"Be the change you want to see in the world." - महात्मा (Mahatma Gandhi)

จอมเยอะเล่า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




สิ่งที่น่านับถือในจอมยุทธ์หาใช่วิทยายุทธไม่
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add จอมเยอะเล่า's blog to your web]
Links
 

 
Passion: ค้นหาฉันทะก่อน แล้วจึงค้นพบตน

"If we are facing in the right direction, all we have to do is keep on walking." - Buddhist Proverb
ถ้าเราเดินถูกทาง สิ่งที่เราต้องทำก็แค่เดินต่อไป - พุทธสุภาษิต



Passion มีหลายความหมาย TheFreeDictionary.com; แต่ที่ผมจะเขียนถึง คือ ความหมายของฉันทะ (ความกระตือรือร้น ความพอใจรักใคร่ในสิ่งที่ทำ หรือ อยากทำ) ไม่ใช่ราคะครับ ผมไม่ได้มาขาย ยาเพิ่มสมถภาพ!

ฉันทะ เป็นปัจจัยแรกของอิทธิบาทสี่, หลักสำคัญของความสำเร็จ. ฉันทะ คือ ความรักในสิ่งที่ทำ; วิริยะ คือ ความพยายาม; จิตตะ คือ ความเอาใจใส่; วิมัสสา คือ การวิเคราะทบทวนไตร่ตรอง. ฉันทะ นั้นได้รับเครดิตให้เป็นข้อแรก เพราะ หากไม่มี ฉันทะ แล้ว ข้ออื่นๆจะทำได้ยากมากๆ การจะมีฉันทะได้ คือ (1) พยายามรักในสิ่งที่ทำอยู่ หรือ (2) ออกไปหาทำในสิ่งที่รัก

"Nothing great in the world has ever been accomplished without passion." - Christian Friedrich Hebbel
"ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ในโลกนี้ที่สำเร็จได้โดยปราศจากฉันทะ" - เฮบเบล

จะเลือกแบบไหน ก็แล้วแต่ใจแต่ละคนนะครับ ถ้า ท่านรักในสิ่งที่ทำอยู่นั้นนับว่าประเสริญยิ่ง ถ้ารู้ว่ารักสิ่งใดอยู่ก็นับว่าดี เพราะท่านก็รู้ว่าท่านอยากจะทำอะไร แล้วถ้าเกิดไม่รู้หละครับว่ารักอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าอยากทำอะไร ... เขียนเล่นๆแต่เชื่อมั้ยครับว่ามีสหายของผมหลายๆคน ส่วนใหญ่ เป็นคนเรียนเก่งด้วย แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ฉันทะของตนนั้นอยู่ตรงไหน

จริงๆผมเขียนเรื่องนี้ ไม่ได้จะเขียนเพื่อบอกวิธีประสบความสำเร็จหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเรารู้ฉันทะของเรา แล้วเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก อย่างน้อยนี่คือส่วนหนึ่งที่จะทำให้เรามีความสุข ก็ความสำเร็จของชีวิต มิใช่ มีชีวิตที่ดี และ มีความสุข หรอกหรือ

"The first step to getting the things you want out of life is this: Decide what you want." - Ben Stein

จริงๆแล้ว ไอ้สิ่งที่เราอยากจะทำ ก็ไม่ใช่ว่า เราจะต้องยึดมันเป็นอาชีพหรอกครับ บางทีแค่ได้ทำมันบ้าง เป็นความเพลิดเพลิน เป็นรางวัล ของชีวิต ก็พอแล้ว บางครั้งมันก็สนุกและดีในแบบที่มันเป็น ผมชอบเที่ยว ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ชอบลองอะไรๆที่ไม่เคย ชอบเขียน แต่ก็ไม่ใช่ว่า ผมอยากจะเปลี่ยนอาชีพ เพราะว่า ผมก็ชอบงานที่ผมกำลังทำอยู่แล้ว มันก็เป็นอีกด้านของชีวิตผม เป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน

ผมลองไปดูๆจากหนังสือบ้าง เวปไซต์บ้าง สรุปคำแนะนำก็คือ

1. หยุดพักจากกิจกรรมปกติประจำวัน

บางทีเราก็รีบเกินไปทุกๆอย่าง ทำงาน ทำธุระเรื่องเงิน ทำธุระครอบครัว ทำธุระเรื่องเพื่อน ทำสารพัดธุระ น้องชาย ผมเป็นคนที่งานยุ่งมากๆ จนอีกอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำงานให้งานเขาทำมากเกินไป จนเขาเห็นว่าทำยังไงก็ไม่ทันไม่มีทางทำเสร็จ เขาเครียดมาก ก็เลยหยุดงานมันซะเลย ปรากฏว่า ก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นไร งานก็ไปได้ บางทีคนอื่นเห็นว่าให้อะไรเราทำ เราก็ทำ เขาก็เลยให้มาเรื่อยๆ บางทีหยุดบ้าง ปฏิเสธบ้าง พักบ้าง ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ โลกไม่ได้แตกลงไปหรอก มันเป็นสิทธิของเรา

การที่เราเอางานทุกอย่างมาทำเอง บางทีนอกจากเป็นผลเสียกับตัวเราเองแล้ว ยังเป็นผลเสียกับคนที่เราทำงานด้วยนะครับ เพราะ มันคือเราไม่ไว้ใจเขา ไม่ได้ให้โอกาสเขาแสดงฝีมือบ้าง บางทีลองปล่อยบ้าง ลองให้เขาทำบ้าง แล้วจะรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างเอง

ขงเบ้ง ทำงานทุกอย่าง ทำงานหนักมากๆไม่มีหยุดไม่มีพัก สุดท้ายก็เหนื่อยตาย พอตายแล้ว คนอื่นๆก็ทำงานแทนได้ไม่บกพร่องอะไร

พอจิตสงบแล้ว ลองถามตัวเองดูว่า ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน พรุ่งนี้เราอยากอยู่ตรงไหน เราอยากทำอะไรในชีวิต ลองจินตนาการว่า อีกห้าปี อีกสิบปี ยี่สิบปี เราอยากอยู่ตรงไหน เราอยากทำอะไร



2. ถามอดีต ปัจจุบัน อนาคต ของคุณ สำหรับ เบาะแสของฉันทะ

ลองนึกดูว่า มีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น กระตือรือร้น สนใจ เมื่อก่อน อาจจะเป็นตอนเด็กๆ ตอนเรียนอยู่ ตอนว่างๆก่อนจะงานจะยุ่ง ตอนก่อนแต่งงาน

ลองนึกดูว่า มีอะไรที่คุณชอบ อะไรที่คุณดีใจเวลาที่ได้ทำ ในชีวิตประจำวันของคุณ ในกิจกรรมที่คุณทำอยู่ทุกๆวัน ในงานที่คุณทำ อะไรที่ทำยามว่างจากงาน ตอนพัก

ลองนึกดูว่า มีอะไรที่คุณฝันถึงบ้าง อะไรที่คุณอยากทำบ้าง ลองลิสต์มันออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ แล้วลองดูความเกี่ยวข้องมัน ลองจัดลำดับมันออกมาตามความอยากทำ



3. หาจากฮีโร่ของคุณ

ลองนึกถึงคนที่คุณชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น คนที่มีอยู่จริงๆ หรือ ตัวละคร ในหนัง ในนิยาย แล้วนึกดูว่า ส่วนไหนของชีวิตเขาที่คุณชื่นชอบ อะไรของเขาที่คุณอยากจะทำตาม

บางทีอาจจะเป็นแค่เรื่องเล่าก็ได้ เมื่อยังเด็ก ผมชอบดูหนังจีนกำลังภายใน เรื่องของ จอมยุทธ์ท่องยุทธจักร จนเมื่อไม่นานมานี้เอง ผมก็รู้ว่าจริงๆที่ผมชอบ ไม่ใช่วิทยายุทธ์หรอก แต่คือ การเดินทางท่องเที่ยวอย่างอิสระนั่นเอง



4. ถามคนรู้จัก

ลองถามคนสนิทอาจจะเป็นเพื่อน พี่น้อง ให้ลองลิสต์ ข้อดี ข้อเสีย ความสามารถพิเศษ (อาจไม่ต้องพิเศษมากก็ได้) ของคุณออกมา หรือ ว่าเขาจินตนาการเห็นคุณเป็นยังไงในอนาคต

