นิยาย " ม.ปลาย วุ่นวายรัก " โดย เหมชาติ ทอง -- ( ตอนที่ 7. )


                              7.

.   รถเก๋งหรู ใหม่เอี่ยมขับช้าๆ เข้ามา
ในบริเวณโรงเรียน
.  
   หน้าตารถที่ดูโฉบเฉี่ยว ไม่คุ้นตา
ทำให้ทุกคนพากันเหลียวมอง ด้วยความ
อยากรู้
.     ว่าใครเอ่ย -เข้ามาในโรงเรียน
.

.         พอจอดแล้ว คนที่ก้าวลงมาเป็น
สุภาพสตรีวัยกลางคนคนนึง  แต่งกาย
ภูมิฐาน 
.        และหนุ่มน้อยคนขับ หน้าตาดี
ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
.
.  พากันเดินมาสวัสดีคุณครูแถวนั้น
คุยกันแป๊บๆ ก็ถูกเชิญไปนั่งรอธุระที่
เก้าอี้รับแขกในห้องปกครอง
.
       *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.   " ขออภัยอาจารย์ทุกท่านที่กำลัง
สอนนะคะ

.    บุษบัน  เตวราฯ -(ขอสงวนคำที่เหลือ)   
 ม. 5/1
.   ให้มาพบญาติที่ห้องปกครอง
.         ตอนนี้เลยค่ะ "
.
.   เป็นประกาศแทรกการเรียนการสอน
แสดงว่า ต้องเป็นธุระสำคัญจริงๆ
.
.        "  ย่าเอียด "
.
. เดย์หันมาบอกย้ำแก่บุษบัน
.
.   "  เขาประกาศชื่อหล่อนค่ะ "
.
.  ย่าเอียด เป็นคำเรียกของภาษาเหนือ
ซึ่งก็คือยายเอียด หรือยัยเอียด ของทาง
ภาคกลางนั่นเอง
.    เพราะทางเหนือจะเอาคำว่า "ปู่-ย่า" 
มาใช้  ไม่เอาคำว่า "ตา-ยาย"
.
.  อย่างพงษ์ หรือโยธา ก็จะเป็น ปู่พงษ์ 
ปู่โย   ไม่ใช่ ตาพงษ์-ตาโย
.    อีตาคนนี้ มันยังไงกัน ? จะพูดเป็น
 ปู่นี้ มันอย่างไย-หา ?
.       ยัยนี่  ท่าจะโง่ -- ก็จะพูดว่า 
ย่านี้ สีท่าจะง่าว
.          -- แบบนั้น

.
.
      เอียดยกมือไหว้ ขออนุญาต อ. ปัญญา
ที่กำลังสอน  เดินออกห้องเรียน
.        มีโยธามองตามหลังไป
.
.   มีใครมาหาเอียดเหรอ ? 
.             - อยากไปดูด้วยจัง

.
.       *  *  *  *  *  *  *  *
.
.     " เอียดมาแล้ว-- 
.             เอียด - 
.    จำป้าเกดได้ไหม ? "
.

.   พอบุษบันเดินเข้าห้องปกครอง 
สตรีผู้นั้นก็ร้องทักเธออย่างดีใจ
.
.     บุษบันเห็น ก็จำได้เลย ว่าคนที่
มาหาเธอคือป้าเกด
.  หรือ ป้าเกศรา - ภรรยาลุงชนันท์ 
เพื่อนของพ่อ
.   และนั่น พี่เก่ง-ประลองพล ลูกชาย
คนเดียวของป้าเกด
.
.    ครูฝ่ายปกครองเห็นเอียดยกมือไหว้
คนที่มาหาทั้งสองคน และหันมาไหว้ตน
ตามธรรมเนียมปฏิบัติของนักเรียน 
.      ก็ถามยิ้มๆ
.
.        " ป้าเหรอ บุษบัน ? "
.
.      " ค่ะ --
.       ป้าเป็นเพื่อนคุณพ่อค่ะ "
.
.         " อ๋อ -- "
.
.     ท่านจึงหันไปทางเกศรา ยิ้มให้ 
บอกว่า
.
.    " เชิญตามสบายนะคะ 
.               ดิฉันขอตัว-- "
.
.    " ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์ " 
.
.    เกศรา และประลองพลไหว้ขอบคุณ
ครูฝ่ายปกครอง    
.     ที่ตอนนี้ ผละไปนั่งที่มุมโต๊ะทำงาน
ของตัวเอง   ปล่อยให้ทุกคนได้สนทนา
ส่วนตัวกัน
.
    *    *   *   *   *   *    *    *
.  
   " เอียดดูซิ นี่ใคร
.    --  จำพี่เก่งได้ป๊ะ ? "

