Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
..Next Story : เรื่องรักของสองเรา ตอนที่12..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์


***************************
Next Story : เรื่องรักของสองเรา
ตอนที่ 12

***************************












Create Date : 19 ตุลาคม 2552
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 19:33:31 น. 9 comments
Counter : 307 Pageviews.

 
ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา.....เค้ารีบลุกจากเก้าอี้ยาวอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าตัวเองได้เผลอหลับไป ผ้าห่มผืนใหญ่ล่วงลงกับพื้นห้อง ทำให้ปัฐวีรู้ตัวว่ามีคนเอาผ้ามาห่มให้....


ชายหนุ่มหยิบผ้าห่มขึ้นมาจากพื้น...


“ตื่นแล้วหรอ” ปัญจรีที่เดินออกมาจากห้องพัก ร้องถามอีกฝ่ายเมื่อเห็นเค้าลุกขึ้นยืน


“เอออ อืมม...” ชายหนุ่มหันมองสาวสวย ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ


“นี่กี่โมงแล้ว” เค้าถามเธอสีหน้าสะลึมสะลือ ตามประสาคนเพิ่งตื่นนอน


“จะ 9 โมงแล้ว” ปัญจรีตอบ


“9 โมง.....!!!!!!!!” ปัฐวีพูดเสียงดัง พร้อมมองมาทางหญิงสาว


“อืมม” ปัญจรีพยักหน้ารับเบาๆ


“บ้าจริง” ชายหนุ่มวางผ้าห่มในมือลงกับเก้าอี้ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปนอกบ้านพัก


“อ้าว จะไปไหนอ่ะ” ปัญจรีรีบวิ่งตามชายหนุ่มออกไป


ปัฐวีรีบวิ่งไปที่ออฟฟิศรีสอร์ท.......


“ผู้จัดการ ผู้จัดการ........” ชายหนุ่มร้องเรียกผู้จัดการรีสอร์ท


“คุณคะๆ” พนักงานรีสอร์ท รีบเดินตามปัฐวีที่วิ่งเข้าไปยังห้องผู้จัดการรีสอร์ท


“ผู้จัดการอยู่ไหน” ปัฐวีมองไปรอบๆ ห้องไม่พบผู้จัดการรีสอร์ท เค้าหันมาถามพนักงานที่เดินตามเค้าเข้ามาด้วยสีหน้าร้อนใจ


“ผู้จัดการออกไปข้างนอกแล้วค่ะ” พนักงานบอกกับปัฐวี


“ไปไหน...” ปัฐวีซักถามน้ำเสียงเข้ม


“เห็นว่า ออกไปกับหน่วยกู้ภัยค่ะ” พนักงานคนดังกล่าวตอบ


“ไปกับหน่วยกู้ภัยหรอ...” ปัฐวีที่มีอาการร้อนใจเมื่อครู่ เริ่มสงบอารมณ์ลง


“นี่.........” ปัญจรีที่วิ่งตามมา ร้องเรียกชายหนุ่ม ด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ


“จะบ้าหรือไง วิ่งมาเนี่ยะ” หญิงสาวพูดต่อว่าชายหนุ่ม


“ผู้จัดการออกไปแล้ว” ปัฐวีบอกกับหญิงสาว


“ฉันรู้แล้ว เค้าออกไปตามหาคุณณุ กับ ปลา” ปัญจรีบอกกับชายหนุ่มถึงเรื่องผู้จัดการรีสอร์ท เพราะเธอรู้ก่อนหน้านี้แล้ว


“คุณรู้” ชายหนุ่มจ้องหน้าอีกฝ่าย


“อืมม ผู้จัดการโทรไปบอกตั้งแต่เช้าแล้ว...” ปัญจรีตอบให้เค้าหายสงสัย


“โทรไปแต่เช้า แล้วทำไมคุณไม่บอกผมล่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่าย


“อ้าว ฉันเห็นนายเหนื่อย และก็นอนหลับอยู่” ปัญจรีจ้องหน้าอีกฝ่าย นี่เธออุตส่าห์ทำดี แต่เค้ากลับตะหวาดเสียงดังใส่เธอหรือนี่


“คุณนี่..........โธ่เว้ยยย....” ชายหนุ่มมีท่าทางไม่พอใจอย่างมาก เค้าเดินออกจากออฟฟิศด้วยท่าทางไม่พอใจ


ปัญจรีมองตามร่างชายหนุ่มที่เดินออกไป ด้วยแววตาขุ่น ปนน้อยใจ......
.
.
.
“เราต้องออกตามหาให้เจอให้เร็วที่สุดนะ....ยังไงผมฝากพวกคุณด้วย” ผู้จัดการรีสอร์ทกล่าวกับทีมกู้ภัย ขณะที่กำลังแล่นเรือออกตามหาพิษณุ และพาสนา


“ส่งข่าวไปทางเกาะรึยัง” ผู้จัดการรีสอร์ทหันไปถามทีมกู้ภัย


“ส่งแล้วครับ ทางโน้นก็ออกช่วยตามหากันเต็มที่” ทีมกู้ภัยตอบกลับ


“เฮ้อออออ......ขอให้ปลอดภัยกันทีเถอะ” ผู้จัดการรีสอร์ท มีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก
.
.
.
ในป่ารกทึบ...


พิษณุกำลังเดินนำเข้าไปในป่า ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ต้นหญ้า มากมาย........พาสนาที่เดินตามหลังมา มองชายหนุ่มด้วยแววตาขุ่น สีหน้าของเธอบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจอย่างมาก


“เพราะนายคนเดียว ฉันถึงต้องมาลำบากแบบนี้” เธอบ่นออกมา ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดในใจ พิษณุได้ยินเสียงจากอีกฝ่าย เค้าหยุดเดิน แล้วหันมองกลับมายังเธอ


“เธอว่าอะไรนะ...” ชายหนุ่มหรี่ตาถามอีกฝ่าย


“ก็ใครล่ะ ชวนมาเกาะเนี่ยะ .......ทำให้ฉันเกือบตาย แถมต้องมาเดินป่ารกๆ แบบนี้อีก....” พาสนาบ่นอุบ เธอใช้มือปัดตามแขนขา ที่โดนแมลงต่างๆ กัดจนคันไปหมด


“คนที่จะน่าจะบ่นเนี่ยะ น่าจะเป็นฉันมากกว่านะ” พิษณุรู้สึกเหลืออดกับอีกฝ่าย ที่เฝ้าแต่บ่นใส่เค้า


“บ่นอะไร นายจะมาบ่นอะไร” พาสนาพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ


“ก็ใครล่ะ เซ่อซ่า จนตกน้ำหะ...” ชายหนุ่มถามกลับสีหน้าเครียด


“เออออ........” พาสนาต้องรู้สึกหน้าเสียทันทีที่อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา


“ก็........ก็ถ้านายไม่ชวนตุ้มมา มันก็คงไม่อยากมา แล้วก็ไม่มาบังคับให้ฉันมาด้วย” พาสนาเถียงกลับข้างๆ คูๆ


“อ๋อเหรอ...” ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายเถียง


“ใช่.........ถ้าไอ้ตุ้มไม่อยากมา ฉันก็ไม่ต้องมา ถ้าฉันไม่ต้องมา ฉันก็ไม่ต้องตกน้ำจนเกือบตาย แล้วก็ไม่ต้องมาติดเกาะบ้าๆ นี่กับนายด้วย” พาสนาตอบกลับเสียงดัง


“ใช่ซินะ........” พิษณุพยักหน้ารับเบาๆ


“แต่ฉันถามหน่อย เธอลำบากคนเดียวหรือไงหะ........ฉันต้องกระโดดลงน้ำไปช่วยเธอขึ้นมา แล้วต้องมาติดอยู่ที่นี่กับเธอ เธอคิดว่าฉันชอบหรือไงหะ” พิษณุถามกลับเสียงดังบ้าง พาสนายืนนิ่งฟังอีกฝ่ายพูดด้วยท่าทางจ๋อยๆ


“จริงๆ ฉันก็ไม่น่าลงไปในน้ำช่วยเธอเลย น่าจะปล่อยให้ตายไปซะก็ดี จะได้ไม่ต้องมาฟังเธอพูดมากแบบนี้.....ชื่อปลาซะเปล่า กลับว่ายน้ำไม่เป็น” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาอีกให้อีกฝ่ายต้องถึงกลับขมวดคิ้วยุ่ง


“แล้วใครใช้ให้มาช่วยละ ฉันไม่ได้ร้องขอสักหน่อย” พาสนารู้สึกโกรธที่พิษณุพูดแบบนี้ออกมา


“ก็ถ้ารู้ว่าช่วยมาแล้วจะพูดมากแบบนี้ ฉันก็ไม่ช่วยหรอก” พิษณุเองก็รู้สึกหงุดหงิดเมื่อพาสนาทำท่าอวดดีใส่เค้า


“นาย.........” พาสนาจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ เธอกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาเขียว


“น่าเบื่อ...” พิษณุพูดกระแทกเสียงใส่พาสนา ก่อนจะหันเดินไปข้างหน้าต่อ พาสนายืนจ้องอีกฝ่ายดวงตาเขียวขุ่น เธอรู้สึกโกรธที่เค้ามาว่าเธอแบบนี้


“ดี เบื่อก็ดี งั้นเราแยกทางกัน” พาสนาตะโกนไล่หลังชายหนุ่มด้วยความโกรธ


เธอตัดสินใจเดินไปคนละทางกับที่เค้าเดิน พาสนาเองก็ไม่รู้ว่าทางข้างหน้ามีอะไรอยู่ แต่ในเวลานี้จะให้เธอเดินร่วมทางไปกับเค้า เธอไม่ขอไปด้วยเด็ดขาด





โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:13:43 น.  

 



พาสนาเดินลุยป่าอย่างไม่รู้จุดหมาย เธอพยายามฝ่าต้นไม้ที่ขึ้นรกทึบ....แต่ดูเหมือนยิ่งเดินก็ยิ่งเจอแต่ต้นไม้ที่ขึ้นหนาเต็มไปหมด


“โอ้ยยย....ทำไมมันรกอย่างนี้นะ” สองมือก็พยายามแหวก กิ่งไม้ที่ขวางทางออก ปากก็ยังคงบ่นไม่หยุด


แต่แล้วพาสนาก็ต้องหยุดชะงัก ขาของเธอที่กำลังยกเพื่อก้าวไปข้างหน้า หยุดค้างอยู่กับที่ ดวงตาเปิดกว้างมองไปที่พื้นเบื้องหน้า.....เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้น และค่อยๆ ไหลซึมลงมา


“งะ.........งู......” พาสนาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สีหน้าซีด งูตัวใหญ่ นอนขวางอยู่ข้างหน้า มันกำลังหันจ้องมายังผู้บุกรุก


พาสนาได้แต่ยืนนิ่ง เพราะมีคนเคยบอกกับเธอว่า ถ้าเจอพวกงู ให้ยืนเฉยๆ แล้วมันจะเลื้อยหนีไปเอง....เธอพยายามยืนตัวแข็ง และจ้องมองมันเพื่อรอให้มันหนีไป แต่เจ้ากรรม งูตัวนั้นไม่ยอมขยับไปไหนเช่นกัน


“........” พาสนาจ้องมองงูตัวใหญ่ ที่ไม่ยอมหนีไปไหน ด้วยความรู้สึกทรมานที่สุด เพราะเธอเริ่มเมื่อยกับท่าที่ยืนอยู่


“ไปซะทีซิ..........โธ่.........” เสียงร้องโอดครวญดังออกมา เมื่อเห็นว่าเจ้างูตัวยักษ์ยังไม่ยอมเลื้อยไปไหน


“จะไม่ไหวแล้วนะ..” พาสนารู้สึกเมื่อยที่ขาอย่างมาก เม็ดเหงื่อก็เริ่มไหลซึมไปทั่ว ขาข้างที่รับน้ำหนักของเธอ เริ่มสั่น


“ตายแน่พาสนา..........พาสนาตายแน่ๆ” พาสนาบอกกับตัวเอง พร้อมกับใบหน้าที่อยากจะร้องไห้ออกมา เจ้างูตัวใหญ่ หันมองมาทางพาสนาอีกครั้ง มันชูคอขึ้นเมื่อเห็นเธอกระดุกกระดิก


เอือกกกกก.............