บางทีข้อเสีย ก็บอกอะไรได้เหมือนกัน นะครับ เพียงแต่เราต้องรู้จักวิธีตีความมัน ... ผมเป็นคนจำทางไม่เก่ง ไปไหนก็หลงทางอยู่เรื่อง ไปไหนมาไหนแถวๆบ้านแม้เคยไปมาแล้วหลายครั้งแล้วก็ยังหลงได้ ... มันก็เลยทำให้ผมไม่ได้กลัว(มาก) เวลาไปต่างที่แล้วหลงทาง เพราะอยู่บ้านก็หลง .. หลงก็ดูแผนที่ แล้วก็วนๆหาเดี๋ยวก็เจอ .. ไม่ก็หาคนถาม ไม่เห็นยากเลย .. ถามด้วยภาษามั่วๆสนุกดีด้วย



5. บางทีมันก็ต้องลองๆดู

บางทีมันก็ต้องลองทำกิจกรรมอะไรใหม่ๆ หรือ ลองพบคนใหม่ๆ หรือ ลองหาประสบการณ์อะไรใหม่ๆดูบ้างอาจ จะลองไปสังเกตุการณ์ดูก่อน หรือ อาจจะลองเข้าไปทำดูเลยก็ได้ หรือ อาจจะลองลิสต์ กิจกรรมที่อยากจะทำแต่ไม่กล้าทำดู เช่น กระโดดร่ม ล่องแก่ง ขี่ม้า ขับเครื่องบิน ปีนเขา โต้คลื่น ดำน้ำ สำรวจถ้ำ แล้วลองเลือกมาสักอัน หาติดต่อกับทัวร์ที่ไว้ใจได้ที่เขาเสนอกิจกรรมพวกนี้ ที่คุณจะทำได้อย่างปลอดภัย แล้วลองทำดู ประเด็นคือ ต้องก้าวข้ามกำแพงที่กั้นเราออกไปให้ได้

บางทีไม่ลองเราก็ไม่รู้นะครับ ผมเองไม่เคยคิดว่าจักรยานภูเขาจะสนุก ตื่นเต้น ทีแรกก็คิดว่าจะขอแค่ลองสักครั้ง ก็สะบักสะบอมไปกับครั้งแรก แต่ก็สนุกและก็อยากจะหาโอกาสทำอีก



6. เปิดใจ แง้มกะลา

หาทำอะไรที่จะเปิดโลกทัศน์ของเราออกไปการอ่านไม่ว่าจะจากหนังสือ หรือ จากอินเตอร์เนต ก็จะช่วยเปิดโลกทัศน์ของเราออกไป การท่องเที่ยวบางทีก็จะทำให้เราเห็นอะไรใหม่ หรือ อาจจะได้มุมมองใหม่จากสิ่งที่เคยเห็นๆอยู่

ผมเคยไปอ่านในคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็น Rough Guide: First Time Around The World เราบอกว่า ให้มองหากิจกรรมที่จะทำ มากกว่าสถานที่ที่จะไป ... อ่า! ผมก็ไม่ได้เชื่ออะไรมากเท่าไรหรอก แต่ก็ดูรายการกิจกรรมที่เขาแนะนำ ก็มีเช่น Alpine skiing, bike touring, bird-watching, canyoning, caving, deep sea fishing, fly fishing, golfing, horse-riding, kayaking, learning meditation, mountain climbing, painting, power-kiting, rock climbling, sampling haute cuisine, scuba diving, snowboarding, studying martial arts, studying photography, surfing, trekking, viewing wild animals, visiting castles/palaces, whale-watching, whitewater-rafting, windsurfing, wine tasting, cross-country skiing, yachting เป็นต้น

แล้วผมก็สงสัยว่าทำไมพูดถึงกันเยอะจังไอ้ โต้คลื่น (surfing) เนี่ย พอมีโอกาสลองดู มันสนุกดีนะ ผมยังว่าจะไปหาซื้อกระดานโต้คลื่นของตัวเอง ไว้เผื่อไปเที่ยวทะเล จะได้มีอะไรสนุกๆทำเพิ่มอีกอย่าง

บางทีการไปหาดูว่าคนอื่นเขาทำอะไรกันบ้าง ก็อาจจะช่วยได้ด้วย เช่น ผมเคยลองไปดูเล่นๆใน //www.43things.com ก็มีลิสต์รายการต่างๆ บางอย่างเราอาจไม่สนใจ บางอย่างก็คิดเหมือนกัน บางทีเราก็ไม่เคยคิดมาก่อน บางอย่างเราก็ไม่รู้จักเลย ก็ลองเอาคำไปกูเกิ้ลดู ก็ทำให้ได้ความคิดใหม่ๆได้เหมือนกัน



7. ลองปลีกตัวไปอยู่คนเดียวสักพัก

ใช้เวลากับตัวเอง ไม่ต้องมีความกดดันจากใคร ไม่ต้องเอาใจใคร ไม่มีความคาดหวังอะไรของใคร ไม่ได้มีอิทธิพลของใคร ... อาจจะแค่เดินในสวน ขี่จักรยาน ขับรถเที่ยวคนเดียว อาจจะไปที่ไหนสักที่ตามลำพัง อาจจะเป็นเวลาแค่สั้นๆ ครึ่งชั่วโมง หรือ อาจจะไปค้างแรมต่างที่ข้ามคืนก็ได้

ความสันโดษ จะช่วยให้คุณรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง, รู้สึกถึงความพอเพียงแห่งตน, รู้สึกถึงอิสรภาพ มันจะนำมาซึ่งความสงบ และช่วยกระบวนการคิดของคุณ

แรกๆผมก็คิดว่ามันน่าจะเหงา น่าจะเบื่อ น่าจะเซ็ง แต่พอลองทำแล้ว มันก็มีความสุขของมันนะครับ การใช้เวลากับตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ มันเป็นอิสระ แบบที่อิสระจริงๆ ไม่ใช่แค่อิสระจากกฏเกณฑ์ แต่อิสระจากความรู้สึกความเห็นการตัดสินของคนรอบๆข้าง ให้เวลาเราคิดมากขึ้นนานขึ้นสงบขึ้น ทำให้เรารู้ว่า เราโตพอสมควรแล้ว เราช่วยตัวเองได้ การที่เราจะอยู่กับใครเป็นเพราะเราเลือกจะอยู่ด้วย ไม่ใช่เพราะเราอยู่คนเดียวไม่ได้

การไปไหนมาไหนคนเดียว หลายๆครั้งกลับเปิดโอกาสให้เรารู้จักคนมากขึ้นด้วย มีคนมาทักมาชวนคุย ... บางคนก็ให้กำลังใจตอนผมเดินเหนื่อยๆ บางคนก็สอนผมดูดาว บางคนก็พาผมดูนก บางคนก็แค่ทัก หลายคนก็แนะนำอะไรดีๆที่น่าทำ อะไรที่น่าดู บางคนก็ชวนกินเหล้าคุยกันเรื่อยเปื่อย ผมเองก็รู้สึกว่าคุยกับคนแปลกหน้าได้ง่ายขึ้น แล้วผมก็รู้สึกว่าโลกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เคยคิด คนไม่ได้ต่างกันมากแบบที่เคยเข้าใจ ... ขณะที่ผมเดินทางคนเดียว ผมไม่ได้รู้สึกว่าอยู่คนเดียวบนโลก ตรงกันข้าม มันกลับทำให้ผมรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เป็นส่วนหนึ่งของที่ที่ไป มีเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักและมีคนดีๆอยู่ทุกๆที่... ลองดู แล้วจะรู้ว่า เราเก่งและกล้ากว่าที่เราคิด



"Whatever you can do, or dream you can, begin it. Boldness has genius, power and magic in it."- Goethe

แหล่งข้อมูล
* Richard Chang, The Passion Plan, Jossey-Bass 1999
* Dan Neulharth, If You Had Controlling Parents, Harper 1999
* //www.wikihow.com/Find-Yourself

free counters



Create Date : 05 สิงหาคม 2552
Last Update : 6 สิงหาคม 2552 13:10:12 น. 1 comments
Counter : 1876 Pageviews.

 
วันนี้ได้อ่านเรื่องราวต่างๆ ใน blog ของคุณแล้ว น่าอิจฉาที่ได้มีโอกาสเที่ยวในที่สวยๆ เหล่านี้จรึงๆ ^_^

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ค่ะ

ว่าแล้วเก็บกระเป๋าออกเดินทางบ้างดีกว่า


โดย: blue passion วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:10:05:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.