.
.        " จำได้ค่ะ " 
.
.           เอียดตอบ
.   หนุ่มรุ่นพี่ที่นั่งอมยิ้ม ดูหล่อเหลากว่า
เดิมมาก   แต่ก็ยังมีเค้าเด็กชาย คนที่เคย
เห็นกันมา
.
.   เกศราบอกว่า ตอนนี้ เก่ง-ประลองพล 
กำลังเรียนคณะวิจิตรศิลป์ ปี 3 ที่มช
.
.    ลุงชนันท์สามีของเกศรา บิดาของ
ประลองพล  เป็นเพื่อนทหารรุ่นพี่ของ
พ่อบุษบัน 
.     คบหา ถูกคอ จนซี้กัน ราวกับเป็น
เพื่อนรุ่นราวคราวเดียว
.
.        ลุงชนันท์เป็นคนนครศรีธรรมราช 
ส่วนป้าเกดเป็นสาวอัมพวา สมุทรสงคราม 
ป้าเกดจึงพูดใต้ไม่ได้ แต่ฟังออก  
.   และก็พยายามหัดพูดใต้กับใครต่อใคร
แต่ทุกคนฟังแล้ว จะตลกขำ เพราะป้าเกด
พูดเป็นภาษาใต้ ปนๆ กับภาษากลาง
.
.   จนมีบางคนแอบห้ามเกศรา ไม่ให้พูดใต้
อีก  บอกว่า " ภาษามันจะสูญพ้น "
.    เกศราถามว่า ยังไงเหรอ ไม่เข้าใจ ?
.  เขาก็อธิบายว่า คือหมายถึง ภาษามันจะ
ไปกันใหญ่ 
.     เตลิดเปิดเปิง  กู่ไม่กลับ -ไง
.  เกศราจึงเพลาๆ การพูดใต้  หันมาพูดกลาง
เป็นหลักอย่างเดิม
.
.     มีหลายครั้ง   ที่ลุงชนันท์พาป้าเกดมา
เที่ยวที่บ้านของบุษบัน  และพาพี่เก่ง- ลูกชาย
คนเดียวมาด้วย
.    พี่เก่งแก่กว่าเอียด 4 ปี เป็นเด็กชายเงียบๆ 
ขรึมๆ เหมือนพ่อ
.
.    สองครอบครัว รู้จักสนิทสนมกันได้ร่วม 2 ปี
 และแล้ว ป้าเกดก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงชีวิต
  อย่างไม่ทันคาดคิด
.        นั่นคือ เมื่อสามปีที่แล้ว  พี่เก่งกำลังจะ
จบ ม.6 จากโรงเรียนสาธิตฯ มหาวิทยาลัย 
ของจังหวัดที่บ้านเอียด
.      ทุกคนช็อก - เพราะลุงชนันท์เสียชีวิต 
ถูกยิงหลายนัด จากเหตุการณ์ปะทะกันกับ
ผู้ก่อการร้าย
.   ตอนนั้น เอียดกำลังเรียน ม.2 ยังไป
ร่วมงานศพของลุงชนันท์ในชุดนักเรียน 
.   รู้สึกสงสารป้าเกดกับพี่เก่งมากๆ  สองแม่
ลูกกอดกัน ร้องไห้กลางพิธีงาน เมื่อเริ่มการ
ฌาปนกิจ 
.
.          แล้วสักพัก ป้าเกดก็ตัดสินใจย้าย
จากปักษ์ใต้ พาพี่เก่งกลับไปอยู่ที่บ้านเดิม
ของท่านที่อัมพวา
.      จากนั้น ข่าวคราวของป้าเกด ก็ค่อยๆ 
เลือนหาย 
.      จนต่อมาก็เหมือนจะเงียบไปเลย
.
     *   *   *   *   *    *     *     *
.
.   " ตอนนี้ ป้าเกดมาอยู่ที่เชียงใหม่
แล้วค่ะ

.          พอดี พี่เก่ง เอนท์ฯ ติด มช
.    ป้าเลยตัดสินใจมาซื้อบ้านอยู่ที่นี่
ซะเลย 
.  ไว้เดี๋ยว ป้าจะพาเอียดไปเที่ยวบ้าน
ของป้านะคะ "
.
 .     เกศรากอดบุษบัน ลูบศีรษะเธอ
อย่างเอ็นดูรักใคร่
.    สามปีที่ผ่านมา หลานคนนี้โตขึ้น 
กลายเป็นเด็กสาวที่สวยเด่น สะดุดตา
.
.         *  *  *   *  *   *   *
.
.   " เอียดมาเรียนที่เชียงใหม่
ได้ไง "
.

.         ประลองพลถามบุษบัน
.     ในใจนั้น นึกภาพเด็กหญิงเอียด ม.2
ที่แสนกะโปโลคนเดิมไม่ออกแล้ว  เพราะ
ตรงหน้า ตอนนี้ เอียดกลายเป็นคนสวยจัด  
หน้าตาคมขำ มีส่วนเค้าหน้าแม่  แต่ได้สูง
โปร่ง สมสมัยจากพ่อ
.
.     " อ๋อ -  พอดีอานิด -น้องพ่อน่ะค่ะ 
 ได้งานที่เชียงใหม่
.      อานิดยังโสด ซื้อบ้านอยู่คนเดียว
แม่เลยให้เอียดมาอยู่เป็นเพื่อนอานิด "
.
.    " อ้าว- นิดมาอยู่เชียงใหม่เหรอ ?
.  โห- ดีจัง--
.        ป้าจะได้มีเพื่อนคุยแระ "
.
  .  เกศราจำปณิศรา-น้องสาวของพ่อ
บุษบันที่เธอก็เคยสนิทกันได้
.
.   " แล้วป้าเกดรู้ไงคะ
.          ว่าเอียดมาเรียนที่นี่ "
.
.       ทีนี้ เกศราหัวเราะเลย  
.  ชี้มาที่ประลองพล-ลูกชาย
.
     " นี่ - คนนี้เลย 
                  -- ที่รู้  "
.

.     เก่งยิ้ม - แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ 
ว่าเหตุที่ตนได้รู้ว่าบุษบันกำลังเรียน
อยู่ที่นี่   คงไม่เหมาะที่จะคุยบอกกัน
ตรงนี้
.
.  " เอ่อ - เดี๋ยวค่อยคุยที่รถต่อดีกว่า 
ครับแม่- 
.  น้องเอียดต้องเรียนหนังสือ เดี๋ยวเรา
ค่อยมาเยี่ยมใหม่ที่บ้านอานิดก็ได้ "
.
.        " อ๋อ - จ้า  "
.
.    เกศราจึงหันไปหาครูฝ่ายปกครอง 
ยกมือไหว้ กล่าวขอบคุณ และลากลับ
.
.      "  เอียดไปส่งป้าที่รถด้วยกัน
- ป้ามีของฝากหนู "
.
.     เดินไปที่รถ ประลองพลก็บอกเอียด
ว่ามีคนเอารูปเอียดมาให้ตนดูอย่างบังเอิญ
.
.  " เพื่อนพี่ มันทำไซด์ไลน์-sideline เป็น
โมเดลลิ่ง
.    มันชอบค้นดูภาพที่แชร์ในสื่อโซเชี่ยล 
ก็เจอรูปเอียด ทางเฟสบุคของโรงเรียน
.     ตอนถือป้าย งานกีฬาสี "
.
.     เก่งเอามือถือมาเปิดหาภาพ 
เลื่อนหน้าจอไปมาสองสามที
.         แล้วก็ส่งให้เอียดดู
.
.     เป็นภาพเธอ สงคราม และโยธา 
ในคอสตูมนาคี นั่นเอง 
.   โรงเรียนเอาลงเผยแพร่ในเฟสบุค   
 มีทั้งรูปเต็มตัว และโคลสอัพ  คัดแล้ว 
ว่าอย่างโดนๆ

