อยู่สบาย ตายสงบ จากไปไม่คิดค้างใคร แง่บๆ

 
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 กันยายน 2552
 

เปิดตัวสมาคม สูงกินลม ไว้ไม่มีหงอย ... แห่งปะเทศไทย (ป้านู๋บี)

ยกให้ท่านป้าบีเป็น ประธานและผู้เชี่ยวชาญในการบริหารงานเรยขอรับ
เสวนากินลม ชมคานกันตามสะดวก แง่บๆ




 

Create Date : 28 กันยายน 2552
83 comments
Last Update : 1 ตุลาคม 2552 11:25:59 น.
Counter : 1137 Pageviews.

 
 
 
 
ถึง คุณ ช้านเอง



อ้าง
-------------------------------------
ประเด็นใหม่....
เมีย.....อิฉ้านจะให้นิยามว่า นางปีศาจบนสวรรค์

ผู้หญิงชนิดหนึ่งที่ผู้ชายแล้วแต่จะแต่งตั้งตำแหน่งให้
อาทิเช่น น้องนู๋ กิ๊ก กั๊ก ชู้ เมียน้อย
อิฉ้านจะนิยามว่า นางฟ้าในนรก
ตามความคิดเห็นของคุณ
คิดว่าอย่างไรขอคำบรรยายหน่อยนะค่ะ...

แต่จะว่าก็ว่าไป....อิฉ้านคือนางปีศาจที่อยู่ในนรก ค๊าาาาาาาาาาาาา

------------------------------------

อืม...อิฉันคิดว่า

อนิจจัง วาตะสังขารัง

สรรพสิ่งในโลกล้วนปรุงแต่งไปได้ต่าง ๆ นานา เจ้าค่ะ

ไม่ว่าจะ ....


เจ้าชาย หรือ เจ้าชู้
ชื่นชม หรือ หลอกด่า
ไอ้ตัวเศร้า หรือ ไอ้ตัวแสบ
เทพธิดา หรือ ปีศาจ
เสือกระดาษ หรือ น้องเหมียว

มันก็ห่างกันแค่ เส้นแบ่งเล็ก ๆ เส้นเดียวที่มาขีดคั่นมิใช่หรือ ?
เส้นแบ่งของการปรุงแต่งจริต ...เส้นแบ่งของความฟุ้งซ่านไง...เจ้าคะ
และ ไม่ว่า คุณจะ ปรุงแต่ง แกล้งบอกว่า คุณ คือ ปีศาจในนรก ยังไง
อิฉันก็ ปรุงแต่ง และ คิดว่า คุณ เป็น นางฟ้า ในสายตาอิฉันเสมอ (แค้ก ....แค้ก....)






อ้าง

---------------------------------------------
หากถามหาเหตผลที่ผู้ชายส่วนใหญ่
ทำไมถึงชอบลงนรกก็คงเพราะว่า
พวกเขาจะได้ไปเจอกับเหล่านางฟ้า จริงมั้ยค่ะ เอิ๊กๆๆๆ......


--------------------------------------------

อันนี้ อิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ
อาจเป็นเพราะ ผู้ชายเลวกว่าหมา
และไม่ได้มาจากดาวอังคาร แต่ อวตารมาจากนรก มั้ง
พวกมัน เก๊าะเลยชอบไหลไปลงนรก อิอิ


อ่ะ เห็น คุณ ชอบอ่านหนังสือ
อิฉัน แถม ไอ้นี่ ให้อ่าน

เมื่อคุณบีเบอร์ 5 เผชิญหน้ากับฟามร้ากกก
//board.palungjit.com/f4/มานะเกิดเพราะปริยัติ-205184-9.html#post2454533


จดหมายเหตุ ณ ไร่แห้ว
//www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=kitisako&id=142



 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:05:40 น.  

 
 
 
ถึงไอ้แสบ
------------------------
แค่มองว่าคนเห็นแก่ตัว
สุดท้ายถ้าไม่ทร้างความเหนื่อยให้ตัว
ก็สร้างความระอาให้คนรอบตัว
ผมจึงต้องปอ้งกันตัวจากพวกเขา

-------------------------------


อืม....

ดอกบัวน่ะ ไม่ว่าจะเหล่าที่เท่าไร
มันไม่มัวมานั่งวิตกจริตจนปวดหัว
หรือนึกหวาดกลัว ว่า จะแปดเปื้อนโคลน หรอกนะ
ดอกบัว เกิดจากตมก็จริง
แต่ ตมก็ไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ กับดอกบัวได้นะ



เลิกคิดจะเป็น ลิงติดตัง ได้แย้ววววไอ้หลานรัก
รู้จักหลุดจาก ตัง หันมาเป็น ดอกบัว ( เหล่าที่ 5 ) อย่างป้า ดีกว่า
เอ็งจะได้ไม่ต้องวิ่งไปหยิบ
กลไกการป้องกันตัวเองของ ปู่ฟรอยด์ มาใช้


เหอะ ไว้ครึ้ม ๆ ป้าจะเขีย
น " อกหัก ยังไง ให้มันได้สาระ"
มาให้ หลานลูกลิง ได้ทัศนา นะจ๊ะ หุหุ


ส่วน
อันนี้ โพสไว้ เพื่อ รับขวัญ
ทั่นประธานสมาคม คนล่าซู๊ดดดด
โอ๋ ๆ ไอ้ตัวเศร้า หลานร้ากกกก
แต่ ช่า แต่ ขวัญเอ๊ย ขวัญมา น๊าาาา ทูนหัววววววว
อ่านแล้ว เผื่อจะรู้สึกดีขึ้นมามั่ง อิอิ

ลองอ่านดู ได้
ป้าเคย เขียนไว้เมื่อ สิบปีก่อน สมัยต้องแปลงร่าง เป็น พี่ศิราบี
ไปปลอบใจไอ้เจ้า โกล์ดมุนด์ เบอร์2 อิอิ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:11:28 น.  

 
 
 
พี่ ศิราบี ตอบ จดหมาย ู^ - ^
Monday, November 11, 2002 5:54 PM




เฮ้ย อะไรกันวะ พี่ทิด ?
โดนผู้สาวเจ้าแหกอก เอ๊ย หักอกเหรอ ?
เออดี สมน้ำหน้า โฮ่ ...โฮ่... โฮ่...

อุ๊ยต๊าย โทษที ผิดสคริปต์ แฮะ
เผลอแสดงออกนอกหน้าไปหน่อย
งั้นเอาใหม่นะ อะแฮ่ม

หวัดดีจ้าคุณน้อง...(ผู้อาภัพรัก อิอิ)
อืม...พี่ศิราบี นั่งขุดหลุมพรวนดินปลูกหัวแห้วอย่างสงบๆ
( เมื่อวันก่อนไปรับแจกปุ๋ยมาง่ะ อิอิ )
กะลังขะมักเขม้นเชคหาปุ๋ยปลอมที่ปนเปื้อนมา อยู่ดี ๆ
ก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ วิ่งมาร้องแรกแหกกระเชอ
บอกคุณพี่ว่า ช่วยด้วย ๆ สหาย ข้อยสิกะลังแย่
เกิดอาการฟามรักเป็นพิษขั้นโคม่า นอนพะงาบๆอยู่ที่เชียงใหม่

เนี่ย ฟามจิงช่วงนี้คุณพี่ไม่ค่อยได้เชคเมลเท่าไรนะ
งานอีรุงตุงนังเลยแหล่ะ
อีกอย่างช่วงนี้ เด็ก ๆ ในคอลเลคชั่นของคุณพี่
มันหายหัวไปไหนหมดก็ไม่รู้
พี่เลยมะค่อยได้เชคเมลเท่าไร

ครั้นหลวมตัวมาเชคเมลก็เจอเมลน้องมานอนแอ้งแม้งนี่แหล่ะ
อะโหยอ่านจั่วหัว
แล้วพี่ศิราบีล่ะหัวใจอ่อนยวบซะไม่มีเล๊ย
โถ ๆ ๆ พ่อหนุ่มขึ้เหงา เหอ...เหอ...
พอเปิดเข้าไปอ่านเมล ก็ได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ อีกหน

" คือกำลังแย่ ๆ เรื่องผู้หญิงน่ะ
โดนสวมเขาซึ่งหน้า
ความรู้สึกของคนไร้ค่ากลับมาอีก "

ตอนแรกก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
นี่นัง...มันแกล้งอำชั้นเล่น จะเอาข้อมูลไปทำวิทยานิพนธ์
ป.โท
หรือมันกะลังซี่โครงหัก จิง ๆฟะ
เอ แล้วตามทฤษฎีจิตวิทยานี่ ตำรามันบอกว่า
คนที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเอง ไร้ค่า
มักจะมีแนวโน้มฆ่าตัวตายนี่หว่า

เอาล่ะสิตู นึกถึงตรงนี้แล้วก็เริ่มตาเหลือกน่ะดิ
นัง...มันยิ่งคุ้มดี คุ้มร้าย เอ๊ย อ่อนไหว อยู่ด้วย
เกิดมันเสือก ฆ่าตัวตายประชดรักขึ้นมาจะทำไงวะเนี่ย
แค่มีเพื่อนแก้ผ้าโดดตึกไปตามหาพระเจ้า แค่คนเดียว
จนเป็นข่าวลงหรา หน้า 1 น่ะ
พี่ศิราบี ก็ปวดกบาลจะแย่อยู่แล้ว
ขืนมีเพื่อนไปโดดตึกอีกคน คงดูไม่จืดแหง๋ ๆ

เฮ้อ เขียนถึงตรงนี้ คุณพี่ศิราบี ก็ได้แต่หวังว่า
คุณน้อง... คงจะยังมีชีวิตอยู่นะ
หรือ ถ้า รู้สึกว่า กะอีแค่ผู้หญิงคนเดียว
มันทำให้ตัวเอง ไร้ค่า มากจนอยากโดดตึกตาย
ก็ช่วยใส่เสื้อผ้าก่อนโดดตึกหน่อยก็แล้วกัน
ผู้คนจะได้ไม่อุจาดตาเวลามามุงดู เฮ้อ

หรือ ถ้า คุณน้อง...รู้สึกไร้ค่าจนทนไม่ไหว
ยังไงก็ต้องฆ่าตัวตายให้ได้น่ะนะ
ก่อนจะทำอะไรบ้องตื้นอย่างนั้น
แวะมาปรึกษา คุณพี่ศิราบี ก่อนก็ได้นะ
อย่างน้อย ๆ สาวเภสัชอย่างคุณพี่
ก็พอจะมีคำแนะนำงู ๆ ปลา ๆ ให้คุณน้องได้ล่ะนะ
ว่า ยาตัวไหนกินแล้วตายสบาย ตายสงบ ตายสนิท
และตายแหง๋ ๆ ม่ายช่าย
ประเภทแกล้งตายเรียกร้องความสนใจสาว ซือ ๆ

อืม... ถ้าคุณน้องมีปัญญามานั่งหน้าแฉล้ม
อ่านเมลของคุณพี่ งี้
คุณพี่ก็ยังเบาใจได้ว่า ไงเสียคุณน้องก็คงยังมีชีวิตอยู่
แต่ไม่แน่นะ อ่านเมลบับนี้เสร็จ
คุณน้องอาจสำลักยาเบื่อของคุณพี่จนตายสมใจก็ได้ว่ะ

จิง ๆแล้วสันดาน เอ๊ย สัญชาตญาณนางเอกของคุณพี่
มันก็อยากมาช่วยปลอบ ช่วยซับน้ำตาให้คุณน้องนะ
แต่ไม่ไหว คุณพี่ขอบอกตรง ๆ เลยนะยะ
ว่า ถึงตอนนี้ คุณพี่ก็ยังงอนคุณน้องไม่หาย
หนอย ๆ วันเกิดซือเจ๊ทั้งที
ของขวัญมาเซ่นไหว้สักชิ้นก็ไม่มี๊
นี่แหล่ะหนา ริรักในวัยเรียน มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ
เฮ้อ เด็กซาหมัยนี้
เวลารักกันจี๋จ๋า ล่ะ เพื่อนฝูงไม่เห็นเคยได้เห็นหัว
โผล่มาให้เจออีกที ก็เห็นมันมานอนพะงาบ ๆ ร้องไห้แง ๆ
บอกว่าถูก ผู้หญิงหลอก อกเดาะ ซี่โครงแหก

แล้วนี่ คุณพี่จะช่วยคุณน้องได้ไงล่ะหว่า เฮ้อ กูหนอกู
ถึงคุณพี่จะเป็นเภสัชกร ฉ า ว สวย
ที่รู้ดีเรื่องยารักษาโรคหัวใจ
คุณพี่ก็ไม่สันทัดในการทำยารักษาโรคหัวใจเป็นเหน็บชา
หรือ ยารักษาโรคหัวใจมักง่าย หรอกนะคะ คุณน้องขาาาาา
คุณพี่น่ะสันทัดกรณีจ่ายยาเบื่อหมามากกว่าว่ะ

เอาล่ะ เพ้อเจ้อ มาตั้งนาน
ถึงเวลาที่คุณพี่ศิราบี จะต้องจ่ายยาเบื่อหมา
ให้คุณน้อง....กินเล่นซะแล้วมั้ง

เหอ... เหอ...
ว่าไงพี่ทิด ได้ข่าวแว่ว ๆ ว่า
ถูกผู้สาวหลอกเอาฉลองลมหนาวหรือยะ ?
ก็ไม่รู้ว่า การหอบมะพร้าวห้าวมาขายสวน หนนี้
จะช้าไปไหมนะ
แต่มะเป็นไรว่ะ
ถ้าตอนนี้ปัญหาหัวใจของคุณคลี่คลายไปในทางที่ดี
ชั้นก็อนุโมทนา สาธุ ด้วย

แต่ถ้าไม่ ก็คงต้องบอกว่า
ใจเย็ง ๆ น่าเฮียน่า ท่องไว้ ว่า
ความรักคือการให้โดยมะหวังสิ่งตอบแทนนี่นะ(อันนี้ชั้นจำ
ๆ มาจากในนิยายน้ำเน่าว่ะ )
การให้ที่ว่าน่ะ มันรวมถึงการให้ความไว้ใจ
และให้อภัยด้วย
ถ้าเราถูกตบแก้มซ้าย
เราก็ควรเอียงแก้มขวาให้ชาวบ้านตบมิใช่หรือ
ฉันใดก็ฉันนั้น ในเมื่อถูกสวมเขาข้างซ้าย
ก็เอียงหัวให้สาวเอาเขาข้างขวามาสวมให้อีกอันดิ
จะได้รู้สึกสมดุลในหัว แล้วถ้าจะให้เท่
ก็ยื่นจมูกให้เธอสนตะพายด้วย
ต๊าย กิ๊บเก๋ยูเรก้า จะตายไป อิอิ แหะ ๆ เผลอกัดอักแล้ว
โทษที

แค่อยากจะบอกว่า ถ้า เสียสละให้
ใครมากอย่างที่ชั้นบอกไม่ได้
ก็อย่าเอาหัวใจตัวเองไปผูกติดไว้กับตีนของใคร
( ความจิง ไอ้เรื่องนี้
ชั้นก็เคยเสี้ยมสอนหล่อนแล้วนี่หว่า จำไม่ได้เหรอ )

ตลกนะ ทำไมอ่านเรื่องของหล่อนแล้วชั้นไพล่ไปนึกถึง
เรื่อง นาร์ซิสซัส โกล์ดมุนด์
ที่ไอ้เจ้าพี่ชายนอกใส้เล่ากรอกหูให้ฟังก็ไม่รู้แฮะ


" หลังจากโกล์ดมุนด์จากอาราม มา
เขาก็ต้องต่อสู้กับ โรคระบาด ความทุกข์ยาก และเซกส์
เขาเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขาอยู่กับเธอนานกว่าใคร
เธอปรารถนาให้เขาหยุดอยู่กับเธอที่นี่
แต่หัวใจของโกล์ดมุนด์ก็เป็นอิสระเกินกว่าจะอยู่ที่นั้นได้
จึงจำต้องจากเธอไป "

ปั๊ดโธ๊ โรแมนติกว่ะ แต่เจ้าพี่ชายนอกใส้ไม่ยักบอกแฮะ
ว่าก่อนจากไป อีตาโกล์ดมุนด์ มันฆ่าอีสาวหมกส้วมไหม ?
อิอิ

นี่ ๆ จำได้ไหม ? ว่าใครเคยบอกชั้นว่า
โกล์ดมุนด์ได้ตายไปจากตัวเขาแล้ว
ตอนนี้เขาเหมือน นาร์ซิสซัส ต่างหาก
แต่บีว่า ไม่ใช่นะ คุณไม่มีทางเป็น
นักบวชที่เรียนรู้ชีวิตผ่านโลกแห่งความคิดและจิตวิญญาณได้หรอก
จนถึงตอนนี้คุณก็ยังเป็น โกล์ดมุนด์ อยู่ดี
แล้วก็กร้านโลกมากขึ้นด้วย

และถึงกร้านแค่ไหน ลึก ๆ คุณก็ยังอ่อนไหว
อยู่ดีนั่นแหล่ะ
แต่ก้อดีแล้ว รักษาความเป็นโกล์ ดมุนด์ของคุณไว้เหอะ
อย่าเป็น นาร์ซิสซัส เลยว่ะ เคยอ่านนิทานเรื่อง
ดอกนาร์ซิสซัส ของกรีกมะ
คนที่จะเป็นนาร์ซิสซัสได้
มันต้องคนที่รักตัวเองมากจนรักใครไม่ได้ อย่างชั้นว่ะ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:12:44 น.  

 
 
 
ว่าแต่ตอนนี้ ยังรู้สึก ไร้ค่า อยู่ไหมนี่ หืมห์ ?
จะบอกว่า เวลาที่รู้สึกงี้ ก็นึกถึงแม่ตัวเองดิ
เวลาที่บีรู้สึกแย่ ๆ บีก็นึกถึงยัยนู๋แก้วว่ะ
ไม่ว่าเราจะดูโหล่ยโท่ยแค่ไหน ในสายตาของใคร
อย่างน้อย ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็เห็นว่าบีมีค่ามาก
จนทุ่มเทให้บีได้ทุกอย่างแหล่ะวะ

เจ้าหล่อนให้บีได้ทุกอย่างจิง ๆนะ
อย่าว่าแต่แก้วแหวนเงินทองเล๊ย
ใช้ให้ไปตายแทนแม่ก็ยังโง่พอที่จะไป
เพราะความโง่ที่น่าเอ็นดูของแม่นี่ล่ะมั้ง
ที่ทำให้บีไปไหนไม่รอด กลับมาตายรังทุกที
คิดถึงตรงนี้แล้วก็รู้สึกว่า ตัวเองมีค่าทุกทีสิน่า
( เพราะ เหตุนี้มั้งบีถึงเป็นคนหลงตัวเอง อิอิ )

แต่ถ้าครอบครัวคนจีนอย่างคุณ
คิดถึงแม่ แล้วก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
แง๊ ก้อแม่ไม่รักเค้านี่หว่า
วันเกิดเค้าแม่ก็ยังจำไม่ได้ อะฮือ ๆ ฯลฯ
ก็ให้นึกถึงอะไรดีละ
ไอ้ครั้นจะบอกว่า
ให้นึกถึงนู๋บี นู่บีเห็นคุณค่าในตัวคุณเสมอ

มันก้อพูดไม่ได้ว่ะ
เพราะปกติคนที่มีค่าในสายตาบี
จะต้องเป็นคนที่ ให้บียืมตังค์ได้
ช่วยบีขัดฝาบ้าน และล้างห้องน้ำให้บีได้
และจะมีค่ายิ่งขึ้นถ้าสามารถ ซักผ้า หุงข้าว
ทำกับข้าวให้บีกิน
( ซึ่งดูตามเกณฑ์แล้ว คุณมะผ่านการประเมินว่ะ )

เออ เอาเป็นว่า นึกถึงใครแล้วยังรู้สึกว่า ตัวเองไร้ค่า
ก้อลองนึกถึง ไอ้ขาวหมาที่บ้าน ดิ
อย่างน้อย ๆ คุณก็มีค่าในสายตาของมันเสมอแหล่ะนะ
ฉะนั้นเลิกทำตัวเป็นพระเอกมิวสิคคิดว่า
ตัวเองไร้ค่าซะทีเหอะวะ
เห็นแล้วมันแม่ง ๆ

อืม...แนะนำให้ ลองกลับไป เข้าเงียบ ที่สวนเจ็ดริน นะ
ครั้งหนึ่งสมัยที่คนบางคน ตัดสินใจลงจากดอยภูคา
ก็เคยไปที่นั่นไม่ใช่เหรอ ว่าง ๆ
ก็ลองแวะไปเยี่ยมเยียนอดีตเก่า ๆ ที่นั่นมั่งสิ
เผื่อไอ้เจ้าความรู้สึกฟุ้ง ๆ ในใจ จะได้ตกตะกอนลงมามั้ง
( นี่ถ้าคุณเป็นผู้หญิงชั้นจะยุให้กลับไปบวชชีหนีช้ำ
ซะด้วยซ้ำ อิอิ )

อืม...สิ่งที่เราเห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่มันเป็น
ไม่ใช่เหรอ คุณมักดาเลน่า ?
อย่าเพิ่งตัดสินอะเไรง่าย ๆ ดิวะ
หล่อนนี่ถ้าจะไม่เคยได้อ่านนิยายน้ำเน่านะดิ
เคยอ่านไหม ไอ้ประเภท
พระเอกมันบ้องตื้นระแวงว่านางเอกนอกใจมัน
เพียงเพราะนางเอกโผไปกอดกับหนุ่มแปลกหน้าที่มุมมืดน่ะ
สุดท้ายหลังจากทิฐิกันไป งอนกันมา ความจิงก็เปิดเผยว่า
ไอ้หนุ่มแปลกหน้าที่นางเอกกอดน่ะ
มันคือพี่ชายคนละแม่ที่พลัดพรากกันมานาน อะไรเทือกเนี๊ยะ
ถ้ามองโลกในแง่ดี เรื่องของหล่อน อาจจะเป็นงั้นก็ได้ว่ะ
เนอะ

หรือถ้ามันเป็นจริง ก้อดีแค่ไหน ที่เธออุตส่าห์
สวมเขาให้ ซึ่ง ๆ หน้า
มันดีกว่าที่ เธอจะ แอบสวมเขาให้คุณลับหลังนะยะ

จำเมื่อหลายปีก่อนได้ไหม ตอนที่เราคุยกันเรื่องความเชื่อ
และ ศาสนาน่ะ

ตอนนั้นเราแทบจะตบกันตายเลยนี่
คุณเองไม่ใช่เหรอที่สอนให้บีมองทุกอย่างแบบภาพรวม
คนเราบางทีก็มีเหตุผลบางอย่างสำหรับการกระทำของตัวเองเสมอแหล่ะนะ
บางทีการที่เธอพยามปกปิดซ่อนเร้นไม่ให้คุณรู้
อาจเป็นเพราะเธอแคร์คุณไม่อยากให้คุณเจ็บปวดก็ได้ว่ะ
ถ้าเป็นงั้นก็แสดงว่า เจ้าหล่อนยังเห็นว่าคุณมีค่าล่ะนะ
( แต่คุณก็ยังทะลึ่งไปสอดรู้สอดเห็นจนได้ )
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:13:43 น.  

 
 
 
เพราะว่ารักมิใช่แค่ใจเพ้อ
หรือเพียงเผลอปักใจใคร่ครวญหา
รักมิใช่เพียงแต่แค่มองตา
รักมีค่านิยามตามทำนอง

เมื่อหัวใจใฝ่ถามถึงความรัก
ย่อมประจักษ์ว่ารักนี้มีทั้งสอง
หนึ่งคือสุขสมหวังดังใจปอง
สองคือต้องโศกเศร้าเคล้าน้ำตา

เพราะว่าเป็นธรรมชาติมิอาจแกล้ง
แม้เสแสร้งอย่างไรใช่หนีค่า
เพราะความจริงยิ่งผ่านกาลเวลา
ยิ่งรับรู้คุณค่าว่าอย่างไร

อย่าได้เสียน้ำตาอย่าสิ้นหวัง
ทุกเรื่องยังเรืองรองยังผ่องใส
ขอเพียงเราโหยหาสู่ฟ้าไกล
ย่อมพบได้สัจธรรมเพื่อนำพา


*' ความรักนั้นเราย่อมเอาแน่เอานอนกับมันได้
นั่นก็คือ เมื่อเรารักเราก็ได้ความรักไงครับ
ความสุขของการได้รัก
ไม่น่าจะใช่การได้รับรักตอบ
แนวคิดของปรัชญาเซนและเต๋า ในเรื่องนี้
ยืนยันชัดเจนครับ
เมื่อเรารักเราก็สุขใจที่ได้รัก นั่นไงครับ
ความสุขในความรัก... ' *

จำได้ไหม ว่า ใครเคยเทศนาโปรดสัตว์ให้บีฟังงี้
ไง พูดแล้วทำได้ไหมล่ะ พี่ทิด เฮ้อ
ก๊อปมาให้อ่านเล่น ๆ เผื่อหล่อนจะซาบซึ้งในสัจธรรมมั่ง
จะได้เลิกทำท่าเฉาตายซะที่ เฮ้อ

มองโลกในแง่ดีสิพี่ทิด ว่า
การที่มีใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิต
ให้ได้รู้จักและรักนั้น
นับว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาล อย่าคำนึงเลยว่า
จะได้รับรักตอบแทนหรือไม่
เพราะบางทีความรักลับ ๆ
อาจงดงามกว่าความรักที่เปิดเผยก็เป็นได้

เมื่อคุณรักใครแล้วเธอไม่รักคุณ
คุณควรเข้าใจ
นี่คือความยุติธรรม

อย่าลืมขอบคุณเธอด้วย และถ้าทำได้บอกเธออีกครั้งว่า
คุณยังคงรักเธอ
เพราะเธอสอนให้คุณรู้จักรักและความยุติธรรม
( คุ้นมะ ชั้นก็ก๊อปมาจากแถว ๆ นี้ แหล่ะ
อ่ะให้ไว้เตือนสติคนบางคน )

หรือถ้าถึงตอนนี้เรื่องรักรันทดของคุณยังไม่แฮปปี้เอนดิ้ง
ไงก้อปลง ๆ เหอะน่า
คิดซะว่าคุณกะเขาไม่ได้ทำบุญมาร่วมกัน
หมายความว่า ชาติก่อนผู้หญิงงเค้าทำกรรมดีไว้แยะ
เลยรอดพ้นเงื้อมมือคุณไปได้

หรือถ้าทำใจไม่ได้ ก็ ฉุดแม่งเลย พี่ทิด
( อย่างมากพรากผู้เยาว์ก้อติดคุกไม่ถึง 10 ปี หร็อก )
เผื่อจะได้แฮปปี้เอนดิ้งแบบในนิยายน้ำเน่าไง
ประมาณว่า โกรธแค้นกันไป คิดว่าถูกทรยศมา
พอฉุดมาแก้แค้น ไป ๆ มา ๆ ก็ปรับฟามเข้าใจกันได้
อะโหย เดิ้ล จังแฮะ ถ้าเป็นงั้นจิง ๆ
พล็อตนี้บีขอซื้อลิขสิทธ์ไปแต่งเป็นนิยายนะ อิอิ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:14:28 น.  

 
 
 
ช่วงนี้ชีวิตชั้นก็เรื่อย ๆ แหล่ะ มีรู้สึกแย่ ๆ
บ้างบางเรื่อง
ไอ้เราหรือ นั่งทำไร่แห้วอยู่ดี ๆ
เสือกมีคนมาชวนไปปลูกต้นงิ้วไว้ปีนเล่นอีก โธ่ ไอ้เวร

เดือนที่แล้วได้ย้ายบ้านใหม่
เลยอุทิศตัวเองให้กับการขัดฝาบ้านทั้งเดือน
เหนื่อยแต่ก็อิ่มอกอิ่มใจทุกครั้งที่เห็นฝาบ้านขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะด้วยฝีมือตัวเอง
แต่ชื่นชมกับฝาบ้านที่ขัดได้ไม่เท่าไร
โรงบาลก้อ แจ้งจะทุบบ้านชั้นทิ้งอีกแล้วว่ะ ฮือ ๆ
ชีช้ำชิบเป๋ง
นี่ถ้าทุบเมื่อไร ก้อกะจะขอให้เขาแงะฝาบ้าน
ไปไว้ดูต่างหน้าว่ะ อิอิ

ช่วงที่เขาดูบั้งไฟพญานาคน่ะ ไม่ได้ไปดู
แต่เดิน มหกรรมถนนสายอาหาร ที่หนองคาย ตะหาก
ขำจะตาย พี่ ๆ ในห้องยาชวนไปโพนพิสัย เพื่อดูบั้งไฟ
ตั้งหลายคน
ไอ้เราก็ปฎิเสธแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น
บอกว่า ไม่สบายมั่งล่ะ ไปไม่ไหวมั่งล่ะ

แต่พอมีคนเอ่ยปากชวนไป มหกรรมถนนสายอาหาร เท่านั้นแหล่ะ
ตางี้เป็นประกายวิบ ๆ
อาการไม่สบายทั้งหลายแหล่ที่ชักแม่น้ำมาอ้างก็หายเป็นปลิดทิ้ง
โอเค นะคะทันทีโดยไม่ต้องรอให้เค้าชวนรอบสอง
ประมาณ ว่า ใครจะดูบั้งไฟพญานาค ก้อดูไปดิ กูจะไปแดก
ใครจะทำไม

โอย อร่อย เอ๊ย สนุ๊ก สนุก ถึงจะเปียกมะล่อกมะแล่ก
เพราะเจอฝนกระหน่ำ
แต่ก็ไม่มีใครหยุดยั้งการสวาปามของบรรดาฝูงปอบอย่างพวกบีได้
ซร่วบ ๆ กันจนแม่ค้าตาค้าง อุ่แหม่ก็มันหิวนี่หว่า
ฝนมันตกด้วยกว่าจะไป ถึงกว่าจะได้กินก็เกือบ 2 ทุ่ม โอ๊ย
แทบลงแดงเลยว่ะ

อืม... ชักรักเมืองหนองคายแล้วว่ะ อาหารอร่อย ๆ ก็แยะ
ร้านเช่ากาาร์ตูนก็มี จากเดิมที่คิดว่า
จะย้ายทันทีที่ย้ายได้
ตอนนี้ก็เปลี่ยนใจเป็นว่า จะอยู่อย่างน้อยสัก 3 ปีแฮะ

อยากให้คุณมองโลกมองชีวิต
ใช้มันอย่างคุ้มค่าและรื่นรมย์ แบบที่บีเป็นนะ

เออ ก้อระลึกถึงคุณเหมือนกันนะ แต่ถ้าบอกว่า
ระลึกถึงคุณเสมอ
มันก็ออกจะเป็นการตอแหลไปสักหน่อย เอาเป็นว่า
เวลา ไม่มีอาหารอร่อย ๆ กิน ไม่มีการ์ตูนอ่าน และ
ไม่มีงาน ทำ
บางครั้งก็นึกถึงคุณเหมือนกันว่ะ

บายจ้า

จาก พี่ศิราบี คนดีที่น่าร๊ากกกก ^ - ^

ปล.
ไม่ต้องทะลึ่งทำเป็นใจดี เอาฟามเหงามาแบ่งปันชั้นเลยว่ะ
เอาฟามเหงามาให้ชั้นก็เหมือนเอาหวีมาให้หัวล้าน
ถ้าเปลี่ยนจากความเหงามาเป็นเลขท้าย 2 ตัว
จะยินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจ

อ้อ แล้วอีกอย่างที่จะบอกคือ
อย่าคิดมาก อย่าพยามยัดเยียดความแห้วให้ตัวเอง
ตำแหน่ง นายกสมาคมไร่แห้วมันเป็นสมบัติส่วนตัวของชั้น
ดังนั้น
อย่าได้บังอาจคิดจะมาแย่งชิงตำแหน่งนี้ไปจากชั้นนะเฟ้ย เช๊อะ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:15:00 น.  

