Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
..Next Story : เรื่องรักของสองเรา ตอนที่4..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์


***************************
Next Story : เรื่องรักของสองเรา
ตอนที่ 4

***************************












Create Date : 15 ตุลาคม 2552
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 19:32:19 น. 9 comments
Counter : 206 Pageviews.

 
ขณะที่เหล่าสาวๆ กำลังถกเถียงพูดคุยกันอยู่นั้น กลุ่มหนุ่มๆ นักเที่ยวก็เดินเข้ามาใกล้ๆ


“พี่เชอรรี่ขอโทษน้องปลาจริงๆ นะคะ อย่าโกรธพี่เลยนะคะ” พี่เชอรรี่พูดด้วยน้ำเสียงเสียใจ


“น้องแคทก็ขอโทษพี่ปลาด้วยค่ะ พอดีมันโมโหจนลืมตัว” น้องแคทเองก็พูดด้วยสีหน้าจ๋อยๆ


“พวกเราก็ด้วยนะคะพี่ปลา อย่าโกรธพวกเรานะคะ” เด็กสาววัยรุ่นต่างพูดขอร้องพาสนา


พาสนายืนมองกลุ่มสาวๆ แล้วให้ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ


“เอาล่ะๆ คราวนี้ปลาจะคิดซะว่าไม่มีอะไรก็แล้วกัน แต่ปลาขอร้องนะฮะ ทุกคนเลย อย่ามีเรื่องกันอีก มีอะไรก็ค่อยๆ พูดกัน ปลารักทุกคน เพราะทุกคนเป็นเหมือนพี่ เหมือนน้องของปลา” พาสนากล่าวสีหน้านิ่ง


“ปลารู้ว่าทุกคนรัก และห่วงใยปลา และปลาก็ซึ้งใจดีนะฮะ แต่ขอให้ความรักระหว่างเราเป็นรักที่ดี ไม่ใช่เป็นตัวปัญหาที่ต้องทำให้เกิดเรื่องยุ่งๆ แบบคืนนี้ ได้มั้ยฮะ” พาสนากล่าวกับทุกคนด้วยน้ำเสียงที่เย็นลง


เหล่าสาวๆ ต่างก็จ้องมองพาสนาเป็นตาเดียวกัน


“ค่ะ” แล้วทุกคนต่างก็พยักหน้ารับด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ


พาสนามองสาวๆ ด้วยความรู้สึกที่โล่งใจมากขึ้น แต่ก็ยังคงคิดว่าเรื่องนี้ไม่จบแค่นี้แน่ๆ


อรินยาที่ยืนอยู่ข้างหลัง ได้แต่มองพาสนายิ้มๆ.....


“หมดเรื่องแล้ว เรากลับกันเถอะนะคะปลา” สาวสวยจับแขนพาสนา พร้อมส่งเสียงอ้อนๆ


“เอออ......แล้วรถคุณล่ะ” พาสนามองหน้าหญิงสาวที่ทำท่าอ้อนเธอ


“พอดียาย่าลืมเอากุญแจรถมาค่ะ เนี่ยะพอมาถึงก็เพิ่งนึกได้ว่าลืมทิ้งไว้ที่บ้าน” สาวสวยไฮโซตอบสีหน้ายิ้มๆ


“เฮ้อออออออ...........” พาสนาถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยใจ


“นะคะ ไปส่งยาย่าก่อนนะ” อรินยาส่งยิ้มหวานให้


“อืมมม” พาสนาพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันมองไปทางกลุ่มสาวๆ


“งั้นปลาขอตัวกลับก่อนนะฮะ พี่เชอรรี่ น้องแคท และน้องๆ ทุกคน” พาสนากล่าวจบก็เดินไปทางรถของเธอ


อรินยา หันมองกลุ่มสาวๆ อีกครั้ง ก่อนจะเดินยิ้มตามพาสนาไปที่รถ


พี่เชอรรี่ น้องแคท และกลุ่มเด็กสาว ต่างก็จ้องมองหญิงสาวแสนสวย ลูกไฮโซ ด้วยแววตาหมั่นไส้ และมองพาสนาด้วยความรู้สึกน้อยใจ


กลุ่มหนุ่มๆ ที่เดินออกมาเพื่อมาดูเหตุการณ์ ได้ยืนมองพาสนากับอรินยาที่เดินขึ้นรถคันน้อย แล้วขับออกไปด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ


กลุ่มสาวๆ เดินคอตกกลับไปที่ผับอีกครั้ง.........


“เออ เดี๋ยวนะครับ ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ” ชายหนุ่มหน้าตาดี ร้องถามพี่เชอรรี่เมื่อเธอเดินสวนกลับมาตรงกลุ่มของพวกเค้า


“มีอะไร” พี่เชอรรี่เงยหน้ามองหนุ่มแปลกหน้า


“เอออ นั่นใช่คุณยาย่า รึป่าวครับ” ชายหนุ่มร้องถามอย่างสงสัย


“ใช่......ทำไม” พี่เชอรรี่รู้สึกฉุนขึ้นหน้าเมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาว ลูกไฮโซ


“แล้วคุณยาย่าไปกับใครครับ” ชายหนุ่มยังคงถามอย่างสงสัย


“อ้อ มัน เอ้ย คุณยาย่านั่นหน่ะ เค้าไปกับน้องปลาค่ะ” พี่เชอรรี่ตอบน้ำเสียงฮ้วน


“น้องปลา.........” ชายหนุ่มยังคงมีสีหน้าสงสัย


“ก็นักร้องที่ร้องเพลงเพราะๆ เมื่อกี้ไง นัง เอ้ย คุณยาย่า นั่นหน่ะ เค้ามาติดพันน้องปลาอยู่” พี่เชอรรี่ตอบสีหน้าไม่พอใจเอามากๆ


“ติดพัน...” ชายหนุ่มจ้องมองหน้าพี่เชอรรี่อย่างไม่อยากเชื่อว่า สาวไฮโซ ที่ถือตัวอย่างอรินยาจะมาติดพันนักร้องผับธรรมดาๆ อย่างพาสนา


“ใช่......เมื่อกี้ก็มาแสดงตัวว่าเป็นแฟนน้องปลา ไม่รู้จริง หรือว่ามั่วนิ่ม” พี่เชอรรี่ยังคงคับแค้นใจกับเรื่องของอรินยา


“แฟน!!!~” ชายหนุ่มหน้าตาดี ทำหน้าไม่อยากเชื่อหนักขึ้น


“โอ้ยยย จะถามอะไรนัก สงสัยอะไรหนา น่าลำคาญที่สุดเลย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ หลบๆ” พี่เชอรรี่รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อต้องพูดถึงอรินยา เธอแผดเสียงออกมา แล้วเดินผ่านเหล่าหนุ่มๆ ไปด้วยท่าทางไม่พอใจ


เหล่าชายหนุ่มต่างก็จ้องหน้ากัน แล้วต้องมีสีหน้าไม่อยากเชื่อกับเรื่องที่ได้ยิน
.
.
.
รถยนต์คันเล็ก มาจอดหน้าคอนโดหรู ใจกลางเมือง


“บายฮะ” พาสนากล่าวกับหญิงสาวที่เธอมาส่ง


“อ้าว ปลาไม่ขึ้นไปข้างบนกับยาย่าหรือคะ” สาวสวยหันมาถามพาสนา


“ไม่ดีกว่าฮะ.......พอดีปลาอยากกลับบ้าน” พาสนากล่าวสีหน้าเครียดๆ เมื่อคิดถึงเรื่องที่ต้องรับมือ เมื่อกลับถึงบ้านของเธอ


“งั้นก็ตามใจค่ะ ยาย่าไปนะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้กับพาสนา


“ฮะ...” พาสนาพยักหน้ารับเบาๆ


แล้วอรินยาก็ลงจากรถของพาสนา เธอหันมาส่งยิ้มหวาน พร้อมโบกมือให้.........พาสนาได้แต่ยิ้มบางๆ ตอบ ก่อนจะขับรถออกจากหน้าคอนโดหรูนั้น


อรินยาเดินขึ้นตึกด้วยสีหน้ายิ้มหวานละไม ส่วนพาสนากลับต้องขับรถกลับบ้านด้วยสีหน้าเครียด


“ทำใจสู้หน่อยไอ้ปลา.........สู้ๆ” พาสนาบอกกับตัวเอง เมื่อคิดถึงหน้าของคุณสุ


“อย่าปอดๆๆๆๆๆๆๆๆ” พาสนาให้กำลังใจกับตัวเองเรื่อยๆ


แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ เมื่อคิดถึงสีหน้าของคุณสุ และเรื่องที่ต้องเจอเมื่อกลับถึงบ้าน


“แม่จ๋า.............ฟังปลาหน่อยนะ อย่าเพิ่งโกรธมากล่ะ โอ้ยยยยยยยย..........” พาสนาร้องออกมาด้วยสีหน้าอยากจะร้องไห้
.
.
.
รถยนต์คันเล็กจอดสนิทอยู่หน้าบ้านไม้


พาสนานั่งมองเข้าไปในบ้านด้วยแววตาหวาดหวั่น.........เธอยกมือขึ้นมาแล้วให้ฟันของเธอกับเล็บที่นิ้วอย่างใช้ความคิด


“เอาวะ..........เป็นไงเป็นกัน” พาสนาตัดสินใจฮึดสู้ เธอนั่งตัวตรงและทำท่าขลึงขลัง


“ไอ้ปลาสู้ๆ สู้ๆ” พาสนาพยายามปลุกใจตัวเอง ก่อนจะก้าวลงจากรถของเธอ


“อย่างมากก็แค่หัวแตกล่ะงานนี้...........”พาสนาพูดปลอบใจตัวเอง ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน


ภายในบ้าน ปิดไฟมืดสนิทอย่างเช่นทุกวัน มีเพียงแสงไฟน้อยๆ ที่เปิดไว้จากด้านประตูหน้าบ้าน


พาสนาค่อยๆ เดินเข้าไป




โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:09:08 น.  