.
.       " เพื่อนมันติดใจเอียด 
.  -กับคนเนียะ "
.
.       คนเนียะที่ว่า ก็คือโยธา
.
.     " ก็เห็นว่า จะมาติดต่อเอียด กับ
น้องอีกคนนี้อยู่นะ  จะให้ไปลองแคสติ้ง 
ถ่ายโฆษณาแชมพู
.    เพื่อน-มันกำลังจะหาเด็กใหม่มาปั้น 
จะใช้ดารา ก็ค่าตัวแพงเหลือเกิน 
.     -สู้ไม่ไหว "
.
.   บุษบันฟังประลองพลบอก อดรู้สึก
ตื่นเต้นประสาเด็กวัยรุ่นไม่ได้
.
.    " พี่ดูๆ  - ทำไมหน้าเหมือนเอียด
จังเลย  แต่เอียดก็เรียนอยู่ที่ใต้ นู่น
.      แล้วนี่ มันเชียงใหม่ -
.    พี่เลยไลน์ไปให้แม่ดู ว่าใช่เอียด
รึเปล่า?
.    แล้วพอพี่เข้าเฟสฯ ของโรงเรียน
อ่านเจอที่เพื่อนๆ เอียดเข้ามาเม้นท์
เลยรู้ว่า ใช่เอียดจริงๆ ด้วย "
.
.    บุษบันนึกถึงคอมเม้นท์-ความเห็น
เพื่อนที่พี่เก่งบอก
.    คงเป็นเม้นท์ของแมงแน่เลย
.
 " เอียด- บุษบัน เตวราฯ-(ขอสงวนคำ
ที่เหลือ)  สาวใต้คนงาม เพื่อนเราเอง
จร้า
.     แต้ว 2 -ใสๆ ในชุดนางพญานาคี 
 .        งามแต๊ะ งามว่า-- "

.
    *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.     เกศราหยิบถุงกระดาษใบโต
ที่เบาะหลังของรถยนต์เก๋งคันงาม
ส่งให้บุษบัน
.  ในนั้น มีขนมเค้กแบบต่างๆ บรรจุ
ในกล่องสวยหลายชิ้น

.
.   " ป้าซื้อขนมมาฝากเอียดค่ะลูก "
.
.      " เยอะเกินค่ะป้าเกด "
.
.   บุษบันบอกทันที ที่รับถุง มันหนักๆ 
.
.    " เอียดขอรับแค่สองชิ้นก็พอค่ะ "
.
.      บุษบันเห็นกล่อง และถุงหิ้ว พิมพ์ชื่อ
ร้านขนมสวยงาม ดูมีรสนิยม ก็พอเดาออก 
ว่าราคาสูง  ให้รู้สึกเกรงใจ
.
.  " ทั้งหมดนี่แหละค่ะ  ป้าตั้งใจซื้อมาให้
เอียดเอาไปแบ่งทานกับเพื่อนๆ นะลูก "
.
.      เอียดจึงจำต้องยอม พนมมือไหว้
ขอบคุณ
.
.   " และอันนี้ -- ป้าให้เอียด
.             เก็บไว้ซื้อหนมค่ะ "
.
.     เกศราเปิดกระเป๋าถือ ล้วงเงินส่งให้
บุษบัน
.
.     คราวนี้เอียดส่ายหน้า ไม่รับแบ็งค์ 
1 พันใบนั้น
.
.          " ไม่ค่ะป้าเกด ---
.        แค่ขนมก็พอแล้วค่ะ "

.      " น้องเอียดต้องรับไว้ครับ"
.
.      ประลองพลบอกกับบุษบัน
.
.  " ผู้ใหญ่ให้เงิน น้องเอียดเก็บไว้เป็น
ขวัญถุงก็ได้   ที่ตอนพี่ย้ายมา  คุณพ่อ
กับคุณแม่ของน้อง ก็ให้เงินขวัญถุงกับ
พี่  พี่ก็รับมา นะครับ "
.
   เอียดฟังแล้ว จึงต้องรับมาอีก  
.   และไหว้ขอบคุณป้าเกดอีกครั้ง

.
     *  *  *  *  *   *  *  *  *
.
.       ร่ำลากัน 
ก่อนจะเคลื่อนรถกลับไป
. ประลองพลบอกย้ำกับบุษบัน
.       อย่างห่วงใย

.
.  " น้องเอียด --เรื่องแคสติ้งโฆษณา
-น่ะ  
.      ถ้าสนใจจริง ก็ต้องปรึกษาอานิด
ก่อนด้วยนะ  อย่ารับงานเอง 
.   เรายังเด็ก รู้ไม่ทันเขา อาจโดนเขา
เอาเปรียบ 
.   สัญญาอะไร  ถ้าเกิดว่าต้องได้ทำกัน 
น้องเอียดต้องให้อานิดเป็นผู้จัดการคอย
ดูแลให้ และเป็นคนทำสัญญานะ "
.
.         " ค่ะ "
.
.    เอียดรับปาก ยกมือไหว้ แอบนึก
ในใจ  แล้วฉันจะได้งานถ่ายโฆษณา
หรือเปล่า 
.       ก็ยังไม่รู้เลย
.
.         ประลองพลส่งยิ้มหล่อให้ 
.  เกศราก็ยิ้มใจดี  ยกมือ  นิ้วกลางและ
นิ้วนางรัวกระดิกบ๊ายบาย
.  บอกว่า เดี๋ยวป้าจะแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ
.
         *   *  *  *  *  *   *   *   *
.
.     กลับมาที่ห้อง เป็นจังหวะเปลี่ยน
คาบเรียน และจะต้องเปลี่ยนห้องเรียน
พอดี
.

.  เห็นเจี๊ยบหิ้วกระเป๋าของเธอ ยืนรออยู่กับ
แมง  เอียดจึงรีบตรงไปหา
.
.         "  ป้ามาเยี่ยม---
.   นี่- มีขนมมาฝากด้วย  เยอะเลย "
.
.         " ว้าว-- 
.   ลาภปากบ่าวแต๊ๆ เจ้าค่ะ "
.
.         แมงร้องอย่างตื่นเต้น
.  เมื่อเห็นเป็นขนมเค้กหลากชนิด
.
.   พอเห็นถุง และกล่อง เจี๊ยบก็อุทาน
ออกชื่อร้าน
.    และบอกเอียดว่า
.    
.      " หูว์ -- ขนมเค้กร้านนี้ ร้านดังเน่อ  
อยู่ทางไป  มช. น่ะ 
.           - ร้านใหญ่ "
.
.          "  อะ-
.     เลือกหยิบคนละกล่อง "
.
.     เอียดยื่นถุงไปตรงหน้า ให้เจี๊ยบ และแมง
เดี๋ยวเดียว เดย์ก็มาอีกคน 
.         --  และพงษ์อีก 
.
.   เลือกหยิบกันไป เหลืออีกสองกล่อง
.
.           " โย -- "
.
.       เจี๊ยบเห็นโยธาทำท่าจะเดินเลี่ยง
ไปตามลำพัง  ก็รีบเรียก

