Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

..Next Story : เรื่องรักของสองเรา ตอนที่16..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์


***************************
Next Story : เรื่องรักของสองเรา
ตอนที่ 16

***************************











 

Create Date : 19 ตุลาคม 2552
9 comments
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 22:36:43 น.
Counter : 312 Pageviews.

 


หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธแววตาของอีกฝ่ายได้เลย เธอได้แต่โอนอ่อนตามเค้าแทบทุกอย่าง...........พิษณุก้มใบหน้าของเค้าแทบจะชิดกับใบหน้าของอีกฝ่าย จมูกโด่งของชายหนุ่มกำลังจะสัมผัสโดนปลายจมูกของหญิงสาว............ริมฝีปากบางของเค้าใกล้จะบรรจบกับริมฝีปากอิ่มของเธอ


จี๊ดๆๆ.........


เสียงแหลมเล็กดังมาจากด้านหลังของพาสนา ทำเอาหญิงสาวต้องรู้สึกขนลุกทันที


กรี๊ดดดดดดดด....


พาสนาร้องเสียงดังออกมา เมื่อรู้ว่าเสียงนั่นไม่ผิดแน่ มันคือเสียงของเจ้าหนูที่กำลังขุดคุ้ยกองขยะทางด้านหลังนี้


“เฮ้ยยย...” พิษณุเองก็ตกใจกับเสียงร้องของหญิงสาว


“แย่แล้ว...” พิษณุพูดขึ้น แล้วชะเง้อคอมองไปทางมุมที่พวกนักข่าวอยู่


“ไป...” พิษณุฉุดมือของพาสนาแล้วดึงให้เธอลุกขึ้น


“ได้ยินเสียงทางโน้นนะ” เสียงของนักข่าว ดังเข้ามา


พิษณุรีบจูงพาสนาวิ่งไปอีกทางหนึ่ง


“จะไปไหน...” พาสนาร้องถามออกมาเมื่อโดนอีกฝ่ายจูงให้วิ่งอยู่


“ออกจากที่นี่”


“ออกไปยังไง”


ชายหนุ่มหยิบกุญแจรถออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเค้า พร้อมกับกดปลดล็อคทันที


“ขึ้น...” พิษณุปล่อยมือพาสนา เพื่อให้เธอแยกตัวไปขึ้นรถอีกทางหนึ่ง ก่อนที่เค้าจะวิ่งขึ้นไปทางฝั่งคนขับ


พาสนายืนนิ่งตรงประตูรถ เธอไม่ยอมขึ้นไปนั่งบนรถตามที่ชายหนุ่มบอก


“ขึ้นมาซิ” พิษณุ เอื้อมมือเปิดประตูให้พาสนา


“ไม่....ฉันไม่ไป” พาสนาส่ายหน้า ขมวดคิ้วมองเค้า


“ขึ้นมา..” พิษณุกล่าวน้ำเสียงดุขึ้น


“ไม่ไป ฉันไม่ไปกับนาย” พาสนายังคงดื้อที่จะไม่ยอมขึ้นรถ


“จะมาดื้ออะไรตอนนี้ พวกนักข่าวกำลังมากันแล้วไม่เห็นหรือไง” พิษณุหันมองไปทางด้านถนน ที่พวกนักข่าวกำลังวิ่งกรูกันมา พาสนาหันมองไปทางกลุ่มนักข่าว แล้วหันมองกลับมาทางชายหนุ่ม


“เร็วซิ ขึ้นมาก่อน.....มา” พิษณุพูดเร่งพาสนาเมื่อเห็นกลุ่มนักข่าวเข้ามาใกล้เต็มที


พาสนายืนมองนักข่าวอีกครั้ง สุดท้ายเธอก็ต้องยอมขึ้นไปนั่งบนรถจนได้.....ทันทีที่ประตูฝั่งที่พาสนาขึ้นปิดลง รถจิ๊ปก็ถอยหลัง และแล่นออกไปจากจุดลานจอดรถทันที


พวกนักข่าวที่วิ่งตามมา ต่างก็มองตามรถคันนั้น


“รถใครวะ” นักข่าวหนุ่มคนหนึ่งร้องถามขึ้น


“ไม่รู้เหมือนกัน”“..หรือว่าจะเป็นของคุณพิษณุ นักข่าวอีกคนมีท่าทางเหนื่อยหอบจากการวิ่งตอบ


“ไม่ใช่รถคุณพิษณุนี่นา” นักข่าวอีกคนพูดขึ้น


“หรือว่ารถของคนที่บ้าน” นักข่าวอีกคนตั้งข้อสงสัย


“ไม่ใช่หรอก บ้านคุณพิษณุมีรถ 5 คัน หรูๆ ทั้งนั้น แต่ไม่มีรถแบบนี้นะ นักข่าวที่ชอบติดตามข่าวพวกไฮโซ ตอบอย่างรู้จริง


“แล้วรถใครนะ” แล้วพวกนักข่าว ก็ต้องให้ตั้งข้อสงสัยกันถึงเรื่องรถปริศนาที่มารับพาสนาไป
.
.
.
“เฮ้อออออออ พวกนักข่าวนี่จิกไม่เลิกจริงๆ” พิษณุถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อรู้ว่าได้หนีพ้นพวกนักข่าวแล้ว ชายหนุ่มหันมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าของเธอกำลังตูมหงิกน่าดู


“เป็นอะไร หน้าหงิกเชียว” พิษณุแกล้งถามพาสนา เพื่อให้เธอผ่อนคลายลงบ้าง


“จอดรถ..” พาสนาบอกกับเค้าน้ำเสียงนิ่ง


“จอดทำไม บ้านอยู่ไหน พี่ไปส่ง” พิษณุบอกกับอีกฝ่ายสีหน้ายิ้มๆ


“จอดรถ.....” พาสนายังคงย้ำคำเดิม


“ปลา....” พิษณุรู้ดีว่าจะต้องโดนเธอทำท่าเย็นชาใส่แน่ๆ


“ฉันบอกว่าให้จอดรถไง ไม่ได้ยินเหรอ” หญิงสาวตวาดใส่เค้าเสียงดัง ดวงตาที่เธอมองเค้ามันขุ่นเคืองเหลือเกิน


“ปลา....” พิษณุมองอีกฝ่าย เค้าอยากจะคุยกับเธอแต่ท่าทางเธอตอนนี้ดูจะโกรธเค้าเอามากๆ


“นายมาทำไมอีก........แค่นี้ยังไม่สะใจใช่มั้ย” พาสนาร้องถามอีกฝ่าย เธอมองเค้าด้วยแววตาขุ่น


“ปลา เดี๋ยวนะ เรื่องนั้นพี่.........” พิษณุมองหญิงสาว เค้ารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังโกรธมากๆ และกำลังเข้าใจอะไรผิดๆ อยู่


“ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว นายคงสะใจซินะ ล้างแค้นฉันสำเร็จแล้วนิ ก็เลิกยุ่งกับฉันซะที” พาสนาตะโกนใส่อีกฝ่าย เธอจ้องมองเค้าด้วยแววตาที่ปวดร้าว เธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากเธออีก


“ปลา เรื่องนั้นพี่ก็เสียใจนะ เรามาพูดกันดีๆ ก่อนดีมั้ย” พิษณุบอกกับพาสนา เค้าไม่อยากให้เธอเข้าใจแบบนี้เลย


“พูดเหรอ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนายอีกต่อไปแล้ว ไม่มี.........ที่ผ่านมาฉันถือว่าฉันโง่เอง โง่ที่หลงเชื่อ หลงไว้ใจ จนฉันต้องติดหลุมพร่างที่นายวางไว้ พอใจแล้วใช่มั้ยล่ะ ตอนนี้ใครๆ ก็ตราหน้าฉันว่าเป็นคนเลว เป็นผู้หญิงไม่ดี จ้องจับผู้ชายอย่างนาย” พาสนาพร่ำพูดออกมาด้วยความโกรธที่มี


“ปลา...” พิษณุมองหญิงสาว เค้าจ้องมองเธอ แล้วให้รู้สึกเจ็บแปลบเข้าไปถึงข้างใน


“พอที เลิกยุ่งกับฉันซะที ฉันยอมแพ้แล้ว ฉันแพ้นายแล้ว” พาสนาบอกออกมา น้ำเสียงเธอสั่นเครือ น้ำตาใสๆ เออคลอเบ้าตาของเธอ


“ปลา....พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้” พิษณุเอื้อมมือของเค้าไปจับมือพาสนาเอาไว้


“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน...........” พาสนาสะบัดมือชายหนุ่มออกจากมือของเธอ เธอมองเค้าด้วยความโกรธแค้น และเสียใจ เจ็บใจอย่างที่สุด

น้ำตาหยดใสไหลลงมาจากดวงตาคู่สวย


“ฉันมันโง่เอง โง่ที่เชื่อใจคนอย่างนาย ฉัน........” พาสนารู้สึกจุกอยู่ในอก เธอไม่อยากจะร้องไห้ออกมา แต่มันก็เก็บเอาไว้ไม่ได้ น้ำตาของเธอไหลร่วงลงมาจากดวงตาคู่สวย


“ปลา........” พิษณุมองหญิงสาวด้วยความรู้สึกเจ็บปวดลึกเข้าไปถึงในใจ นี่เธอกำลังเข้าใจเค้าผิดอย่างมากมาย


“จอดรถ ฉันจะลง...” พาสนาบอกกับเค้า อีกครั้ง


“แต่พี่..........” พิษณุอยากจะไปส่งเธอที่บ้าน เพื่อจะพูดคุยกับแม่ของเธอ


“จอดรถ...”พาสนายืนยันน้ำเสียงหนักแน่น


“..........” พิษณุยังคงไม่ยอมจอดรถง่ายๆ


“ถ้าไม่จอด ฉันจะโดดลงไป” พาสนาพูดจบก็ปล๊ดล็อคเข้มขัดนิรภัยออก จนทำเอาคนขับต้องรีบจอดรถทันที


“อย่าโดดๆ พี่จอดแล้ว” พิษณุหันมาบอกกับเธอ ขณะที่กำลังจอดรถให้เธอ


“ต่อไปอย่ามาเจอกันอีก “ พาสนาบอกกับเค้าก่อนลงจากรถ


พิษณุนั่งมองพาสนาที่เดินจากไป ด้วยความรู้สึกทรมานในหัวใจ เค้าอยากให้เธอรับฟังในสิ่งที่เค้าต้องการจะพูดกับเธอ แต่เหมือนว่าเวลานี้เธอจะไม่ยอมฟังเค้าเสียเลย


 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:37:49 น.  

