Bloggang.com : Pang-Pouille : 'สุภาวดี ผลพิรุฬห์'เลขาฯเบอร์ 1เจ้าสัวเครือเจริญโภคภัณฑ์

'สุภาวดี ผลพิรุฬห์'เลขาฯเบอร์ 1เจ้าสัวเครือเจริญโภคภัณฑ์

หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2554 00:00:50 น.

"เลขานุการ" เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จของผู้บริหารในทุกองค์กร เพราะในภารกิจอันยิ่งใหญ่ของผู้บริหารหากไม่ได้เลขานุการช่วยจัดการคงยากที่จะประสบความสำเร็จ เนื่องจากผู้บริหารมีภารกิจการงานที่สำคัญๆ ในเรื่องต่างๆ มากมาย ทั้งการกำหนดนโยบาย การวางแผนงาน การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตและก้าวไปสู่ความสำเร็จ

โดยเฉพาะเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี. ซึ่งเป็นองค์กรที่เต็มไปด้วยผู้บริหารระดับสูงที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์มากมาย ดังนั้นผู้ที่รับบท "เลขานุการ" จึงมีความสำคัญไม่แพ้ตำแหน่งงานอื่น

สุภาวดี ผลพิรุฬห์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประธานชมรมเลขานุการเครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้บริหารระดับโลกอย่าง "ธนินท์ เจียรวนนท์" ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เล่าถึงประสบการณ์จากการทำงาน 25 ปีในฐานะเลขานุการของซีอีโอแห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์

"จริงๆ แล้ว เลขานุการเป็นเสมือนผู้ช่วยนาย สนับสนุนงานของเจ้านาย เราอาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องเนื้องาน แต่เราช่วยเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย สร้างความพร้อมให้นายออกไปทำงานได้อย่างเต็มที่" สุภาวดีกล่าว

วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของนักธุรกิจระดับโลกอย่างเจ้าสัวธนินท์ ทำให้ "สุภาวดี" ซึ่งรับบทเลขาฯ ไม่สามารถอยู่นิ่งได้

"ท่านประธานธนินท์ไม่หยุดนิ่ง เหมือนก้าวขึ้นบันไดตลอดเวลา เราก็ต้องพยายามขึ้นบันไดตาม แล้วอย่างที่ท่านว่า "ผมพอใจแค่วันเดียว วันรุ่งขึ้นผมก็ไม่พอใจแล้ว" ดังนั้นเราก็ต้องพยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และนี่เป็นสาเหตุหนึ่งว่าทำไมต้องไปเรียนภาษาจีนเพิ่ม เนื่องจากในงานต้องได้พูดภาษาจีนทุกวัน แล้วก็ต้องไปเรียนปริญญาโทที่นิด้า เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องธุรกิจมากขึ้น พอเรียนจบนายก็ให้โอกาสเราทำงานในเชิงลึกมากขึ้น ให้ตำแหน่งที่สูงขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น แต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำงานกับคนเก่งและมีวิสัยทัศน์อย่างท่านประธานธนินท์"

เมื่อถามว่ามาทำงานกับเจ้าสัวธนินท์ได้อย่างไร "สุภาวดี" ย้อนอดีตให้ว่า ในปี 2529 ทีมงานฝ่ายบุคคลของเครือฯ ได้เข้าไปสรรหา (Recruit) นิสิตจบใหม่ที่เอกภาษาต่างประเทศเพื่อให้มาเป็นเลขาฯ ของผู้อำนวยการใหญ่ (ตำแหน่งท่านประธานธนินท์ในขณะนั้น) บริษัทจะให้ทุนไปศึกษาต่อประเทศในยุโรปก่อนแล้วค่อยทำงาน ตอนนั้นท่านประธานเป็นคนสัมภาษณ์เอง พอรับแล้วก็ให้มาฝึกงานและดูงาน 6 เดือนก่อนไปเรียนต่อด้านเลขานุการที่เบลเยียม 2 ปี พอเรียนจบกลับมาในปี 2532 ก็ได้เป็นเลขานุการท่านประธานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

"สุภาวดี" บอกว่า การทำงานกับท่านประธานธนินท์ได้อะไรเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องของความคิด แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องของคน

"ท่านเป็นคนดี คนเก่ง มีวิสัยทัศน์ มีกลยุทธ์ในการบริหารงานและบริหารคน ใจกว้าง ท่านจะมีแนวคิดดีๆ เกี่ยวกับการบริหารคน มองข้อดีและมอบหมายงานตามจุดแข็งของเค้า เราก็จะเห็นคุณค่าในตัวเขา แต่ถ้าเรามองแต่ข้อเสีย เราก็จะไม่อยากเสวนากับเค้า ทำงานตรงนี้ ท่านย้ำเสมอว่าเราต้องเป็นกลาง ทำอะไรต้องทำให้ได้คุณภาพ"

คำสอนเหล่านี้เปลี่ยนมุมมองของ "สุภาวดี" ให้คิดใหม่ พยายามมองหาแง่ดีของแต่ละคน"สุภาวดี" แม้จะทำงานกับเจ้าสัวธนินท์มายาวนาน แต่เมื่อถามต่อว่ารู้สึกเกร็งไหมในการทำงานกับคนเก่ง คนที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก เธอตอบด้วยรอยยิ้มว่า ได้ยินคนอื่นเขาพูดกันว่าเกร็งแต่เราไม่ใช่เกร็ง ต้องมีสติมากๆ เวลารายงานอะไร เราต้องรู้ในเรื่องนั้นอย่างละเอียด ข้อมูลต้องพร้อมแม่นยำ เพราะว่าพูดไปแล้วแก้ไขลำบาก ดังนั้นต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ก่อนที่จะไปพูดอะไรกับนาย บางครั้งก็คิดว่าเตรียมมาดีแล้ว ก็ยังตกม้าตาย เพราะมีประเด็นที่คิดไม่ถึง

"การทำงานกับท่านประธานธนินท์เราคิดไม่ทันท่านหรอก เราทำได้แค่ต้องอย่าปิดตัวเอง เปิดรับเรื่องใหม่ๆ ตลอดเวลา เพราะท่านเป็นคนที่ชอบเรียนรู้จากการแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้คน แม้แต่คนรุ่นหนุ่มๆ ท่านว่ายิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องคบกับคนที่เด็กกว่าเรา"

"สุภาวดี" บอกว่าการเป็นเลขาฯ ในเครือฯ คุณสมบัติพิเศษอันดับแรกคือ ต้องมีความอดทน ถ้าพูดภาษาจีนได้จะยิ่งได้เปรียบ เพราะธุรกิจของเครือฯ ติดต่อกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนค่อนข้างมาก เลขาฯ ควรจะมีความจำดี มีเครื่องมือช่วยจำ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทั้งกับลูกน้อง นาย บุคคลภายนอก และที่สำคัญที่สุดต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ดี เพราะเมื่อรับข้อมูลใดๆ มาแล้วต้องสื่อสารต่อไปให้ถูกต้อง ไม่หยุดเรียนรู้ ก้าวให้ทันโลก

ยิ่งวันนี้ท่านประธานธนินท์ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน เลขานุการส่วนตัวอย่าง "สุภาวดี" จึงต้องเตรียม ให้พร้อมที่จะเดินทางตลอดเวลา เพราะตำแหน่งเลขาฯ ในวันนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงการประสานงานเท่านั้น แต่สามารถเป็นผู้ช่วยได้ด้วย โดยเฉพาะเมื่อมีโอกาสได้ร่วมประชุมกับนาย ก็ช่วยเพิ่มพูนความรู้ที่สนับสนุนงานของนายให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

เลขาฯ เบอร์ 1 ของเครือฯ กล่าวว่า ช่วงหลังนี้นายให้โอกาสติดตามไปด้วย โดยเฉพาะการเดินทางไปประเทศจีน เราคิดว่าการที่เราไปด้วยก็ช่วยให้ท่านทำงานเร็วขึ้น สามารถสั่งงานได้ตลอด ได้เข้าประชุมด้วย ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเราเพราะปกติงานเลขาฯ ก็จะแค่ประสานงาน จะไม่ค่อยรู้เนื้อหาการทำงาน แต่ตอนนี้เราเข้าใจมากขึ้น ก็ช่วยนายประสานงานและติดตามได้ดีขึ้นด้วย

เลขาฯ เป็นเหมือนงานหลังบ้าน แม้จะทั้งหนักและเหนื่อยจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่ความสำเร็จของนายก็จุดพลังกาย สร้างความภาคภูมิใจให้เลขาฯ ได้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง.

"การทำงานกับท่านประธานธนินท์เราคิดไม่ทันท่านหรอก เราทำได้แค่ต้องอย่าปิดตัวเอง เปิดรับเรื่องใหม่ๆ ตลอดเวลา เพราะท่านเป็นคนที่ชอบเรียนรู้จากการแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้คน แม้แต่คนรุ่นหนุ่มๆ ท่านว่ายิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องคบกับคนที่เด็กกว่าเรา"

Pang-Pouille/May 23, 2012

Create Date : 23 พฤษภาคม 2555

Last Update : 23 พฤษภาคม 2555 20:05:40 น.

1 comments

Counter : 3454 Pageviews.

การไปสัมภาษณ์เลขานุการของระดับเศรษฐี ได้แง่คิดและความเข้าใจในการทำงานกับคนได้เยอะมากค่ะ เช่นการมองแต่แง่ดีดี ๆ ของคนอื่นและให้งานถูกคนก็จะเห็นคุณค่าของคน ๆ นั้น ชอบจังเลยค่ะ ขอบคุณค่ะโกวที่นำบทสัมภาษณ์มาให้อ่านค่ะ

โดย: นก IP: 10.110.1.103, 58.8.110.109 วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:17:59:18 น.