.
.        *  *  *  *  *  *  *  *
.
.    ที่จริงโยธาเห็นแล้ว ว่าเอียดกำลัง
แบ่งขนมให้เพื่อนๆ 
.    แต่จิตใจของโยธาตอนนี้ เป็นอะไร
ก็ไม่รู้  บอกไม่ถูก
.    เวลาอยู่ใกล้เอียด  หัวใจมันหวั่นไหว
รู้สึกตื้อๆ  หนึบๆ  เหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อ
กับตัว

.
.    ลองเลือกนั่งโต๊ะห่างไป  แต่ใจของโยธา
ก็คอยสั่งให้แอบมองเอียดเป็นระยะ 

.     
.      นี่ก็ตั้งใจว่า ว่าแอบปลีกตัว---
 แต่พอเจี๊ยบเรียก โยธาก็ต้องหันไป
.
.     ใจเด็กหนุ่มเต้นแรงอีกแล้ว เมื่อพบ
ว่า เอียดกำลังมองเขาอยู่เหมือนกัน
.     ในมือเอียดถือขนมกล่องนึง
.
.     " โย -มากินหนมด้วยกัน "
.
.         เอียดร้องชวน
.
.        โยธาจึงเดินมาหา  
.   เอียดรีบหยิบขนมอีกกล่องชิ้น มายื่น
ให้โยธาเลือกเป็นคู่
.
.        " โยชอบอันไหน ? "
.
.   โยธายิ้มเขิน มองขนม ไม่กล้าสบตา
บุษบัน
.
.    " อันไหนก็ได้เอียด
.           -- เอามาจากไหนเนี่ย ? "
.
.      " ป้าเรามาเยี่ยมไง "
.
.     เอียดส่งขนมเค้กไส้ช็อกโกแลตให้
โยธา   อีกอันที่เป็นไส้ครีม ก็เป็นของเธอ
เอง
.      เลยได้กินคนละกล่อง ครบถ้วน
.
      *    *    *    *    *    *    *

  แอบยืนแทะขนมกินกันตรงนั้น
 มันให้รู้สึกว่า อร่อยมากจริงๆ 
.    แอบครูกินขนมนี่ --ฟิลฯ เหมือนจะ
อร่อยกว่าตอนนั่งกินที่โต๊ะที่ร้าน

.
.      เจี๊ยบได้ขนมเค้กชิ้นที่น่ากินมาก 
.  มีไส้หลายชั้น ซ้อนสลับกัน สวยเหมือน
ขนมชั้น
.
.      แมงเห็น ก็บอกว่า ขอเค้าชิมหน่อย
ได้มั้ย
.   
.      " หื้อเปิ้นจิมจิ่ม 
.                -- ได้ก่อเจี๊ยบ ? "
.
.           จิ่ม - คือ นิด-หน่อย
.
.         เจี๊ยบส่งให้แมงชิมทันที
.   เดย์เลยมาขอแบ่งชิมบ้างอีกคน
.
.
.       *  *  *  *  *  *  * * 
.
.    เอียดแอบชำเลืองดูโยธาที่ค่อยๆ
 แทะกินขนมเค้กจากกล่อง ข้างๆ เธอ

.      เด็กสาวก็นึกชั่งใจ--ว่าจะบอกโยธา
ดีไหม ?  เรื่องแมวมองจากโมเดลลิ่ง-น่ะ  
.
.       ชั่ง-จนได้น้ำหนักว่า  อย่าพึ่งบอก
โยธาตอนนี้เลย   ไว้ให้เขาติดต่อมาจริงๆ 
ก่อนดีกว่า
.   เดี๋ยวบอกไป เกิดเขาไม่มาติดต่อ  
ตัวเธอเองจะหน้าแตกเป็นหน้าขนมปุย
ฝ้าย
.
     *  *  *  *  *  *  *  *
.
.       โรงเรียนเลิกแล้ว  --
.   บุษบันนั่งรอรถรับส่งนักเรียนของตน
ที่ม้านั่งหินขัดใต้ต้นกาสะลอง ที่ขอบสนาม
บาส และลานซีเมนต์ที่ใช้เป็นที่เข้าแถว

.
.    รถรับส่งนักเรียนนั้น จะคิดค่าบริการ
เป็นรายเดือน   จนเด็กๆ ทางนี้เรียกกันว่า 
" รถเดือน"  จะเป็นอันรู้กัน ว่าคือรถรับส่ง
นักเรียน
.
.      รถเดือนของบุษบัน จะต้องออกไป
รับนักเรียนประถมก่อน  ก็ที่โรงเรียนที่เธอ
กับเพื่อนๆ ไปตั้งแถวขบวนพาเหรดกีฬาสี--
นั่นแหละ
.      จากนั้น จึงจะขับเข้ามารับเด็กมัธยม
ที่โรงเรียนนี้

       *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.    เอียดนั่งเล่นมือถือฆ่าเวลา  
.   มองไปข้างหน้า --ความรู้สึกนึง
บอกกับตัวเธอว่า  ที่นี่ คือเชียงใหม่นะ 
.   ไม่ใช่ทางใต้ ที่เอียดคุ้นเคย 


.    ก็ที่สุดขอบสนามฟุตบอล หลังอัฒจันทร์ 
ไกลๆ นั่นไง - เป็นทิวแถวของต้นสัก ที่มีคน
ปลูกไว้นานแล้ว  จนมีลำต้นตรง ชลูด สูงโปร่ง  
และมีใบโตๆ  กว้าง ป้อมๆ
.       บอกชัดเลย ว่านี่คือป่า  และต้นไม้ของ
ทางเหนือ
 .
.      ที่โรงเรียนเดิมของเอียดทางใต้  ถ้าจะ
มองหาต้นไม้ใหญ่ๆ  ดูไปรอบๆอาจจะเจอต้น
ตำเสา     ที่ทางภาคกลาง เหมือนจะเรียกว่า 
ต้นกันเกรา
.       เติบโตเป็นต้นอวบ ล่ำๆ  ปั๊กๆ   มีใบดก  
ออกดอกเป็นช่อสวย  ที่ลำต้นจะมีเปลือกแตก
ระแหง เป็นร่องๆ
.   และอาจมีย่านลิเพา มางอกงามใกล้ๆ แล้ว
เลื้อยไต่ ขึ้นตามลำต้น ลามไปถึงกิ่งโน้น-นั้น
.     ใบลิเพาสีเขียวสด ตัดกับสีออกดำๆ ของ
เปลือกตำเสา ดูชอุ่ม  สมกับเป็นไม้ป่าดิบชื้น
แห่งป่าทางใต้ 
.
.        ย้ายมาใหม่ๆ ---
.    บุษบันไม่เข้าใจกับหลายๆ อย่าง 
ที่แตกต่างจากที่เธอพบเห็น และปฏิบัติ
มาจากทางใต้

