|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
>> Funny Games .. หนังเรื่องนี้มัน แรงงงงงงงงงงงงงง
นี่คงเป็นบลอกสุดท้ายแล้วนะคะที่จะได้เจอกัน.. ฮือๆ เศร้า..
.. ก่อนที่จะหายไปพักใหญ่ๆ (~2 เดิอน)
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มาเขียนถึงอะไรเลย เนื่องจากไม่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์.. ที่ดูแล้วมีอะไรให้อยากเขียนถึงสักเท่าไหร่..
ได้ดูแต่หนังธรรมดาๆ.. จบแล้วจบเลย
จนเมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้
Funny Games เวอร์ชั่น US
...
หนังเรื่องนี้ เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่ขอจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มของ หนังที่ดูจบแล้ว.. ไม่เป็นอันจะทำอะไร ไปครึ่งค่อนวัน..
จนกระทั่งช่วงเวลา ณ ขณะนี้.. ยังคงตกอยู่ในภวังค์ของความ "อิ้ง" อยู่.. ไม่รู้จะเขียนอะไรดี..
ก่อนอื่น ต้องออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ยังไม่เคยได้ชม เวอร์ชั่นต้นฉบับ.. เลยไม่สามารถเปรียบเทียบอะไรได้.. แต่ชื่ออีตาผู้กำกับคนนี้ ที่เคยฝากผลงานรับประกันความอิ้งมาแล้วกับ Cache.. ก็พอจะคลำๆแนวทางของหนังออก ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน
จริงๆ สมควรได้ดูหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว.. แต่ด้วยความที่เวลาไม่เอื้ออำนวย เลยพลาดโอกาสนั้นไป..
โชคดี.. ที่มีการฉายรอบสอง (แสดงว่ากระแสตอบรับดี)
เลยได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์การดูหนังที่ "สุดๆ"..
"สุด" แบบที่ว่า ไม่ใช่ประสบการณ์ที่จะมีโอกาสได้สัมผัสกันได้บ่อยๆแน่นอน
ถ้าจะให้เขียนถึงหนังเรื่องนี้ แบบสั้นๆ .. ก็คงต้องบอกว่า..
เป็นความเยี่ยม - ที่ไม่สมบูรณ์แบบ - แต่มาพร้อมกับประสบการณ์การดูหนังที่ลืมไม่ลง
มาว่ากันเป็นส่วนๆ..
ถ้าจะพิจารณาถึง "การเป็นภาพยนตร์" จะพบว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีองค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่ในขั้น "เยี่ยมยอด" เลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็น "ความเยี่ยม" ที่หนังเรื่องนี้ สามารถสร้างบรรยากาศได้กดดันสุดๆ.. ไม่เคยดูหนังเรื่องไหน แล้วอยากให้มันจบเร็วๆแบบนี้มาก่อนเลย.. มันไม่ใช่อาการอยากให้หนังจบเร็วๆ เพราะความน่าเบื่อของมัน .. แต่ด้วยความกดด้นที่เราได้รับจนแทบจะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว.. ขนาดว่าถึงจุดนึง ที่อยากตะโกนออกมาดังๆว่า กรูไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย..
หลายคนคงได้ยินมาบ้างแล้ว ว่าหนังเรื่องนี้ "ซาดิสท์สุดๆ" (สะกดผิดขออภัย).. แต่ความเยี่ยม.. หรือสิ่งที่ทำให้มันแตกต่างไปจากหนัง "ซาดิสท์" เรื่องอื่นๆ ก็คือ การที่เราสามารถรู้สึกถึงความซาดิสท์ในหนังได้ทุกอณูของรูขุมขน โดยที่มันไม่ได้รับความช่วยเหลือจากองค์ประกอบอื่นๆเลย ไม่มีการฆ่าให้เห็นกันจะๆ.. เชือดให้ดูกันสดๆ.. อย่างที่เราเคยเห็นจากหนังเรื่อง Hostel หรือ Saw.. ซึ่งจริงๆแล้ว พูดได้เลยว่า ถึงในหนังเรื่อง Hostel หรือ Saw จะมีฉากเสียววาบมากเท่าไหร่.. แต่ถ้ามาเทียบกับหนังเรื่องนี้ ความซาดิสท์ ในหนังเหล่านั้น มัน "เดะๆ" ไปเลย..
ส่วนตัวไม่เคยพิศวาสอะไรกับอีตา Haneke เลย.. แต่มาเรื่องนี้ ขอคารวะว่าท่านพี่ "บ้า" ได้สุดๆ .. จริงๆคำว่า "บ้า" อาจจะยังน้อยไป.. มาคราวนี้ พี่แกก็มาพร้อม "การแช่ภาพ" ของแกเหมือนเดิม.. ซีนแต่ละซีน ฉากแต่ละฉาก วางกล้องไว้ที่เดิมนั่นแหละ .. ไม่เคลื่อนไปไหนเลย.. นี่ยังไม่รวมฉาก "breaking the fourth wall" ที่อยู่ในหนัง (ใช้เรียกฉากที่ผู้กำกับจงใจให้ตัวละครหันมาพูด/มองกับผู้ชม) ... ท่านพี่นี่.. กล้าที่จะบ้าจริงๆ ให้ตายสิ
แต่อย่าเพิ่งสบายใจไป .. ถ้าบ้าได้แค่นั้น ก็คงไม่ใช่หนังยี่ห้อ Haneke หรอก.. ไม่ว่าจะเป็น การแช่ภาพ หรือ fourth wall .. ทั้งหมด ถือว่า จิ๊บจ๊อย" มาก.. เมื่อเทียบกับ "รีโมท คอนโทรล".. ใครที่ได้ดูต้นฉบับแล้ว คงทราบดีว่ามันคืออะไร.. ใครที่ไม่เคยดู หนังเข้าเมื่อไหร่ ก็ไปดูซะ.. บ้ากว่านี้ ไม่มีอีกแล้วววววววว.. ผับผ่าสิจอร์จ! บอกได้อย่างเดียวว่า ฉากนี้.. แทบอยากจะโทรศัพท์ไปหาอีตานี่.. "แกมาฆ่าฉันให้ตายเลยดีกว่าไหม"
หรือในส่วนของการแสดง.. ฝ่าย "ผู้ตกเป็นเหยื่อ".. ก็เยี่ยมยอดเกรดเอกันทุกคน.. สามารถใช้การแสดงเพื่อที่จะสื่อถึงความทรมานที่ได้รับได้ดีทุกคน.. ไม่ว่าจะเป็น Naomi Watts, Tim Roth (ซึ่งจริงๆ ทั้งสองคนนี้ แค่ชื่อก็เชื่อถือได้อยู่แล้ว) หรือแม้แต่หนูน้อย Devon Gearhart.. เสียงกรีดร้องของหนูในฉากนั้น ทำให้ป้าอยากเอากะโหลกชนกำแพงจริงๆ.. เป็นนางงามรักเด็กค่ะ.. ทนดูอะไรอย่างนี้ไม่ได้
ถึงจะใส่อารมณ์กันยังไง แต่ก็ไม่มีสมาชิกนักแสดงในเรื่องคนใดเลย ที่จะใส่อารมณ์มากเกินความพอดี จนหลุดออกมาจากขอบจอหนัง.. ทำให้เราต้องแอบด่าในใจ "อีนี้ กรีดร้องได้แหม..เวอร์ซะ" อย่างที่เห็นได้บ่อยในหนังฮอลลีวู้ดทั่วไป ส่วนหนุ่มโรคจิต 2 คนนั้น ก็แอบจิตซะ ทำเอาฉันจิตตกทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า.. อีตา Michael Pitt ไม่เท่าไหร่ เพราะหน้าตาก็แอบจิตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว.. บวกกับฝีมือเยี่ยมยอด ที่เห็นเป็นประจักษ์กับสายตามาหลายเรื่องแล้ว.. หายห่วงไปเลย.. แต่หนู Brady Corbet นี่สิ.. น้องเล่นบท "จิตเงียบๆ" ได้น่าเชื่อเหลือเกิน.. ตอนที่พี่เห็นน้องครั้งแรกในหนังเรื่อง Mysterious Skin ก็แอบชื่นชมอยู่นิดๆว่า เด็กคนนี้ น่ารักแล้วยังจะเล่นดี๊ดี.. เจอน้องเรื่องนี้ พี่คงต้องถอยห่างออกไปสักนิด
แต่กระนั้น ถ้าพินิจพิจารณาให้ดี ก็จะพบว่า หนังมีช่องโหว่อยู่หลายที่ ..
ความบ้าของอีตา Haneke บางทีก็ดูไม่มีเหตุมีผล.. หรือฉันไม่เก็ทก็ไม่รู้นะ.. แต่บางทีมันก็กลายเป็น ส่วนเกินที่ไร้สาระของหนังไป.. มันอาจจะไม่ได้ทำลายหนังทั้งเรื่อง แต่ยังไงซะ มันก็เป็นส่วนที่ทำให้หนังเรื่องนี้ "ไม่สมบูรณ์แบบ"
่ถึงโดยส่วนตัวแล้ว จะเห็นว่า นี่ไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟกไปหมดทุกด้าน.. ไม่ใช่หนังที่ไม่มีอะไรให้ติเลย.. แต่โดยรวม เปอร์เซ็นต์ของความดีของหนัง มีเยอะกว่า ส่วนที่แย่ๆของหนัง หลายเท่าตัว
มีอีกสื่งหนึ่ง ที่ในความเห็นของตัวผู้เขียนแล้ว ถือว่า เป็นความดีความชอบหลักๆของภาพยนตร์เรื่องนี้เลย คือ การที่หนังสร้างออกมาในแนว "ซาดิสท์" มีการทารุณโหดร้ายกับตัวละคร ไม่แตกต่างไปจากหนังประเภท Saw หรือ Hostel เลย.. แต่มันไม่มีองค์ประกอบใดๆที่มีอยู่ในหนังประเภทนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นฉากโหดๆ หรือฉากโป๊ฉากเปลีอย..
(ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆแล้ว ทุกอย่างมันมีอยู่ในหนัง แต่หนังกลับปฎิเสธที่จะยอมให้คนดูเห็นภาพเหล่านั้น)
เพราะถึงมันจะเป็นหนัง "โหด", หนัง "ซาดิสท์" เหมือนๆกันอย่างไร แต่จริงๆแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่ตรงข้ามกับหนังประเภทนั้นโดยสิ้นเชิง หนังเรื่องนี้ก็เหมือนเป็นการเชือด "หนังพวกนั้น" แล้วสับไม่ให้เหลือชิ้นดี.. ทั้งนี้ รวมไปถึงสื่อด้านอื่นๆ (พวกเกมส์วีดีโอ) ที่นำเสนอ "ความรุนแรง" ให้เป็นรูปแบบหนึ่งของ "ความบันเทิง"
หรือถ้าจะพูดให้ตรงๆหน่อยก็คือ สื่งที่หนังเรื่องนี้สื่ออกมา เหมือนเป็นการ "ตบหน้า" ฉาดใหญ่.. กับหนังประเภทนั้น..รวมถึงสังคมที่เพิกเฉยกับสิ่งเหล่านี้ .. ใช่ค่ะ เราๆท่านๆ ผู้ชมคนดูนี่แหละ.. โดนหนังเรื่องนี้ "ตบหน้า" กันหมด.. แรงไหมล่ะค่ะ ท่าน Haneke ของเรา .. กล้าตบหน้าคนดูตัวเองด้วยอ่ะ "สุด" จริๆเลยอีตานี่
Funny Games อาจจะเป็นหนังที่ดูแล้วหดหู่.. แต่สิ่งที่หดหู่กว่า ก็คือ ความเป็นจริงในปัจจุบัน ที่หลายต่อหลายคน รวมไปเด็กน้อยทั้งหลาย ผู้เป็นเหมือนความหวังข้างหน้าของการอยู่รอดของโลกใบนี้ .. ที่เห็นว่า ภาพยนตร์หรือเกมส์ที่มีความรุนแรงอย่างนี้ เป็นแค่ Funny Games .. Haneke สร้างหนังเรื่องนี้ เหมือนจะเป็นคำถามตอกกลับไปว่า Funny Games? Huh? .. สนุกนักใช่ไหม ที่ได้เห็นคนถูกทรมาน .. หนังเรื่องนี้ เหมือนต้องการจะบอกผู้ชมว่า เรื่องแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่อง "สนุกๆ" เลย.. เพราะเชื่ออย่างแน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ที่ได้ชมหนังเรื่องนี้แล้ว คงไม่มีใคร จะเดินออกมาแบบสบายตัวสบายใจ.. ยิ่งมีคนเกลียดความโหดร้ายของหนังเรื่องนี้เท่าไหร่.. ยิ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่า หนังเรื่องนี้ ประสบความสำเร็จแล้ว ในสิ่งที่มันต้องการสื่อให้คนดู
Funny Games เป็นหนัง "โหด" ที่ "แร๊งงงงงงงส์"
(โปรดสังเกต ไม่ใช่แค่ "แรง" ธรรมดาๆ.. แต่ แร๊งงงงงงงส์)
และมันก็เป็นความ "แร๊งงงงส์" .. ที่ไม่ไร้สาระ
แต่ก็ต้องยอมรับว่า.. นี่ไม่ใช่หนังที่จะเอามาดูเป็นรอบสองแน่นอน.. ประสบการณ์เฉียดนรกแบบนี้ .. ครั้งเดียวก็เกินพอ..
แต่กระนั้น ก็บอกได้คำเดียวว่า การได้ชมหนังเรื่องนี้ เป็น ประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง
..จริงๆ
A
ปล. ฉากสุดท้าย (ซีนสุดท้ายของหนังเลย) เป็นฉากที่ขอยกตำแหน่งให้เลยว่า เป็นหนึ่งใน ฉากที่ "น่าขนลุก" มากที่สุด เท่าที่เคยดูหนังมา.. แววตาของอีตา Michael Pitt.. อืม อย่างส่อ! ยิ่งเพิ่มความ "ลืมไม่ลง" ให้กับหนังเรื่องนี้ได้อีกเป็นกิโล..
Create Date : 14 พฤษภาคม 2551 |
|
36 comments |
Last Update : 14 พฤษภาคม 2551 7:37:18 น. |
Counter : 17269 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) 14 พฤษภาคม 2551 9:38:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: บลูยอชท์ 15 พฤษภาคม 2551 14:53:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: merveillesxx IP: 58.8.122.71 16 พฤษภาคม 2551 7:47:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday IP: 124.120.66.15 18 พฤษภาคม 2551 21:25:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: JasonSจัง!!! IP: 124.120.180.5 19 พฤษภาคม 2551 18:39:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: บลูยอชท์ 22 พฤษภาคม 2551 15:45:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: บลัดดี้... IP: 124.120.67.138 22 พฤษภาคม 2551 20:02:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: บลูยอชท์ 4 มิถุนายน 2551 11:43:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: nanoguy IP: 161.200.31.245 6 มิถุนายน 2551 15:47:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: pooktoon 9 มิถุนายน 2551 12:56:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Zhen_x2 IP: 168.120.85.55 11 สิงหาคม 2551 23:41:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: esperman IP: 118.172.105.165 29 สิงหาคม 2551 3:36:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: Angelic IP: 58.9.171.199 5 ธันวาคม 2551 12:51:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนขับช้า IP: 203.130.145.98 5 มกราคม 2552 22:17:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: Natcha* IP: 183.89.75.135 10 มีนาคม 2553 1:54:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: fddgdfgrfff IP: 171.7.125.245 12 พฤษภาคม 2555 11:30:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องใหม่ IP: 124.121.138.114 27 กันยายน 2555 22:42:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Cairo, Egypt
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนดูหนังธรรมดาๆคนหนึ่ง
แต่ชอบดูมากๆ
เฉลี่ยแล้ว ดูหนังวันละ 1.2536 เรื่อง (เวอร์)
TOP 10 OF 2009 .. as of Jul. 21 1. Revanche 2. Lake Tahoe 3. Anvil! The Story of Anvil 4. Du levande (You, The Living) 5. Üç maymun (Three Monkeys) 6. L'heure d'été (Summer Hours) 7. Up 8. Forbidden Lie$ 9. Tokyo Sonata 10. Harry Potter and the Half-Blood Prince
TOP 10 OF 2008 .. FINAL!! 1. Waltz with Bashir 2. Wendy and Lucy 3. Man On Wire 4. Dear Zachary: A Letter to a Son About His Father 5. Paranoid Park 6. The Edge of Heaven 7. Young@Heart 8. Happy-Go-Lucky 9. Hunger 10. Let the Right One In
|
|
|
|
|
|
|
ผมเนี่ยรู้สึกว่า Funny Games เวอร์ชั่ยแรกเป็นงานของ ฮาเนเก้ ที่ดูวัยรุ่นมาก ผิดกับงานที่เหลือของเขาที่ดูช้าๆและเลือดเย็นกว่านี้ แต่พออ่านๆดูแล้วรู้สึกว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาบอกจริงๆ คือเขาจะรีเมคแบบช๊อคต่อช๊อต จึงทำให้ความรู้สึกบ้าพลังและเร้าร้อนแบบนั้นยังคงอยู่
แต่ถึงจะรู้ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยน ก็ยังอยากดูว่าความเก๋าในยุคปัจจุบันของเขา จะทำหนังออกมาในทิศทางไหน