 


พาสนาเดินลงมาจากรถ แล้วเธอก็โบกรถแท็กซี่ เพื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาล........พิษณุนั่งจ้องมองเธอจากในรถ สีหน้า แววตา และคำพูดของหญิงสาว บอกให้เค้ารู้ว่าเธอกำลังโกรธเค้าเอามากๆ มันก็น่าอยู่หรอก หากใครโดนข่าวเสียๆ หายๆ แบบนี้เข้า ก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา อย่างอ่อนใจ


พาสนานั่งนิ่งอยู่ในรถแท็กซี่ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่แก้มออก ดวงตาของเธอมองออกไปยังท้องถนน


เค้าจะมาทำไมอีก จริงๆ เค้าก็น่าจะพอใจกับผลที่เกิดขึ้นแล้ว เค้าจะมายุ่งกับเธอทำไมอีก........ยิ่งคิดพาสนาก็ยิ่งเจ็บใจ เจ็บใจตัวเอง ทั้งๆ ที่ตั้งใจไว้ว่า จะไม่เผลอใจไปกับเค้า แต่สุดท้ายเพียงเวลาไม่ทันข้ามวัน เธอก็ต้องหวั่นไหวไปกับเค้าอีกจนได้ หญิงสาวเม้มริมฝีปากของเธอแน่น


เมื่อรถแท็กซี่มาจอดหน้าโรงพยาบาล พาสนาลงจากรถแท็กซี่ แล้วเดินตรงเข้าไปภายใน.........รถจิ๊ปขับมาจอด แล้วชายหนุ่มก็มองตามเข้าไปในโรงพยาบาลนั้น


“มาทำอะไรที่โรงพยาบาลนะ” พิษณุพูดออกมาเบาๆ อย่างสงสัย


“หริอว่า จะเจ็บขา” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว แล้วต้องให้รีบลงจากรถ เค้าเดินตามพาสนาเข้าไปในโรงพยาบาล อย่างห่างๆ


พาสนาเดินขึ้นลิฟธ์ เพื่อไปยังชั้น 9


พิษณุหยุดยืนมองลิฟธ์ เพื่อเช็คว่า พาสนาไปที่ชั้นไหน........แล้วไฟลิฟธ์ก็บอกว่า ลิฟธ์จอดที่ชั้น 9 ชายหนุ่มยิ้มออกมา ก่อนจะกดลิฟธ์เพื่อใช้บริการ


พาสนาเดินไปหยุดยืนที่หน้าห้องของคุณสุกานดา....เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด ก่อนจะผลักประตูเข้าไป คนภายในห้องหันมองมาทางเธอ แววตาของท่านยังคงมีอาการโกรธอยู่ พาสนามองไปรอบๆ ก็ไม่พบใครเลย


“มาทำไม....รอให้ฉันตายก่อนค่อยมาก็ได้” คุณสุพูดประชดประชันลูกสาวทันที


“........” พาสนามองมารดาด้วยแววตาเศร้า


เธอเดินเข้าไปหาคุณสุที่เตียง แล้วหญิงสาวก็พนมมือขึ้น ก้มกราบที่ปลายเตียงตรงเท้าของมารดา............คุณสุมองบุตรสาวด้วยอาการตกใจเล็กน้อย ท่านมองพาสนาที่กำลังกราบเท้าแม่ ด้วยแววตาซึ้งใจ


“แม่จ๋า ปลาขอโทษ แม่อย่าโกรธปลาอีกเลยนะ” พาสนาพูดออกมา น้ำเสียงสั่น


คุณสุมองบุตรสาว ท่านไม่สามารถพูดอะไรได้อีก คำว่า แม่ลูกกัน ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด มันเตือนท่านอยู่ตลอดเวลา น้ำตาของผู้เป็นมารดาซึมออกมา


“แม่.........แม่จะตบ จะตี จะด่าว่าปลายังไงก็ได้ แต่อย่าโกรธอย่าเกลียดปลาเลยนะ” พาสนาใช้สองมือของเธอกอดขาของมารดาเอาไว้ แล้วซบหน้าพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น


“ปลา....” คุณสุมองลูกสาวของท่านด้วยความสงสารจับใจ หัวอกแม่ไม่สามารถโกรธลูกได้นาน ยิ่งเห็นลูกสาวเสียน้ำตาแบบนี้ แม่ก็ยิ่งเสียใจ


“แม่....” พาสนาเงยหน้ามองมารดา น้ำตาใสๆ ของเธอไหลลงมา เธอโผเข้าหามารดา และสวมกอดท่านเอาไว้


“แม่ ปลาไม่ดี ปลาทำไม่ดี แม่อย่าโกรธปลาเลย แม่อย่าเกลียดปลาเลยนะ........ปลาขอโทษ”พาสนาพร่ำบอกกับมารดาด้วยน้ำตานองหน้า


“ปลา.....แม่ไม่เคยเกลียดแกเลยนะ แม่รักลูก” คุณสุกอดลูกสาวของท่านเอาไว้ น้ำตาของมารดาไหลซึมออกมา


“ต่อไปนี้ไม่ว่าแม่จะให้ปลาทำอะไร ปลาก็จะทำทุกอย่าง ปลาจะเลิกร้องเพลง ปลาจะอยู่กับแม่นะ” พาสนาบอกกับมารดา


“ปลาลูก......” คุณสุกอดลูกสาวพร้อมกับยิ้มออกมาทั้งน้ำตา


“แม่หายโกรธปลานะ...” พาสนาเงยหน้ามองมารดา


“อืมม...” คุณสุยอมยกโทษให้ลูกสาวของท่าน ไม่ว่าเธอจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหน แต่ยังไงเธอก็คือยอดดวงใจของท่าน มีหรือที่ท่านจะไม่ยอมให้อภัย


“แม่....” พาสนายิ้มดีใจ เธอกอดคุณสุไว้แน่น


“.........” คุณสุเองก็กอดลูกสาวเอาไว้เช่นกัน ท่านเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆ ที่แสนจะโกรธกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอพาสนาเข้ามากราบเท้า มาขอโทษ ความโกรธที่มีก็เลือนหายไปเสียหมด
.
.
.
ประตูลิฟธ์เปิดออก


พิษณุมองไปรอบๆ ก็เห็นห้องพักมากมาย ชายหนุ่มเดินมองไปทุกๆ ห้อง ก็ไปหยุดยืนที่หน้าห้อง 098 ชายหนุ่มมองผ่านช่องกระจกเล็กๆ ก็พบคนที่เค้ากำลังตามหาอยู่ ซึ่งกำลังกอดอยู่กับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งในห้องนั้น


พิษณุพอจะเดาออกว่า ผู้หญิงที่พาสนากำลังกอดอยู่นั้น คงจะเป็นมารดาของพาสนาแน่ๆ....ชายหนุ่มรู้สึกสลดลงทันที.....เค้าไม่อยากคิดว่า การที่มาพบมารดาของพาสนาในโรงพยาบาลแบบนี้ จะเป็นเพราะข่าวของเค้ากับพาสนา แต่ถ้าไม่ใช่ทำไมเวลามันประจวบเหมาะกันขนาดนี้..........ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินห่างออกมาจากห้องนั้น
.
.
.
“คนไข้ห้อง 098 หรือคะ” นางพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยประจำชั้นนี้ร้องถามพิษณุอีกครั้ง


“ครับ ไม่ทราบว่าท่านป่วยเป็นอะไรหรือครับ” พิษณุกล่าวถามกับนางพยาบาลอีกครั้ง


“เออออ......เป็นความลับของทางคนไข้นะคะ เราบอกไม่ได้จริงๆ คะ” นางพยาบาลตอบชายหนุ่มด้วยท่าทางอึกอัก


“บอกผม เถอะนะครับ......” พิษณุอยากรู้อาการ และสาเหตุที่คุณสุมานอนโรงพยาบาลอย่างมาก


“คือ........” นางพยาบาล รู้สึกว่าถ้าบอกไปก็ผิดจรรยาบรรณของนางพยาบาล แต่ท่าทางชายหนุ่มก็ดูจะเป็นห่วงคนไข้ไม่น้อย


“ทางเราบอกได้แต่ญาติของคนไข้นะคะ ยังไงขอโทษด้วยนะคะ” นางพยาบาลกล่าวอย่างจนใจ


“......” พิษณุขมวดคิ้วแน่น เค้าใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา


“งั้นผมก็ทราบได้ซิครับ เพราะผม...........เพราะผม........เป็นว่าที่ลูกเขยคนไข้หน่ะครับ” พิษณุกล่าวด้วยน้ำเสียงเขินๆ ออกมา


“ค่ะ.......” นางพยาบาลมองหน้าชายหนุ่ม


“ครับ ผมเป็นแฟนกลับลูกสาวคนไข้หน่ะครับ” พิษณุกล่าวยิ้มๆ


“อ้อ งั้นรอสักครู่นะคะ” นางพยาบาลมองหน้าชายหนุ่มแล้วต้องให้อมยิ้ม


“ครับ...” พิษณุยิ้มตอบ เค้ารอผลจากนางพยาบาลว่า คุณสุเป็นอะไรกันแน่


เวลาเพียงไม่นาน นางพยาบาลก็หยิบแฟ้มข้อมูลของคุณสุออกมาเปิดดู


“คุณสุกานดา มีอาการเครียดค่ะ เลยทำให้เกิดอาการความดันขึ้น แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้ว พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วคะ” นางพยาบาลตอบชายหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“เครียดจัด ความดันขึ้น” พิษณุทบทวนอาการของคุณสุ


“ค่ะ เห็นว่าทะเลาะกับแฟนของคุณหน่ะละคะ เลยเครียด” นางพยาบาลตอบพร้อมรอยยิ้ม


“อ้อ ครับ...” พิษณุยิ้มตอบ ก่อนจะถอยเดินออกมาจากเคาน์เตอร์


ชายหนุ่มทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น และคำตอบจากนางพยาบาล แล้วเค้าก็มั่นใจว่า คุณสุเข้าโรงพยาบาลเพราะเรื่องของเค้า กับพาสนาแน่ๆ


“เฮ้ออออออออ.............” พิษณุถอนหายใจออกมาเบาๆ เค้ารู้สึกว่าเค้าเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด


เค้าทำให้พาสนาตกที่นั่งลำบาก ทำให้เธอตกเป็นข่าวเสียๆ หายๆ ทำให้คุณสุมารดาของเธอไม่สบายใจ ทั้งหมดนี้มาจากเค้าทั้งนั้น ชายหนุ่มจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อรักษาเกียรติของเธอ


 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:38:09 น.  

 



ขณะที่สองแม่ลูกกำลังปรับความเข้าใจกัน ประตูห้องก็เปิดออก พาสนาหันไปมองคนที่เข้ามาในห้อง


“อ้าว ปลา มาแล้วหรอ” ปัฐวีกล่าวทักทายพาสนา


“อืมม หายไปไหนกันมา” พาสนาถามปัฐวีด้วยความสงสัย


“อ้อ พอดีไปส่งแม่ กับน้องแมงปอขึ้นรถกลับบ้านหน่ะ เห็นแมงปอบอกว่าจะไปเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน” ปัฐวีตอบพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อเห็นสองแม่ลูกปรับความเข้าใจกันได้แล้ว


“อืมม...” พาสนาพยักหน้าเบาๆ


“เออ ตุ้ม ช่วยอะไรหน่อยซิ” พาสนาบอกกับปัฐวีเมื่อนึกขึ้นได้ถึงเรื่องรถของเธอ


“มีอะไร” ปัฐวีถามขึ้นอย่างสงสัย


“ไปเอารถให้หน่อย แล้วเลยไปรับแมงปอเลย บอกให้แมงปอเอาเสื้อมาให้ฉันชุดหนึ่งด้วย” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม


“เอารถ เอาที่ไหน” ปัฐวีขมวดคิ้วถาม


“ที่ผับ........” พาสนาตอบชายหนุ่ม แล้วมองไปทางมารดา คุณสุมองพาสนาเหมือนจะไม่พอใจที่พาสนาพูดถึงผับอีก แต่ท่านก็ทำเป็นนิ่งเงียบเอาไว้


“แม่ วันนี้ปลาไปลาออกจากวงแล้วนะ” พาสนาบอกกับมารดา


“ปลา...” คุณสุเองก็ไม่คิดว่าพาสนาจะยอมลาออกง่ายๆ เพื่อท่าน


“พี่เจ กับเจ๊กานดาขอให้ปลาช่วยไปร้องให้เค้าอีก 2 อาทิตย์ แต่ถ้าแม่ไม่อยากให้ปลาไป ปลาก็จะไม่ไปนะ” พาสนากล่าวกับมารดา น้ำเสียงนิ่ง