.
.   เป็นต้นว่า นักเรียนที่เชียงใหม่ติดจะพูด
ภาษาเหนือตลอดเวลา
.   ไม่ว่าจะเป็นการคุยกับเพื่อนๆ ไปจนถึง
การถามตอบกับครูในชั้นเรียน
.
.   คุณครูก็เถอะ สอนไปโดยพูดภาษากลาง 
ได้สักสองสามประโยค  เดี๋ยวเดียวก็กลับมา
พูดภาษาเหนือแทน
.       เป๋นจะอั้น
.
.    ส่วนทางใต้ ทุกคน ทั้งครู ทั้งนักเรียน
เมื่ออยู่ในโรงเรียน  ต้องใช้แต่ภาษากลาง 
ที่เป็นภาษาราชการ  เวลาที่นักเรียนจะพูด
กับครู  หรือครูต้องพูดสอน
.
   จะพูดกลางแล้ว ออกทองแดง หรือเจือ
สำเนียงใต้บ้าง ก็ฝึกไป แก้ไขกันไป
.      เป็นพรรค์นั้น-แล
.
.        พงษ์น่ะ-คนเหนือโดยกำเนิด
เป็นหัวโจก เล่าเจี้ยก้อมขำๆ จะชอบ
เล่าเจี้ย ให้เพื่อนๆ ฟังเอาฮา บ่อยๆ
.
.    เจี้ย-คือ นิทาน 
.            ก้อม คือ สั้นๆ
.
.   เรื่องนึง พงษ์เล่าว่า  คุณครูกำลังสอน 
ก็เน้นว่า เมื่อมาโรงเรียนก็ให้นักเรียนทุกคน 
หมั่นฝึกพูด สื่อสารเป็นภาษากลาง 
.  เป็นพื้นฐาน เวลาเรียนต่อขั้นสูงต่อๆ ไป
จะได้พูดกลางกับใครๆ ได้คล่องแคล่ว 
. ส่วนภาษาเมือง-หรือภาษาเหนือ ไม่ต้อง
ฝึกพูดอีกแล้ว เพราะพูดเป็นกันทุกคน
.
.     " นี่อะไรคะ ? " 
.
.    คุณครูชี้ไปที่รูปมะเขือเทศ
.
.     " มะ-เขือส้ม !" 
.
.    นักเรียนตอบพร้อมกัน
.
.  " ภาษากลาง เรียกว่า มะเขือเทศ ค่า -
เรามาโรงเรียน ต้องฝึกพูดภาษากลางกัน
นะคะนักเรียน
.     เอ้า- ว่าตามครูพร้อมกัน
.          -- มะ- เขือเทศ "
.
.     เด็กๆ นักเรียนก็น่ารัก ฝึกพูดตาม
คุณครู
.
.      " มะ-เขือเทศ ! "
.
.         " เก่งมาก ค่ะ--
. คราวนี้- ตอบครูมาซิ ว่ามะเขือเทศ
-เนี่ย     มันดีกินมั้ย ? "
.
.              อิ อิ -- 
.     ดีกิน -เป็นคำภาษาเหนือ นะ
แปลว่า สามารถกินได้ -ใช้รับประทาน
ได้
.     คุณครูเผลอพูดซะเอง
.
.            เด็กก็งงกัน  - 
.   ไหนคุณครูว่า ให้ฝึกพูดภาษากลาง
กันไง
.    แต่ก็ตอบคุณครู  ด้วยเสียงอ่อยๆ 
ลง พร้อมกันว่า
.
.          " ดี -  กิน  "   
.           ( กิน - ได้ )


.
.      เอียดชอบภาษาเหนือมาก
. รู้สึกว่า ท่วงทำนองภาษาฟังดูอ่อนหวาน 
อ้อยสร้อย  ไพเราะ 
.    สมกับที่นำมาขับ เป็นลำนำเพลงซอ 
โดยคลอเสียง   ล้อให้เข้ากับเสียงซอที่สี
บรรเลงประกอบการขับ  เรียกว่า ค่าวซอ
 .       ไพเราะมาก
.
.      การที่เพื่อนๆ พูดเหนือ -อู้กำเมียง
ใส่เธอตลอด ก็ดีนะ
.  ทำให้เอียดเรียนรู้ และคุ้นชินภาษาเหนือ
อย่างรวดเร็ว   และเริ่มหัดพูดเหนือได้บ้าง
แล้ว
.
.    แต่เอียดก็ภูมิใจในภาษาใต้ของตน
ไม่แพ้กัน เรียกว่าชอบทั้งสองภาษาเท่าๆ 
กันเลย
.     ภาษาเหนือ อ่อนหวาน นุ่มเบา  
ส่วนภาษาใต้ แข็งแรง ตรง และจริงใจ 
.      รู้ -ก็บอกเลย ว่า โหร่ !  ไม่รู้ - ก็จะ
ยืนยันแข็งขัน ว่า 
.         " ห้าโหร่ ไมนิ ! "

     *  *  *  *  *  *  *  *   *
.
.    กำลังนึกอะไรเรื่อยเปื่อยเล่นๆ
ก็รู้สึก เหมือนมีใครเดินมาข้างหลัง
.  และนั่งลงใกล้ๆ

.      แล้วเอาช่อดอกไม้เล็กๆ วางลง
บนกระเป๋าเป้นักเรียนของเธอ
.

