกับความผิดพาลดครั้งนี้ และเห็นความเจ็บปวดค่อยๆกัดกินพวกเขาและนั่นทำให้หนังเป็นเจ้าของช่วงเวลา อันน่าอึดอัดและตรึงเครียดนาทีแล้วนาทีเล่า แต่ไปๆมาๆ บทจะลงเอยก็ลงเอาเรียบๆง่ายเสียอย่างนั้น
ว่ากันที่นักแสดง... 2 นักแสดงนำทั้ง พิตต์และเคท ดูจะลอยตัวกับบทบาทที่พวกเขาได้รับ ความชั่วแน่นอนว่าไม่มีแต่ถ้าจะให้ชมก็ชมไม่เต็มปากมากนักเพราะทั้งคู่ดู ไม่เปลืองพลังของซูเปอร์สตาร์มากเท่าที่ควร และอันที่จริงและทั้งพิตต์และเคทเองก็เป็นเพียงนักแสดงนำ หาใช่กระดูกสันหลังของเรื่องทั้งหมดไม่
ที่น่าประทับใจและต้องปรบ มือให้คงหนีไม่พ้นเด็กชาวบ้าน 2 คนที่มาจากไหนก็ไม่ทราบแต่มีพลังในการชับเคลื่อนเรื่องราวได้ และที่ควรชมมากกว่านั้นคือ 2 นักแสดงสมทบหญิง Adriana Barraza จากบทพี่เลี้ยงเด็กชาวเม็กซิโกและแน่นอน น้องหนู Rinko Kikuchi จากบทสาวใบ้ ชิเอโกะ ที่ขยันขโมยซีนเอามากๆ (เธอทั้งคู่เข้าชิงรางวัลออสการ์สานักแสดงสมทบหญิงปีนี้)
หลายคน เปรยๆว่าดูบาเบลจบแล้วอดคิดย้อนไปถึงเรื่อง Crash ไม่ได้ จะเพราะอะไรก็ตามผมไม่ทราบได้เพราะไม่ได้ดูหนังเรื่องที่ว่า แต่ไม่ต้องเปรียบมวยกับใครอื่นบาเบลก็ชัดเจนจะแจ้งในตัวตนของตัวเองอยู่แล้ว หนังพาเราขึ้นจุดพีคตามเป็นควรจะเป็นและก็คลายลงในตอนท้ายโดยไม่มีแวะพัก หรือที่ว่างใดๆให้การความผลิกผัน
(ไม่นับเรื่องที่เป็มปมบางอย่างที่ผู้กำกับน่าจะจงใจทิ้งไว้เราคาใจกันเล่นๆ)
ว่า กันถึงรางวัล... จากการเข้าชิงถึง 7 รางวัลในเวทีออสการ์ (ขออนุญาตไม่พาดพิงไปถึงรางวัลอื่นๆ เพราะขี้เกียจเขียนถึง) ที่อยากให้ได้ใจจะขาดก็คือสมทบหญิงยอดเยี่ยมและรางวัลด้านเพลงประกอบ ส่วนของใหญ่อย่างภาพยนตร์แห่งปีนั้นยังไม่กล้ายกให้เพราะยังไม่ดูคู่แข่ง รายอื่นเลย แต่ให้ทายคงต้องบอก ดียังไม่พอ ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกว่า ไม่ได้แน่นอน
(ถ้าผมทายผิดหนังเกิดได้รางวัลขึ้นมาค่อยว่ากันทีหลัง)
ภาพ รวม... เนื้อเรื่องเล็กๆที่ทรงพลังมาพร้อมกับการต่อเชื่อมอย่างแยบยล (ถึงจะโดดหยองแหยงบ้างบางอารมณ์) และแม้จะไม่มีความน่าตื่นเต้น (ไปเกินกว่าที่เรื่องราวควรจะมี) ก็ต้องชมว่าอินาริตูแน่จริงๆที่ทำได้ถึงขนาดนี้ พิพากษาให้คะแนนแบบไม่ลำเอียงแล้ว เรื่องราวความสับสนในโลกที่เราไม่คุ้นเคยชิ้นนี้ รับไปจากผม 3 ดาวค่อนๆ
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2550 22:58:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 730 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|