 
พาสนาค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาในตัวบ้าน......เธอไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปอย่างเงียบๆ


ทันทีที่ประตูบ้านถูกปิด ไฟในบ้านก็ถูกเปิดขึ้นทันที


“เฮ้ย!!!!!!!!....” พาสนาร้องออกมาด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆ ไฟก็เปิดขึ้น


“เพิ่งหาทางกลับบ้านถูกหรอ” น้ำเสียงเย็นๆ ทำเอาคนที่ได้ยินขนลุกด้วยความหวาดกลัว


พาสนาค่อยๆ หันกลับไปมองเจ้าของเสียง พร้อมกับทำหน้ายิ้มแห้งๆ


“..........แม่” เธอเรียกคนที่กำลังนั่งจ้องมองมาทางเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตากลับขุ่นเขียว


“ไง วันนี้หายไปทั้งวัน คงสนุกสำเริงสำราญใจล่ะซิ” คุณสุกล่าวน้ำเสียงประชด


“โธ่แม่..........ปลาไม่ได้ไปไหนเลยนะ ปลาไปส่งคุณยาย่า แล้วก็ไปห้องซ้อม” พาสนารีบเข้ามาใกล้ๆ คุณสุ พร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ


“แกไม่ต้องมาพูดเลยปลา............ฉันไม่เชื่อแกอีกแล้ว” คุณสุพูดน้ำเสียงประชดปนน้อยใจ


“แม่จ๋า..........ปลาพูดความจริงๆ นะ ปลาไม่ได้โกหก สาบานให้ก็ได้” พาสนาพูดไปก็ยกมือขึ้นชู 3 นิ้ว ทำท่าสาบดสาบานให้คุณสุดู


“แกไม่ต้องมาสาบาน ยังไงฉันก็ไม่เชื่อแกอีกแล้ว” คุณสุยังคงพูดด้วยความรู้สึกน้อยใจ เจ็บใจในตัวลูกคนเดียวของท่าน


“แม่............” พาสนานั่งลงข้างๆ มารดา เธอจ้องมองมารดาด้วยแววตาอ่อนใจ


“ฉันนะ มีลูกกับเค้าแค่คนเดียว เลี้ยงแกมาแต่อ้อนแต่ออก..........แกอยากได้อะไรฉันก็หาให้ แกอยากทำอะไรฉันก็ตามใจทุกอย่าง” คุณสุเริ่มพูดขึ้นด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ


“..........แม่” พาสนาจ้องมองมารดาด้วยแววตาสำนึกผิด


“ฉันไม่เคยบังคับอะไรแกเลยปลา............แต่ฉันขอแกอย่างเดียว ฉันขอให้แกเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีหลานให้ฉันชื่นใจ” คุณสุกล่าวน้ำเสียงสั่น


“ถึงฉันอยากให้แกแต่งกับตุ้มมัน แต่ฉันก็ไม่ได้บังคับ แกไม่อยากแต่งฉันก็ไม่บังคับ เพราะฉันหวังว่าสักวันแกก็ต้องเจอคนที่ใช่ คนที่เหมาะกับแก.............แต่.............แต่..........” สีหน้าของผู้เป็นมารดาเริ่มมีแววของความเสียใจ น้อยใจออกมา


“แกยังไปเอาผู้หญิงเข้าบ้าน มาเหยียบหัวใจของคนเป็นแม่อย่างฉัน...........แกทำอย่างนี้ได้ยังไงปลา แกทำได้ยังไง” คุณสุหันมาร้องถามลูกสาวคนเดียวของท่าน ด้วยน้ำตาเออคลอดวงตา


“แม่จ๋า............แม่อย่าร้องไห้ซิ ปลาขอโทษ” พาสนาจ้องใบหน้ามารดา แล้วต้องให้รู้สึกเสียใจ เธอไม่อยากให้คุณสุเสียใจแบบนี้เลยสักนิด


“แกจะไม่ให้แม่ร้องไห้ได้ยังไง ก็แก.........” คุณสุจ้องมองลูกสาวของท่าน ด้วยแววตาทุกข์ใจ


“แม่.........ปลาขอโทษ............ปลาขอโทษ” พาสนาก้มลงกราบมารดา ที่ทำให้ท่านเสียใจ เสียน้ำตา


“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ ถ้าแกรู้ตัวว่าทำผิด และคิดว่าเป็นลูกฉัน แกเตรียมตัวไว้ให้ดี” คุณสุกล่าวน้ำเสียงเฉียบ


“ฉันจะรีบจัดงานแต่งให้แกกับตุ้มให้ไวที่สุด แล้วเรื่องแม่หนูเมื่อเช้านี้ แกรีบไปจบๆ กับเค้าเลยนะ” คุณสุกล่าวน้ำเสียงนิ่ง


“อะไรนะแม่.......” พาสนาเงยหน้าขึ้นมองมารดาอย่างตกใจ


“ทำไม หรือว่าแกเลิกกับเค้าไม่ได้” คุณสุร้องถามสีหน้าเครียด


“ไม่ใช่แม่.........เรื่องยาย่า เราไม่มีอะไรกันจริงๆ นะแม่” พาสนารีบบอกกับมารดาถึงเรื่องที่เข้าใจผิด


“...........” คุณสุจ้องมองลูกสาวของท่านด้วยแววตาไม่เชื่อ


“จริงๆ นะแม่ ก็พอดีปลาไปเจอคุณยาย่าโดนอัธพาลมันจ้องทำร้าย ปลาเลยเข้าไปช่วย แล้วเค้าโดนโปะยาสลบ หลับไม่รู้เรื่อง ปลาเลยไม่รู้จะทำไง เลยพากลับมาบ้านเรา” พาสนาอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้มารดาฟัง


“ปลากับเค้าไม่มีอะไรกันจริงๆ นะแม่ แม่เชื่อปลาซิ” พาสนาร้องบอกกับมารดา


“แกไม่ได้โกหกฉันแน่นะ” คุณสุจ้องมองลูกสาวของท่านอย่างไม่อยากเชื่อ


“จริงๆ แม่..........ปลาไม่กล้าโกหกแม่หรอกนะ เชื่อปลาเถอะนะ นะ” พาสนาจ้องมองมารดาด้วยแววตาขอความเห็นใจ


คุณสุจ้องมองลูกสาวตรงหน้า ท่านรู้นิสัยพาสนาดีว่าลูกสาวของท่านไม่ชอบโกหก


“ก็ได้ ฉันจะเชื่อแก........เมื่อไม่มีอะไรกันก็ดีแล้ว แต่ฉันเตือนแกไว้นะปลา ถ้าแกไปมีอะไรกับเค้าล่ะก้อ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่อีกต่อไป” คุณสุยื่นคำขาดกับลูกสาว


“จ๊ะแม่........แม่ไว้ใจปลาได้เลยนะ” พาสนาเริ่มยิ้มออกมาได้บ้าง เมื่อมารดาของเธอเข้าใจเธอดีแล้ว


“งั้น เรื่องแต่งงานก็ไม่ต้องแล้วนะแม่.......พรุ่งนี้ปลาจะรีบไปบอกไอ้ตุ้มเม้งมัน” พาสนาพูดสีหน้ายิ้มระรื่น


“ไม่ต้องไปบอก” คุณสุพูดน้ำเสียงนิ่งอีกครั้ง


“อ้าว ทำไมล่ะแม่” พาสนาร้องถามอย่างสงสัย


“เพราะถึงยังไง ฉันก็จะให้แกแต่งงานอยู่ดี” คุณสุตอบสีหน้าเรียบ


พาสนาฟังคำของมารดา ก็ถึงกับเบิกตาโต มองด้วยความตกใจ


“หะ..........ไม่เอาอ่ะ ปลาไม่แต่งนะแม่” พาสนารีบลุกขึ้นร้องโวยออกมา


“ฉันต้องตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลม แกแต่งๆ ไปซะจะได้หมดเรื่อง ฉันก็หมดห่วง” คุณสุกล่าว


“ไม่เอา ปลาไม่แต่ง ปลาไม่ได้รับไอ้ตุ้มมันนิแม่ ไอ้ตุ้มเองก็ไม่ได้รับปลาสักหน่อย” พาสนาตอบกลับเสียงดัง


“แกรู้ได้ไงว่าตุ้มมันไม่รักแก” คุณสุถามกลับ


“เอออออ...........” พาสนาอึ้งกับคำถามของมารดา


“ไม่รู้ล่ะ ปลาไม่ได้รักมัน ปลาไม่แต่ง” พาสนาโวยออกมาอีก


“รักหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่งๆ กันไป เดี๋ยวก็รักกันเอง ฉันเห็นออกจะหลายคู่” คุณสุกล่าวอย่างไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาว


“ไม่นะแม่..........โอ้ยยยยยยยย “ พาสนาร้องออกมาอย่างหงุดหงิดใจที่คุณสุไม่ยอมฟังเธออีกแล้ว


“แกต้องแต่งปลา...........แกจะลองดีกับฉันก็เอา” คุณสุหันมาพูดเสียงเขียวใส่ลูกสาว จนพาสนาถึงกลับอึ้งไปเหมือนกัน


“แม่............” พาสนามองหน้ามารดาด้วยแววตาหมดหวัง


“แกเลือกเอาว่าแกจะทำตามที่ฉันบอกดีๆ หรือว่าจะตัดแม่ตัดลูกกับฉัน” คุณสุกล่าวจบก็เดินกลับเข้าห้องของท่าน ทิ้งให้พาสนายืนนิ่งเป็นใบ้อยู่กลางบ้าน


“โธ่เว้ย.........” พาสนาร้องออกมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจ


เธอทรุดตัวนั่งกับเก้าอี้ด้วยความรู้สึกสับสน หงุดหงิด และเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น


“แม่นะแม่..........” พาสนาร้องโอดครวญออกมาเบาๆ
.
.
.
.
ตี๊ด.............ตี๊ด............


เสียงมือถือที่นอนนิ่งอยู่บนโต๊ะทำงานหรูดังขึ้น


พิษณุที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น หันมองและหยิบมันขึ้นมากดรับสาย


“ว่าไงเพื่อน” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์


“ไงณุ.......งานยุ่งรึป่าว” ปลายสายกล่าวทักทาย


“ก็นิดหน่อยเพื่อน มีไรหรอ” พิษณุถามกลับ


“พอดีเรามีเรื่องอยากคุยกับนาย ออกมาคุยกันหน่อยซิ” เสียงปลายสายกล่าวชักชวน


“ได้ซิ เจอที่ไหนดี เอาที่เดิมมั้ย ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายมานานแล้ว” พิษณุพูดยิ้มๆ


“ได้ๆ แล้วเจอกันนะ” ปลายสายกล่าวจบก็วางสายลงทันที


พิษณุกดวางสายมือถือ ชายหนุ่มจัดการเซ็นต์เอกสารบนโต๊ะ 2 ฉบับเสร็จเรียบร้อย ก็เดินออกจากห้องทำงานทันที


“คุณเม เอกสารผมเซ็นต์ไว้บนโต๊ะแล้วนะ แล้วเดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอก มีอะไรโทรเข้ามือถือแล้วกัน” พิษณุกล่าวกับเมทณีเลขาฯ ของเค้าก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศ






โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:09:57 น.  

 
...........................



ที่สนามไดร์ฟกอฟ ที่บรรดาหนุ่มนักธุรกิจมักจะมาออกรอบเพื่อตกลงเจรจาพูดคุยเรื่องงาน และสังสรรค์ไปในตัว....