.          บุษบันหันขวับ ไปมอง--
. โยธานั่นเอง ที่เข้ามานั่งข้างๆ ทำ
หน้าตาเฉยนิ่ง ไม่ขี้เล่นอย่างเคย
.
.           " หื้อ -- "
.
.    เอียดพูดออกมาแค่นี้ และนั่นก็เป็น
คำทักแล้ว
.
.         หยิบช่อดอกไม้ขึ้นมา
.     เป็นดอกปีบขาว หรือดอกกาสะลอง 
แถวๆ นั้น ที่ร่วงสดลงมาใต้ต้น ไม่ได้ร่วง
อย่างแห้ง สักสิบกว่าดอก ถูกโยธานำมารวม
มัดเป็นช่อด้วยสายม่านของต้นม่านบาหลี  ที่
ทิ้งรากอากาศลงมาเป็นม่านสวย ตรงซุ้มนั่งเล่น
ตรงโน้น
  
.   " เห็นเอียดชอบไง  ดอกกาสะลอง
โยเลยเก็บมาให้ "
.
.       " ใช่ --เราชอบมาก
.          - ขอบคุณนะ  "
.
.  เอียดหยิบช่อดอกกาสะลองนั้นมาถือไว้  
หมุนช่อดอก พิศดูไปมา
.      มองดูใกล้ๆ กลีบดอกที่บานแยกออก
เป็นแฉกเล็กๆ สวยถูกใจเธออย่างบอกไม่
ถูก  และมีกลิ่นดอกหอมรวยรินอ่อนๆ
.
.    เธอเคยรู้จักชื่อของมัน จากการเรียน
วิชาวรรณคดีไทย ว่าดอกปีบ และเคยเห็น
มาบ้าง ที่ทางใต้ 
.    ครั้นพอมาอยู่เชียงใหม่ ที่โรงเรียนนี้
ปลูกปีบไว้เป็นแนวข้างถนน  ในบริเวณ
โรงเรียน ทุกต้นโตเต็มที่ แข่งกันออกดอก
ลีขาวเป็นช่อเป็นพวง พรั่งพราวเต็มต้น
.     เพื่อนๆ บอกว่า  นี่คือดอกกาสะลอง
เอียดจึงนึกออก  ว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
จากเพลงๆ นึง
.
.     " แบบนี้ดอกสีขาว - เรียกกาสะลอง
เฉยๆ   แต่ถ้าอีกพันธุ์ ที่ดอกสีเหลือง ส้มๆ 
หน้าตาดอกจะต่างกันหน่อย   เป็นคล้ายๆ 
หลอด  ก็จะเรียก ก๋าสะลองคำ "
.
.    คำ ก็คือทองคำ - ภาษากลางเรียก ทอง  
แต่ภาษาเหนือจะเรียก คำ แบบว่าถ้าเจอทอง  
ทางเหนือจะอุทานว่า    " โห-- คำ  คำ -- ! "
ไม่ได้อุทานว่า  " โห- ทอง-ทอง ! "
.    แต่ถ้าอู้ว่า " ตอง " ทางเหนือจะหมายถึง 
ทองเหลือง
.
             *  *   *   *   *   *
.
    โยธานั่งมองบุษบันทุกอากัปกิริยา
อย่างหลงใหล ไม่ว่าเธอจะทำกิริยาอย่างไร 
มันจับใจเขาไปทุกอย่าง

.
.      บุษบันวางช่อดอกกาสะลอง กลับไว้
บนเป้บนโต๊ะ
.    
.                พลัน --
.     ลมอะไรนะ-- พัดวูบมาอย่างแรง 
. จนช่อกาสะลองเลื่อนตัวจากกระเป๋าเป้ 
หล่นลงกับพื้นโต๊ะหินขัด 
.   และลมยังพัดแรงให้มันกลิ้งต่อ ทำท่า
จะตกจากขอบโต๊ะ
.
.    เอียดรีบเอื้อมมือไปตะครุบมันไว้ทัน 

.  แล้วจึงมีมือของโยธา ที่ตามมาช่วยจับ
ด้วยอีกคน  คร่อมทับมือของเธอ

.
.      *  *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.      บุษบันตกใจ -กำลังจะรีบดึงมือกลับ
แต่โยธาไม่ยอม    กลับกดน้ำหนักอุ้งมือ
ตัวเองตรึงมือเอียด ไว้อย่างนั้น

.
.         เอียดจึงมองหน้าโยธา
.
.        ทันใด- เธอก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว 
. เมื่อต้องสบตากับดวงตาออดอ้อนของเพื่อนหนุ่ม 
ที่ขณะนี้ - จ้องมองเธออย่างอยู่ในภวังค์
.
.          เหมือนโลกใบนี้ จะหยุดหมุน
. แล้วเหมือนมีโลกใบใหม่ ที่มีเพียงเธอกับเขาอยู่กัน
เพียงลำพังสองคน เข้ามาแทนที่
.    ทั้งสองสบตากัน  จ้องมองกันและกัน 
.                นิ่ง - และนาน

.
.                 ชั่วอึดใจนี้---
.     ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่ง เงียบงัน
.
.      จนบุษบันรู้สึกตัวก่อน รีบขยับมือ พูด
เบาๆ ว่า
.
.           " ดอกไม้เกือบตกเลย-- "
.
.    โยธาจึงรีบปล่อยมือเธอ และดึงมือตัวเอง
กลับ   กลืนน้ำลายลงคอหนืดๆ ก่อนพูดเบาๆ
บ้างว่า
.
.            "  นั่นซี --
.                     ลมแรงจัง  "
.
.      ต่างคนต่างนิ่ง ไม่พูดอะไรต่อ
.         หันไปมองกันคนละทาง
.
.      หัวใจของโยธาเต้นรัว ตึ๊ก-ตั๊ก หายใจ
ขัดๆ ไม่ทั่วท้อง
.     บุษบันเองก็มีความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน

.
.     *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.        ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ 
ช่างมีอานุภาพหนักหน่วงทีเดียว   
.   เพราะมันทำให้เด็กหนุ่ม และเด็กสาว
ต่างตกอยู่ในสภาวะที่ไม่รู้จะพูดคุยอะไร
กันต่อดี