เสียงกลืนน้ำลายลงคอดังขึ้น เมื่อดวงตาของเธอจ้องกับดวงตาของเจ้างูตัวร้าย...ลิ้นสองแฉกของมันแลบออกมา ยิ่งทำให้พาสนารู้สึกถึงความกลัวที่มีอยู่ในใจ


“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ........เราต่างคนต่างอยู่นะ” พาสนาพูดออกมาเบาๆ เธอหวังว่าเจ้างูจะเข้าใจ แต่มันกลับค่อยๆ ขยับตัวเลื้อยเข้ามาใกล้ๆ เธอ


“ไม่นะ...............” พาสนามองการเคลื่อนไหวของงูตัวใหญ่ ด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น


“ชะ.......ช่วยด้วยยย .....” พาสนาตะโกนออกมาสุดเสียง ทั้งๆ ที่ตัวเธอยังคงยืนนิ่งไม่กล้าขยับ


“พี่ณุ ช่วยปลาด้วยยยย” พาสนาหลุดเรียกชื่อคนที่อยู่ร่วมป่ากับเธออย่างลืมตัว.....ในเวลานี้ความทิฐิ ความดื้อรั้น ไม่หลงเหลือแล้ว เธอหวังแต่ให้อีกคนได้ยินเสียงเรียกของเธอ


เจ้างูร้าย กำลังเลื้อยเข้ามาหาพาสนาใกล้ขึ้นทุกที มันชูคอขึ้นสูง..........ดวงตาแดงเป็นประกาย


พาสนามองหน้ามันอย่างหวาดกลัว เธอหลับตาปี๋ด้วยความกลัว


ฟ่อ........................


เสียงเจ้างูตัวยักษ์ดังขึ้น


กรี๊ดดดดดดดด........


เสียงร้องอย่างหวาดกลัวดังขึ้น


ตุ๊บ!!!!!!!!!!!~


เสียงๆ หนึ่งดังขึ้น พร้อมกับแรงสะเทือนของพื้นใกล้ๆ


พาสนาล้มลงกับพื้น เธอคิดว่าเธอคงโดนเจ้างูร้ายฉกเข้าให้แล้ว


ตุ๊บๆๆๆๆๆๆ.........


เสียงเดิมดังขึ้นอีก แต่คราวนี้แรงสะเทือนไม่มีแล้ว.....


พาสนาค่อยๆ ลืมตามองก็พบว่า ร่างเจ้างูตัวใหญ่กำลังโดนก้อนหินก้อนโตทับอยู่ พร้อมกับพิษณุที่เอาก้อนหินอีกก้อนทุบที่หัวของมัน.....


เสียงหายใจจากความตกใจกลัวยังคงดังออกมา พาสนาหายใจหอบถี่เพราะความกลัว เธอมองเจ้างูที่กำลังจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของพิษณุ...ชายหนุ่มทุบเจ้างูตัวร้ายตายสนิท เค้าหันมองมาทางเธอด้วยอาการเหนื่อยหอบและตื่นเต้น


พาสนาจ้องมองเค้าด้วยสีหน้าที่อยากจะยิ้มดีใจออกมาที่เค้ามาช่วยเธอได้ทันเวลา.......แต่อะไรบางอย่างกลับทำให้เธอชักสีหน้าตูมออกมาอีกครั้ง


พิษณุเดินตรงมาหาพาสนาที่ล้มนั่งอยู่กับพื้น....


“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ......ถ้าฉันมาไม่ทันนี่แย่แน่ๆ” เค้ายื่นมือให้เธอ เพื่อให้เธอลุกขึ้นยืน


“ไม่ต้องมายุ่ง..” พาสนาปัดมือของอีกฝ่าย ก่อนจะลุกขึ้นมา


“อะไรอีกหะ” พิษณุขมวดคิ้วมองหน้าอีกฝ่าย


“มาทำไม....มาช่วยแล้วก็พูดมาก ไม่ต้องมาหรอก” พาสนาพูดเสียงดังใส่หน้าอีกฝ่าย


“อ้าว....” พิษณุขมวดคิ้วมองจอมดื้อตรงหน้า


“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง...” พาสนายังคงพูดใส่หน้าเค้าด้วยน้ำเสียงไม่น่าฟัง


“นี่น้อยหน่อยนะ.........ใครกันที่เรียกให้ฉันมาช่วยหะ” พิษณุร้องถามอีกฝ่าย ด้วยความรู้สึกโกรธนิดๆ


“ใคร...ใครเรียก เข้าใจอะไรผิดรึป่าว” พาสนาโต้กลับ เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น


“นี่เธอ....” พิษณุจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเหลืออด กับความดื้อ ความปากแข็งของเธอ


“เราแยกกันเดินแล้วไง ไม่ต้องมายุ่งอีกนะ” พาสนายังคงอวดดีใส่ชายหนุ่ม เธอเดินออกมาจากเค้าด้วยท่าทางถือดี


“เอออ....เชิญตามสบาย ต่อไปจะเป็นอะไร จะโดนอะไรก็ไม่ยุ่งแล้ว” พิษณุพูดออกมาอย่างโกรธๆ เค้าหันหลังให้เธอเช่นกัน


แต่เพียงชายหนุ่มก้าวออกมาได้ไม่กี่ก้าว เค้าก็ต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงจากอีกฝ่าย


“โอ้ยยยยย.........”


พาสนาร้องออกมาทันทีที่ชายหนุ่มหันหลังให้


พิษณุยืนทำใจแข็งไม่หันไปมอง เค้าพยายามจะเดินต่อไปในเส้นทางของเค้า แต่เสียงร้องของพาสนาก็ดังขึ้นมาอีก


“โอ้ยยยยย....เจ็บ...” พาสนาร้องโอดครวญออกมา จนพิษณุต้องหันกลับไปมอง เค้าก็พบกับพาสนาที่ลงไปนั่งกองกับพื้น


พาสนาใช้สองมือกุมที่ขาของเธอ พร้อมกับร้องออกมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด พิษณุจึงต้องรีบเดินเข้าไปดูเธอใกล้ๆ


“เป็นอะไรไป...” ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ พาสนาเพื่อดูว่าเธอเป็นอะไร


“ไม่ต้องมายุ่ง....” พาสนายังคงปากดีพูดกับชายหนุ่มน้ำเสียงฮ้วน


“จะอวดดีไปถึงไหนกัน....เอามาดูซิ” พิษณุรู้สึกหงุดหงิดกับอาการอวดดีของอีกฝ่าย แต่เค้าก็ไม่อาจทำเฉยได้ เค้าคว้าขาของพาสนามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น


รอยเขียวช้ำเกิดขึ้นที่ข้อเท้าของเธอ....มันเกิดจากที่เมื่อสักครู่ที่เธอล้มลงไปตอนที่งูตัวนั้นพุ่งเข้าหา แล้วเท้าของเธอไปกระแทกกับก้อนหินตรงพื้นนั้น....


“เจ็บมากซิเนี่ยะ” ชายหนุ่มถามอีกฝ่าย


“เจ็บซิ ถามได้...” พาสนาตอบ คิ้วของเธอผูกชนกันเป็นปม


“ท่าทางจะอักเสบด้วยนะ” พิษณุมองอาการของอีกฝ่าย


“ไม่ต้องมายุ่งเลย ออกไปเลย...” พาสนาปัดมือของเค้าออก ด้วยสีหน้าตูมๆ


“เอออ เจ็บขนาดนี้แล้วยังจะอวดดีอีกนะ” พิษณุมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนใจ


“เรื่องของฉัน..” พาสนายังคงดื้อดึง เธอพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง


“โอ้ยยยย....” แต่ยังไม่ทันได้ยืนตัวตรงดี พาสนาก็รู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าอีก เธอล้มลงนั่งกับพื้นอีกครั้ง


“เห็นมั้ย ดื้อนักได้เรื่องเลย” พิษณุพูดตำหนิอีกฝ่าย


“ไม่ต้องมาว่าฉันนะ.....”พาสนาขมวดคิ้วมองอีกฝ่าย




โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:14:01 น.  

 






“เดินไหวมั้ยเนี่ยะ...” พิษณุมองอาการของอีกฝ่าย


“...ไหวซิ” พาสนาตอบกลับน้ำเสียงฮ้วน ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นอีกครั้ง


“โอ้ยยยยย....เจ็บบบ...” พาสนาล้มลงมาอีกครั้ง และคราวนี้มันทำให้ขาที่เจ็บอยู่แล้วเจ็บหนักขึ้นอีก...เธอจับขาตัวเอง ด้วยความเจ็บปวด


“ชอบหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ” พิษณุบ่นออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางของพาสนา พาสนาหันมองเค้าตาเขียว....เธอทำหน้าบึ้งใส่เค้า


“เรื่องของฉัน” พาสนาพูดใส่ชายหนุ่มน้ำเสียงขุ่น


“นี่...ฉันจะช่วยเธอนะ” พิษณุบอกกับอีกฝ่าย


“ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ได้ขอ” พาสนายังคงอวดดีต่อ แม้ในเวลาเจ็บขนาดนี้ก็ตาม


“เอออ ดี...” พิษณุรู้สึกเหลืออด ไม่เคยมีใครกล้าอวดดีกับเค้าได้มากเท่าผู้หญิงคนนี้เลย เธอทั้งดื้อ ทั้งปากร้าย เค้ารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ


“เชอะ...” พาสนาเชิดหน้าใส่ชายหนุ่ม


“งั้นก็เชิญอวดดีไปคนเดียวแล้วกัน” พูดจบพิษณุก็เดินออกมาจากตรงที่เธอนั่งอยู่ ด้วยอารมณ์หงุดหงิด


“เฮ้ยย....” พาสนามองชายหนุ่มที่เดินจากไปด้วยแววตาตกใจ นี่เค้ากล้าทิ้งเธอไว้ตรงนี้คนเดียวจริงๆ หรือนี่......พาสนาได้แต่มองอีกฝ่ายเดินจากไป


“เอออ อยากไปก็ไปเลย ไม่ต้องมาสนใจฉันเลยนะ ไปเลย” พาสนาตะโกนไล่หลังชายหนุ่ม ด้วยสีหน้าโกรธ ยิ่งได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังมาแบบนี้ ยิ่งสร้างความขุ่นเคืองใจให้อีกฝ่ายอย่างมากมาย


“ยายเด็กบ้า.......อวดดี” ชายหนุ่มบ่นอุบขณะเดินออกมาไกลขึ้นทุกที


พาสนามองชายหนุ่มที่เดินจากไปจนลับตา.....สีหน้าตูมของเธอ ยังคงมีอยู่ ดวงตาเขียวขุ่น เริ่มมีน้ำใสๆ เออคลอ


“คนบ้า.......คนใจร้ายยยย...” พาสนาพูดออกมาด้วยความรู้สึกน้อยใจ ที่ชายหนุ่มกล้าทิ้งเธอไว้แบบนี้


“คอยดูนะ ฉันจะแช่งให้นายหลงป่า แช่งให้นายหาทางกลับไม่เจอ” พาสนาพูดไป ก็สะอื้นไป


“ฉันเกลียดนายที่สุดเลย เกลียดๆๆๆ.......” พาสนาพร่ำพูดออกมาอย่างไม่หยุด น้ำตาใสๆ มันยังคงเอออยู่ในดวงตา


“ใจร้ายที่สุดเลย....” น้ำเสียงประชดแกลมน้อยใจยังคงดังออกมาไม่ขาด


พาสนาพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล บาดแผลที่เกิดจากการกระแทกทำให้เธอยืนไม่ได้เอาซะเลย รอยเขียวช้ำที่ข้อเท้าตอนนี้สร้างความเจ็บปวดให้เธออย่างมาก


“.......” พาสนามองไปรอบๆ ตัว ก็มีแต่ป่ารกทึบ บรรยากาศไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่........ร่างเจ้างูร้ายก็ยังคงนอนสงบนิ่งอยู่ใต้ก้อนหิน.....แต่ดวงตาของมันก็ยังคงทำให้รู้สึกหวาดระแวง


เสียงกิ่งไม้ใบหญ้า ดังเสียดสีกัน เกิดความรู้สึกวังเวงชอบกล..........ยิ่งมองไปรอบๆ บวกกับเสียงประหลาดๆ ยิ่งสร้างความรู้สึกหวาดระแวง และหวาดกลัวได้ไม่น้อย พาสนาพยายามยกมือขึ้นปิดหูไม่ให้รับฟังเสียงเหล่านั้น แต่มันก็อดให้คิดไม่ได้


เธอนั่งขดตัวนิ่ง สองมือปิดหูไม่ให้รับฟังเสียงต่างๆ สองตาก็ปิดสนิท เพราะไม่อยากจะสบตากับตาของเจ้างูตัวร้าย......ความหวาดกลัว หวาดระแวงเข้าครอบคลุมจิตใจของเธอ ไม่ว่าจะมีเสียงอะไรเกิดขึ้น พาสนาจะรู้สึกสะดุ้ง และหวาดผวาทันที......ในเวลานี้สภาพจิตใจของสาวห้าวกำลังย้ำแย่เต็มทน


แกร๊กๆ.....


เสียงประหลาดดังขึ้นมาอีก พาสนาสะดุ้งสุดตัวเพราะมันอยู่ใกล้กับตัวเธอมากมายเหลือกิน เมื่อเธอลืมตามองก็พบกับตัวอะไรบางอย่างที่อยู่หลังพุ่มไม้ไม่ไกลจากตัวเธอนัก ไม้ไหวตามแรงสั่นของสัตว์ป่าตัวนั้น พาสนารู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด เธอพยายามกระเถิบตัวเองให้ออกมาห่างจากพุ่มไม้นั้นให้มากที่สุด จนตัวเองไปจนมุมกับต้นไม้ใหญ่... แล้วสัมผัสบางอย่าง นุ่มๆ ยุ่นๆ ที่มือก็เกิดขึ้น.....พาสนาเหลือบมองไปที่มือของเธอ


กรี๊ดดดดดดดดดดด........


เสียงร้องดังลั่นสนั่นป่าเกิดขึ้นอีกครั้ง


พิษณุที่กำลังเดินกลับมาอีกครั้งได้ยินเสียงร้องของพาสนา เค้าโยนของที่ถือมาด้วยทิ้ง แล้วรีบวิ่งกลับไปดูเธอ


“ยายตัวแสบเป็นอะไร...” ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปดูเธอใกล้ๆ


“เอามันออกไป เอาออกไป” พาสนาที่นั่งหลับตาปี๋ แล้วยื่นมือข้างซ้ายออกมา ร้องบอกกับเค้าน้ำเสียงหวาดกลัว


“เอาอะไรออก...” พิษณุถามอย่างไม่เข้าใจ


“เอาออกไป เอามันออกไป........เอาออกไป” พาสนาได้แต่พร่ำพูดประโยคเดิม


“เอาอะไรล่ะ บอกซิ” พิษณุถามกลับอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ


“นี่ไง ที่มืออ่ะ เอาออกไป.......พี่ณุเอามันออกไป” พาสนาบอกกับชายหนุ่มน้ำเสียงสั่น พิษณุมองไปที่มือของพาสนา เค้าก็เห็นเจ้าหนอนตัวเขียวเกาะอยู่ที่มือของเธอ....


“อ้อ หนอนนี่หน่ะหรือ” ชายหนุ่มถามกลับสีหน้าขำๆ


“อืมมม เอามันออกไป ปลาไม่ชอบ เอาออกไป” พาสนาร้องบอกชายหนุ่ม


“เอ้ออออออออ.....” พิษณุถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่สาเหตุของเสียงร้องเมื่อสักครู่เป็นเพียงเจ้าหนอนตัวน้อย


ชายหนุ่มหยิบเอาเจ้าหนอนออกจากมือพาสนา แล้วเอาไปทิ้งในป่าข้างๆ เมื่อหนอนน้อยหลุดออกจากมือแล้ว พาสนา รีบหดมือของเธอแล้วสะบัดมืออย่างขยะแขยง


“กลัวอะไรแค่หนอนเนี่ยะหะ” พิษณุกลับมานั่งมองพาสนาอีกครั้ง เค้ามองเธอยิ้มๆ


“ก็มันน่าเกลียดนิ....” พาสนาลืมตามาตอบเค้าสีหน้ายุ่ง


“เออนะ แล้วทำเก็กแมน.......แต่กลัวหนอน กลัวหนู” พิษณุส่ายหน้าไปมาเบาๆ มองหญิงสาวขำๆ


“หัวเราะอะไร” พาสนาทำตาโตดุชายหนุ่ม


“อีกล่ะ เก่งอีกล่ะ” พิษณุมองอีกฝ่ายเชิงตำหนิ


“อย่ามาว่าฉันนะ..” พาสนาเริ่มทำเสียงดุใส่อีกฝ่าย


“เฮ้ยๆๆๆๆๆ....” พิษณุทำตาโต ชี้มือไปทางด้านหลังของพาสนา


“อะไร อะไร” พาสนาร้องถามชายหนุ่ม เธอไม่กล้าหันไปมองด้านหลังของเธอ


“หนอนๆ หนอนเต็มไปหมดเลย” พิษณุร้องบอกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตกใจ


“หะ.....” พาสนาทำตาโตมองชายหนุ่ม


“จริงๆ เต็มหลังเธอเลย” พิษณุบอกกับพาสนาสีหน้าจริงจัง


กรี๊ดดดดดดดด.....


พาสนากระเด้งตัวเองออกมาจากต้นไม้ที่พิงอยู่ เธอโผเข้ากอดชายหนุ่มแน่น


“เอาออกที เอามันออกไป” พาสนาร้องบอกกับชายหนุ่มน้ำเสียงสั่น พิษณุมองหญิงสาวที่กำลังกอดเค้าแน่น ด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“เอาออกไปซิ เอาออก...” พาสนาร้องบอกชายหนุ่มเมื่อเห็นเค้าทำท่าเฉย


“จะให้ฉันเอาออกให้หรอ..” พิษณุแกล้งถามกลับ


“อืมมม....พี่ณุเอาออกให้ปลาที เอามันออกที” พาสนาบอกกับชายหนุ่มอย่างอ้อนวอน


“อยู่นิ่งๆ นะ อย่าขยับ” พิษณุบอกกับพาสนา ด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“อืมมม...” พาสนาพยักหน้ารับ แล้วพยายามทำตัวนิ่งๆ ตามที่ชายหนุ่มบอก


“อยู่นิ่งๆ นะ...” พิษณุยังคงบอกอีกฝ่าย เค้ายิ้มชอบใจออกมาเมื่อแกล้งเธอได้สำเร็จ




โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:14:32 น.  

 

“เอาออกไปรึยัง......” พาสนาร้องถามอีกฝ่ายน้ำเสียงสั่น


“อยู่นิ่งๆ .....เฮ้ยยๆๆๆ “ พิษณุบอกกับอีกฝ่ายพร้อมทำเสียงตกใจออกมา


“อะไร ทำไม.....ทำไม...” พาสนาร้องถามชายหนุ่ม


“มันขยับตัวแล้ว อยู่นิ่งๆ ซิ” พิษณุบอกกับอีกฝ่ายเพื่อให้เธออยู่เฉยๆ


“ก็นิ่งแล้วนี่ เอามันออกไปซิ.......” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม และเร่งให้เค้าจับเอาหนอนออกจากหลังของเธอ


“อืมมม.....” พิษณุยกแขนขึ้น แล้วโอบตัวพาสนาเอาไว้....เค้าทำท่าเหมือนกำลังหยิบอะไรออกจากหลังของเธอ


“เอาออกไปรึยัง...” พาสนาถามอีกครั้ง


“เดี๋ยวซิ...” พิษณุบอกกับอีกฝ่ายยิ้มๆ


“เอาออกเร็วๆ ซิ” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม


“บอกว่าอย่าขยับไง นิ่งๆ ซิ ดูซิ มันกระดึบหนีอีกแล้ว” พิษณุบอกกับหญิงสาวเมื่อเห็นเธอทำท่าขยับตัว


“อืมมม ไม่ขยับแล้วๆ” พาสนาทำท่าขยะแขยงออกมาเมื่อรู้ว่าเจ้าหนอนตัวดีขยับตัว เธอกอดเค้าไว้แน่น พร้อมกับทำตัวนิ่งๆ


พิษณุมองพาสนาด้วยสีหน้ายิ้มๆ แม้ว่าบางเวลาเธอจะร้ายกาจมากอยู่ แต่ในเวลานี้เธอดูน่ารักอย่างมากมาย......... เค้ากอดเธอเอาไว้ แล้วซบใบหน้าของเค้ากับเรือนผมของเธอ


“อย่าดื้อนักได้มั้ย เวลาดื้อเนี่ยะ มันน่าเหนื่อยใจนะ” ชายหนุ่มกระซิบบอกกับพาสนาเบาๆ


“อืมมมม ไม่ดื้อแล้วๆ เอามันออกไปทีนะ..” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม เพื่อให้เค้าเอาเจ้าหนอนตัวน้อยออกจากหลังของเธอ


“แน่นะ...” พิษณุถามอีกครั้ง


“อืมมมม...” พาสนาพยักหน้าให้เค้าอย่างว่าง่าย


“หึหึหึ........” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมา ชายหนุ่มมองพาสนายิ้มๆ


“เอาออกไปรึยัง....” พาสนาเงยหน้าถามอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าเค้าทำนิ่งเฉย


“เอาออกแล้ว” พิษณุบอกกับพาสนายิ้มๆ


“เอาไปทิ้งซิ....นั่งเฉยทำไม” พาสนาบอกกับชายหนุ่มที่เห็นเค้าทำนั่งนิ่ง


“ทิ้งไปแล้ว...” พิษณุตอบยิ้มๆ


“ทิ้งที่ไหน ก็เห็นยังนั่งอยู่ตรงนี้เลย” พาสนาร้องถามสีหน้าสงสัย


“ก็ปาไปโน้นแล้ว” พิษณุตอบแล้วทำมองไปทางป่าใกล้ๆ พาสนาหันมองตามชายหนุ่ม แล้วเธอก็ต้องถอนหายใจออกมา


“เฮ้อออออออ หัวใจจะวาย” พาสนาบ่นออกมาเบาๆ


“หึ......กลัวหนอนมากหรอ” พิษณุถามพาสนาเบาๆ


พาสนาหันมองหน้าชายหนุ่ม แล้วขมวดคิ้วยุ่ง


“แล้วเกี่ยว........” เธออ้าปากจะว่าเค้าอีก แต่ก็ต้องหยุดลง เมื่อชายหนุ่มทำตาดุใส่ทันทีที่เธอตั้งท่าจะแผดเสียง


“ไหนว่าจะไม่ดื้อแล้วไง” พิษณุหรี่ตามองอีกฝ่าย


“........” พาสนานิ่งเงียบ เพราะเมื่อสักครู่เธอสัญญากับอีกฝ่ายแล้วว่าจะไม่ดื้อ ไม่ปากร้ายอีก


“ขอล่ะ ระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ อย่าทำตัวดื้อ อย่าปากร้าย ปากจัด ได้มั้ย” พิษณุถามพาสนาสีหน้าจริงจัง พาสนาไม่ยอมตอบเธอหันมองไปทางอื่น


“ว่าไง เรามาคุยกันดีๆ ไม่ได้หรือไง” พิษณุถามอีกฝ่าย


“........” พาสนานั่งเงียบ.......เธอกำลังใช้ความคิดกับตัวเอง


“เฮ้อออออออออ จอมเกเร ยังไงก็เป็นจอมเกเร” พิษณุถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกขึ้น แล้วเดินห่างออกมาจากพาสนา


พาสนามองชายหนุ่มที่กำลังเดินห่างออกไปอีกครั้ง.......