พิษณุในชุดนักกีฬา กำลังตั้งลูก และเหวี่ยงวงสวิงอย่างอารมณ์ดี


“ไงณุ..” ชายหนุ่มหน้าตาดีร้องทักพิษณุ ขณะที่กำลังเดินเข้ามาหาเค้า


“อ้าว ก้องว่าไงเพื่อน” พิษณุหันไปตอบรับพร้อมรอยยิ้ม


“ยังฟิตเหมือนเดิมนะเพื่อน” ภูวดล กล่าวทักทายพิษณุสีหน้ายิ้มๆ


“ไม่ได้ๆ เดี๋ยวหุ่นไม่แมนสาวไม่กรี๊ด” พิษณุพูดเล่นกับเพื่อนของเค้า


“เอออ....ว่าแต่นายมีอะไรกับเราหรือ เห็นโทรบอกเมื่อกี้ว่ามีเรื่องจะคุย” พิษณุร้องถามเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปตั้งลูกเพื่อตี


“ณุ.........ตอนนี้นายกับ คุณยาย่า เป็นไงบ้างว่ะ” ภูวดลเอ่ยถามพิษณุขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง


พิษณุฟังคำถามจากเพื่อนแล้วหันมองด้วยความสงสัย


“ก็ปรกติ นายถามทำไม” พิษณุถามกลับสีหน้าสงสัย ที่อยู่ดีๆ ภูวดลก็ถามถึงอรินยา


“ก็ไม่มีอะไร แต่นายอย่าโกรธเรานะ ถ้าเราจะบอกว่า.........” ภูวดลมองพิษณุด้วยความรู้สึกชั่งใจ


“ไม่โกรธหรอก มีอะไรก็ว่ามา” พิษณุตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันไปสนใจลูกกอฟอีกครั้ง


“เมื่อคืนเราไปเจอคุณยาย่าที่ผับ Ninety Eight มา” ภูวดลกล่าวน้ำเสียงเรียบ


“อืมม เค้าคงไปกับเพื่อนมั้ง” พิษณุตอบสีหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหวดลูกกอฟออกไป


“ช่วงนี้คุณยาย่าไปกับเพื่อนบ่อยหรือ” ภูวดลถามกลับ


“อืมมม.....ช่วงนี้เค้าต้องสังสรรค์กับเพื่อนๆ บ่อยหน่อย คงเบื่อมั้ง” พิษณุตอบก่อนจะหันไปตั้งลูกอีกครั้ง


“แล้วถ้าฉันบอกนายว่า คุณยาย่าไม่ได้ไปกับเพื่อนล่ะ” ภูวดลกล่าวถามพร้อมกับจ้องมองพิษณุ


ชายหนุ่มได้ยินคำถามจากเพื่อนสนิท ถึงกลับหวดลูกพลาด แล้วหันมองกลับมาที่ภูวดล


“เฮ้ย........เค้าก็ต้องไปกับเพื่อนๆ เค้าซิ” พิษณุขมวดคิ้วถามด้วยแววตาสงสัย


“เมื่อคืนเราเห็นคุณยาย่ากับคนอื่น ที่ไม่ใช่เพื่อนสาวๆ ในกลุ่ม.......” ภูวดลค่อยๆ พูดขึ้น


“เออออ เค้าคงไปกับเพื่อนอีกกลุ่มมั้ง นายคิดมากน่าก้อง” พิษณุกล่าวยิ้มๆ ก่อนจะหันไปสนใจลูกกอฟอีกครั้ง


“แล้วถ้าเราบอกว่าเค้าไม่ได้ไปกับเพื่อนคนไหนสักคน แต่ไปกับหนุ่มอื่นล่ะ” คำถามคราวนี้เล่นเอาพิษณถึงกับสะอึก


“นายพูดงี้หมายความว่าไงก้อง” พิษณุเลิกสนใจลูกกอฟ แล้วเดินมาใกล้ๆ ภูวดลทันที


“เมื่อวานนี้ ฉันเห็นคุณยาย่า ขึ้นรถไปกับนักร้องของผับ” คุณภูวดลกล่าวจบก็จ้องมองพิษณุ


“.......” ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรอีก เค้าเอาแต่นิ่งเงียบ และใช้ความคิด


“และที่สำคัญ.......คุณยาย่าเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่า นักร้องนั่นเป็นแฟนของเธอด้วย” สิ้นคำของภูวดล พิษณุถึงกลับขมวดคิ้วแน่น


“ที่เราเอามาบอกนาย ก็เพราะเห็นว่านายกับคุณยาย่า กำลังจะแต่งงานกัน คนในวงสังคมเค้าจะซุบซิบเอาได้” ภูวดลกล่าวขึ้น เมื่อเห็นพิษณุนิ่งเงียบไป


“ขอบใจมากนะก้อง.......” ชายหนุ่มหันมาพูดขอบใจเพื่อนที่เอาเรื่องนี้มาบอกกับเค้า


“แล้วนายจะเอาไงต่อไป” ภูวดลกล่าวถาม


“ถ้ายาย่า เค้ารักนักร้องนั่นจริง ฉันก็ไม่ขวางหรอกนะ จริงๆ ฉันกับเค้าคบกันก็เพราะครอบครัว ถ้าเค้าเจอคนที่รักจริงๆ ฉันก็พร้อมหลีกทาง” พิษณุตอบสีหน้ายิ้มๆ


“เฮ้ย นายจะยอมให้ไอ้นักร้องกระจอกๆ นั่นแย่งดอกฟ้าไปง่ายๆ อย่างนั้นหรอณุ” ภูวดลร้องถามด้วยความแปลกใจ


“หึ.......ฉันบอกแล้วไง ถ้ายาย่าเค้ารักจริงๆ ฉันก็ไม่ว่า” พิษณุกล่าวจบก็ยิ้มบางๆ ออกมา


“แต่ฉันว่า ไอ้นักร้องนั่นมันจ้องจะหลอกคุณยาย่ามากกว่านะ” ภูวดลกล่าวด้วยความรู้สึกเป็นห่วงอรินยา


“นายว่าไงนะ” พิษณุหันถามภูวดล


“ฉันว่าไอ้นักร้องนั่นมันไม่จริงใจหรอก มันจ้องจับคุณยาย่า แล้วเกาะเธอกินมากกว่า” ภูวดลกล่าวสีหน้าเครียด


“...........” พิษณุฟังคำของเพื่อนด้วยสีหน้านิ่ง เค้าคงปล่อยให้อรินยาโดนหลอกแบบนี้ไม่ได้


“ก้อง คืนนี้นายว่างมั้ย” พิษณุกล่าวถามภูวดลน้ำเสียงเครียด


“ว่างซิ นายจะไปที่ผับใช่มั้ย” ภูวดลถามอย่างรู้ใจ


“อืมมม.......” พิษณุพยักหน้ารับ
.
.
.
พาสนานั่งเครียดอยู่ในห้องพักด้านหลังเวที เพื่อรอขึ้นไปร้องเพลงบนเวที


“เป็นอะไรไปวะปลา วันนี้ดูหน้าเป็นตูดเลย” เป้เดินเข้ามาถามเมื่อเห็นสีหน้าของพาสนา


“เครียด” พาสนาตอบสั้นๆ สีหน้าเครียดๆ


“เอออ รู้แล้วว่าเครียด แต่เครียดเรื่องอะไรล่ะ” เป้ยังคงถามอย่างสงสัย


“เรื่องแม่.......” พาสนาตอบน้ำเสียงเข้ม


“ทำไม น้าสุเป็นไร” เป้รีบซักถามด้วยความเป็นห่วง


“แม่หน่ะ ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่ฉันนี่ ไอ้ปลานี่เป็น” พาสนาชี้มือใส่ตัวเอง ด้วยอาการหงุดหงิด


“ทำไม แกเป็นไร” เป้มองไปรอบๆ ตัวพาสนา ก็ให้สงสัยว่าเธอเป็นอะไร เพราะมองทั่วๆ ก็เห็นปรกติดี


“แม่จะให้ฉันแต่งงานกับไอ้ตุ้มเม้งอ่ะดิ” พาสนาตอบเสียงเขียว


“หะ.............แต่งงาน” เป้ร้องออกมาด้วยท่าทางตกใจ


“เออออ จะพูดดังไปทำบ้าอะไร อยากให้เค้ารู้ให้หมดใช่มั้ย” พาสนามองเป้ตาเขียวขุ่นเมื่อเค้าพูดเสียงดังออกมา


“เออขอโทษ..........แต่ทำไมแกต้องแต่งงานด้วย” เป้ซักถามด้วยความอยากรู้


“แม่กลัวฉันไปมีสาวๆ เลยจะจับฉันแต่ง” พาสนาตอบพร้อมกับถอนหายใจยาว


“5555555555 ฉันว่าแล้ว ว่าแกต้องโดน” เป้หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินพาสนาพูด


“ขำบ้าอะไร.......อยากตายรึไงไอ้เป้” พาสนาจ้องเป้ตาเขียว


“โทษทีๆ แต่ฉันก็ว่าแล้ว สักวันแกต้องโดนน้าสุโกรธเรื่องสาวๆ” เป้พูดขึ้นด้วยสีหน้ากลั้นหัวเราะ


“ขำมากใช่มั้ย........” พาสนาร้องถามกลับเมื่อเห็นสีหน้าของเป้


“แล้วแกทำไงอ่ะ” เป้ถามกลับบ้าง


“จะให้ทำไง แม่ยื่นคำขาด ถ้าไม่แต่งก็ตัดแม่ตัดลูก” พาสนาตอบสีหน้ากลุ้มอีกครั้ง


“แกอย่าบอกนะปลา ว่าแกจะยอม” เป้เลิกคิ้วถาม


“อืมมม.........ถ้ามันไม่มีทางเลือกจริงๆ ก็ต้องยอม” พาสนาตอบน้ำเสียงหงอยๆ


“เฮ้ย ไม่ได้นะ.......” เป้ร้องโวยออกมาบ้าง


“แกเป็นอะไรไอ้เป้” พาสนาเงยหน้าถามเมื่อเป้โวยวายออกมา


“เอออ........แกห้ามแต่งนะปลา” เป้พูดขึ้นด้วยสีหน้าวิตก


“แล้วแกจะมาห้ามฉันทำไม” พาสนาถามกลับสีหน้าสงสัย


“ก็เอออ........ถ้าแกแต่งงานแล้วใครจะมาร้องเพลงให้วงเล่า” เป้ตอบสีหน้าไขสือ


“แกจะมาห้ามฉันได้ไง โน้น ถ้าอยากห้ามไปห้ามแม่ฉันโน้น” พาสนาพูดสีหน้าเครียดอีกครั้ง





โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:10:05 น.  

 
พิษณุเดินเข้ามาในผับ แล้วมองไปรอบๆ เพื่อหาใครบางคน.....


แล้วชายหนุ่มก็เห็นหญิงสาวสวยในชุดหวานที่กำลังนั่งมองไปทางเวทีด้วยรอยยิ้ม


“ยาย่า........” ชายหนุ่มออกเสียงชื่อของเธอออกมาเบาๆ


“ณุ......ทางนี้” ภูวดล ที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของโต๊ะที่อรินยานั่งอยู่ กวักคือเรียกพิษณุด้วยน้ำเสียงเบาๆ


พิษณุเดินตรงไปที่โต๊ะเพื่อนของเค้า


“คุณยาย่า เพิ่งมาเมื่อกี้นี้เอง...” ภูวดลบอกกับพิษณุเมื่อเค้าเดินมานั่งที่โต๊ะ


“อืมม...” พิษณุพนักหน้ารับรู้ สายตาของเค้าจ้องมองไปทางหญิงสาวที่กำลังนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ในมือ พร้อมกับส่งรอยยิ้มมองไปบนเวที เหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง


และเพียงไม่นาน แสงไฟบนเวทีก็สาดขึ้น.........เหล่านักดนตรีกำลังออกมาประจำที


“และต่อไปนี้พบกับวง เดอะพีส...” เสียงดีเจพูดดังขึ้น แล้วนักดนตรีบนเวทีก็เริ่มบรรเลงเพลงออกมา


เพียงไม่นาน นักร้องที่หลายต่อหลายคนรอคอยก็ปรากฏตัวขึ้นกลางเวที....