 
 
 
อ้อ และ ไหน ๆ ไอ้เจ้าหลานชายใจดี
มันก็จับป้ามาพล่ามเป็นที่ เป็นทางที่ กาทู้ นี้แล้ว
งัดเอา ตัวหนังสือ ที่เคยเขียนไว้ แล้วเข้า คอนเซปท์
สมาคมกอดคานไว้ ไม่ได้หงอย
มาโพส อ่อย เอ๊ย ทำ มาร์เกตติ้ง แถวนนี้ ดีกว่า

ไหน ๆ วันนี้ ก็ หาเรื่องอู้ เอ๊ย งดเดินจงกรมรอบโรงบาล อยู่แล้วนิ แหะ ๆ
หลานสุดที่ร้ากก สร้าง บล็อกให้ทั้งที
มีหรือ ป้าจะไม่ ฉลองศรัทธา
แจก ถีบ เอ๊ย ติ๊ป แบบ เต็ม ๆ ลูกกะตา หุหุ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:19:25 น.  

 
 
 
เรื่อง ที่ 1

การมีผัวมิใช่ภาพอันหวาดเสียววววววววว ^ 0 ^

รายละเอียด


สำหรับผู้หญิงที่ยังหาแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ ^ 0 ^

จดหมายจาก พี่ ศิรา ( บี ) สอนน้อง

อนึ่ง ผู้ชายบางคนก็หวาดระแวงต่อการ approch
( ภาษาไทย แปลว่า เข้าหา เอ๊ย เข้าถึงง่ะ อิอิ )
อย่าว่าแต่ผู้ชายเล๊ย พี่เองก็เป็น
เห็นชอบทำ ไก่หยอกหมา หลีกะผู้บ่าว บ่อย ๆ งี้
แต่พอมีใครมาเอาจริงด้วย พี่ก็จะเริ่มใส่เกียร์ถอยเลยแหล่ะ
กำแพงเจ็ดชั้น พร้อม ลวดหนามไฟฟ้า จะถูกเอามาขึง ทันที
จากที่เคยเม้าส์แตกด้วย จนน้ำไหลไฟดับ ก็จะเงียบกริ๊บบบบบบบบบบ
เผลอ ๆ เลิกคุยเลิกคบ ตัดหางปล่อยวัดพวกมันไปเลย

แล้วถ้าคนไหนคุ้นเคยสนิทกันมั่ก ๆ เสียดายมิตรภาพระหว่างกัน
ก็อาจจะแจก ยาเบื่อหมา เป็นการ กำราบ มันพอหอมปากหอมคอ
มันเป็นสัญชาตญาณระแวงภัยของพี่มั้ง โรค approch phobia ง่ะ อิอิ
( คิดว่า มีผู้หญิงปกติ อย่างน้อย 30 % ที่เป็นโรคนี้นะ )

ไงก็ขอหั้ยเป็นตัวของตัวเองเต็ม ๆ ตัว นะนู๋
อย่าไป สวมหน้ากาก ฝืนเป็นใครอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเรา เพื่อเขา
เพราะไม่งั้นนู๋จาต้องสวมหน้ากากไปตลอดชีวิตว่ะ
ที่สำคัญที่สุดคือ
จงอย่าเอาหัวใจตัวเองไปผูกติดไว้กับตีนของใคร
เพราะเมื่อไรที่เขาเดินจากไปคนที่เจ็บปวดคือ ตัวเราเองนะ
( แหม พูดเหมือนคนอกหักเลยว่ะตู 555)

อืมมม พี่เอง เกือบจะย่าง 30 ปี อยู่มะรอมมะร่อ
ยังหาแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้สักคนเลยอ่ะ 555
นี่ไอ้พี่ชายนอกไส้มันก็แช่งให้พี่ขาดใจตายคาไร่แห้ว ประจำเล๊ยย
แถมพอหมั่นไส้พี่มาก ๆ มั๊นก็ยังเคย ให้เกลียด
แต่งกลอนสอนน้อง ให้ฟังอีกแหน่ะ
มันบอกว่า

ขออย่าได้รู้สึกนึกหวาดกลัว
การมีผัวมิใช่ภาพอันหวาดเสียว
แม้วิ่งหนีซ่อนเร้นตัวเป็นเกลียว
ในที่สุดก็ต้องเลี้ยวมาเกี่ยวดอง
แม้วิ่งหนีผู้ชายมาหลายหลาก
แต่ว่ายากจะตัดใจให้ซ้ำสอง
ลำน้ำตารินไหลหัวใจร้อง
ให้สมปองกับรักที่พักพิง

อิอิ เป็นไง นู๋เห็นด้วยกะไอ้พี่ชายนอกไส้ของพี่ป่ะ

อืมมมม ตอนนั้นไปถาม พี่เค้าน่ะ ว่า
การดูภาพยนต์ฝรั่งมักจะแฝงข้อคิดไว้ด้วยเสมอ
ถ้าภาพยนต์เรื่อง Force of nature ที่ นิโคลัส เคจ แสดง
มีข้อดีๆ อย่าง
" ถ้าคุณแต่งงานเพราะต้องการเพื่อน คุณเลี้ยงหมาดีกว่า "
แล้ว เรื่อง runaway bride ที่ เจ๊จูเลีย โรเบิร์ต มีข้อคิดอะไร อ่ะ

เท่านั้นแหล่ะ พี่แกร่ายยาวเป็นกลอน( ประตู )หั้ยฟังเลยอ่ะ อิอิ
แต่ก็นะ แหม ? ไอ้เราหรือก็ทำไร่แห้วมาแล้วตั้งเป็นสิบปี
มันก็ผูกพันธ์อ่ะดิ เลิกทำไม่ได้หรอกจ้าาาาา ไร่แห้วน่ะ555

อืม พี่เห็นด้วยกับ พี่ ๆ ของนู๋นะ
เรื่อง หญิงชายสิทธิเท่าเทียมกัน ( ในการจีบอีกฝ่าย )
แต่ พี่ยังไม่เคยจีบใครเป็นกิจลักษณะเลยอ่ะ
ประมาณว่า ฟอร์มมันค้ำคอ อิอิ
ไม่รู้ดิยังไม่เจอ คนที่ใช่ มั้ง
อีกอย่างอิน กะเพลงบาปบริสุทธิ์ ของ คาราบาวด้วย
เคยฟังป่ะ "อันคนเราหญิงชายทั้งหลายแหล่ ต่างมีดีมีแย่พอกัน "
พอฟังบ่อย ๆ ก็เลยฮึด เกิดกำลังใจในการขึ้นคาน อ่ะดิ๊หุหุ

เพื่อนมันก็ว่า พี่เลือกมาก นะ
เลยต้องดักดานทำไร่แห้วงี้ชั่วกัปชัวกัลป์ อิอิ
จิง ๆ พี่ว่า พี่ก็ไม่ได้เลือกมากหรอกนะ
แค่คิดว่า ถ้าห้องสมุดเป็นผู้ชาย พี่จะขอมันแต่งงาน
เพียงแต่ว่า ยังหาผู้ชายที่หน้าตาคล้ายๆห้องสมุด ไม่ได้เลยง่ะ
เลยต้องทำไร่แห้วไปพลาง ๆ ก่อน แหะ...แหะ...

อีกอย่างพี่มันประเภท รักตัวเองมากเกินไป ด้วยมั้ง
เลยไม่สามารถรักใครได้
ผู้ชายคนเดียวที่พี่พอจะทนรักได้ คือ พ่อตัวเอง อ่ะ
เพราะ พ่อเป็นผู้ชายคนเดียวที่พี่มั่นใจว่า
ผู้ชายคนนี้ทำทุกอย่างเพื่อเราได้ โดยปราศจากเงื่อนไข
กระทั่งให้ไปตายแทน พ่อก็ยังโง่พอที่จะไป

คงไม่มีผู้ชายคนไหนทำได้แบบพ่อแล้วล่ะ
ถึงเราจะไม่สวย ไม่แสนดี หรือ จะแต่งตัวเป็นอีเพิ้ง ไง
เราก็ยังเป็นเด็กน้อยที่น่ารักในสายตาของพ่อเสมอ
น่าเอ็นดูดีนะผู้ชายคนนี้น่ะ อิอิ


ปล.

อืม... พี่อยากให้ เผื่อใจไว้บ้างนะ
ถ้ารักใครแล้วให้เค้าหมดหัวใจ นี่มันอันตรายว่ะ
เกิดเค้าเอาหัวใจของเราไปโยนเล่น
หล่นโครมลงมาแล้วมันเจ็บนะจ๊ะอีนู๋
ไงว่าง ๆ ก็แวะมาจิบน้ำใบบัวบกแก้ช้ำใน
ที่ไร่แห้วของพี่ ได้นะ ไอ้น้อง อิอิ

*****************************************
[ 2008-05-26 12:50:50

 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:23:05 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ : 1


อืมมมมม จั่วหัวซะหวือเลยตู ( จะโดนลบทิ้งไหมเนี่ย 555 )
กัวเรทติ้งตกไม่มีคนเข้ามาอ่านอ่ะ
เลยจั่วหัวเรื่อยเปื่อยไปงั้นเอ๊งงง 5555

เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวันซืน ริอ่านเล่นบท พี่ศิรา (บี )
เมล์ไปสอนน้องสาวนอกไส้ เกี่ยวกับเรื่องของฟามรัก
ตามประสา ผู้ที่มีประสบการณ์ ( อย่างมากกกกกกกกกก )

พอตะวานแอบแว่บไปดูที่ ไฮไฟว์ น้องเค้า
ก็พบว่า น้องมันอ่านแล้วบรรลุดวงตาธรรม
เลยเอาข้อความในเมล์ที่อิชั้นส่งหั้ย
ไป เผยแผ่ ไว้ในไฮไฟว์ ที่

//vendy24.hi5.com

โอยยยยยย อ่านแล้วก็ขำมั่กๆ
ไม่คิดว่าอีนู๋นี่มันจะกล้าเอา สิ่งที่อิชั้นเสี้ยมสอนไปโพสในไฮไฟว์
สุดท้ายก้อเลยฉุกคิดได้ว่า
เออ ขนาดน้องมันยังกล้าเอาคำเสี้ยมสอนของเราไปแปะใน 5 มันเลย
อย่ากระนั้นเลย ก๊อปมาแปะใน 5 เรา มั่งดีก่า
เผื่อว่าจะได้ เป็นบทเรียนหั้ยอนุชนรุ่นหลังสืบไป อิอิ

อ้อ บทความนี้ เป็นฉบับ "full peper" อ่ะ
อาจมีรายละเอียดมากกว่า ใน 5 ของน้องเค้านะ
แบบว่าไปคุ้ยเอามาจากเมลหลายฉบับ ผสมกัน
เป็น Review article อ่ะ อิอิ
น้องมันคงไม่กล้าโพสทั้งหมด เพราะกลัวชั้นโกรธ
( แต่ชั้นกล้าโพส ว่ะ แล้วก็ไม่กลัวไอ้หน้าไหน จะโกรธด้วย หุหุ )

ปล.
ขอมอบบทความนี้เป็นพิเศษหั้ยกับ
ผู้หญิงที่ย่างเข้าสู่วัย 30 ถึง 30 up ทุกคน
( ที่ยังหาแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ )
โ ดยเฉพาะ นังคุณนายนัดติรุด
และ พี่เจี๊ยบ นางสนองพระโอษฐ์ของอิชั้น อิอิ

อ้อ แล้วก็ให้ อีนู๋บู๋ ด้วยว่ะ
ถึงเอ็งจาอายุไม่เข้าเกณฑ์
แต่ก็มาอ่านซะนะยะ
จาได้เลิกค่อนขอดพี่เสียที
ว่าพี่เขียนข้อความย้าว ยาวววววววว แต่กะพู-ชาย
จะ ญิ๋ง ชาย กระเทย อีแอบ แต๋ว ตุ๊ด ทอมดี้ พี่ก็เขียนยาว ๆ จ้าาาาา
( เพราะพี่เป็นเสือไบ ว่ะ เอิ๊ก ๆ ^ 0^ )


[ 2008-05-26 12:52:33 ]



ความคิดเห็นที่ : 2

น่าขำนะ อาทิตย์อิชั้นนี้ได้รับรู้ข่าวดี ๆ คล้าย ๆกัน
จากคนใกล้ตัวถึง 3 คนแหนะไล่มาตั้งแต่

1. น้อง ด. ( นามสมมุติ ) เด็กในฮาเร็ม ประธานผู้ก่อตั้ง ชมรมคนรักพี่บุศ
ขานั้นก็เพิ่งจาแหกฮาเร็มหนีชั้นไป
ด้วยการเปิดตัวแฟนใหม่(ที่คบกันได้ 22 วัน) อย่างเป็นทางการ
แถมมันยังมาสะกิดยิก ๆ
บอก พี่ ๆ ไม่คิดจะเอาชีวิตรักผมไปเขียนเป็นนิยายมั่งเหรอคับ
ผมคิดค่าลิขสิทธิ์แค่ 50 % เอ๊ง แล้วขอพระเอก ชื่อ ด. ด้วยนะ
เซ็งจิตกะไอ้หญ้าอ่อนไม่รักดี จริง จริ๊ง เฮ้อ


2. ไอ้เจ้าโกลด์มุนด์เพื่อนบังเกิดเกล้าที่เคารพ
ขานั้นก็โดดลงจากคานอีกคน ตอนต้นปี
พอรู้ว่ามันแอบชิ่งลงจากคานก่อนชั้นเนี่ย
ชั้นก็รู้สึกอิจฉา ขึ้นมาตงิด ๆ เลยว่ะ
แม่งมันแซง คิว ชั้นได้ไงเนี่ย
ช่างไม่รู้จักลำดับอาวุโสเอาซะเลย เฮ้อ

3. อดีตปั๋วเก่าที่เคารพอย่างนังอาร์ต
มันก็ทรยศ นอกใจช้านนนนนนนนนนน
นี่ก็เพิ่งมา เม้น ใน 5 อวดชั้นว่า มันมีเมียแล้วจ้า
( เชิญเกาะคานไปคนเดียวนะจ๊ะ บุศรา )

อันนี้เซอร์ไพร์ซ ที่สุดในรอบสัปดาห์
พอรู้ข่าวแล้วหัวเราะก้าก เล๊ยแหล่ะ
ประมาณว่า อ้าว มันทิ้งตูไปอีกคนแล้วเหรอเนี่ย
นี่ดีนะที่ยังเหลือ นังนัดติรุด เกาะคานเป็นเพื่อนอีกคน
เลยยังเบาใจอยู่ ( จิงไหมจ๊ะ นังอีฟ ? อิอิ )

เฮ้อ เล่าสู่กันฟังอ่ะ บ่นซ้อมมือไว้
ก่อนที่จะ ผลิตงานเขียนชิ้นใหม่ว่ะ
ตอนนี้กะลังหาแรงบันดาลใจอยู่ 555

[ 2008-05-26 12:53:22





ความคิดเห็นที่ : 4

พี่ชายนอกไส้นี่ใครกันนะ อยากรู้จังเลย

โดย : nn [ 2008-05-29 17:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ : 5

พี่ชายนอกไส้ เก๊าะ คือ
เจ้าแรงงานเถื่อนที่เคยมาช่วยขุดหลุมปลูกแห้ว
แล้วก็วิ่งไปซื้อน้ำใบบัวบกให้อิชั้นกิน ตอนที่ช้ำใน
พี่แกสอนว่า จะทำอะไรต้อง คำนึงถึง
จุดที่ดีมานด์ของหัวใจตัดกับซัพไพล์ของฝ่ายตรงข้าม ตามหลักเสดสาด 5555

ตอนหลังฟังพี่แกเสี้ยมสอนมาก ๆ เลยเผลอไปดื่มน้ำร่วมสาบานเป็นพี่น้องกะพี่เค้า
โดยไม่รู้ว่า ตะแกเป็น กระโถนปากร้าย ปลอมตัวมาคุยด้วย5555

โดย : เจ้าแม่ฮาเร็ม อิอิ [ 2008-05-30 16:25:42


 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:25:34 น.  

 
 
 
เรื่องที่ 2

ถ้าคุณจะแต่งงานคุณจะจัดงานแบบไหน
ถามเรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งงาน
เนื้อความ : (บอนไซ) อ้างอิง |


อยากทราบความคิดเห็นของเพื่อน พี่ น้อง ชาวลานธรรมเสวนาค่ะ
ว่าถ้าคุณจะแต่งงาน (หรือแต่งไปแล้ว ก็ตอบได้นะคะ) การแต่งงานที่บ้านเรา
คนในสังคมบ้านเราเขาจัด คุณคิดว่ามันสิ้นเปลืองไหม และคิดเห็นอย่างไร กับ
การจัดงานแบบนั้นบ้าง ถ้างานแต่งงานของคุณ คุณจะจัดแบบไหน
อยากทราบความคิดเห็น เป็นไอเดียจัดงานของตัวเองน่ะค่ะ
และจะมีแจกของชำร่วยไหม ถ้ามีของชำร่วยที่คุณแจกจะเป็นอะไรคะ
(ของดิฉันที่คิดไว้ คือจะแจกแผ่นซีดีธรรมะ เป็นของชำร่วยค่ะ )

____________________________________

***ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เช่นนั้นเอง***
จากคุณ : บอนไซ [ ตอบ: 31 ต.ค. 51 09:31 ]
ความคิดเห็นที่ 36 : (บัวเหล่าที่ 5) อ้างอิง |


อืม....เพื่อเป็นการแสดงความเห็น ( ส่วนตัว)ในเรื่องนี้
ขออนุญาตเล่าเรื่องจริงของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง
เกี่ยวกับมุมมองเรื่องชีวิตคู่
และ การแต่งงาน ให้ฟังเล่น ๆ แล้วกัน
สมมุติว่า ผู้หญิงคนนั้นชื่อ หนูบัวฯ ^ - ^

----------------------------------------------------

หนูบัวฯ เคยคิดถึงเรื่อง งานแต่งงาน ครั้งแรก
ตอนสมัยอยู่ ประถม สอง หรือ สาม มั้ง
อิทธิพลของนิยายน้ำเน่าตามทีวี
หนังฮ่องกง และ การ์ตูนญี่ปุ่นที่อ่าน
ทำให้เธอค่อนข้างแก่แดดแก่ลม พอตัวเลยล่ะ

ตอนนั้นหนูบัวฯนั่งฝันกลางวัน
ถึงภาพตัวเองในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง
พร้อมที่คลุมผมเป็นผ้าลูกไม้ยาวเฟื้อยยยยย
แล้วก็ถือช่อดอกไม้หวานแหวว
ควงคู่ไปกับเจ้าบ่าวอันเป็นที่รักซึ่งไม่เคยเห็นหน้า
(แบบในการ์ตูนญี่ปุ่นเป๊ะ เลย)

เฮ้อ คิดแล้วก็น่าขำ นะ
ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนั้น
มันช่างมีความฝันอันบรรเจิดเสียนี่กระไร ?
และที่น่าขำยิ่งกว่านั้น คือ พอเรียนมัธยมปลาย
เห็นอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับชีวิตคู่มามากขึ้นกว่าเดิม
ความฝัน (กลางวัน ) เรื่อง พรหมลิขิต
พิธีวิวาห์ และ เนื้อคู่หนังคู่กระดูกคู่
ก็หายวับไปจากหัวของเธอซะเฉย ๆ

หนูบัวฯ เกิดอาการเบื่อหน่าย ชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัว มั่ก ๆ
ถึงขนาด ตั้งปณิธานไว้ว่า " ชาตินี้ตูจะไม่มีผัว "
จำได้ว่า เธอเคยนั่งคุยกะพระอาจารย์ ในห้องสมุด
พอท่านรู้ว่า จนจบมัธยมปลาย อยู่มะรอมมะร่อ
เธอยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน
จู่ ๆ ท่านก็มองหน้าเธอ แล้วโพล่งออกมาว่า
" ไอ้บัวฯ โตขึ้นเอ็งคิดจะแต่งงาน
มีครอบมีครัวกับเขาหรือเปล่า "

เธอเบ้ปาก ส่ายหัวดิก ๆ บอกไปว่า
" แหย่ะ ไม่เอาอ่ะ หนูขี้เกียจมีห่วงผูกคอ "

" เฮ้ย ชีวิตคู่ น่ะ สนุกจะตาย
แหม มันทั้งหวานชื่น
ทั้งรื่นรมย์ สนุ๊ก สนุก เชียวนาเอ็ง "

พระอาจารย์ที่เคารพ ยังยุส่งไม่เลิก
ราวกับท่านจะทดสอบอะไรบางอย่าง
ครั้นพอเห็น ไอ้เจ้าลูกศิษย์ก้นกุฏิมันทำหน้าสยดสยอง
สมณะ อย่างท่านก็หัวเราะหึ ๆ ชอบอกชอบใจ
แล้วบอก ฆราวาสอย่างเธอว่า

" ไอ้บัวฯ น่ะ มันคงเป็นยายแก่กลับชาติมาเกิด
ชาติที่แล้วเห็นโลกเห็นชีวิตมามาก เลยเบื่อ
และ ขี้เกียจหาห่วงผูกคอ "

หนูบัวฯ เองก็ไม่รู้หรอกว่า
สิ่งที่พระอาจารย์พูดนั้นจริงไหม ?
แต่คำพูดของท่านก็ทำให้เธอขบขัน

ที่สำคัญ เธอยังจำฝังใจ กับคำว่า
" ราหุล ชาตะ พันธนะ "
ที่ใครบางคนพลั้งปากพูดออกมา
ก็เลยรู้สึกว่า ชีวิตคู่นี้ ไม่ค่อยจะน่าพิสมัยเสียนี่กระไร
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:27:11 น.  

 
 
 
ครั้นพอโตขึ้นจนเรียนมหาวิทยาลัย เธอจึงได้เรียนรู้ว่า
เธอก็เหมือน พวก นาร์ซิซัส ในเทพนิยายกรีกนั่นแหล่ะ
หลงรักอัตตาในตัวเองมากเกินไป
จนไม่เหลือที่ว่างในหัวใจเผื่อไว้ให้ใครได้เลย

เจ้าเพื่อนบังเกิดเกล้าคนหนึ่ง
เคยไล่ให้หนูบัวฯไปอ่าน บริจิตท์ โจนส์ ไดอารี่
และเอ่ยปากบอกว่า เธอเหมือน บริจิตท์
มันสาธยายว่า ผู้หญิงปากจัดอายุ สามสิบต้น ๆ
ที่พยายามแสวงหาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับผู้ชายสักคน
ฟังมันพูด เธอก็ขำก้าก กับความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของเจ้าเพื่อนคนนั้น

จริงอยู่ เธออาจปากจัดเหมือน บริจิตท์
แต่เธอก็มองว่า ความรักเป็นเหมือนภัยคุกคามนะ
มันจะมาล่อลวงทำให้เธอตาบอดเมื่อไรก็ได้
ดังนั้นเพื่อไม่ให้ มันมามีอิทธิพลเหนือเธอ
เธอจึงต้องกำจัดมันออกจากตัวเสมอ
ไม่ยอมให้มันมาเสนอหน้าอยู่ใกล้ ๆ เด็ดขาด

ซึ่งบางครั้งพอ...เขี่ย... เจ้าความรักออกจากตัว
เธอก็นึกกลัวใจตัวเองขึ้นมาเฉย ๆ
" นี่ตูเลือดเย็นเกินไปไหมเนี่ย ? "

บางทีอาจเป็นเพราะ คอลัมภ์ พี่ศิราณีสอนน้อง
ในหนังสือดาราภาพยนต์
และ คอลัมภ์ของหมอนพพร ในเดลินิวส์
ที่เธอเคยอ่านตั้งแต่ประถม ก็ได้
ทำให้เธอมอง เห็น...สัจธรรม...บางอย่างของชีวิต
และซาบซึ้งกับคำว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
โดยไม่จำเป็นต้องเจอพิษสงของเจ้าความรักด้วยตัวเอง

บ่อยครั้งที่หนูบัวฯ เหล่ตามอง
"ความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่า รัก " อย่างไม่ค่อยไว้ใจมันนัก
แถมเพลงบาปบริสุทธิ์ ที่ พี่แอ๊ด คาราบาว เคยร้อง ให้ฟัง
ก็ยิ่งตอกย้ำให้เธอมีกำลังใจขึ้นคานหนักเข้าไปใหญ่

สมัยเรียนมหาลัย มีอาจารย์ผู้ชายคนหนึ่ง
ค่อนข้างจะให้ความเอ็นดูและใส่ใจเธอเป็นพิเศษ
จนเพื่อน ๆ มันผิดสังเกต
เลยเอาไปล้อ เสมอ ทำให้เธอเซ็งจิตขึ้นมาตะหงิด ๆ

วันหนึ่ง ใน ชม. เรียน
อาจารย์คนนั้น ก็มายืนเม้าท์
เรื่องลูกชายที่แสนดีของท่าน
ให้ลูกศิษย์ทั้งหลายฟัง (อีกตามเคย )

มีอยู่ตอนหนึ่ง ท่านเล่าว่า สมัยท่านหนุ่ม ๆ
ท่านแต่งงานแบบจีน มีการยกน้ำชา ไหว้ ฟ้าดิน ด้วยนะ
จากนั้น ท่าน ก็หันหน้ามาถามเธอว่า
"แล้วเธอล่ะ ถ้าแต่งงานอยากจะจัดงานแบบไหน ?"

ฟังคำปุจฉาของอาจารย์ แล้ว
หนูบัวฯ ก็เลยฉีกยิ้มซะหวานสนิท
แล้วตอบอาจารย์ไปแบบไม่เสียเวลาคิด ว่า

" อาจารย์ขาาาาา หนูชอบแบบ....
รักกันหนา พากันหนี วิวาห์เหาะ อ่ะค่ะ "

ซึ่งหลังจากที่หนูบัวฯวิสัชนาในครั้งนั้น
เธอก็ไม่เคยได้ตอบคำถามทำนองนี้อีกเลย
จนกระทั่งมาเจอคำถามนี้ อีกครั้งในเวบลานธรรม แห่งนี้
มันทำให้เธอย้อนกลับไปมอง
มุมมองเรื่อง ชีวิตคู่ และ การ แต่งงาน ของตัวเองอีกครั้ง
แล้วก็ได้คำตอบสำหรับกระทู้นี้ว่า
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:28:08 น.  

 
 
 
หากบังเอิญ เธอยังมี คู่เวรคู่กรรม หรือ คู่สร้างคู่สม อยู่
หากบังเอิญ ความรักมีความสามารถพอ
ที่จะทำให้คนอย่างเธอตาบอดได้
หากบังเอิญเธอจำเป็น
ต้องตกร่องปล่องชิ้น กับผู้ชายสักคน

หนูบัวฯ เธอก็ยังยืนยัน สโลแกน เดิมนะ

" คนธรรพ์วิวาห์ เป็นคำตอบสุดท้าย !"

ขออภัย ถ้า ความคิดเห็นของหนูบัวฯ
ทำให้จริตคนอ่านรู้สึกไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก
แต่เธอคิดงั้นจริง ๆ เจ้าค่ะ

เธอคิดว่า การใช้ชีวิตคู่เป็นเรื่องของคนสองคน
คนไร้ซึ่ง ศรัทธาจริต โดยสิ้นเชิงอย่างเธอ นั้น
มักคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนใครน่ะ
เธอเลยขี้เกียจไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำให้ชาวบ้านดู

ถ้าเขากับเธอ รู้สึกดี ๆ ต่อกัน ก็มาอยู่ด้วยกัน ซะสิ
อยู่อย่าง คู่คิด คู่คุย คู่นอน และ คู่ทุกข์คู่ยาก นั้นแหล่ะ
แต่ถ้าเขาอยากได้ แม่ของลูก เขาต้องไปหาที่อื่น
เพราะเธอไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นแม่ที่ดีให้เด็กคนไหนได้
เธอมีแนวคิดเหมือน ผู้หญิงสิงคโปร์
และเธอไม่อยากพูดว่า ราหุล ชาตะ พันธนะ แบบใครบางคนด้วย

ที่สำคัญ เธอไม่คิดจะจดทะเบียนสมรสนะ
เธอไม่ชอบเอากระดาษแผ่นเดียวไปผูกมัดใคร
พอ ๆ กับที่ไม่ชอบให้ใครมาผูกมัดเธอด้วยกระดาษแผ่นเดียว (เช่นกัน )
ยกเว้นเธอจะรู้สึกว่า อยากจะเพิ่มความมั่นคง(ทางกฏหมาย )ให้เขาคนนั้น
นั่นแหล่ะ เธออาจจะยอมไปจดทะเบียนด้วย

เธอไม่ค่อยง้อผู้ชายน่ะ
เลยไม่ต้องการความมั่นคงอะไรจากใครทั้งนั้น
ถ้าเขาอยู่ด้วยกันกับเธอแล้วมีความสุข โอเค จงอยู่
แต่ถ้าเมื่อไร น้ำต้มผัก เริ่ม จืดจาง งั้น... จงไสหัวไป
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมารั้งมาฝืนอยู่ด้วยกันนี่หว่า

เธอคิดว่า ความรัก มันก็แค่ อารมณ์ชนิดหนึ่งนะ
แม้มันจะดูสวยงาม ทำให้เรารู้สึกดี
แต่มัน ก็เป็นแค่อารมณ์
เหมือน ๆ กับ ความใคร่ ความโกรธ
ความโลภ ความหลง นั่นแหล่ะ
และ อารมณ์ย่อมมี เกิดขึ้น...ตั้งอยู่ ...และ ดับไป ... ได้เสมอ แหล่ะ เน๊อะ

ไง ? เจ้าคะ แนวคิดของหนูบัวฯ ค่อนข้างนอกคอก
ฉีกม่านประเพณีเสียกระจุยเลยใช่ป่ะ
โชคดีนะที่ เธอมีเพื่อน มี ครอบครัวที่เข้าใจเธอ
ดังนั้นถ้าจะทำอะไรพิเรนทร์ ๆ แบบนี้
ทางบ้านก็ไม่ขัดหรอก ( 99.99 % )
(เพียงแต่ตอนนี้เธอยังหาเจ้าบ่าวไม่ได้ แหะ...แหะ...)