คุณสุมองดูลูกสาวของท่าน ท่านรู้ดีว่าพาสนารักงานที่ผับมาก แต่ท่านก็ไม่ชอบที่จะเห็นเธอไปทำงานกลางคืนแบบนี้


“พี่เจ กับเจ๊กานดาเค้าก็ดีกับเรานิ........ช่วยเค้าอีกหน่อยก็ได้ แต่แกต้องกลับมาอยู่กับแม่หลัง 2 อาทิตย์ จริงๆ นะ” คุณสุบอกกับลูกสาวด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“จ๊ะแม่...” พาสนากอดมารดาอย่างอ้อนๆ


“อย่างนี้น้าสุก็สบายใจแล้วซิครับ” ปัฐวีพูดยิ้มๆ


“ยังหรอก ยังมีอีกเรื่อง แต่เอาไว้ค่อยพูดก็ได้” คุณสุกล่าวพร้อมกับยิ้มให้ชายหนุ่ม


“........” พาสนารู้ดีว่ามารดาของเธอต้องการพูดถึงอะไร แต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจมัน ในเวลานี้เธอขอแค่ให้คุณสุสบายใจก็พอแล้ว


ปัฐวีมองสองแม่ลูกกอดกัน ก็รู้สึกมีความสุขตามไปด้วย พาสนากอดกับมารดาอยู่นานสองนาน....จนเธอนึกได้ว่ามีเรื่องจะคุยกับปัฐวี


“แม่ เดี๋ยวปลามานะ” พาสนาบอกกับมารดา เพื่อจะออกไปข้างนอกกับปัฐวี


“อืมม...” คุณสุ พยักหน้าให้พาสนาเบาๆ


“ปะตุ้ม” พาสนาหันไปบอกกับชายหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่


ปัฐวีเดินตามพาสนาออกจากห้องไป คุณสุกานดา นั่งมองคนทั้งสองเดินตามกันออกไปด้วยรอยยิ้ม


พาสนาเดินออกมาข้างนอก สีหน้าที่ยิ้มอยู่ ได้เปลี่ยนไป เป็นสีหน้าเครียด


“เป็นอะไร เมื่อกี้ยังยิ้มอยู่เลย” ปัฐวีถามพาสนาอย่างสงสัย


“แกไปเอารถให้ฉันทีนะ...” พาสนาส่งกุญแจรถให้ปัฐวี


“ทำไมแกไม่ขับกลับมาเองวะ มีอะไร” ปัฐวีรับกุญแจรถมาจากหญิงสาว เค้าอดที่จะถามเธอไม่ได้


“ก็มีนักข่าวมาดักรอเยอะไปหมดหน่ะซิ” พาสนาตอบสีหน้าเครียด


“โห........ตามกันขนาดนี้เลยหรอ” ปัฐวีร้องถามด้วยความประหลาดใจ


“อืมม” พาสนาพยักหน้ารับ


“แล้วแกกลับมายังไงเนี่ยะ”


“ก็.........นั่งแท๊กซี่มา” พาสนาไม่กล้าบอกความจริงออกไป


“อืมม งั้นรอแปบละกัน เดี๋ยวจะไปเอารถให้ แล้วจะเลยไปรับน้องแมงปอด้วย อ้อ ยังไม่ได้กินข้าวใช่มั้ย เดี๋ยวซื้อข้าวมาฝากด้วยเลยละกัน” ปัฐวีบอกกับพาสนาก่อนจะเดินเข้าลิฟธ์


“ตุ้ม.......” พาสนาเรียกชายหนุ่มที่เดินเข้าไปในลิฟธ์


“หืมมม” ปัฐวีหันมองมาทางเธอ


“ขอบใจนะ” พาสนากล่าวกับเค้าน้ำเสียงเบา รอยยิ้มบางๆ


“อืมมม...เดี๋ยวมา” ปัฐวียกมือให้พาสนา พร้อมกับยิ้มกว้างให้เธอ


ประตูลิฟธ์ปิดลง พาสนามองออกไปทางระเบียงด้านนอก ตรงหน้าต่างข้างลิฟธ์........เธอมองออกไปถนนภายนอกนั้น ดวงตาที่มองเหม่ออกไป แสดงให้รู้ว่าภายในใจของเธอกำลังสับสน และว้าวุ่นอย่างที่สุด
.
.
.
ประตูห้องเปิดออก


คุณสุที่นั่งอยู่บนเตียงนอน หันมองไปทางประตูตอนแรกท่านคิดว่าเป็นพาสนา แต่เมื่อมองเห็นคนที่ก้าวเข้ามากลับไม่ใช่ หญิงวัยกลางคนจำหน้าชายหนุ่มได้ดี ท่านมองเค้าด้วยแววตาสงสัย และประหลาดใจอย่างที่สุด


“คุณ.....” คุณสุ มองชายหนุ่มที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาท่าน


“สวัสดีครับคุณแม่” พิษณุยกมือไหว้คุณสุอย่างอ่อนน้อม


“สะ...สวัสดี” คุณสุยกมือรับไหว้จากชายหนุ่ม ด้วยอาการงุนงง


“เอออ มากับปลามันเหรอ” คุณสุมองหาลูกสาวของท่าน แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของพาสนา


“ป่าวครับ ผมมาเอง”


“หรอ แล้ว.......แล้วมีอะไรหรือคะ” คุณสุยังคงตั้งตัวไม่ทัน ท่านไม่คิดว่าจะเจอพิษณุที่นี่ ในเวลานี้


“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณแม่ครับ” พิษณุกล่าวด้วยน้ำเสียง และท่าทางอ่อนน้อม


“คุยกับฉัน...” คุณสุมองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย


หญิงวัยกลางคนมองชายหนุ่มตรงหน้า เค้าดูท่าทางมีสง่า ตามแบบนักธุรกิจ หน้าตาสะอาดสะอ้าน หล่อเหลาคมเข้ม คำพูดคำจา กริยาท่าทาง ก็ทำให้คุณสุไม่สามารถจะพูดจาด่าทอเค้าได้เลย กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของท่าน คุณสุกานดาได้แต่นั่งนิ่ง เพื่อรอฟังว่าชายหนุ่มคนนี้จะมาพูดอะไรกับท่าน


“ผมทราบว่า คุณแม่.........วิตกเกี่ยวกับเรื่องของผมกับปลา” พิษณุเริ่มพูดในสิ่งที่เค้าตั้งใจเอาไว้


ชายหนุ่มมองไปยังคุณสุกานดา ท่าทางของท่านที่กำลังรอฟังเค้าพูดนั้น ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกมั่นใจที่จะพูดมากขึ้น ตอนแรกเค้าก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกันว่า เค้าอาจจะโดนท่านด่าทอ หรือว่า ไม่ยอมพูดด้วย แต่ตอนนี้เค้ารู้สึกสบายใจขึ้นมาก


“ผมทราบดีว่า เรื่องที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับปลาอย่างมาก และผมก็ขอยืนยันนะครับว่า ปลาไม่ได้เป็นอย่างที่หนังสือเขียนไว้” พิษณุกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง เพื่อย้ำให้คุณสุกานดาเข้าใจตามที่เค้าพูด


“คุณจะมาบอกฉันแค่นี้ใช่มั้ย” คุณสุถามกลับ


“ถ้า.......คุณแม่ไม่รังเกียจ ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างครับ” พิษณุสูดลมหายใจเข้าเต็มท้อง ก่อนจะพูดประโยคนี้ออกมา


“หะ..........” คุณสุทำท่าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน


“ครับ ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง......” พิษณุกล่าวย้ำอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น



 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:38:31 น.  

 



คุณสุมีอาการตกตะลึง กับประโยคที่ชายหนุ่มพูดออกมา ท่านนั่งจ้องหน้าเค้าด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูกว่าจะยิ้มดี หรือว่าจะโมโหดี


พิษณุยืนนิ่ง เพื่อรอคำตอบจากคุณสุกานดา


ด้านนอกประตูห้องนั้น พาสนายืนฟังสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมา ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง


“คะ....คุณว่ายังไงนะ” คุณสุร้องถามอีกฝ่าย ด้วยอาการตกประหม่า


“ผมรู้ตัวดีว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาต้องตกอยู่ในสภาพนี้ครับ.........จริงๆ เธอไม่ได้ทำอะไรเลย ผมต่างหากที่เป็นคนทำให้เธอต้องตกกระไดพลอยโจนไปกับผมด้วย แล้วข่าวเสียๆ หายๆ ที่เกิดขึ้นนี้ ผมเสียใจอย่างมาก” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกกับสิ่งที่เค้าได้ทำลงไปก่อนหน้านี้


“ผมก็ไม่ทราบนะครับว่า เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร แต่..........” พิษณุจ้องมองคุณสุ ด้วยแววตาจริงจัง


“เมื่อมันเกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว ผมก็ยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ผมไม่อยากให้ปลาต้องเสียหายไปมากกว่านี้ครับ” พิษณุกล่าวออกมาอย่างตั้งใจ


คุณสุกานดา มองหน้าชายหนุ่ม ท่านเห็นถึงแววตาที่จริงจังของเค้า


“คุณจะบอกว่า คุณยินดีรับผิดชอบลูกสาวฉันอย่างนั้นเหรอ” คุณสุถามกลับอีกครั้ง


“ครับ” พิษณุรับคำหนักแน่น


“อืมมม........” คุณสุทำท่าครุ่นคิดกับคำพูดของชายหนุ่ม


“ถ้าคุณแม่ไม่ขัดข้องอะไร ผมจะให้คุณพ่อ คุณแม่ของผม มาตกลงสู่ขอปลาโดยเร็วที่สุดครับ” พิษณุกล่าวกับคุณสุกานดา


หญิงวัยกลางคนนั่งจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า ท่านไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก ในขณะนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แบบที่ท่านเองก็ตั้งตัวไม่ติด


“คุณแม่ว่ายังไงครับ...” พิษณุกล่าวถามความคิดเห็นของคุณสุ


“เอออ...” คุณสุเองก็ไม่รู้จะตอบชายหนุ่มยังไงดี


“ไม่จำเป็น......” เสียงหวานดังมาจากประตูห้อง พาสนาเปิดประตูเข้ามา เธอจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เตียงของมารดาเธอ


พิษณุหันมองพาสนา ที่ยืนอยู่ตรงประตู


“เชิญเก็บความเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอมของนายกลับไป คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องให้ใครมารับผิดชอบ” พาสนากล่าวน้ำเสียงกร้าวใส่ชายหนุ่ม


“ปลา.......” พิษณุมองหน้าอีกฝ่าย


“เจ้าปลา......” คุณสุเองก็ทำเสียงปรามลูกสาว


“ถ้าคิดว่า ต้องมารับผิดชอบอะไรฉัน ไม่จำเป็น ขอแค่อย่ามายุ่งกับฉันอีก แค่นี้ก็เกินพอแล้ว” พาสนาพูดเสียงดังใส่หน้าชายหนุ่ม เธอเดินไปยืนข้างๆ คุณสุ


“เดี๋ยวซิปลา พี่......” พิษณุขมวดคิ้วมองอีกฝ่าย เค้าอยากให้เธอรู้ว่าเค้ายินดี และเต็มใจที่จะรับผิดชอบ และดูแลเธอ


“หึ.....กลับไปซะ เลิกยุ่ง เลิกจองเวรฉันซะที” พาสนากล่าวกับชายหนุ่มน้ำเสียงเรียบเย็น