.
.       จนเมื่อโยธาแอบหันมามองบุษบัน
อีกครั้ง เห็นเธอรีบหลบตาเขา สีหน้าเจื่อนๆ
.             จึงถามว่า
.
.    " เอียดจะเอาดอกกาสะลองอีกมั้ย ?
. เดี๋ยวโยจะเก็บจากตรงนั้นมาให้อีก "
.     
.          " ไม่ต้องแล้วโย
.       พอแล้ว --  แค่นี้ก็พอ "
.
.      "  โยว่า ดอกมันสวยดีเนาะเอียด 
.  ก้านดอกก็ย๊าว-ยาว  แปลกดี "
.
.       รู้ว่าเอียดเริ่มหายอึดอัดแล้ว โยธา
. เห็นได้เรื่องที่จะชวนเธอคุยต่อ
.
.        " ใช่- สวยมากๆ
.    จริงๆ นะโย   น่าจะมีใครเอารูปทรง
ดอกกาสะลองไปออกแบบ ทำเป็นต่างหู
.   ทำเป็นแบบเกี่ยว ห้อยแตรดอกลงมา
หรือเสียบให้โผล่ก้านดอกยาวๆ ด้านหลัง
แล้วมีแป้นดักไว้
.      เราว่า คงเป็นตุ้มหูที่สวยมากๆ "
.
.    บุษบันเริ่มผ่อนคลาย   หยิบดอกปีบ
ดอกนึงมาพิศดู  ยิ้มถูกใจกับมัน แล้วพูด
ออกมาอย่างนี้ 

.        โยธาจึงว่า
.
.             "    จริงด้วย--
.   เอียดอยากได้ ใช่มั้ย
.      ไว้ให้โยทำงาน - มีเงินเดือน มีกะตังค์
โยจะไปให้ร้านทอง ทำต่างหูเป็นรูปดอกปีบ 
.      --  เอามาให้เอียดใส่  "

.
.         บุษบันหัวเราะขบขัน 
.
.   " นี่โยพูดจริ๊ง  ! --
.                ไม่ได้พูดเล่นน้า... "
.
.     โยธายืนยัน และพูดต่อว่า
.
.  " เอียดน่าจะไปเรียนต่อด้านศิลปะ --
โยว่าเอียดมีหัวศิลป์ 
.     เนี่ย--ที่ มช ก็มีคณะวิจิตรศิลป์นะ "
.
.        บุษบันนิ่งทันที  
.   นึกถึงพี่เก่ง-ประลองพล ลูกชายของ
ป้าเกดที่กำลังเรียนที่นั่น
.  และที่เล่าว่า มีเพื่อนทำโมเดลลิ่ง
.
.    จะบอกโยธาตอนนี้เลย-ดีไหม ?
เรื่องที่จะมีคนมาหา   มาติดต่อให้
ลองถ่ายโฆษณา

.
      *  *  *  *  *  *  *  *   *  *
.
.     ตรงฟากมุมโน้น- ใกล้ๆ หอประชุม
แอ้ม- เกวลิน แอบนั่งมองสองคนที่ม้านั่ง
หินใต้ต้นกาสะลอง อย่างใจหาย

.
.       เสียใจหรือ ?-- คงไม่หรอกนะ
แต่น้อยใจล่ะ ?  - ก็คงใช่
.
.          แอ้มตาแดงเอ่อ 
..ฝืนกลืนน้ำลายลงคอหนักๆ บอกตัวเอง
ว่าให้เข้มแข็ง  ให้ stronger
.
.    เตือนตัวเอง ว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธ
ใครได้   ไม่ว่าจะ โย หรือเอียด
.    ทุกอย่าง มันเป็นเรื่องของหัวใจ
ที่ใครก็ไม่อาจจะบังคับใจใครได้

.
      *    *   *   *   *   *   *
.
.     หนึ่ง-สงคราม นั่งเหม่อข้างมอเตอร์
ไซคล์ของตัวเอง

.  ที่เพิ่งจูงออกมาจากโรงเก็บจักรยานยนต์
และจอดไว้ ริมถนนใกล้หอธรรมฯ  อันเป็น
อาคารเรียนจริยธรรมของโรงเรียน

.
.    เปลี้ยใจ- จนไม่มีแก่จิตแก่ใจ จะขี่
รถมอไซคล์กลับบ้าน ตอนนี้
.   เมื่อเห็นภาพโยธานั่งคุยกระจุ๋ง กระจิ๋ง
กับบุษบัน ตรงนั้น
.
.       ส่วนเกินใช่ไหม - เราเนี่ย ?
หนึ่งคิด
.    --  ถามตัวเองอย่างเศร้าๆ

.
       *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.     แล้วเอียดก็ตัดสินใจบอกโยธา
เรื่องโมเดลลิ่ง ที่อาจจะมาติดต่อ

.     และบอกด้วย ที่พี่เก่งเตือนว่า
ให้ปรึกษาผู้ปกครองก่อนจะตัดสินใจ
.  และทั้งสองก็เห็นด้วยกับคำเตือน
.
.      โยธาก็ตื่นเต้น   เปิดมือถือตัวเอง 
ค้นหารูปที่เอียดบอกว่า พี่โมเดลลิ่งเห็น 
แล้วถูกใจ
.
.          " รูปนี้เหรอ ? "
.
.        ยื่นส่งให้บุษบันดู
.
.  เป็นรูปที่ใครคนหนึ่งโหลดมาจากหน้าเพจ
เฟสบุคของโรงเรียน  แล้วส่งไลน์มาให้เขา


.
.         " ใช่ ๆ--- รูปนี้แหละ---
.     โยเอามาจากหน้าเฟสฯ เหรอ "
.
.          โยธาพยักหน้า 
.    โกหกเอียดบ้าง    คงไม่เป็นไรหรอก
คงดีกว่าบอกไปตามตรง ว่าแอ้มชิงส่งรูปนี้
ทางไลน์มาให้เขา  ก่อนเจี๊ยบ   ก่อนเดย์ 
ก่อนพงษ์
.

         *   *    *  *  *  *  *  *   *
.
.     เห็นรูปนั้น--กับตัวตนจริงๆ ที่กำลัง
นั่งอยู่ใกล้ๆ ของโยธา
.   
 บุษบันยอมรับว่า โยธาหน้าตาดีมากๆ 
ถ่ายรูปขึ้นกล้องด้วย
.