เฮ้อ จริง ๆ มันก็พูดยากนะ
ตอนนี้ นังหนูบัวฯ อาจปากกล้า พูดอะไร ได้ฉอด ๆ
แต่พอถึงเวลาจริง ๆ เมื่อ ความรักมันมาบังตา
เธออาจไม่กล้าทำอะไรแผลง ๆ แบบที่พูดไว้ ก็ได้นะ
ทว่าสำหรับตอนนี้ นี่ล่ะเป็น แนวคิด
และมุมมองในเรื่องการแต่งงานของเธอล่ะ
และก็ยืนยันด้วย ว่า จะทำแบบนี้จริง ๆ ( ถ้ามีโอกาส )

----------------------------------------------

อืม...ช่วงนี้ อิฉันอ่าน
" ตอบปัญหา วิชาใจ " ของ ทพ.สม ฯ อยู่ นะเจ้าคะ
แต่ก็คงไม่แนะนำให้ใครมาอ่านตามหรอกนะ
เพราะจริต 6 ชนิด ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน ( แต่ละคน )มันต่างกัน
ทว่า อยากเล่า ถึง คำพูดที่อ่านแล้วโดนใจ
ในหนังสือเล่มนี้ให้ฟังอ่ะเจ้าค่ะ

จาก สถิติการจดทะเบียนสมรสของ กทม.
ทุก ๆ สามคู่ที่ จดทะเบียนสมรส
จะมี หนึ่งคู่ที่ย้อนกลับมา จดทะเบียนหย่า

ถ้าความรักทำให้คนตาบอดแล้ว
การแต่งงาน ก็ทำให้คนตาสว่าง

อภรรยา ปรมา ลาภา ( การไม่มีภรรยาป็นลาภอันประเสริฐ )
สามีมา ปรมา ทุกขา ( การมีสามีเป็นทุกข์อย่างยิ่ง )

และ สุดท้าย ( อันนี้ อ่านแล้วอิฉันชอบมั่ก ๆ ) ....

" การแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก
แต่เป็นเพียงบทเริ่มต้นของการพิสูจน์ความรักต่างหาก
คนสองคนที่เกิดและเติบโตมาจากต่างที่
ต่างประสบการณ์ ต่างกรรมพันธุ์ จะไม่มีทางเหมือนกัน
ความรู้สึก และ ความทรงจำที่คนสองคนมีต่อโลก จึงต่างกัน

การแต่งงานก็เหมือนการเข้าสู่โลกใหม่
ซึ่งบอกได้ยาก ว่า จะเป็นดินแดนของสวรรค์
หรือ นรก หรือเป็นพื้นพิภพ เหมือนเดิม ? "

อยากจะบอก คุณ จขกท. ว่า คนขี้ขลาดอย่างอิฉัน
ชื่นชมคุณนะ ที่กล้าหาญพอที่จะก้าวเท้าออกไปแสวงหาโลกใหม่
และไม่ว่า โลกใหม่นั้นจะเป็น เช่นไร
อิฉันก็ขอให้คุณพอใจกับมันและไม่เสียใจที่ได้พบเจอนะเจ้าคะ ^ - ^

กระทู้ของคุณ น่ะ จุดประกาย
ให้อิฉัน คิดจะโพสเรื่องบางเรื่องนะ ในเวบนี้นะ
( แต่ยังเขียนไม่เสร็จ และ ดูแล้ว ยังไม่เหมาะกับกาล...เทศะ )

อ้อ สุดท้ายต้องขออภัย
ที่เขียนอะไรเพ้อเจ้อให้อ่านซะยืดยาวววววว
และขอยืนยันว่า อิฉันเขียนข้อความทั้งหมดนี้
เพื่อแสดงความคิดเห็นจริง ๆ เจ้าค่ะ
มิได้เจตนาจะเข้ามาป่วนแต่ประการใดเลย


ด้วย จิตคาราวะ ^ - ^


จากคุณ : บัวเหล่าที่ 5 [ ตอบ: 12 พ.ย. 51 12:30 ]
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:29:07 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 39 : (บอนไซ) อ้างอิง |


จากจขกท. ขอบคุณค่ะที่ร่วมแสดงความคิดเห็น ไม่คิดว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาอ่านกระทู้มากมายขนาดนี้
ก็แล้วแต่มุมมองและความคิดนะคะ รับฟังและ เข้าใจค่ะ
---------------------------------------
....แต่งงานใช้ชีวิตคู่ ก็ยังไม่พ้น กฎของไตรลักษณ์
...แม้เราจะเลือกอยู่คนเดียวชีวิต ก็ยังไม้พ้นจากกฎนี้
.... "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" อยู่ดี...
มันอยู่ที่ว่าเรา จะอยู่กับมันอย่างไร มากกว่า

อยู่คนเดียว ถามว่ามีทุกข์ไหม มันก็ยังมี มีแบบคนอยู่คนเดียว
อยู่กันเป็นคู่ ถามว่ามีทุกข์ไหม มันก็ยังมี มีแบบคนมีครอบครัว
...ทุกข์ของแต่ละคน มันก็อาจเหมือนกัน หรืออาจจะต่างกัน

ไม่ว่าเราจะเลือกเป็นกรณีใด ก็ตาม ขึ้นอยู่กับว่าเรามีวิธีการวางใจ
ที่จะอยู่กับสิ่งนั้น ๆ อย่างไร ถ้าคิดหรือจะให้ทุกอย่างเป็น
" ตัวกู ของกู" มันก็คงทุกข์แน่ ๆ คะ
-------------------------------
จะอยู่ให้ทุกข์มาก หรือว่าจะอยู่แบบมีทุกข์ น้อย ๆ
ก็แล้วแต่เรา...ทุกข์อย่างมันมีปัญหา มันมีเหตุและปัจจัย ทั้งนั้น
ขอให้เรามีปัญญา รู้เหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเลือกอยู่สถานะใด เรา ก็ผ่านพ้นได้ ค่ะ
เหมือนกันกับคนมีรถยนต์ ถามว่ามีแล้วดีไหม ตอบ ดี ..แล้วทุกข์ไหม ทุกข์ก็มี
คนไม่มีรถยนต์ ถามว่าดีไหม ดี...แล้วถามว่าทุกข์ไหมที่ไม่มี มันก็ยังมีอยู่ก็ทุกข์ที่ไม่มีไง

มันก็ทุกข์ทั้งนั้น...ถ้าคุณคิดว่ามีแล้วมันเป็นทุกข์ เท่ากับว่าเราไปวางใจแล้วว่ามันจะต้องทุกข์ยาก เหน็ดเหนื่อย มันก็เหนื่อยตั้งแต่วางใจแล้วล่ะ
........................................
ในพระพุทธศาสนา ไม่ได้สอน หรือไม่ได้บอกว่าการมีชีวิตคู่ไม่ดี
หรือแม้กระทั่ง ห้ามให้คนมีชีวิตคู่เลย
เพียงแค่สอนว่า มีชีวิตคู่ที่ดี ก็มี ก็ใช่ว่าจะทุกข์เสมอไป ถ้า
1. มีศรัทธาเสมอกัน
2. มีศีลเสมอกัน
3. มีจาคะ เสมอกัน
4. มีปัญญาเสมอกัน
ขอฝากไว้ สำหรับคนที่มองว่าชีวิตคู่มันเป็นทุกข์นะคะ
---------------------------
แต่..ถ้าคุณยังไม่มี หรือคิดว่าจะไม่มี ยังไงก็ตาม
ขอให้อยู่กับสิ่งที่เป็นอย่างไม่ทุกข์ หรือว่าทุกข์ให้น้อย ที่สุด แล้วกัน ค่ะ

แก้ไขโดย บอนไซ เมื่อ 12 พ.ย. 51 - 15:59

จากคุณ : บอนไซ [ ตอบ: 12 พ.ย. 51 15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 42 : (วรพนิจ) อ้างอิง |


แต่งเมื่อ 7 ปีที่แล้วค่ะ เพิ่งครบรอบไปเดือนที่แล้วเองค่ะ จัดงานแบบประหยัดคือมีโต๊ะจีนที่โรงแรม 3 โต๊ะ แขกในงานมีแต่พ่อแม่ พี่น้องและญาติสนิทของทั้ง 2 ฝ่าย เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 5 หมื่นกว่าบาทค่ะ ส่วนเพื่อนๆเราใช้วิธีบอกและอวยพรกันปากเปล่า เพราะเวลาว่างๆเราก็นัดทานข้าวกันอยู่แล้ว ถ้าย้อนเวลาได้จะไม่แต่งงานเด็ดขาดค่ะ
จากคุณ : วรพนิจ [ ตอบ: 14 พ.ย. 51 11:52 ] แนะนำตัวล่าสุด 19 เม.ย. 49 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 14 | ฝากข้อความ |



ความคิดเห็นที่ 43 : (บอนไซ) อ้างอิง |


คุณ วรพนิจ คะ

โห ชีวิต หลังแต่งงานมันจะแย่มากขนาดนั้นเลยหรือคะ
ว้า...อย่างนี้ เราคิดผิดหรือเปล่า ที่คิดจะแต่ง
เพราะเห็นหลายคนในกระทู้ บอกกันว่า ไม่แต่งงาน
ไม่อยากแต่ง ไม่มีดีกว่า ...
ยังไง กันคะเนี่ย ...

--------------------------
มีเพื่อน ๆ คนไหน ที่ชีวิตหลังแต่งงาน หรือชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัว
Happy บ้างมั้ยคะ

____________________________________

***ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เช่นนั้นเอง***
จากคุณ : บอนไซ [ ตอบ: 14 พ.ย. 51 12:51 ] แนะนำตัวล่าสุด 14 ก.พ. 51 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 108 | ฝากข้อความ |



ความคิดเห็นที่ 44 : (วรพนิจ) อ้างอิง |


คุณบอนไซคะ อย่างที่โบราณเค้าว่า คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า นั่นแหละค่ะ มันก็ไม่เชิงว่าแย่มากหรอกค่ะ แต่บางครั้งเราจะรู้สึกว่าเรื่องทุกข์บางเรื่องที่เราต้องเผชิญอยู่มันจะไม่เกิดเลยถ้าเราไม่แต่งงาน ถ้าจะบอกว่าชีวิตหลังแต่งงานเป็นยังไงก็ต้องให้น้ำหนัก ทุกข์ 51 % สุข 49 % เลยต้องทำใจกลางๆถ้าเลือกได้ก็เลือกไม่แต่งค่ะ
ตอนที่ยังโสดเพื่อนๆที่แต่งงานก่อนก็พูดคล้ายๆกันแต่เราไม่เข้าใจ ตอนนี้แจ่มแจ้งแล้วค่ะ
เพื่อนสนิทๆกันส่วนมากมีปัญหาชีวิตคู่ทุกคู่ บางคู่เลิกกันไปแล้ว ส่วนที่ยังอยู่ก็อยู่แบบทน ทน กันไปยังไม่มีคู่ไหนที่มีความสุขในแบบที่ควรจะเป็นเลยซักคู่เดียวค่ะ
อย่างไรก็ตามสำหรับคุณบอนไซที่กำลังจะแต่งงาน ดิฉันขออวยพรล่วงหน้าให้มีความสุขมากๆค่ะ อย่าเป็นแบบดิฉันหรือเพื่อนๆดิฉันเลย
จากคุณ : วรพนิจ [ ตอบ: 14 พ.ย. 51 18:09 ] แนะนำตัวล่าสุด 19 เม.ย. 49 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 14 | ฝากข้อความ |



ความคิดเห็นที่ 45 : (Aurora) อ้างอิง |


น้องบอนไซคะ เรื่องแต่งงานนี่เขาถึงว่าเหมือนซื้อหวย ซื้อล็อตเตอรี่ไงคะ ไม่รู้หมายความว่าไงอาจจะ

- หวยมักจะออกในเลขที่เราไม่ได้ซื้อ (เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิด)
- เลขที่เราซื้อมักไม่ออก (สิ่งที่หวังว่าจะเป็นกลับไม่เป็น)
- มักจะถูกขายสลากแบบเกินราคา (คนที่เราคิดว่าดี กลับกลายเป็นห่วยลงจนไม่น่าเชื่อ)
- ไม่อยากซื้อเลขชุดก็ถูกบังคับซื้อ (เราอยากได้แต่คู่ครองของเราแต่ต้องพ่วงอย่างอื่นที่ไม่อยากได้มาด้วย เช่น ญาติโกโหติกาของเขา, ปัญหาในครอบครัวเขา, หนี้สินของเขา
- พอหวยถูกรางวัลขึ้นมา ต้องเฉลี่ยให้คนที่ซื้อเบอร์เดียวกันด้วย (คนของเราดี แต่มีคนมาขอแจม)
- ยากเหลือเกินที่จะถูกหวยจนได้ทุนที่เล่นๆไปแล้วคืนมา (สรุปว่าได้ไม่คุ้มเสีย)
- แต่คนเราแม้จะถูกหวยกินครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ยังไม่เข็ดกันซีน่า (คนนอกอยากเข้า)

ขอให้ถูก (กิน) ทีเทิ้ด...

แก้ไขโดย Aurora เมื่อ 14 พ.ย. 51 - 22:02
จากคุณ : Aurora [ ตอบ: 14 พ.ย. 51 22:01 ]
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:30:12 น.  

 
 
 
เรื่องที่ 3

คนไม่มีคู่
เกิดจากกรรมใด

เนื้อความ : (ข้าวม่าว) อ้างอิง |


คนไม่มีคู่ ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูกไม่มีหลาน ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอ้างว้างเอกาเกิดจากการผิดศีลข้อสามด้วยหรือป่าว

____________________________________

จากคุณ : ข้าวม่าว [ ตอบ: 21 พ.ย. 51 16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 : (walk) อ้างอิง |


ความรักคือความทุกข์ค่ะ ทุกข์ล้วน ๆ
//www.fungdham.com/download/read/wasin/kwamrak.wma

จากคุณ : walk [ ตอบ: 23 พ.ย. 51 13:54 ] แนะนำตัวล่าสุด 19 พ.ย. 51 | สมาชิกลานธรรมทั่วไป | ตอบ: 19 | ฝากข้อความ | ip:203.158.176.12



ความคิดเห็นที่ 16 : (บัวเหล่าที่ 5) อ้างอิง |


อ้าง จขกท:
คนไม่มีคู่ ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูกไม่มีหลาน
เกิดจากการผิดศีลข้อสามด้วยหรือป่าว ?
อืม... อันนี้ไม่รู้เจ้าค่ะ ว่าเกิดจาก กรรมอะไร

แต่ การต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอ้างว้างเอกา นี่...
คิดว่า เกิดจาก วิบาก ของ การปรุงแต่งจริตตัวเอง ( ในทางลบ ) มั้ง ^ - ^
เอาเป็นว่า กระทู้นี้ อิฉันเห็นด้วยกับ คุณ รุจิ กับคุณ หรดาลแดง นะ
อะ เอาอะไรที่เคยโพส มาให้อ่านเล่น ๆ
//larndham.net/index.php?showtopic=33745&per=1&st=36&#entry579429

เผื่อ จขกท. จะ เห็น มุมมอง
และ ความคิดบางอย่างในหัวของอิฉันบ้าง แหะ...แหะ...
ไว้มีโอกาส อิฉันจะเขียนเรื่องแนว
" โสดอย่างมีคุณภาพ "ให้คุณอ่านนะ
จะได้เห็น กุศโลบาย วิธีคิด
และ การอยู่อย่าง โสดสโมสร
โดยไม่ต้องตายแบบ หมาข้างถนน ของอิฉัน น่ะ

ตัวอิฉันเองก็ไม่มีคู่นะ
แต่ก็ไม่เคยถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ
ถูกดูถูกเหยียดหยาม ว่าน่าสงสาร ซะทีนะ
จะมีบ้างก็แค่ถูกค่อนประมาณว่า

" น้องบัวฯ น่ะ ไม่ใช่ ไม่มีคนเอาหร็อก
มีคนมาให้เลือกตั้งแยะ แต่ตัวเองไม่ยอมเอาต่างหาก "

หรือไม่ก็ "นังนี่มันเล่นตัว เลือกมากจริงเว๊ย " ก็แค่นั้นเองแหล่ะ

ซึ่งอิฉันฟังแล้วก็แค่ ยิ้ม ๆ เชิดหน้าอย่างยโส
แล้วโต้กลับไปนิ่ม ๆ ประมาณว่า

" คงเพราะชาติก่อน กรรมดี ที่ชั้นทำไว้มันมีมาก
เลยไม่มีเจ้ากรรมนายเวรมาทวงหนี้ร้ากกกก ไงยะ
ขอบคุณพระเจ้า! ที่ชั้นไม่มี ลูกกวนตัว มีผัวกวนใจ "

อืม... สุดท้ายนี้ ขอให้ สาวโสด ทุก ๆ คน
" จงอยู่อย่างกล้าหาญ และ ขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี " นะเจ้าคะ
( เฮ้อ...หมาป่า กับ องุ่นเปรี้ยว น่ะเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่าาาาา ^ 0 ^ )

ปล.
อ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงกระทู้ที่อิฉันเคย โพส
ที่ พันธ์ทิพย์ ( เมื่อประมาณสิบปีก่อน ) แฮะ
ตอนนั้น อิฉัน โพสกระทู้ว่า
" ถ้าคุณแต่งงานเพราะต้องการเพื่อน ... คุณเลี้ยงหมาดีกว่า ? ? ? "
ตอนนั้นก็ได้ความคิดเห็น และ แนวคิดจากชาวบ้านมาแยะเลยนะ ^ - ^

____________________________________

ต่างคน.......ต่างจิต........คิดต่าง
ต่างคน.......ต่างความ.....ต่างเห็น
ต่างคน.......ต่างโต.........ต่างเป็น
ต่างคน.......จึงเห็น..........ต่างกัน

คำเตือน ! ตัวอักษรที่ฉันพิมพิ์ลงไปทั้งหมดนั้น
เป็นเพียงความคิดเห็นและมุมมองส่วนบุคคล
โปรดอย่าได้นำไปอ้างอิง / ใช้เป็น Reference
ในการทำข้อสอบ หรือ ตอบคำถามใด ๆให้กับชีวิตเลย
และหากท่านอายุต่ำกว่า 18 กรุณาอย่านั่งอ่านคนเดียว
( ควรมีผู้ปกครองอยู่ด้วยเพื่อคอยชี้แนะ ^ - ^ )
จากคุณ : บัวเหล่าที่ 5 [ ตอบ: 25 พ.ย. 51 19:01 ] แนะนำตัวล่าสุด 24 ก.ย. 51 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 79 | ฝากข้อความ |



ความคิดเห็นที่ 17 : (walk) อ้างอิง |


อ่านแล้วถูกใจ ! ได้ยิ้มเป็นครั้งที่ 2
จากคุณ : walk [ ตอบ: 25 พ.ย. 51 19:14 ]
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:33:50 น.  

 
 
 
เอาล่ะ
พล่าม ในสนามอารมณื เอ๊ย ในสมาคม จนคอแห้งแล้ว
ขอ โยงลิงค์ โปรโมท กาทู้ เป็นก็ตบท้ายยยยยย


จาก วาจาสิทธิ์ ที่ไป ลิขิต ชีวิตชาวบ้าน ถึง ใบเหลืองฯ ใน ลานธรรมเสวนา

//topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/04/Y7795862/Y7795862.html
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:38:18 น.  

 
 
 
อ้อ แถมให้ทิ้งทวนอีกสักอัน
บทสรุปของอดีตประธานสมาคมฯ

เรื่อง ศีล ข้อ 3 กับกรณี

" พรหมจารีย์ไม่เอา เอาพรมเช็ดเท้า "

//topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/01/Y7467757/Y7467757.html#20
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:20:50:45 น.  

 
 
 
โหยย... เยอะจัด
อ่านตาแตก แง่บๆ

ว่าแต่ป้าไปอ่านกระทู้น้าแมทท์ที่ผมโต้กับ
คุณคนแปลกหน้าบนโลกดุนยารียังละครับ
ฮาดี มีด่าคำหยาบด้วย
เสียดายบอร์ดหลุดโลก หลุดไปแระ
ไม่งั้นจะเปิดคำด่าดีๆให้เค้าดุบ้าง
เผื่อจะสร้างสรรค์ แง่บๆ
 
 

โดย: itoursab วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:21:07:33 น.  

 
 
 
เง้อ.......มากมาย
อ่านยังไม่หมดค่ะ....
แล้วจะมาเก็บบ่อยๆนะค่ะ
ที่ละเรื่อง....นะค่ะ
อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจ จึงจะนำไปใช้การได้ชิมิค่ะ..คุณ...ขาาาาาาา
แล้วคนงามจะแวะมาสังสรรค์บ่อยๆค่ะ
ประเด็นนั้นจบไป...
แล้วอิฉ้านจะเอาประตู เฮ๊ย ม๊ะช่ายประเด้นใหม่ มาอีกนะค่ะ
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 112.142.28.93 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:22:28:50 น.  

 
 
 

ไอ้แสบ...

ไม่ได้อ่าน หรอกจ้า
กาทู้คุณแมทท์ที่เอ็งโต้กับคุณคนแปลกหน้าบนโลกดุนยา
ป้าไม่เคยมีแควนเป็นหนุ่มมุสลิมนี่หว่า
จะได้สนใจกาทู้สาวกอัลเลาะห์หุหุ
ป้าสนใจเฉพาะ กาทู้ของสาวกสมณะโคดมอ่ะ อิอิ

เออ นี่แหน่ะ ทั่น ประธานที่เคารพ
รูปประดับสมาคมของ พวกเร า เนี่ย
เมื่อไร จะเปลี่ยน เป็น รูป หงส์ เหนือมังกรอ่ะ
จะได้ดู อินเตอร์ มีรสนิยม กะเขามั่ง หุหุ

นะ ๆ เปลี่ยนเหอะ
เด๋วป้า จะหอบไข่ลวกกับปาท่องโก๋มาติดสินบน
( แถมน้ำบูดู ให้ซดแทน น้ำเต้าหู้ ด้วยนะจ๊ะะ อิอิ)





คุณช้านเองคนงาม
ตามสบายเจ้าค่ะ
อิฉันจะคอย คุณแบกประตู เอ๊ย ประเด็นมาคุยด้วยอีกนะเจ้าคะ
นาน ๆ จาเจอ คนอยู่สมาคมเดียวกัน หุหุ


ว่าแต่ อิฉัน ยก ประตู เอ๊ย ประเด็น มาถก มั่งจิ

ปลาไว้นานๆ เป็นได้อย่างมากก็ ปลาร้า โฉ่วๆ
จริง ๆ ไหมค้าาาา

งั้นแสดงว่า เจ้าของปลา มันไร้น้ำยามั้งคะ
เลยไม่รู้จักควานหาเกลือ
มาทำเป็น ปลาเค็ม เก็บไว้กินข้ามชาติ

แต่ก็นั่นแหล่ะเนอะ
ผู้ชายปัญญาดี หายหัวไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า หมดแล้ว
T 0 T


เลยเหลือแต่ พวกปลายแถว
ประเภท ลูกหมาเห็นปลากระป๋อง
นั่งเฝ้าแล้ว ร้อง แง่บ ๆ แบบนี้กระมั่ง

ประมาณว่า

ลูกหมา เอ๊ย หมาป่า กับ ปลากระป๋องบูด มั้ง
( คล้าย ๆ นิทานอิสป เลยอ่ะ อิอิ )

เอ ? แต่อิฉันว่า
มัจฉาผู้งามพร้อมอย่างพวกเรา
คงไม่ใช่ เป็นแค่ ปลากระป๋อง หรอกมั้ง

สาวทรงเสน่ห์ อย่างพวกเรา น่ะ
ไว้นาน ๆ ยิ่งทรงคุณค่า จนกลายเป็น ฟอสซิล
ให้เก็บรักษาไว้ ในพิพิธภัณฑื มากกว่า อ่ะ
แง๊บ บบบบ บ แง๊บบบบบบบ







 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:19:13:01 น.  

 
 
 
ฮืมมม... ป้าคับๆ
ฟอสซิลเนี่ย
องค์ประกอบหลักคือหินปูนรึเปล่า เอิ๊กๆ
กร้ากกกกกกกก.... กร้ากกกก....
ปลอบจายกัยดีจังพวกคนบนคาน แง่บๆ
อยากได้รูปถูกใจ ส่งมาฮับ
จะจัดการให้
 
 

โดย: itoursab วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:20:58:01 น.  

 
 
 



เอ่อ....แสบหลานรักของป้า ( แค้ก ๆ )

ตะกี้ ป้าไปเจอกาทู้ นี้อ่ะ

(เปิดอาศรมกวีธรรมะ)**** ชีวิต ลิขิตเอา****

//www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y8379864/Y8379864.html

เก๊าะเลยคันปาก เอ๊ย ระลึกถึงเอ็ง ตะหงิด ๆ แหะ ๆ
ฝากข้อฟามไปโพสแจมสหน่อยสิจ๊ะ ทูนหัววววววว

ไม่ต้อง โพส หมดก็ได้ มันยาวววววววว เกินไป
แค่โยงลิงค์บอกให้ อาเจ้แก เข้ามาอ่าน ข้อฟาม ที่นี่เอา
อ่ะ

ถ้า เอ็ง ยอมทำตามใจป้าะนะ
เด๋วป้าจะแจกปลากระป๋อง ( พร้อมที่เปิดปลากระป๋อง )
ให้ เอ็งสักโหล เพื่อเป็นการขอบคุณนะจ๊ะ อิอิ




 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:09:23 น.  

 
 
 



เรียน คุณ oDaineo

อืม....ช่วงที่ยังไม่ได้เข้าหา เอ๊ย ไป อ้อน ทั่นวรฯ wm
แอบมาเม้าส์ กะคุณที่บล็อกไอ้แสบก็แล้วกันที่
ขอบคุณที่ให้เกียรติ แต่งกลอนถึง
ปกติ เจ้าพี่ชายนอกไส้ ก็เคยแต่งกลอนให้เหมือนกันนะ
มันบอกว่า

คบคนพาล พาลพา ไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพา ไปหาผล
คบกับบี ปากดี แถมขี้บ่น
ก็ดีกว่า ไม่มีคน ให้คบเลย

คุณคิดงั้นไหม เจ้าคะ อิอิ

อันนี้ เจ้าพี่ชายนอกไส้ก็เคยสอนไว้

ว่าด้วยเรื่อง ฟามร้ากกกก


เพราะว่ารักมิใช่แค่ใจเพ้อ
หรือเพียงเผลอปักใจใคร่ครวญหา
รักมิใช่เพียงแต่แค่มองตา
รักมีค่านิยามตามทำนอง

เมื่อหัวใจใฝ่ถามถึงความรัก
ย่อมประจักษ์ว่ารักนี้มีทั้งสอง
หนึ่งคือสุขสมหวังดังใจปอง
สองคือต้องโศกเศร้าเคล้าน้ำตา

เพราะว่าเป็นธรรมชาติมิอาจแกล้ง
แม้เสแสร้งอย่างไรใช่หนีค่า
เพราะความจริงยิ่งผ่านกาลเวลา
ยิ่งรับรู้คุณค่าว่าอย่างไร

อย่าได้เสียน้ำตาอย่าสิ้นหวัง
ทุกเรื่องยังเรืองรองยังผ่องใส
ขอเพียงเราโหยหาสู่ฟ้าไกล
ย่อมพบได้สัจธรรมเพื่อนำพา




อืม...บังเอิญไม่ถนัด กรพาไปซะด้วยดิ
( อิฉันถนัด แต่เกือกพาไป อ่ะ หุหุ )
งั้น ไปคุ้ย เอาตัวหนังสือที่เคยได้อ่าน
สมัยเมล์คุยกะหนุ่ม ๆ มาแจมแล้วกัน


ข้อฟามต่อไปนี้
โพสไว้เพื่อสำแดงระลึกถึง
บุคคลที่สุมหัวคุยกันในโลกไซเบอร์
เมื่อ สิบปีก่อนดังนี้



เจ้า โกลด์มุนด์เบอร์ 1
พี่ชายนอกไส้ตัวแสบ

------------------------------------------------------

Wed , 16 Jun 1999 14:17:35 PDT
From : เด็กเสดฯ
TO: สาวเภสัช

มาแล้วครับ

สวัสดีครับ...น้องบี

REF อืม...พี่เคยคิดไหม ว่าคนเราเกิดมาเพื่อ อะไร...?

เคยคิดครับ ไม่ใช่คิดอย่างเดียว
เสียเวลาค้นหาคำตอบอยู่นานพอสมควรเลยครับ
แต่ไม่อยากบอกน้องบี
เพราะรู้ดีว่าน้องบีเป็นโรคหัวใจ
แถมต่อมความดียังบกพร่องอีกด้วย...อิอิ
เอาเป็นว่า...คงคล้ายๆ แบบนี้มั้ง

คนเราเกิดมามีอะไรมาด้วยเล่า
แล้วแบบนี้ไยคิดเอาอะไรไปมากหลาย
ยิ่งไขว่คว้าหลายๆ สิ่งไปมากมาย
แต่สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเอาไว้เลย

แต่ก็ว่ามิใช่ไม่มีแม้แต่ฝัน
หรือปล่อยวันให้เลยล่วงไปเฉยเฉย
หรือทำตัวไร้สาระเสียจนเป็นคนเชย
หรือละเลยผู้คนบนหนทางระหว่างเดิน

หรืออีกอย่างหนึ่ง....ก็แบบนี้

ขอให้เธอเป็นคนดีของชีวิต
ตามที่เธอมีสิทธิ์และคิดฝัน
เป็นอะไรก็ได้ไม่สำคัญ
เพียงยึดมั่นในความดีเท่านี้พอ

บางทีการพูดอะไรมากไป
อาจจะทำให้น้องบีเอียนได้
แต่สังคมใช่ไร้ซึ่งคนดีจริงๆ นะ...
แม้ว่าจะมีน้อยเหลือเกิน

แต่พูดก็พูดเถิดนะ
ผมเองก็ไม่รู้ว่าจุดมุ่งหมายของชีวิตมันคืออะไร
เพราะมันไม่สามารถบอกออกมาเป็นตัวตน
เป็นสิ่งของ หรือเป็นรูปธรรมได้
บางทีผมก็รู้สึกว่า....ผมมีชีวิตเพื่อผู้อื่น
หรือว่าถ้าจะคิดดีๆ ให้ลึกๆ ลงไป
มันก็เหมือนมีชีวิตเพื่อตัวเอง

อืม...น่าจะเป็นเพื่อตัวเองมากกว่านะครับ
เพราะถึงจะทำเพื่อคนอื่น
แต่ก็ทำไปตามความคิดของเรา
ดังนั้น...ตราบใดที่คนเรา ยังคิดว่าตัวเองมีค่า
เขาจึงรู้ว่าควรมีชีวิตอยู่
หากคนใดรู้สึกว่าชีวิตเขาไร้ค่า
ไม่แน่นะเขาอาจกำลังจะจากไป








ส่วนอันนี้
เจ้า โกลด์มุนด์ เบอร์ 2
เพื่อนบังเกิดเกล้าที่เคารพพ
เจ้าเลสเบี้ยนปากน้ำเจ้าปัญหา

-------------------------------------------------------

" เรื่องความสัมพันธ์บนเน็ตเนี่ย
ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ผิวเผินโดยสิ้นเชิง
มีลูกค้าที่สนิทกันมาเล่าให้ฟังว่า
พวกเขาเจอกันบนเน็ต คบกัน แต่งงานกัน
ตอนนี้กำลังจะมีลูกคนแรกแล้ว
ดูเค้าภูมิใจกับความสัมพันธ์เริ่มแรก
บนโลกไซเบอร์ของเค้ามากเลย
ซึ่งผมก็โมทนาสาธุ คิดว่าเค้าโชคดีที่พบความสัมพันธ์ดี ๆ
บนเน็ตขณะที่หลาย ๆ คนถูกหลอกลวงบนเน็ต

ไอ้ผมเนี่ยเล่นเน็ตเป็นมาได้สามปีแล้ว
ก็ได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า
ความสัมพันธ์บนสายโทรศัพท์นี้
ก็แค่การแผ่ขยายความเหงาว้าเหว่
และการเข้าถึงเพื่อนมนุษย์ด้วยกันโดยทางลัดเท่านั้นเอง

โรคประจำศตวรรษไง พอไม่มีปัญหาปากท้อง
ไม่มีปัญหาเรื่องการกู้ชาติ ไม่มีปัญหาสังคม
เราก็หันมาหมกมุ่นเรื่องตัวเอง
หมกมุ่นคนเดียวไม่พอ ถ้าพอมีทาง
เราก็ลากคนอื่นมาช่วยหมกมุ่นด้วย
(อย่างที่เราบ่นให้กันฟังนี่แหละ)

ส่วนหน้ากาก เราก็ใส่ให้กันเสมอนะ
ทั้งในเรื่องดีและไม่ดี เราใส่มันเพราะเรามีเหตุผลของเราแหละ "
------------------------------------------

คุณเคยอ่าน เจ้าชายน้อยนี่
จำตอนที่ สุนัขจิ้งจอกพูดกลับเจ้าชายได้ไหม
ที่บอกว่า " ต่อไปฉันคงมองทุ่งข้าวสาลีนี้ ไม่เหมือนวันก่อน ๆแล้วล่ะ
มันไม่ใช่แค่ต้นพืชที่ฉันเดินผ่านไปผ่านมาเฉย ๆ แล้ว
เพราะเมื่อใดที่ฉันมองมัน
ฉันก็ต้องนึกถึงความทรงจำที่สนุกสนานตอนที่ได้วิ่งเล่นกับเธอ "

คุณเข้าใจความรู้สึกของเจ้าสุนัขจิ้งจอกนี่ไหมล่ะ
ถ้ายังมะเข้าใจ ก็คิดถึงเวลาที่ขับรถผ่านพิษโรค
เมืองที่เคยเป็นแค่ทางผ่านในความคิดของคุณ ก็แล้วกัน
( คุณเคยเล่าให้บีฟังงั้นนี่ ) คงคล้าย ๆกันล่ะมั้ง

และเช่นกัน เวลาที่ไปทัศนศึกษาผ่าน บ้านเกิดคุณ
มันก็ไม่ใช่เพียงแค่ทางผ่านสำหรับบีเหมือนกัน
เพราะมันทำให้บีระลึกถึงเสมอ ว่า
นอกจากที่นั่นจะมีนักการเมืองโครตโกงแล้ว
ยังมี นังเลสเบี้ยนแสนงอน เพื่อนของชั้นอยู่อีกคน เฮ้อ

อืม...รู้ไหม ทำไมบีถึงเชื่อ สิ่งที่เพื่อนในเนตเล่าให้ฟัง
โดยไม่รู้สึกระแวงแคลงใจ
ไม่คิดว่ามันเป็น สังคมตอ+แหลที่ไร้สาระ
แบบที่...ใครบางคน...เคยพูด

เป็นเพราะ เวลาเล่นเนต
บีจะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของคนที่คุยด้วย น่ะ
จะไม่ถามหรอกว่า ชื่ออะไร หน้าตาเป็นไง บ้านอยู่ไหน ฯลฯ
เพราะไม่รู้จะถามไปทำไม
สิ่งที่บีสนใจคือ ความคิดเห็นในสมองของคุณต่างหาก

you write i read ,i write you read

ถ้าเค้าอยากบอกอะไรเรา
เดี๋ยวเค้าก็หาเรื่องบอกเองแหล่ะ
ซึ่งมันก็เป็นงั้นจริง ๆ นะ
แล้วเรื่องราวบางเรื่องที่เค้าบอกเรา
มันก็ไม่ใช่วิเศษวิโสอะไรด้วย

หลายครั้งที่บีได้รับรู้เรื่องราวกดดันของเค้า
รับรู้ชีวิตความเป็นมาที่มีแต่ความผิดหวัง
และคราบน้ำตาของเพื่อน ๆ ในเนต
อ่านแล้วก็ไม่รู้จะช่วยไงเหมือนกัน
เลยได้แต่ด่าไปปลอบไป ตามประสานั่นแหล่ะ

สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคุณคือ
อย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไปนักจิ
มิตรภาพไม่ว่าจะเกิดจากการสะดุดตีนเอ๊ย เจอกันที่บันไดเลื่อน
หรือ รู้จักกันผ่านสายโทรศัพท์ มันก็ไม่แตกต่างกันหรอก
ระดับของความผูกพันธ์( ไม่ใช่ความสัมพันธ์นะ)
จะผิวเผินหรือแน่นแฟ้น
มันขึ้นอยู่กับ ความรู้สึกที่สะสมมา
แล้วก็ขึ้นกับ ความเหมาะสมสอดคล้องซึ่งกันและกัน ต่างหาก

และ ถ้าคุณเสียตังค์ ค่าชม.เนตแล้ว
ก็อย่ามัวแต่มุ่งแผ่ขยายความเหงาว้าเหว่
หรือลากคนอื่นมาช่วยหมกมุ่นด้วย เลย
ถ้าเป็นไปได้ ก็ช่วยเหลือคนที่เหงาและว้าเหว่กว่าเราด้วย

ส่วนหน้ากาก ที่ใส่เสมอน่ะ ก็ถอดทิ้งไปเหอะพี่ทิด
เปิดเผยตัวเองในส่วนที่อยากจะเปิดเผย
และหลีกเลี่ยงที่จะบอกในสิ่งที่ไม่อยากบอกจะเข้าท่ากว่านะ
ใส่หน้ากากตลอดเวลาน่ะมันอึดอัดจะตายชัก
ดีมะดีเหงื่อออกมาก ๆ ก็หมักหมมในหน้ากาก
ทำให้เป็นเป็นสังคัง เอ๊ย เชื้อราบนหนังศีรษะอีกนะเฮียนะ อิอิ

อืม...เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่าแฮะ
ยิ่งพูดยิ่งเหมือนนางเอกในนิยายน้ำเน่าว่ะ
เดี๋ยว พูดมาก ๆ จามีคนมาหลงเสน่ห์ เรา
จนหัวปักหัวปำ เนอะ เหอ...เหอ...












เจ้า โกล์ดมุนด์เบอร์ 3
ผู้ชายปากหมาที่ชื่อ อ. ( นามสมมุติ หุหุ )


--------------------------------------------------------


ไอ้ผู้ชายจอมเฮี้ยว อีกคน
(ที่เคยตั้งปุจฉา ถามเรื่องความปากหมา กับอิฉัน)
มันก็นึกครึ้มอะไรก็ไม่รู้
พ่อเจ้าประคุณให้เกียรติ เมล์มาเล่า อัตตชีวประวัติของตัวเอง
(ยาวเหยียด ราว 1 หน้า เอ สี่ )ให้ฉันได้รับฟัง
เลยได้รับรู้วีรกรรมของ เด็กผู้ชายเกเรเกตุงคนหนึ่ง
ที่ล้มลุกคลุกคลานกับชีวิต คำพูดในเมล์ของเขา
ที่ยังกระทบใจ อิฉัน มาจนทุกวันนี้ คือ

" หยุดเรียนไปปีหนึ่ง ทีนี้ไม่รู้ว่า บ้าอะไรขึ้นมา
สอบอุเทนไม่ติด ก็เลยคิดว่าปีหน้าจะเอนเข้าสถาปัตย์แม่งซะเลย
ตลกไหม ? คิดโง่ ๆ ได้ดังนั้นแล้ว
อ่านหนังสือเป็นไอ้บ้าอยู่ปีนึง

ปีนึงผ่านไป เราก็เกิดความเชื่อมั่นบ้า ๆ อีก
เลือกสถาปัตย์มันทั้งสี่อันดับเลย
ไล่มาตั้งแต่ จุฬา ลาดกระบัง เกษตร

ตอนนั้นเครียดมากเลย กินกาแฟวันละ 4 - 6 ถ้วย
อ่านหนังสือไม่หลับไม่นอน แต่ก็มีความสุข
เรามักจะมีความสุขที่ได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเอง
มากกว่าที่จะเรียนในห้อง เราเกลียดห้องเรียน

แต่ก็นั่นแหล่ะนะ พอวันสุดท้าย
พอวันไปสอบ ก็นอนไม่พอกินกาแฟไปแยะ เลย
สอบวาดรูปงี้มือสั่น ใจสั่น วาดรูปไปดินสอสั่นยิก ๆ เลย
วาดแทบไม่เป็นเส้น สุดท้ายเรื่องก็จบด้วยน้ำตาอีก

จำได้ว่ามันเป็นวันที่เสียใจ และจะจำมันไปตลอดชีวิต
แต่ด้วยกลอนบทนึงที่มันพิมพ์ไว้ที่หน้าปกของหนังสือระเบียบการเอ็นทร้านส์
เป็นสิ่งที่เราจำได้อย่างแม่นยำที่สุด แล้วมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตเราใหม่ทั้งหมด

We may not be able to have all the thing that we want in life.
And we may not be able to do all theing that we would like to do.
But we can always be the kind of person that we want to be.

ก็คำว่า kind of person that we want to be นี่แหละที่เราค้นหามาทั้งชีวิตที่เหลือ

ชีวิตที่ผ่านมามักจะมีเรื่องราว
ที่เปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเสมอ
หลายครั้งถึงกับต้องร้องไห้
แต่สุดท้าย ก็ลงที่คำเดิม
คือ ทุกอย่างก็เป็นสิ่งที่เลือกเองทั้งหมด
ตอนนี้ชีวิต มั่นใจขึ้น เพราะคิดว่า ตัวเองได้เป็น
" The person that I want to be " แล้ว
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:11:59 น.  

 
 
 

อ้อ ตะกี้ เพิ่ง เห็นโพส ไอ้หลานชาย
ขอเฉ่ง เอ๊ย ตอบมันอีกหน่อย

ว่า จะ ปลาร้า ปลากระป๋อง หรือฟอสซิล

มันก็เป็น แค่ที่ประชุมของธาตุทั้ง 4 เหมือนกันย่ะ
มีไรป่ะ เอิ๊ก ๆ


เป็นคนบนคานสิดี
เพราะจะได้มีประธานสมาคมฯ ( อย่างเอ็ง )
มาเป็น ค น แบกคานหามพวกป้า ไปโน่นไปนี่
ตามที่ป้าชี้นิ้วสั่ง เอ๊ย ไหว้วาน ไงจ๊ะ เหอ....เหอ.....
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:18:29 น.  

 
 
 
งึมงำไรกันหว่า.....
อ่านแล้วปวดขี้ตาชมัด....คริคริ
รึเปล่า????
ฟอสซิส????
ที่หน่ายกันละ.....เขาเรียกว่า
ของสูงค่าที่ไม่อาจตีราคา ตางหาก
ปลาที่เก็บไว้นานๆไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องกลายเป็นปลาร้า......
ปลาที่ที่คู่ควรคือน้ำ จะขึ้นมาอยู่บนบกทำไม
อิสระ และกว้างใหญ่ นั้นตางหากที่คู่ควร
แต่หากเป็นปลาร้าจิงๆ ก็ยังดี จะได้ลงไปอยุ่คู่กะมะละกือ อีถั่ว มะเขือ รวมๆกัน หลายรสหลายชาติ.....ปลาร้าที่ทรงคุณค่า......เหอะๆๆ
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 114.128.151.49 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:28:50 น.  

 
 
 
อ้อ......
ว่าจะตั้งประเด็นสักกะหน่อย
ระหว่าง....เลวโดยกำพืด
กับเลวโดยสั่งสอน ส่วนประกอบองค์รวมโดยสังคม
อะไรที่เราสามารถปรับเปลี่ยน หรือว่าปรุงใหม่ได้
คนบ้างคนครอบครัวดี สังคมดี แต่แสนเลว
คนบ้างคนสังคมรอบข้างมันน่าอนาถ แต่ดีแสนดี
แต่บ้างคนพกพาความเลวมาแต่ชาติปางก่อน มาเกิดใหม่ยังอุสาพกพามาอีก....
คำถาม??
อะไรจะเปลี่ยนได้
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 114.128.151.49 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:42:00 น.  

 
 
 
เห็นด้วยกับคุณ ช้านเองเจ้าค่ะ
เรื่องอะไรเราต้อง ทำตัวเป็น
ปลาหนีน้ำ แบบ ยาย วาปี ของ สิริมา อภิจจาริน
ด้วยล่ะเนอะ (
ปล่อยให้ ไอ้แสบมัน เป็น แบบยายหวัน ไปคนเดียวละกัน หุหุ )


อ้อ
ถึง หลานแสบที่ร้ากกก
ป้าไปหารูปได้แล้วอ่ะ
ป้าจาเอารูปนี้ อิอิ
โพสให้
หน่อนนะจ๊ะ พ่อหลานร้ากกกกก

//www.be2hand.com/images/upload_shop/200907/200907-22-122125-1.jpg
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:44:18 น.  

 
 
 
โอเค้ ตอบอีก ประตู เอ๊ยประเด็น
ก่อนจะไปจิง ๆ ล่ะ



ระหว่าง....เลวโดยกำพืด
กับเลวโดยสั่งสอน ส่วนประกอบองค์รวมโดยสังคม
อะไรที่เราสามารถปรับเปลี่ยน หรือว่าปรุงใหม่ได้


คำถาม??
อะไรจะเปลี่ยนได้

ขอตอบมั่ว ๆ ว่า

ปัจจุบันกรรม มั้งที่เปลี่ยนได้

กมฺมุนา วตฺตตี โลโก กุ๊ก ๆ นี่ นะ


พระแก่ ๆ รูปหนึ่ง บอกว่าเคยบอกว่า

เหนือ ฟ้า ยังมีฟ้า
เหนือ กฏ แห่งกรรม ยังมี วิปัสสนา กรรมฐาน


นี่นะ อิอิ

ปอลิง
แต่ คนพกพาความเลวมาแต่ชาติปางก่อน มาเกิดใหม่ยังอุสาพกพามาอีก( แบบ ไอ้แสบหลานอิฉัน )

กรรมฐาน ทั้ง 40 กอง
เก๊าะคงช่วยอารายมันไม้ได้หรอกมั้ง
นอกจากอธิษฐาน ให้ อัลเลาะห์ช่วยคุ้มครองมัน แทน 5555
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.248.200 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:55:10 น.  

 
 
 
หนีปั๋วมาตามกลิ่นธูปที่อีปี้้จุดเชิญมา แว้ว
อ่านไปมึนไป หูย.... อ่านไม่ไหว ยาวเกิ๊น
เด๋ว มีลมดีๆ เมื่อไร หัวแล่น ลื่นปึ๊ด ลื่นปึ๊ด จะมาร่วมขบวน
เผาปั๋ว ให้ฟัง เรื่องฟามรักของขวัญกะเรียมเหลือจะทน
เหอๆ

เรื่องฟามรักสุดจะหักยามมันจะดันทุรัง อยากจะรู้รส
ถ้าไม่รู้รส ก็ไม่ยอมเลิก เหอๆ รู้จักลึกซึ้งเมื่อไร หายสงสัย
หายแคลงใจ สงบเงียบ รอว่าเมื่อไรจะเป็นไท เป็นอิสระ
จากฟามรากก ฟามผูกพัน อีขวัญ จะเผ่นแนบ ไม่รอเรียม แว้ว
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 58.9.42.76 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:23:47:36 น.  

 
 
 
อาเจ้ตามเข้ามาอ่านแล้วนะคะ

โอ๋ย.....ยาววววววววว จิงจิง

ยาวววววววววว จนมึน

ต้องย่อยก่อนทีละเรื่องงงงงงงงง

เอาเป็นว่า วันหลังจะแวะเข้ามาเป็นพักๆ แล้วกันนะคะ

เด๋ว..ต้องไปตอบความเห็นในกระทู้ "ชีวิต ลิขิตเอา"ก่อน

ขึ้นมาอ่านเสียนานเลย

แต่สนุกนะคะ อาเจ้ชอบอ่าน

 
 

โดย: oDaineo วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:8:17:53 น.  

 
 
 
ชิ....ว่าเราเลวแต่ใช้เอาๆ
เห็นผู้ชายเป็นพวกแบกหาม(คาน)
มิน่าโดนอัญเชิญไปอยู่บนคน
.....
แวดล้อมดี...... คนเลว
แวดล้อมเลว.. คนก็เลว
เพราะแวดลอ้มนั้นไม่ถูกจริตของบุคคลผู้นั้นรึเปล่า

เหมือนคนติดยา พามาบำบัด
แล้วปล่อยกลับไปในแวดลอ้มเดิมๆ
เขาก็กลับไปสภาพเดิม
แต่
บางคนพามาแล้วกลับไปที่ใหม่
ก็ยังติดเหมือนเดิม

ออ้ยปลุกที่ใดก็หวาน
แม้นออ้ยไปปลูกในทะเลทรายก็ยังคงหวาน
(แม้จะหวานแบบ แกรนๆ ก็เหอะ)
คนก็เช่นกัน สันดานดีไปอยู่ในสังคมเลว
ก็อาจจะเลวได้ตามรอบข้างบ้าง
แต่สันดานชั่วอยู่ไหนก็ ... ขม แงบ่ๆ
 
 

โดย: itoursab วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:11:32:26 น.  

 
 
 
แถ๋แน๋ว......
อันนี้ไม่ได้กระทบท่านเจ้าของบ๊อกเลยนะค่ะ...
เจ้าของบ๊อกอิฉ้านจะนิยามให้ว่า....
คนดีที่แสนเลว
.....
.....
.....
ชอบมั้ยค๊าาาาาาาาาาาา
อ้อ แล้วเรื่องตำแหน่งประะานชมรมทำไมโยนกันไปมาละค่ะถ้าใครไม่รับ
อิฉ้านเป็นเองก้ได้ค่ะ
....เหอะๆ.....
อิฉ้านปลื้มมมมมมมมมมมมมมมม
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 114.128.151.249 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:15:16:24 น.  

 
 
 
ถึง คุณ oDaineo

แท้งกิ้ว สำหรับ กลอนในกาทู้
//www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y8379864/Y8379864.html#28

รักมิหมายชิดใกล้ให้มากสุด
แต่ประดุจเสาห่างเพราะต่างต้น
ระยะห่างอันพอดีที่จักดล
แล้วรักย่อมผลิผลหวานละมุน


อ่านแล้วนึกถึง คำพูด
ที่อิฉันเคยเมล์คุยกับ เจ้า โกลด์มุนด์ เบอร์ 2 จังอ่ะ
ตอนนั้นก็เลคเชอร์ปัดยาการใช้ชีวิตของตัวเอง
ให้มันฟัง ประมาณนี้ อ่ะ

" จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากัดกินจากก้อนเดียวกัน
จงแบ่งปันความสนิทชิดเชื้อ แก่ผู้เป็นสหาย

แต่ อย่าลืม รักษา ระยะห่าง ระหว่างกัน "


--------------------------------------------

จงยืนอยู่ด้วยกัน แต่ว่าอย่าใกล้กันนัก
เพราะว่าเสาของวิหารนั้น ก็ยืนอยู่ห่างกัน


อ่ะ เอามาฝาก
//topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/01/K6232714/K6232714.html#2

 
 

โดย: E-tour-sab IP: 117.47.1.155 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:19:20:23 น.  

 
 
 
ถึง อีน้องขวัญ หวานใจเรียม


แม้ว่า นู๋จะ มีลูกมีปั๋ว
หมดสิทธิ เสนอตัวสมัคร เข้าเป็นสมาชิกสมาคมฯ
แต่ก็ รู้สึกเป็นเกียรติ ยิ่งนัก ที่นู๋มาเยี่ยม มาคม ของเรา อิอิ

ไงก็จะรอ ดู อีนู๋ เผาปั๋ว ให้ฟัง
เอ๊ย รอนั่งอ่าน แผลเก่า เวอร์ชั่น อีน้องขวานบิน นะจ๊ะ

บ่วง สื่อ ยู่ อี่ ^ - ^




ถึง ไอ้แสบ หลานร้ากกกกก
อืม....ใช้นิดใช้หน่อยทำเป็นบ่น นะ ไอ้ปลาหนีน้ำ
เป็น เบ๊ เอ๊ย ประธานสมาคมก็ต้อง อดทน
ต้องบำเพ็ญ ขันติบารมี เยอะ ๆ นะจ๊ะ



เฮ้อ ปัดยาของ ลิ้มเซียนยี้ ก็บอกไว้นิ

ว่า ข้าพเจ้าฆ่าคน ได้ โดย ที่มือ ไม่ต้องเปื้อนเลือด

แล้วเรื่องอะไร ป้าบัวผ่อง
จะต้องทำให้สองมือตัวเอง เปื้อนเลือดละจ๊ะ
หลอกใช้ไอ้หลานชายนอกไส้ ไปทำให้ มิดีกว่า เหรอ
เพราะไงเอ็งก็ไม่ได้บริสุทธ์ผุดผ่อง อะไรอยู่แล้วนิ
เลวเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมฟามผุดผ่องของป้า อีกสักหน่อยจะเป็นไร เอิ๊กส์ ๆ

แหม ก็ เกิดเป็๋นหญิง แท้จริง แสนลำบากนี่นะ
สุภาพสตรีผู้บอบบางอย่างป้า
ก็เลยหา เบ๊ เอ๊ย สุภาพบุรุษผู้เข้มแข็ง อย่างเอ็ง
มาคอยช่วยเหลือ ไงจ๊ะ แง๊บ ๆ


ถ้า ผู้ชาย มัน พูดอย่าง แต่เจตนาอย่าง
เขาเรียกว่า ไอ้พวก ลิงหลอกเจ้า เอ๊ย กลับกลอก
หน้าไหว้หลังหลอก อ่ะ คบม่ายด้ายยยยยย

แต่ถ้า ผู้หญิง พูดอย่าง แต่เจตนาอย่าง น่ะ
เค้าเรียกว่า ปากกับใจไม่ตรงกัน ว้อยยยย
อันนี้ น่ารักน่าเอ็นดู เสมอ หุหุ



---------------------
แวดล้อมดี...... คนเลว
แวดล้อมเลว.. คนก็เลว
เพราะแวดลอ้มนั้นไม่ถูกจริตของบุคคลผู้นั้นรึเปล่า
------------------

ฟรอยด์ ไม่ได้ว่างั้น อ่ะ
นิทานเรื่อง นกแขกเต้า ในตะกร้าสามใบ ก็ไม่ได้ว่างั้น เช่นกัน
แต่ ป้าว่ามันเกี่ยวกับ
จริต 6 ชนิด ของสิ่งมีชีวิตที่เรียก ว่าคน( แต่ละคน ) มั้ง
สมณะโคดม ก็ เคยเลคเชอร์
เรื่อง อนุสัย และ ขันธจริต ไว้เหมือนกันนี่


ขอบใจ ที่เลคเชอร์ ทฤษฎี เรื่อง การปลูกอ้อยให้ฟัง

เฮ้อ จะ อ้อย หรือ ทอม มันก็เหมือนกันว่ะ หลานเอ๊ย

ทอมแท้ นอนใคร ยังไงก็ยังเป็น ทอมแท้
แม้น ต้องทนนอนกับ ผู้ชาย เพื่อแลกเงิน ยังไงก็ยังเป็น ทอม
ลูกผู้ชายอย่างเอ็ง หรือ จะมาสู้ ลูกผู้หญิง อย่าง ดี้

เข้าใจ๋ บ่ พ่อ หลานร้ากกกก
ป้าเสือไบฯ เอ๊ย เสือบี คิดว่างั้นอ่ะ แง่บๆ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 117.47.1.155 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:19:22:24 น.  

 
 
 
ถึง คุณ ช้านเอง
เอ่อ...รุ่นเก๋า ขึ้นหิ้ง อย่าง พวกเรา
นอนกินตำแหน่ง ที่ปรึกษา สมาคม ฯ ดีกว่า เจ้าค่ะ

อย่าไปตบตีแย่งชิงตำแหน่ง เบ๊ เอ๊ย ประธานสมาคมฯ
กะ ไอ้แสบหลานอิฉันเลยค่า
ปล่อยให้มัน เป็น คนแบกคาน
ให้พวกเรานั่ง สบาย ๆ ดีกว่า อ่ะ 555




อ้อ ระหว่างที่ รอ คุณเปิดประเด็น ว่า
อิฉันขอ นุญาต เปิดประเด็น นินทา เอ๊ย ผู้ชาย มั่งดีดีกว่า อ่ะ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ

ปุจฉาาาาาาาาา

ในสายตาของผู้หญิง(บนหิ้ง )อย่างเรา ๆ

พวกผู้ชาย มันเหมือนอะไรค้าาาาาา ? อิอิ

ปอลิง

บ๊ายบายเจ้าค่ะ เด๋วสักพัก อิฉันจะไปเดินจงกรมล่ะ
มัวแต่ มาติดเนตเม้าส์ แตกที่นี่
การปฏิบัติของอิฉัน ป่นปี้หมดเล๊ย
( ทั้ง อู้ ทั้งเลท เฮ้อ)

เจริญในธรรมนะจ๊ะทุกคน ( แค้ก....แค้ก .....)
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 117.47.1.155 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:19:24:04 น.  

 
 
 
ถึง เซียนยี้
ถ้า ผู้ชาย มัน พูดอย่าง แต่เจตนาอย่าง
เขาเรียกว่า ไอ้พวก ลิงหลอกเจ้า เอ๊ย กลับกลอก
หน้าไหว้หลังหลอก อ่ะ คบม่ายด้ายยยยยย

แต่ถ้า ผู้หญิง พูดอย่าง แต่เจตนาอย่าง น่ะ
เค้าเรียกว่า ปากกับใจไม่ตรงกัน ว้อยยยย
อันนี้ น่ารักน่าเอ็นดู เสมอ หุหุ
---------
ปัดยานี้ถือว่าถูกต้องอย่างยิ่ง
อีขวัญเห็นด้วยล้านเปอร์เซน

เป็นพูชาย ต้องมีสัจจะ ถึงเรียกว่า หล่อลากฟ้า
เป็นพูหญิง มันต้องกะล่อน ถึงเรียกว่า สวยลากดิน เหอๆ
อยู่คู่กันแล้วรับรองไม่มีหงอย มีแต่แซ่บบบเหอๆ

ว่าแร้วก็เผาปั๋วซักนิด จิตแจ่มใส
ทุกวันนี้อีปั๋ว บ่นอยู่เรื่อยว่า คิดผิดไปแร้วหนอๆๆๆ
แถมติดเรื่องสัจจะ อีกพูดแร้วไม่อาจคืนคำ ได้ของมาก็
ไม่สมราคา นมก็เล็ก อู้งานก็เท่านั้น เคลมก็ไม่ได้
หมดอาลัยตายอยากขนาดบอกว่าอยากไปบวชตลอดชีวิต
เพราะหาเมียผิด คิดจนผมร่วงเรย เรียมเหลือจะทน แว้ว


 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 58.9.49.165 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:20:21:10 น.  

 
 
 
ตกลงเนี่ยกลายเป็นที่สุมเหล่าหัวสตรีที่
ปากกะใจไม่ตรงกัน ชิมิ แง่บๆ
...
ตกลงท่านๆจะรับน้ำชาแบบไหนละครับ
จะได้ก้มหน้าก้มตาเสริฟ
(เฮ่ออ... กรูมีกรรม หงิมๆ)
รึป้าเว(ช้านนนเองงงง)จะรับตำแหน่งนี้ งิงิ

......
เรื่องสภาพแวดล้อมกับตัวคนน่ะ
ผมมองเหมือน
ม้าแข่งมาลากรถจะบอกมันเลวที่ลากช้าก็ไม่ได้
ม้าแกลบมาวิ่งแข่งจะไปหาว่ามันวิ่งช้าก็ไม่ได้
ทุกสิ่งดีได้ อยู่ที่เรารู้จักจัดวางและเลือกใช้อ่ะ
...
แระออ้ยมันเกี่ยวไรกะทอมนิ
(ชิทำวกๆ)
ป้าไม่เข้าใจหรอก เอิ๊กๆ
เรื่องอดีตนั่นน่ะ
ทอมจริงๆเลยผมก็เคยแล้ว
(ไม่ใช่ทอมคนแรกในชีวิตซะเมื่อไหร่ แง่บๆ)
แต่คนนั้นผมก็ยังมั่นใจว่าเค้าไม่ใช่
อย่างมากก็แค่ไบฯ
เพราะผู้ชายนะมันสัมผัสได้ เวลา อะจึ๊งๆ น่ะ
ว่าแบบไหนใช่ และแบบไหนไม่ใช่
(เหมือนผู้ชายเห็นกระเทยแปลงเพศนะแหละ ยังไงก็มีตะแหง่วๆ)
แต่นั่นแหละ ก็น่าเสียดายและสงสาร
แต่จำเป็นต้องปล่อยไป เมือ่เราพยายามแล้วให้เขากลับมาดีบ้าง
ไม่ต้องมากแต่อยู่ในเส้นสมควรของสังคมบ้าง
เมื่อเขาเลือกทางนั้น เราก็ห้ามไม่ได้ ...ปล่อย
(พระพุทธเจ้ายังบอกให้ฆ่าม้าทิ้งเลย)
 
 

โดย: itoursab วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:21:31:16 น.  

 
 
 
รักผัวต้องหมั่นตบ ผัวสลบ เราตบซ้ำ
กลับดึกไม่ต้องถาม ไม้หน้าสาม หวดทันใด
ตีหนึ่ง...พึ่งถึงบ้าน แพ่นกบาล ให้หนำใจ
รักผัวไม่หวั่นไหว ซัดเข้าไป ไม่ยั้งมือ
หากผัวกลับบ้านดึก เตรียมเปิดศึก อย่ากลัวเกรง
รักผัวต้องข่มเหง ผัวเราเอง ใช่ผัวใคร
รักผัวต้องเข้มแข็ง กระหน่ำแข้ง ซัดเข้าไป
รักผัวต้องหลากหลาย ทั้งมีดไม้ ให้ครบมือ

รักผัวต้องหมั่นซ้อม โดดขึ้นคร่อมอย่าออมมือ
รักผัวต้องฝึกปรือ หมั่นซ้อมมือ ให้แม่นยำ
ผัวล้มเราเหยียบซ้ำ เอาให้หนำ ตายคามือ
ซ้อมผัวให้คนลือ ว่าเราคือ ยอดเมียไทย

มีผัวบ่นจู้จี้ ร่อนทัพพี ให้หน้าหงาย
มีผัวเอาแต่ใจ บีบคอให้ ตายไปเลย
ตีหัว…ผัวแหว่งวิ่น แอนตาซิล จ่ายทุกแผล
รักผัวต้องดูแล เพราะผัวแก่ ใกล้ลงโลง
ถ้าผัวแอบมีกิ๊ก ไม้ตีพริก ฟาดเข้าไป
กระทืบ…ผัวให้ตาย อย่าปล่อยไว้ ให้อายคน
รักผัวต้องอดทน ผัวเป็นคน ด้านกว่าใคร
โดนตบ จนหน้าหงาย ผัวยังไม่...สำนึกเลย

ผัวดีนั้นหายาก ต้องลำบากตรากตรำหา
รู้ไหมกว่าได้มา เหนื่อยเลือดตา แทบกระเด็น
รักผัวต้องใจเย็น เพราะผัวเป็น ของมีค่า
รักผัวต้องบูชา อย่าเที่ยวด่า ส่งเดชไป
ผัวด่า…เราต้องเงียบ ยกเจ๊เบียบ ให้ผัวไป
เผื่อฟลุ๊ค…ผัวช๊อคตาย หาผัวใหม่ สุขใจเอ
ย (เอามาฝากค่ะ) เหอะๆ

 
 

โดย: ช้านเอง IP: 112.142.25.84 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:21:54:17 น.  

 
 
 
ถึงคุณช้านเอง
หูย...คุณปี้ขา อ่านแรกๆ ก็อินดีนะ
มาตอนท้าย มันตะแหม่ง ตะแม่งอยู่นะ

จะให้บูชาปั๋วหรอ เชอะ...ถ้าทำตัวดี ก็อาจจะ...นะ
ถ้าปั๋วอีช้าน มันทำร้ายตัวเอง... อีขวัญกาทึบซ้ำ เรย

เรื่องปั๋ว นี่ ไม่เคยหวงนะ ขอบอก สั่งให้ไปมีเมียน้อยได้
อนุญาติ กิ๊ก กั๊ก อะไร จะเอาก็เอาไป (ตรูจะได้สบายเสียที เหอๆ)
ที่อนุญาติไว้มะใช่อะไร ไม่อยากให้คนมันต้องไปขึ้นงิ้ว
เคยให้ปั๋วเอาเมียน้อยมาอยู่ในบ้านด้วยนะ เห็นว่า want
คนนี้นักหนา เลยจัดให้ เอามาร้อยก้นไว้ใช้ ส่วนอีขวัญ บ้า
เล่นเกม ro ไปสบายใจเฉิบๆ มีคนดูแลปั๋วแว้ว..

อยู่ไปได้ไม่ถึงปี อีเมียน้อยมันออกลาย บอกคุณปั๋วช้านว่า
เฮียจะเลือกคราย เบอร์1 หรือเบอร์2 ให้เลือกเอา
อีปั๋วช้าน มันบอกไม่เลือก อีเบอร์2 มันเลยไปกะพูชายคนใหม่
หูย...ปัวช้าน มันอกหัก รักคุด แทบจะเป็นบ้าตาย เรย..นะ
ส่วนอีชั้น ก็ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ใช่เรื่องของตรู กะลังบ้าเก็บ เลเวล โว้ย

เรยปล่อยให้อีปั๋วมันต้มน้ำใบบัวบก กินเอาเอง
ทุกวันนี้ อีบอก ไม่อยากมีเมียน้อยแระ มันไว้ใจมะได้
ความซวย เลยมาเยือนอีขวัญอีรอบ ต้องมาดูแลปรนนิบัติ
พัดวีคุณปั๋ว ต้องเลิกเก็บเลเวล มาเป็นเบ๊ อี ซะงั้น
เก๊กซิมหลาย ตอนนี้มีเจ้านายมาเพิ่มอีก2หน่อ ยิ่งไม่มีเวลา
ไปทำโสด เอ๊ยไม่ใช่ ไปปฏิบัติธรรมที่อื่น นอกจากที่บ้าน
กะที่ทำงาน

 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 124.122.148.64 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:12:04:39 น.  

 
 
 
คิดๆไป จะเอาแต่ข้อเสียของปั๋วมาโพนทะนาอย่างเดียว
ก็ไม่แฟร์เท่าไร เท่าถ้าอีไม่ดีจริง อีขวัญมันก็ไม่เอามาทำปั๋ว
หรอกมั้ง ไว้จะค่อยๆมองหาข้อดีของอีมาบอกนะ
ที่นึกออกตอนนี้ ก็... อีปั๋วมันมีดีที่สัจจะที่แหละ
ผู้ชายที่มีสัจจะนะ...โคดหล่อ เลย ว่ะ
แต่อีขวัญมันเห็นใครหล่อ อีกมะได้แร้ว มันเห็น
ปั๋วมันหล่ออยู่คนเดียว เหมือนคนที่มีฟามรักแล้วมักจะ
ตาถั่ว เอ๊ยมะใช่ต้องบอกว่า ตาบอด เพราะไม่เห็นคนอื่น
เรย เห็นแต่ปั๋ว ตัวเอง เหอๆ ก็ไม่ใช่อะไรหรอก
กัว ปั๋วมันเตะคอหัก เอา ถ้าไปเห็นคนอื่นหล่อ อีกนะ
พูชายที่มีสัจจะ แล้วหล่อโคดๆ เนี่ย มันมักจะเป็นคน
ประเภท ดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด (โคดสยองเรย เวลาอี แปลงร่างอะนะ)
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 124.122.148.64 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:12:18:55 น.  

 
 
 
แหะๆ......
ไม่มีไรหรอกค่ะ
แค่หยิบมาฝากไม่ได้ให้เกรงกลัวปั๋วแต่อย่างใดเลยค่ะ
ทุกคนต่างมีข้อดีและเสีย
ไม่มีใครดีได้ทั้งร้อย
ตัวเขาตัวเรา ก็เช่นกันค่ะ
แค่มันขำๆเลยเอามาฝากคุณอีขวัญเอง น่ะค่ะ
ยินดีที่รู้จักนะค่ะ
หากวันหนึ่งมีปั๋วเป็นของตัวเอง.....อิฉ้านก็คงต้องไปเกิดใหม่ดีกว่า.....โสดสะบายอยู่แล้วค่ะ
แค่เติมตัวเราเองให้เต็มเราก็มีความสุขได้นิค่ะ
ไม่จำเป็นต้องหาใครมาเติมเต็มอีก
จริงมั้ยค่ะ......
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 112.142.54.79 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:12:35:05 น.  

 
 
 
ก็เดาๆเอา ว่าแถวนี้อะ มีแต่คนรู้ปริยัติ เรื่องฟามรัก
แต่กัวฟามรักมันจะมาเกาะ ก็เลยอยากมาแชรืมั่ง
ว่าคนที่มีฟามรักบังตาของจริง มันเป็นไง
หนีก็ไม่ได้ เลิกก็ไม่ได้ เหมือนติดบ่วงนายพราน
ยิ่งวิ่งหนี มันยิ่งติด จนมีบ่วงเพิ่มมาอีก2แระ
ต้องสู้แบบจนตรอก เพื่ออิสระภาพ ในวันหน้า (ถ้ามันจะมีนะ)

ถ้าจะรักษาตัวเองให้รอดพ้นจากนายพราน ก็ต้องเก็บเนื้อ
เก็บตัวไว้ อย่าไปล่อตะเข้ให้มากนัก ไม่ได้หมายถึงอย่างว่านะ
แต่หมายถึง อย่าไปท้าทายนายพราน มันเป็นหนทางแห่ง
ฟามประมาท ที่อีขวัญมันต้องแลกมาด้วยการกลืนเลือดตัวเอง
เพราะมั่นในตัวเองว่าจะไม่เสียทีใคร แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า
เหนือตีนยังมีตาตุ่ม เราว่าเราเหนียวแล้ว พอทำกรรมไว้
มากๆ (ไปล่อทำตะเข้หกอักหลายๆตัว) มันจะมีโคตรตะเข้
เกิดมาเป็นวิบากกรรมของเราเอง แบบว่าตามกฏแห่งกรรม
ทุกวันนี้ รู้แต่ชดใช้กรรมไปนะแหละ จนกว่าจะหมดเวร
ก็จะได้ประกาศอิสระภาพ เป็นไท มีหัวใจอิสระ ไม่ต้องเป็น
ทาสใครอีก แว้ว.... ฝันหวานว่าจะเป็นจริงได้ซักวัน

ปล. เรื่องพิษรักนี่ไม่เจอกะตัวไม่มีวันรู้ซึ้งว่า มันโคดทุกข์ เรย

อยู่กับพ่อแม่ ไม่เคยด่าไม่เคยว่าเรา น้ำตาไม่มีตกใน
แต่พอยอมให้คนอื่นเข้ามาในหัวใจนะ มันพูดไม่ถูกหู
ก็ร้องไห้ซะแระ ไม่รู้จะร้องไปทำเบื๊อกอะไร เรางี้ เซ็งจิต
ดีหน่อย ตอนนี้มันมีสติสตังขึ้นมาละ ไม่ค่อยกระเทือน
ค่อยกลับมาเป็นตัวของตัวเองหน่อย เสียศูนย์ไปตั้งนานนะ
กว่าจะกลับมาได้ เหอๆ
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 124.122.148.64 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:13:21:13 น.  

 
 
 
มีเรื่องแปลกใจ อีขวัญเหมือนกันนะ
ไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนมันมั่ง
ปั๋วมีเมียน้อยมันไม่โกรธ ไม่เสียน้ำตาซักหยด
แต่พอปั๋วมันพูดไม่ถูกหู ทำตัวงี่เง่าเรื่องอื่น
มันดันโกรธ บางทีก็ร้องไห้จะเป็นจะตาย
ด้วยเรื่องไม่ป็นเรื่อง แค่ไม่ถูกใจเธอแค่นั้น
เหมือนคนไม่มีเหตุผล อะนะ แบบที่มีคนว่าไว้ เวลามีฟามรัก
เหตุผลมันก็หายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

ยังไง ก็เห็นด้วยที่ซุ๊ด กับสมาชิกสมาคมนี้ทุกทั่น
ว่า อิสระเสรี ของอิสระชน การไม่ต้องเป็นทาสใคร
คือฟามสุขที่แท้จริง แต่อยู่บนคานกินลมสูง ระวังท้องอืด
นะ เพราะอยู่สูงคนมันชอบลองของ ถ้าจะให้ดี ฝึกวิชาล่องหน
ดำดินไว้ เอาไว้หนีเจ้ากรรมนายเวรถ้าหากมันเกิดมีขึ้นมา
จะได้ไม่พลาดท่าเสียทีง่ายๆ เหมือนอีขวัญเอง
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 124.122.148.64 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:13:37:57 น.  

 
 
 
ป้าขวัญ
เด็กทอมที่เคยกิ๊กกะผม
คุณเธอหนีออกจากบ้านตามแฟน
(รายละเอียดไปหาอ่านเอาเอง)
ผมถามเธอ ... แฟนที่เธอว่า "รัก"
เพราะรัก... รัก... น่ะรักกันมากี่ปี
เธอบอก "สองปี"
"แล้วมันเป็นธรรมมั๊ยหากจจะทิ้งคนที่รักรักมาสองปี" ผมถาม
เธอบอก"ไม่"
ผมถาม"ปีนี้อายุเท่าไหร่"
เธอตอบ" 20"
"แล้วมันเป็นธรรมมั๊ยหากจะทิ้งคนที่รักคุณมา 21 ปี"
เธอมองหน้าผม งงๆ
ผมบอก "อีกปีก็ปีในท้องแม่นั่นไง รักคุณมาตั้งแต่ก่อนคุณเกิด"
หากเขาจะเอาเธอออกเหมือนคนอื่นก็ย่อมทำได้
เธอถึงยอมกลับไปติดต่อกับทางบ้านบ้าง
... จากตัวอย่างที่ย้าวว ยาวนั่น สรุปได้ใจความว่า

พิษรักที่ว่า มันเพราะเราเอาความคาดหวังไปตั้ง
อะไรกระทบฟองหวัง เราก็ระวังกลัวมันแตก
ยิ่งพอมันแตก บ่อน้ำตาก็มักจะแตกตามไปด้วย
พระท่านถึงว่าเราต้องมีอุเบกขา รูจักละวางเขาลงบ้างน่ะครับ
เพราะคนที่รักเรามานานกว่ามากกว่า
ไม่เห็นเราจะรู้สึกแบบนั้นบ้างเลย



 
 

โดย: itoursab วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:16:42:22 น.  

 
 
 
ถึงคุณช้านเอง อีกทีนะ แหะ แหะ

พอดีไปอ่านเจอ ข้อความของคุณ อันนี้ แร้วอยากตอบที่นี่ เหอๆ

แถ๋แน๋ว....
คุณE-tour-sab ขาาาาาาา
ของบนหิ้ง???อยู่นานๆไม่ดีนะค่ะ
ของที่อยู่บนหิ้งนานไปมันจะกลายเป็นวัตถุโบราณในอนาคตตตตตตตตตตตตตตต....
นะค่ะ...แหะๆๆ
อ้อและเรื่องคาน...จากการสำรวจของสำนักอีแบกโพลนะค่ะ
ผู้หญิงร้อยละเกือบสองร้อย ที่แต่งงานไปแล้วต่างอยากที่จะกลับมาขึ้นคานกันทั้งนั้น...ทำไมถึงเป็นเยี่ยงนั้นค่ะ..ตอบอิฉ้านที่ค่ะสงสัย???
แต่จากข้อสันนิฐานของดิฉัน..นะค่ะ
เปรียบดั่งหม้อหนึ่งใบ อ้อง่วงแร้วค่ะ
ไว้มาเปรียบใหม่ แหะๆๆ ก็มันง่วงนิ
เอิ๊กๆๆ

เนื่องจาก อีขวัญมีประสบการณ์เรื่องนี้อย่างเต็มเปี่ยม
ขอตอบจากใจเรยนะ...

ก่อนแต่งกะปั๋ว สายตามันเห็นแต่ความเป็นอิสระเสรี
จะได้โผออกจาก อกพ่อแม่ ที่เคารพรัก เป็นที่สุด
มองเห็นทางสายใหม่ ที่จะได้ทำไรด้วยตัวเอง
เป็นผู้ใหญ่เต็มตีน ซะที อยากมีลูก อยากรู้ว่าความรักลูก
มันหน้าเป็นไง การเป็นแม่มันจะรู้สึกยังไง
แร้วบังเอิญ มีพูชายคนหนึ่งผ่านเข้ามาในชีวิต แร้วดูท่า
จะว่านอนสอนไง แบบว่าชีนกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ไม่เถียง
ไม่ขัดใจ ดูดีมีสัจจะ น่าจะฝากชีวิตไว้กับเขาได้ ตอนนั้นไม่
ได้คิดเรื่องอื่นเรยนะ พอได้สมปรารถนาแร้ว กิเลสตัณหา
ที่บังตามันหมดไป เริ่มมองเห็นชัดๆ เห็น นรก รำไรๆ
มีแต่เจ้านายเต็มหัวเต็มหู ไม่มีอิสระอย่างที่คิด อยากทำอะไร
ก็ต้องเสียสละความอยากของตัวเอง ต้องทำให้ลูกก่อน
บางทีคิดๆแล้ว ก็อยากกลับไปอยู่บนคาน ให้หน้าหวานไฉไล
เหมือนเดิม มีแต่ความสนุก อยากจะทำอะไรก็ทำได้เต็มที่
ห่างไกลจากความทุกขเวทนา ทั้งหลาย มันต่างกันที่ตอนนั้น
อยู่บนคานมันมีความสุขสงบนะแต่มันยังมีความสงสัย
ความค้างคาในใจ เดี๋ยวอยากมีเดี่ยวอยากไม่มี มันไม่ขาด
กระเด็นไปจากความคิด พอเหงาๆ ก็ไปล่อตะเข้แก้เซ็ง
พอตะเข้เล่นด้วย ก็วิ่งหนีซะหูตูบ ไม่กล้าเสียงชีวิตด้วย
จนวันหนึ่งดันพลาดท่า ไปเจอโคตรตะเข้ ดิ้นไม่หลุด
มือเหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้าง แบบว่าขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
กะเราเนี่ย (สงสัยตอนนั้นวิบากกรรมมันส่งผล เราเลยหน้า
มืดเห็นดีเห็นงามไปด้วย) เลยหลงผิดไปต้องเดินเข้าคุก
ทุกวันนี้ ก็เหลือแต่ทำเพื่อลูกแหละ อะไรๆ ก็ทำได้ เรื่องของ
ตัวเองก็เป็นเรื่องรอง ปณิธานที่อยากจะทำอะไร ก็ต้อง
ยืดหยุ่นเอาทำเท่าที่ทำได้ เหมือนคนติดบ่วง แต่ก็แก้บ่วง
ไปด้วย เพราะรู้ว่า บ่วงไม่ใช่หนทางอันประเสริฐ เหมือน
คนเจอไม้งามเมื่อขวานบิ่น ต้องอดใจรอ ให้เงื่อนไขมัน
เปลี่ยนไปก่อน ค่อยเป็นตัวของตัวเองได้อีกครั้ง ตอนนี้ก็รอ
ให้ลูกเขาโต ช่วยเหลือตัวเองได้ ค่อยคิดถึงตัวเองอีกที ส่วน
อีปั๋ว ก็เหมือนกัน สุดท้ายถ้ายังมีชีวิตอยู่ตลอดฝั่ง หมดภาระ
เรื่องลูก คงได้บวชในผ้าเหลืองเหมือนกัน
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 124.122.148.64 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:16:54:11 น.  

 
 
 
ถึงคุณแสบ แง่บๆ
ตอนที่คนเราผเข้าตา มีแต่ความดันทุรัง
มันมองไม่เห็นอย่างอื่นหรอก มันเห็นแต่กิเลสตัณหา
ตรงหน้านั้นแหละ พอมีคนให้สติ แล้วมีบุญส่งผลอยู่บ้าง
ก็จะมีสติ รู้ดีรู้ชั่ว เลือกทำสิ่งที่ถูกที่ควรไดถูกต้อง

แต่ป้าขวัญ ว่าตอนนั้นก็มีคนเตือนหลายคนนะ
แต่บาปกรรมมันส่งผล ก็เลยไม่หายหน้ามืด
ดันทุรัง จนต้องติดคุก กัวโตอยู่เนี่ย เบาะๆ ก็ 20-25ปี
แหละ กว่าลูกจะโตแล้วช่วยตัวเองได้
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 124.122.148.64 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:17:00:00 น.  

 
 
 
นั้นสินะค่ะ....
นึกแล้วก็.....เฮ่อ
อย่าเลย
แบบนี้ดีแล้ว
แต่มันมีอยู่หนึ่งตำราที่ว่า
คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า
แต่ตำรานี้ใช้กับอิฉ้านไม่ได้ค่ะ
แค่เห็นตัวอย่างมากมายก็....เฮ่อ
แต่อยากมีลูกค่ะ แต่ไม่อยากมีปั๋ว
คงต้องขอของคนอื่นมาเลี้ยง
ประเด็นใหม่ดีกว่านะค่ะ
นู๋ขอยกตัวอย่าง ครอบครัวหนึ่ง
สามีเจ้าชู้ดอกทอง..
ส่วนเมียวันทองหลายใจ....
มีลุกออกมาเป็นกรรมของปู่ย่าตายาย
นั้นคือความมักง่ายและมักมากของหญิงและชาย
หากเลือกทำได้ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า เธอไม่อยากมีมันหรอกแค่ก้อนเนื้อก้อนเดี่ยว
และนั้นคือความใจร้ายใจดำของลุกผุ้หญิง ที่ได้ชื่อว่าแม่.....
นั้นคือสิ่งที่แม่ควรทำหรอ??
หากถามหาความผิดที่ใครควรรับผิดชอบ...
มันทั้งคู่คือผุ้ผิด...คุณขวัญว่าจริงมั้ย
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 114.128.212.97 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:17:25:52 น.  

 
 
 
เมื่อวานไปานเลี้ยงวันเกิดรุ่นที่ที่เคารพ
(สงสัยต้องเรียก ที่ปรึกษาอาวุโสชมรมได้เลยถ้าแกมา)
แกพูดว่า เนี่ยถ้าเมื่อ สิบปีที่แล้วแฟนแกไม่ทิ้งแก
ป่านนี้แกรวยไม่รู้เรื่อง
ก็จริงนะ เมือ่กอ่นแกไม่ อีแร่ดแตร๊ดแตร๊หรอก
พอเจ๊ทิ้งแก ก็เลย ... เนี่ยแหละ ไปเรื่อยๆ
ไม่รู้จะสะสมไปทำไม
ความจริงข้อนึงของผู้ชายเลยหละนั่นอ่ะ
ไม่สะพายใส่แอกก็ แร่ดๆ ไป
ถ้ามีแอกซะก็จบ
แต่ไอ้ผู้ชายที่เหมือนจะดีเลี้ยงง่ายว่าเชื่องเนี่ย
แหะๆ... จากประสพการณ์ในสังคมผู้ชายตอบได้เลย
ไอ้พวกเนี๊ยแหละ ตัวเลี้ยงไม่เชื่องของจริง แง่บๆ
 
 

โดย: itoursab วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:17:26:47 น.  

 
 
 
ถึง แม่นางขวานบิน

แท้งกิ้วที่ใจดี มาแชร์ประสบการณ์ ด้วย
อ่านแล้ว ชักรู้สึกว่า
การ มีผัวช่างเป็นเรื่องอันหวาดเสียวววววว ซะจริ๊ง จริง

ว่าแต่ อีน้องว่า นวลน้อง วิมาลา อย่างแม่นางลิ้มเซียนยี้
จะมีโอกาสได้เจอ โคตรไอ้เข้ แบบ อีน้อง มั่งไหม น้ออออ
รออยู่เหมียนกัน อยากรู้ อ่ะว่า
ทั้ง ชาละวัน แล ไกรทอง
จะ แทง ถูกนวลน้องวิมาลา ไหม ?
และ ใครจะเป็น ฝ่าย ถูกแทง หุหุ


เฮ้อ
โชคดี ที่ชีวิตอีปี้
ยึดคำว่า

อภรรยา ปรมา ลาภา
สามีมา ปรมา ทุกขา

เป็นสรณะ อ่ะ เลยยังไม่ติดบ่วงไอ้เข้ที่ไหน
แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ หรอกเนอะ
อีปี้อาจจะหน้ามืด กับ คู่กำคู่เวร เอ๊ย คู่สร้างคู่สม เข้าสักวันก็ได้ หุหุ



อ้าง
-------------------------------------------
เรื่องแปลกใจ อีขวัญเหมือนกันนะ
ไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนมันมั่ง
ปั๋วมีเมียน้อยมันไม่โกรธ ไม่เสียน้ำตาซักหยด
แต่พอปั๋วมันพูดไม่ถูกหู ทำตัวงี่เง่าเรื่องอื่น
มันดันโกรธ บางทีก็ร้องไห้จะเป็นจะตาย
ด้วยเรื่องไม่ป็นเรื่อง แค่ไม่ถูกใจเธอแค่นั้น
เหมือนคนไม่มีเหตุผล อะนะ
แบบที่มีคนว่าไว้ เวลามีฟามรัก
เหตุผลมันก็หายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้



เอ่ คนรู้ปริยัติ เรื่อง ฟามร้ากกกก
ขออนุญาติ อ้าปากตอบ มั่งน้าาา

อันนี้ เค้าเรียก

มานะ เกิด เพราะ ฟามร้ากกกก มั้ง อีหนู 555





อ่ะ แถม ให้อ่าน

'นังเมียโง่' กับ ผัวฉลาด ๆ
//variety.teenee.com/foodforbrain/5189.html

เฮ้อ อ่านแล้ว ตูอยากมี ผัวฉลาด ๆ แบบนี้ จริ๊ง จริง งงงงง
( ถึงจะถูกมองว่า เป็น นังโง่ ก็ตามมมมม 5555)
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.168.52 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:19:58:17 น.  

 
 
 
คุณช้านเอง

คุณ อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีปั๋ว หรือ เจ้าคะ
แหม ? เข้าตำรา เกลียดตัวกินไข่ ฯ เลยนะเนี่ย อิอิ

ผิดกะอิฉันแฮะ
ไม่อยากมีทั้ง ปั๋ว ทั้ง ลูก เลย อ่ะ
คำว่า ราหุล ชาตะ พันธนะ คงฝังแน่น ในสัญญามั้ง อิอิ


ตามฟามรู้สึกของ อิฉัน

เมื่อมี ลูก ของกู ที่แบกไว้บนหลังก็เพิ่มขึ้นหลายกิโลขีด
น่ากัว ยิ่งกว่า มีปั๋ว อีกมั้ง ไม่เอาอ่ะ
ตอนทำลูก มันก็ สนุกอยู่ หร็อก แต่ก็แค่แป๊บ ๆ
แต่หลังจากนั้นดิ ต้องกระเตง ลูกของกู ไว้บนหัว
จนกว่าตัวกู ( หรือ ตัวมัน )จะตาย ด้วย
แค่คิดก็สยอง อ่ะ

ที่สำคัญ สำคัญ คนในลัทธิ เปอร์เฟคชั่นนิสต์ อย่างอิฉัน
การจะเลี้ยงสิ่งมีชีวิต สักคน/ตัว เนี่ย
ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ต้องทุ่มเทให้เขาเต็มร้อย

พอถามตัวเองว่า
แล้ว อิฉันสามารถ เสียสละฟามสุขของตัวเอง
ทุ่มเท ให้ใครได้ขนาดนั้น ไหม
ขอตอบได้ว่า เสียใจ อิฉัน ทำ บ่ ได้
ขนาด ตัวเอง ยังรับผิดชอบไม่ค่อยได้
แล้วอิฉันจะไปรับผิดชอบชีวิตใครได้

ด้วยเหตุนี้ อิฉันจึงมักบอกกับชาวบ้านเสมอ ว่า

อิฉัน ไม่ชอบเลี้ยง สิ่งมีชีวิต ทุกประเภท
ไม่ว่า จะเป็น คน สัตว์ หรือ พืช
อ้อ ยกเว้น น้องโหระพา หน้าห้อง
อันนี้ เต็มใจเลี้ยง เพราะ น้องเค้าน่าร้ากกก
แถม เด็ดไปใส่ม่าม่า กินได้ด้วย อิอิ






อ้าง
---------------------

ส่วนเมียวันทองหลายใจ....
มีลุกออกมาเป็นกรรมของปู่ย่าตายาย
นั้นคือความมักง่ายและมักมากของหญิงและชาย
หากเลือกทำได้ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า
เธอไม่อยากมีมันหรอกแค่ก้อนเนื้อก้อนเดี่ยว
และนั้นคือความใจร้ายใจดำของลุกผุ้หญิง ที่ได้ชื่อว่าแม่.....
นั้นคือสิ่งที่แม่ควรทำหรอ??
หากถามหาความผิดที่ใครควรรับผิดชอบ...
มันทั้งคู่คือผุ้ผิด...
---------------------

อิฉันมองว่า ไม่มีใครผิดใครถูกอ่ะ แหะ ๆ
เพียงแต่ การปรุงแต่ง ของคน แต่ละคน มันต่างกันมั้ง

ไม่รู้ดิ ไอ้โกลด์มุนด์ เบอร์ 2
เคยสอน อิฉัน ว่า

สิ่งที่เราเห็น อาจมิใช่ สิ่งที่มันเป็นอ่ะ

เรื่องการทำท้องทำแท้ง

.....มันก็เป็นเช่นนี้เอง......


อย่าไปตัดสินใจเลยจ้า
ว่า ใครจะผิดจะถูก ใครจะผิด
มาตัดสินใจดีกว่า
ว่า เราจะกระโดดเข้าไปในวงจรกรรมนั้นด้วยไหม ?

เมื่อคุณรับรู้เรื่องราวชวนหดหู่ที่ผ่านเข้ามา
คุณเลือก ปัจจุบันกรรม ได้ นี่หน่า
ว่า คุณจะทำ ใจ ให้เป็น แบบใด

ใจขาว ใจดำ หรือว่า ใจใส ๆ

อิฉันก็ยัง ทำไม่ค่อยจะได้หรอกนะ
แต่ก็พอจะหลับหูหลับตาตอบตัวเองได้อ่ะ
ว่า ใจแบบไหน ที่มันไม่ขุ่นมัว ^ - ^





 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.168.52 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:19:59:49 น.  

 
 
 
ไอ้แสบ หลานร้ากกกก

อ้าง
...
แระออ้ยมันเกี่ยวไรกะทอมนิ
(ชิทำวกๆ)
ป้าไม่เข้าใจหรอก เอิ๊กๆ
--------------------


ปล่าว วก นะจ๊ะพ่อหลานร้ากกกกกก
เก๊าะ ป้าเห็นว่า อ้อย กับ ทอม
มันก็เป็น ที่ประชุมของธาตุทั้ง 4 เหมือนกันนิ
มันก็ต้อง เกี่ยวกันได้สิน่า

ก็ป้า เห็นด้วยกับ ฟามคิดของเอ็งนี่หว่า

ป้าเลยอยากจะ ยกเหตุผล มาหนับหนุน แนว คิดของเอ็ง
แบบ อ่านแล้วเอ็ง เข้าถึง เรยยย์
อ่านแล้วจะได้ เห็นภาพ เรยยย์

แหม ? ก็เห็นเอ็ง เป็น กูรู้ เอ๊ย กูรู เรื่องทอม นี่หว่า
ป้าก็ต้องบรรยายให้อ่านเข้าใจโดยใช้เรื่องใกล้ ๆ ตัว หุหุ
แหม ๆ ถ้าสันหลังมันหว่ะ นัก
งั้นป้าเปลี่ยน จาก คำว่า ทอม เป็น กระเทยก็ได้ ว้อยยยยย


-----------------------------
กระเทยแท้ นอนกับใคร ยังไงก็ยังเป็น กระเทยแท้
แม้น ต้องทนนอนกับ ผู้หญิง เพื่อแลกเงิน ยังไงก็ยังเป็น กระเทย
ไก่อ่อน....เอ๊ย ลูกผู้ชายตัวจิงอย่างเอ็ง หรือ จะมาสู้ เกย์คิง ขิงแก่
----------------------------

อิอิ หวังว่า อ่านแล้ว
คงสบายลูกตา มากขึ้นนะจ๊ะ ทูนหัวววววว หลานลูกวัว..( โกเบ ) หุหุ


เอ้า อันนี้ เอามาฝากหลานร้ากกกก จ้า
อ่านซะนะ ป้าอ่านแล้ว ซาบซึ้ง มั่ก ๆ
จนไม่อยากลงจากคานเรยว่ะ หุหุ


วิธีเลือกเมีย
//www.mba4ru.com/showdetail.asp?boardid=72

 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.168.52 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:20:00:29 น.  

 
 
 
ถึงทุกท่าน

เอาล่ะ เมื่อไม่มี คราย ตอบ อิฉัน
ในประเด็น ผู้ชาย เหมือน อะไรงั้นอิฉัน เอาข้อฟาม ที่ เคยเมล์ คุยกะไอ้เจ้าเสือจำศีล
มา นินทา เอ๊ย นำ เสนอ ใน ประเด็นนี้ ดีฝ่า


โพสไว้ ให้ ตาลายเลน ๆ เอ๊ย อ่านเล่น ๆ เจ้าค่ะ อิอิ

----------------------------------------










สมัยเพ่นพ่าน อยู่ลานธรรม
ได้มีโอกาสเมล์คุยกับ เจ้าเสือจำศีล ตัวนึง


เขาคนนั้น บอกอิฉันว่า
--------------------------------------

สองวันก่อน เกิดหัวข้อนึง มันแว๊บเข้ามาในหัวผม จากการฟัง
เพลง มันเป็นชื่อเพลง ที่โดนใจคนอย่างผมเสียนี่กระไร

" เจ้าชาย หรือ เจ้าชู้ "

ผมอยากเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและกลมกลืนพอเหมาะระหว่าง
สองบุคลิกนี้ เสียจริงๆ คงเป็นที่หมายปองเสียเหลือเกิน

-----------------------------



จำได้ว่า ตอนนั้นอ่านแล้วก็ยิ้ม
แล้วชวนเขาคุยเรื่อง ศีล / ขัน ทั้ง 5 ใบ ว่า



คุณอย่าได้เกิดตัณหาอยากเป็น
ส่วนผสมที่ลงตัวและกลมกลืนพอเหมาะ
ระหว่าง เจ้าชาย กับ เจ้าชู้ เล๊ย ครู... เอ๊ย
การถูกหมายปองน่ะนะ
มันอาจทำให้ เสือจำศีลถูกไล่ล่า
แล้วกลายเป็นเหยื่อที่ถูกจ้องตะครุบ ก้อด้ายนะ
อันตราย เจ้าคะ อันตราย
เด๋วก็ได้กลายเป็นเสือร้องไห้ ในร้านอีสานคลาสสิค หรอกคุ๊ณ

อย่าลืมดิ ขันทั้ง 5 (ใบ )ที่ตัวเอง ยังแบกไว้
ก็ยังหาวิธีขว้างทิ้งไม่ได้เลย
ยังจะไป บริหารเสน่ห์ ดึงดูด ขันมาเพิ่ม
ให้กลายเป็น ขัน 10 ใบ ทำไมให้มันหนักหัว ล่ะเจ้าคะ ครูฐ๊า ^ - ^
อุ๊ยต๊ายยยย นี่อิฉันมีโอกาส กล่าว
อัปปิจฉกถา และ สันตุฏฐิกถา
เชียวหรือนี่ สาธุ๊ สาธุ ^ - ^





ขานั้น คง อ่านแล้วเห็น สัจธรรม กระมัง
เลย ขอบคุณอิฉัน ซะยกใหญ่ พร้อมกับบอกว่า

----------------------------------------
กรุณา อย่าแหย่ เสือหลับ !!!


อย่ามาแหย่ เสือหลับ เค้าหลับ ก็ปล่อยเค้าหลับไปดีแล้ว
เดี๋ยวมันตื่นมา จะมีคนต้องเดือดร้อนอีกมาก


ที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่อง ศีลข้อ3
ความใจดี ใจอ่อน เมตตาสูงเกินไป ทำให้ เราก้าวขาไปผิดศีล
ครึ่งตัว เอาบ่อยครั้ง ก็ต้องอาศัย หิริโอตัปปะแรงกล้า ให้ก้าว
ผ่านพ้นไป รอดบ้าง ไม่รอดบ้าง คาราคาซังบ้าง ก็ต้องแก้ไข
กันเป็น เคสๆ ไป น่าเหน็ดเหนื่อย

ครั้นสติแรงกล้า ตัดไฟแต่ต้นลม ก็ถูกสังคมปรานามซ้ำ
หาว่า คิดมากไปป่าว

ใครหนอใครมันจะมารู้จักตัวเรา ดีเท่าเรา เสน่ห์ในตัวมันพร้อม
จะกระโดด ออกมาเล่นงานคู่ความ อยู่บ่อยครั้ง อย่าให้ใคร
ต้องมาเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะกิเลสกระผม อีกเลย ปล่อยมันให้อยู่
เหงาๆ เฉาๆ ในถ้ำมันอย่างงี้แหละ ดีแล้ว สาธุ


ขอบคุณที่แนะนำเรื่อง ขัน5 คูณ 2 เป็น ขัน10
ดีที่ผม ก็เก่งเลขคณิต เอาการอยู่
เรื่องเจ้าชายหรือเจ้าชู้ ความจริงผมได้พิสูจน์มากับตนเองจน
เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ไม่สามารถผสมกันได้อย่างกลมกลืน
หากที่เห็นกลมกลืน ก็เป็นเพียงความเสแสร้งให้กลมกลืน
หาใช่ความกลมกลืน ความกลมกลืนไม่

เป็นไง งง มั้ยครับ กับวาทะผม

สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณที่ทนอ่าน มานาน

สาธุ ขอให้เจริญในธรรมต่อๆไป นะคุณ







เฮ้อ ฟังแล้วก็นึก เอ็นดู ไอ้หมอนนี่ ตะหงิด ๆ
แถมพอคุยกันถูกคอ อิฉันเลยชักเลื่อมใส
ขอปวรณาตัว เป็น ลูกศิษย์ (คิดล้างครู ) กะคุณทั้น
พร้อม ออดอ้อน ฉอเลาะถามไปว่า

-----------------------------------
ขอบพระคุณหลาย ๆ เจ้าค่ะ
ที่ครู....จะหมั่นเล่าให้ฟัง
คุณนี่ ใจดีจังเลยแฮะ ^ - ^
อืม...ตอนนี้อิฉันอยากฟังเรื่อง
เทคนิคการเปลี่ยนเสือร้ายให้กลายเป็นลูกแมว อ่ะเจ้าค่ะ
เอ ? มันต้องใช้ศิลปะการออกแบบขั้นเทพ แค่ไหนหรือเจ้าคะ
ถึงจะ ลับ ลวง พราง สร้างภาพมายา หลอกสายตาชาวบ้าน
ได้อย่าง แนบเนียน และ ลุ่มลึกขนาดนั้นน่ะ ( เผื่อจะเอาไปใช้มั่ง )

ว่าง ๆ ถ้ามีเวลา ครู...ก็แวะมาเล่า
ให้ลูกศิษย์คนนี้ฟังเป็นวิทยาทานหน่อยนะเจ้าคะ
อิฉันจะได้เรียนรู้เพื่อ ใช้ แยกแยะ เสือกับแมว
แล้วใช้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ
เพื่อระมัดระวังตัวไว้ ไม่ให้ถูก เสือข่วน หุหุ




เขาเลยบอกอิฉันว่า
--------------------------


จะแยก เสือ หรือสิงห์ กับแมว หรือ คิตตี้น้อย อย่างไร
อันนี้ กระผมคิดว่า คงจะเล่ากันยาว ต้องขอยกยอดไปคราวหน้า
หลังปีใหม่ ฟ้าเปิด แล้วค่อยว่ากัน เดี๋ยวจะพาล
อารมณ์หดหู่ กับผู้ชาย ส่งท้ายปีกัน จะไม่ไหวนะครับ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.168.52 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:20:02:18 น.  

 
 
 
และเมื่อ ได้ฤกษ์ ดี ๆ เข้าก็ เล่าให้อิฉัน ฟังว่า
--------------------------------------------
อยากทราบจริงๆหรือครับ ว่ากระผมนั้นมองผู้ชายด้วยกัน
เป็นเช่นไร ลูกเสือ ลูกแมว หรือลูกตะเข้ ?

นำคำถาม นี้ ไปเปิดแถลงในสภา มาแล้ว
ท่านนายก ได้เมตตา ให้คำตอบ สส.ผู้น้อยเช่นกระผมว่า

หากจะเปรียบเพศบุรุษเป็นสัตว์ชนิดใดนั้น
เหล่าบุรุษย่อมเปรียบได้ดั่ง ราชสีห์ กันทุกถ้วนหน้า
ราชสีห์ ทุกตัว มีสัญชาตญาณ ที่พร้อมจะล่าเหยื่อได้ทุกเวลา

สส.ผู้น้อยจึงได้โอกาส ย้อนถามท่านนายก ไปอย่างหาญกล้าว่า
แล้วท่าน นายก ละครับ คิดว่า ตัวท่านเองเป็นราชสีห์ แบบไหน

"เราเป็น ราชสีห์ ผู้หาญกล้า ผู้ปกครองและดูแล ป่าใหญ่ เรามิเคย
มิเคยขาดตกบกพร่อง ในความหาญกล้าที่จะออกล่าเหยื่อ ไม่ว่า
เหยื่อนั้นจะเป็น สัตว์เล็ก หรือสัตว์ใหญ่ และเราไม่เคยพลาดพลั้ง
ในการล่าเหยื่อสักครั้งเดียว และเราไม่เคยกินแรงใคร เราออกล่า
เหยื่อด้วยตัวเองทุกครั้งไป เราเป็นหัวหน้าฝูงที่เปี่ยมด้วยการ
เคารพนับถือ เราแบ่งปันเหยื่อเราแก่ สิงห์ทั้งหลายในฝูงเรา อย่าง
มิเคยหวงแหน เราคือ ราชสีห์ แห่งสิงห์ทั้งปวง"

สส.ผู้น้อยได้แต่ อ้าปากค้าง กับคำเปรียบเปรย แต่ก็มิได้ท้วงติง
สิ่งใด เพราะเห็นว่าที่กล่าวมานั้น ก็เป็นดั่งที่ท่านกล่าวมาทั้งสิ้น

ท่านขอรับ แล้วหากให้ท่านเปรียบตัวกระผมแล้ว ตัวกระผมนี้
จะสิงห์ประเภทใด ขอรับ

"เธอนั้น ก็เป็นเพียง สิงห์สำอางค์ ที่มัวแต่ ภูมิใจใน ขนงามพอง
โต สลวย แต่หากินเองไม่เป็น ต้องรอราชสีห์อย่างเรา นำเหยื่อ
มาป้อนให้ท่านถึงปาก ครั้นเรานำเหยื่อมาเผื่อแผ่ท่าน ท่านก็ยัง
ติ เหยื่อของเราว่า เล็กไปบ้าง คาวไปบ้าง หวานไปบ้าง ทั้งที่ท่าน
ก็หาเหยื่อเองมิได้ ครั้นท่านมีโอกาสที่จะล่าเหยื่อด้วยตัวท่านเอง
ท่านก็ยัง เก้ๆ กังๆ คิดไม่ออกว่าจะจู่โจมด้วยวิธีไหน จึงจะสำเร็จ
จนเหยื่อรู้ตัว หนีเข้าป่าลึกไป"

สส.ผู้น้อย ก็ได้แต่อ้าปากค้างเป็นหนที่สอง ท่านนายกผู้นี้
รือ จะเป็นผู้รู้แจ้ง มองการณ์ไกล อ่านเกมส์สมรภูมินี้ขาดกระเจิง

ท่านครับ แล้วถ้าจะเปรียบ ท่านรัฐมนตรี เป็นสิงห์บ้างละครับ
ไม่ทราบว่า ท่านรัฐมนตรี นั้นจะเป็นสิงห์ประเภทใด

"ท่านรัฐมนตรี นะเหรอ เราเห็นสมควรว่า ควรนิยามให้เค้านั้น
เป็นดั่ง สิงห์เขี้ยวหัก เป็นดั่งสิงห์ ที่มิได้มีความเป็นสิงห์เลย
กล้ามเนื้อลีบ ขนแหว่ง หามีความน่ายำเกรงไม่ ไร้ซึ่งความ
สามารถในการล่าเหยื่อ แต่ก็ยังพยายามจะแสดงความน่าเกรง
ขามของสิงห์ออกมา ทั้งที่ไม่ก่อประโยชน์ใดเลย ก็ได้แค่เพียง
ขู่คำราม พยายามแสดงออก แต่หามีผู้ใดจะสนใจไม่ ยามเรา
นำเหยื่อมาแบ่งปัน ก็ยังไม่จัดการเหยื่อ ยังมัวแต่ขู่ฟ่อๆ จนเหยื่อ
ได้สติ วิ่งหนีกลับเข้าป่าลึกไป เช่นกัน"

แหมๆๆ ท่านนายกช่างเป็นนักเปรียบเปรยจริงๆ ถึงกระนี้แล้ว
กระผมคิดว่า คงขาดเสียท่านนี้ไม่ได้ คือ ท่านรองนายก ผู้นั่ง
อยู่ข้างๆพวกเรานี้ จะเป็นสิงห์แบบไหนกันหรือขอรับ

"เราขอบอกว่า ท่านรองนายก นั้น คือ สิงห์พิการ เป็นสิงห์ที่
มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แต่ ทุกส่วนในร่างกาย ดูจะผิดสัดส่วน
ไปเสียหมด แลดูไม่มีราศีแห่งสิงห์เลย ด้วยร่างกายที่ผิดสัดส่วน
ทำให้ยากแก่การล่าเหยื่อ ทุกครั้งที่ออกล่าเหยื่อจะต้องนำเศษ
เนื้อชิ้นเล็กบ้าง ชิ้นใหญ่บ้าง แล้วแต่ขนาดเหยื่อที่หวังไว้ มาวาง
ล่อเหยื่ออีกที เมื่อใดที่เหยื่อเข้าใกล้มาสนใจเหยื่อชิ้นน้อยใหญ่
นั้น สิงห์พิการก็จะเข้าตะครุบเหยื่อ อย่างมิปราณี แต่มันหารู้ไม่
ว่า เนื้อชิ้นน้อยใหญ่ที่มันเอามาวางล่อนั้น ก็มิได้เป็นที่โปรดปราน
ของสัตว์ทุกชนิดไป อย่าลืมว่า สัตว์บางประเภทก็กินพืชเป็น
อาหาร ไม่ได้ชอบชิ้นเนื้อที่สิงห์พิการวางล่อไว้แต่อย่างไร "

เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณบัวผ่อง
คุณอ่านแล้ว ลองประเมินและ ตีความหมายให้กระผมฟังได้
มั้ยขอรับว่า สิงห์แต่ละประเภทนั้น หากเป็นคน
คนๆนั้นจะมีลักษณะเป็นเช่นไร ?


 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.168.52 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:20:06:03 น.  

 
 
 
อืม.....คำปุจฉานั้นทำให้สงสัยยิ่งนัก
วาน ทั่นผู้รู้ ในสมาคม ของเรา ช่วย วิเคราะห์ วิจารณ์ แล วิปัสนาญาน มาตอบอิฉัน เป็นวิทยาทาน หน่อยสิ เจ้าคะ


ช่วยกระซิบ บอกหน่อยว่า
มีไอ้ตัวไหนมั่ง ที่มันมักจะ เลี้ยง ไม่ เชื่อง หุหุ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 222.123.168.52 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:20:07:00 น.  

 
 
 
ถึงคุณ ช้านเอง
เรื่องความมักง่าย และมักมากของชายและหญิง
จนเกิดหลักฐานพยานออกมาแล้วไม่รับผิดชอบเนี่ย
ถ้าถามใจ อีขวัญนะ มันสงสารทุกคนเลยนะ
สงสารทั้ง ช ญ แล้วก็ลูกที่เกิดมา
เพราะพวกเขาทำไปเพราะ ไม่รู้ คำเดียว
เพราะไม่รู้ว่า บาปกรรมมีจริง
เพราะไม่รู้ว่า บาปกรรมที่ทำไปมันจะย้อนกลับมาหาตัวเอง
เพราะไม่รู้ว่า มีความน่ากลัวหวาดเสียวรออยู่ข้างหน้า
เมื่อทำบาปกรรมไปแล้ว มีแต่รอวันชดใช้อย่างสยดสยองเท่านั้น

คนที่เป็นทาสของกิเลสตัณหามีแต่ไหลลงสู่ที่ต่ำ
หาความสุขความเจริญไม่ได้ ถ้ารู้ความจริงข้อนี้จะไม่มีคน
กล้าทำบาปทำกรรมเลย แต่มันน่ากลัวตรงนี้ตรงที่ ไม่รู้ความจริงนี่แหละ

อีขวัญก็ไม่รู้ความจริงหรอกนะ แต่เซ้นส์มันบอกว่างั้น
แล้วเวลาเห็นคนอื่นทำบาปกรรม มันเกิดอาการ สยองแทน
รู้แต่ว่า สงสารคนหลงผิด แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะคนทำ
ไม่เชื่อเรื่องบาปกรรม มันเชื่อแต่กิเลสตัณหาตัวเองเท่านั้น

ถ้าสังเกตนะ ข่าวการทำทารุณของคนจะทำกันรุนแรงขึ้น
ก็เพราะกรรม มันเหวี่ยงแรงขึ้น อะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น
พ่อแม่ญาติทารุณลูก ลูกทารุณพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ได้ยิน
ได้ฟังแล้วมันเศร้า เราไม่ต้องตกเข้าไปในวังวนของเรื่อง
พวกนี้ ก็ถือว่ามีบุญหนักแร้ว... ก็เลยไม่อยากไปซ้ำเติมคน
ที่ทำชั่วทำเลว เพราะเขามีผลกรรมเป็นทายาทโดย
กำเนิดอยู่แล้ว เพราะคิดอย่างนี้ไง เลยมีทัศนคติต่างกับปั๋ว
อีปั๋วมันคิดไปอีกทาง เกลียดคนทำชั่วเข้ากระดูกดำ แล้วก็
ชอบคนที่ทำดี สงสารคนที่ทำดีแล้วไม่ได้ดี สงสารคนพิการ
ที่เกิดมาลำบาก จนทะเลาะกันบ่อย ก็เรื่องแบบนี้แหละ
วางใจกันคนละแบบ แต่ก็เป็นเรื่องของคนอื่นที่เราเอามา
เป็นบทเรียนไว้ สังวรณ์ตัวเราเองได้

ถึงคุณแง่บๆ
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะ พูชายที่ทำตัวเชื่องๆ นี่เจ้าชู้มาก
แต่เราโชคดีตรงที่ ไม่เดือดร้อนเรื่องเจ้าชู้ เลยไม่ทุกข์เรื่องนี้
แต่ดันไปทุกข์เรื่องอื่นแทน เวงกำของคนชอบยึดเหอๆ
มันหาเรื่องยึดเอาจนได้ พอยึดเมื่อไรทุกข์ก็มาเยือน
นี่ก็กะลังหัดเลิกยึดอยู่นะ ถ้าเลิกได้ ไม่รู้คุณปั๋วจะว่ายังไง
เดาไม่ถูกเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็บ่นว่าเราใจจืดใจดำ เห็นแก่ตัวมั่กๆ เหอๆ
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 58.9.50.56 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:20:52:33 น.  

 
 
 
ถึง เซียนยี้
ถ้าอยากเจอโคตรไอ้เข้นะ
ทำกรรมล่อไอ้เข้ไอ้โขงให้อกหักไปเรื่อยๆ
เดี๋ยวมันเกิดโคตรไอ้เข้ขึ้นมาเอง มันเป็นกงกรรมกงเกวียน ง่ะ
ซักวันคงได้เจอเอง... เหอๆ แต่ไม่รู้เมื่อไรนะ

แต่ว่านะ เรื่องไอ้เข้ ไอ้โขงเนี่ย ไว้ใจไม่ได้นา
เกิดไปเจอ ไอ้เข้ โรคจิตละก็ ซวยตายชัก
แค่คำพูดของเราคำเดียว มันเอาไปเป็นเหตุผูกมัด
ถือเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราก็มี ตัวอย่างที่อ่านมาเรื่องพระเทวทัติ อะ
เรื่องเกิดจากถาดทองอันเดียว แต่จองล้างจองผลาญซะทุกชาติเลย
ถ้าเกิดเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขึ้นมา จะกลายเป็นรอยเปื้อนในใจ
ทำให้ค้างๆคาๆ ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ความผิดของเรา
แต่จิตใจคนอื่นเราไม่อาจล่วงรู้ได้ ถ้าทำใจดำปิ๊ดปี๋ได้ก็แล้วไป
เกิดอะไรขึ้นก็ไม่กระเทือน แต่ทางที่ดี ห่างๆพวกไอ้เข้ไว้ก็ดี
จะได้ไม่เกิดสงครามโรคจิตกับใคร เพราะมันถ่วงความสุขที่เราควรจะได้
ให้มันถ่างออก

ถ้าหัวใจเรารักดี ไม่ปันไปให้คนอื่นได้ บังคับได้ มีสติทันท่วงที ก็โอเช
แต่ถ้าเคราะห์หามยามซวยมาถึง มีคนอื่นแทรกเข้ามาได้
กว่าจะรู้ตัว กว่าจะแคะมันออกไปได้ ก็เจ็บมิใช่น้อยเลย เฮือๆ

อีขวานบินมันเข็ดแล้ว รอบนี้หลุดไปได้เมื่อไร จะทำกำแพง7ชั้น กั้นไว้เลย
ไม่ให้ใครหลุดเข้ามาได้ แล้วรีบหาทางไปสู่ที่ปลอดภัยโดยเร็ว จะได้หมดทุกข์
ไม่ต้องมาปวดหัว คอยลุ้นว่าจะรอดหรือจะร่วง เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนรอบ แต่ละที

แล้วฟามรัก จริงๆ นะ มันไม่ได้เกิดเพราะรูปงาม นามเพราะ ได้อย่างเดียว
บางทีมันเกิด เพราะแพ้ความดี ก็มี แพ้จิตใจที่แน่วแน่ ก็มี
เกิดเพราะความสงสารก็มี เกิดเพราะมีปณิธาณร่วมกันก็มี
เกิดเพราะมีเวรกรรมต้องชดใช้ให้เขาก็มี คิดแล้วก็สยองสำหรับคนที่รักอิสระ
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 58.9.50.56 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:21:42:44 น.  

 
 
 
ถึง อีปี้ sab

จากวิปัสสนาญาณของอีน้องขวานบินนะ
ที่อีปี้ถามว่า

ช่วยกระซิบ บอกหน่อยว่า
มีไอ้ตัวไหนมั่ง ที่มันมักจะ เลี้ยง ไม่ เชื่อง หุหุ

ถ้าพูดถึงพูชาย เอ๊ยไม่ใช่ พูดถึงกิเลส นะ
เลี้ยงไม่เชื่องซักตัว พอเผลอเป็นแว้งกัด จึ๊กๆ จึ๊กๆ
มีแต่เรื่องอร่อยแบบเผ็ดๆ ไม่มีอร่อยแบบหวานเย็นซักตัว
ถ้าชอบกินเผ็ดไม่เลิก ก็มีแววจะกินเผ็ดหนักขึ้นจนท้องทะลุ
นั่นแหละ ถึงจะยอมเลิกกิน หรือกินจนเป็นพิษแล้วพิษมัน
สำแดงออกให้ทุกข์ทรมานโน่นแหละถึงจะตาสว่าง

พอเพียง และมีสติรู้ตัว ถึงจะรอดพ้นจากมันได้
ทำยากนะเนี่ย อีขวัญ กะลังหัดวิชานี้อยู่เลย ลงหน่วยกิจ
ไว้แล้ว ซ่อมแล้วซ่อมอีก ก็ยังไม่ผ่านซักทีเหอๆ
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 58.9.48.151 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:11:12:39 น.  

 
 
 
บอกแระไงป้าบัว
ผู้ชายนะเหมือน แมว
(แมวมันเลี้ยงเชื่องป๊ะ)
ผู้หญิงนะ นิสัยหมาๆ
(ถ้าซื่อสตย์กับใครก็รักกันจนตาย)
...
กระเทยก็เดือดร้อนเฟ้ยยยย
มีคนนึงผมบอกว่า
"ไม่สนใจหลกระเทย ท้องไมได้"
คุณเธอตอบฉับ...."มดลูกชั้นอยู่ข้างหลังย๊ะ "
แง่บๆ ฮากันไป
ดวงผมนยิมันก็แปลก
คนดีๆ ไม่ค่อยมีเข้ามา เจอแต่พวกเนี๊ย เอิ๊กๆ
 
 

โดย: itoursab วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:11:16:47 น.  

 
 
 
ตัวที่เลี้ยงไม่เชื่องหรอ????
อ้อ ก็งูที่อยู่บนหัวของพวกอ้ายเฒ่าไงค๊าาาาาาาา
แต่จะว่าไปจะเฒ่าหรือไม่เฒ่ามันก้เลี้ยงไม่เชื่องทั้งน๊าน
เนอะๆๆ....
อู๊ย นี่ไม่ได้กระทบท่านเจ้าของบล๊อกเลยนะค่ะ จากใจเรย
อ้อ เด๋วตอนมุ้งมิ้งจะแวะมาใหม่
ขอเวลาไปสรรค์หา ตัวเลี้ยงไม่เชื่องก่อนนะค๊า
คุณขวัญขา
มีเรื่องอยากถาม?
เกี่ยวกะไอ้ตัวที่เรียกว่าปั๋วอ่ะค่ะ
ถ้าสมมุติว่ามันโคตรเลวเลยเนี้ย
มันมีวิธีใดบ้างที่จะกำจัดมันค่ะ
หนึ่งตัวอย่างนะต่ะของความเลว
เจ้าชู้ ติดยา ค้ายา แต่ นังเมียยังทนๆๆๆๆๆ
ทนอยู่ได้ คุณขวัยคิดว่าหล่อนทนเพราะเหตใด
อ้อ ลุกคือหนึ่งปัจจัย
แต่ที่ไม่เข้าใจเลยหากลุกคือสิ่งที่ต้องทน
แล้วการพาลุกออกจากไปมันจะไม่ดีกว่าหรอกับการเอาลุกมาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น
คุณขวัยว่าจริงมั้ย
แต่ที่ถามความมาได้จากปากของหล่อน
หล่อนตอบว่า เพราะรัก...
นี้ละค่ะที่เศร้าใจ........เฮ่อ
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 114.128.215.179 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:16:05:29 น.  

 
 
 
ตอบคุณ E-tour-sab ว่าผู้ชายเหมือนตัวอะไร
ตัวที่ผู้หญิงร่นหาเมื่อไม่มีอยู่
ตัวที่ผู้หญิงทิ้งขว้างเมื่อได้มันมา
ตัวที่ผู้หญิงพึ่งพิงเมื่อรุ้สึกขาด(ในนิยามของคนรัก)
ตัวที่ผุ้หญิงรังเกลียดเมื่อทำอะไรไม่ได้ตามใจตัว
สำมะคัญคือ.....ตัวทำลูกให้กับผู้หญิงค่ะ..แหะๆ
แต่ถ้าผู้ชายมองมุมกลับ
พวกผุ้ชายก้จะคิดกับเราซึ่งเป็นผู้ฉิ่ง...ไม่ต่างกัน
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 114.128.215.179 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:16:32:17 น.  

 
 
 
ถึง อีนู๋ขวานบิน

อ้าง
---------------------
ถ้าอยากเจอโคตรไอ้เข้นะ
ทำกรรมล่อไอ้เข้ไอ้โขงให้อกหักไปเรื่อยๆ
เดี๋ยวมันเกิดโคตรไอ้เข้ขึ้นมาเอง มันเป็นกงกรรมกงเกวียน ง่ะ
ซักวันคงได้เจอเอง... เหอๆ
-------------------------

แหม ๆ ฟังเหมือนแช่ง ไงไม่รู้แฮะ อิอิ
เฮ้อ ชักอยาก หลอกล่อไอ้เข้
มาเลาะฟันแล่เนื้อเถือหนังไปทำกระเป๋า แล้วดิ
ปิดประกาศไว้หน้าโรงบาลซะเลยดิไหม ?

ประมาณว่า


เปิดรับสมัคร ไอ้เข้หนุ่ม ๆ
เพื่อเอามาหักอก เอ๊ย ทำกระเป๋า
เพราะ เราอยากเจอ โตตร ไอ้เข้ อิอิ




แต่ก็เห็นด้วยนะ ว่า

เกิดไปเจอ ไอ้เข้ โรคจิตละก็ ซวยตายชัก
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ กรรมใครกรรมมัน อ่ะ


สมัยทำไร่แห้วตอนปีหนึ่ง
ก็เคยไปทำก่อกรรม กับไอ้เข้ ตัวหนึ่ง เหมือนกันอ่ะ
มานัวเนีย อยู่ได้ สุดท้ายเลยยิ้มหวานจ๋อย
แล้ว ค่อยบอกมันไปว่า

" ถ้าเธอเป็นผู้หญิงนะ คงจะท้อง แล้วหาพ่อ ให้ลูกในท้องไม่ได้ "

แถมเอาเรื่องนี้ไปเขียนเป็น ตำนานรักสาวไร่แห้ว ให้ ชาวบ้านอ่านอี๊ก
ก็ไม่รู้มันโกรธไหมนะ เจอกันครั้งล่าสุด มันยังมาเรียกอีปี้ ว่า ที่ร้าก ๆ อยู่เล๊ย
สุดท้าย อีปี้เลยทำตาขวาง แล้วถามมันว่า ใครเป็นที่รักมึ้ง !

แหะ ๆ นอกจากไอ้เข้ตัวนี้ แล้ว
อีปี้ ก็ไม่ค่อยได้หักอกใครแล้วมั้ง
นอกจากหมั่นไส้ ไอ้เข้ตัวไหน
ก็ไล่แจกยาเบื่อ เป็นครั้งคราว หุหุ


อีกอย่าง สมัยก่อน ทำบุญ
ด้วยการ ปลอบใจ บรรดา คนที่ อกหัก ด้วยมั้ง
ปลอบไปด่าไป จนมัน หัวเราะทั้งน้ำตา ก็เคยมาแล้วนะ อิอิ
ด้วย อานิสงค์ตรงนี้
เลยส่งผลให้อีปี้มิมี โคตร ไอ้เข้ มาตอแยกระมัง
( แหม ? น่าเสียดายเหมียนกัน หุหุ)
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:52:07 น.  

 
 
 
แต่ก็ประมาทไม่ได้หรอกนะ
ก็อย่างที่ อีหนูบอกนั่นแหล่ะ

-------------------------
ฟามรัก จริงๆ นะ มันไม่ได้เกิดเพราะรูปงาม นามเพราะ ได้อย่างเดียว
บางทีมันเกิด เพราะแพ้ความดี ก็มี แพ้จิตใจที่แน่วแน่ ก็มี
เกิดเพราะความสงสารก็มี เกิดเพราะมีปณิธาณร่วมกันก็มี
เกิดเพราะมีเวรกรรมต้องชดใช้ให้เขาก็มี คิดแล้วก็สยองสำหรับคนที่รักอิสระ

-----------------------------


เจ้ากรรมนายเวร และ บ่วงกรรม
มันไม่เคยให้ซุ่มให้เสียง เวลามัน แวะเข้ามาทักทายหร็อก


นี่ ๆ จะเล่าเรื่อง ประสบการณ์ hurt กับ ผู้ชาย ครั้งล่าสุดให้ฟัง

ตะก่อนตอนยังสาว ๆ
เวลาเห็น ไอ้หนุ่ม ผิวขาว ๆ ปากแดง ๆ ผมยาวสลวย งี้ อีปี้ล่ะใจสั่น

แต่พอเข้าสู่วงการ ปฏิบัติธรรม
เวลาเห็นไอ้หนุ่มที่ไหนถือศีล 5
อีปี้ ก็ชักเอ็นดูว่ะ แหะ ๆ


อย่างตอนปลายปีก่อน รู้จักอยู่คน นึง

หน้าตาดี มีศีล 5 โพสท่างี้ เร้าใจยังก๊ะ โดม ปกรณ์ลัมภ์ เชียวนะอีนู๋เอ๊ย
ทำเอา ป้างี้เริ่มเขว เกือบตัดสินใจลงจากคาน แล่นไปจีบมันเลยอ่ะ


แล้วก็ แปลกมากนะ เห็นเขาแบบผ่าน ๆ ก็หลายครั้งอยู่
จู่ ๆ ก็ นึกถึง ไอ้หมอนี่ ขึ้นมาเฉย ๆ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
แล้วเขาก็เข้ามาในชีวิต ได้เม้าส์แตก เอ๊ย เสวนาธรรมคุยกันอยู่พักนึง
แหม ? กะลัง ซาบซึ้ง ไปถึงไหน ๆ
แล้ว ไอ้หมอนั่น มันก็ได้สติ เผ่นไปก่อน


ตอนนั้นเล่นเอาอีปี้ hurt ไปก็หลายอาทิตย์อยู่
โชคดีที่เจ้าแม่ฮาเร็มอย่างอีปี้
มี เด็ก ๆ ในโรงบาล มาง้องแง้ง อยู่ข้าง ๆ เป็นฝูง
อีปี้เลย เจียดเวลา ไป hurt ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไร

เฮ้อ แต่คิดแล้วก็เสียดาย นะ

ผู้ชายที่มีอารมณ์ศิลปิน
แถมธรรมมะธรรมโม ถือศีล 5
แล้ว นั่งสมาธิก่อนนอนเนี่ย
มันไม่ได้จะหาง่าย ๆ หรอกนะเฮ้อ

( สงสัย ชาติก่อนหมอนี่มันจะ ทำบุญมาดีว่ะ เลยรอดเงื้อมมืออีปี้ไปได้ หุหุ )



แต่จะว่าไป ก็ต้อง ขอบใจไอ้หมอนั่น นะ
ที่หายหัวไปจากชีวิตอีปี้
ไม่งั้น อีปี้ คง กลายเป็น หงส์ติดบ่วง
ไม่ได้ กลายมาเป็น หงส์เหนือมังกร
จนมี สมาคม ฯ เป็นของตัวเอง อย่างนี้หรอกเนอะ เหอ...เหอ....


ว่าแล้ว ก็เปิดประเด็น ที่มันเข้า คอนเซ็ปท์ สมาคมดีกว่า

---------------------------------------------
ประสบการณ์ hurt ครั้งล่าสุด
ในเรื่อง ฟามร้าก ของทุกทั่น เป็นยังไง ? มั่งค้าาาาา
------------------------------------
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:53:00 น.  

 
 
 
ถึง ไอ้ แสบ หลานร้ากกกก

ผู้ชายนะเหมือน แมว จิงอ่ะ ?
งั้น อย่างเอ็ง เป็น แมวประเภทไหนวะ
เป็น คู่กัดเจ้าเจอร์รี่ หรือ เป็นไอ้กาฟิลส์ จอมตะกละ
เอ ? แต่ ป้าว่า ลูกผู้ชายตัวจิง อย่างเอ็งน่ะ
คงจะเป็น สัตว์ตระกูลแมวยักษ์ อย่าง สิงโต มากกว่ามั้ง
ประมาณว่า เป็น สิงห์พิการ ที่ออกล่าเหยื่อโดยอาศัยเศษเนื้อชิ้นเข้าล่อ อ่ะ

อุ๊ยต้ายยยย ไม่พูดดีกว่า เด๋ว จะโดนหลานลูกแมวมันข่วน เอ๊ย ตะปบ หุหุ


แล้ว ดวงเอ็งมันก็ ไม่แปลก หรอกมั้ง
ที่เจอแต่ เพศที่ 3 -4 -5-6-7-8-9-0

" ดูกรทั่นประธานที่เคารพ
สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน
ย่อม สมาคมกัน โดยธาตุเทียว"

นี่นะ
อืม...กำใครกำมันว่ะ
ชาติที่แล้วเอ็งอาจจะไปติดค้างอะไร เค้าก็ได้
ประมาณเจ้ากรรมนายเวรมาทวงหนี้ร้ากกก ไง้
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก กุ๊ก ๆ นะจ๊ะ เอิ๊ก ๆ


เออ ชอบ สุนทรพจน์ อันนี้ ของเอ็งจัง

" รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี รักสามีให้ตอน "

ขออนุญาตเอาไปฝาก ป้าขวานบิน นะจ๊ะ 5555

อ้อ อันนี้ ของฝากที่ป้าเอา ติดไม้ติดมือมาให้หลาน

อ่านแล้วเอาไปปรับใช้ซะ
จะได้ไม่เกิดรักบัด-โซบบบบ เอ๊ย รันทดซ้ำซาก

สิ่งที่ผู้หญิงต้องการ คืออะไร
//gotoknow.org/blog/apsoison/191765


ปอลิง
ระวัง ได้หลัง แล้ว ลืมหน้า นะจ๊ะ หลานชาย
เด๋วจะเป็นเอดส์ตายได้ง่าย ๆ
ป้าขี้เกียจ ควาน หา ร่างทร ง คนไหม่ว่ะ
ร่างทรงมีคุณภาพแบบเอ็งมันหายากส์ ว่ะ เอิ๊ก ๆ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:56:43 น.  

 
 
 
คุณช้านเอง
อะแฮ่ม !...จิงไหมค้า
ที่ หลานอิฉันมันบอกว่า
ผู้ชายเหมือน แมว ?

อ้อ ถ้าคุณไปควานหา ไอ้ตัวเลี้ยงไม่เชื่อง ไม่ได้
เลยอยากจะ ยก หลานลูกแมว
ให้คุณไปเลี้ยงเอาบุญสักตัว
(เห็น คุณชอบเลี้ยงแมวอ่ะ อิอิ)
รับรอง ไอ้แสบหลานนอกไส้อิฉันน่ะ อิฉันเทรนด์มาดี
ถึง มันจะเฮี้ยว ไปหน่อย
แต่งูบนหัวมันทุกตัว อิฉันรีดพิษไปทำเซรุ่ม หมดแย้ววว อิอิ

เออ คำตอบของคุณ ว่า ด้วย
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ผู้ชาย มันเหมือนอะไร
ถูกใจมั่ก ๆ เจ้าค่ะ เห็นดวงตาธรรมเลยนะเนี่ย
เฮ้อ พวกผู้ชาย... มันก็เป็นเช่นนี้เอง... จิง ๆ ด้วย
ตถตา สาธุ๊ อิอิ



อ้อ เด๋ว ขอแจม ตอบเรื่องวิธีกำจัดปั๋ว ให้ฟัง ด้วยนะค้า
เคยเขียนเอาไว้ สมัยอยู่ลานธรรม หุหุ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:57:42 น.  

 
 
 
ถ้าคู่ชีวิตของคุณ ปันใจให้คนอื่น ?
คุณจะทำอย่างไร ?



เนื้อความ : (บัวเหล่าที่ 5) อ้างอิง |



แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเจ้าค่ะ ^ - ^

ตะวานซืนอ่านเจอกระทู้
ผู้หญิงที่อนุญาตให้สามีมีเมียน้อย

ก็เลยนั่งจิ้มดีดตอบกระทู้ไป ( แต่ยังไม่ได้โพส )
ซึ่งจิ้ม ไป จิ้มมา ก็เลย เกิดคำถาม
และ แตกเป็น ประเด็นขึ้นมาว่า

ถ้าคู่ชีวิตของเรา ปันใจให้คนอื่น เราจะทำอย่างไร ?
แล้ว ถ้าเป็น ชาวบ้านชาวช่อง เขาจะทำอย่างไร

แถมเมื่อวาน อ่านเจอความเห็นของบางคนที่ว่า
----------------------------------------------
ว่าแต่ "ผู้หญิงที่อนุญาตให้สามีมีเมียน้อย" ได้ตามหัวข้อนี้
เขาไม่หึงหวงบ้างหรือคับ เขายินดีปรีดา ที่จะให้สามีทำแบบนั้นหรือคับ
อยากทราบว่าผู้หญิงที่ทำแบบนี้ได้เขาคิดอย่างไรคับ

น่าจะยกไปเป็นอีกหัวข้อนะเนี่ย
------------------------------------------------

ก็เลยมาตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา
เพื่อเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

อืม....แม้ว่า ตัวอิฉันเองจะมีปณิธานที่หาญมุ่ง คือ
" ชาตินี้ตูจะไม่มีผัว "
และ ไม่คิดจะหา คู่เวรคู่กรรมมาผูกติดกระเตงไว้กับเอว

แต่การอ่านคอลัมภ์พี่ศิราณี
กับ คุณหมอนพพร ตั้งแต่ประถม
คงสร้างสมประสบการณ์
ให้อิฉัน พอจะกล้อมแกล้มถูไถ ปถากฐา เรื่องนี้ได้บ้าง
เพราะคนรอบข้าง
มัก...สรรเสริญ... ประจำว่า ฉันเป็น ...กูรู้... ^ - ^

-------------------------------------------
และในฐานะที่ฉัน มีมดลูก
ก็ขอแสดงมุมมอง แบบ ผู้หญิง( อย่างฉัน )ว่า

********ในฐานะเมียหลวง*********

ถ้า สามีไปมีเมียน้อย
ฉันก็ไม่มานั่งเสียใจหรอกนะ
เผลอ ๆ ฉันยกผัวตัวเองให้คุณน้องเมียน้อยด้วยซ้ำ
ฉันไม่ใช่ ประเภท
" รวมกันเราอยู่ ทิ้งกู มึ้งตาย " แบบเจ๊เบียบนิ

ฉันถือว่า คนเราต้องอยู่กัน
บนพื้นฐานของความรัก
ความ เคารพนับถือซึ่งกันและกัน
ถ้าพื้นฐานเหล่านี้มันง่อนแง่น เต็มที
ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะฉุดรั้งเขาไว้หรอกนะ
คุณไม่รู้สึกดีใจหรอกหรือ ที่ผู้ชายที่ตัวเองรัก
ได้อยู่อย่างมีความสุขกับผู้หญิงที่เขาเลือก
( แม้ว่า ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ใช่ตัวเราก็ตาม )

และถ้าบังเอิญ ฉันเผลอ
ไปสร้างห่วงผูกคอ เอ๊ย โซ่ทองคล้องใจ
ที่เรียกว่า ลูก ผูกติดกับผู้ชายคนนั้น
อืม... มันอาจจะทำให้ฉันวิตกจริต เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แต่มันคงรั้งฉันไว้ไม่ได้หรอกนะ
โชคดีที่หญิงเหล็กอย่างฉันมีศักยภาพพอ
ที่จะฉายเดี่ยวเลี้ยงลูกคนเดียว ได้ ( คาดว่าอย่างงั้น )

และเมื่อลูกมันโตพอที่จะเข้าใจ
( สัก ม.ต้น ก็ได้มั้ง น่าจะรู้ความแล้วล่ะ )
ฉันคงกอดคอคุยเปิดอกกับลูกอย่างเพื่อนคู่คิด
แล้วถามลูกว่า

" ถ้าแม่จะเขี่ย...เอ๊ย ยกพ่อของลูกให้ผู้หญิงอื่น
ลูกจะรับได้ไหม ? ถ้ารับไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร
แม่ยินดีจะทนอยู่กับมัน เพื่อความสุขของลูก

แม่แคร์ลูกเกินกว่า จะทำอะไรตามใจตัวเอง
ดังนั้น ลูกเป็นคนเลือกให้แม่ ก็แล้วกัน
ไม่ว่าลูกจะเลือก ให้แม่ เดินทางไหน
แม่ก็พร้อมจะเดินตามทางนั้น เสมอ
เพราะมันเป็นสิ่งที่ลูกเต็มใจเลือก
เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกมีความสุข "

ฟังดูอาจประหลาด ๆ นะ
กับแนวคิดและ สิ่งที่ฉันจะทำ
อ่านแล้วเหมือน แม่พระ(จอมโหด)ไงไม่รู้แฮะ

บางคนอาจเถียงว่า
คนไม่เคยมีลูกมีผัวอย่างฉัน
มันจะไปเข้าใจอะไร กับ คำว่า ครอบครัว
แน่ล่ะ ฉันอาจจะไม่เคยมีผัวมาก่อน
แต่ตอนเด็ก ๆ ฉันก็เคยมีสถานะเป็น "ลูก" มาก่อนนะ


และประสบการณ์ชีวิตของการ"เป็นลูก"
มันก็...สอน...ให้ฉันคิดอย่างนี้เจ้าค่ะ
ครอบครัวประหลาด แนว อดัมแฟมิลี่
ที่อบอุ่นซะจนตู้เย็นที่บ้านแทบพัง
มันก็ทำให้เด็กหญิงคนหนึ่ง
เรียนรู้อะไร ๆ หลายอย่างเชียวแหล่ะ

ขณะที่เด็กคนอื่นมักจะร้องไห้โฮ
เมื่อเห็นความรุนแรงในบ้าน
เมื่อพ่อแม่ทะเลาะกัน
เด็ก ๆเหล่านั้นอาจรู้สึกขาดความอบอุ่น
จนกลายเป็นเด็กมีปัญหา

แต่เด็กหญิงคนหนึ่ง กลับเรียนรู้ที่จะนั่งเท้าคาง
มอง การทะเลาะกันของผู้ให้กำเนิด
ว่า เป็นความขบขันที่น่ารำคาญ
เป็น ความเพลิดเพลินนอกสนามมวยลุมพินี
ที่หาดูได้โดยไม่ต้องเสียตังค์

บางวัน เธอกับน้องชาย ก็นั่งดู
ภาพจานช้อนบินว่อนในอากาศ อย่างปลง ๆ ขำ ๆ
สุดท้ายเห็นบ่อย ๆ เข้า ก็ชักเบื่อ
เธอก็เลย มานั่งปลอบคนเป็นแม่ให้ทำใจซะ
แถมยังแนะนำหน้าตาเฉยว่า

" เฮ้ย หย่ากันเลยก็ได้นะ
อย่าเอาลูก เป็นข้ออ้างในการทนอยู่ด้วยกันเลย
ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข
แล้วจะอยู่กันไปทำไม ( วะ ) "

( ขออภัยที่ไม่สุภาพ แต่ตอนนั้น พูดงั้นจริง ๆ )


*********ในฐานะเมียน้อย************
ถ้าบังเอิญเคราะห์หามยามซวย
ทำให้ฉันพลัดหลงไปกินน้ำใต้ศอก ของใครเข้า
ฉันก็คงเศร้าสักพักใหญ่ ๆ

แต่เมื่อตั้งสติได้
ผู้หญิงที่เห็น ผู้ชายเป็นสิ่งของอย่างฉัน
คงโยน สิ่งของ ( ของคนอื่น ) ออกจากชีวิต
โดยไม่คิดจะเหนี่ยวรั้งไว้ให้ศีลข้อ 2 และ 3
ของฉันต้องมัวหมองหรอกนะ
ไม่มีสิ่งของชิ้นไหนมีค่า
จนฉันต้องเอา ศักดิ์ศรีของตัวเอง เข้าแลก หรอกนะ


อืม....เพราะเบ้าหลอมทางความคิด
ของฉันเป็นเช่นนี้ไง
ฉันจึงกล้ายืนยันแนวคิดนี้อย่างเต็มปากเต็มคำ
เพื่อนำไปใช้ ( สำหรับตัวเอง )

แต่สำหรับคนอื่น คงต้องควานหาแนวคิด
และปรัชญาชีวิตของคุณเองแหล่ะ
เพราะ ชีวิตใคร ชีวิตมัน จะมาเลียนแบบกันไม่ได้หรอก
ขนาด จริต 6 ขนิด ในสิ่งมีชีวิต ที่เรียกว่า คน ( แต่ละคน )
ยังไม่เหมือนกันเลยนิ
---------------------------------------------------
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:58:43 น.  

 
 
 
แต่ถ้าถามว่า หากอิฉันเป็นผู้ชาย
แล้ว ภรรยายอมให้มีผู้หญิงอื่น
อิฉันจะยินดีไหม ?

ก้อคงยินดีจนกระพือปีก พั่บ ๆ เลยมั้ง
แหง๋ล่ะ ได้ไปลิ้มลองน้ำพริกถ้วยใหม่
ใครล่ะจะไม่ชอบใจ
แต่ที่ดีใจที่สุดคือ ดีใจที่ ฉันเลือกเมียไม่ผิด
ผู้หญิงที่เป็นแม่พระ เสียสละผัวตัวเอง
ให้ไปมีความสุขกับหญิงอื่น น่ะ
หาไม่ได้ง่าย ๆ ในโลกนี้หรอกนะคุณ

ทว่า ถึงเธอจะยินยอม เอาสาวๆ มาใส่พานประเคนให้
ฉันก็ไม่เอา หรอกนะ
การที่คนหวงความโสดอย่างฉัน
ตาบอดกับผู้หญิงคนหนึ่งมากพอ
จนให้เกียรติยอมยกตำแหน่งเมีย ให้เธอใช้เนี่ย
แสดงว่า ฉันต้องรักเธอมากกกกกกกกก
แล้วเรื่องอะไร ฉันจะไปทำร้ายจิตใจ
ของผู้หญิงที่ฉันรักล่ะ

ผู้หญิงเป็นสัตว์โลกที่บอบบางน่าทนุถนอมนะ
แม้ปากเธอจะบอกว่า ไม่เป็นไร
แต่ใจเธอจะเจ็บปวดแค่ไหนน่ะ
คุณไม่มีวันรู้หรอก
ฉันทำร้ายผู้หญิงที่ตัวเองรักไม่ลง
มันคงขัดกับอัตตาในตัวฉันพิลึก
ถ้าต้องฝืนใจทำอย่างนั้น

----------------------------------

เฮ้อ ทั้งหมดนี้ คือแนวคิดของฉันนะ
อาจจะไม่ค่อยคลาสสิค ไม่ดูดีมีสไตล์ นัก
แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี้มันก็เป็น อัตตาของฉันล่ะ
หลายครั้งแล้วที่ฉันเจอ กระทู้ประเภท
ทำไงดี สามีนอกใจ
กลุ้มใจจังถูกภรรยาสวมเขา

บางครั้งก็อยากตอบกระทู้เหล่านั้น เหมือนกันนะ
แต่ความสามารถตัวเองยังไม่ถึงขั้น
ที่สำคัญ ฉันอาจเผลอแปลงร่างไปเป็น อีบ่างช่างยุ
ไปแยงไปแหย่ทำให้เขาเลิกกันก็ได้
( ผิดศีลข้อ 4 ที่ฉันถือไว้อีกตะหาก เฮ้อ )

และวันนี้สบโอกาส เลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา
เพื่อแสดงมุมองของฉัน และ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
( ถ้ากระทู้นี้ทำให้ใครขุ่นมัว ก็ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ )

อืม... บางครั้งการพูด กับ การลงมือทำ
มันก็ต่างกัน(โดยสิ้นเชิง)นะ ( ตามเหตุปัจจัยแวดล้อม )
และก็ไม่แน่ ด้วย ว่า ถ้าเจอเหตุการณ์จริง ๆ
คนที่เก่งแต่ปากอย่างฉัน
อาจ...ไม่สามารถ... ทำอย่างที่พูด ๆไว้ ก็ได้
ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอนนิ
แต่สำหรับตอนนี้ นี่คือแนวคิดของฉันน่ะ

แล้วคุณล่ะ ^ 0 ^
ถ้าคู่ชีวิตของคุณ ปันใจให้คนอื่น คุณจะทำอย่างไร ?
จากคุณ : บัวเหล่าที่ 5 [ ตอบ: 03 ธ.ค. 51 12:12 ]
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:59:28 น.  

 
 
 
ส่วนอันนี้ อิฉันแถม
เคยเขียนเม้าส์กับเจ้าพี่ชายนอกไส้ไว้
ตอน ถกกันเรื่อง ผู้หญิงเหมือนอะไร ผู้ชายเหมือนอะไร

อ่านแล้วครึ้มดี อิอิ
--------------------------------------------------
อ้อแล้วตาแก่นั่นนึกบ้าอะไรก้อไม่รู้พี่
หน๊อย...มาแหย่บี
ประมาณว่า อยากรู้ม่ะ ว่า มันเห็น พู-ยิง
เป็นอาราย...ถ้าอยากรู้ก้อถามมาจิ
โถ ๆๆ ( ใบใหญ่ ๆ ) ... บีอยากจะบอกมันเหลือเกินว่า
ถึงอยากรู้ก้อไม่ถามเว๊ย
ถามแล้วถูกหลอกด่า เรื่องอะไร จะถามวะ ...แหว๊ะ ๆ

แต่มานั่งนึก ๆ ดูบีก้อขำนะพี่
อิอิ..ไอ้เรื่อง ผู้ชายมองผู้หญิงเป็นอาราย เนี่ย
บีก้อเคยได้ยินเป็นหลายทฤษฎีเหมือนกัลล์

คนแรกเนี่ย ผู้ชายใกล้ตัวเล๊ย ... พ่อบีเอ๊งงงงงง 555
แกเคยนั่งอภิปรายประเด็น เนี้ยะ กะอาเจ๊ แถวบ้าน
" ผู้ชายเหมือนแปรงสีฟัน จะใช้ร่วมกับใครไม่ได้ ?!?"
เจ๊แกสรุปเปรี้ยงออกมา
พ่อบีเลยต้อง เออออห่อหมกแล้วเสริมว่า
" ผู้ชายเหมือนแปรงสีฟันจะใช้ยาสีฟันยี่ห้ออะไรก้อได้ "
55555555555

น่าเสียดายนะพี่ ที่บีม่ายได้ร่วม แปร ยติ ด้วย
ม่ายงั้น บีคงออกเสียงหนับหนุนคุณพ่อที่รักไปแล้ว
เพราะปกติ เวลาแปรงสีฟันที่ใช้มันเก่าแล้ว
บีเก๊าะมักจะเอามาทำเป็นแปรงขัดรองเท้าน่ะพี่
แบ่บว่า ชอบใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าตามหลักเสดสาด น่ะคะ
หุหุ


บางครั้งบีก้อเคยได้ยินใครก้อม่ายรู้ บอกว่า
ผู้หญิงเหมือนดอกไม้นะ
ถ้าป็นงั้น บีต้องเป็น ดอกหม้อข้าวหม้อแกงลิงแหง๋ ๆ
เลยพี่
แบ่บว่า ชอบกินแมลงเป็นอาหาร หุหุ

อืม...พี่รู้ ป่ะ ว่า นอกจากบีจะเห็น
ผู้ชายเป็นสิ่งของแล้ว
บางครั้ง บียังเห็นพวกมันเป็นดอกไม้ด้วยอ่ะ 5555
ตอนนี้ ก้อมีอยู่ใน คอลเลคชัน 3 ดอก แล้ว
อยากรู้ไหมล่ะ ว่ามีอะไรมั่ง
ถ้าอยากรู้ก้อถามมานะ
บีจะได้แขวะ เอ๊ย เล่าให้ฟัง เหอ ๆ

หรือ ถ้าผู้หญิงเป็นไม้เลื้อยคอยพันต้นไม้ใหญ่
ผู้หญิงอย่างบีก้อคงไม่มีวาสนาจะได้เป็น โอ้ แม่ตำลึง ฯ
แบบที่เพลงมันร้องหร็อก
อย่างมากบีคงเป็นได้แค่ต้นฝอยทองอ่ะ
เลื่อยไปพันต้นไม้ต้นไหน ก้อตายเรียบ 555

ส่วนเพื่อนบี
(คนที่มันพยามยัดเยียดให้พี่เป็นกระเทยเพราะมันเองก้อถูกบียัดเยียดให้เป็นกระเทย
555 )
หมอนี่ก้อเคยมานั่งนินทาผู้หญิงให้บี ฟัง อ่ะ อิอิ
โอยมันด่าซะยับจนบีสงสารผู้หญิงคนนั้นเลยว่ะ
มันบอกว่า ยายนั่นเจ้าเล่ห์เหมือนงูจงอาง
ครั้นพอบีนึกครึ้มถามมันว่า ถ้าเจ้าหล่อนเป็นงูจงอาง
แล้วบีล่ะเป็นอะไร?
......อย่างเธอมันแม่งูจงอาง...
ไอ้เพื่อนเวรตอบโดยไม่ต้องคิดว่างั้น แหะ ๆ

เออ.... พี่จ๋า..พี่ว่าบีเหมือนงูจงอางไหมคะ
แบ่บว่าสวยแต่มีพิษ
กัดแล้วตายสยอง อะไรทำนองนั้น เหอ ๆๆ


อิอิ มอง ๆ ดูตัวเองแล้วบางครั้งบีก้อตลกอ่ะ
นี่สาวน้อยผู้บอบบางอย่างบี
น่ากลัวได้ขนาดนี้เชียวหรือนี่.... โฮ่ ๆ
แต่ก้อน่าขำแฮะ ขนาดบีน่ากลัวประมาณเนี๊ยะ
ก้อยังมีตาแก่หนังเหนียวบางคน
คิดจะมาจับบีไปสต๊าฟไว้ดูเล่นอีกแหน่ะ
ช่างไม่รู้อะไรซะเล๊ย
สงสัยจะเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา จิง ๆ แฮะ


อุ๊ยตายแหล่ว
บีเผลอบ่นเรื่อยเปื่อยให้พี่ฟังซะยาวเหยียดเลย แย่จัง...
อ้าว... ทำไมพี่ชายหน้าเขียวหน้าเหลืองไปแล้วล่ะคะ
สงสัยจะยั๊วะ ที่ตาแก่สารเลวนั่นมารังแกน้องสาวตัวเอง
โถ...ช่างเป็นพี่ชายที่ ...แสนดี... อะไรเช่นนี้หนอ 555

เฮ้อ......ความจริงบี
ก้อไม่ได้อยากจะฟ้องอะไรให้พี่ชายไม่สบายใจนะคะ
ทว่าบางครั้งมันก้อ อดไม่ได้ น่ะ
แบ่บว่าไม่อยากให้พี่ทำตัวเป็นบัวใต้น้ำแบบตาแก่หนังเหนียวนั่น
แต่บีคงจะคิดมากไปเองมั้ง สุภาพบุรุษที่ให้เกียติผู้หญิง
และมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลอย่างพี่
คงไม่มีทาง ทำอะไรไร้วิชั่น อย่างมันแน่ จิงป่ะ อิอิ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:19:01:21 น.  

 
 
 
อ้อ และ เพื่อเป็นการ ย้ำประเด็น ใหม่
ที่ทางสมาคมจะสุมหัวคุยกัน เอ๊ย ร่วมแชร์ประสบการณ์
เพื่อช่วยกันหาแนวทางป้องกัน และแก้ไข

---------------------------------------------
ประสบการณ์ hurt ครั้งล่าสุด
ในเรื่อง ฟามร้าก ของทุกทั่น เป็นยังไง ? มั่งค้าาาาา
------------------------------------

( ไม่ได้อ่ะ เผลอพล่ามอยู่คนเดียว กัว เสียเปรียบว้อยยยย )

ขอตัดริบบิ้น เปิดประเด็นใหม่ ณ บัดnowwwwwwww
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:19:03:54 น.  

 
 
 
แหะๆ.......
ตามความสัตย์จริงเลยนะค่ะ
ไม่เคยมีแฟน หรืออะไรก็ตามที่ เขาเป็นผู้ชายค๊า
ก้ มัน ไม่ถึงที่นี้ค่ะ
อ่ะแหะๆๆ
เลยไม่รู้ว่าอกหักเป็นเยียงไร
แต่ อกแฟ่บนะพอรู้มาบ้าง เอิ๊กๆๆๆ
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 112.142.54.113 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:20:06:05 น.  

 
 
 
ถึงคุณช้านเอง
ขอตอบประเด็นนี้ก่อนนะ
มีเรื่องอยากถาม?
เกี่ยวกะไอ้ตัวที่เรียกว่าปั๋วอ่ะค่ะ
ถ้าสมมุติว่ามันโคตรเลวเลยเนี้ย
มันมีวิธีใดบ้างที่จะกำจัดมันค่ะ
หนึ่งตัวอย่างนะต่ะของความเลว
เจ้าชู้ ติดยา ค้ายา แต่ นังเมียยังทนๆๆๆๆๆ
ทนอยู่ได้ คุณขวัยคิดว่าหล่อนทนเพราะเหตใด
อ้อ ลุกคือหนึ่งปัจจัย
แต่ที่ไม่เข้าใจเลยหากลุกคือสิ่งที่ต้องทน
แล้วการพาลุกออกจากไปมันจะไม่ดีกว่าหรอกับการเอาลุกมาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น
คุณขวัยว่าจริงมั้ย
แต่ที่ถามความมาได้จากปากของหล่อน
หล่อนตอบว่า เพราะรัก...
นี้ละค่ะที่เศร้าใจ........เฮ่อ

ขอตอบว่า ความรัก เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ
ใครไม่เจอกับตัวเอง ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง
มันเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล เอาซะเลย
แต่ของคนนี้ ที่ปั๋ว เจ้าชู้ ติดยา แล้วเมียยังทนอยู่ด้วย
เพราะรักเนี่ย มันเป็นวิบากของกรรมเก่ามั้ง ถ้าหลุดพ้น
จากกรรมเก่าเมื่อไร สติมันมาเอง เห็นความจริงชัด
เห็นปั๋วเลวจริง มันก็จะดิ้นรนหาทางหลุดพ้นไปเอง
เรื่องกรรมเก่าเนี่ย มันเป็นแพะคลาสสิคจริงๆ นึกเหตุผล
ไม่ออกก็ยกให้ว่าเป็นเรื่องกรรมเก่าไว้ก่อน เหอๆ

แต่เรื่องของกรรมเก่ามันก็แปลกจริงๆ นะ
คนที่เขารักกัน เกลียดกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าเนี่ย
มันก็แปลก คนอื่นว่าคนนี้เลวยังไง ถ้าเราหน้ามืดเพราะ
กรรมเก่าส่งผล มันก็เห็นคนเลว เป็นคนดีในสายตาเราอยู่ดี
ทางรอดจากเรื่องนี้ อยู่ที่ สติสัมปัชชัญะ อย่างเดียว
ใครมีมากก็รอดได้เร็ว ใครมีน้อยก็หน้ามืดแป๊บเดียว
ถ้าไม่มีเลย ก็หน้ามืดตลอดไปจนกว่าจะหมดกรรม
หรือมีบุญมาช่วยไว้ทัน ก็จะเกิดสติสัมปชัญญะขึ้นมาในทันใด
ปัญญาก็จะเกิดตามมา แล้วจะหาทางออกให้กับชีวิตบัดซบได้เอง
ปัญหาคือ ยามปกติที่วิบากรรมยังไม่ส่งผล คนเราก็ไม่ปฏิบัติ
เจริญสติสัมปชัญญะไว้ ปล่อยชีวิตให้ไหลไปตามยถากรรม
พอมีวิบากส่งผล ก็เลยไม่มีอะไรไว้ช่วยตัวเอง ต้องก้มหน้ารับกรรมไป
ทั้งลูกก็โดนด้วย เพราะแม่ช่วยตัวเองไม่ได้ ลูกก็มีเวรกรรมร่วมกัน
ถ้าลูกมีปัญญา ก็ได้ช่วยพ่อแม่ให้เกิดปัญญาได้ แต่ถ้าไม่มีพุทธิปัญญาซักคน
เวรกรรมมันจะพันกันไปตลอด ชดใช้กันหน้ามืดแล้วมืดอีก ก็ไม่รู้จะพ้นไหม
ใครไปบอกเขาให้ทิ้งปั๋ว เขาก็ทิ้งไม่ได้ เพราะมันมีห่วงกรรมมัดอยู่ เหมือนเรา
หลงอะไรซักอย่างมันจะวิ่งคิดถึงแต่เรื่องนั้นอยู่ในหัวปล่อยวางไม่ได้ แบบว่า
เห็นปั๋วหลงผิด ก็สงสาร เห็นปั๋วทำผิดก็สงสาร ช่วยอะไรก็ไม่ได้ ได้แต่อยู่ใกล้
ปั๋วคนเลวนั้นแล้วมีความสุขปนด้วยทุกข์อย่างที่เห็นนั้นแหละ ถ้าผู้หญิงคนนั้น
มีพุทธิปัญญาเกิดขึ้น ก็คงช่วยปั๋วให้รู้สึกสำนึกได้ แต่ถ้าไม่มีก็ต้องเสพทุกข์
ร่วมกันไปแบบนั้น เรื่องแบบนี้น่าสยดสยองยิ่งนัก มันทุกข์แบบลิงติดแหดิ้นไม่หลุด
คนอื่นจะช่วยก็จะกัดเอาด้วย เพราะขาดสติ และไม่รู้ความจริง ขาดพุทธปัญญา

เรื่องพวกนี้เรารู้ไว้เพื่อเตือนตัวเอง อย่าให้หน้ามืดได้นาน
แล้วตอนที่ปกติอยู่นี้ ก็เร่งเจริญสติ ฝึกรู้ตัวไว้เยอะๆ จะได้ช่วยตัวเอง
ให้หลุดพ้นจากวิบากกรรมความหน้ามืด ให้ได้ไวไว

ตราบใดที่เรายังทำกรรมอยู่เรื่อยๆ ทั้งกรรมดีและไม่ดี แล้วเรายังไม่มีดวงตา
เห็นความจริงของโลก ย่อมมีโอกาสหน้ามืดได้เสมอ ประมาทชีวิตไม่ได้เลยนะ
เรื่องที่เราเห็นว่าแก้ง่ายๆ แต่คนที่ถูกผงเข้าตา เขาไม่เห็นความจริงเลยนะ
โรคหน้ามืดนี่น่ากลัวจริงๆนะ มีแต่สติสัมปชัญญะ ถึงจะรอดพ้นมันได้

อีขวัญก็เป็นอยู่เนี่ย รู้ซึ้งแก่ใจ ปั๋วก็ไม่ได้เป็นคนเลวด้วยนะ
แต่พิษรัก ที่มันแทรกอยู่ในใจเราเนี่ย เวลาเขาไม่ได้ดังใจเรา
ไม่เป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น หรือทำสิ่งที่เราไม่ชอบ(อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้นะ)
แต่เราไม่ชอบมันก็ยึดแล้วก็เป็นทุกข์เพราะไปยึดเขาไว้ว่าต้องเป็นงั้นเป็นงี้
พอหน้ามืดก็ทุกข์เลย ร้องไห้มั่ง หงุดหงิดมั่ง ใจมันแกว่งมันเหวี่ยง มันไม่ปกติ
พอสติมาตั้งตัวได้ปัญญามันเกิดเห็นความจริงว่าทุกข์เพราะยึดไว้เอง มันก็หายเสียศูนย์ แล้วก็ปลง
แต่มันวางไม่ได้อย่างหมดจดเด็ดขาด มันก็เลยมาตอนเราเผลอ ก็ต้องสู้กับมันไปเนี่ย
ถามว่าทิ้งเขาได้ไหม เพราะเขาทำให้เราทุกข์ ถ้าเวรกรรมที่ชดใช้มันไม่หมดนะ
เขาก็ไม่ยอมไปจากเราหรอก และถ้าเราทิ้งเขาไปเพราะมีสติเห็นความจริงแล้ว
เราคงต้องหนีไปขนาดที่ว่าต้องไปในที่ที่เขาหาเราไม่เจอ ถึงจะรอดพ้นได้
เราจะไม่ยอมรับกรรมที่เราทำไว้ก็ได้ ถ้าเขาหาเราไม่เจอ แต่ถ้าเขาหาเราเจอ
ยังไงเขาก็มีสิทธิ์ทวงด้วยกฏแห่งกรรมอยู่ดี ด้วยกฏของความหน้ามืด นี้แหละ
ดังนั้น อย่าไปทำกรรมให้เกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวร นะดีที่สุด จะได้ไม่มีคนมา
ทำให้เราหน้ามืดได้ เหอๆ ถ้ายังอยู่ในโลก ก็หนีไม่พ้นโรคหน้ามืดหรอมั้ง

ว่าแต่ว่า ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี้ กันหนอ สงสัยจะทำเวรกรรมร่วมกันมา
ก็เลยได้มาเจอ แล้วความรู้สึก ชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ เนี่ย
มันเกิดจากอะไร คุณว่ามันแปลกไหมละ ถ้ามันไม่มีเลย เป็นกลางจริงๆ
โลกคงสงบสุขขึ้นเยอะ เนอะ ชักจะปวดหัวกะโลกเบี้ยวๆ ขึ้นมาอีกแระ
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 58.9.48.151 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:20:20:55 น.  

 
 
 
งั้นๆขอถามอีกประเด้นนะค่ะ
ถ้าสมมุติผู้ชายมันนอกตัวแต่ไม่ได้นอกใจละค่ะ
เหล่าทั่นๆคิดว่าอย่างไร
แบบว่า นอกตัวนะพอทน
แต่นอกใจนี้สิ...????
ถ้าเป็นเหล่าทั่นๆรับได้รึเปล่า
แต่สำหรับอิฉ้านคิดว่ารับได้
แหะๆ แต่ว่าการนอกตัวก็นำไปสู่การนอกใจได้ในอนาคตกาลอันใกล้นี่นะ เอ๋ รึเราจะคิดผิดหว่า
เอิ๊กๆๆ
ตอบด้วยนะค๊า
 
 

โดย: ช้านเอง IP: 112.142.54.113 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:20:22:38 น.  

 
 
 
" รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี รักสามีให้ตอน "
ขออนุญาตเอาไปฝาก ป้าขวานบิน นะจ๊ะ 5555
ขออนุญาติท่านประทานที่เคารพใช้สิทธิ์พาดพิง ตอบนะเจ้าคะ

รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี อันนีโอเคผ่าน ใช้มานานตั้งแต่โบราณกาล ก็เวิร์คดี
รักสามีให้ตอน ส่วนนี้ ไม่เห็นด้วยเต็มสตีมเลย ไม่ได้หวงไอ้ตัวเดียวอันเดียวอันนั้นนะ
แต่ลางสังหรณ์มันบอกว่าจะเป็นเวรเป็นกรรมต่อไปในภายภาคหน้า เราอาจถูกตอนได้
วิธีของอีขวานบินนะ รักผัว ต้องหาเมียน้อยให้ถูกใจปั๋ว ปั๋วสบายใจมีฟามสุขมากๆ
อานิสงค์ฟามดีนี้ จะช่วยให้อีขวานรอดตัวไปได้หลายมื้อ ถ้าเจอเมียน้อยดีๆ เอาปั๋วอยู่หมัด
เราอาจได้เป็นอิสระ ประกาศอิสรภาพ หลุดพ้นจากฟามเป็นทาสเขาได้ เพราะมีคนอื่นมา
เป็นย่าโสมเฝ้า...แทน เหอๆ แล้วอีปั๋วเรามันก็จะไม่มีเวลามาคิดถึงเรา เราก็ ยะฮู้ ไปตามทางของเรา
ไปเก็บเลเวโลด จะได้หลุดพ้นจากโลกเบี้ยวๆ ให้ไวไว เหอๆ
 
 

โดย: อีขวานบิน IP: 58.9.48.151 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:21:24:43 น.  

 
 
 
งั้นๆขอถามอีกประเด้นนะค่ะ
ถ้าสมมุติผู้ชายมันนอกตัวแต่ไม่ได้นอกใจละค่ะ
เหล่าทั่นๆคิดว่าอย่างไร
แบบว่า นอกตัวนะพอทน
แต่นอกใจนี้สิ...????
ถ้าเป็นเหล่าทั่นๆรับได้รึเปล่า
แต่สำหรับอิฉ้านคิดว่ารับได้
แหะๆ แต่ว่าการนอกตัวก็นำไปสู่การนอกใจได้ในอนาคตกาลอันใกล้นี่นะ เอ๋ รึเราจะคิดผิดหว่า
เอิ๊กๆๆ
ตอบด้วยนะค๊า

ตอบนะ
ถ้าเขานอกใจ ก็แปลว่าเราได้รับสิทธิ์ พิจารณา
ตัดสิทธ์ความเป็นเจ้ากรรมนายเวรออกไป
ในรายที่หมดเวรนะ มันจะมีสติและหมดรักไปเฉยๆ เลย
มันดับหายไปไม่เหลือเชื้อหมดโกรธหมดเกลียดหมดชอบ
จบเรื่องกันไป
แต่ถ้าเราไม่ยอมเลิก ไปคิดโกรธเป็นเจ้ากรรมนายเวร
เขาต่อ คือเขาเลิก แต่เราไม่เลิก อันนี้ก็ฟัดกันต่อไป
เป็นหนังเรื่องเศร้าภาคต่อ เหอๆ
 
 

โดย: อีขวัญเอง IP: 58.9.48.151 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:21:29:02 น.  

 
 
 
ป้าๆ เอาจริงๆนะ
นอกตัวนอกใจ นิสัยนอกคอก
พอตามอารมณ์บ่อยๆ มันก็เตลิด เผลอใจน่ะครับ
เพราะคนถ้าไม่ตลบกลับมาซะบ้างก็มักจะเกินเลย
พอให้ลงอ่างได้ก็ชักอยากจะเลี้ยงเด็ก ไปเรื่อยๆ
สุดท้ายหลงๆ ของใหม่เข้าเกินไป
ไม่รับผิดชอบพอว่า
ยังมายักยอกในบ้านไปเลี้ยงก็เห็นมาเยอะ

เหมือนเลี้ยงควายในคอก
นานๆทีก็ปล่อยไปเล็มหญ้าซะบ้างกันมันเฉา
แล้วจะได้ควายดี ไม่เป็นที่เหนื่อยใจ แง่บๆ

ตอนนี้กำลัง งง เรื่องนี้มากกว่า แต่งเพื่อความเหมาะสม
ดีจริงหรือ แง่บๆ
 
 

โดย: itoursab วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:17:31:46 น.  

 
 
 
อ้าววววววว คุณ ช่านเองไม่เคยมีเรื่อง
อกหักซีโครงเดาะ เลยหรือเจ้าคะ
แสดงว่า ชาติก่อนทำบุญมาดี
เลยไม่มีแมงหวี่มารังควาน อิอิ

อืม...
----------------------------------

ถ้าสมมุติผู้ชายมันนอกตัวแต่ไม่ได้นอกใจละค่ะ
เหล่าทั่นๆคิดว่าอย่างไร
แบบว่า นอกตัวนะพอทน
แต่นอกใจนี้สิ...????
ถ้าเป็นเหล่าทั่นๆรับได้รึเปล่า
แต่สำหรับอิฉ้านคิดว่ารับได้
----------------------------

จะ นอกตัวแต่ไม่ได้นอกใจ
หรือ นอกใจ แต่ไม่ได้ นอกตัว

ถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อน
อิฉันคงสวมวิญญาณนางเอกผู้หยิ่งในศักดิ์ศรี
หาเรื่องเขี่ย พระเอกทิ้ง อ่ะ อิอิ
ไม่ใช่ แค่คิดว่า รับไม่ได้ นะ
แต่ มันเป็นเรื่องของ กูไม่เอา มึ้ง แล้ว มากกว่า
อะไรที่ดู ไร้ ค่า ในสายตาเรา ทิ้งลงถังขยะโลด แหะ ๆ



แต่ตอนนี้ พอ ปฏิบัติธรรม แล้ว
คงธรรมะธรรมโม มากขึ้นมั้ง
มองโลกมองชีวิต เปลี่ยนไปเยอะ

พระเอก มันจะจะ นอกตัวแต่ไม่ได้นอกใจ
หรือ นอกใจ แต่ไม่ได้ นอกตัว

อิฉันก็คงแค่ปลง ๆ ขำ ๆ
แล้วบอกกับตัวเองว่า


ก็ อย่างที่เคยบอกแหล่ะ
เรื่องอะไร ตูต้องเอา หัวใจตัวเองไปผูกติดกับตีนของใครด้วยฟะ
ถ้าคิดได้งี้ แล้วเราก็จะไม่ทุกข์

แล้ว ไม่ต้องมาวิตกจริต คิดว่าว่า จะรับได้ รับไม่ได้
เพราะ ไม่เคยใส่ใจ จะไปรับ อยู่แย้วววว
ตัวมัน ของมัน ช่างแม้ง มัน

ตถตาาาาาาาาาาาาา
สันdan ผู้ชาย มันก็เป็น เช่นนั้นเอง
ไม่เกี่ยวอะไร กับตัวกู ของกู นี่หว่า
แหม ? พูดงี้ แล้ว
อิฉันดูเป็น คนสวยใจดำเกินไปไหนเนี่ย หุหุ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:21:12:16 น.  

 
 
 
อ้อ อีหนูขวานบินจ๋าาาาา
มามะ ขอชมหน่อย ว่า
ตอบคำถามได้ ถูกใจเจ้มั่ก ๆ
ปัญญาดีงี้ สมแล้วที่ เก็บ เลเวล ได้ตั้ง หมื่นโม ฯ อิอิ

แล้ว กุศโลบาย หาเมียน้อยให้ปั๋ว
ของอีหนูขวานบิน นี่ ช่าง ล้ำลึก ยิงนัก
นาน ๆ จะเจอ เมียหลวงฉลาด ๆ
ที่รู้จัก ร้อยก้นเมียน้อย ไว้ ใช้งาน 555

เฮ้อ ไม่ตอนก็ไม่ตอน
แต่ เป็ดแถวบ้านอีหนูคงเสียดายแย่
อดกินเยยยยยยย อิอิ


อืม...ตราบใดที่เรายังอยู่ในวงจรของ สังสารวัฏ
ก็มีโอกาส หน้ามืด พลาดได้จิง ๆ นั่นแหล่ะ
คงต้องพยามฝึกปฏิบัติ บ่อย ๆ
กำลังสติถึงจะค่อยไวขึ้น

แต่เท่าที่ฝึกปฏิบัติอยู่ตอนนี้
ก็ไม่ได้หวังให้ หลุดพ้นจากวัฏฏะ หรอกนะ
เอาแค่ ประคับประคองตัวเอง
ให้ รอด พ้น ให้ทุกข์น้อยที่สุด ก็พอแล้ว
ไอ้ครั้นจะให้ถึงขั้น ตัดเวร ตัดกรรม ตัดภพ ตัดชาติ เนี่ย
อีปี้ ยังสะสมบารมีมาไม่พออ่ะ
ยังเป็นลิงติดเนต อยู่ แหะ ๆ
อันนี้ น่ากัว ยิ่งกว่า ลิงติดตัง ติดแห อีกนะ

เนี่ยถ้า อีปี้เลิกติดเนต ได้อ่ะ
ทั้ง ศีล มาธิ วิปัสนา ของ อีปี้ คง ไปโลดกว่านี้ แหง๋ ๆ
แต่ก็นั่น แหล่ะนะ เฮ้ออออ ตูหนอตู
รู้ทั้งรู้ แต่ก็เต็มใจติด ต่อไปคงต้องบันยะบันยังซะแย้วววว
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:21:13:30 น.  

 
 
 
ไอ้แสบ

----------------------------
ตอนนี้กำลัง งง เรื่องนี้มากกว่า
แต่งเพื่อความเหมาะสม ดีจริงหรือ แง่บๆ
-------------------------

อืม... ประเด็นนี้ ก็ชนักติดหลัง เอ๊ยคลาสสิกกกกก
เหมือน โรมิโอกับจูเลียตของเชคสเปียร์ เลยอ่ะ คุณหลาน อิอิ

ว่าแต่ ดีสำหรับใคร กันล่ะจ๊ะ ?
สำหรับ โรมิโอ-จูเลียต
วิลเลี่ยม เชคเปียร์
ตัวกู หรือว่า ตัวมัน

พูดยากว่ะ จริตคนมันเหมือนกันที่ซะไหน เอ็งก็รู้
เมื่อมีฝ่ายหนึ่งได้ มันก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งเสีย นี่นะ
เรื่องโลก ๆ ธรรมดา ใส่ใจอะไรนักหนาละจ๊ะ พ่อโรมิโอ เอิ๊กส์ ๆ

ถ้ามีทักษะ รู้จักฝึกวิชา

ปล่อย ให้ ว่าง
วาง ให้ เป็น
เห็น ให้ จริง
ทิ้ง ให้ หมด

จบคอร์ส เมื่อไร
เอ็งก็จะได้
อยู่สบาย ตายสงบ จากไปไม่คิดค้างใคร
สมใจอยากว่ะ แง่บๆ


เอา ล่ะ ฝอยมานานแล้ว
ถือโอกาส สืบทอดทายาทอสูร
ฝากฝัง สมาคมให้เอ็ง ดูแลแทนป้าด้วยนะเว๊ย

ป้าเม้าส์แตก ที่นี่มานานแร้ววววว (ชักหน้ามืดว่ะ)
ขออนุญาตหายหัว ยาวววว ไปสักพัก ป้าจะชิ่งแระ
จะไปล่อเสือล่อไอ้เข้ ที่อื่นซะหน่อย ชะเอิงเอย

ดูแลสมาคมดี ๆ นะ ทั่น ประธานฯ
ป้าไปล่ ะบ๊าย บาย เอิ๊ก ๆ
 
 

โดย: E-tour-sab IP: 114.128.243.12 วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:21:17:40 น.  

 
 
 
ขออนุญาติ ชื่นชม ป้าแซบ หน่อยนะ
ว่า มีสติปัญญามั่กๆ แถมยังรู้จักโรคหน้ามืดด้วย
ช่างหาได้ยากในปฐพีนี้

ขอให้ป้าสมปรารถนา ในทุกๆเรื่องนะ
อีขวานก็ชักจะรู้ ตะหงิด ตะหงิด ว่าหน้ามืดติดเน็ต
เหมียนกัน สงสัย ต้องเพลาๆ ลงหันไปตั้งใจทำการ
ทำงานเสียที เดี๋ยวเวรกรรมจากการหน้ามืดส่งผล
ไปถึงลูก จะทุกข์หนักอีก เวรกรรม เวรกรรมหนอ
 
 

โดย: อีขวานบิน IP: 124.120.150.86 วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:8:04:35 น.  

 
 
 
ป้าบัว:
กลับมาอธิบายก่อนจิ๊
ไอ้แต่งโดยความเหมาะสม
แล้วค่อยไปเพาะรักจริงๆทีหลังอ่ะ
รุ่นน้องผมเอง
ไปเห็นแล้วมันสะกิดใจ
สงสัยซะด้วยซ้ำ
ผมคิดผิดรึเปล่าหว่า แง่บๆ
 
 

โดย: itoursab วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:11:34:29 น.  

 
 
 
อยากตอบเรื่องแต่งด้วยฟามเหมาะสม เนี่ย
ถ้าเป็นคนดีด้วยกันทั้งคู่นะ
แล้วก็ยอมแต่งเพราะต้องการแสดงฟามกตัญญูทดแทน
บุญคุณ ให้พ่อมแม่สบายใจ ตายตาหลับ หมดห่วงกะเราเนี่ย
บุญกุศลที่เกิดจากใจที่ดี มันส่งผลให้เจ้าตัวมีฟามสุขตามมา
ได้ไม่มาก ก็น้อย แล้วถ้าคู่เป็นคนดีด้วย โอกาศที่จะเกิด
ฟามประทับใจในคู่ของตัวเอง จนเกิดเป็นฟามรักเนี่ย
ก็มีโอกาสเป็นได้สูง เพราะไม่มีความรักบังตาไว้แต่ต้น
ก็มองเห็นฟาดีฟามชั่วของคู่ตัวเองได้ชัด แล้วถ้ากุศล
หนุนนำให้ได้อภิชาติบุตร ก็จะยิ่งนำฟามสุขฟามเจริญมาส่ง
ให้ถึงหน้าบ้าน รวยฟามสุขฟามเจริญไม่สิ้นสุด

แต่ก็คงไม่ได้เป็นยังงี้ทุกคู่หรอกมั้ง เพื่อฟามปลอดภัย
ในชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่แน่นอน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์
แอนด์เป็นอนัตตา ควรทำกุศลให้มาก ละการทำบาปกรรม
ไว้เนืองๆ ชีวิตจะได้ไม่เจอแต่เรื่องบัดซบ เหอๆ
 
 

โดย: อีขวานบิน IP: 124.120.152.49 วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:14:07:21 น.  

 
 
 
มีเรื่องอยากเล่า เกี่ยวกับปั๋ว เรื่องของพูชาย
ไม่รู้จะมีใครเหมือนเขาไหม

ปั๋วป้ามันเล่าให้ฟังว่า มันเป็นทุกข์ ง่ะ
คือ ตั้งแต่มีลูกเนี่ย เขาก็ตั้งใจรักษาศีลนะ
โดยเฉพาะข้อ กามเม งดนอกใจพันยา ซื่อสัตย์ต่อลูก
ไม่คิดนอกใจลูก ด้วยการไปมีใจรักกับพูหญิงคนอื่น
แต่เขามีอาการแบบว่า เวลาเจอพูหญิงลักษณะแบบนี้
หน้าตาพิวพรรณทำนองนี้ กลิ่นแบบนี้ มันจะทำให้เขา
ปั่นป่วนรัญจวนจิต ทรมาน อยากได้มาเป็นเมีย เหอๆ
แต่ต้องระงับจิต ระงับใจ บังคับใจตัวเอง ให้สงบเสงี่ยม
เวลามีลูกค้าสาวๆ เข้าร้าน แร้วตรงสเป๊คเนี่ย มันทรมานใจ
มากมาย พอใจมันเหวี่ยงมันก็เป็นทุกข์ เพราะเสียศูนย์
แล้วพาลไม่อยากทำงาน ไม่อยากเจอพวกเนี้ย เจอแล้ว
ลำบากใจพอบังคับตัวเองบ่อยๆ ก็เป็นโรคเครียด
ไม่สบายเป็นนั่นเป็นนี่ เห็นแล้วกลุ้มแทน เวรกรรมของ
คนเจ้าชู้ หลงกิเลส หลงรูป พอเป็นหนักๆ เวลากลับใจมันก็
ย้อนศรแรงพวกพูชาย เนี่ยเข้าใจยากจริงๆ เลย แต่ก็ช่วย
อะไรไม่ได้พอเราจะช่วยเขี่ยผงในตาให้ ก็บอกว่า
เราไม่รู้เรื่องเขี่ยไม่ถูกที่อีก บอกว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยว ยังไงก็ยัง
ชอบรูป รส กลิ่นเสียง อยู่ ราคะมันเป็นฟามสุขหล่อเลี้ยงชีวิต
ให้แข็งแรงไปซะงั้น ก็เลยต้องปลง ว่าเป็นเรื่องของเวร
กรรม อีกแระ พอแกชดใช้กรรมเวรหมด ก็คงรอดพ้นไป
เอง ทุกวันนี้ได้แต่ช่วยพาไปทำบุญทำกุศล เผื่อจะได้เย็นๆ
ราคะที่มันฝังหนัก จะได้เบาบางลงบ้าง ไม่ใช่ว่าจะอวดตัวเอง
นะ คนที่มีไฟราคะ น้อยๆ เนี่ย ป้าว่าโชคดีกว่าคนที่มีตัณหา
ราคะจัดๆ เพราะใจมันสงบสุขกว่า ไม่ต้องพึ่งความสุขที่มัน
ร้อนๆ เสพแล้วก็มีแต่เรื่องร้อนๆ ฝังเข้าตัวเหมือนสะสมพิษ
ไว้งั้นแหละ
 
 

โดย: อีขวานบิน IP: 124.120.152.49 วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:14:33:51 น.  

 
 
 
น้ำเต็มตุ่มมีสองทาง
ไม่ปิดก๊อกก็ตักทิ้งง่ะ
มีเรื่องเล่าทางอิสลาม
นบีเค้าเห็นผู้หญิงสวยถูกใจ
พอถึงบ้านเจอเมีย ก็ โด๊ะโป๊ะชึ่งๆเลย
เค้าเรียกว่าความอยากมี
ก็ต้อเรียนรู้ที่จะระบายให้ถูกที่
พอทำบ่อยๆ เป็นนิสัย
มันก็ดีขึ้นเอง
อย่างผมเมื่อก่อนมีแฟน
เจอคนสวยก็อยากเหมือนกัน
พออยากก็กลับไปหาแฟน
นานๆเข้ากลายเป็นความเคยชิน
จนเค้าบอกแรงเหลือๆ แบบเนี๊ย
ไปทางอื่นบ้างก็ได้
กลายเป็นเราซะอีกที่ไม่ไป แง่บๆ
 
 

โดย: itoursab วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:14:41:33 น.  

 
 
 
เง้อ ... พูชายนี่มันทุกข์ จริงเนาะ
พูหญิงไม่เห็นมี หรือว่าเราไม่ปกติเอง
แต่พูดก็พูดนะ ไม่มี ก็ดีแล้ว สงบสุขดีไม่เดือดร้อน
เพราะไม่ต้องเสียศูนย์ ด้วยสัญญาวิปลาสในเรื่องแบบนี้

 
 

โดย: อีขวานบิน IP: 58.9.47.171 วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:19:46:57 น.  

 
 
 
ตาแฉะอ่า เหล่าฮูอ่านแล้วตาฝ่าเลย หนุกดี ไว้มาอ่านต่อนะ

 
 

โดย: เหล่าฮู IP: 124.120.17.180 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:06:11 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

itoursab
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
[Add itoursab's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com