“แต่พี่อยากจะรับผิดชอบเรื่องนี้นะ” พิษณุอยากจะบอกกับหญิงสาวถึงความตั้งใจของเค้า


“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่จำเป็น นายไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ฉันถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันมันโง่เอง โง่ที่หลงเชื่อคนอย่างนาย โง่ที่ตกหลุมพรางของนาย พอใจรึยังกลับไปได้แล้ว” พาสนาชี้มือไปที่ประตูห้อง


“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะปลา พี่แค่........” พิษณุอยากจะอธิบายให้พาสนาฟัง แต่ชายหนุ่มกลับโดนหญิงสาวใช้มือผลักเค้าให้เดินออกจากห้อง


“ออกไป.........ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างนาย ออกไป” พาสนาพูดไล่เค้า พร้อมกับผลักเค้าให้ออกจากห้อง


“เดี๋ยวซิปลา.......ฟังพี่ก่อนได้มั้ย.....” พิษณุร้องขอโอกาสจากพาสนา


“ไม่ ไม่มีอะไรต้องพูด ต้องฟังอีก นายไปซะ แล้วอย่ามาให้เห็นอีกเข้าใจมั้ย” พาสนาตวาดใส่เค้า


“ปลา....” พิษณุเรียกชื่อหญิงสาว ในขณะที่เค้าต้องถอยตามแรงผลักของเธอ


“ออกไป......” พาสนาผลักดันชายหนุ่มจนเค้าเดินถอยมาถึงประตูห้อง


“ปลาได้โปรดฟังพี่สักนิดซิ” พิษณุยังคงอ้อนวอนขอให้พาสนาฟังเค้า


“เชิญ......” พาสนาเปิดประตูห้อง แล้วไล่ชายหนุ่มให้ออกไป


“ปลา...” พิษณุยังคงไม่ยอมออกไปจากห้อง


“ฉันบอกว่าให้ออกไปไง” พาสนาใช้มือผลักเค้าอย่างแรง ชายหนุ่มเซถอยออกมาจากห้อง


ประตูห้องปิดลง


พิษณุยืนนิ่งอยู่หน้าประตูนั้น คำพูด และท่าทางของพาสนา แสดงให้เค้ารู้ว่า เธอโกรธเค้าจริงๆ และอาจไม่ยอมอภัยให้เค้าเลยด้วยซ้ำไป


พาสนายืนนิ่งตรงประตู.......เธอเองก็รู้สึกเจ็บลึกๆ อย่างบอกไม่ถูก


“ปลา...” คุณสุกานดาที่นั่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร้องเรียกลูกสาวของท่าน


“แม่ปลาปวดท้อง ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ” พาสนาไม่กล้าหันหน้าไปหามารดา เธอรีบเดินเข้าห้องน้ำทันที


คุณสุกานดามองอาการของลูกสาวของท่าน แล้วให้รู้สึกมึนงง และยิ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ก็ยิ่งทำให้ท่านสับสนไปอีก


พาสนาล๊อคประตูห้องน้ำอย่างแน่นหนา......เธอพิงหลังกับประตู หญิงสาวเม้มริมฝีปากของเธอแน่น พร้อมกับยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายของเธอเอาไว้


“ความรับผิดชอบหรอ.........ทำเพราะต้องรับผิดชอบงั้นเหรอ” พาสนาพูดออกมาเบาๆ แล้วเธอก็ต้องหลับตาลง ริมฝีปากของเธอเริ่มสั่น........น้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตา


พาสนายกมือขึ้นปิดปากของเธอเอาไว้แน่น เพราะกลัวว่าจะมีเสียงเล็ดลอดออกไปจากห้องน้ำ


ในเวลานี้หญิงสาวรู้สึกเจ็บลึกๆ ข้างใน เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพียงแค่ได้ยินชายหนุ่มพูดว่า จำเป็นต้องรับผิดชอบเธอ มันก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
.
.
.
พิษณุที่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้อง......เค้ารู้สึกสับสน และว้าวุ่นใจ กับการกระทำของพาสนา นี่เธอจะไม่ยอมให้อภัยเค้าเลยใช่มั้ย เธอจะไม่ยอมเปิดโอกาสให้เค้าอธิบาย จะไม่ยอมรับอะไรจากเค้าเลยจริงๆ หรือ รึว่า.........เธอไม่ได้อยากแต่งงานกับเค้า


“เธอรังเกียจพี่ขนาดนี้เลยเหรอ” พิษณุพูดออกมาเบาๆ


การที่พาสนาปฏิเสธเค้า เพราะเธอโกรธเค้าอยู่ หรือว่าเพราะเธอมีชายอีกคน.........ภาพของปัฐวีกอดกับพาสนาในวันนั้นผุดขึ้น มันกำลังรบกวนจิตใจชายหนุ่มอย่างมากมาย


“ใช่ซิ เค้ากำลังจะแต่งงานกันนิ เค้าถึงไม่อยากให้เรามายุ่ง” พิษณุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดนิดๆ


“เรามันบ้าไปเอง เพ้อไปเอง”


“หึ.......” ชายหนุ่มหัวเราะเย้ยตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากหน้าห้องนั้น


ภายในใจของเค้ากำลังเจ็บแปลบๆ ยิ่งนึกถึงสีหน้า และคำพูดของหญิงสาวเมื่อครู่ ก็ยิ่งทำให้เค้ารู้สึกจุกเสียดเข้าไปถึงข้างใน มันจุก มันเจ็บ และมันอึดอัดอย่างที่สุด


 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:38:49 น.  

 



ปัฐวีเดินทางมาถึงผับ Ninety Eight ชายหนุ่มเดินตรงไปยังลานจอดรถ......เค้าเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยืนออกันอยู่แถวท้ายรถของพาสนา


“ฮะฮึมมม...” ปัฐวีกระแอมเบาๆ ออกมา กลุ่มนักข่าว ต่างหันมองไปทางเค้า


“ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อยครับ” ปัฐวีกล่าวยิ้มๆ กับกลุ่มนักข่าว เหล่านักข่าวมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย แต่ก็ยอมหลบทางให้


ปัฐวีส่งยิ้มให้เหล่าบรรดานักข่าวอีกครั้ง ก่อนจะหยิบกุญแจรถขึ้นมาไขประตู......ชายหนุ่มเปิดประตูรถ และขึ้นไปประจำตำแหน่งคนขับ เหล่านักข่าวมองเค้าด้วยสีหน้าสงสัย และงุนงง อย่างมาก


“เดี๋ยวๆ น้องๆ นี่มันรถน้องเหรอ” นักข่าวคนหนึ่งอดใจร้องถามปัฐวีไม่ไหว


“อืมม ครับพี่” ปัฐวีหันมาส่งยิ้มกวนๆ ให้นักข่าว


“เฮ้ยย ได้ไง นี่มันรถของคุณปลาไม่ใช่หรอ” นักข่าวร้องถามสีหน้าสงสัย


“หืมมม ปลาไหน” ปัฐวีแกล้งทำเป็นถามกลับ


“อ้าว ก็น้องปลา พาสนาไง” นักข่าวอีกคนบอกกับปัฐวี


“ไม่ใช่แล้วพี่.........พวกพี่ก็ดูซิ ว่าตอนนี้ใครเป็นเจ้าของ” ปัฐวีพูดด้วยรอยยิ้ม


“อะไรหว้า....” นักข่าวอีก 2 คนหันมองหน้ากันพร้อมยกมือเกาศีรษะอย่างงุนงง


“ตอนนี้ใครขับก็รถคนนั้น หรือว่าผมหน้าตาเหมือนคุณปง คุณปลาอะไรของพวกพี่ล่ะ” ปัฐวีถามย้อนกลับอีก


“เอออออ....” นักข่าวต่างก็งุนงง กันไปใหญ่


“ผมจะไปล่ะ ขอทางหน่อยนะครับ เดี๋ยวถอยหลังไปชนใครเข้า จะว่าผมไม่ได้นะ” ปัฐวีพูดจบก็ใส่เกียร์ถอยหลังทันที


รถยนต์คันน้อยค่อยๆ ถอยหลังออกมาจากซอง เล่นเอาเหล่านักข่าวพากันถอยกรู


“ไปนะพี่” ปัฐวีหันมาโบกมือให้นักข่าว ก่อนจะขับรถออกไปจากลาน


“อะไรวะ อุตส่าห์มานั่งเฝ้านานสองนาน รถคนอื่นซะนี่” นักข่าวคนหนึ่งบ่นออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ


“แต่หนูจำได้ว่าเป็นรถคุณปลาจริงๆ นะ” นักข่าวสาวตัวเล็กพูดขึ้น


“ปลาที่ไหน ปลากระโห้หน่ะซิ ไปโน้นแล้วไง เสียเวลาจริงๆ วุ้ย” นักข่าวที่ดูสูงวัยกว่า บ่นออกมาอย่างหัวเสีย
.
.
.
ปัฐวีขับรถออกมาจากลาน เค้าชำเลืองมองกลุ่มนักข่าวทะเลาะกันทางกระจกส่องหลัง แล้วให้อดขำไม่ได้ ชายหนุ่มขับรถออกมาทางถนน.....รถยนต์คันสวยคุ้นตาขับสวนเข้ามาทันที


“แอ๊ะ นั่นรถปลานิ” อรินยาจำรถของพาสนาได้ดี เธอรีบบอกกับปัญจรี


“จอดๆ ปุ่น” อรินยารีบบอกกับปัญจรีให้จอดรถ เพื่อจะเรียกรถที่กำลังจะสวนผ่านไป


ปัญจรีรีบจอดตามเสียงของเพื่อนสาว พร้อมกับกดไฟสูงสาดไปยังรถที่สวนเข้ามา ปัฐวีเห็นไฟสูงจากรถอีกคัน เค้าจึงจอดรถเทียบข้างๆ รถคันหรู


“ปลาคะ...” อรินยาตะโกนออกมาจากรถ โดยปัญจรีเลื่อนกระจกด้านเธอลง เพื่อจะได้พูดคุยกับรถอีกคันได้สะดวกขึ้น


ปัฐวีเลื่อนกระจกลงเช่นกัน แล้วเค้าก็ต้องพบกับใบหน้าสวยของหญิงสาว


“อ้าว คุณตุ้ม” อรินยาที่ชะโงกหน้ามาคุยกล่าวทักปัฐวี


“สวัสดีครับคุณยาย่า คุณปุ่น” ชายหนุ่มทักทายสองสาว


“แล้วปลาล่ะคะ” อรินยามองหาพาสนาแต่ก็ไม่เห็นเธออยู่ในรถ


“ปลาไม่อยู่หรอกครับ เค้าไปอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนแม่เค้าหน่ะครับ” ปัฐวีตอบพร้อมยิ้มให้สาวๆ


“แม่ปลาเป็นอะไรไปคะ” อรินยาถามด้วยความอยากรู้


“น้าสุไม่สบายนิดหน่อยครับ แต่พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว” ปัฐวีตอบ


“อ้อ ค่ะ แล้วคุณตุ้มมาทำอะไรที่นี่คะ” อรินยาถามต่อ


“ผมมาเอารถให้ปลาครับ....ปลามันหนีพวกนักข่าว”


“ว้า......แล้วงี้ณุ จะมาเจอปลาหรอเนี่ยะ” อรินยาทำท่าถอนใจออกมา เมื่อคิดว่าพิษณุคงไม่ได้เจอพาสนาตามเคย


“คุณณุ........คุณณุทำไมหรือครับ” ปัฐวีขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย


“ณุ บอกว่าจะมาหาปลา มาคุยกับปลาค่ะ” อรินยาตอบ


“สงสัยจะคลาดกันแล้วมั้งคะ” อรินยาเดาเหตุการณ์เอาเอง


“คงงั้นมั้งครับ” ปัฐวีเห็นด้วยกับหญิงสาว


“ยังไง ฝากบอกปลาด้วยนะคะว่า ยาย่า เป็นห่วง” อรินยากล่าวกับชายหนุ่ม พร้อมกับยิ้มเศร้าๆ


“ครับ ผมจะบอกให้ ปลาคงดีใจนะครับที่คุณยาย่าเป็นห่วง” ปัฐวีพูดปลอบใจหญิงสาว


“ค่ะ...” อรินยาตอบรับน้ำเสียงแผ่วเบา


“งั้นเราไปกันเถอะยาย่า” ปัญจรีบอกกับอรินยาหลังจากพูดคุยกันจบแล้ว


“เราไปโรงพยาบาลกันมั้ยปุ่น” อรินยาถามเพื่อนรัก


“ไปทำไม แม่ปลาเค้าคงไม่....” ปัญจรีพูดขึ้น จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะคุณสุหรอกที่ทำให้เธอไม่กล้าไปโรงพยาบาล แต่ที่เธอไม่อยากไปเพราะไม่อยากเห็น ไม่อยากรับรู้เรื่องราวระหว่างพาสนา และปัฐวีต่างหาก


“แต่ฉันอยากไปนี่ปุ่น” อรินยายังคงร้องอยากจะไปเยี่ยมคุณสุอยู่ดี


“แต่....” ปัญจรีอยากจะปฏิเสธ แต่พอเห็นสีหน้าของอรินยา ก็ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก


“คุณตุ้มคะ พอดีพวกเราอยากไปเยี่ยมคุณแม่ของปลาหน่อยได้มั้ยคะ แล้วยาย่าก็อยากจะคุยกับปลาด้วย” อรินยาถามชายหนุ่ม


“พอดีเดี๋ยวผมต้องไปรับน้องแมงปอที่บ้านปลาก่อนนะครับ” ปัฐวีบอกกับสาวๆ


“เค้าไม่อยากให้ตามไปจะตามไปทำไมอีกยาย่า” ปัญจรีบอกกับเพื่อนรักน้ำเสียงเรียบ


ปัฐวีฟังอีกฝ่ายพูด ก็ทำสีหน้านิ่งขึ้นมาเช่นกัน


“ผมไม่ได้พูดว่าไม่ให้ไป แต่ผมบอกว่าเดี๋ยวต้องแวะที่อื่นก่อนต่างหาก” ปัฐวีกล่าวสีหน้าเรียบ ปัญจรีหันมองชายหนุ่ม ด้วยแววตาขุ่น


“เอาล่ะๆ เอาเป็นว่า เดี๋ยวเราจะขับรถตามไปแล้วกันนะคะ” อรินยารีบพูดขึ้นเมื่อเห็นคนทั้งสองชักสีหน้าบึ้งใส่กัน


“งั้น ขับตามมานะครับ” ปัฐวีพูดกระแทกเสียงใส่สาวสวยที่ขับรถอีกคัน


“.......” ปัญจรีขมวดคิ้ว มองชายหนุ่มสีหน้ายุ่ง


แล้วปัฐวีก็ขับรถนำสาวๆ ออกไปตามทางถนน เพื่อไปยังบ้านของพาสนา และจะไปพากันไปที่โรงพยาบาล


 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:39:07 น.  

 


ปัฐวีขับรถกลับไปรับแมงปอที่บ้าน และเดินทางไปยังโรงพยาบาล โดยมีสองสาวขับรถตามตลอดทาง


“พี่ตุ้ม นั่นรถใครหรอ” แมงปอสงสัยอยู่นาน ถึงรถยนต์คันหรูที่กำลังขับตามรถของพวกเธออยู่


“อ้อ......รถของเพื่อนปลาหน่ะ” ปัฐวีตอบยิ้มๆ


“เพื่อนพี่ปลา.........” แมงปอขมวดคิ้วมองไปทางรถที่วิ่งตามมาข้างหลังด้วยความสงสัย


“สงสัยอะไรนักหึ เป็นเด็กเป็นเล็ก” ปัฐวียกมือจับศีรษะแมงปอโยกเบาๆ อย่างเอ็นดู


“ก็ปอไม่เคยเห็นนิคะ” แมงปอตอบ


“เอาน่า ไม่รู้หน่ะดีแล้วจะได้ไม่ปวดหัว” ปัฐวียิ้มให้สาวน้อย ก่อนจะตั้งใจขับรถต่อ


สาวน้อยแมงปอมองไปทางด้านหลังอีกครั้ง ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจอีกต่อไป
.
.
.
พาสนายืนมองตัวเองในกระจก เธอจัดการล้างหน้าล้างตาตัวเอง เพื่อลบรอยหมองเศร้าในใจออกให้หมด ดวงตาคู่สวยจ้องมองใบหน้าตัวเองในกระจก


“อย่าใจอ่อน........เข้มแข็งไว้ มันก็แค่แผนร้ายๆ ของเค้าเท่านั้น” พาสนาบอกกับตัวเองในกระจกเงา


“อย่าไปหลงเชื่อเค้า อย่าเชื่อ.....” พาสนายังคงย้ำอย่างหนักแน่น เธอสูดลมหายใจเข้า แล้วทำหน้าให้เป็นปรกติก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ


คุณสุนั่งมองลูกสาวของท่านเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยความรู้สึกเป็นห่วง


“ปลา...” คุณสุอยากจะคุยกับพาสนาถึงเรื่องราวของพิษณุ


“แม่ หิวมั้ย” พาสนาทำเป็นไม่สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอกล่าวถามคุณสุด้วยรอยยิ้ม


“ปลา เรื่องคุณคนนั้น...” คุณสุกล่าวถึงพิษณุ


“อืมม เมื่อกี้ปลาเดินขึ้นมา ข้างล่างมีขนมน่ากินๆ ขายเยอะเลย แม่อยากกินอะไรมั้ย ปลาไปซื้อให้” พาสนาพูดเฉไฉไปทางอื่น เพื่อไม่ให้แม่ของเธอพูดถึงชายคนนั้นอีก


“ปลา....แกกับเค้ามีอะไรกัน บอกแม่ได้มั้ย” คุณสุยังคงจะพูดถึงเรื่องของพิษณุอยู่ดี


“..........” พาสนานิ่งเงียบไป ไม่ว่าเธอจะทำไม่สนใจสักเท่าไหร่ แต่คุณสุกลับสนใจอย่างมาก เธอก็ไม่อาจเลี่ยงที่จะตอบได้


“แม่......” พาสนาเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ มารดาของเธอ


“ถ้าปลาต้องแต่งงานกับใครสักคน ต้องไม่ใช่เพราะความรับผิดชอบ” พาสนาพูดจบก็เข้าไปกอดมารดาของเธอเอาไว้


คุณสุมองลูกสาวคนเดียวของท่าน ด้วยแววตาสงสาร


“ปลาจะไม่ให้ตัวเองต้องเป็นภาระของใคร เป็นตัวที่ผูกมัดใครให้เค้าไม่มีความสุข...” พาสนาเงยหน้าบอกกับคุณสุ


“แม่ไม่โกรธปลานะ” พาสนาถามมารดาของเธอ


“ไม่หรอก ทุกอย่างเป็นความสุขของแก แม่จะไปว่าอะไร” คุณสุ ส่ายหน้าเบาๆ ให้กับลูกสาวของท่าน


“........” พาสนาซบหน้ากับอกมารดา น้ำตาของเธอกำลังจะไหลซึมออกมา แต่เธอก็พยายามเก็บมันเอาไว้


คุณสุมองดูพาสนาด้วยความสงสาร ท่านไม่รู้ว่าลูกสาวของท่านกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ดูท่าทางตอนนี้เธอกำลังเป็นทุกข์อยู่ไม่น้อย ท่านยกมือขึ้นลูบผมพาสนาเบาๆ
.
.
.
ปัฐวีขับรถมาจอดที่ลานหน้าโรงพยาบาล โดยมีรถของสองสาวที่จอดไม่ห่างกันนัก เมื่อลงจากรถ แมงปอมองไปยังสองสาวนั่นอีกครั้ง แล้วสาวน้อยก็รู้ทันทีว่าพวกเธอคือใคร


“พี่ตุ้ม นั่นคุณยาย่านี่” แมงปอหันไปถามปัฐวีเมื่อเห็นอรินยาเดินลงมาจากรถ


“อืมมม” ปัฐวีขานรับเสียงยาน


“แล้ว...” แมงปอไม่อยากคิดว่า ถ้าคุณสุเห็นหน้าของอรินยาจะอาการหนักมากขึ้นแค่ไหน


“ไม่มีอะไรหรอกน่า” ปัฐวียังคงทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร


“แต่...” แมงปอยังคงหันมองไปที่สองสาวอีกครั้ง


“ไปๆๆ แล้วไม่ต้องพูดมากหล่ะ” ปัฐวีจูงมือแมงปอเดินเข้าไปในโรงพยาบาล เมื่อสาวน้อยทำท่าสนใจสองสาวไฮโซมากเกินไป


ปัญจรี และอรินยา เดินตามปัฐวี และแมงปอเข้าไปในโรงพยาบาล


“เดี๋ยวพวกคุณรอตรงนี้ก่อนนะ ผมจะไปตามปลาให้” ปัฐวีหันมาบอกกับสองสาวเมื่อเดินเข้ามาในโรงพยาบาลแล้ว


“ค่ะ” อรินยาพยักหน้ารับพร้อมยิ้มหวาน


แมงปอมองสองสาวแล้วต้องให้รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ปัฐวีมองอาการของสาวน้อย ก็รีบดึงมือเธอให้เดินไปขึ้นลิฟธ์ทันที


“เป็นอะไร มองเค้าซะตาไม่กระพริบ” ปัฐวีแกล้งกระซิบถามแมงปอ


“สวยอ่ะพี่ตุ้ม สวยทั้งคู่เลย “แมงปอตอบปัฐวี แล้วทำท่าชะเง้อคอมองไปทางอรินยาอีกครั้ง


“สวยแล้วไง...” ปัฐวีถามกลับ


“โธ่ พี่ตุ้ม ก็เค้าสวยจริงๆ นิ” แมงปอมองชายหนุ่มข้างๆ แล้วให้รู้สึกขัดใจ


“แล้วไม่ต้องไปพูดให้น้าสุฟังล่ะ เดี๋ยวได้เป็นเรื่องอีก” ปัฐวีกล่าวกำชับกับแมงปอ


“จ๊ะ...” แมงปอยิ้มให้ชายหนุ่ม


แล้วทั้งคู่ก็ขึ้นลิฟธ์ไปยังชั้น 9 โดยที่สองสาวยืนรออยู่ชั้นล่าง


ปัฐวี และแมงปอ เดินเข้ามาในห้องของคุณสุ พาสนานั่งอยู่ข้างๆ คุณสุ เงยหน้ามองคนทั้งสอง


“อ้าว มากันแล้วเหรอ” พาสนาร้องถามคนทั้งคู่


“จ๊ะพี่ปลา แมงปอเอาชุดมาให้ด้วยนะ” แมงปอบอกกับพาสนาด้วยรอยยิ้ม


“ขอบใจ” พาสนายิ้มตอบ


“เอออ ปลา...” ปัฐวีเรียกพาสนาพร้อมกับกวักมือให้เธอ


“หะ...” พาสนามองชายหนุ่มอย่างสงสัย


“ไปข้างล่างกับฉันหน่อยซิ” ปัฐวีบอกกับพาสนาแล้วหันมองไปทางคุณสุ


“มีอะไร” พาสนาขมวดคิ้วถาม


“เอออ ไปหน่อยนะ น้าสุครับ เดี๋ยวยืมตัวปลาแปบนะครับ” ปัฐวีหันไปพูดด้วยรอยยื้มกับคุณสุ


“อืมมจ๊ะ” คุณสุยิ้มตอบ


“มีอะไรหะ ทำลับลมคมใน” พาสนาลุกเดินไปทางปัฐวี เธอมองเค้าด้วยสีหน้าสงสัย


“เอออ น่า ปะๆๆ” ปัฐวีคว้ามือของพาสนา แล้วเดินจูงเธอออกไปด้านนอก


“เจ้าตุ้มมันมีอะไรนะ” คุณสุมองท่าทางของปัฐวีแล้วให้อดคิดไม่ได้


“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะป้า นี่ดีกว่า.......แมงปอซื้อโจ๊กอร่อยๆ มาฝากด้วย ทานโจ๊กนะป้า” แมงปอหยิบถุงโจ๊กเทใส่ชาม แล้วชวนคุณสุพูดคุยเรื่องอื่นแทน



 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:39:26 น.  