“ก็ได้........” พาสนาพูดเสียงดังออกมา พิษณุหยุดยืนนิ่ง แล้วหันมองกลับไปทางพาสนา


“ก็ได้ ต่อไปจะเลิกทำตัวกวนประสาท จะไม่พูดว่านายอีกแล้วก็ได้” พาสนาพูดออกมาเบาๆ


“แล้วจะพูดดีๆ ต่อกัน....” พิษณุถามอีกฝ่าย


“อืมมม....” พาสนาพยักหน้ารับเบาๆ


พิษณุยิ้มกว้างออกมา เค้ารู้สึกโล่งใจมากขึ้น เมื่อพาสนารับปากแบบนี้ ชายหนุ่มมองพาสนายิ้มๆ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกห่างไปอีก


“อ้าว ก็บอกแล้วไงว่าจะไม่ดื้อแล้วอ่ะ จะไปไหนอีก” พาสนารีบตะโกนถามเค้า เมื่อเห็นว่าเค้าเดินห่างจากเธอออกไป


“ก็มาเก็บนี่ไง” พิษณุก้มลงเก็บของที่เค้าโยนทิ้งไปก่อนหน้านี้


พาสนามองชายหนุ่มก้มเก็บอะไรบางอย่างด้วยความสงสัย พิษณุเก็บของที่หล่นอยู่กับพื้น แล้วเดินเข้ามาหาพาสนาใกล้ๆ อีกครั้ง


“อ๊ะ.......หิวแล้วใช่มั้ย” พิษณุส่งกล้วยที่กำลังจะสุกให้พาสนา 2 ใบ พาสนามองกล้วยในมือชายหนุ่ม เธอรีบรับไว้ แล้วยิ้มออกมา


“ไปเอามาจากไหน” พาสนาถามอีกฝ่ายด้วยท่าทางดีใจ


“พอดี เมื่อกี้เดินไปทางโน้น เจอต้นกล้วย แต่มันมีแค่นี้นะ นอกนั้นโดนพวกนกจิ๊กกินหมดแล้ว” พิษณุบอกกับพาสนา


“เหลือแค่นี้เองหรอ...” พาสนาก้มมองกล้วยในมือ


“อืมมม... กินซะซิ” พิษณุบอกกับพาสนา ก่อนจะหันไปจัดการกับศพเจ้างูตัวยักษ์


“แล้ว..........แล้วนายล่ะ” พาสนาเงยหน้ามองชายหนุ่ม


“กินเถอะ ฉันยังไม่หิว” พิษณุตอบขณะที่กำลังนำศพงูไปทิ้งไว้ในป่า


“พี่ณุ.........” พาสนาเรียกชายหนุ่มน้ำเสียงเรียบ


พิษณุที่กำลังยุ่งกับศพงูยักษ์ ก็หันมองกลับมาทางพาสนา น้ำเสียงของเธอที่เรียกเค้า ช่างน่าฟังเหลือเกิน


“หืมม...” พิษณุเดินเข้ามาใกล้ๆ พาสนา พาสนามองหน้าชายหนุ่ม ดวงตาที่เคยแข็งกระด้าง เปลี่ยนไป เธอมองเค้าด้วยดวงตาที่อ่อนโยนมากขึ้น


“อ๊ะ แบ่งกันนะ” พาสนานำกล้วยใบหนึ่งส่งให้ชายหนุ่ม


“ทำไมล่ะ...” พิษณุมองกล้วยในมือพาสนาที่ยื่นให้เค้า แล้วต้องถามเธอ


“แบ่งกันนะ ปลารู้ว่าพี่ก็หิว” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม


เธอยิ้มบางๆ ให้เค้า นี่คือรอยยิ้มแรกที่เธอยิ้มให้เค้า........ชายหนุ่มมองรอยยิ้มนั้นแล้วให้อดยิ้มตามไม่ได้ เค้านั่งลงข้างๆ เธอ แล้วรับกล้วยจากมือของเธอ


“ขอบใจนะ” ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม


“อืมมม...” พาสนายิ้มให้เค้าก่อนจะจัดการแกะเปลือกกล้วยในมือ


“อร่อยเนอะ” พิษณุเองก็กินกล้วยใบที่พาสนาแบ่งให้ แล้วหันมาบอกกับเธอ


“อืมม...” พาสนาพยักหน้าให้เค้าเบาๆ



ในเวลานี้เธอรู้สึกว่า ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอก็ไม่ใช่คนร้ายกาจอะไรนัก






โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:15:13 น.  

 


“คืนนี้ เราคงต้องนอนพักกันที่นี่แล้วล่ะ” พิษณุหันมาบอกกับพาสนา


“อ้าว ทำไมล่ะ” พาสนาร้องถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย


“ก็ขาปลายังเจ็บอยู่ไม่ใช่หรอ” พิษณุมองไปที่ขาของพาสนา ซึ่งตอนนี้มันมีอาการบวมอักเสบ จนเห็นได้ชัด


“ไม่เป็นไร เราเดินทางไปกันต่อได้ ปลาไม่เป็นไร” พาสนาทำท่าลุกขึ้นเพื่อไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงนั่งกับพื้นอีกครั้ง


“โอ้ยยยย....” พาสนาจับข้อเท้าของตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด


“เป็นยังไงบ้าง.....เห็นมั้ยว่ามันอักเสบ” พิษณุรีบเข้ามาดูอาการของพาสนา เค้าค่อยๆ ประคองข้อเท้าของเธอแล้วตรวจดูอาการ


“เชื่อพี่เถอะ ว่าปลาไปไหนยังไม่ได้ ขืนเดินมีหวังบวมหนักกว่าเก่า” พิษณุบอกกับพาสนา


พาสนานั่งฟังอีกฝ่ายพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ สีหน้าของอีกฝ่ายที่แสดงถึงความห่วงใยที่มี ทำให้พาสนารับรู้ได้ เธอมองเค้านวดข้อเท้าให้ด้วยความรู้สึกบางอย่าง........หากเมื่อเปิดใจ อะไรที่ว่าไม่ดีก็กลับเป็นเรื่องที่ดีได้


“ปลานั่งอยู่ตรงนี้นะ แล้วเดี๋ยวพี่มา” พิษณุบอกกับพาสนา เค้าลุกขึ้น แล้วเดินไปนำก้อนหินมากองไว้ตรงหน้าเธอ 3-4 ก้อน ก่อนจะเดินออกมาอีกครั้ง


“เดี๋ยว....” พาสนาเรียกอีกฝ่าย


“หืมมม...” พิษณุหันกลับมองเธอ


“จะไปไหน...” พาสนาร้องถามเค้า


“รอตรงนี้ล่ะ เดี๋ยวมา” พิษณุไม่ได้ตอบคำถามอะไร เค้ายิ้มให้เธอบางๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในป่าอีกครั้ง พาสนานั่งมองไปรอบๆ ตัว เธอไม่รู้ว่าพิษณุกำลังจะทำอะไร แต่ที่แน่ๆ เค้าคงไม่ทิ้งเธอไว้ตรงนี้คนเดียว


เพียงไม่นาน พิษณุก็กลับมาตามที่ได้บอกกับเธอไว้ ชายหนุ่มเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกิ่งไม้แห้งหลายกิ่ง.........เค้าหอบเอากิ่งไม้แห้งๆ มากองไว้ข้างๆ กองก้อนหินนั้น


“โชคดีจังเลยนะปลา....ดูซิพี่ได้อะไรมา” พิษณุบอกกับพาสนา ก่อนจะชูของบางอย่างให้พาสนาดู พาสนามองของในมือของพิษณุ เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ


“พี่ณุไปเอามาจากไหนอ่ะ...” พาสนาถามชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ


“พอดีเมื่อกี้ไปเก็บกิ่งไม้ แล้วเจอหน่ะ พี่เลยลองขุดดู ก็ได้มานี่ล่ะ” พิษณุตอบยิ้มๆ เค้าวางหัวมันหลายต่อหลายหัวลงกับพื้น


“ทีนี้เราก็ไม่อดตายแล้วซิ” พาสนายิ้มออกมา


“อืมมม” พิษณุพยักหน้าให้


แล้วชายหนุ่มก็ทำการเอากองหินก้อนใหญ่ วางเป็นวงกลมเล็กๆ แล้วใช้กิ่งไม้เล็กๆ วางเรียงกัน.....ก่อนที่จะจัดการเอาก้อนหินก้อนเล็ก 2 ก้อนกระทบกันเพื่อให้เกิดประกายไฟ


“เก่งจัง...” พาสนาพูดชมชายหนุ่มออกมาเมื่อเห็นเค้าทำทุกอย่างเป็นขั้นตอน


“อืมม หลักลูกเสือไง จำไม่ได้หรอ” พิษณุเงยหน้ามองพาสนาแล้วบอกเธอยิ้มๆ


“อืมม...” พาสนาพยักหน้าน้อยๆ ให้เค้า


พิษณุก้มหน้ากระทบก้อนหินอีก 2-3 ครั้ง ประกายไฟก็เกิดขึ้น กิ่งไม้เล็กๆ เริ่มติดไฟ.....ชายหนุ่มเงยหน้ามาส่งยิ้มให้หญิงสาว พาสนายิ้มตอบอย่างดีใจ....
.
.
.
“อะไรนะครับ ยังหาตัวไม่เจอ” ปัฐวีแผดเสียงดังกร้าว กลางออฟฟิศของรีสอร์ท


ผู้จัดการรีสอร์ท นั่งสีหน้าเครียด........