เสียงกรี๊ดของเหล่าสาวๆ ที่รอคอยส่งเสียงดังขึ้น พร้อมกับเสียงปรบมือจากผู้มาเที่ยวของผับ


พิษณุจ้องมองไปที่อรินยา ซึ่งเธอกำลังยิ้มหวานส่งไปให้นักร้องบนเวทีนั้น ท่าทางของหญิงสาวแสดงให้รู้ว่าเธอกำลังดีใจ และมีความสุขกับการได้เจอกับคนที่กำลังร้องเพลงบนเวที


พิษณุมองขึ้นไปบนเวที เค้าพยายามจ้องมองนักร้องคนนั้น.........แต่เพราะแสงไฟที่ส่องกลับมา พร้อมกับระยะห่างของโต๊ะที่เค้านั่งอยู่ ทำให้เห็นหน้านักร้องคนนั้นไม่ชัดนัก


แต่ที่ชายหนุ่มรู้แน่ๆ คือ ท่าทางนักร้องคนนี้เท่ห์ไม่เบา


“และต่อไปนี้ เป็นเพลงที่ปลาอยากร้องในค่ำคืนนี้...........” พาสนากล่าวขึ้นเพื่อเข้าเพลงที่เธอเตรียมมาร้องสำหรับคืนนี้


เสียงดนตรีดังขึ้น เหล่าสาวๆ ต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดตามมา


วันที่เธอนั้นเจอกับเขา วันที่เราต้องเป็นเพื่อนกัน


รู้มั๊ยทำให้ฉันเกือบจะร้องไห้


มีแต่รอยยิ้มให้กับเธอ ยามที่เจอหน้ากันเสมอ


รู้มั๊ยใจข้างในมันเจ็บแค่ไหน






เสียงหวานๆ ของพาสนาดังขึ้น ทำให้คนที่รอฟังถึงขนาดตบมือให้ พิษณุขมวดคิ้วฟังเสียงของนักร้อง แล้วให้รู้สึกผิดสังเกต


“ทำไมเสียงหวานนักนะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยอาการไม่เข้าใจ




เมื่อไหร่ที่เห็นเขาและเธอสองคน อยากจะตะโกน ว่าใจมันทนไม่ได้


ไม่อยากทำให้ลำบากใจ อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....


เก็บไว้ในใจของฉันคนเดียวก็พอ




ชายหนุ่มจ้องมองไปที่อรินยาอีกครั้ง ตอนนี้ท่าทางของเธอดูเคลิ้มกับการได้นั่งดูนักร้องบนเวทีอย่างมากๆ




ยามที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกัน ใจหนึ่งมันอยากเดินหนีไป


เพราะกลัวทำอะไรให้เธอรู้สึก


ได้แต่ฝืนยิ้มและข่มใจ พูดอะไรไม่กล้าสบตา


เพราะฉันกลัวน้ำตา มันอาจจะไหล





ชายหนุ่มยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่ม”“..



หากอรินยารักนักร้องคนนี้จริงๆ เค้าคงไม่ห้าม หรือว่าขวางทางใดๆ แต่ขอให้เพียงนักร้องคนนี้รักอรินยาจริงๆ ก็เพียงพอ





ไม่อยากทำให้ลำบากใจ อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....


เก็บไว้ในใจของฉันคนเดียวก็พอ



เมื่อไหร่ที่เห็นเขาและเธอสองคน อยากจะตะโกน ว่าใจมันทนไม่ได้



ไม่อยากทำให้ลำบากใจ อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....


เก็บไว้ในใจของฉัน



ไม่อยากทำให้ลำบากใจ อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....


เก็บไว้ในใจของฉันคนเดียวก็พอ




เมื่อเพลงจบลง เหล่าบรรดาสาวๆ ต่างก็พากันตบมือ พร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั่ว


“ขอบคุณฮะ ขอบคุณ” พาสนากล่าวขอบคุณคนที่กำลังตั้งใจฟังเธอร้องเพลง


พาสนายังคงร้องเพลงต่างๆ มากมายให้คนที่มานั่งฟัง นั่งดื่มได้รับฟัง...........จนถึงเพลงสุดท้ายในคืนนี้


เมื่อร้องเพลงสุดท้ายจบ พาสนาก็ส่งยิ้มหวานให้กับเหล่ากองเชียร์ จนสาวๆ แถวนั้นแถบจะลงไปกองกับพื้น ก่อนที่เธอจะกล่าวลา และกลับเข้าหลังเวที
.
.
.
“เป็นไงเพื่อน เสน่ห์แรงไม่เบาเลยใช่มั้ย” ภูวดลหันมาถามเพื่อนรัก เมื่อพาสนากลับเข้าหลังเวทีไปแล้ว แต่เหล่าสาวๆ ยังคงกรี๊ดไม่หยุด


“อืมม...” พิษณุยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มโดยไม่แสดงอาการใดๆ


อรินยาลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินออกไปนอกผับ


พิษณุรีบลุกตามไปติดๆ โดยที่ภูวดลก็ลุกตามไปเช่นกัน


อรินยาเดินไปที่ลานจอดรถ เธอยืนรอพาสนาที่รถ พร้อมรอยยิ้ม.........เพียงไม่นาน พาสนาก็เดินมาที่รถเหมือนเช่นเคย


“ยาย่า...” พาสนาเรียกชื่อหญิงสาวที่ยืนส่งยิ้มให้เธอ


“คิดถึงจังค่ะ” อรินยายิ้มหวานให้พาสนา ก่อนจะเดินเข้าไปหาใกล้ๆ


พิษณุที่เดินตามเข้าไป เห็นคนสองคนที่ลานจอดรถ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่......









โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:15:07 น.  

 


“คืนนี้ปลาร้องเพลงเพราะจังเลย” อรินยาส่งยิ้มหวานให้พาสนา


“ขอบคุณฮะ” พาสนาตอบยิ้มๆ กลับ


“เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกันมั้ยคะ” อรินยากล่าวถามน้ำเสียงหวาน


“เออออ.....มะ.......” พาสนาอยากจะพูดปฏิเสธอีกฝ่ายกลับไป


พิษณุที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ร้องเรียกอรินยาขึ้น


“ยาย่า...” เสียงชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวแสนสวยหันมองด้วยอาการตกใจ


“ณุ...” อรินยามีท่าทางตกใจไม่น้อยที่พิษณุมาที่นี่


พาสนาเองก็หันมองเจ้าของเสียงที่เรียกอรินยา แล้วเธอก็ต้องตกใจไม่แพ้คนข้างๆ เช่นกัน


พิษณุจ้องมองอรินยา แล้วมองไปยังคนที่ยืนข้างๆ สาวไฮโซสุดสวย ชายหนุ่มมีอาการตกใจกับใบหน้าของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า


“ยายตัวแสบ” พิษณุชี้มือไปยังพาสนาที่ยังคงยืนจ้องเค้านิ่ง


“ไอ้บ้ากาม” พาสนาเองก็ไม่ต่างกัน เธอจ้องหน้าเค้าแล้วต้องร้องเสียงดังออกมา


“หน่อย......วันก่อนเธอทำฉันไว้แสบนักนะ ยังไม่ได้ชำระหนี้กันเลย” พิษณุขบฟันแน่นจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง


“ไอ้โรคจิต อย่างนายเจอแบบนั้นน้อยไป จริงๆ น่าโดนหนักกว่านั้นอีก” พาสนาเองก็ไม่แพ้กัน เธอแยกเขี้ยวยิงฟันใส่อีกฝ่าย


“อะไรกันคะณุ ปลา” อรินยามองอาการของคนทั้งคู่ ที่เหมือนว่าเป็นศรัตรูกันแต่ชาติปางก่อน ด้วยสีหน้างุนงง


“ยาย่า........คุณมาที่นี่ทำไม” พิษณุหันกลับมองมาทางอรินยา


“เอออ ยาย่า.......” อรินยารู้สึกร้อนวูบขึ้นทันที


“คุณมาหาไอ้ เอ้ย ยายนี่หรอ” พิษณุหันมองกลับมาทางพาสนา


“เออออ คือ...” อรินยายังคงมีอาการอ้ำอึ้ง


“คุณรู้มั้ยว่ายายนี่มันเป็นผู้หญิง คุณจะคบใครผมไม่ว่า แต่เลือกหน่อยซิยาย่า” พิษณุตะเบ็งเสียงใส่อรินยาอย่างไม่พอใจที่รู้ว่าคนที่อรินยาติดพันอยู่นั้นคือพาสนา


“เฮ้ยๆๆๆ ทำไม ผู้หญิงแล้วไง ฉันมันเป็นไงหะ” พาสนาได้ยินคำของอีกฝ่ายก็ทนไม่ได้เช่นกัน เธอร้องถามด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์


“ก็.........” พิษณุยืนมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยสีหน้าเบ้ๆ


“ผมไม่เข้าใจเลยนะยาย่า คุณก็มีผมอยู่ทั้งคน ถ้าคิดว่าจะคบคนอื่นขอให้หาที่พอจะสู้ผมได้หน่อยซิ” พิษณุหันไปพูดกับอรินยา ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ


“แต่ณุคะ.......ยาย่า” อรินยาจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาเสียใจ


“อ้อ.......นี่ผู้หญิงเค้าไม่รักก็มาพาลงั้นซิ ทำไมเท่ห์สู้ฉันไม่ได้แล้วไม่พอใจงั้นหรอ” พาสนาถามสีหน้าเย้ยๆ เมื่อพอจะเดาได้ว่า พิษณุกับอรินยาเป็นอะไรกัน


“เงียบไปเลย น้องเตี้ย” พิษณุหันมาพูดเสียงดังใส่พาสนา


“หะ........นายว่าใครเตี้ย ไอ้ขาลีบ” พาสนาเองก็ไม่ยอมเมื่อได้ยินอีกฝ่ายว่าเธอ


“หน่อย ว่าฉันขาลีบหรอ” พิษณุขมวดคิ้วจ้องหน้าพาสนา


“ขาก็ลีบ หน้าตาก็งั้นๆ เชอะ.......สมแล้วที่โดนผู้หญิงทิ้ง” พาสนาพูดยิ้มเยาะใส่ชายหนุ่ม


“ยายตัวแสบ.....” พิษณุคำรามเสียงดัง พร้อมกับเดินตรงเข้าหาพาสนาทันที


“ทำไม จะทำไมฉัน” พาสนาเองก็ไม่เกรงกลัวอะไร เธอยื่นหน้าท้าทายอีกฝ่าย


อรินยามองสองคนที่กำลังทะเลาะกันแล้วต้องรีบเข้าห้าม


“อย่านะคะณุ ยาย่ารักปลา.........ณุห้ามทำอะไรปลานะ” อรินยารีบดึงพิษณุเอาไว้ไม่ให้เข้าไปทำร้ายพาสนาได้


“คุณว่าอะไรนะยาย่า” พิษณุหันมองมาทางหญิงสาวด้วยแววตาไม่เข้าใจ


“ยาย่ารักปลาค่ะ.........ยาย่าขอโทษ แต่ยาย่าเพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบแบบไหน” หญิงสาวตอบน้ำเสียงสลดลง


“ยาย่า.......” พิษณุจ้องมองสาวสวยด้วยแววตาผิดหวัง


“ยาย่าขอโทษ แต่ตั้งแต่เจอกับปลา ยาย่าก็รู้ว่า ยาย่าชอบแบบไหน เราคงแต่งงานกันไม่ได้แล้วค่ะณุ” อรินยากล่าวกับชายหนุ่ม เธอรู้สึกผิดที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ถ้าไม่พูด ทั้งสองคงมีเรื่องกัน


“แต่ยาย่า.......” พิษณุไม่รู้จะพูดอะไรได้อีกเค้าอึ้งกับการตัดสินใจของอรินยา


“อีกอย่าง..........ยาย่า..........ยาย่าเป็นของปลาแล้วด้วย” หญิงสาวพูดน้ำเสียงอายๆ ออกมา ทำให้พิษณุแทบไม่เชื่อหู เค้าหันมองไปทางพาสนาที่มีอาการอึ้งกิมกี่เมื่อได้ยินอรินยาพูดออกมา


“............” พาสนาอ้าปากค้างมองไปทางหญิงสาวที่พูดคำนั้นออกมา


“เฮ้ย........” พิษณุเองก็อึ้งไม่ต่างกัน เค้าหันมองพาสนาด้วยแววตาขุ่น


“มะ........ไม่.......” พาสนาอยากจะปฏิเสธ แต่ในเวลานี้เธอเองก็พูดอะไรไม่ออก เพราะความตกใจที่อรินยาพูดแบบนี้ออกมา


“หน่อย......ยายแสบนี่เธอ......” พิษณุมีอาการโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินว่าอรินยากับพาสนามีอะไรกัน


“บ้าหรอ.......เดี๋ยวก่อน” พาสนาเองก็ยังสับสนอยู่ เธอยังคงมึนๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น


“ณุคะ อย่าทำอะไรปลานะคะ” อรินยาร้องห้ามชายหนุ่มที่เค้ากำลังตรงปรี่เข้าหาพาสนา


“ไม่ใช่นะ...........เข้าใจผิดใหญ่แล้ว” พาสนารีบพูดขึ้น


“ยาย่า ถ้าคุณไปรักคนอื่นผมไม่ว่า แต่ถ้ากับยายนี่ ผมไม่ยอม” พิษณุตะเบ็งเสียงออกมา เค้าจ้องหน้าพาสนาตาเขียวขุ่น


“หน่อย....” พาสนาเองก็ไม่ชอบใจกับการกระทำ และคำพูดของชายหนุ่มเช่นกัน


“แต่ณุจะมาห้ามยาย่าไม่ได้นะ” อรินยาเองก็ไม่ยอมเช่นกัน


“หึหึหึ.......คิดว่าสู้ฉันได้หรอ” เมื่อตั้งสติได้ พาสนาก็ยิ้มเยาะขึ้น


“หมายความว่าไง” พิษณุจ้องมองอีกฝ่ายอย่างโกรธเคือง


“ยาย่าเค้ารักฉัน นายคิดว่า นายจะสู้ฉันได้หรอ” พาสนาแกล้งพูดยั่วให้ชายหนุ่มโกรธ


“นี่เธอ.......” พิษณุจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาขุ่น


“ยาย่าเค้าก็บอกแล้วว่าเค้ารักฉัน เค้าไม่ได้รักนาย ฟังไม่เข้าใจรึไง” พาสนาได้ทีพูดเยาะเย้ยอีกฝ่ายอย่างสนุกปาก


“ปลา...” อรินยามองพาสนาพูดด้วยแววตาเป็นประกาย


“ยาย่าเค้ารักฉัน เราคบกัน น้ำหน้าอย่างนายไม่มีทางมาแย่งเค้าไปได้หรอก” พาสนายิ้มเย้ยๆ พิษณุเมื่อเธอรู้ว่ากำลังเหนือชั้นกว่าอีกฝ่าย


“ไม่จริงอ่ะ ใช่มั้ยยาย่า” พิษณุหันมองไปทางอรินยา


หญิงสาวเดินเข้าไปยืนข้างๆ พาสนา เธอยกมือเกาะแขนพาสนาเอาไว้ ก่อนจะหันมองมาทางพิษณุ


“ค่ะณุ ยาย่าเลือกปลา.......ณุตัดใจจากยาย่าเถอะนะคะ” หญิงสาวกล่าวกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบอย่างเลือดเย็น


“ยาย่า........” พิษณุแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน


“ได้ยินชัดรึยัง..........ยาย่าเค้ารักฉัน นายหน่ะ ตัดใจได้แล้ว ไปชิ้วๆ” พาสนาโบกมือไล่ชายหนุ่มอย่างสะใจ


“.............” พิษณุยืนนิ่งจ้องมองคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกเจ็บใจ


“เอออ เมื่อกี้ยาย่าบอกปลาว่า อยากกินอะไรอร่อยๆ ใช่มั้ยจ๊ะ งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ แถวนี้อากาศไม่ค่อยโปร่งเลย” พาสนาหันไปพูดกับอรินยาสีหน้ายิ้มๆ


“ค่ะ...” อรินยาได้แต่ยิ้มหวานให้พาสนา


แล้วทั้งสองคนก็เดินขึ้นรถไป โดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่ยืนนิ่งสักนิดเลย.........






โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:15:42 น.  

 
พาสนาขับรถพาอรินยาออกมาจากลานจอดรถ.......แต่ก่อนจะขับผ่านออกไป เธอหันมายิ้มเยาะชายหนุ่มที่ยืนจ้องรถของเธอ


“ไปล่ะนะ...” เธอขยับปากบอกกับชายที่ยืนอยู่นอกรถด้วยสีหน้ายิ้มๆ


พิษณุจ้องมองท่าทางยั่วยวน กวนโมโหจากอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกคับแค้นใจ เค้ากัดฟันกรามจนขึ้นเป็นสัน สองมือกำแน่น แววตาขุ่นเคืองอย่างที่สุด


“ณุ....นายจะเอาไงต่อ” ภูวดลที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ เดินเข้ามาร้องถามพิษณุ


“จะเอาไงล่ะ ยาย่าเค้าไปโน้นแล้วไง” พิษณุตอบน้ำเสียงฮ้วน


“แล้วนายจะปล่อยให้ไอ้หน้าอ่อนนั่นคว้าคุณยาย่าไปหรอวะ” ภูวดลกล่าวถาม


“ไม่มีทาง.........” พิษณุหันมาตอบเพื่อนเค้าด้วยแววตาดุดัน


“คนอย่างไอ้พิษณุเหยียบได้ แต่หยามไม่ได้” พิษณุพูดด้วยแววตาดุจนน่ากลัว เค้าเดินจากภูวดลออกมา แล้วขับรถคันโก้ของเค้าออกไปอย่างรวดเร็ว


ภูวดลมองดูเพื่อนรักขับรถออกจากลานด้วยความรู้สึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เพราะเวลาพิษณุมีอารมณ์โกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ ใครก็ขวางเค้าไว้ไม่ได้
.
.
.
พาสนาขับรถพาอรินยาออกมาหาอะไรทานตามที่สาวสวยต้องการ


ในใจของคนขับรถในเวลานี้ มันกำลังสะใจกับการที่ได้แกล้ง ได้ทำให้ใครบางคนเจ็บใจ...................จนลืมคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่ต้องตามมาในเวลาไม่ช้านี้


“ปลาคะ.......” อรินยาหันมาเรียกพาสนาพร้อมส่งยิ้มหวาน


“หะ....” พาสนาขานรับ


“ยาย่าดีใจจัง..........” อรินยายังคงยิ้มหวานไม่ยอมหุบ


“ดีใจ.......ดีใจอะไรหรอ” พาสนาหันมาร้องถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย


“ก็....ปลายอมรับยาย่าแล้ว ต่อไปนี้ยาย่าจะรัก จะดีกลับปลามากๆ นะคะ” สาวสวยยิ้มหวานให้อีกฝ่าย


“เอออ.........” พาสนาได้ยินคำพูดของหญิงสาวข้างๆ ก็ถึงกลับอึ้งไป


“ยาย่าสัญญานะคะว่า ยาย่าจะรัก จะมั่นคงกับปลามากๆ ไม่มีทางเปลี่ยนใจ” อรินยากล่าวจบก็เอนศีรษะของเธอมาซบไหล่พาสนาเบาๆ


“เออออ........” พาสนาสะดุ้งเฮือกที่อรินยาเอนศีรษะมาซบไหล่ของเธอ


“แรกๆ อาจจะมีเรื่องวุ่นๆ บ้าง แต่ยาย่าเชื่อว่า ความรักของเราต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้แน่นอนเลยคะปลา” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงหวานสุขใจ


พาสนานั่งฟังอรินยาพูดด้วยความรู้สึกผิดในใจ นี่เธอทำอะไรลงไป เพื่อความสนุก ความสะใจของเธอ ทำให้เรื่องเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ เธอกำลังให้ความหวังกับผู้หญิงคนนี้หรือนี่........


แล้วเธอจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี ทำอย่างไรให้อรินยาเข้าใจเธอ ทำอย่างไรให้ปัญหาที่เธอก่อจบลงด้วยดี ยิ่งคิดก็ยิ่งหาทางออกไม่เจอ พาสนารู้สึกหนักใจขึ้นมาทันที.......
.
.
.
รถสปอร์ตคันโก้ แล่นเข้ามาจอดหน้าตึกของบ้านไตรศร


ชายหนุ่มลงมาจากรถด้วยท่าทางหงุดหงิด สีหน้ายุ่งเหยิง คิ้วขมวดเป็นปมแน่น


เค้าเดินตรงขึ้นไปยังห้องนอนด้วยอาการหงุดหงิดเหลือเกิน..........ชายหนุ่มโยนโทรศัพท์มือถือ ลงบนที่นอนอย่างไม่สบอารมณ์


“โธ่โว้ยยยยยย.........” พิษณุร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง แล้วเค้าก็คว้าหมอนขึ้นมาปาลงพื้นห้องอย่างโกรธๆ


“ยายตัวแสบ.......ฉันต้องแก้แค้นเธอให้ได้” พิษณุเค้นเสียงออกมาจากลำคอด้วยแววตาดุดัน


“คนอย่างนายพิษณุแพ้อะไรแพ้ได้ แต่มาแพ้ผู้หญิงอย่างเธอ ฉันยอมไม่ได้” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะคว้าหมอนอีกใบขึ้นมาปาลงกับพื้นห้องอย่างสุดแรง


เสียงหายใจหอบเพราะความโกรธ แววตาดุ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
.
.
.
พาสนาขับรถมาส่งอรินยาที่หน้าคอนโดหรู.......สาวสวยพยายามพูดชักชวนให้พาสนาขึ้นไปบนห้องของเธอ แต่พาสนาก็ปฏิเสธ


“ทำไมล่ะคะปลา......” อรินยาถามน้ำเสียงอ้อน


“คือปลาง่วงหน่ะ.....ห้าวววววววว” พาสนาแกล้งอ้าปากห้าวขึ้น


“แต่.....ยาย่าอยากอยู่กับปลาอีกนิคะ” อรินยากล่าวน้ำเสียงเอาแต่ใจ


“เอาไว้วันหลังแล้วกันนะฮะ ปลาง่วงจริงๆ ห้าวววว” พาสนายังคงยกมือป้องปากอีกครั้ง


อรินยาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างขัดใจ แต่เธอก็ไม่อาจบังคับอะไรพาสนาได้ เธอจึงต้องยอมลงจากรถแต่โดยดี


“งั้น ขับรถกลับดีๆ นะคะ” อรินยากล่าวลาพาสนาด้วยรอยยิ้ม


“ฮะ...” พาสนายิ้มตอบ แล้วเธอก็ขับรถออกจากหน้าคอนโดหรูทันที


อรินยายืนยิ้มหวานมองดูรถของพาสนาแล่นจากไป..........ในค่ำคืนนี้หญิงสาวแสนสวย ของสังคมไฮโซ กำลังมีความสุขอย่างที่สุด
.
.
.
พาสนาขับรถออกมาจากคอนโดหรู ด้วยความรู้สึกหนักใจ


“เฮ้อออออออออ.........” เสียงถอนหายใจดังขึ้น


“ไอ้ปลานะไอ้ปลา.........หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว” พาสนาบ่นกับตัวเองด้วยน้ำเสียงอยากร้องไห้


“อยู่ดีไม่ว่าดี ปากนะปาก” เธอยกมือขึ้นมาตีปากตัวเองเบาๆ 2-3 ที


“คราวนี้จะแก้ยังไงดีวะเนี่ยะ ท่าทางคุณยาย่าจะไม่ยอมเลิกง่ายๆ ด้วย” สีหน้าที่วิตกกังวลเกิดขึ้นเมื่อคิดถึงอรินยา


“โอ้ยยยยยยยย กลุ้ม....!!!~” พาสนาตะโกนออกมาด้วยความรู้สึกหนักใจ


“ไหนจะเรื่องแม่ เรื่องแต่งงาน แล้วนี่มาเรื่องยาย่าอีก โอ้ยยยยยยยยย ไอ้ปลา..........” พาสนาบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเอง


“มันต้องโทษไอ้บ้ากามนั่น.......เพราะมันแท้ๆๆๆๆๆๆๆ” พาสนาโวยพาลไปว่าถึงคนอีกคน


“ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ถ้าไม่รู้สึกหมั่นหน้ามัน เราคงไม่พูดแบบนั้นออกมา ไม่หาเรื่องใส่ตัวแบบนี้” พาสนานึกถึงหน้าของอีกคนก็ให้รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง


“เพราะมันๆๆๆๆๆๆๆๆ ชาตินี้แกกับฉันคงไม่มีทางญาติดีกันได้แน่ๆ ไอ้บ้ากามขาลีบ” พาสนา พูดถึงอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกเหม็นขี้หน้าเอาอย่างมาก
.
.
.
“ฮัดเช้ยย” พิษณุที่เดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากอาบน้ำดับอารมณ์ร้อนลงแล้ว ก็ได้จามออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ


ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงนอน.........เค้าใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมที่ยังเปียกอยู่


แต่แล้วใบหน้าของใครคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมา


จากสีหน้าเรียบเมื่อครู่ แปรเปลี่ยนเป็นยุ่งเหยิงขึ้นมาอีก


“ยายตัวแสบ......” พิษณุขบฟันด้วยอารมณ์ขุ่นอีกครั้ง เค้าขยุ่มผ้าผืนเล็กในมือ เมื่อคิดถึงหน้าของคนที่เค้ารู้สึกเจ็บใจมากที่สุดในเวลานี้


ชายหนุ่มนึกถึงหน้าตากวนๆ และคำพูดเย้ยๆ ของพาสนาได้ดี..........เค้าต้องหาทางแก้แค้นเอาคืนให้ได้............





โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:16:52 น.  

 
ปี๊บ..........ปี๊บ............ปี๊บ.........


เสียงมือถือดังขึ้น อรินยาที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ หันมากดรับสาย


“โทรมาซะดึกดื่น มีอะไรจ๊ะ” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงหวานกับปลายสาย


“ยาย่า.....ฉันมีอะไรจะถามหน่อย” เสียงปัญจรี ดังมาจากปลายสาย


“ว่าไง มีอะไรจะถามหรอ” อรินยาถามกลับ


“ฉันได้ยินข่าวมาว่า ตอนนี้แกไปติดนักร้องที่ผับหรอ” น้ำเสียงอีกฝ่ายดูจะร้อนรน


“........” อรินยานิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำถามจากเพื่อนรัก


“ณุโทรไปบอกหรอ” หญิงสาวซักถามเพื่อนรักของเธอ


“เปล่า..........อ้าว นี่คุณณุรู้เรื่องนี้ด้วยหรอ” น้ำเสียงปัญจรีดูแปลกใจ


“แล้วใครไปบอกแกล่ะ” อรินยาถามกลับด้วยความสงสัย


“ยาย่า สาวสวยสุดฮอตแห่งปีอย่างแกนะ ไม่ว่าจะกระดิกไปไหนก็เป็นข่าวทั้งนั้นล่ะ........” น้ำเสียงของปัญจรีแสดงให้อรินยารู้ว่า เรื่องระหว่างเธอกับพาสนา คงต้องดังแน่ๆ


“แกคิดยังไงนะยาย่า ถึงได้ไปมีข่าวกับปลาเค้า........” ปัญจรียังคงร้องถามต่อ


“แล้วมันยังไง มีข่าวกับปลามันเสียหายตรงไหน” อรินยาโต้กลับบ้าง


“แกก็รู้ว่าปลาเค้า.............แล้วนี่ข่าวซุบซิบคงสนุกปากแน่ๆ” ปัญจรีรู้สึกเป็นห่วงภาพพจน์ของเพื่อนรักของเธอ


“ซุบซิบก็ซุบซิบไปซิ ฉันไม่เห็นจะแคร์” อรินยาพูดปัดเพราะความดื้อรั้น


“แล้วนี่คุณณุว่าไงบ้างล่ะ” ปัญจรีถามถึงว่าที่คู่หมั้นของสาวสวย


“จะว่าไง ณุเค้าก็ไม่ว่าไงนิ เค้าปล่อยฉัน ให้ฉันเลือกเอง” อรินยาตอบ


“นี่นะ ควงกับเค้าอยู่อย่างออกหน้าออกตา แล้วอยู่ๆ ก็หันไปมีข่าวกับสาวเท่ห์แทน” ปัญจรีพูดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจเพื่อนรักของเธอ


“ปุ่น ฉันกับณุ เราไม่เคยรักกันนะ เราแค่คบกันเพราะความเหมาะสม” อรินยาอธิบายให้เพื่อนรักฟัง


“แล้วไง นี่พูดเหมือนแกรักปลาเค้างั้นแหล่ะยาย่า” ปัญจรีร้องถาม


“ใช่ ฉันรักปลา” อรินยายอมรับกับเพื่อนรักน้ำเสียงนิ่ง


“อะไรนะ........ยาย่า แกเพี้ยนไปรึป่าว” ปัญจรีร้องถามเสียงสูงมาตามสาย


“ฉันรักปลา และปลาก็รักฉันด้วย” อรินยาย้ำน้ำเสียงหนักแน่น


“บ้ากันใหญ่แล้ว......แกก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้” ปัญจรีร้องท้วงเสียงสูง


“ทำไมจะไม่ได้ ฉันก็เห็นเค้ารักกันเยอะแยะไป” อรินยายังคงเถียงกลับ


“แกคิดว่าพ่อแม่แกที่อังกฤษ จะยอมงั้นหรอยาย่า” ปัญจรีร้องถามกลับมาอีก


“ฉันตัดสินใจแล้ว ยังไงก็ไม่มีใครมาขวางพวกฉันได้หรอก” อรินยาตอบกลับน้ำเสียงแข็ง


“แต่ยาย่า......” ปัญจรีอยากจะท้วงเพื่อนของเธอ


“ฉันเหนื่อยมาก แค่นี้นะปุ่น” อรินยาไม่อยากฟังคำทักท้วงของเพื่อนรักอีกต่อไป เธอกดวางสายทันที.....


“ยาย่า.....เดี๋ยวซิยาย่า........” ปัญจรี ร้องเรียกเพื่อนแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะอีกฝ่ายได้วางสายไปแล้ว


“เฮ้ออออออ...... เพื่อนฉัน” ปัญจรีถอนหายใจมองมือถือด้วยสีหน้ากลุ้มๆ


อรินยาวางสายจากเพื่อนรัก เธอวางมือถือไว้กับชั้นเล็กๆ ตรงหัวเตียง.......


หญิงสาวมองออกไปนอกระเบียงห้อง เธอเองก็รู้สึกหนักใจไม่น้อยกับการที่ต้องเตรียมรับมือกับเรื่องต่างๆ ที่กำลังจะผ่านเข้ามา แต่ยังไงเธอก็พร้อมจะรับมือกับมัน


เพราะเธอได้ตัดสินใจเลือกแล้ว เลือกที่จะรักกับพาสนา ฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะต้องผ่านมันไปให้ได้”.


หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนกับที่นอนนุ่ม........แล้วเมื่อคิดถึงคนอีกคน เธอก็ยิ้มหวานออกมา


“ปลาคะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยาย่าจะอดทน จะฝ่าฟันกับมันไปให้ได้......เพราะยาย่ารักปลานะคะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวาน
.
.
.
พาสนากลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนทันที ร่างของเธอล้มลงกับที่นอนอย่างเหนื่อยล้าเต็มทน


“เฮ้ออออออออออ.........” เสียงถอนหายใจดังออกมา


“กลุ้มๆๆๆๆๆๆ กลุ้มจริงโว้ย” พาสนาบ่นออกมาน้ำเสียงอ่อนใจ


“ฮือออออฮืออออออ ไม่น่าเลยเรา” พาสนาร้องโอดครวญออกมา เมื่อคิดถึงเรื่องที่เธอก่อขึ้น


“จะทำไงดี.........จะทำไงดี” พาสนาร้องตะโกนใส่หมอนเพื่อไม่ให้เสียงดังออกมา ด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ


“เฮ้อออออออ......” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะซุกหน้าลงบนหมอนใบใหญ่


“เป็นเพราะนายคนเดียว.....” พาสนาลุกขึ้นนั่ง จ้องมองไปที่หมอนใบใหญ่ ใบหน้าของชายคนนั้นได้ผุดขึ้นมาทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา


“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันก็คงไม่พูด ไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ นาย.....นาย....” พาสนาจ้องมองหมอน เธอคิดว่ามันคือผู้ชายคนนั้น


สองมือของเธอกุมหมอนไว้แน่น ดวงตาดุ


“ไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิต ไอ้ขาลีบ” พาสนาพูดด่าทอออกมา พร้อมกับใช้มือทุบหมอนไปหลายต่อหลายที


“ถ้าเจอกันอีกนะ จะเอาให้แสบกว่าเก่าอีก......เอาให้กระอักตายไปเลย” พาสนาพูดออกมาด้วยความรู้สึกแค้นในใจ


“นี่แนะ........นี่แนะ.........ตายๆๆๆๆๆ” พาสนาใช้มือทุบรัวใส่หมอนใบนั้นไม่ยั้ง ทั้งบีบ ทั้งทุบ ด้วยคิดว่ามันคือชายคนนั้นที่ทำให้เธอพูด และกระทำอะไรบ้าๆ ออกมา


.


โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:17:45 น.  

 
“ต๊ายยยยแล้ว” เสียงร้องด้วยอาการตกใจดังขึ้นที่โต๊ะอาหาร


คุณจินตนาดูรูปในหนังสือพิมพ์ประจำเช้านี้ด้วยสีหน้าตกใจ


“อะไรกันคุณร้องซะเสียงดัง” คุณกรุงที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ร้องถามภรรยา


“คุณดูนี่ซิคะ.......” คุณจินตนาเอาหนังสือพิมพ์ส่งให้สามีด้วยท่าทางร้อนใจ


“ก็แค่ข่าวซุบซิบ” คุณกรุงเปรยตามองข่าวที่ภรรยานำมาให้ดู


“แต่มันเป็นข่าวของหนูยาย่านะคะ” คุณจินตนากล่าวกับสามีหน้าตาซีเรียส


“คุณต่าย นี่พ่อตัวดีลงมารึยัง” คุณจินตนาหันไปร้องถามแม่บ้าน


“ยังค่ะ” คุณต่ายตอบสีหน้าเรียบ


“มีอะไรกันครับคุณแม่ ร้องเรียกผมแต่เช้า” พิษณุที่กำลังเดินลงมาข้างล่าง ได้ยินเสียงมารดาร้องหา เค้าจึงขานรับ


“มาก็ดีแล้ว มานี่ๆ ........” คุณจินตนาหันมองลูกชายของท่าน แล้วต้องรีบเดินเข้าไปดึงเค้ามาใกล้ๆ


“อะไรกันครับคุณแม่” พิษณุร้องถามมารดาด้วยความสงสัย


“ก็ข่าวซุบซิบของหนูยาย่า............แม่แกร้องโวยวายซะตกอกตกใจ” คุณกรุงกล่าวสีหน้ายิ้มๆ


“คุณค่ะ” คุณจินตนาหันไปพูดปรามสามี เพราะท่านเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ


“อะไรหรือครับ” พิษณุกล่าวถามสีหน้านิ่ง


“ก็นี่ไง..........ดูซิ” คุณจินตนาหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมา แล้วชี้ข่าวซุบซิบของอรินยาให้บุตรชายดู


พิษณุดูข่าวในหนังสือพิมพ์ สีหน้าราบเรียบเมื่อสักครู่ ดูจะดุขึ้นมาทันที เพราะข่าวในคอลัมน์ซุบซิบเป็นข่าวระหว่างอรินยา กับนักร้องผับคู่กรณีของเค้านั่นเอง


“อะไรกันลูก บอกแม่ซิ มันไม่จริงใช่มั้ย” คุณจินตนาถามบุตรชายของท่าน ด้วยความสงสัย


“..........” พิษณุไม่ตอบอะไร เค้าจ้องมองรูปในหนังสือพิมพ์นิ่ง


“แล้วนักร้องนี่ใครกัน ในหนังสือมันไม่ชัดเลย” คุณจินตนากล่าวเพราะท่านเห็นรูปที่ลงนั้น ใบหน้าของนักร้องที่ตกเป็นข่าวไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะคนถ่ายต้องการจะเน้นอรินยามากกว่า


“ผมมีประชุมตอนเช้า ขอตัวนะครับ” พิษณุไม่ตอบคำถามใดๆ เค้าเดินออกจากโต๊ะอาหารไปพร้อมๆ กับหนังสือพิมพ์ในมือ


“อ้าว เดี๋ยวซิตาณุ......” คุณจินตนาร้องเรียกบุตรชายที่เดินออกไปด้วยสีหน้าไม่คลายสงสัย


“คุณๆ อย่าไปวุ่นวายกับลูกเลย เค้าต้องทำงานนะ” คุณกรุงปรามภรรยาบ้าง


“คุณนี่........ก็ฉันอยากรู้นิ ว่ามันยังไงกัน” คุณจินตนาขมวดคิ้วมองสามี


“ลูกเราโตแล้ว อีกอย่าง เรื่องแบบนี้มันก็แค่ข่าวซุบซิบ จริงไม่จริงยังไม่แน่เลยนะ” คุณกรุงกล่าวเป็นกลาง


“..........” คุณจินตนาฟังสามีแล้วต้องนิ่งเงียบ ท่านเองก็เข้าใจว่าอยู่ในวงสังคมไฮโซ ก็ต้องตกเป็นข่าวเป็นธรรมดา เพราะหลายต่อหลายคนก็เคยมีข่าวมากมายมาแล้วทั้งนั้น แต่สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ท่านเองก็อดหนักใจไม่ได้
.
.
.
พิษณุขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งคนขับในรถของเค้า ชายหนุ่มกุมหนังสือพิมพ์ในมือแน่น


“ยายตัวแสบเอ้ย.....” แล้วเค้าก็โยนหนังสือพิมพ์ในมือไปที่เบาะข้างๆ อย่างแรงด้วยอาการหงุดหงิด


ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บใจอย่างที่สุด นี่ข่าวเรื่องอรินยา กับนักร้องตัวแสบคนนั้น คงดังไปทั่ว แล้ววันนี้เค้าคงได้เจอกับคำพูด พร้อมกับสายตาจากคนรอบข้างแน่ๆ แล้วถ้าทุกคนรู้ว่านักร้องที่เป็นข่าวอยู่นี้เป็นผู้หญิงด้วยละก้อ เค้าคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแน่ๆ


ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งคับแค้นใจ เจ็บใจอย่างมาก


“คอยดูเถอะ.......ฉันต้องเอาคืนแน่ๆ” พิษณุพูดกัดฟันแน่น ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
.
.
.
“พี่ปลา..........พี่ปลา.......” เสียงเรียกจากสาวน้อยดังขึ้น ก่อนที่ร่างของเธอจะวิ่งพรวดเข้ามาในห้องของพาสนา


“อืมมมมม คนจะนอนเสียงดังทำไม........” พาสนาที่ยังคงนอนงัวเงียอยู่บนที่นอนร้องถามสาวน้อยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด


“แย่แล้วพี่ปลา......” แมงปอกระโดดขึ้นมานั่งบนเตียงนอน แล้วเขย่าตัวพาสนาอย่างร้อนใจ


“อะไรกัน.......” พาสนาหันมองหน้าน้องสาวอย่างหงุดหงิด


“นี่ไงพี่ปลา แย่แน่ๆ......” แมงปอยื่นหนังสือพิมพ์ในมือให้พาสนาดู


พาสนายกมือขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะเพ่งมองไปที่หน้าหนังสือพิมพ์ที่แมงปอนำมาให้เธออ่าน.........แล้วสภาพงัวเงียเมื่อสักครู่ก็ได้หายไปแบบปลิดทิ้ง ดวงตาของพาสนาเบิกกว้างจ้องไปที่ข่าวที่แมงปอนำมาให้อ่าน


“สาวไฮโซคนดัง อรินยา-ยาย่า เปลี่ยนใจมาควงนักร้องมาดเท่ห์แห่งผับ Ninety Eight ทำเอาสาวๆ หลายต่อหลายคนร้องห่มร้องไห้อกหักเป็นแถวๆ ...........เอ ไม่รู้ว่าหนุ่มไฮโซ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคู่รักของสาวอรินยา จะว่ายังไงกันนะ....” พาสนาอ่านเนื้อหาในหน้าหนังสือพิมพ์ด้วยอาการตกตะลึง


“ตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆ” เธอจ้องมองรูปที่อยู่ในหนังสือพิมพ์ แม้ว่าภาพจะไม่ชัดนัก แต่ก็รู้ว่านั่นคือเธอเอง


“เอออ ตายแน่ไอ้ปลา” ไม่ทันที่พาสนาจะตั้งหลักได้ เสียงดุๆ จากคุณสุก็ดังขึ้น


“แม่....” พาสนาเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ แล้วมองไปทางมารดาที่ยืนจ้องหน้าเธอเขม็งด้วยอาการไม่ชอบใจ


“เป็นไงล่ะ สะใจแกมั้ย” คุณสุร้องถามลูกสาวของท่าน


“แม่......” พาสนากลืนน้ำลายลงคอ แล้วมองหน้ามารดาอย่างหวาดกลัว


“ยังคิดว่าฉันเป็นแม่แกอยู่อีกหรอ.......” คุณสุร้องถามพาสนาสีหน้าเครียด


“โธ่ แม่..........ทำไมพูดงี้ล่ะ” พาสนาพยายามยิ้มสู้


“แล้วไอ้ข่าวบ้าๆ เนี่ยะมันอะไรหะ.............ไหนแกบอกว่าไม่มีอะไรกับเค้าไง” คุณสุตะเบ็งเสียงดังร้องถามพาสนาด้วยความโกรธ


“ก็ไม่มีจริงๆ นิแม่..........นี่มันข่าวมั่วอ่ะ” พาสนาพยายามแก้ตัวสุดฤทธิ์


“มั่วยังไง ภาพออกจะแจ้ง ขนาดนี้ หะ...” คุณสุชี้มือไปทางหนังสือพิมพ์ พร้อมด้วยดวงตาดุ


“เออออ.......” พาสนาเองก็จนหนทางแก้ตัว เพราะภาพที่ลงในหนังสือพิมพ์ เป็นภาพของอรินยาที่กำลังยืนเกาะแขนเธออยู่


“พูดไม่ออกล่ะซิ........แกนะไอ้ปลา แก” คุณสุรู้สึกโกรธอย่างมาก ท่านได้แต่มองลูกสาวอย่างผิดหวัง


“แม่จ๋า ปลาไม่มีอะไรกับคุณยาย่าจริงๆ นะ แม่เชื่อปลาหน่อยซิ” พาสนาพยายามร้องบอกมารดา เธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่มารดามองเธอแบบนี้


“ฉันก็อยากเชื่อแกนะปลา แต่ข่าวนี่มันต้องมีมูล ไม่งั้นเค้าจะไปเอาที่ไหนมาเขียน” คุณสุกล่าวน้ำเสียงสั่น


“แม่........” พาสนาจ้องมองมารดาด้วยความรู้สึกผิดอย่างมาก ที่เป็นต้นเหตุให้มารดาเสียใจ


“ฉันจะรีบจัดการเรื่องแต่งงานของแกให้ไวที่สุด........เรื่องทั้งหมดจะได้จบ” คุณสุพูดเสียงดังขึ้น ก่อนจะเดินออกจากห้องไป


“แม่!!!!~” พาสนาร้องเรียกมารดาด้วยน้ำเสียงอยากร้องไห้ออกมา


เธอรู้สึกว่า เรื่องมันกำลังจะยุ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ ท่าทางคุณสุกำลังโกรธอย่างมาก และเมื่อท่านโกรธใครก็เอาไม่อยู่ พาสนาได้แต่ถอนหายใจยาว และก้มมองข่าวในหนังสือพิมพ์ ด้วยสีหน้าอยากร้องไห้


“พี่ปลา......” แมงปอมองพี่สาวของเธอแล้วให้รู้สึกเห็นใจ


“ปอ พี่ไม่มีอะไรกับเค้าจริงๆ นะ....” พาสนาพูดออกมาน้ำเสียงเศร้า


“ปอเชื่อพี่ปลาค่ะ.......” แมงปอเข้าใจพาสนาดี เธอทำได้แค่ให้ความเข้าใจพี่สาวคนนี้ของเธอ


“ขอบใจ...” พาสนากล่าวน้ำเสียงเศร้า เธอก้มหน้ามองหนังสือพิมพ์ในมือ ด้วยความรู้สึกลำบากใจ






โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:18:20 น.  

 
พาสนาขับรถมาจอดที่วินมอร์เตอร์ไซด์หน้าปากซอย........


ประตูรถปิดลง พร้อมกับสาวเท่ห์ที่กำลังจ่ำก้าวพรวดๆ ไปยังกลุ่มวินมอร์เตอร์ไซด์ที่กำลังนั่งเล่นหมากรุกกันอยู่อย่างสนุกสนาน


“ไอ้ตุ้ม.......” พาสนาร้องเรียกชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตาวางหมากอย่างตั้งใจ


“อะไรวะปลา” ปัฐวี เงยหน้ามองคนที่มาร้องเรียกเค้า


“มานี่หน่อย” พาสนากวักมือเรียกชายหนุ่มให้เดินไปคุยกับเธอทางอื่น


“กำลังเล่นสนุกอยู่เลย....” ปัฐวีมีท่าทางไม่อยากเดินออกไป


“ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก มาคุยกับฉันหน่อยดิ” พาสนาจ้องมองปัฐวีด้วยสีหน้าเครียด


“เอออ แปบนึง......” ปัฐวียังคงบอกปัด


“ฉันบอกให้มาไงเล่า........” พาสนาเดินปรี่เข้าไปหาเค้า แล้วใช้มือจับเสื้อชายหนุ่มเพื่อดึงเค้าออกมาจากกลุ่มวินมอร์เตอร์ไซด์


“เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ ไอ้ปลา เบาๆ” ปัฐวีลุกตามแรงดึงของพาสนา


พาสนาไม่ได้สนใจเสียงร้องของอีกฝ่าย เธอดึงเค้าให้เดินออกมาจากกลุ่มวินมอร์เตอร์ไซด์ ด้วยท่าทางเครียดๆ


“มีอะไรวะ ทำไมต้องลากกันด้วย” ปัฐวียังคงร้องถามอย่างสงสัย


“ไอ้ตุ้ม แกเป็นเพื่อนฉันรึป่าว” พาสนาจ้องหน้าชายหนุ่ม


“เป็นซิ...” ปัฐวีหันมองหน้าอีกฝ่าย


“ดี.........งั้นแก ต้องปฏิเสธแม่ฉันเรื่องแต่งงาน” พาสนาบอกกับเค้าน้ำเสียงเข้ม


“อ้อ เรื่องนี้เอง แกถึงมาหาฉันถึงนี่” ปัฐวีทำหน้าเข้าใจแล้วถึงเหตุผลที่พาสนามาหาเค้าถึงถิ่น


“แม่จะให้ฉันแต่งให้ได้ แกต้องปฏิเสธเข้าใจมั้ย” พาสนาย้ำกับเค้าเสียงเข้ม


“หึ........แกจะมาโอดครวญทำไมวะปลา ก็แกดันไม่สร้างเรื่องไว้เองนี่หว่า” ปัฐวีทำหน้ายิ้มขำๆ ออกมา


“ไอ้ตุ้ม แกพูดงี้หมายความว่าแกจะไม่ช่วยงั้นซิ” พาสนาจ้องหน้าเค้าเขม็ง


“ไอ้ช่วยหน่ะ ก็อยากช่วย...........คราวก่อนแค่เอามานอนบ้าน แม่แกก็โกรธจะเป็นจะตายอยู่แล้ว นี่แกดันมีข่าวในหนังสือพิมพ์ขนาดนี้ แกคิดว่าคนอย่างน้าสุ จะยอมง่ายๆ หรือไง” ปัฐวีพูดขึ้น เพราะเค้ารู้นิสัยของคุณสุเป็นอย่างดี


“.............” พาสนานิ่งเงียบ เธอเองก็รู้ว่า หากคุณสุตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็ยากที่จะขัดใจได้


“ถึงให้ฉันบอกปฏิเสธไป ก็ใช่ว่าโลกนี้มีผู้ชายแค่ฉันคนเดียว........คนอื่นที่เค้ายอมแต่งกับแกมันก็ต้องมีไอ้ปลา” ปัฐวีพูดขึ้น


“..........” พาสนาได้แต่ยืนนิ่ง


“ทำใจเถอะวะ อย่างน้อย แกก็สบายใจได้ว่า ถ้าแกแต่งกับฉัน ฉันก็จะรัก จะดูแลแกเอง” ปัฐวียกมือจับแขนพาสนาเบาๆ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง


พาสนาเงยหน้ามองปัฐวี...........เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกบางอย่าง


หากต้องแต่งงานจริงๆ ถ้าเธอแต่งกับปัฐวี มันก็คงจะดีกว่าไปแต่งกับใครก็ไม่รู้จริงๆ อย่างที่เค้าว่า............


“ฉันไปทำงานล่ะ” พาสนาปัดมือชายหนุ่มออกจากแขน แล้วเดินกลับไปที่รถของเธอด้วยอาการซึมๆ


ปัฐวีมองตามพาสนาไปอย่างเข้าใจ เค้ารู้ว่าเธอไม่ต้องการแต่งงานกับเค้า หรือว่ากับใครทั้งนั้น แต่เธอก็ไม่อาจขัดใจคุณสุได้ เพราะเรื่องในครั้งนี้มันหนักเกินกว่าจะควบคุมได้แล้ว....
.
.
.
พาสนาขับรถมาจนถึงหน้าผับ.........เธอก้มหน้าลงกับพวงมาลัยอย่างเหนื่อยใจ


เสียงถอนหายใจดังออกมาเป็นระยะๆ


แต่แล้วเธอก็ต้องเงยหน้าขึ้น แล้วหันไปหยิบกระเป๋าสะพาย เพื่อเดินเข้าไปในผับ อย่างเช่นทุกวัน


“เอาวะ.......อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” พาสนาพูดปลอบใจตัวเอง ก่อนจะลงมาจากรถของเธอ


แต่เพียงไม่กี่ก้าว เธอก็ต้องตกใจอย่างมาก เมื่อมีกลุ่มคนหลายต่อหลายคน สะพายกล้องวิ่งเข้ามาหาเธอแบบไม่ให้ตั้งตัว


“คุณปลาใช่รึป่าวค่ะ.........” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องถามขึ้น


“พวกคุณทำอะไรหน่ะ” พาสนาหันมองคนกลุ่มนี้ด้วยท่าทางตกใจ


“คุณคิดยังไงกับการที่คบกับคุณอรินยาคะ” คำถามหนึ่งดังขึ้น ทำเอาพาสนาเข้าใจแล้วว่าคนกลุ่มนี้คือใคร


“แล้วคิดว่าจะคบกันไปจนถึงเมื่อไหร่ครับ” คำถามต่อมาดังขึ้นอีก


“อะไรกันเนี่ยะ.......” พาสนายกมือขึ้นป้องใบหน้าของเธอ เพื่อป้องกันการโดนถ่ายรูปจากกลุ่มนักข่าว ที่กำลังกระหายข่าวจากเธอเป็นอย่างมาก


“พวกคุณพบกันที่ไหนค่ะ ใช่ที่นี่รึป่าว” นักข่าวอีกคนร้องถามขึ้นบ้าง


“ปลาไม่มีอะไรจะพูด .........ขอตัวนะ” พาสนารู้สึกหงุดหงิดกับกลุ่มนักข่าวมาก เธอรีบวิ่งหนีออกมาจากกลุ่มนักข่าวเพื่อเข้าไปยังในผับ


กลุ่มนักข่าวยังคงวิ่งไล่ตามถ่ายรูปเธอ แต่เมื่อพาสนาวิ่งเข้าไปด้านหลังของผับ ซึ่งนักข่าวไม่สามารถตามเข้าไปได้ พวกเค้าจึงได้แต่รอเวลาผับเปิด
.
.
.
“โอ้ยยย อะไรกันนักกันหนานะ” พาสนาร้องโวยขึ้นเมื่อหนีนักข่าวเข้ามาอยู่ในผับ


“เป็นไงคนดัง..........เป็นนักร้องดังไม่พอ เป็นข่าวกับสาวไฮโซ ดังสะใจไปเลยซิ” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำเอาพาสนาหันขวับมองด้วยสายตาไม่พอใจ


“ไอ้เป้ เงียบปากไปเลยแก” พาสนาทำเสียงดุใส่เป้ ที่นั่งพูดกระทบเธอ


“อ้าว ก็แค่สงสัยนิ........ว่าแค่สาวๆ ในผับมันยังไม่พอรึไง ถึงได้ทำตัวซะดังไปทั่วประเทศแบบนี้” เป้ยังคงพูดยั่วอารมณ์พาสนาไม่เลิก


พาสนาจ้องมองเป้ด้วยแววตาไม่ชอบใจ เธอเดินตรงมาทางเค้า


“ถ้าแกพูดว่าแดกฉันอีกคำเดียว ปากแกแตกแน่เป้” พาสนาบอกกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเย็น


“หึ....ไม่พอใจแล้วทำ ทำไม...........” เป้ไม่ฟังคำเตือนของพาสนา เค้ายิ้มเยาะออกมา


“ไอ้เป้.........” พาสนาเหลืออดกับคำพูดถากถางของเพื่อนร่วมวง เธอง้างหมัดของเธอ แล้วต่อยเข้าไปที่มุมปากของอีกฝ่ายด้วยอารมณ์โกรธ


ผลัวะ.........................


เสียงหมัดของพาสนากระแทกกับเนื้อตรงมุมปากของชายหนุ่มอย่างจัง


ใบหน้าของเป้ หันตามแรงหมัด ..........


“ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย ว่าอย่ามาพูดดูถูกฉัน” พาสนาเค้นเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ


“หึหึหึ” เป้หัวเราะในลำคอ เค้ายกมือขึ้นจับปากแถวที่ถูกต่อยเมื่อสักครู่


“หมัดยังหนักเหมือนเดิม” เป้พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง


“หรือแกจะเอาอีกสักหมัดหะ.....” พาสนาร้องถามด้วยความโกรธ


“แกโกรธฉันที่ฉันพูด............แต่ฉันบอกแกไว้เลยนะปลา แกต้องฟังคนอื่นพูดอีกมากกว่าที่ฉันพูดตอนนี้อีก” เป้หันมองมาทางพาสนาอีกครั้ง แววตาที่เค้ามองเธอ ไม่ใช่ความโกรธ ไม่ใช่ความเกลียด แต่เป็นแววตาของความหวังดี


“.........” พาสนาจ้องมองหน้าของอีกฝ่าย เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น


“แค่คนในร้านนี้ ก็ไม่รู้กี่ปากต่อกี่ปาก แล้วคนอื่นอีกมากมาย.........แกว่า แกจะไล่ต่อยเค้าได้หมดหรือไง” เป้ร้องถามเธอ


“เรื่องของฉัน.......” พาสนาเลี่ยงที่จะตอบคำถาม


“ฉันก็แค่อยากให้แกเตรียมใจ เพราะแกคงเจออีกเยอะปลา...” เป้พูดด้วยความรู้สึกห่วงใยในอีกฝ่ายออกมา


“.......” พาสนายืนฟังคำของอีกฝ่ายนิ่ง เธอรู้ดีเช่นกันว่า เธอต้องเจออะไรอีกมากมาย นับตั้งแต่เธอเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์เมื่อตอนเช้านี้แล้ว








*******จบตอนที่4************







โดย: kokoo_129 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:17:19:04 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.