ยินต้อนรับสู่ blog คนแก่
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Bairin ป่าพลัม ที่ Osaka-Jo

bairin(梅林)ป่าพลัม ที่ Osaka-Jo

Ume Prunus mume หรือ Jappanese apricot

class : Magnoliopsida

family : Rosaceae

สกุล : Prunus

ชนิด : Mume Prunus

พลัมญี่ปุ่นหรือ Ume มีต้นกำเหนิดจากประเทศจีนที่ถูกนำมาปลูกในญี่ปุ่นภายหลังและมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาหลายศตวรรษ



ปลูกต้นไว้ชื่นชมดอกและครั้นมีลูกมีผล ก็เก็บมาไว้ทำอาหาร หรือย่างอื่นทานได้อีก



แม้แต่กิ่งก้านก็ยังตัดมา แช่น้ำทิ้งไว้สองสามวันแล้วต้ม ทำสีย้อมผ้าได้อีกด้วย กิ่งของต้น อุเม จะมีสีออกสีแดง นิดๆ



ญี่ปุ่นบอกว่า kaikoku umare no nihonsodachi เกิดที่เมืองนอกแต่มาเติบโตที่ญี่ปุ่น



ตามสมุดบันทีกของญี่ปุ่นบอกว่า ume เข้ามาเมื่อ ศตวรรษที่ 8 จนกระทั้ง
มาถึงสมัย Edo ตอนปลาย ก็เริ่มมีการปลูกกันตามบ้านและทำเป็นสวน
ประดับมากขึ้น



ซึ่งถ้าเทียบกันกับจีนในสมัยเดียวกันนั้นญี่ปุ่นให้ความสนใจใน ume มากกว่า
และคงจะพอมองเห็นแล้วว่าญี่ปุ่นชอบดอก ume ลึกซึ้งแค่ใหน




umeในญี่ปุ่น มีอยู่กว่า 300 ชนิด รวมทั้งผลที่ทาน และดอกสำหรับดูชม

ต้นนี้ชื่อ Atsuma nishiki



ในสมัยนั้น ญี่ปุ่นเรียก ดอก ume ว่า mume แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า
ชื่อที่เรียกก็เพี้ยนไปเป็น ume



เพราะญี่ปุ่นนิยมปลุกดอก ume กันมาก จนเป็นที่หลงผิด คิดว่า
นี่คือดอกไม้ของญี่ปุ่น ก็เลยเอาชื่อของญี่ปุ่นมาใช้ อย่างเป็นทางการ
ว่า prunus mumeไปซะเลย

shidare ume (pink)



ume ดอกไม้ต้นไม้ในช่วงหน้าหนาว ออกดอกประมาณ ปลายมกรา-มีนา



จะเริ่มติดผลตอนหน้าฝน





ume ถือว่าเป็นต้นไม้ที่มีเสน่ห์ และแข็งแกร่งต่อการต่อสู้เป็นหนึ่งในสามของ
ต้นไม้ในฤดูหนาว ที่ได้แก่ต้นสน ต้นใผ่ และต้น ume



สมัยนั้นมีศิลปของการร้อยกรองเกี่ยวกับดอก ume และการวาดรูปดอก
ume กับนกด้วยเต็มไปหมด และยังได้ถูกเลือกเข้าเป็น หนึ่งใน สี่
ของดอกไม้งามอีกด้วย อันได้แก่ กล้วยไม้ ดอกเบญจมาศ ดอกบัว
และดอก ume
ขนาดในไพ่นกกระจอก ก็ยังมีรูปดอก อุเม เขียนบนไพ่ด้วยเลย
(เป็นดาราจริงๆนะ)



ผลของ ume เอามาหมักกับเกลือ ดองไว้ ทำเป็นลูกบ้วยเค็มไว้ทานอีกด้วย



ญี่ปุ่นบอกว่าทานลูกบ๊วยวันละเม็ด จะทำให้ร่างกายแข็งแรงดีขึ้น
จะสังเกตุเห็นได้ว่า กล่องปิ่นโตข้าวของญี่ปุ่นมักจะมี ลูกบ๊วยวางไว้
ตรงกลางของข้าวสวยด้วย



