Ain't Just About 'CUTE'
Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
13 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

>> JUNO อาจโดนแบน! กลัวเด็กไทยจะท้องก่อนแต่ง.. Huh!?! Honest to blog? (+review)



ได้ข่าวมาจากคุณ nanoguy ที่มาฝากข่าวในบลอกของพี่หมอ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ว่า

...JUNO โดนแบนไปเรียบร้อยแล้ว
ด้วยเหตุผลว่ากลัวเด็กไทย "ท้องก่อนแต่ง" เอาอย่างนางเอกในเรื่อง...



ความเห็นส่วนตัว: เหตุผลทางกองเซนเซอร์ อาจจะฟังดู "ตลกอีกแหละ" แต่จริงๆแล้ว เป็นเหตุผลที่ไม่ตลกนะ แล้วก็ไม่เกินจริงนะ น่าปรบมือ ที่เขาห่วงเยาวชนได้ขนาดนี้ (ไม่ได้ประชด) คือ เหตุผลน่ะ ไม่ปัญญาอ่อนหรอก แต่การกระทำ.. การตัดสินใจที่จะแบนหนังเรื่องนี้.. ปัญญาอ่อนตรงนี้แหละ
่เราเห็นว่า จริงอยู่ว่า หนังเรื่องนี้เปิดกว้างในเนิ้อเรื่องส่วนนี้ (คือไม่ได้ไปตัดสิน หรือ บอกกับคนดูว่า ดีหรือไม่ไดี จริงๆแล้ว ไม่ได้ย้ำหนักย้ำหนาในเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แค่ใช้มาเป็นตัวขับเรื่อง ซึ่งก็ดีแล้ว -ในแง่ของการเป็นหนัง-) แต่การแบนหนังเรื่องนี้ด้วยเหตุผลนี้ จะดูเป็นการตื่นจนเกินเหตุ และไม่ใช้การแก้ไขปัญหาเลย..
คือ ยอมรับนะว่า เหตุผลที่กล่าวมา อาจจะเกิดขึ้นจริงๆ .. และสิ่งนี้ ก็ไม่ควรถูกละเลย.. แต่การห้ามฉายหนังเรื่องนี้.. แน่นอนว่า่ ไม่ใช่ทางแก้.. ไม่เลยด้วยซ้ำ

แต่อย่าเพิ่งตระหนกไปนะคะ ข่าวนี้ เป็นข่าวที่ "ยังไม่ยืนยัน"..

(คือ ค่อยไปตระหนกกัน ตอนยืนยันแล้ว ฮ่าๆๆ)



JUNO ภาพยนตร์เข้าชิงออสการ์ปีที่ผ่านมา เป็นผลงานการกำกับของ Jason Reitman ที่เคยสร้างเครดิตให้ตัวเองจาก Thank You for Smoking.

(แว้บบบบบ!... Thank You for Smoking เป็นหนังตลกร้าย ที่เล่าเรื่องแสบๆของผู้ชายแสบๆได้อย่างแสบสันต์ถึงใจ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถก๋ากั๋นได้ตลอดรอดฝั่ง, B+)

JUNO ชื่อของหนังเรื่องนี้นั้น เป็นชื่อของตัวเอกของเรื่อง .. สาวน้อย.. ก๋ากั๋น.. ไม่มีแบ๊วส์ .. ที่เขาเรียกกันว่า "เนิร์ด" ..

ส่วนบ้านเรา เขาเรียก "แนว"..

(หรือดิฉันเข้าใจอะไรผิดไป?)

พระเอกในเรื่องนี้ ก็มีสภาพทางสังคมวัยรุ่น ไม่ต่างจากนางเอก เท่าไหร่.. แม้ว่าจะเป็นนักกีฬา (ที่จริงๆ ก็ไม่ได้อยู่ในมาดของ "นักกีฬา" เท่าไหร่).. แต่แว้บเดียวที่ได้เห็น กับกางเกงสั้นจู่ตัวเหลืองอร่ามตาตัวนั้น.. ก็รู้แล้วว่า.. เด็กแนว แน่ๆเลย..

(แต่ก็แอบคิดไม่ได้ว่า.. น่ารักเหมือนกันแฮะ)

เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า .. ทั้งสองคน ปิ๊ด ปี่ ปิ๊ด กัน.. แล้วดัน ป่อง ขึ้นมา.. ตัวนางเอกเองเลยรู้จักที่จะ "โตขึ้น".. พร้อมการโตขึ้นๆเรื่อยของท้องตัวเอง



จุดแข็งของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ บทภาพยนตร์ ที่สามารถเล่าเรื่องเดิมๆ ที่ถูกเล่ามาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน ในมุมมองที่ไม่ซ้ำซาก.. ด้วยการเล่าเรื่องราวหนักๆ อย่าง การตั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจในช่วงวัยรุ่น การทำแท้ง ให้อยู่ในอารมณ์ขำๆ ในมุมมองของความเป็น หนังตลก

แต่กระนั้น บทภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่เคยลืมว่า สิ่งที่มันกำลังเล่า สิ่งที่มันกำลังพูดถึง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น.. ถึงเรื่องราวต่างๆ จะถูกเล่าในอารมณ์ขำๆ แต่ก็ไม่เคยตลกโปกฮาจนเกินขอบเขต.. จนกลายเป็น "ไร้สาระ" ไป

นอกจากความยอดดเยี่ยมของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ในความ "ไม่จำเจ" แล้ว.. หน้าที่ของบทภาพยนตร์ ในส่วนของตัวละคร (การปูแบรกกราวน์ พัฒนาการของตัวละคร) ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน (ถึงจะไม่เยี่ยมเท่า)

จุดเด่น ในส่วนนี้ คือ การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ เขียนตัวละครต่างๆ ไม่ให้อยู่ในกรอบความเป็น "Stereotype" เกินไป.. โดยการให้มุมมองใหม่ๆกับ บุคลิกตัวละคร ที่เคยถูกกมองให้เป็น "ตัวละครรอง" มาตลอด (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาพยนตร์วัยรุ่นทั่วไป) หรือยิ่งไปกว่านั้น .. ถูกมองเป็นแค่ "ส่วนประกอบเล็กๆ" ..

ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิงที่ เพียงแค่ ไม่ชอบเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ ไม่ชอบใส่กระโปรงสีชมพูสดใส ก็ถูกตราหน้าว่าเป็น อีเพี้ยน (a freak)

หรือถ้าเป็นผู้ชาย .. ถ้าร่างผอมๆ ถ้าไม่ใช่นักฟุตบอล ถ้าไม่มั่วหญิง ไม่เล่นยา.. ก็เอาไปเลย ตำแหน่ง ไอ้แปลก ประจำรุ่น (a geek)..

จริงๆ เราก็เห็นกันมาแล้ว กับการนำตัวละครประมาณนี้ มาเป็นตัวละครหลัก ไม่ว่าจะเป็น She's All That เป็นต้น

แต่ถ้ามองกันลึกๆ ภาพของความเป็น แกะดำ ก็ยังคงอยู่ในกรอบเดิมๆ.. อย่างเรื่อง She's All That.. เรื่องราวในหนัง ก็เหมือนจะบอกว่า หล่อนต้องเปลี่ยนลุกใหม่นะยะ ถึงจะได้เลื่อนขั้น จาก "ส่วนประกอบ" เป็น "นางเอก"

แต่ในหนังเรื่องนี้ freak เจอกับ geek กันเลย.. และไม่ต้องไปยุ่งกับพล็อตเรื่อง การเปลี่ยนลุกอะไรอีกด้วย.. จริงๆแล้ว หนังไม่ได้ตอกย้ำในจุดนี้เลย.. สิ่งที่มันต้องการ ก็แค่ ได้เล่าเรื่องราว .. "เออ geek ก็ geek ว่ะ .. แต่ตรูไม่ใช่ตัวละครแบนๆ ที่มีมิติอยู่แค่ด้านเดียว (โว้ย)"

นอกจากนี้ การวาดตัวละครให้อยู่นอกกรอบความเป็น Stereotype ของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่ได้อยู่แค่ ภาพพจน์.. หากแต่จะรวมไปถึง การกระทำของตัวละครผู้เป็น พ่อ, แม่เลี้ยง หรือตัวละครอื่นๆในหนังเรื่องนี้ ก็ไม่มีตัวละครตัวใด ที่ถูกผูกติดกับภาพพจน์จำเจๆ.. ซึ่งผลที่ได้มา ก็คือ มิติของตัวละครที่หลากหลาย พร้อมๆกับ ความน่าสนใจ ที่เพิ่มขึ้นมาให้กับตัวหนัง

สิ่งที่น่าประทับใจมากๆอีกประการหนึ่ง ของบทภาพยนตร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ส่วนที่เป็น พล็อตเสริม (หรือพล็อตรอง ..จะเรียกว่าอะไร ก็เอาเถอะ ซับพล็อต นั่นแล).. ไม่ว่าจะเป็น พล็อตเรื่องรักๆของพระนาง ที่น่ารักและซาบซึ้งในแบบน่ารักๆ ดูไปยิ้มไป มีความสุขไป เหมือนหัวใจจะขยายตัว พองขึ้นเรื่อยๆ.. หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวของนางเอกกับพ่อ นางเอกกับแม่เลี้ยง..



และที่เวิร์กมากๆ แถมเพิ่มความดีให้ตัวหนังได้หลาย ก็คือ พล็อตเรื่องของ คู่ Jennifer Garner - Jason Bateman รวมไปถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองกับ Juno.. ที่.. อีกครั้งนึงของบทภาพยนตร์เรื่องนี้.. มีส่วนประกอบของ Predictability และ Stereotype อยู่ไม่ถึง 5%

ถามว่า บทภาพยนตร์เรื่องนี้ ยอมเยี่ยมระดับเพอร์เฟคไหม

ขอตอบเลย โดยไม่ลังเลว่า.. ไม่

เพราะนอกจากส่วนต่างๆของการเป็น บทภาพยนตร์ (เรื่องราว+การเดินเรื่อง+ตัวละคร) ที่พูดถึงไปแล้ว.. มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ขัดใจระหว่างการดูไม่น้อย

นั่นคือ บทพูด (ไดอา้ล้อก) .. โอเค มันไม่ได้แย่ไปทั้งหมด.. แต่ส่วนนึงของมัน ซึ่งไม่ใช่ส่วนน้อยๆซะด้วย ค่อนข้าง แย่..

ด้วยการที่คนเขียนบทพยายามใส่ ความ "แนว" ลงไปในไดอาล้อก.. มากเกินไป.. จนบางครั้ง ฟังดูแล้ว.. ขัดใจ ในความเสแสร้ง.. อย่างวลี "Honest to blog" .. เออ คุณพี่ขา นี่มันปี 2008 แล้วนะคะ.. ไอ้วลีนี้ ไม่มัน คูล ในสายตาวัยรุ่นแล้วนะคะ.. หรือ บางทีก็.. อะไรของมันว่ะ.. อย่างประโยคอุทานของอีเพื่อนนางเอก "Oh Phuket Thailand".. มันทำตรูเง็งอีกแล้ว.. เชื่ยอะไรของมันว้า..

(ตายแล้ว แค่ส่วนของ บทภาพยนตร์ ก็เอาซะเหนื่อยเลย)

และบทภาพยนตร์เรื่องนี้ จะไม่ได้ผลอะไรเลย ถ้าขาด การแสดงดีๆ จากนักแสดงทุกคนของหนังเรื่องนี้

เป็นคนที่เชื่อ (และจะย้ำมาตลอด) ว่า.. การที่หนังเรื่องนึง จะดีได้นั้น ต้องดีมาจากทุกส่วน..

การแสดงแย่ๆ ในภาพยนตร์ที่มีบทภาพยนตร์เยี่ยมๆ .. ก็เหมือนการให้ดาบคมๆ ให้คนบ้าถือ.. ดีไม่ดี เอาดาบมาฟันร่างตัวเองไม่เหลือ "ชิ้นดี"

นักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ หากจะแยกเป็นคนๆ อาจจะขาดความโดดเด่นไป แต่พอมาเอามาอยู่รวมๆกัน.. กลับเพิ่มน้ำหนักให้กับตัวหนังได้เป็นอย่างดี.. นั่นก็คือ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี.. หากฉากไหน คนนี้ด้อยไป อีกคนก็จะเข้ามาช่วยเสริม..

แต่คงจะเว้นไว้สำหรับ Ellen Page .. เธอเยี่ยมได้ ด้วยฝีมือการแสดงของเธอเป็นหลัก.. แต่ถ้าจะพูดว่า เธอเยี่ยมได้ เพราะเธอคนเดียว คงไม่ถูกเท่าไหร่.. เพราะจริงๆแล้ว ต้องขอบคุณ บทภาพยนตร์ที่สร้างตัวละครที่มีมิติให้เธอได้สวมบทบาท



อีกคนหนึ่ง ที่ควรค่าแก่การพูดถึง คือ ตัวพระเอก Michael Cera ที่ถึงจะไม่เด่นเท่านางเอกเรา.. แต่พี่แกก็ไม่ได้ถูกรัศมีของหนูเอเลน กลบซะมิด.. กับตัวละคร geek ของพี่แก ที่ได้ความลุ่มลึกจากบทภาพยนตร์ไปไม่น้อยแล้ว พี่แกยังเพิ่มความน่าเชื่อ เพิ่มความรู้สึก ให้ตัวละครตัวนี้ คูณสอง..

(หลังดูหนังเรื่องนี้จบ หลงรักพระเอกเข้าเต็มเปา.. นี่แสดงว่า หนังประสบความสำเร็จแล้ว -จากผลพวงของบท+การแสดงของ Michael Cera- เพราะก่อนดูหนัง เห็นหน้าหมอนี้แล้ว จะขำซะทุกที เนิร์ดดีแท้)

ส่วนงานกำกับของ Jason Reitman ถือว่าเสมอตัวกับงานเรื่องที่แล้ว.. นึกไม่ถึงว่า แกจะสามารถทำหนังออกมาได้น่ารัก อบอุ่นได้ขนาดนี้.. ถึงช่วงแรกๆ ของหนัง พี่แกจะยังจับทิศจับทางของหนังไม่ถูก แต่พี่แกใช้เวลาไม่นาน ในการควบคุมอารมณ์ของหนังให้ออกมาตามบท.. ช่วงแรกอาจจะวุ่นๆ โดดๆ ไปนิดหน่อย แต่พอหนังเดินเรื่องมาสักพัก.. ก็เริ่มอยู่หมัด.. ช่วงที่เป็นตลก กับช่วงที่เป็นดราม่า อารมณ์หนังก็สามารถเข้าถึงความตลก ความเป็นดราม่า ได้เป็นอย่างดี และขณะเดียวกัน ก็ลื่นไหล โดยไม่รู้สึกว่า.. กำลังดูหนังเรื่องหนึ่ง แล้วถูกตัดไปหนังอีกเรื่องหนึ่ง

ในส่วนอื่นๆ ก้ถือว่า ไม่มีอะไรย่ำแย่ หรือดีเด่นจนต้องมาพูดถึง.. นอกจากเพลงประกอบ ที่น่าฟังดี

จะเห็นได้ว่า.. ในความเห็นของผู้เขียนแล้ว.. ไม่มีส่วนไหนของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สามารถจัดอยู่ในขั้น เพอร์เฟค.. สมบูรณ์แบบ

แต่น่าอัศจรรย์ ที่โดยภาพรวมแล้ว หนังออกมาเยี่ยมมาก.. สิ่งนี่ คงสามารถบอกได้ว่า.. การที่หนังเรื่องหนึ่ง จะเป็นหนังดีได้นั้น.. ไม่จำเป็นต้องมีองค์ประกอบทุกส่วนให้อยู่ในขั้น.."สมบูรณ์แบบ"

การที่ได้ความดีแบบที่ไม่จำเป็นต้อง "เพอร์เฟค" จากส่วนนี้นิด ส่วนนู้นหน่อย ก็เพียงพอแล้ว ที่จะสร้างความประทับใจให้คนดู

A

ปล. #1 ปีที่ผ่านมา หนังดีเยอะแยะไปหมด.. อย่าง JUNO เนี่ย .. -อย่างที่เห็นในบลอกจัดอันดับบลอกแรก- ไม่ติดท็อปเทน.. ทั้งๆ ที่ลองเอาไปจัดรวมกับหนังปีที่แล้ว.. รับรอง ท็อปไฟว์เป็นอย่างต่ำ)

ปล. #2 เดี๋ยวพรุ่งนี้ เขามีจัดดูหนังสารคดีกัน.. เท่าที่เช็คดู มีน่าสนใจอยู่ 2 เรื่อง Taxi to the Dark Side และ King of Kong.. จะพยายามไปดูให้ได้.. ของฟรี.. เอ้ย.. ของดี.. แล้วอาจจะยกมาเขียนถึงคราวหลัง

ปล. #3 ไม่ได้เช็คที่เขียนมา.. ง่วงแหละ.. ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ




 

Create Date : 13 เมษายน 2551
22 comments
Last Update : 13 เมษายน 2551 9:37:44 น.
Counter : 1645 Pageviews.

 

ลืมไป.. ประโยค "Honest to blog"

มีความหมายประมาณว่่า จริงๆเลยนะ, เฮ้ย จริงดิ..

คือ ใช้ได้ทั้งประโยคบอกเล่า และประโยคคำถาม..

เช่น

ถ้ามีคนมาบอกว่า.. "เฮ้ย ตรูโดนน้องพิชข่มขืนมาว่ะ" ก็ตอบไป "Sh!t, honest to blog?"

หรือจะบอกคนอื่นว่า "เนี่ย Honest to blog เลยนะ วันนั้น เดินๆอยู่ น้องพิชเข้ามาขอเบอร์โทรแหละ"

อะไรประมาณนี้

แต่ก่อน ก็เทห์ดี นานๆเข้า หมั่นไส้ อยากโดดตบกบาลคนพูด..

่อารมณ์เดียวกัน กับเวลาที่ได้ยิน "แต่มินำพา" นั่นแหละ

 

โดย: จูริง 13 เมษายน 2551 9:45:14 น.  

 

ส่วน Phuket Thailand..

เพิ่งไปอ่านเจอพี่เมอร์อธิบาย..

พอดีว่า ออกเสียงคล้ายกับ F*ck it (คือ ออกเสียงเป็น ฟุค)

Phuket Thailand เลยกลายเป็นเวอร์ชั่นแอ๊บแบ๊วส์ของ F*ck it!

ภูเก็ตเลยซวยไปเลย

 

โดย: จูริง 13 เมษายน 2551 10:01:59 น.  

 

อย่าแบนเลย

เพราะผมรอดูอยู่

มันดันชื่อคล้ายๆ กับหนังเกาหลีที่มีเนื้อเรื่องคล้ายๆ กันด้วยนิ อิอิ

ส่วนตัวผมดูหนังเกาหลีแล้วชอบนะ น่ารัก แล้วก็ไม่ได้คิดว่าหนังมันจะสอนให้เด็กใจแตกหรืออะไร

และคิดว่าของฝรั่งก็คงเช่นกัน ..

 

โดย: เด็กชายหัวหอม 13 เมษายน 2551 10:47:42 น.  

 

 

โดย: shame_of_sins 13 เมษายน 2551 10:58:46 น.  

 

รอดีวีดีค่ะ

 

โดย: BoOKend 13 เมษายน 2551 16:26:00 น.  

 

ตอนนี้ ชู่วโนววววว ได้เข้าฉายเหมือนเดิมแล้วครับ

ถึง กบว. จะดูน่ารำคาญยังไง บางทีผมก็มองเห็นความน่ารักของเค้าน่ะ
มันเหมือนกับ คนเฒ่าคนแก่ ตามต่างจังหวัดที่มักจะเพียรสอนลูกหลานก่อนเข้านอน ถึงอันตรายจากภัยสังคมต่างๆ
ระเบียบกฏเกณฑ์ในการใช้ชีวิตที่อยู่กายสบายใจมากที่สุด แคล้วคลาด ฉลาดแบบวิถีประชา

ลูกเอ๋ย จะกลับบ้านยังไง ก็อย่าให้ดึกเกิน 2 ทุ่มน่ะ

แดง แม่บอกแล้วใช่ไหมว่า อย่าใส่กระโปรงสั้นไปตลาด ไอ้ย้อยคนขายหอยขมมันชอบแอบมองดูใต้กระโปรงเอ็งน่ะ

เอ๊ะ! ตาน้อย พ่อบอกแกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดูอีกไอ้การ์ตูน สัตว์ประหลาดสีตัว โชว์หน้าท้อง อะไรเนี้ย ไปๆๆ ไปอ่าน กพอ. ต่อได้แล้ว ถ้าอ่านไม่เสร็จไม่ต้องกินช๊อกโกบาร์


ไอ้ความล้าหลังที่เราคิดว่ามันปัญญาอ่อน จริงๆมันก็ดูน่าเอ็นดูเหมือนกันน่ะครับ
ถ้าเพียงแต่เค้าจะรู้จักปรับใช้ให้เค้ากับโลกปัจจุบัน ไม่ใช่แช่แข็งจริบธรรมอยู่กับโลกเมื่อก่อนกาล

ป.ล. ช่วง พฤษภา - มิถุนา มีแต่หนังน่าดูทั้งนั้นเลย
ชูววโนวววว / อินดี้ถล่มมหาอาณาจักรพระกะโหลกคริสทัล / เดอะ ฮาร์พพานนิ่ง etc.

 

โดย: AguileraAnimato 13 เมษายน 2551 21:02:41 น.  

 

- ช่ายๆ ที่หนังเรื่องนี้เด่นสุดๆ ก็ตรงที่เค้าแหกกรงความเป็น Stereotype ของจำพวกหนังวัยรุ่นๆแบบนี้ลง มันก็ทำให้เราเหมือนได้ดูการแสดงที่มัน ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุดหน่ะ

- แต่ Stereotype เราว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายซะเกินไปน่ะ The Breakfast Club ก็จะใช้ประโยขน์ของคำๆนี้ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ หรือเอาแบบใกล้เข้ามาอน่อยอย่าง 10 Thins I Hate about You (ฮือๆ พี่ Heath) ก็เธอว่าเป็นตัวอย่างที่ดีกับการเอาคำจำกัดความนี้มาเล่นน่ะ

- พูดถึงผกก.และเหล่านักแสดง เห็นด้วยอ่ะว่า Ellen Page เธอเยี่ยมจริงๆ เป็นธรรมชาติได้ขนาดนี้ Hard Candy และเรื่องนี้ก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่า Range ของเธอมันไปไกลได้ขนาดไหน (เอ มันมีเรื่องนึงที่เธอต้องโกนหัวเล่นด้วย จำไม่ได้แหะ) ส่วนผกก. เราก็ชอบตั้งแต่ Thank You for Smoking เหมือนกับที่จูริงว่าไว้น่ะ ช่วงองค์สุดท้ายของหนังที่เกิดป๊อดขึ้นมานิด ก็เลยไม่ได้เป็นตลกร้ายอย่างที่คาดหวังเอาไว้ (เขียนเอาไว้ทั้ง 3 เรื่องแล้วล่ะ โปรโมตบล็อคตัวเองแบบหน้าไม่อาย แหะๆๆ)

- Taxi to the Dark Side ยังแช่อยู่ในตู้เลย เอาไว้จะเอามาดูแล้วมาคุยกันน่ะ

 

โดย: BloodyMonday 13 เมษายน 2551 22:03:07 น.  

 

โอ๊ะ ไม่ได้พูดเรื่องแบนเลย...Phuket Thailand! เอ น่ารักไป...F*ck it!

คือความจริง เราไม่สนใจเท่าไรน่ะ อยากจะแบนแบนไป ตราบใดที่เราหาเอามาดูได้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลอะไร (Am I a selfish bastard? 55+) ส่วนไอ้กองอะไรที่แม้กระทั่งชื่อเรายังไม่จดจำ ถ้ายังใช้หัวแม้เท้าคิดแทนอยู่เรื่อยไป ก็สมควรแล้วที่จะถูกคนอื่นๆเค้ารุมประนามน่ะ

 

โดย: BloodyMonday 13 เมษายน 2551 22:20:59 น.  

 

อยากดูๆ ให้ผมได้ดูในโรงด้วยเถิด ขอร้อง....

เรื่องแบนไม่แบนนี่ ยุคนี้แล้วขี้คร้านจะเปิดปากวิพากษ์มากครับ
ไม่มีความพยายามใดจะทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นได้ "จริงๆ" ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นจัดเรตติ้งหรือด้วยวิธีการอื่น

ตราบใดที่คนในสังคมส่วนใหญ่ยังไม่มีความสามารถจะแยกแยะความผิดชอบชั่วดีได้จากสิ่งที่สื่อรวมทั้งภาพยนตร์นำเสนอ และปล่อยให้สื่อชักจูงไปในทางที่มันไม่ถูกต้อง (เอะ วรรคหลังนี่คุ้นๆ เหมือนในหนังเรื่องอะไรหว่า...) ได้ง่ายๆ

...อ้อทั้งหมดนี้ก็รวมถึงตัวคณะกรรมการพิจารณาฯ และบุคคลที่อำนาจด้วยนะครับ

มาถึงตัวหนัง เห็นตัวอย่างหนังที่เสนอประเด็นอันแหล่มได้ใจ บวกกับการแสดงเพียงไม่กี่ shot ของน้องเพจในทีเซอร์ ก็ทำเอาให้กระตุกต่อมอยากดูได้อักโข ทราบว่าได้มาฉายในไทยก็ดีใจฮะ แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าจะดีใจเก้ออะเปล่า

สุดท้าย มาบอกว่าเด็ก "เนิร์ด" กับ เด็ก "แนว" ไม่เหมือนกันครับ
...เด็กเนิร์ดอาจจะแนวได้ แต่ส่วนใหญ่เด็กแนวจะไม่เนิร์ด
...แถวที่ผมอยู่จะเรียกคนที่เชื่อยชา ไม่ค่อยตอบสนองอารมณ์เช่นบุคคลทั่วไป เรียนหนังสืออ่านหนังสือเยอะ ฟิตแตก ว่า "เนิร์ด" (ประมาณเนิร์ดแก๊ซ เช่น นีออน อาร์กอน ไงครับ)
...เช่นเวลาที่ผมจะต้องไปฟิตอ่านเตรียมสอบ อาจพูดกันเล่นๆ ว่า "เข้าโหมดเนิร์ด"
...ส่วนเด็กแนวก็มีหลายแบบ แนวจะบ้า แนวจะบ๊อง แนวสุดเปรี้ยว สุดเก๋ สุดก๋ากั่น เรียกว่า "แนว"
...แต่แถวที่ผมอยู่ จะผมเด็ก "เกรียน" มากกว่า และเด็กเกรียนบางที่ก็เป็นซับเซตของเด็กแนวครับ

สุขสันต์วันมหาสงกรานต์ครับผม

 

โดย: รังสีไอฟ่า 13 เมษายน 2551 23:18:39 น.  

 

แวะมาบอกว่า ตอนนี้ข่าวออกมาแน่นอนแล้วนะครับ ว่า "หนังยังไม่ได้ส่งเข้ากองเซ็นเซอร์เลย"

เพราะฉะนั้น ดีใจได้อีกเฮือกนะครับ
เพราะเรายังไม่รู้ว่าถ้าหนังเข้ากองเซ็นเซอร์แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับหนังเรื่องนี้ 555555

ขอโทษด้วยที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในเฮือกแรก

 

โดย: nanoguy IP: 125.24.65.108 14 เมษายน 2551 9:33:33 น.  

 


อ้าว กำลังจะมาบอกเล่าถึงคำว่า phuket แต่เหลือบไปเห้นว่า มี refer ถึงเราแล้วใน reply 2 ฮ่าๆๆ

 

โดย: merveillesxx 14 เมษายน 2551 21:14:10 น.  

 

เเวะมาเยี่ยมครับ
อยากดู จูโน่จัง

 

โดย: pikaball 15 เมษายน 2551 8:33:04 น.  

 

อ่า..มาดีใจตอนอ่านคอมเม้นท์บนๆเพื่มนี่แหละ เหอๆ


อืมม์...ความคิดดีๆ นี่ บางทีมันทำให้เกิดการกระทำงี่เง่าๆ ได้เหมือนกันนะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 เมษายน 2551 17:20:06 น.  

 

..... ไม่รู้จะพูดไงดี กับพวกเซ่อร์ๆนี้ สมองหมาปัญญาควายทั้งนั้น ไม่สิ หมามันยังมีปัญญากว่าไอ้พวกเวนตะไลเหล่านี้ ... ถ้าหนังได้ฉายโรงคงจะไปดู แต่ถ้าไม่ฉาย ก็รอดูทางแผ่น ไม่คิดมาก ช่วงนี้ไม่มีเวลาดูหนังทั้งหมดอยู่แล้ว ต้องเลือกแล้วเลือกอีก

 

โดย: joblovenuk 16 เมษายน 2551 21:35:22 น.  

 

ผมว่าดูแผ่นนำเข้าโดยตรงแหละครับ ง่ายดี อย่าไปหวังรอพวกกองเซ็นเซอร์ที่ชอบกินหญ้าแบบนี้เลยดีกว่า

ทำใจครับ ทำใจ จริงๆ หนังมีสาระดีนะครับ สอนคนสอนวัยรุ่นด้วยซ้ำ น่าเสียดายครับหากเจอปราการติงต๊องแบบนี้

 

โดย: หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!! ) 17 เมษายน 2551 9:41:15 น.  

 

นี่ขนาดไม่ได้เช็ค ที่เขียนไปนะเนียะ เล่นซะละเอียดยิบๆ
เลยง่ะ ... อยากดูจังฮะ ถ้ามันโดนแบนจิงๆ คงเสียดายแย่เลย อดดูจอใหญ่ เลยเนอะ

นางเอกน่ารักดีอะ
แต่พระเอกจิ อยากจี๊ด เลยง่ะ ดูกางเกงแก ดิ เจ็บจิงๆ

ปล.
ลิสต์ชื่อหนัง ขวามือได้ดูเรื่องเดียวฮะ เชยระเบิด ก็เรื่อง !
Death Sentence นั่นเอง ได้ B- เลยรึ น่าจะให้ C หรือ D ซะมากว่านะ - -*

 

โดย: haro_haro 17 เมษายน 2551 14:10:07 น.  

 

^
^
เอ้ย เราว่า Death Sentence ดีออก (หุหุิ)

ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล่าเก่าในขวดเก่าอีก แต่ถ้าให้ชม ก็ต้องชมเรื่องการถ่ายทำอะน่ะ คือถ้าให้คะแนนความพยายาม ก็คงเต็มสิบเลย ในฉากอาคารจอดรถ

 

โดย: BloodyMonday 17 เมษายน 2551 14:27:43 น.  

 

"Oh Phuket Thailand"..

งงด้วยคน

 

โดย: brabra 17 เมษายน 2551 16:14:57 น.  

 

ตอบพี่ บลัดดี้ฯ
สงสัยตาดู ไม่ถึงมั้งพี่

 

โดย: haro_haro IP: 58.8.57.53 17 เมษายน 2551 20:06:27 น.  

 

+ ผมก็รอดูเรื่องนี้เข้าโรงอย่างใจจดใจจ่อเหมือนกันครับ อีกแค่ราวๆ เดือนนึงเองหนอ

 

โดย: บลูยอชท์ 17 เมษายน 2551 21:26:05 น.  

 

Death Sentence เนี่ย เคยเขียนไว้ในกระทู้ครั้งหนึ่ง..

เดี๋ยวลองไปค้นหาดูก่อน

ขอตัวไปเขียนเรื่อง Lars and the Real Girl ก่อน

ต้องเขียนถึง

 

โดย: จูริง 17 เมษายน 2551 21:33:52 น.  

 

ชอบหนังเรื่องนี้มากเลยแหละ

 

โดย: คนขับช้า 4 มิถุนายน 2551 23:33:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


จูริง
Location :
Cairo, Egypt

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนดูหนังธรรมดาๆคนหนึ่ง

แต่ชอบดูมากๆ

เฉลี่ยแล้ว ดูหนังวันละ 1.2536 เรื่อง (เวอร์)

TOP 10 OF 2009 .. as of Jul. 21
1. Revanche
2. Lake Tahoe
3. Anvil! The Story of Anvil
4. Du levande (You, The Living)
5. Üç maymun (Three Monkeys)
6. L'heure d'été (Summer Hours)
7. Up
8. Forbidden Lie$
9. Tokyo Sonata
10. Harry Potter and the Half-Blood Prince

TOP 10 OF 2008 .. FINAL!!
1. Waltz with Bashir
2. Wendy and Lucy
3. Man On Wire
4. Dear Zachary: A Letter to a Son About His Father
5. Paranoid Park
6. The Edge of Heaven
7. Young@Heart
8. Happy-Go-Lucky
9. Hunger
10. Let the Right One In
Friends' blogs
[Add จูริง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.