|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Windstruck
Windstruck กอดฉันให้นานอีกหน่อย เธอค่อยไป
ยัยตัวร้ายกลับมาแล้ว และกลับมาในแบบที่เราเคยคุ้น... พบ จวน จีฮุนนางเอกอันดับหนึ่งของเกาหลี (และในใจผม) ในบทของสาวซ่าที่น่าเศร้าและ จัง ฮุค (จาก Volcano High) ในมาดพระเอกซุ่มซ่าม
คุ้นๆเหมือนเคยดูที่ไหนมาก่อนรึเปล่านะ
ในซีรี่ย์ของยัยตัวร้ายทั้งหลายแหล่ที่ผ่านหูผ่านตาพวกเรามานั้น ผมเชื่อหลายคนคงคิดเหมือนผมว่า ยังไม่มียัยตัวร้ายฉบับไหนดีพอจะเข้ามาแทนต้นเหตุของยัยตัวร้ายได้เลย
แม้จะแจ้งเกิดกับบทนักพากษ์สาวใน อิล มาเร่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าของโค้ดเนม J-Jh มาดังเป็นพลุแตกไปทั่วเอเชียก็ตอนที่มารับบทสาวห้าวซ่อนเศร้าใน My Sassy Girl
และนั่นทำให้เราได้พบกับ ยัยตัวร้ายในแบบต่อๆมา... (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะยัยตัวร้ายไปถึงไหนอีก) ภาพความซ่าแต่น่ารักของจีฮุนในมายแซสซี่เกิร์ลนั้นไม่สามารถลบล้างจากหัวใจพวกเราไปได้
ไหนๆก็ไหนๆ เอามันอีกสักรอบเป็นไง
ครับ Windstruck เดินมาทางเดียวกันกับ My Sassy Girl เหมือนกันเป๊ะๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่า แมวย้อมสีตัวนี้จะมีคุณภาพเฉกเช่นเดียวกับต้นฉบับ... แต่แมวสีอะไร ขอให้สนุกก็พอ
จวน จีฮุนกลับมาคราวนี้แทบจะลอกแบบยัยตัวร้ายของเดิมมาทั้งดุ้น เพียงแต่ใน Windstruck จีฮุนห้าวน้อยลง ฮาน้อยลงแต่ เศร้ามากขึ้นและน่าปลอบใจมากขึ้น
ผมกำลังพูดว่า Windstruck มีความเป็น โรแมนติกดราม่ามากกว่าโรแมนติกคอมมอดี้
Windstruck เปิดตัวในองค์ที่ 1 ของหนังอย่างที่เราสามารถเดาได้จากการวางภาพลักษณ์ของหนังในโฆษนาต่างๆ แต่บางทีมันก็ฮาไม่สุดเหมือนกับว่า เราเคยดูอะไรแบบนี้ไปแล้วรอบหนึ่งนั่นแหละ
ก่อนจะพาเราเพลิดเพลินกับความสุขมากเกินไป องค์ที่ 2 ของหนังจะถูกโยนขึ้นมาตัดอารมณ์กันแบบหักดิบอย่างดื้อๆ... จากสุขนาฏกรรม เป็นโศกนาฏกรรมในชั่วพริบตา......
(แทรกนิด ไม่รู้ใครคิดเหมือนผมรึเปล่า ผมแอบเห็น LOTR อยู่ช่วงนึงในหนังด้วยแฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า อันนี้ก็คงเป็นความตั้งใจจะแซวหรือทำเพื่อคารวะของหนังระดับออสการ์ล่ะมั้ง)
ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือความกระชั้นของเวลา การตัดอารมณ์แบบปุ๊บปั๊บของหนังทำให้คนดูงง อึ้งและช็อกไปพอสมควรทีเดียว... จะนับมันเป็นข้อดีหรือข้อเสียดีล่ะเนี่ย แต่นั่นก็เป็นเพียงเซอร์ไพร์แรกเท่านั้นเอง
ในองค์ที่ 3 ซึ่งผมถือว่าเป็นจุดแข็งและจุดขายจริงๆของหนัง Windstruck มาพร้อมกับสิ่งที่หนังแทบทุกเรื่องจะต้องมี ชื่อนั้นคือ ปาฏิหาริย์..... ที่เหนือธรรมชาติ
สาบานได้ ผมไม่เคยเอะใจเลยว่าน้องนาง J-Jh จากพาเราออกทะเลมาได้ไกลขนาดนี้.... เอา เอาเข้าไป ระหว่างดูผมคิดงี้จริงๆครับ (ใครดูแล้วคงพอเข้าใจ)
แต่ถ้าตัดความสมเหตุสมผล (ที่ไม่มีตั้งแต่แรก) ทิ้งไปการลงเอยและลากเราเข้าสู่ไคลแมกซ์แบบนี้ก็พอจะเออออไปกับพวกเขาได้อย่างไม่ขัดเขิน ก่อนจะจบแบบ....... (กูนึกแล้ว) จริงๆครับ
Windstruck นับเป็นผลรวมของความสุขและความเศร้าอย่างล่ะนิดอย่างล่ะหน่อย ซึ่งโดยรวมแล้วหนังสอบผ่านสบายๆในแง่ความสนุกและกินใจ
ถ้าเรากล้าจะตายเพื่อความรักได้.... ทำไมเราไม่กล้าจะอยู่เพื่อความรักแทนล่ะ บางทีช่วงเวลาที่น้อยนิดและไม่รู้จะหมดลงเมื่อไหร่ก็อาจไม่ทำให้เรารู้สึกเลยว่า สายลมข้างกายกำลังจะพัดผ่านไป
Windstruck กระตุ้นเตือนเราเล็กๆว่า จงอยู่เพื่อช่วงเวลานั้น... ไม่ใช่ตายเพื่อมัน
ยิ่งกว่านั้น พอดูจบแล้วผมมีชื่อไทยอยู่ในใจสองแบบเลยครับ อย่างแรกก็ชื่อที่เป็นทางการแบบนี้แหละ ไหนๆก็จะขายหนูจีฮุนเต็มที่แล้ว (และประชดผู้กำกับไปในตัว) ส่วนอีกแบบ ผมว่ามันน่าจะเป็น
Windstruck กอดฉันให้นานอีกหน่อย เธอค่อยไป
ก็เพลง Stay มีเข้ากับเหตุการณ์ดีจริงๆนี่ (บวกกับ Knockin on the heavens door ในบางช่วง )
สามดาวครึ่งพร้อมหัวใจหนึ่งดวง (สำหรับน้องจวน) ให้กับหนังครึ่งๆกลางๆสุขๆเศร้าๆเรื่องนี้ครับ ไม่รู้ว่าเรื่องหน้า ผู้กำกับคนนี้จะเหลือมุขให้ใช้กี่มากน้อย..... และยัยตัวร้ายจะกลับมากับอะไรอีก
Create Date : 16 ตุลาคม 2548 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2548 2:32:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 824 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|