หรืออีกอย่างนั่นคือ สัญลักษณ์ธงชาติของญี่ปุ่นไงคะ
พื้นขาว ตรงกลางเป็นสีแดง



sutsuka no seki



kagoshimakou



















ผลของ ume ที่ยังดิบอยู่ เราเอามาทำหล้า ume shu(梅酒) ได้ด้วยนะ
โดยใช้ ผล ume 1 กิโล น้ำตาลหิน 1 กิโล เหล้า sho shu 1ขวด(1.8 l)
ผสมกันปิดฝาไว้ให้แน่น ทิ้งไว้สักสามสี่เดือน ก็ทานได้แล้ว
(ถ้าอยากทราบวิธีทำจริงๆแล้ว หลังไมค์มาจะบอกให้)



ผลดิบของ ume




เหล้า ume shu(梅酒)ที่ทำไว้แล้วจะเก็บไว้ได้นานหลายๆปีทีเดียว
หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนจากเหล้าขาวเป็น วิสกี้ หรือ บรั่นดี ก็ย่อมได้
สว่นผลที่หลังจากดองไว้แล้วตักออกมาทานได้ อร่อยมากๆเลย
บางทีแอบไปไถของบ้านเพื่อนมาทานก็มี แต่ที่บ้านเดี๋ยวนี้ไม่ทำแล้ว
(ขี้เกียจอะ)



ซื้อแบบเป็นกล่องอย่างข้างบนสบายดีกว่า(แค่พอมีติดบ้านนิดนุง)บางทีมี
เพื่อนมาทานอาหารที่บ้าน รินทานจิบกันนิดหน่อยพอเป็นพิธี



หรือบางทีก็ผสมกับน้ำอัดลมดื่มเล่นพอให้หายคอแห้ง



เอ้า! แถมกับแกล้มให้อีกติ๊ดนึง นั่งจิบไป ดูรูปไปพอเพลินๆนะ



ไปละสวัสดี


Create Date : 01 มีนาคม 2553
Last Update : 22 ตุลาคม 2554 8:16:36 น. 9 comments
Counter : 2213 Pageviews.

 
ว๊าวอยากชิม....เหล้า ume ....จัง..


โดย: Calla Lily วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:7:11:58 น.  

 
ลูกก็อร่อย ดอกก็สวย ฮิๆ


โดย: endless man วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:11:28:18 น.  

 
ดอกสวยจังเลยคะ แอบชอบสีขาวเป็นพิเศษ

ปล.ดอกเค้ามีกลิ่นมั๊ยคะ


โดย: Violeta Lady วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:15:24:35 น.  

 
ว๊าว ดอกสวยมากเลยครับ
รูปสวยๆ มีหลายรูป ดูกันเต็มอิ่มเลย


โดย: kitpooh22 วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:19:42:50 น.  

 
แวะมาทักทายยามดึกค่ะ สบายดีนะคะ ไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อย แต่ก็ระลึกถึงเสมอนะคะ
เทคแคร์ค่ะ


โดย: บี๋ (Yushi ) วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:23:59:15 น.  

 
เป็นไม้มหัศจรรย์จริงๆ ค่ะ
สวย หอม กินได้ด้วย
บ้านเราปลูกได้บ้างน่าจะดีนะคะ


โดย: mutcha_nu วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:9:49:12 น.  

 
ชอบดอกสีชมพูค่ะ ดูสวยหวานมากๆเลย


โดย: อมยิ้มนิดนิด IP: 203.144.144.164 วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:12:16:00 น.  

 
อยากมีความสุขท่ามกลางป่าพลัมบ้างจัง
1,200 ต้น ดูจากจำนวนแล้วต้องเป็นป่าที่สวยมากๆเลย
แถมกลิ่นยังหอมอีก...



โดย: kitpooh22 วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:21:24:46 น.  

 
เราเลื่อนภาพดูไปทีละรูปๆ
สวยมากๆเลยค่ะ เราว่าเราไม่เคยเห็นดอกไม้แบบนี้นี้ที่นี่เลย
เป็นดอกท้อใช่หรือเปล่าคะ
เพราะเคยเห็นเป็นสัญญลักษณ์อะไร
สักอย่างของคนจีน
...
ที่นี่ยังไม่มีดอกไม้อะไรบานออกมาให้เห็นเลยค่ะ
อยากดูเชอรี่บลอสซั่มจัง
เวลาเค้าบานพร้อมๆกันแล้วสวยยยจังเลย


โดย: Suessapple วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:5:37:54 น.  

Katai_Akiko
Location :
กรุงเทพฯ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




 


วันที่ 31 ตุลาคม

free counters free counters
ใส่รูปให้กล่อง Comment
New Comments
Friends' blogs
[Add Katai_Akiko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.