 



“เดี๋ยวๆๆ ตุ้มมีอะไรกันแน่ ถึงลากฉันมาแบบนี้หน่ะหะ” พาสนาถามปัฐวีทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้อง


“ไม่ต้องถาม ตามมาก่อน” ปัฐวีไม่ยอมตอบ เค้ายังคงดึงให้พาสนาเดินตามเค้าต่อไป


“ไม่ไป ถ้าแกไม่บอกฉัน ฉันไม่ไปกับแก” พาสนาขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่าย


“เฮ้อออออออ.........” ปัฐวีถอนหายใจออกมาเบาๆ


“คุณยาย่า เค้ามารอแกอยู่ข้างล่าง” ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวถึงสาวสวยที่รอเธออยู่ชั้นล่าง


“....ยาย่าหรอ” พาสนามองหน้าปัฐวีด้วยอาการแปลกใจ


“อืมม” ปัฐวีพยักหน้าให้อีกฝ่าย


“เค้ามาทำไมอีก ก็.......” พาสนาขมวดคิ้วเล็กๆ และทำท่าใช้ความคิด


“ฉันไปเจอเค้าที่หน้าผับ คงมีเรื่องคุยกับแกนั่นล่ะ” ปัฐวีบอกกับพาสนา


พาสนานิ่งเงียบไป.......แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปในลิฟธ์เพื่อลงไปชั้นล่าง
.
.
.
เมื่อมาถึงชั้นล่าง พาสนาก็พบกับสองสาวที่ยืนรอเธออยู่ คนหนึ่งหันมายิ้มหวานให้เธอ แต่ในดวงตาของเธอกลับเศร้าเหลือเกิน และอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่แววตาก็ไม่ต่างจากหญิงสาวอีกคน ต่างกันที่แววตานั้นมันหม่นๆ หมองๆ

“ปลาคะ...” อรินยายิ้มหวาน เดินตรงเข้ามาหาพาสนาอย่างดีใจ แต่แล้วเธอก็ต้องหยุดนิ่งลง เมื่อคิดถึงความจริงที่เกิดขึ้น


“ยาย่า มีอะไรกับปลาหรือฮะ” พาสนากล่าวถามอรินยาพร้อมยิ้มบางๆ ให้เธอ


“ยาย่ามีเรื่องอยากคุยกับปลาค่ะ เราออกไปคุยข้างนอกกันดีมั้ยคะ” อรินยามองไปรอบๆ ซึ่งมีทั้งคนป่วย ญาติคนป่วย และนางพยาบาลเดินไปมามากมาย เธอเห็นว่าไม่สะดวกนักที่จะคุยกับพาสนาตรงนี้


“ได้ซิ” พาสนาพยักหน้าให้สาวสวย


“งั้น ไปทางสวนด้านหลังดีกว่า” พาสนาบอกกับอรินยา แล้วเดินนำเธอไปทางด้านสวนเล็กๆ ด้านหลังโรงพยาบาล


“ค่ะ” อรินยาเดินตามพาสนาออกไปทางสวนด้านหลัง


ปัฐวียืนมองพาสนาเดินออกไปกับอรินยา แล้วเค้าก็หันมองไปทางผู้หญิงอีกคน


“จะตามเค้าไปมั้ย” ปัฐวีถามหญิงสาวน้ำเสียงเรียบ


เธอมองกลับมาทางเค้า ไม่มีคำพูดใด มีเพียงแววตาที่เศร้า และแฝงความเจ็บปวดเอาไว้......หญิงสาวเดินตามพาสนาและอรินยาไปห่างๆ ปัฐวีมองเธอด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เค้าก้มหน้าเดินตามสามสาวไปเช่นกัน


เมื่อเดินมาถึงสวนเล็กๆ ด้านหลังโรงพยาบาล....พาสนาก็หยุดเดินแล้วหันกลับมาทางอรินยา


“มีอะไรจะพูดกับปลาหรือฮะ” พาสนาถามอรินยา


“ปลาคะ...” อรินยามองหน้าพาสนา ความรู้สึกที่เธอมีมันแทบจะเออล้นออกมา แต่จะให้เธอเข้าไปกอดพาสนาอีกคงไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บอย่างที่สุด


“ปลาเห็นข่าวแล้วใช่มั้ยคะ” อรินยากล่าวถามน้ำเสียงห่วงใย


“อืมมม...” พาสนาพยักหน้าให้อรินยาเบาๆ เธอหันมองออกไปทางสวนด้านหน้า


“ยาย่าเชื่อปลานะคะว่า ปลาไม่ได้เป็นแบบนั้น พวกนักข่าวก็ทำเกินไป เขียนข่าวเพื่อขายโดยไม่คิดถึงคนที่ตกเป็นข่าวเลย” อรินยาพูดอย่างเข้าใจพาสนาดี


“ขอบคุณนะ ที่ยาย่าเข้าใจปลา” พาสนากล่าวน้ำเสียงนิ่ง เธอเดินไปตามสนามหญ้าเบื้องหน้า


อรินยาเดินตามพาสนาไปเรื่อยๆ...


“ปลาคะ...ยาย่ามีเรื่องอยากจะบอก” อรินยากล่าวขึ้นถึงเรื่องที่เธออยากจะบอกกับพาสนา


“หืมม” พาสนาหันมองมาทางเธอ


“เรื่องนี้ ณุเค้าไม่เกี่ยวด้วยเลยนะคะ” อรินยาพูดในสิ่งที่อยากจะพูดออกมา พาสนาหยุดยืนนิ่ง เมื่อได้ยินชื่อของชายคนนั้น


“เมื่อก่อน ณุเค้าอาจทำร้ายกาจไว้มาก แต่เรื่องในหนังสือนั่น ณุเค้ายืนยันกับยาย่านะคะว่า เค้าไม่ได้เป็นคนทำ” อรินยาพูดอธิบายให้พาสนาเข้าใจ


“.......” พาสนาฟังอรินยาพูดอย่างเงียบๆ


“ณุเค้าบอกยาย่าว่า เค้าจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างให้หมด เค้ายินดีทำทุกอย่างที่ปลาต้องการ ไม่ว่าปลาจะให้เค้าทำอะไร” อรินยามองพาสนาเพื่อดูว่าพาสนาจะตอบกลับว่าอย่างไร


“หึ....ฝากยาย่าไปบอกเค้านะว่า ขอบคุณที่จะรับผิดชอบ แต่ปลาไม่ต้องการ...” พาสนาบอกกับอรินยาน้ำเสียงฮ้วนขึ้น


“แต่ปลาคะ...” อรินยาขมวดคิ้วเล็กๆ มองพาสนา


“ไม่จำเป็น.....ขอแค่ให้เค้าหยุดมายุ่งกับปลา อย่ามาวุ่นวายกับปลาอีก” พาสนาบอกกับอรินยา น้ำเสียงเรียบ แต่แววตาของเธอกลับเศร้าเหลือเกิน


อรินยามองตาของพาสนา มีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น มันทำให้อรินยารู้สึกวูบๆ ในใจ


“ปลา...” อรินยามองหน้าพาสนา เธอรู้สึกว่าพาสนากับพิษณุต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีรูปแบบนั้นออกมา แต่มันอะไรกันแน่นะ


“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ปลาขอตัวนะ พอดีทิ้งแม่ลงมานานแล้ว” พาสนาตัดบท เดินห่างออกมา เธอไม่อยากพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป


“ปลาคะ...” อรินยาเรียกพาสนา ขณะที่กำลังเดินผ่านเธอกลับไป


“ปลากับณุ มีอะไรกันแน่คะ” อรินยาตัดสินใจถามออกมา คำถามนี้ทำเอาพาสนาแทบตั้งตัวไม่อยู่ อาการชาวูบเกิดขึ้น หัวใจเต้นถี่


“ว่าไงคะ ยาย่าไม่เชื่อข่าวแน่นอน แต่รูป........ทำไมถึงมีรูปแบบนี้เกิดขึ้นได้” อรินยากล่าวถามอย่างสงสัย


คำถามนี้ตรงใจใครหลายคน รวมทั้งปัฐวี และปัญจรีที่ยืนฟังอยู่ห่างๆ ด้วยเช่นกัน


พาสนายืนนิ่ง เธอไม่สามารถตอบคำถามของหญิงสาวแสนสวยได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับพิษณุ


“เรื่องรูปนั่น เพราะความบังเอิญครับ” เสียงทุ้มดังมาจากอีกฝั่งของสนามหญ้า ทุกคนต่างหันมองไปทางเจ้าของเสียง พิษณุเดินออกมาจากเก้าอี้ยาวที่อยู่อีกฝั่งของสนามหญ้า ทำเอาทุกคนมีอาการประหลาดใจ


“รูปที่บ้านพัก เกิดจากผมกับปลา สะดุดล้ม” พิษณุตอบคำถามของอรินยา เค้าเดินมาใกล้ๆ พาสนาที่ยืนนิ่งอยู่


“ส่วนรูปที่เกาะ......” ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าของพาสนา ดวงตาของเค้าจ้องมองเธอนิ่ง


“รูปนั้น.....” เค้าจ้องมองเธอ ที่กำลังก้มหน้ามองพื้นหญ้าสีเขียว เพื่อหลบตาเค้า


อรินยา ปัฐวี และปัญจรี ต่างก็รอฟังคำบอกเล่าของชายหนุ่มอย่างจดจ่อ


“มันเกิดจาก.........” พิษณุมองหญิงสาวตรงหน้า แววตาของเค้ากำลังบอกกับเธอ ให้เธอรับฟังในสิ่งที่เค้าจะพูด


“มันไม่ได้เกิดจากอะไรทั้งนั้น มันเป็นแค่ความโง่ โง่ที่หลงเชื่อกลลวงของคนไม่ซื่อ” พาสนาเงยหน้าตอบแทนชายหนุ่ม เธอจ้องมองเค้าด้วยแววตาขุ่นเคือง ความอัดอั้นที่มี กำลังรุมกัดกินหัวใจของเธอ


“ปลา....มันไม่ใช่...” พิษณุขมวดคิ้วมองหญิงสาว


“มันเป็นบทเรียนที่มีค่า ทำให้ฉันตาสว่าง ได้รู้ธาตุแท้ของคนบางคน คนที่จ้องทำร้ายฉันตลอดเวลา” พาสนาพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด และน้อยใจ


“ไม่จริง พี่ไม่เคยคิดหลอกปลานะ เรื่องนั้นพี่ไม่รู้จริงๆ” พิษณุกล่าวย้ำให้พาสนารับฟัง และเชื่อเค้า


“ถ้าไม่จริง แล้วรูปนั้นเกิดได้ยังไง ก็ในเมื่อ.......” พาสนาจ้องมองเค้าแววตาของเธอมันแสดงถึงความเจ็บปวดภายใน


“ปลาฉันเป็นพยานให้คุณณุได้นะ เรื่องนี้เค้าไม่รู้เรื่องจริงๆ” ปัฐวีเองก็ช่วยเสริมให้พิษณุ


“......” พาสนาหันมองไปทางปัฐวี ที่ยืนจ้องมองพวกเธออยู่


 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:39:53 น.  

 



“ตุ้ม...” พาสนามองไปทางปัฐวี ที่กำลังช่วยพิษณุยืนยันถึงเรื่องราวต่างๆ


“วันนั้นฉันเป็นพยานให้คุณณุเค้าได้ ....เรื่องไปเกาะ ฉันก็เป็นคนคะยั้นคะยอให้แกไปเอง เรื่องตกน้ำยิ่งไปกันใหญ่ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ฉะนั้นแกอย่าไม่ว่าคุณณุเรื่องนี้เลย” ปัฐวีบอกกับพาสนาเพื่อไม่ให้เธอเข้าใจพิษณุผิดๆ


“แล้วรูปมันมีมาได้ยังไง ก็ในเมื่อวันนั้น...” พาสนาเถียงกลับ เธอหันมองหน้าชายหนุ่มข้างๆ อย่างเคืองๆ


“พี่เองก็ไม่รู้..” พิษณุบอกกับพาสนาเพื่อให้เธอเชื่อเค้า


“........” พาสนาขมวดคิ้วยุ่ง เธอหันมองไปทางปัฐวีอีกครั้ง


“ฉันว่า มันคงมีคนแอบตามถ่ายรูปแกกับคุณณุอยู่” ปัฐวีบอกกับพาสนา


“........” หญิงสาวฟังคำพูดของปัฐวี แล้วมองกลับมายังพิษณุอีกครั้ง


ชายหนุ่มจ้องมองเธอด้วยแววตาขอความเข้าใจ เค้าอยากให้เธอเชื่อ และเข้าใจเค้า ว่าเค้าไม่ได้เป็นคนทำเรื่องพวกนี้


พาสนามองชายหนุ่มข้างๆ เธอเริ่มสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากพิษณุไม่ได้ทำจริงๆ แล้วใครกัน ทำไมรูปมันถึงได้ออกไปได้ ......เธอขมวดคิ้วมองชายหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ


“เมื่อก่อนอาจใช่ที่พี่ทำ และสร้างเรื่องขึ้น แต่ครั้งนี้พี่ขอสาบานด้วยเกียรติของพี่ พี่ไม่รู้เรื่องจริงๆ...” พิษณุกล่าวกับหญิงสาวตรงหน้า ด้วยแววตาจริงจัง เค้าอยากให้เธอรับฟัง และเชื่อเค้าอีกสักครั้ง


พาสนามองชายหนุ่มตรงหน้า เธอมองเค้าด้วยแววตาบางอย่าง ความรู้สึกลึกๆ ที่มีมันพร่ำบอกให้เธอเชื่อเค้า และไว้ใจเค้าอีกสักครั้ง แต่ด้วยสิ่งที่เธอเจอมา มันทำให้เธอไม่อาจวางใจที่จะเชื่อเค้าได้อีก


“ไม่ว่าเพราะด้วยเหตุอะไรก็ตาม แต่เมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว.......” พิษณุจ้องมองดวงตาคู่สวยตรงหน้า เค้าเอื้อมมือของเค้าจับมือของเธอขึ้นมากุมไว้


“พี่ยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง...” ชายหนุ่มกล่าวกับเธอน้ำเสียงนุ่ม


พาสนามองคนที่อยู่ตรงหน้า ชายที่กุมมือของเธอเอาไว้


ปัฐวียืนมองคนทั้งคู่ ด้วยความงุนงง เมื่อได้ยินพิษณุกล่าวแบบนั้นออกมา มันเหมือนว่าเค้ากำลังขอพาสนาแต่งงาน เพียงแต่คำพูดดูจะแสดงความรับผิดชอบมากไปหน่อย


อรินยาเองก็มองคนทั้งคู่ หญิงสาวรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในใจ เธอมองพาสนา และพิษณุ เธอเห็นแววตาบางอยู่ในตาของพาสนา แววตาแบบนั้น ที่พาสนาไม่เคยใช้มองเธอเลยแม้สักครั้งเดียว แววตาแบบนั้น ที่เธออยากให้พาสนามองมาทางเธอบ้าง


“.......ฉันบอกแล้วไงว่า อย่ามายุ่งกับฉันอีก” พาสนาดึงมือของเธอออกจากมือชายหนุ่ม เธอหันหลังให้เค้า และทำท่าจะก้าวเดินออกมา


“ปลายังไม่ยอมเชื่อพี่อีกเหรอ” พิษณุร้องถามพาสนา ด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน


“ในเมื่อทุกคนช่วยกันยืนยันให้ ฉันก็จะเชื่อ” พาสนาหยุดตอบเค้า


“แล้วทำไม...” พิษณุขมวดคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้า


“ฉันบอกแล้วไง ว่าไม่จำเป็นสำหรับความรับผิดชอบใดๆ ไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบอะไรฉัน” พาสนาตอบกลับ แม้น้ำเสียงจะดูราบเรียบ แต่ภายในใจของเธอ มันกลับรู้สึกเจ็บแปลบๆ


“.........” ชายหนุ่มยืนนิ่งมองเธอ ด้วยความไม่เข้าใจ


พาสนาก้าวเดินจากมาด้วยความรู้สึกที่แสนจะเจ็บ และจุกที่หัวใจอย่างที่สุด


“เพราะเธอกำลังจะแต่งงานกับตุ้มใช่มั้ย” พิษณุถามออกมา มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจเค้ามาโดยตลอด


พาสนาหยุดเดิน และยืนนิ่ง เมื่อได้ยินคำถามนี้


ปัฐวีที่ยืนมองคนทั้งคู่ ก็ถึงกับสะดุ้ง


ปัญจรีที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากปัฐวี หันมองเค้า ด้วยแววตาเจ็บปวด


“ใช่มั้ย เธอจะแต่งกับเค้าใช่มั้ย” พิษณุถามย้ำอีกครั้ง คำถามนี้มันทำเอาเค้าเจ็บ และแสบเข้าไปถึงขั้วหัวใจ แต่เค้าก็ต้องถามมันออกมา


พาสนายืนนิ่งอยู่กับที่ ..........เธอมองไปทางปัฐวีที่ยืนจ้องมาทางเธอ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าไปลึก


“ใช่........ฉันจะแต่งกับตุ้ม” พาสนาตอบออกมาน้ำเสียงฉะฉาน แต่ในดวงตาของเธอกับมีน้ำใสๆ เออคลออยู่


“........” พิษณุฟังคำตอบจากหญิงสาว ก็แทบจะล้มทั้งยืน เค้ารู้สึกเหมือนมีมีดคมๆ ฟันลงมากลางหัวใจของเค้า


“ไอ้ปลา...” ปัฐวีเรียกชื่อพาสนาออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกแบบคลาดไม่ถึงว่าเธอจะตอบออกมาแบบนี้


อรินยาที่ยืนอยู่ด้านหลังของพาสนา และพิษณุ ก็รู้คำตอบนี้ดีอยู่แล้ว ตั้งแต่อยู่ที่บ้านพักตากอากาศที่หัวหิน แต่เมื่อได้ยินคำนี้มาจากปากของพาสนา เธอเองก็ต้องถึงกับน้ำตาร่วงลงมา


ปัญจรีที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากปัฐวี เธอมองเค้าด้วยแววตาเจ็บปวด แต่ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากเธอ หญิงสาว หันหลัง แล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ


พาสนาเดินตรงไปหาปัฐวีที่ยืนงง อยู่


“ไปกันเถอะตุ้ม” พาสนากล่าวกับปัฐวีน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะจับมือเค้า แล้วเดินจากตรงนั้นไป


พิษณุยืนมองคนสองคนที่เดินจูงมือกันไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีอะไรจะบรรยายถึงความรู้สึกของชายหนุ่มได้อีก เค้าได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ เหมือนรูปปั้นก็ไม่ปาน ความรู้สึกหนาวเหน็บพัดวูบมาเกาะกินหัวใจของเค้า ความรู้สึกเจ็บปวดลึกๆ มันกำลังทำให้เค้าแทบจะทนไม่ไหว
.
.
.
พาสนาเดินกลับเข้าภายในโรงพยาบาลกับปัฐวี เธอพยายามเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ แม้ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน แต่เธอต้องทนมันให้ได้ ต้องผ่านไปให้ได้


ปัฐวีมองหญิงสาวข้างๆ สีหน้าของเธอมันกำลังแสดงให้เค้ารู้ว่าเธอกำลังอ่อนแอเต็มทน ท่าทางที่แสดงออกมา มันตรงข้ามกับความรู้สึกภายในใจของเธอ


“ปลา...” ปัฐวีเรียกชื่อพาสนา พร้อมกับบีบมือของเธอ


“ตุ้ม...” พาสนามองปัฐวี ดวงตาของเธอ มีน้ำใสๆ เออคลอ


“....ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่...” ปัฐวีบอกกับเธอ เค้าจ้องมองเธอซึ่งดูว่าเธอกำลังอยู่ในอาการทุกข์ใจอย่างที่สุด


“ตุ้ม ฉัน....” พาสนาสุดจะทนเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้ เธอซบหน้ากับไหล่ของชายหนุ่ม น้ำตาใสๆ ไหลออกมา เปียกไหล่ของเค้า


“ปลา...” ปัฐวียกมือโอบหญิงสาวเอาไว้ เค้าไม่รู้ว่าจะปลอบใจเธออย่างไรดี


เค้าเองก็พอจะมองออก ภาพในวันนั้นที่เกาะ ทำให้เค้ารู้ว่าระหว่างเธอ กับพิษณุต้องมีอะไรที่ลึกซึ้งมากแน่ๆ ไม่อย่างนั้น ทั้งคู่คงไม่นอนกอดกันแบบนั้น และพาสนาก็มีอาการเป็นห่วงพิษณุจนเห็นได้ชัด ทั้งคู่ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สื่อหากัน....แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่กั้นพวกเค้าเอาไว้


“ฉันว่าถ้าแกรักเค้า แกก็ควรจะ...” ปัฐวีพูดออกมาเบาๆ บอกกับเธอ


“ไม่...ฉันไม่ได้รักเค้า ไม่มีทาง.......ฉันไม่ได้รัก” พาสนาตอบปฏิเสธออกมา คำตอบที่มันไม่ตรงกับความรู้สึกที่มี ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น


“แกจะทรมานตัวเอง ทรมานเค้าไปทำไมกันหะ” ปัฐวีถามอีกฝ่าย


“ก็อย่างที่แกบอก ฉันกับเค้า มันอยู่คนละโลกกัน เค้าอาจจะแค่นึกสนุก อยากลองเล่นๆ กับฉันก็ได้ คนอย่างพวกเค้าจะมาอะไรมากมายกับคนอย่างเรา” พาสนาตอบออกมา เธอรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกแบบนี้


“โธ่ ไอ้ปลา....” ปัฐวีฟังคำตอบจากหญิงสาว นี่เธอเก็บคำพูดของเค้าไปคิดขนาดนี้เลยหรือ


“ที่ฉันพูดก็แค่เตือนแก ว่าถ้าเค้าแค่เล่นๆ ก็ให้ระวัง แต่ไม่ใช่.......” ปัฐวีอยากจะอธิบายให้พาสนาเข้าใจถึงสิ่งที่เค้าต้องการสื่อออกไป


“ไม่ต้องพูดแล้วล่ะตุ้ม ฉันตัดสินใจแล้ว” พาสนาเงยหน้าพูดกับชายหนุ่ม


“ให้มันจบแบบนี้ล่ะดีแล้ว...” เธอบอกกับเค้า ทั้งที่มีน้ำตาไหลที่แก้ม


ปัฐวีมองพาสนาตรงหน้า เค้าได้แต่ถอนหายใจออกมา


 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:40:09 น.  

 


พาสนา พยายามหักห้ามความรู้สึกที่มี เธอคงจะเก็บมันเอาไว้ในใจลึกๆ ไม่ให้ใครได้เห็นอีก.....หญิงสาวเดินตามทาง เพื่อกลับไปยังห้องของคุณสุ


ปัฐวี ที่ยืนมองพาสนาเดินซึมออกไป เค้ารู้สึกหนักใจแทนเธอเหลือเกิน เค้าไม่ได้ตั้งใจให้พาสนาคิดอะไรแบบนี้ ที่เค้าพูดออกไปเมื่อวันนั้น ก็แค่อยากเตือนเธอให้คิดให้ดีๆ แต่หากว่าพิษณุแสดงความจริงใจถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร


แต่พาสนากลับไม่เข้าใจอย่างที่เค้าต้องการสื่อให้เธอเข้าใจ พาสนากลับใช้กำแพงหนาๆ ในใจของเธอ ตั้งป้อมกั้นพิษณุเอาไว้ จนตัวเธอเองก็ต้องเจ็บไปด้วย ต่างคนต่างเจ็บ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรกัน


“เฮ้อออออ....” ปัฐวีถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วชายหนุ่มก็รู้สึกว่ามีสายตาของใครอีกคนกำลังจ้องมองมาทางเค้า


ชายหนุ่มหันมองไปทางด้านข้างตรงแถวเคาน์เตอร์ที่นางพยาบาลอยู่ ดวงตาของสาวสวยคู่นั้น กำลังจ้องมองเค้านิ่ง แววตาของเธอมันเศร้า และแสดงความเจ็บปวดภายในใจของเธอ


“คุณปุ่น...” ปัฐวีทำท่าจะเดินตรงไปหาเธอ แต่หญิงสาวกับหันหลังให้เค้า แล้วเดินจากไป


ชายหนุ่มได้แต่ยืนนิ่งมองหญิงสาวที่เดินจากไป


ภายในใจของเค้ามันเจ็บแปลบๆ ยิ่งเห็นดวงตาคู่นั้นของเธอมันยิ่งทำให้เค้ารู้สึกจุกแน่นไปหมด เหมือนคนที่กำลังหายใจไม่ออก เหมือนทุกอย่างดูไม่สดใสเหมือนที่เป็น เค้าคงทำได้แค่ ยืนนิ่งอยู่กับที่ และมองเธอจากไป โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย
.
.
.
อรินยา ยืนน้ำตาไหลอยู่ด้านหลังของพิษณุ หญิงสาวร่างบางไม่อาจพูดอะไรได้เลย เธอกำลังรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอพยายามทำใจเอาไว้แล้ว แต่ไม่รู้ทำไม เธอถึงยังคงเจ็บอยู่ ยังคงรู้สึกทรมานอยู่


พิษณุที่ได้ฟังคำตอบจากพาสนา ได้แต่ยืนนิ่ง เค้ารู้สึกเจ็บที่หัวใจ แต่ชายหนุ่มก็คงทำได้แค่ ยอมรับคำตัดสินใจจากเธอแต่โดยดี ทุกอย่างมันเกิดจากเค้าเอง เค้าจึงต้องยอมรับมัน


“ผมไปส่งนะ ยาย่า...” พิษณุบอกกับอรินยา ที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเค้า


“........” หญิงสาวไม่พูดอะไร เธอเอาแต่ยืนนิ่ง


“หึ.....” ชายหนุ่มหัวเราะในคอเบาๆ ตอนแรกเค้าพยายามแกล้งพาสนาทุกวิถีทาง เพื่อให้เธอไม่ได้รักกับอรินยา


แต่ในเวลานี้ ทั้งเค้า และอรินยา ต่างก็ต้องตกอยู่ในที่นั่งเดียวกัน ในสภาพเดียวกัน ทั้งเค้าและเธอ ต่างก็รักคนๆ เดียวกัน แต่ก็ไม่ใครสามารถครอบครองพาสนาได้เลย เพราะในที่สุด พาสนาก็ไปแต่งงานกับคนอื่น






พิษณุขับรถมาส่งอรินยาที่คอนโด


หญิงสาวลงจากรถด้วยท่าทางซึมๆ....แม้ว่าน้ำตาของเธอจะหยุดไหลไปแล้ว แต่สีหน้า และท่าทางของเธอกลับเศร้าซึมอย่างเห็นได้ชัด


หลังจากส่งอรินยาที่คอนโดเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ขับรถกลับบ้านไตรศร คุณกรุง และคุณจินตนาที่นั่งอยู่ที่ชุดโซฟาหน้าบ้าน มองดูบุตรชายที่เดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางซึมๆ


“ณุ...” คุณกรุงเรียกพิษณุน้ำเสียงเรียบ


ชายหนุ่มหยุดยืนนิ่ง...


“เรื่องที่ให้ไปจัดการ ว่ายังไง” คุณกรุงถามเรื่องราวของลูกชายของท่าน


พิษณุไม่สามารถตอบคำถามอะไรของคุณกรุงได้เลย เพราะพาสนาตอบปฏิเสธเค้ามาแบบนี้ ชายหนุ่มก็จนหนทางเช่นกัน


“ว่าไงลูก คุณพ่อรอคำตอบอยู่นะ” คุณจินตนาเองก็อยากทราบผลเช่นกัน


“ถ้าแกหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ฉันก็จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งล่ะนะ” คุณกรุงกล่าวเสียงเครียด


พิษณุยืนนิ่ง เค้ารู้ดีว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่สามารถปล่อยให้ผ่านเลยไปเฉยๆ ได้ เพราะนั่นคือชื่อเสียงของบริษัทฯ.....หากเมื่อคุณกรุงต้องการจัดการแก้ปัญหาเอง เค้าก็คงต้องยอมรับมัน


“ผมก็แล้วแต่คุณพ่อครับ.....ผมขอตัวนะครับ” พิษณุกล่าวน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะเดินขึ้นห้องของเค้า


“อ้าว ลูก...” คุณจินตนาฟังคำตอบของพิษณุแล้วให้รู้สึกไม่เข้าใจ ท่านเรียกเค้าเอาไว้ แต่พิษณุกลับไม่ยอมอยู่พูดคุยอะไรอีก


“ลูกตอบแบบนี้หมายความว่าไงคะคุณ” คุณจินตนาหันมาร้องถามสามี


คุณกรุงที่ยืนฟังคำตอบของพิษณุ ก็ได้แต่ทำหน้าเครียดๆ


“คุณโทรไปหาท่านฑูต กับคุณหญิงทีซิ” คุณกรุงหันไปบอกกับภรรยา


“โทรไปหาท่านฑูต...โทรไปทำไมคะ” คุณจินตนากล่าวถามสามีอย่างสงสัย


คุณกรุงไม่ตอบอะไร ท่านยังคงมีสีหน้าเครียดตามเดิม คุณจินตนามองหน้าสามี แล้วให้คิดอะไรบางอย่างออก


“นี่อย่าบอกนะคะว่า.....” คุณจินตนาจ้องมองสามีด้วยความประหลาดใจ


“อืมม คราวนี้คงสมใจคุณล่ะ” คุณกรุงตอบภรรยา


“.....” คุณจินตนา ได้แต่ทำหน้าประหลาดใจอย่างที่สุด กับการตัดสินใจของสามี
.
.
.
พิษณุขึ้นมาถึงห้องนอนของเค้า.....ชายหนุ่มนั่งลงกับที่นอนด้วยอาการเหนื่อยๆ สองมือของเค้ากุมขมับเอาไว้ อย่างเครียดๆ


ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น เค้าคงไปฝืนอะไรไม่ได้ ในเมื่อเธอเลือกแล้ว เค้าก็ต้องยอมรับมันไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม


“.........” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนกับที่นอน สองตาของเค้ามองไปที่โคมไฟบนเพดานห้อง


แสงไฟอ่อนๆ จากโคมไฟสวย ส่องแสงออกมา.........เพียงชั่วครู่ ภาพใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น รอยยิ้มหวานๆ มันทำให้หัวใจเค้าแทบแตกระเบิดออกมา ดวงตาสวยๆ ที่แม้เวลาทำดุใส่เค้าก็ยังน่ามอง แก้มใสๆ สีชมพูอ่อนเป็นธรรมชาติ น่ามอง น่าหยิกนั้นยังคงตรึงตราไม่รู้ลืม ริมฝีปากอิ่มสวยแสนจะนุ่มนวลนั้น ก็ทำให้เค้าไม่อาจลืมรสสัมผัสได้เลย


แต่ทุกอย่างกำลังจะกลายเป็นของชายคนอื่น กลายเป็นสิ่งที่เค้าไม่สามารถแตะต้องได้อีก..........ยิ่งคิดชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนรุ่มในหัวใจ แต่เค้าก็คงทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว นอกจากทำใจ


เค้าพยายามลืมใบหน้านี้ แต่ทำยังไงก็ทำไม่ได้ แม้จะหลับตาลงแล้วก็ตาม ภาพของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเค้า


“ปลา....” ชายหนุ่มเรียกชื่อของเธอออกมา ทั้งที่เค้าหลับตาลงเพื่อไม่ต้องเห็นใบหน้าของเธอ


ภาพใบหน้าของหญิงสาวยังคงวนเวียนในสมองของเค้า.......แล้วภาพที่เธอเดินจูงมือไปกับชายอีกคนก็ผุดขึ้น มันยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบที่ขั้วหัวใจ


“.....ปลา...ทำไม ทำไม....” ชายหนุ่มเรียกชื่อของเธอออกมาอีกครั้ง เค้ายกมือขึ้นกุมใบหน้าของเค้าเอาไว้ เพราะตอนนี้มันมีหยดน้ำใสๆ ไหลซึมออกมา
.
.
.
พาสนานั่งมองออกไปนอกหน้าต่างห้อง...บรรยากาศในห้องเงียบสงบ คุณสุกานดาหลับไปแล้ว และแมงปอเองก็หลับไปแล้วเช่นกัน


ส่วนปัฐวี หลังจากมาอยู่พูดคุยเป็นเพื่อนเธอได้สักพัก เค้าก็กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ตอนนี้คงเหลือห้องมืดๆ กับเธอที่นั่งพิงศีรษะมองไปนอกหน้าต่างห้อง


บรรยากาศกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน ช่างดูมีแสงสี ระรานตา แต่ทำไม ภายในใจของคนที่นั่งมอง กลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับแสงสีนั้นเลย มันกลับเงียบเหงา และหดหู่


หญิงสาวพิงศีรษะกับกระจกหน้าต่าง ดวงตาของเธอมองออกไปข้างนอก หากมองดีๆ จะเห็นน้ำใสๆ ที่ไหลออกจากดวงตาของเธอ มันไหลออกมาช้าๆ ทีละหยด ทีละหยด...








************จบตอนที่16************




 

โดย: kokoo_129 19 ตุลาคม 2552 22:41:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.