“พวกคุณตามกันยังไง คนสองคน ทำไมหาไม่เจอ” ปัฐวีร้องถามน้ำเสียงเครียด


“พวกเราก็ออกตามหาทุกที่แล้ว แต่ก็ไม่พบ” ผู้จัดการรีสอร์ทตอบ เค้าเองก็รู้สึกเครียดไม่ต่างจากปัฐวีสักเท่าไหร่


“โธ่เว้ย................” ปัฐวีสบถออกมาอย่างฉุนเฉียว


“แต่เราก็ยังไม่หยุดตามหานะครับ เรายังส่งคนออกไปตามเรื่อยๆ” ผู้จัดการบอกกับชายหนุ่ม เพื่อให้เค้าสบายใจขึ้น


“ผมจะออกไปตามเอง.............”ปัฐวีหันมาพูดกับผู้จัดการด้วยสีหน้าเอาเรื่อง


“...........” ผู้จัดการจนใจกับชายหนุ่ม บางทีการให้เค้าออกไปตามหาเองก็อาจช่วยลดสภาพเครียดของอีกฝ่ายได้


“งั้นฉันไปด้วย...” อรินยาเองก็ทนรอเฉยๆ ไม่ไหว เธอขอตามปัฐวีไปอีกคน


“ยาย่า...” ปัญจรีไม่อยากให้เพื่อนรักออกไปตากลมทะเลแรงๆ เธออยากจะห้ามอรินยาเอาไว้


“ปุ่น ถ้าเป็นเธอ เธอจะอยู่เฉยๆ ได้หรอ” อรินยาถามปัญจรี


“อืมม....งั้นก็ไปด้วยกันหมดนี่ล่ะ” ปัญจรีเข้าใจความรู้สึกของอรินยาดี ว่าถึงห้ามไปก็ไม่ได้ผล


“ผมว่าพวกคุณรออยู่นี่ล่ะ ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องอีก” ปัฐวีหันมาพูดกับสองสาวน้ำเสียงดุ


“แต่.........” อรินยายังไม่อยากจะยอมฟังคำของชายหนุ่ม


“คุณยาย่า ผมว่าคุณควรอยู่พักรักษาตัวเองให้ดีก่อนดีกว่า ถ้าเป็นอะไรไปอีกคนไม่ดีแน่” ปัฐวีบอกกับหญิงสาวน้ำเสียงเฉียบ


“.......” อรินยาได้แต่นิ่งเงียบกับคำพูดของชายหนุ่ม


“คุณก็อยู่ดูเพื่อนคุณเถอะ แล้วถ้าได้เรื่องยังไงผมจะรีบส่งข่าวให้รู้” ปัฐวีบอกกับปัญจรีที่ยืนอยู่ข้างๆ อรินยา


“อืมม...”ปัญจรีพยักหน้าเบาๆ รับ


“งั้นเราไปกันเถอะครับ” ผู้จัดการรีสอร์ทบอกกับปัฐวี เพื่อพาเค้าไปหาหน่วยกู้ภัย


“ครับ..” ปัฐวีเดินตามผู้จัดการรีสอร์ทเพื่อออกไปยังชายหาด


“เดี๋ยว......” ปัญจรีร้องเรียกชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป


“มีอะไร” ปัฐวีหันมองกลับมาที่เธอ


“ระ.....ระวังตัวด้วยนะ” เธอบอกกับเค้าด้วยสีหน้าเป็นห่วง


ปัฐวีมองสาวสวยที่บอกให้เค้าระวังตัว ด้วยสีหน้ายิ้มๆ.......


“ไม่ต้องห่วง ยังไงผมก็จะกลับมาหาคุณแน่” ปัฐวีบอกกับเธอก่อนจะหันหลัง แล้วเดินออกจากห้องไป


ปัญจรียืนมองปัฐวีเดินออกไป ด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเค้าอย่างมาก หญิงสาวเองก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้เกิดกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอมารู้ตัวอีกที ก็รู้สึกเป็นห่วงเค้าเอาซะแล้ว


“ไม่รู้ปลาจะเป็นยังไงบ้าง....” อรินยาพูดออกมาด้วยสีหน้าทุกข์ใจ


“เรากลับบ้านพักกันเถอะยาย่า..” ปัญจรีหันมาบอกกับอรินยา


“ปุ่น.......ฉันเป็นห่วงปลา” อรินยาบอกกับปัญจรีน้ำเสียงเศร้า


“อืมม ทุกคนก็ห่วงนะ ตอนนี้ตุ้มเค้าก็ออกไปตามหาอีกแรงแล้ว เราไปรอฟังข่าวที่บ้านกันนะ” ปัญจรีพูดปลอบใจเพื่อนรัก


“.........” อรินยาเอาแต่เศร้า เธอไม่อาจทำใจได้ เมื่อพาสนาหายตัวไปแบบนี้


ปัญจรีมองเพื่อนรักของเธอ แล้วต้องให้รู้สึกหนักใจเป็นสองเท่า.......เธอมองออกไปยังชายหาดอีกครั้ง ภาพของปัฐวีที่กำลังแล่นเรือออกไปกับทีกู้ภัยของรีสอร์ท ทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวล






โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:15:30 น.  

 

แสงสว่างจากกองไฟ เกิดขึ้น หัวมันถูกเสียบด้วยไม้ แล้วปักไว้เหนือเปลวไฟ....พาสนานั่งมองหัวมันที่ค่อยๆ ถูกเปลวไฟทำให้สุข กลิ่นหอมลอยมาให้ชวนน้ำลายสอ พิษณุหายเข้าไปในป่าอีกครั้ง...คราวนี้ชายหนุ่มกลับมาพร้อมกับลูกมะพร้าวหลายลูก


“ทำไมเก็บมะพร้าวเก่งจัง” พาสนาร้องถามอีกฝ่าย


“พี่เก็บไอ้ต้นเตี้ยๆ หน่ะ เลยเก็บได้” พิษณุตอบยิ้มๆ


“นึกว่าเป็นลิงซะอีก” พาสนาแกล้งพูดแซวอีกฝ่าย


“เป็นลิงก็ดีซิ จะได้กระโดดข้ามป่าไปได้สบายๆ” พิษณุตอบเธอด้วยสีหน้ายิ้มๆ เช่นกัน


“หึ...” พาสนาหัวเราะออกมาเบาๆ


“นี่ก็เริ่มจะเย็นลงทุกทีแล้ว....อีกไม่นานคงมืด” พาสนามองไปรอบๆ ซึ่งอากาศเริ่มเย็นลง ท้องฟ้าเริ่มหมดแสง


พิษณุลุกขึ้น แล้วเดินไปหักกิ่งไม้หลายต่อหลายกิ่ง พาสนานั่งมองอีกฝ่ายว่าเค้ากำลังจะทำอะไรต่อไป หลายสิ่งหลายอย่างที่เธอเองก็คาดไม่ถึง เกิดขึ้นจากชายคนนี้


พาสนาคิดไม่ถึงเลยว่า หนุ่มนักธุรกิจ ไฮโซ........ที่เธอคิดว่า วันๆ ดีแต่ทำตัวเป็นคนรวย ขับรถร่อนไปร่อนมา เจ้าสำอาง จีบสาวไปวันๆ อย่างพิษณุ เวลาอยู่ในป่าจะสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้มากมายขนาดนี้ ทั้งจุดไฟ ทั้งเก็บมะพร้าว หาของกิน หรือแม้แต่....ฆ่างูร้ายให้เธอ และตอนนี้เค้าก็เอาใบไม้มาวางเรียงกัน เป็นที่นอนให้อีกต่างหาก


“คืนนี้ได้นอนสบายซะที ไม่ต้องนั่งหลับ” ชายหนุ่มหันมาบอกกับพาสนา ขณะที่กำลังวางเรียงใบไม้สำหรับนอน


“.......” พาสนามองเค้าด้วยสีหน้ายิ้มๆ แต่แล้วเธอก็ต้องหุบยิ้มลง สีหน้าเรียบนิ่ง


“เป็นอะไร ปวดขาหรอ” พิษณุเห็นสีหน้าอีกฝ่าย เค้ารีบเข้ามานั่งใกล้ๆ เธอ แล้วดูอาการที่ข้อเท้าให้


“ปล่าว...” พาสนาบอกกับชายหนุ่มน้ำเสียงเรียบ


“แล้วเป็นอะไร ไม่สบายหรอ” พิษณุเอื้อมมือแตะที่หน้าผากของเธอด้วยความเป็นห่วง


“ทำไม........ทำไมทำดีกับปลา ทั้งๆ ที่.......” พาสนามองหน้าเค้า แล้วถามด้วยความรู้สึกอยากรู้ เพราะตลอดเวลา เธอทำตัวไม่ดีเอาซะเลย ทั้งด่าเค้า ทำตัวไม่ดีกับเค้าสารพัด


พิษณุฟังคำถามจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ


“จริงๆ มันก็ถูกของปลานะ ที่พี่เป็นต้นเหตุให้ปลาต้องมาติดเกาะนี่.......” พิษณุตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง


“ถ้าพี่ไม่ยั่วปลา ให้ปลาโกรธ แล้วยอมลงเรือมาด้วยกัน ปลาก็ไม่ต้องตกน้ำ และมาติดเกาะแบบนี้” พิษณุพูดสีหน้าเครียด


พาสนาฟังชายหนุ่มพูดด้วยความรู้สึกบางอย่าง....สีหน้าของเค้าดูหมองลง


“รู้มั้ย ตอนที่ปลาตกน้ำ พี่ตกใจแค่ไหน....พี่รีบกระโดดลงไปในน้ำ หาตัวปลา แต่หาไม่เจอ.........พี่คิดว่า ถ้าปลาเป็นอะไร พี่คงเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะพี่เป็นสาเหตุให้ปลาต้องขึ้นเรือมาด้วยกัน” พิษณุบอกกับพาสนาน้ำเสียงสลด


“ตอนที่เจอปลาในน้ำ พี่ดีใจมากนะ ดีใจที่เจอ และช่วยปลามาได้ แต่พอขึ้นมาบนเกาะ ปลาสลบไป พี่ก็กลัวอีก..........” พิษณุหันมองพาสนา ดวงตาของเค้าจ้องมองเธอนิ่ง


“พี่กลัว........” พิษณุอยากจะบอกกับเธอ เค้าจ้องมองเธออย่างคนสำนึกผิด


“พอแล้ว...ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ เพราะปลาก็ปลอดภัยดีอยู่นี่ไง เห็นมั้ยแข็งแรงดีด้วย” พาสนายิ้มให้อีกฝ่าย


พิษณุนั่งมองอีกฝ่ายแล้วต้องยิ้มออกมา.......รอยยิ้มของเธอช่างสวย และสดใสเหลือเกิน


“ปลารู้มั้ย เวลาปลาไม่ดื้อเนี่ยะ........ปลา.......” พิษณุจ้องมองอีกฝ่ายยิ้มๆ เค้ามองเธอที่กำลังยิ้มสดใสด้วยแววตาบางอย่าง


พาสนามองแววตาของชายหนุ่ม เธอรู้สึกร้อนวูบขึ้นมาแบบไม่รู้สาเหตุ.....ดวงตาของเค้าเป็นประกายวับวาม มันทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกวางตัวไม่ถูก


ชายหนุ่มเอื้อมมือของเค้าจับมือของพาสนาเอาไว้.........พาสนารู้สึกสะดุ้งเล็กน้อย เธอรู้สึกใจเต้นแรงพิกล เธอจ้องมองเค้าด้วยความรู้สึกบางอย่าง มันประหม่า มันตื่นเต้น


พิษณุยกมือของพาสนาขึ้น....เค้าก้มลงจูบที่ฝ่ามือของเธออีกครั้ง.......ดวงตาของเค้ายังคงจ้องมองเธอนิ่ง พาสนารู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้า ดวงตาแบบนี้ที่เธอไม่อยากจะสบ เพราะมันมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้


ชายหนุ่มถอนริมฝีปากจากฝ่ามือของเธออย่างช้าๆ เค้ายังคงจ้องมองเธอ.......ใบหน้าของเค้าลอยเข้าใกล้เธอทุกที พาสนาเองก็เหมือนโดนมนต์สะกด เธอไม่อาจหลีกหนีได้เลย ลมหายใจอุ่นๆ ลอยกระทบผิวของเธอ


ความร้อนเกิดขึ้นไปทั่วทั้งกาย ความหวาดหวั่นเกิดขึ้นเช่นกัน ลมหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้นด้วยความตื่นเต้น........ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าสวยที่เป็นสีชมพูระเรื่อ แล้วให้นึกเอ็นดู....เค้าเอื้อมมือประคองคางน้อยๆ ของเธอเอาไว้ แล้วค่อยๆ ยื่นใบหน้าเข้าใกล้....ริมฝีปากบางของเค้าค่อยๆ บรรจบกับหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา มันอ่อนโยน และนุ่มนวล


พาสนารู้สึกทำอะไรไม่ถูก เธอได้แต่นั่งนิ่ง........


พิษณุค่อยๆ เลื่อนใบหน้าของเค้าให้ต่ำลง จมูกโด่งของเค้า กำลังจะบรรจบกับจมูกเชิดรั้นๆ ของเธอ....พาสนาได้แต่นั่งนิ่ง เธอหลับตาลง ชายหนุ่มมองดวงตาคู่สวยที่ปิดลงด้วยรอยยิ้ม........เค้ากำลังจะสัมผัสความอ่อนนุ่ม อ่อนหวานจากริมฝีปากของเธออีกครั้ง


เปี๊ยะ!!!!!!!!!!!!~...


เสียงกิ่งไม้ที่ถูกไฟไหม้อยู่นั้นดังลั่นออกมา ทำเอาคนทั้งสองต้องสะดุ้ง......พาสนารีบหันหน้าหนี เธอรู้สึกถึงลมหายใจที่ขาดเป็นช่วงๆ และเสียงเต้นของหัวใจ พิษณุเองก็ถอยออกมานั่งห่างๆ เค้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นได้


“เอออ หัวมันสุกแล้ว” พิษณุมองไปที่หัวมันซึ่งกำลังปิ้งไว้ มันกำลังสุกได้ที่


“อืมมม...” พาสนาพยักหน้ารับเบาๆ เธอยกมือขึ้นจับแก้มของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มันกำลังร้อนฉ่ายิ่งกว่าหัวมันซะอีก


“นี่จ๊ะ...” พิษณุดึงไม้ที่ปักหัวมันไว้ ขึ้นมาแล้วส่งให้พาสนา


“ขะ.....ขอบคุณ” พาสนารับไม้ที่เสียบหัวมันมาจากชายหนุ่ม เธอไม่กล้าสบตาของเค้าอีก


“รีบกินเถอะ กินร้อนๆ อร่อยนะ” พิษณุบอกกับพาสนาด้วยท่าทางเขินๆ


“อืมม..” พาสนาเอาแต่พยักหน้ารับ เธอใช้มือจับเปลือกหัวมันเพื่อจะปลอก แต่ความร้อนทำเอาเธอสะดุ้ง


“โอ้ยยย...” พาสนาวางหัวมันลง แล้วมองดูที่นิ้วของเธอ


“เป็นอะไร....ไหนมาดูซิ” พิษณุรีบเข้ามาจับมือพาสนา แล้วดูมือให้เธอ


“พองเลยนิ....มันร้อนต้องระวังรู้มั้ย” ชายหนุ่มบอกกับพาสนา เค้าค่อยๆ เป่านิ้วให้เธอ


พาสนารู้สึกทำอะไรไม่ถูก เธอมองชายหนุ่มที่กำลังเป่านิ้วให้เธอ ด้วยความรู้สึกบางอย่าง มันตื่นเต้น มันสับสน มันปั่นป่วน.....ในท้องของเธอเหมือนกับมีฝูงผีเสื้อนับร้อยกระพรือปีกวิ่งว่อนไปหมด


“มะ ไม่เป็นไร ปลาไม่เป็นไร” พาสนารีบดึงมือของเธอกลับ สีหน้าของเธอกำลังแดงจัด


“แน่ใจนะ” พิษณุถามอีกครั้ง


“อืมมม ไม่เป็นไร” พาสนาบอกกับเค้า


“กะ กินเถอะเดี๋ยวเย็นนะ” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม แล้วหันไปหยิบมันเผาของเธอขึ้นมาอีกครั้ง


พิษณุถอยออกมานั่งที่เดิม เค้าเองก็พอจะเข้าใจว่าพาสนาคงรู้สึกประหม่า เหมือนที่เค้าเองก็กำลังเป็นอยู่




โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:15:47 น.  

 



ปัญจรี นั่งอยู่ที่เก้าอี้โซฟาไม้ตัวยาวในบ้านพัก เธอจ้องมองโทรศัพท์ เพื่อรอคอยข่าวที่จะติดต่อกลับมา แต่ก็ไร้วี่แวว.........หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่างก็ไม่พบอะไรเลย มีแต่ความว่างเปล่า และเงียบสงบ


อรินยานอนหลับอยู่ในห้องพัก หลังจากที่ปัญจรีให้ทานยา....


เสียงถอนหายใจดังออกมาเบาๆ อีกครั้ง....


“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ” หญิงสาวพูดออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกหนักใจ และเป็นกังวล
.
.
.
ปัฐวีมองไปรอบๆ ซึ่งตอนนี้ท้องน้ำเป็นสีดำสนิท.......เค้าพยายามส่องไฟไปยังผิวน้ำ แต่ก็ไร้ซึ่งร่องรอยใดๆ


“เราหาแถวนี้มาจะเป็นสิบๆ รอบแล้วนะครับ ไม่มีอะไรเลย “หน่วยกู้ภัยพูดขึ้น


“นั่นซิครับ ไม่มีวี่แววของคนทั้งสอง ผมว่าพวกเค้าอาจจะขึ้นฝั่งไปแล้ว หรือไม่ก็อาจมีชาวบ้านช่วยเอาไว้ ยังไงพรุ่งนี้ผมจะส่งคนออกไปดูตามหมู่บ้านชาวประมงนะครับ” ผู้จัดการรีสอร์ทกล่าวกับปัฐวี


ชายหนุ่มมีสีหน้านิ่ง เค้าเองก็ออกมาตามหาด้วยตัวเอง ก็ยังไม่พบร่องรอยอะไรจริงๆ เค้าคงทำได้แต่รอจริงๆ


“งั้นเรากลับกันเถอะครับ มืดมากแล้ว” หน่วยกู้ภัยกล่าว


“อืมม..” ผู้จัดการหันไปพยักหน้ารับ



แล้วเรือยนต์ก็แล่นกลับเข้าชายฝั่ง


ปัฐวีมองออกไปยังผืนน้ำท่ามกลางความมืดอีกครั้ง ......... เค้าได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้คงได้ข่าวของพาสนาบ้าง เมื่อเรือยนต์พาปัฐวีกลับเข้าหาฝั่ง ชายหนุ่มเดินขึ้นหาดด้วยสีหน้าอ่อนใจ


“ไม่ต้องห่วงนะครับ พรุ่งนี้เราจะให้คนออกตามหาคุณณุ กับคุณพาสนา ตามบ้านชาวประมง ผมว่า ไม่แน่ ป่านนี้คนทั้งสองน่าจะกำลังสนุกกับการจับปลาอยู่ก็ได้” ผู้จัดการรีสอร์ทกล่าวปลอบใจชายหนุ่ม และตัวของเค้าเอง


“ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะครับ” ปัฐวีหันมองผู้จัดการ แล้วยิ้มแห้งๆ ออกมา


“ผมว่า วันนี้คุณเหนื่อยมากแล้วนะครับ กลับไปพักผ่อนให้สบาย อย่างน้อย...เราก็สบายใจว่า ทั้งคู่ยังปลอดภัยดี เพราะทางตำรวจน้ำแจ้งมาแล้วว่า ไม่พบร่องรอย ก็แปลว่าต้องปลอดภัย” ผู้จัดการรีสอร์ทกล่าวกับชายหนุ่ม


“ครับ ขอบคุณนะครับ” ปัฐวีกล่าวกับผู้จัดการ ก่อนจะแยกตัวกลับไปยังบ้านพักของเค้า


ผู้จัดการรีสอร์ทมองชายหนุ่มเดินแยกไปทางบ้านพัก แล้วต้องก้มหน้าเดินกลับไปยังออฟฟิศของเค้าเช่นกัน


ปัฐวีเดินกลับบ้านพัก ด้วยท่าทางเหนื่อยๆ ชายหนุ่มหยุดยืนมองบ้านพักเบื้องหน้า....การมาพักผ่อนคราวนี้ไม่ได้ทำให้สนุก หรือว่า พักผ่อนอย่างที่คาดไว้ แต่มันกลายเป็นการเดินทางที่แสนจะเหน็ดเหนื่อย เหลือเกิน


ชายหนุ่มก้าวขึ้นไปยังบ้านพักอย่างช้าๆ เมื่อเค้าเปิดประตูบ้านพัก ก็พบว่า ปัญจรีได้มานอนหลับที่โซฟาตัวยาว.......เค้าเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ เธอ ดูท่าทางเธอจะรอเค้าจนหลับไป


“.......” ปัฐวีมองใบหน้าสวยแล้วต้องยิ้มบางๆ ออกมา


ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆ ร่างบางที่หลับไม่รู้เรื่อง....เค้าเอื้อมมือของเค้าขึ้น แล้วค่อยๆ เกลี่ยผมของเธอที่ตกลงมาระใบหน้าออก ทำให้เห็นใบหน้าขาวนวลของเธอ


เรียวนิ้วของเค้าค่อยๆ สัมผัสแก้มของเธออย่างแผ่วเบา.....คิ้วโค้งเรียว ของเธอ รับกับดวงตาคู่สวย จมูกโด่งเชิด ริมฝีปากเรียวบางสวย แก้มสีชมพูอ่อน ทำให้ชายหนุ่มนั่งมองแล้วยิ้มออกมา


สายลมพัดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้คนที่นอนหลับอยู่ ขยับตัว เพราะความหนาวเย็น


ปัฐวีลุกขึ้นยื่น เค้าค่อยๆ ใช้มือของเค้าประคองเธอขึ้น แล้วใช้แขนของเค้า ช้อนร่างบางเพื่ออุ้มตัวเธอขึ้นมาจากเก้าอี้ยาว.....ปัญจรียังคงหลับไม่รู้เรื่อง


ปัฐวีอุ้มร่างบางเดินเข้าไปในห้อง.....เมื่อมาถึงเตียงนอนนุ่ม เค้าก็ค่อยๆ วางเธอลงกับที่นอนอย่างช้าๆ และแผ่วเบา.....เมื่อวางตัวหญิงสาวลงกับที่นอนเรียบร้อยแล้ว เค้าก็จัดการดึงผ้าห่มมาห่มให้เธอ


แต่ชายหนุ่มยังไม่ได้ลุกหนีไปไหน เค้ายังคงนั่งอยู่ข้างๆ ร่างของหญิงสาว........ดวงตาของเค้าจ้องมองเธอแบบไม่วางตา


“ดอกฟ้า..........คงไม่มีวันโน้มลงมาหาหมาวัดได้หรอก” ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆ เค้าจ้องมองสาวสวยที่หลับสนิท ด้วยแววตาน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง


“ฝันดีนะครับ..” เค้ายื่นหน้ากระซิบบอกกับเธอเบาๆ ที่ข้างหู ก่อนจะค่อยๆ ลุกแล้วเดินออกจากห้องไป


เมื่อประตูห้องนอนปิดลง หญิงสาวร่างบางก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น.....เธอมองไปที่ประตูห้องนอนด้วยแววตาเศร้า เสียงถอนหายใจดังออกมาเบาๆ
.
.
.
ภายใต้ท้องฟ้ากว้าง ดวงดาวเรียงรายเต็มเกลื่อนฟ้า.......ในป่าทึบ มีกองไฟกองเล็กๆ ส่องแสง สร้างความอบอุ่น พาสนาที่นั่งอยู่ข้างๆ กองไฟ เริ่มมีอาการหาวง่วงนอน....พิษณุที่นั่งสุมกองไฟอยู่ข้างๆ หันมองไปทางเธอ


“ปลา...” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่ตาของเธอเริ่มปรือเต็มทน


“หืมมม...” พาสนาขานรับเบาๆ


“ง่วงก็นอนซิ พี่ทำที่นอนให้แล้วไง” พิษณุบอกกับพาสนาสีหน้ายิ้มๆ


“แล้วพี่ณุล่ะ” พาสนาถามชายหนุ่ม


“นอนก่อนเถอะ พี่จะอยู่ดูเวรให้อีกแปบ” ชายหนุ่มบอกกับเธอ


“อืมมม ง่วงก็นอนนะ” พาสนาบอกกับอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวเพื่อไปนอนบนใบไม้ที่ชายหนุ่มทำไว้ให้


“โอ๊ะ........” พาสนารู้สึกเจ็บที่ขาขึ้นมาทันที เมื่อขยับตัว


พิษณุรีบลุกขึ้นแล้วมาดูเธอใกล้ๆ


“เป็นยังไง เจ็บขาหรือ” ชายหนุ่มร้องถามอย่างห่วงใย


“อืมม มันเจ็บแปล๊บๆ อ่ะ” พาสนาบอกกับเค้า สีหน้าของเธอแสดงถึงอาการเจ็บ


“สงสัยจะอักเสบมากนะนี่.......แย่จริง ไม่มียาด้วย” พิษณุบ่นออกมาเบาๆ สีหน้าเครียด


“ไม่....ไม่เป็นไร ปลาทนไหว” พาสนาบอกกับอีกฝ่าย พร้อมกับพยายามฝืนยิ้มให้เค้า


“........” พิษณุมองอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง เค้ารู้สึกสงสารเธอเหลือเกิน ที่ต้องมาเจอกับเรื่องร้ายๆ แบบนี้


พาสนามองหน้าชายหนุ่ม เธอรู้ว่าเค้ากำลังรู้สึกผิดอีกแล้ว


“ไม่เป็นไรจริงๆ สบายๆ” พาสนาย้ำบอกกับเค้าอีกครั้ง เพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล


“มา พี่พาไปนอนนะ” พิษณุมองอีกฝ่ายยิ้มให้เค้า ก็ต้องยิ้มตอบให้เธอ


เค้าค่อยๆ ใช้สองแขนช้อนตัวเธอขึ้น พาสนาเองก็ตกใจเหมือนกันที่ชายหนุ่มมาอุ้มเธอแบบนี้ แต่เธอก็ได้แต่นิ่งเงียบ........พิษณุอุ้มพาสนาไปวางตรงที่นอนใบไม้...


“คืนนี้นอนหลับให้สบายนะ.....” ชายหนุ่มบอกกับพาสนาพร้อมรอยยิ้ม


“อืมม..” พาสนาตอบรับ เธอค่อยๆ เอนตัวลงนอนอย่างว่าง่าย


พิษณุนั่งมองพาสนานอนหลับอยู่ข้างๆ สายตาของเค้าที่จ้องมองเธอ มันแผงความห่วงใยเอาไว้





โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:16:05 น.  

 


จี๊ดๆๆๆ...........................


เสียงแมลงในป่าร้องดังขึ้น..........มันสร้างบรรยากาศ น่าหวาดระแวงให้กับคนที่กำลังนอนอยู่ พาสนาขยับตัวพลิกไปมาหลายต่อหลายที เธอพยายามไม่คิดอะไร พยายามข่มตานอน แต่เพราะเสียงจากแมลง เสียงลม และหลายต่อหลายเสียงทำให้เธอไม่สามารถหลับได้สนิทสักที


“เป็นอะไร ปวดขาหรือเปล่า” พิษณุที่นั่งอยู่ไม่ไกล หันมาร้องถาม


“หึ...” พาสนาปฏิเสธพร้อมส่ายหน้าเบาๆ


“แล้วทำไมไม่นอนล่ะ” ชายหนุ่มซักถามด้วยความห่วงใย


“คือ....” พาสนาไม่กล้าบอกกับอีกฝ่ายว่า เธอกำลังรู้สึกกลัวกับสภาพรอบๆ ตัว เธอลุกขึ้นนั่ง แล้วยกมือขึ้นลูบแขนเบาๆ พร้อมกับมองไปรอบๆ ตัว


พิษณุมองอาการของอีกฝ่าย เค้าก็พอจะเดาออกว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร........ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ออกมา แล้วลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ เธอ


“นอนเถอะ.....พี่ง่วงแล้ว” พิษณุกล่าวจบก็เอนตัวลงนอนข้างๆ


“เอออ...” พาสนามองชายหนุ่มที่มานอนข้างๆ


“ไม่ง่วงหรือไง มานอนๆ” พิษณุมองอีกฝ่าย แล้วเค้าก็จับแขนเธอดึงให้ล้มลงนอนข้างๆ เค้า


พาสนานอนนิ่งกับพื้นข้างๆ ชายหนุ่ม เธอหันมองเค้า.........พิษณุในตอนนี้กำลังนอนหลับตานิ่ง ชายหนุ่มใช้แขนตัวเองรองหนุนศีรษะแทนหมอน........ท่าทางของเค้านอนอย่างสบายอารมณ์


พาสนาถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วมองไปรอบๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะพยายามข่มตานอนให้ได้เหมือนพิษณุ เธอพลิกตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม ก่อนที่จะพยายามหลับตาอีกครั้ง เสียงร้องของแมลงยังคงดังก้องอยู่ พาสนายกมือขึ้นปิดหูของเธอเพื่อที่จะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงของแมลง


เวลาล่วงเลยจนดึกขึ้นทุกที อากาศในป่าทึบเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ.......พาสนาที่นอนอยู่ ยกแขนขึ้นกอดอกแน่น เธอนอนขดตัวด้วยความหนาว.......คนที่นอนอยู่ข้างๆ สังเกตอาการของอีกฝ่ายได้ดี


พาสนานอนตัวสั่นเพราะความหนาวเย็นของอากาศ.....เธอพยายามข่มใจให้นอนหลับเพื่อจะได้ลืมความรู้สึกเหล่านี้ แต่มันก็หลับไม่ได้สักที....จนกระทั่ง แขนของชายหนุ่มที่นอนข้างๆ ได้เอื้อมมาโอบตัวเธอเอาไว้ทางด้านหลัง....แขนข้างหนึ่งช้อนอยู่ข้างใต้ศีรษะของเธอ และอีกข้าง โอบตัวเธอเอาไว้ด้านบน สองแขนนั้นโอบรัดตัวเธอเอาไว้อย่างหลวมๆ


“....” พาสนาสะดุ้งขึ้นเมื่อโดนอีกฝ่ายกอดเอาไว้


“อืมมม อุ่นจัง....ขอกอดหน่อยนะ” ชายหนุ่มกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะกอดเธอแน่นขึ้น


“......” พาสนาไม่อาจโต้ตอบอะไร เธอนอนนิ่งในอ้อมกอดนั้น อาการหนาวเหน็บเริ่มจางหาย คงเหลือไว้เพียงความอบอุ่นที่เกิดขึ้น


รอยยิ้มบางๆ เกิดขึ้น ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะค่อยๆ ปิดลง......


พิษณุ ค่อยๆ ดึงร่างน้อยเข้าหาตัวเค้าอย่างช้าๆ แล้วโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าของเค้า จมูกของเค้าซบเข้าหาเรือนผมของเธอ แล้วทั้งสองก็นอนหลับอยู่ภายใต้ผืนป่าใหญ่ ใต้ผืนฟ้ากว้าง ข้างๆ กองไฟอันแสนอบอุ่น
.
.
.
แสงสว่างยามเช้าปรากฏขึ้น........ควันจากกองไฟ ที่ดับมอดลงลอยขึ้นเป็นเส้นสาย สู่ท้องฟ้าเบื้องบน.......เสียงนกตัวน้อยร้องส่งเสียงจิ๊บจั๊บ....ทำให้คนที่กำลังนอนหลับอยู่ต้องค่อยๆ ลืมตาตื่น


พิษณุตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับอันแสนสุข......เค้ามองดูคนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในอ้อมแขนของเค้า ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา...จมูกที่แนบอยู่กับเรือนผมของเธอ ค่อยๆ แนบติดกับผมของเธอ


“อืมมมม...” เสียงดังออกมาเบาๆ จากอีกฝ่าย ทำเอาพิษณุแกล้งนอนหลับต่อทันที


พาสนาขยับตัวเล็กน้อย ........เธอลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ แล้วสายตาของเธอก็หยุดลงที่แขนของใครอีกคนที่ยังกอดตัวเธอเอาไว้


ความรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าเกิดขึ้น....พาสนารีบหันมองชายหนุ่ม เพียงเธอพลิกหน้าเล็กน้อย แก้มใสๆ ของเธอ ก็ไปจ่ออยู่ที่ปลายจมูกของอีกฝ่ายทันที พาสนาต้องรีบหยุดชะงัก แล้วหันหน้าหลบลง


“แย่จริง...” พาสนาบ่นออกมาเบาๆ


เธอพยายามใช้มือของเธอค่อยๆ แกะแขนของอีกฝ่ายออก แต่เหมือนเจ้าของจะไม่ยินยอม มันกับกอดเธอไว้แน่น หญิงสาวรู้สึกขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย เธอนอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้นเป็นนานสองนาน จนในที่สุดเธอจึงตัดสินใจเรียกชายหนุ่มให้ตื่น


“พะ.....พี่ณุ ตื่นเถอะ” พาสนาเรียกคนที่นอนกอดเธอให้ตื่นขึ้น แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้ยินเสียงของเธอ


“......พี่ณุ...” พาสนาเรียกชายหนุ่มอีกครั้ง แต่เค้าก็ยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ


“โธ่ แล้วจะทำไงดี.....” พาสนาบ่นออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมตื่น


เธอขยับตัวยุกยิกไปมาได้พักหนึ่ง แขนข้างที่โอบตัวเธอด้านบนของชายหนุ่มก็ค่อยๆ หลุดออก เค้าพลิกตัวนอนในท่าหงาย.....


“เฮ้ออออออออ...” พาสนาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจที่แขนของชายหนุ่มหลุดออก เธอทำท่าจะลุกขึ้น แต่แล้วแขนข้างที่รองให้เธอหนุนนอนกลับพลิกขึ้น แล้วโอบตัวเธอเอาไว้


มันดึงให้พาสนาต้องล้มนอนอีกครั้ง และครั้งนี้ เธอต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของแขนข้างนี้ซะด้วย


ใบหน้าของพาสนา ก้มลงต่ำเกือบถึงใบหน้าของชายหนุ่ม......เธอพยายามดันตัวเองให้ออกห่าง แต่แขนของเค้ากับรั้งตัวเธอเอาไว้


“จะไปไหน กำลังนอนสบายอยู่เลย” เสียงชายหนุ่มดังขึ้น ดวงตาของเค้าลืมขึ้น แล้วมองจ้องมาที่ดวงตาของเธอ


พาสนารู้สึกร้อนวูบไปทั้งใบหน้า เสียงหัวใจของเธอมันเต้นรัว และแรง.....ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าสวยด้วยรอยยิ้ม


“ปะ...ปล่อยปลาเถอะ” พาสนารู้ตัวดีว่าสู้สายตาแบบนี้ไม่ไหว เธอร้องบอกกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่น


“หืมม จะรีบไปไหนล่ะ” ชายหนุ่มร้องถามอีกฝ่าย


“ปลา.....ปลา.......” พาสนาคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ในเวลานี้ เธอรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย


“หึหึหึ...” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทางของอีกฝ่าย เค้ายอมปล่อยมือจากเธอ


เมื่อตัวเป็นอิสระ พาสนาจึงรีบลุกขึ้นนั่ง ด้วยสีหน้าอายๆ พิษณุเองก็ลุกขึ้นนั่งข้างๆ พาสนา เค้ามองดูหญิงสาวข้างๆ ด้วยสีหน้ายิ้มๆ และรู้สึกเอ็นดูเธอมากขึ้น


ยิ่งชายหนุ่มจ้องเธอมากเท่าไหร่ พาสนาก็รู้สึกประหม่ามากขึ้นเท่านั้น เธอรู้สึกว่าทำอะไรไม่ค่อยจะถูก


“ปะ เดี๋ยวเตรียมตัวออกเดินทางกันต่อดีกว่า ว่าแต่ปลาพอจะเดินไหวมั้ย” พิษณุบอกับพาสนา


“น่าจะไหวนะ ตอนนี้ไม่ปวดแล้ว” พาสนาตอบกลับ


“งั้นพี่ดับไฟแปบ” พิษณุบอกกับพาสนา ก่อนจะลุกขึ้น แล้วไปทำการดับกองไฟ ที่ก่อไว้ ชายหนุ่มหันมองมาทางพาสนา


“ปะ...” เค้าบอกกับเธอ แล้วยื่นมือให้เธอ พาสนามองมือที่ชายหนุ่มยื่นให้........หญิงสาวยื่นมือของเธอให้.......เค้าจับมือของเธอแล้วค่อยๆ ดึงเธอลุกขึ้นยื่น


พาสนายื่นขึ้น ความเจ็บยังคงมีอยู่แต่ก็ไม่เท่ากับเมื่อวาน ที่เจ็บเหลือเกิน


“ไหวมั้ย” พิษณุถามอย่างห่วงใย


“อืมม ไหวๆ” พาสนาพยักหน้าตอบพร้อมยิ้มให้เค้า


“งั้นไปกันป่ะ” พิษณุบอกกับพาสนา ก่อนจะพาเธอเดินเข้าไปด้านในป่ารก


พาสนาเดินขโยกเขยกตามชายหนุ่มเข้าไปในป่ารกนั้น คนทั้งคู่ต่างก็พากันเดินเข้าไปในป่า โดยไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง




โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:16:22 น.  

 


พิษณุพาพาสนาเดินลัดเลาะแนวป่าไปเรื่อยๆ.....หนทางข้างหน้าดูรกน่ากลัวอยู่ไม่น้อย แต่ทั้งสองก็ต้องเดินผ่านมันไปให้ได้


“ท่าทางยังอีกไกลเลย กว่าจะหลุดป่านี้ไปได้” พิษณุหยุดยืนมองไปรอบๆ แล้วหันมาบอกกับพาสนา


“อืมม...” พาสนาพยักหน้ารับเบาๆ


“ปลาไหวรึป่าว” ชายหนุ่มร้องถามอีกฝ่ายอย่างห่วงใย เพราะท่าทางอาการของเธอไม่ค่อยจะดีนัก


“ไหว.....ไหวซิ” พาสนาฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย ซึ่งจริงๆ แล้วตอนนี้เธอรู้สึกปวดที่ข้อเท้าขึ้นมาอีกแล้ว แต่หากเธอบอกว่าเจ็บที่ข้อเท้า จะทำให้ชายหนุ่มเป็นกังวล และทำให้การเดินทางของพวกเค้าต้องช้าลง พาสนาจึงฝืนที่จะเดินทางต่อ


“แน่ใจนะ” พิษณุถามย้ำอีกครั้ง เค้าไม่ค่อยจะวางใจสักเท่าไหร่


“อืมม ปลาไหว” พาสนายิ้มให้พิษณุ


“งั้น ปะ” พิษณุมองท่าทางของพาสนา เมื่อเธอยืนยันหนักแน่น เค้าจึงออกเดินทางต่อ


ในป่าลึก ต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกเต็มไปหมด......เหล่าแมลงตัวน้อย หลากหลายชนิด บินไปทั่ว บางตัวก็มาเกาะตามแขน ตามขาของคนทั้งคู่ บางชนิดก็กัดผิวกายให้รู้สึกคันขึ้นมา โดยเฉพาะพาสนาที่ใส่เสื้อแขนสั้น ผิวสีขาวของเธอต้องเป็นรอยผื่นแดงเต็มไปหมด พิษณุหันมองมาทางคนที่เดินข้างๆ เค้าสังเกตเห็นผิวขาวนวลของคนข้างๆ ที่เป็นรอยผืนสีแดง


“ปลา...” ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหันมาจับแขนของพาสนาขึ้นดู


“หืมมม” พาสนาเงยหน้ามองชายข้างๆ


“ดูซิ โดนกัดจนแดงไปหมดแล้ว ทำไมไม่บอกพี่หะ” พิษณุทำเสียงตำหนิเธอ


“ไม่เป็นไร..” พาสนาส่ายหน้าไปมาเบาๆ


“ไม่เป็นไรอะไร ดูซิ เป็นผื่นเต็มไปหมดแล้ว” พูดจบ พิษณุก็ถอดเสื้อนอกของเค้าออก


“พี่ณุจะทำอะไร ไม่ต้องหรอก ปลาไม่เป็นอะไรจริงๆ” พาสนาเห็นชายหนุ่มที่กำลังถอดเสื้อเพื่อมาให้เธอใส่ เธอต้องรีบบอกกับเค้า


“เอาน่า......ใส่ซะ จะได้ไม่โดนกัดอีก” ชายหนุ่มนำเสื้อนอกของเค้าใส่ให้พาสนา พาสนายอมใส่เสื้อที่พิษณุถอดให้ใส่ เธอมองเค้าด้วยแววตาบางอย่าง รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอ


“ใส่ไว้...ดูซิแดงไปหมดเลย” พิษณุพูดขึ้น ขณะที่จัดการใส่เสื้อให้อีกฝ่าย


“ขอบคุณนะ” พาสนาบอกกับเค้าน้ำเสียงซึ้งใจ


“ปะ...” ชายหนุ่มเองก็รู้สึกเขินกับน้ำเสียงนั้น เค้ารีบหันมองไปทางข้างหน้า แล้วจับมือเธอเดินทางกันต่อ


พาสนามองมือใหญ่ ที่กำลังกุมมือของเธออยู่ รอยยิ้มหวานเกิดขึ้นบนหน้าของเธอ เธอมองชายหนุ่มที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งจูงมือเธออยู่ ด้วยความรู้สึกบางอย่าง
.
.
.
พิษณุพาพาสนาเดินลัดแนวป่ารก จนหลุดออกมายังลานกว้าง....ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ


“ต่อไปคงเดินสบายขึ้น...” ชายหนุ่มหันมาบอกกับพาสนายิ้มๆ


“อืมมม...” พาสนายิ้มตอบ


“ปะ...” พิษณุพยักหน้ายิ้มให้เธอก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ


พาสนากัดริมฝีปากของเธอแน่น ตอนนี้เธอรู้สึกปวดที่ข้อเท้าเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่กล้าบอกให้อีกคนได้รับรู้ เธอพยายามฝืนทนเดินทางต่อไปเรื่อยๆ


ทั้งคู่เดินทางต่อไปเรื่อย แล้วอยู่ๆ พิษณุก็หยุดเดิน........ชายหนุ่มยืนนิ่ง และทำท่าเหมือนกำลังฟังเสียงอะไรบางอย่างอยู่


“มีอะไรหรือพี่ณุ” พาสนาร้องถามชายหนุ่มเมื่อเห็นเค้ายืนนิ่ง


“ปลาได้ยินมั้ย” พิษณุหันมาถามพาสนายิ้มๆ


“อะไร ตัวอะไรอีก” พาสนารีบจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น เธอรู้สึกระแวงไปหมด


“ไม่ใช่ เสียง.......เสียงน้ำตก” ชายหนุ่มบอกกับพาสนา พร้อมกับยิ้มกว้างให้เธอ


“หะ น้ำตกหรอ” พาสนาถามเค้าด้วยสีหน้าประหลาดใจ


“อืมมม “ พิษณุพยักหน้ารับอีกครั้ง


“ดีซิ.....” พาสนายิ้มออกมา


“ปะๆ พี่ได้ยินเสียงแถวนี้ล่ะ” พิษณุรีบคว้ามือพาสนา แล้วพาเธอเดินไปทางต้นเสียงที่เค้าได้ยิน


ไม่นานชายหนุ่มก็พาพาสนาเดินมาหยุดยืนริมก้อนหินน้อยใหญ่ เบื้องหน้าเป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่อะไรนัก น้ำใสๆ ของมันทำเอาคนทั้งสองต้องยิ้มออกมาอย่างดีใจ


“น้ำตกจริงๆ ด้วย” พาสนาร้องออกมาด้วยความดีใจ


“อืมมม..” พิษณุยิ้มกว้างออกมา


แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปหาน้ำใส เย็นฉ่ำ ด้วยความตื่นเต้น....ทั้งคู่ต่างพากันดื่มน้ำ ล้างหน้าล้างตา


“ปลา....” พิษณุหันมองไปทางพาสนาที่กำลังล้างหน้าอยู่ริมน้ำ


“หืมมม” พาสนาหันมองมาทางชายหนุ่ม


“เออออ.....ปลาอยากอาบน้ำมั้ย” พิษณุลังเลอยู่นาน ก่อนจะถามคำถามนี้


“อยากซิ.......แต่.....” พาสนายิ้มตอบเค้า แต่แล้วเธอก็ต้องมีท่าทางนิ่งไป


“อืมม ปลาอาบน้ำนะ เดี๋ยวพี่ไปยืนรอตรงโน้น” พิษณุบอกกับพาสนาอย่างรู้ใจ


“เอออออ......” พาสนาเกิดหน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอยืนนิ่ง


“พี่สัญญาว่าจะไม่แอบดู ปลาอาบน้ำให้สบายเลยนะ” พิษณุยกมือขึ้นทำท่าสัญญากับเธอ ก่อนจะเดินห่างออกไป


พาสนายืนยิ้มออกมาบางๆ เธอมองชายหนุ่มที่เดินห่างออกไป แล้วจึงค่อยๆ ถอดเสื้อนอกที่ใส่อยู่ออก


“อ้อ ปลา......” พิษณุหันมาเมื่อนึกได้ว่ามีอะไรจะบอกเธอ


พาสนารีบใส่เสื้อกลับทันที พิษณุเองก็รีบหันหลังให้เธอ ทั้งคู่มีใบหน้าที่เป็นสีแดงจัด


“คือพี่จะบอกว่า ระวังๆ หน่อยนะ หินมันลื่น เดี๋ยวจะบาดเจ็บอีก” พิษณุตะโกนบอกเธอ


“อืมมม ปลาจะระวัง” พาสนาตะโกนตอบ ใบหน้าของเธอเป็นสีแดงจัด


“พี่ไปรอตรงโน้นนะ” พิษณุตะโกนบอกอีกฝ่าย ก่อนจะก้าวเดินห่างออกมา เค้ามีใบหน้าที่เป็นสีแดง แต่ก็มีรอยยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน


พาสนายืนมองจนแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายเดินห่างออกไปจนไกล....เธอจึงถอดเสื้อออกเพื่ออาบน้ำ


น้ำใส เย็นฉ่ำ ทำให้คนที่กำลังอาบน้ำอยู่รู้สึกสดชื่น เธอเล่นน้ำไป ก็ยิ้มไป แล้วเมื่อคิดถึงใครอีกคน ก็ทำให้ใบหน้าของเธอเป็นสีชมพูดจัดขึ้นมา แต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มหวานอยู่บนใบหน้า...เสียงร้องเพลงหวานใสดังออกมา บ่งบอกว่าคนร้องกำลังอารมณ์ดี เสียงเพลงนั้นลอยไปตามลม ทำให้คนที่นั่งอยู่ห่างๆ ได้ยิน ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีไม่ต่างกัน




**************จบตอนที่12************







โดย: kokoo_129 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:19:17:03 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.