.   เป็นคนหล่อคลีน  ยิ้มเห็นฟันเรียงเต็มปาก
ขาวสะอาด ริมฝีปากนั้นแดงเรื่อเสมอ อย่างคน
สุขภาพดี  
.     เครื่องหน้า คิ้วจมูก ปากคาง ก็รับกัน
อย่างลงตัว
.    มีหลายมุมทีเดียว ที่มองผาดๆ คล้ายโอ้-
มาริโอ้ พระเอกซูเปอร์สตาร์คนดัง
.    แต่โยธาคงสูงกว่าโอ้ และตัวบางกว่า  
.
.       เวลาโยธายิ้มใสๆ ร่าเริง คนที่พบเห็น 
ก็จะพลอยสดชื่นกับภาพคนหน้าตาดีตรงหน้า
.
.     แต่ที่มักทำให้หัวใจเอียดวูบวาบ
หวั่นไหว   คือยามที่โยธาหน้าเศร้า 
มองสบตาเธอ นิ่ง-  
.          อย่างวิงวอน น้อยใจ

.
.     เป็นหลายครั้ง ที่กระชากใจบุษบัน
หนักหน่วงจนใจหาย 
     ให้รู้สึกสงสาร  และอาทร  ห่วงใย
อยากเข้าไปปลอบโยน ให้โยธาหาย
จากอาการเศร้า
.
.     แต่ที่ทำได้  ประสาเด็กนักเรียน
สาวสไตล์บุษบัน   คือเมื่อเธอต้องสบตา  
ก็จะหลบสายตานั้น 
.      แลัวเส มองเมินไปอีกทาง
.
.      หากเธอไม่รู้ตัว  ว่านี่แหละ--
 คือเสน่ห์ของเธอ  ที่กุมหัวใจของโยธา
ไว้แน่นหนา  
.       ให้วาดหวัง -- รอวัน ที่จะชนะใจ
ทรนงของบุษบัน

.
          *  *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.     พอดีรถเดือนของบุษบันขับเข้ามา
ในบริเวณโรงเรียนแล้ว
.      -เห็นแต่ไกลเลย
.

.   บุษบันฉวยกระเป๋าเป้นักเรียน ลุกขึ้น
.   
.    " รถเดือนเรามาแระ  -- 
.              ไปนะ "
.
.      โยธาพยักหน้า  

.       "  ครับ--
.    --คิดถึงกัน นะครับเอียด "
.
.        เอียดไม่ตอบอีกแล้ว  แต่โยธา
ก็ชอบใจ 
.    เพราะเอียดเป็นอย่างนี้เอง เขาจึง
ชอบเธอ

.
.            *   *  *   *   *   *  *
.
.        โยธาสะพายเป้นักเรียน เดินออก
จากตรงนั้น ไปยังโรงจอดจักรยานยนต์
ของโรงเรียน

.   โรงเรียนทำไว้เป็นโรงเรือนถาวร มีตาข่าย
แบบรั้วเหล็กโปร่งกั้นรอบทุกด้าน และมีหลังคา
กันฝนให้อย่างดี
.
.    เด็กหนุ่มส่งป้ายเบอร์จอดให้ลุงนักการดู
ที่หน้าประตู เพื่อแสดงตนว่าได้เอารถมอไซคล์
มาจอดไว้จริง  
.
   เดินเข้าไปจูงรถเครื่องออกมา ส่งป้ายเบอร์
ให้คนเฝ้า  
.   ใส่หมวกกันน็อค   แล้วสตาร์ทเครื่อง  แตะ
เกียร์หนึ่ง จะออกตัว
.
.          พลัน - 
.    รถเครื่องคันหนึ่ง ก็ขับโฉบวูบมาใกล้ 
ผ่านหน้าไปอย่างเฉียดฉิว  เกือบจะเฉี่ยว
ชน
.
.     เพราะคนนั้น ใส่หมวกกันน็อคแบบครึ่ง-
ไม่เต็มใบ  โยธาจึงเห็นชัด ว่าคืออ้ายหนึ่ง 
.   สงคราม-นั่นเอง
.

.        โยธาขับจี้ตามทันที  เร่งความเร็วจน
ทัน ขนานกัน
.
.       " หยัง-อ้าย ? "
.
.     ตะโกนถามไปเลย  ว่า มีไรเหรอพี่ ?
.
.       หนึ่งไม่ตอบ  หน้านิ่งเฉย---
.
.        โยธาฉุนกึก-- ไม่กลัวหรอก-- 
รุ่นพี่ก็เหอะ
.
.      แต่ทันใด ก็นึกถึงคำที่พ่อ และแม่
สั่งสอน และตนก็รับปากไว้
.
.  " อย่ามีเรื่องที่โรงเรียนกับใครนะลูก..
อย่าเอาพิมเสน-ที่ราคาแพง 
.   ไปแลกกับเกลือราคาถูกๆ 
.    --มีเรื่องกัน มันไม่คุ้มหรอก
.อภัยให้คนที่มาพาลกับเรา
.      อย่าเอาตัวเราไปแลก--
. จำที่พ่อ และแม่ขอไว้ -นะโย " 

.
.       โยธาจึงผ่อนความเร็วลง  ปล่อยให้
มอไซคล์ของสงครามแล่นผ่านเลยไป
.   
        เปลี่ยนเป็นขี่ช้าๆ 

.  ผ่านรถเดือนของเอียด ที่ยังคงจอดอยู่
ที่ข้างทางถนน 
.    ต่อแถวรถเดือนคันอื่นๆ เพื่อรอเด็กๆ 
ลูกค้าบางคนที่ยังมาไม่ครบจำนวน
.
.          มองไปเล่นๆ...
  เห็นเอียดนั่งอยู่ ตรงท้ายๆ ของตัวรถ


.    ถึงเอียดจะกำลังคุยกับเพื่อน ไม่เห็น
เขา   แต่โยธาก็ดีใจ ที่เห็นในมือเอียดยังถือ
ช่อกาสะลองนั้นไว้ ไม่ได้โยนทิ้งไป
.
.    แล้วเมื่อนึกถึงตอนที่ได้สัมผัสมือกัน  
โยธาก็บอกตัวเองว่า  ตอนนี้ เขามีเอียด
เท่านั้น ที่กุมใจเขาไว้ 
.    เป็นคนพิเศษคนเดียวของเขา


      *    *   *   *   *   *   *


                     ***   จบตอนที่ 7. ***
.........................................................................................
.  หมายเหตุ :  นำนิยายมาลงในบล็อกใหม่อีกครั้ง         
.  เขียนครั้งแรก  20 พฤศจิกายน 2559
.บันทึกสถิติการเข้าอ่าน 1519 ครั้ง ณ 27 พฤศจิกายน  2561
..........................................................................................  



Create Date : 10 ตุลาคม 2563
Last Update : 10 ตุลาคม 2563 13:06:17 น.
Counter : 286 Pageviews.

0 comments

Huean Piang Din
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ตุลาคม 2563

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog