นิยาย " จันทรากินรี " - โดย เหมชาติ ทอง -- ( ตอนที่ 6 . )


                             6.

                  เวทแห่งกินรี
.

.
   " เอ็งเก่งมาก นังเหยี่ยน
 พอบูชายัญด้วยสำรับจัดหนักแบบนั้น
เสด็จพี่อนันตราชก็ลุ่มหลงข้า
.      จนไม่ลืมหูลืมตา  "

.
.     ดารารายส่งสร้อยคอทองคำหนึ่งสลึง 
พร้อมจี้มาม่า ในกล่องตลับกลมสีแดงมีฝาปิด
เป็นรางวัลโบนัสให้นางบ่าว
.
.    เหยี่ยนก้มกราบรับของกำนัล  แล้วเปิดตลับ
ออกดู  นางตาลุกวาวกับความสวยสุกปลั่งของ
สายคอทองคำ และจี้  
. หยิบสร้อยมาสวมใส่ที่คอทันทีด้วยความดีใจ
.    
.     ดารารายทั้งนึกเอ็นดู และเวทนามันนัก 
หยิบคันฉ่องรุ่นมือถือ ส่งให้มันใช้ส่องดูที่ลำคอ
ตัวเอง
.   เห็นนางบ่าวเอียงซ้าย เอี้ยวขวา ส่งยิ้มกับ
คันฉ่องไปมาไม่เลิก
.
.    แล้วอัปสราดารารายก็เปรยขึ้นว่า
.
.      "  แต่จะทำอย่างไรดี
. ข้าถึงจะกำจัดนางจันทรากินรี ไปให้พ้นๆ 
เมืองนี้ได้ "
.
.       "  ทูนหัวของบ่าว - ยากปะไร
.  ก็ทรงออดอ้อน เพ็ดทูลให้องค์อนันตราช
โองการออกมา -ซิเพคะ "
.
.       ฟังที่นางเหยี่ยนเสนอความคิดมา
ดารารายก็ติงมันทันทีว่า
.
.           " โอ๊ย - -
.        มันไม่ง่ายอย่างที่แกคิดหรอก
.   นี่แกลืมไปแล้วเหรอ --ว่ายังมีองค์มาตารานี
อยู่อีกทั้งคน
.    เดี๋ยวก็ออกมาบ๊งเบ๊งข้า ให้ต้องอับอายแบบ
วันก่อนอีก ถ้าว่านางจันทราโดนข้าเล่นงานแบบ
ไม่สมเหตุสมผล "
.
.      " ก็สร้างความผิดเบอร์บิ๊กๆ ให้มันซิเพคะ
จะได้ผิดแบบสมเหตุสมผล
.    เอาชนิดที่ -องค์มาตารับไม่ได้ จะได้ไม่มา
ขัดขวางพวกเราอีก "
.
.     " แล้วจะให้มันผิดเรื่องไรดีล่ะ ? "
.
.           " ก็-- "
.
      นังเหยี่ยนมีหูตาแพรวพราวทันใด
.
   " ทำไมพระมเหสีไม่เรียกองค์เขมรัฐ
( ขะ-เม๋-รัด )
มาช่วยเรื่องนี้  ล่ะเพคะ "
.
.    " เขมรัฐ -- น้องชายของข้า  ที่ตอนนี้ 
ไปหางานพาร์ทไทม์ทำ ที่ร้านโรตีของชาว
วิลาศ  ที่เมืองดึกดำบรรพ์
          --  นั้นน่ะหรา ? "
.
            " เพคะ  "
.
.       นางเหยี่ยนยิ้มระรื่น
.  พักตร์หล่อแบบชนแควันโคเรียถูกใจนางจัง
ของเจ้าชายวัยรุ่นคนนั้น ลอยมาวิ้ง-วิ้ง ในมโน
.
 .          " ทูลเรียกมา---
.    ให้มาแสร้งทำตัวเป็นชู้ของเจ้าหญิงจันทรา
หาทางเข้าไปซ่อนองค์ ในตำหนักรับรองให้ได้  "
.
.            " อุ๊ย - แกนี่---"
.
.    ดารารายถึงกับอุทานด้วยความทึ่ง
.
.  " คิดการ เรื่องใส่ร้ายคนได้ลึกซึ้ง -อัปรีย์
ดีจริง
.      แต่-- แหม  พอพูดถึงองค์เม๋ -น้องชาย
ข้า  ดูแกระริกระรี้ขึ้นมาเชียวนะ
.     ข้ารู้มาตั้งนานแล้วละ ว่าแกแอบชอบองค์
เขมรัฐ "
.
.        " อุ๊ย--ตรัสไรก็ไม่รู้ 
.    -บ่าวเขิน "
.
.      นางเหยี่ยนอายม้วนต้วน ทูลว่า
.
.        " ก็องค์เม๋-อะ   ทรงพระแว้นๆ 
.    เป๊คบ่าว -เลยแหละ เพคะ "
.
.          " อย่า-- อย่า "
.
.         ดารารายปรามมันทันที
.
.    " เลิกคิดฝัน ที่จะมาเป็นน้องสะใภ้ข้า
ข้าไม่มีวันให้บ่าวอย่างแกมาเป็นเมียของ
เขมรัฐ   --กิ๊ก ก็อย่าหวัง "
.
.       "   บ่าวก็พูดไปงั้นเอง "
.
.        เหยี่ยนรีบแก้ตัว  อาย-อะ
.
.      " ตกลงว่า -เราจะใช้แผนการอุบาทว์นี้ 
ใช่ไหมเพคะ
.  งั้นบ่าวจะรีบไปตามองค์เม๋ที่นครดึกดำบรรพ์
เดี๋ยวนี้เลย  
.   มันไม่ไกลมากอย่างโตนสะเรียม คงนำเสด็จ
มาถึงที่นี่พรุ่งนี้เช้า  "
.
.          " ดี---
.   ว่าแต่ - แกจำร้านโรตีของชาววิลาศได้แน่หรือ ?    
มันไม่ใช่โรตีราดนม กับโรยน้ำตาลทราย ของร้าน
ชาวแขกกลิง นะแก  "
.
.          "    แหม ----
.           แหม ๆ - ๆ - ๆ "
.
.    นังเหงี่ยนร้องรัว เผลอค้อนให้เจ้านายตัวเอง 
ที่ตรัสมาเหมือนจะดูแคลนคนอย่างตน
.        - รีบเถียงกลับทันควัน
.
.       "  บ่าวทราบเพคะ พระมเหสี
. บ่าวไม่ได้เชยจนตกเทรนด์ -trend - หนิ
.       โรตีของร้านชาววิลาศจะแผ่นใหญ่ๆ 
มีหน้าชีส  หน้าไส้กรอก หน้าซีฟู้ด  หน้ามัชรูม  
และ ฮาวายเอี้ยน   หรือจะสั่งแบบสุพริมรวม
ก็ได้
.     บางที ก็จะจัดรายการซื้อ 1 แถม 1 --
แระก็-มีเดลิเวอรี่ บริการส่งถึงที่ด้วยนะเพคะ "
.
.          " หือม์..."
.
.     ทรงค้อนให้มันบ้าง  ด้วยสุดจะหมั่นไส้
จริตจะก้านที่ดูเกินๆ ขึ้นทุกวันของนางเหยี่ยน
.
.       "  รู้ดีไปซะทุกอย่าง
.   - นี่ขนาดวันๆ มีปัญญาได้กินแค่ขนมครก 
นะเนี่ย แก  "
.    
.      ทรงว่างี้มา -- นังเหยี่ยนอายจริง 
หน้าม้านเลย ไปต่อไม่ถูก
.
.      "  เออ--  ร้านนั้นแหละ
 .    แกต้องไปพาเขมรัฐมาหาข้าให้ได้
และระหว่างที่ต้องเดินทางมาด้วยกัน ต้อง
ค้างแรมกลางป่า สองต่อสอง
.          ข้าขอสั่งห้าม -- 
. ไม่ให้แกบังอาจถูกเนื้อต้องตัวน้องชายข้า 
โดยเด็ดขาด ! "
.
.           " เพคะ...
.  เหยี่ยนจะพยายามเตือนตัวเอง ไว้เพคะ "
.
.   นางรับคำอ่อยๆ เพราะรู้ฤทธิ์ของเจ้านาย
ดี ว่าคำไหนต้องคำนั้น
.
.  " แล้วมเหสี ก็ทรงอย่าลืมบูชายัญด้วยล่ะ
เพคะ
.     บ่าวจับไก่สองตัว มัดตีน มัดปาก ไว้ให้
แล้วในครัว "
.
.           " เออน่ะ -- ข้าไม่ลืม
.     ไป- แกรีบไปทำงานให้ข้าได้แล้ว "

.  
.         *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.        กลางดึก ของราตรีนั้น
.     โพระดกที่นั่งดูกระจกมนตรา
หวังจะตามส่องพฤติกรรมของนางเหยี่ยน
อีกคืน

 .    ต้องตกใจ  ขนหัวลุก จนแทบจะหวีด
ร้องออกมา
.
 . แต่รีบกล้ำกลืนเสียงไว้ ด้วยเกรงใจองค์หญิง
จันทรากินรี ที่บรรทมหลับอยู่ข้างๆ
.
.        ตอนแรก กระจกฉายแต่ภาพครัว
. รอเฝ้าดูตั้งนาน  ก็ไม่เห็นวี่แววของนางเหยี่ยน
.       เอ- มันไปไหนของมันหรือ ?
.
.    ทันใด ก็ปรากฏร่างของมเหสี  เดินถือมีด
เข้ามา
.  อัปสราดารารายก้มลงมองไปมา คล้ายกิริยา
ของนางเหยี่ยนเมื่อคืนวาน
.     และแล้ว นางก็คว้าแม่ไก่ทั้งสองตัว ขึ้นมา
เชือดคอ
.  ไก่ดิ้น ปั๊ด-ปั๊ด  สะบัดปีกไปมา-เลือดสาด
นอง
.
.          โพระดกอึ้ง -
.   ดารารายช่างแสนเลือดเย็น ตอนเชือด
คอไก่ 
.   ดูนางนิ่งมาก ไม่มีอาการยี่หระ ไม่สะทก
สะท้านเลยแม้แต่สักน้อย
.
.    " ชอบกินแกงไก่กันเหลือเกินนะ นายบ่าว
คู่นี้ "
.
.          โพระดกแอบนึกค่อน
.
.         แต่ครั้นพอเฝ้าดูต่ออีก--
.  ก็เห็นดารารายเทเลือด และเครื่องใน
ลงในชาม  แล้วจุดธูปบูชา
.
.      คราวนี้-- โพระดกก็เริ่มเข้าใจแล้ว
ว่ามเหสีดารารายกำลังทำคุณไสยอะไร
สักอย่าง
.
 .    พลัน -ที่เงาดำของผีวัวป่า บังเกิดขึ้น
ให้เห็นอีกครั้ง
     โพระดกแทบหยุดหายใจ
.  เพราะมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน  มนตร์ดำ
นั้นทรงอิทธิฤทธิ์  มากเกินใครจะคาดคิด
.
.    ฝืนดูต่อ--จึงได้เห็นมเหสีเทน้ำมันหอม 
แตะตามเนื้อตัวหน้าโต๊ะคันฉ่อง  แล้วเกิดมี
แสงออร่า รังสีแห่งกามรมณ์เรื่อเรืองตามตัว
ของนาง
.
.   พี่เลี้ยงโพระดกจึงรู้แน่ว่า มเหสีอัปสรา
กำลังทำเสน่ห์ยาแฝดนั่นเอง--
.
.        กระจกมนตราฉายภาพให้เห็นองค์
อนันตราชทรงเสด็จมาหานาง  ทรงสบตา 
และยิ้มให้นางอย่างลุ่มหลง
.       แล้วทรงตรงเข้าโอบกอดมเหสีอัปสรา
ดารารายที่ทอดกายนอนยิ้มยั่วยวน  อ้าแขน
รอรับองค์อยู่ --
.        -ในทันที
.
.     *  *  *  *  *  *  *  *  *  *

.    โพระดกกลืนน้ำลายลงคอหนืดๆ ไม่อาจทนดู
ซีนเสน่หา เรทเอ๊กซ์นั้นต่อไปได้

.     นางจึงรีบเก็บกระจกมนตราใส่ห่อผ้า
.
.       อยากจะปลุกบรรทมเจ้าหญิงจันทรา
และเล่าความให้ทรงทราบเหลือเกิน
.    แต่ครั้นเห็นว่า ยามนี้ ก็ดึกมากแล้ว และ
ทรงประทับนิทราหลับสนิทเช่นนั้น ไว้ทูลเล่า
ทุกอย่าง พรุ่งนี้ดีกว่า
.
      *  *  *  *  *  *  *  *
.
.   " บังคมเจ้าค่ะ  เจ้าพี่ดาราราย "
.

.     องค์ชายหนุ่มพักตร์เก๋อย่างวัยรุ่นแคว้น
โคเรียพนมมือไหว้มเหสีอัปสราดาราราย-ผู้
พี่สาว
.
.      " อ้อ-- เขมรัฐ- ( ขะ-เม๋-รัด)
.          ดีใจจัง เจ้ามาถึงแต่เช้าเลย--
.   นางเหยี่ยนมันเล่าทุกอย่างให้น้องฟังหมดแล้ว  
ใช่ไหม ? "
.
.        "  เจ้าค่ะ--น้องทราบทุกอย่างแล้ว  
.  แต่กำลังจะปรึกษาเจ้าพี่  ว่าน้องจะหาหนทาง
เข้าไปอยู่ในตำหนักของเจ้าหญิงจันทรากินรีด้วย
วิธีใดได้ "
.
.   ดารารายมองหน้าเขมรัฐ- น้องชายผู้มีพักตร์
เฉี่ยวๆ  เข้ากับบุคลิกนิสัยยียวน
.
.        " พี่ก็คิดไว้ให้บ้างแล้ว--
.   เพราะเจ้าจะเข้าไปในตำหนักดื้อๆ ไม่ได้แน่
 เขามีกฎห้ามคนนอกเข้าไป ไม่ว่าหญิงหรือชาย
 . น้องจะต้องร่ายเวท แปลงกายเป็นสิ่งที่พวกมัน
ยอมให้นำเข้าไปในตำหนักเท่านั้น"
.
 .    เห็นอีเหยี่ยนกำลังคลานเข่าเข้ามาเสนอ
หน้า   หวังจะได้อยู่ใกล้องค์เขมรัฐ- ไอดอล
ของมัน  จึงนึกอยากปรึกษามัน
.
 .       " เออนี่-- อีเหยี่ยน 
.  ข้ายอมรับว่า หัวสมอง-อ่องออ โอเมก้าแห่ง
ปลาไหลของเอ็ง มันดีนัก---
 .  ช่วยข้าคิดทีซิ ว่าจะให้องค์เขมรัฐแปลงร่าง
เป็นอะไรดี  ที่ไม่ใช่คน 
.    และนังพี่เลี้ยงกินรีไม่เอะใจรู้ "
.
.          " อุ๊ย--
.    เหยี่ยนคิดเตรียมการไว้ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
เพคะ--"
.
.    เหยี่ยนลอยหน้าลอยตาตอบ ชายตาวิบวับ
ไปทางองค์เขมรัฐ

.    " - ตอนบ่าวถวายพัด วีกล่อมไล่ยุงป่าให้
องค์เม๋ด้วยความเป็นห่วง 
.  จนทรงนิทราหลับ  แล้วฝันหวานถึงเหยี่ยน  "
.
.          " อีบ้า ! --
.     เพ้อเอง  อะ-แก "
.
.        องค์เขมรัฐตรัสด่าทันที
ทรงหมั่นไส้มัน ตั้งแต่ตอนเดินทางในป่า
มาด้วยกันแล้ว 
.  มันชอบแต๊ะอั๋ง หาเศษหาเลยอยู่เรื่อย
.
.     " อย่าไปถือสามันเลยเขมรัฐ
.   ว่าแต่- แกคิดอะไรได้ล่ะอีเหยี่ยน ? "
.
.       "  ก็พวกมันเป็นกินรี--
 มีสัญชาตญานนกเถื่อน  
.              เราก็แปลงเป็น--"
.
.   มันหันมองซ้าย-ขวา เหมือนกลัวมีใคร
มาแอบดักฟังลิขสิทธิ์ความคิดของมัน
.    แล้วคลานเข่า ไปกระซิบที่ข้างหูของ
ดาราราย
.
.    และฉวยโอกาสทอง  ตรงเข้ากระซิบ
ที่ข้างหูองค์เขมรัฐ ที่นางปลื้มสุดๆ
.
.       " โอ๊ย - นังเหยี่ยน
.   แกแอบจุมพิตข้า 
.            ---  ยี้ !!!  "
.
.   เขมรัฐโวยวาย เอามือปัดเช็ดแก้ม
ข้างซ้ายของตัวเองไปมา
.      ด้วยความขยะแขยง
.
.     อัปสราดารารายฟังที่นางเหยี่ยน
กระซิบบอก  ก็ต้องยกนิ้วให้มัน
.
.     " สุดยอด อีเหยี่ยนเอ๊ย-
.            ใช่ ---
.   -เขมรัฐต้องแปลงร่าง เป็นสิ่งที่เจ้าว่า
มานี้
.    เจ้าช่างคิดการได้วิเศษจริงๆ  อีบ่าว
ของข้า
.        --- ฮ่า ๆ ๆ ๆ
.    นังโพระดกมันสัญชาตินก เห็นเข้า
ก็คร้านที่จะรีบนำเข้าไปในตำหนักทันที
.         -แน่นอน ! "

.   นางเหยี่ยนประนมมือ กราบรับคำชม
.
.     อัปสราดารารายพอใจอุบายนี้มาก 
หันไปสั่งกำชับอนุชาว่า
.
.     " จากนั้น-- เจ้าก็ต้องรีบคืนร่างเดิม
นะเขมรัฐ   
.    แล้วแอบซ่อนองค์ให้ดี   รอจังหวะค่อย
ออกมา  ตอนพี่ตามไปสมทบ "
.

      *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
 จันทรากินรีฟังพี่เลี้ยงเล่าเรื่องที่มเหสี
อัปสราดารารายทำเสน่ห์ใส่อนันตราชด้วย
ความวิตก
.

.     " ตอนนี้ หญิงพอเข้าใจแล้ว ว่าทำไม
องค์อนันตราชถึงเปลี่ยนไปเช่นนั้น
 .     แล้วนี่เราจะทำอย่างไรกันดี ?
. เราไม่มีเวทที่จะใช้แก้เรื่องยาเสน่ห์ได้ "
.
.    " ก็ต้องอยู่สู้กับมันจนวินาทีสุดท้าย
ละเพคะ
.         ไหนๆ ก็ไหนๆ  "
.
.       มีเสียงเคาะประตูตำหนักรับรอง
โพระดกรีบเดินออกไปส่องดู แล้วเปิดรับ
.
.      ทหารวังยื่นห่อใบตอง ห่อหนึ่งให้นาง
และบอกว่า

.     " มีชาวบ้านฝากห่อหนอนไม้ไผ่  ให้ข้า
เอามาให้ท่าน
 .  เขาว่า เขาทราบว่าท่านชอบกิน จึงมีไมตรี
ฝากมา "
.
 .      โพระดกรับมา แกะห่อดู   เห็นเป็นหนอน
ไม้ไผ่จำนวนหนึ่ง  กำลังไต่ขี่กัน ยัวะเยียะ
.      นางกินรีนกไพรจึงน้ำลายปุ๊ น้ำลาย
สอ
.
.      " โอ- หนอนไม้ไผ่ - รถด่วน
 ของโปรดของข้าเลย 
.     คนที่มอบให้ เขาเป็นใครหรือ "
.
 .   " ชาวบ้านนี่แหละ คงพึงใจในอัธยาศัย
ของท่าน
.    ได้ของกินดีๆ ก็นึกถึงกัน "
.
.
.    *   *  *  *  *  *  *  *  *
.
.     ปิดประตูแล้ว   โพระดกถือห่อใบตอง
เดินกลับเข้ามาหาเจ้านาย
.     อวดมันให้ทรงทอดเนตร
.
.      " ชาวบ้านให้หนอนไม้ไผ่มาเพคะ
 ไว้กินกับอาหารมื้อค่ำนี้
.        พี่ขอเอาไปเก็บไว้ในครัวก่อน "
.
.     พอกลับออกมาจากครัว  จันทรากินรี
ก็เรียกให้นางเข้ามาหา
.ยื่นหัตถ์ที่สวมแหวนสีแดงเรื่อให้พี่เลี้ยงดู
 .
 .       " พี่โพระดก ---
.    แหวนที่เจ้าแม่ย่าให้หญิงใส่ดูกาลเวลา  
มันกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว "
.
.       นางพี่เลี้ยงเห็นแล้ว ตกใจ

.          " ตายล้าว !!
.     นี่แสดงว่า-- เราเหลือเวลาที่จะหาทาง
ข่วยให้องค์สุริยันกินราฟื้นคืนชีพ เพียงพรุ่งนี้
 อีก 1 วัน เท่านั้น-- ซิเพคะ "
.
.      เจ้าหญิงได้ฟังพี่เลี้ยงยืนยันเช่นนั้น
ถึงแก่กันแสง
.
.      " หมดหวังแน่นอน พี่จ๋า--
.   ศัตรูไม่มีความรักใดๆ เหลือให้หญิงเลย
สักนิด
.      ตอนนี้ แม้แต่หน้าหญิง ก็ไม่ทรงยอม
ทอดเนตรมอง "
.
 .     โพระดกเองก็ใจหายไม่แพ้กัน  ได้แต่
ปล่อยให้เจ้าหญิงคร่ำครวญ
.     สักพัก นางก็นึกอะไรได้ ทูลว่า
.
.        " เพลานี้ ก็เย็นแล้ว --
.   เมื่อตอนกลางวัน พี่เห็นตัวนางเหยี่ยน
มันแระ    มันเดินแกว่งไปแกว่งมา อยู่แถว
ตำหนักของมเหสี
.     เย็นนี้ มันคงออกไปจับไก่ที่คอกเล้าที่
กระท่อมปลายนามาอีกแน่ๆ
.
.       พี่ขอตามไปดูมันนะเพคะ
.  องค์หญิงประทับอยู่ทางนี้ ทรงระวัง
องค์ด้วย
.    ไง -พี่จะรีบไป และจะรีบกลับ  "
.
..      *  *  *  *  *  *  *  *  *

     ลัดเลาะป่าทุ่งไปจนถึงเล้าไก่ 
ตะวันก็ยอแสง  ทำท่าจะมืด
.   โพระดกค่อยๆ ย่องเดินวนดูรอบๆ เล้า
ก็ไม่เห็นวี่แววของนางเหยี่ยน

.
.   นางพี่เลี้ยงกินรีไม่กล้าเดินไปทางด้านหลัง
ของเล้าไก่ เพราะเลยตรงนั้นออกไปเพียงเล็ก
น้อย  ก็จะเป็นลานหน้าผาหิน ที่ลึก และสูงชัน
.      เคยเห็นตอนกลางวัน วันก่อนแล้ว 
. ใครตกหน้าผาลงไป  จะกระแทกกับหินก้อน
ใหญ่ๆ  ก้อนแล้วก้อนเล่า เป็นทอดๆ
.      --  ตายสถานเดียว !

       *  *  *  *  *  *  *
.
.   บรรยากาศปลายนา ริมผา เริ่มมืด
เข้ามาทุกขณะ
.  โพระดกลุกขึ้นจากที่ซุ่มซ่อนข้างเล้าไก่    
คิดว่าจะไม่อยู่รอดูนางเหยี่ยนแล้ว กลับไป
ที่ตำหนักดีกว่า
.
.         ทันใดนั้น -
.  นางก็ถูกตะครุบตัวจากด้านหลัง
และถูกรัดคอด้วยเชือกทันที
.
.    มันดีงกระชาก ลากนางอย่างแรง
ถูลู่ถูกังไปที่ต้นไม้ขนาดกลางๆ ต้นหนึ่ง 
ด้านหลังเล้าไก่
.     จับฝืนให้นางนั่งพิงต้นไม้ เอาเชือก
เปลี่ยนจากรัดคอ มามัดมือไพล่หลัง ติด
กับต้นไม้ไว้
.
.
.     *  *  *  *  *  *  *  *
.
.        " นังบ่าวเหยี่ยน ! "
.
.  โพระดกอุทาน เมื่อเห็นตัวตนของผู้ที่
ประทุษร้ายนางชัดเจน
.   ยอมรับในพละกำลังของนังรับใช้องค์
มเหสีดาราราย  ว่ามันฟิต แรงจัดยิ่งกว่า
ควายผสมแรด ที่เขาเรียกกันว่า- แควด
.   เพราะโพระดกก็ได้พยายามดิ้นรนขัดขืน  
ต่อสู้กับมันสุดกำลัง แต่ไม่สามารถต้านทาน
แรงปานนางยักษีของนางบ่าวเหยี่ยนได้
.
.      " ใช่ - ข้าเอง นังโพระดก "
.
.      เหยี่ยนเบะปากใส่โพระดก
.
.     "  แกจะมาแอบดูข้าหรือ ?
.    ดีนะ - ที่ข้าเห็นแกเดินมาซะก่อน
เลยซ้อนแผน จับตัวแกได้ทัน "
.
.         " ก็ใช่-
.  เพราะข้ารู้ ว่าแกจะมาจับไก่ เอาไป
เชือดบูชายัญที่ตำหนัก "
.
.       " เอ๊ะ-- แกรู้ได้ยังไง ? "
.
.  นังเหยี่ยนทึ่ง  และแล้วก็นึกออก
.
.      "  อ้อ-- ลืมไป
.          --  เจ้าหญิงจันทรากินรี
เจ้านายของแกก็เก่งใช่ย่อยเหมือนกัน
.     นี่คงใช้ญาณวิเศษ ส่องดูพวกข้า 
เหมือนวันนั้นอีกสินะ  "
.
.   " พวกแกบังอาจมาก ไม่เกรงอาญา
แผ่นดิน กล้าทำเสน่ห์ใส่องค์อนันตราช !!  "
.
.      นางเหยี่ยนพยักหน้ารับ ไม่ปฏิเสธ
หรือแก้ตัว ไม่ละอายที่ถูกจับผิดได้ 
 เพราะในเมื่อทุกอย่างมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็
ต้องหน้าด้าน สู้กับทุกสิ่งทุกอย่างแบบหลัง
พิงฝารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส  
.   นั่นคือ -- ต้องด้าน คูณด้าน -เท่านั้น !!

.
.             " ถูกต้อง-
.    ในเมื่อแก- รู้ทุกอย่างเช่นนี้  ข้าก็คง
ปล่อยแก ให้มีชีวิตลอยนวลต่อไปไม่ได้
แล้ว
.  เดี๋ยวข้าก็จะฆ่าแก--แล้วโยนร่างเน่าๆ 
ของแก ลงไปทางหน้าผาแกรนด์แคนย่อน
นี้ "
.
.   นางเหยี่ยนชี้ไปทางหน้าผาสูง ที่ยามนี้ 
มองเห็นเพียงลางๆ
.
 .        โพระดกใจหาย-
.  ถ้านางต้องตาย - แล้วองค์หญิงเล่า ใคร
จะอยู่ดูแลพระองค์ ?
.
.           " ฮี้ - ฮ่า ๆๆๆๆ "
.
.       เหยี่ยนหัวร่อร่า ลั่นทุ่ง
.
 .       " อ้อ -- ถามหน่อยเด๊ะ ?
.    เมื่อตอนเย็น แกได้รับห่อใบตองใส่
หนอนไม่ไผ่แล้วใช่ไหม "
.
.            โพระดกสะดุ้งเฮือก
.
.       " แก !! ---
.              มันเป็นของแกหรือ ? "
.
.         " จะบอกให้แกรู้ก่อนตาย
.    หนอนไม้ไผ่นั่น คือร่างแปลงของเจ้าชาย
เขมรัฐ น้องชายสุดหล่อขององค์มเหสีอัปสรา
ดาราราย ที่ข้าไปตามนำเสด็จกลับมาจากเมือง
ดึกคำบรรพ์ 
. เพื่อมา จส.100- ร่วมด้วยช่วยกันกับพระภคินี
ของท่าน กำจัดเจ้านายกินรีของแก  ให้พ้นไป
จากเมืองนี้ ไงล่ะ !
.     ป่านนี้  ทรงคงร่ายเวท กลับคืนร่างเดิม 
จากรถด่วน-หนอนไม้ไผ่ เป็นเจ้าชายหนุ่มรูป
งาม  ผู้เข้าหาเจ้าหญิงจันทรา - ชู้รัก  
.       -- ตามการนัด เข้าหากัน  "
.
.      " พวกแก !!!
.            -- เลวมากกกกก !!  "
.
.     โพระดกได้ฟัง โกรธแค้นแทบกระอัก
เลือดเลยตอนนี้  ฮึดฮัด พยายามดิ้นรนไปมา
. แต่เชือกที่มัด ก็รัดปมไว้แน่นหนาเหลือเกิน
.
.   " แกจะไปโทษใครได้ล่ะ  อีกินรีเอ๊ย "
.
.           เหยี่ยนเย้ยหยัน
.
.   " ก็ต้องโทษสันดานนกป่าขี้ตะกละ ของ
แกเองนั่นแหละ --
.    - หน็อย เห็นของกินอร่อย-ละเป็นไม่ได้
.  ไม่ตรวจ ไม่สแกนบาร์โค้ดดูให้ดีซะก่อน 
ว่าในแพ็คเป็นอะไรแน่
.     นี่กระไร-- เห็นทหารมันเล่าว่า แกรีบ
ฉวยห่อ เอาเข้าไปเก็บไว้กินในครัวทันที
.           -- สมน้ำหน้า !  "
.
.   ถึงทีที่โพระดกจะต้องร้องกรี๊ด-ด้วยความ
โกรธแค้นบ้าง 

.            " อ๊ายยย-- "
.
.    แล้วรีบด่าตอบนางเหยี่ยน เป็นชุดทันที
.
.            " อีเหยี่ยน  --
.        อีมงกุฎ !
.                   อีเสื้อ !
.             อีสนับเพลา ! 
.                  อีสไบ!
.        อีกำไลมือ -- 
.                    อีกำไลเท้า !! "
.
.    นางเหยี่ยนกลั้นโมโหไว้  ตอบโพระดก
แบบยั่วเย้าว่า
.
.     " ถึงแกจะด่าข้าเป็นชุดใหญ่ ครบเครื่อง
แบบนี้--
.        แต่ข้าก็ไม่เจ็บแสบหรอกโว้ย ! "

.      ทำให้โพระดกโกรธมากขึ้น จนตัวสั่น
ตาลุกวาว จ้องมองนังเหยี่ยนอย่างอาฆาต
พยาบาท   
.      ขอบุ๊กกิ้ง -booking ผ่านเว็บอะโกด้า
- Agoda.com จองเวรจองกรรมล่วงหน้า 
ยาวไปจนถึงชาติภพหน้าโน้น
.
.       "  ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ--- "
.
.     นังเหยี่ยวเห็นท่าทางใจแหลกสลาย
ของโพระดกแล้ว  ให้รู้สึกสะใจ-- 
.          - ฟิน ไม่รู้จะกี่รอบ
.
.          " แกฟังต่อนะ---
.   และเดี๋ยวในราตรีนี้  - องค์มาตารานี ก็
จะได้รับการเพ็ดทูลว่า เจ้าหญิงจันทรากินรี
ทำการเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ใฝ่ต่ำ ไร้ซึ่ง
ยางอาย
        ลักลอบประพฤติผิดจารีตมณเฑียร
บาล  แอบนัดชายชู้เข้าหาถึงห้องบรรทม
.    จะนำเสด็จองค์รานี ไปตรวจค้น DNA  
ที่พระตำหนัก โดยองค์มเหสีอัปสราดาราราย 
และเจ้าชายอนันตราช-ผู้ทรงลุ่มหลงต่อองค์
มเหสีดารารายของข้า จนโงพระเศียรไม่ขึ้น
.         -- ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ  "
.
.     เหยี่ยนเล่าเป็นฉากๆ ให้โพระดกรับรู้   
ด้วยต้องการเชือดเฉือน ทำร้ายจิตใจของ
นางนั่นเอง
.
.    "  โทษของเจ้าหญิงจันทราครั้งนี้ ก็คือ
 ถูกจับเผาไฟทั้งเป็น !
.    เพื่อขับไล่เสนียดบ้านจัญไรเมือง ที่เกิด
จากการกระทำกามชู้ เป็นกาลีอีเว้นท์ ต่อนคร
กัลปพฤกษ์  !! "
.
.  โพระดกคับแค้นใจที่ตนทำอะไรไม่ได้เลย 
ณ ตอนนี้   
. น้ำตาคลอ นึกสงสารชะตากรรมขององค์หญิง
จันทรากินรียิ่งนัก  ที่ชีวิตต้องมาอยู่ร่วมโลกกับ
คนพวกนี้  
.   พวกมันช่างใจคอโหดร้าย  อำมหิตเกินกว่า
จะพรรณนา สาธยาย
.
.      ทันใดนั้น นางเหยี่ยนก็พูดว่า
.
.         " อีโพระดก--
.   เอ็งกับข้า  ต่างก็เป็นแค่ขี้ข้าที่คอยรับใช้
เจ้านาย -เสมอกัน
.        -- อยู่กันคนละโลกแท้ๆ " 
.   
.  มันพูด เหมือนทำทีจะเห็นใจคนใช้แรงงาน
ระดับเดียวกัน
.
.           " แต่ ---  "
.
.     แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นขับลำนำเพลง
.
 "    -- พรหมลิขิตบันดาล ชักพา  
.    ดลให้มาพบกัน-ทันใด 
.         ก่อนนี้อยูกันแสน-ไกล 
.    พรหมลิขิตดลจิต-ใจ 
.         ข้าจึงได้มาใกล้ กับ-เอ็ง ! "

.
.    มันเดินไปรอบๆ มองโพระดกที่ถูกมัด
แน่น สิ้นอิสรภาพ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
.   กล่าวแก่นาง อย่างสาแก่ใจต่อว่า
.
.    " จริงๆ แล้ว ข้าก็ไม่ได้เกลียดอะไร
เอ็งมากมายหรอกนะ  
.    แต่จะบอกแค่ว่า วันไหน-มีคนมาเจอ
แก ถูกตีหัว นอนตายโหงอยู่ตรงนี้
.  ก็คือข้าเองนี้แหละ ที่เป็นคนเอาท่อนไม้ 
ฟาดหัวแก ! 
.         -- ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  "
.
.      *  *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.    นางเหยี่ยนหัวเราะร่า  เดินพูดพล่าม
กับตัวเองเรื่อยเปื่อยเหมือนคนบ้า 
.   ด้วยอารมณ์ของความย่ามใจ
.
.     " วันนี้ เป็นวันนี้ที่รอคอยของข้าจริงๆ 
อีกินรีโพระดกเอ๊ย
.    ข้าไม่เคยนึกมาก่อน ว่าแกจะมาให้ข้า
สังหารด้วยท่อนไม้ ได้ถึงที่นี่
.   ที่นี่มันลับหูลับตาผู้คน แกไม่มีทางรอด
ชีวิตกลับไปแน่นอน 
.       ชะตาของแกมันถึงฆาตเอง 
.       ---  ฮ่า- ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ    "
.
.      คราวนี้ มันถึงกับแหงนหน้าขึ้นฟ้า 
ระเบิดเสียงหัวเราะลั่น  
.    พลางเดินหาไม้ท่อนใหญ่ ก้มลงหยิบ
เลือกท่อนนั้น -ท่อนนี้  
.    จะเอาขนาดที่เหมาะมือ  ใช้เป็นอาวุธ
ฟาดทำร้ายนางพี่เลี้ยงกินรี  ตามคำที่มัน
พูด
.   
.
.              ขณะนั้น --
.  โพระดกที่ถูกมัดไพล่หลังก็ได้แต่ทำใจ 
รอรับทุกสิ่งที่จะต้องเกิดกับตัวเธอ
.  แม้ว่าจะคือความเจ็บปวด จากการจะถูก
นางเหยี่ยนทุบตี จนถึงแก่ความตาย
.
.  นางสะอื้น ฝืนพนมมือ ในท่าที่พอจะกระทำ
ได้ ด้วยว่าขณะนี้ นางกำลังถูกมัดมือไขว้หลัง
อยู่ 
.    ตั้งจิตอธิษฐาน กราบวิงวอนต่อเทพยดา
ฟ้าดิน   ขอให้เมตตานาง   และโปรดช่วย
คุ้มครององค์หญิงกินรีของตน
.
.              พลัน -
.     จากการที่นางนึกถึงเจ้าหญิง 
.     ถ้อยคำหนึ่งจากโอษฐ์ของจันทราที่เคย
ตรัสถามนาง ก่อนจะพากันออกมาจากเมือง
หิมพานต์ ก็แล่นผ่านมา
.    แว่วหวาน-ในโสตประสาทของโพระดก
.
     " เวทตัวไร ---
.  เป็นอย่างไรหรือ พี่โพระดก ? "

.


.         *  *  *  *  *  *  *  *
.
.        นึกถึงเวทนี้ได้   โพระดกก็ให้
ดีใจยิ่งนัก
.     นางรีบรวบรวมสติ  ตั้งสมาธิ
ร่ายเวท  เรียกกองทัพตัวไรนกในทันที
.
.      *  *  *  *  *  *  *  *  
.
.    นางเหยี่ยน-ที่ยังกำลังเดินหาท่อนไม้
เหมาะมืออยู่ ท่ามกลางความมืดสลัว
.
.    พอเลือกท่อนไม้ได้  จู่ๆ - นางให้รู้สึกคัน
ยุบยิบ ขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
.     รีบเอามือปัดไปมา ตามลำตัว
.
.  แต่ยิ่งปัดตรงนั้น-- ตรงนี้ก็คันแปล๊บ-ยุบยับ
เพิ่มอีกเป็นเท่าทวี
.
.   เพราะบรรดาตัวไรของนกโพระดก โฮกป๊ก - 
อยู่หนไหน  จำนวนเหลือคณานับ พากันยกทัพ
มาจากเวทมนตราอันวิเศษ
.
.    มาถึงปั๊บ ก็รีบเข้าแถว รวมพล จัดตั้งแถวกัน 
ทันที 
.   จากนั้นก็กระจายออกเป็นกองพัน   แยกย้าย
ไปไต่ตามตัวนางเหยี่ยน ทั่วทุกอณูของเรือนร่าง
อย่างขมีขมัน
.
.          " โอ๊ย--
.       ตัวอะไรมาไต่ตัวข้าเนี่ย ? "
.
.
.       *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.      โพระดกยังคงเร่งสวดมนตร์ เรียก
ทัพตัวไรนกไม่ยอมหยุด
.
.   ทำให้กองบัญชาการไรนกโพระดกสูงสุด
ต้องรีบตั้งวอร์รูม-war room ประชุมพลด่วน
.   เร่งจัดส่งทหารไรนกมาให้ จนแทบจะหมด
ทั้งกองทัพ
.
.  ต้องรีบประกาศเรียกเหล่าทหารเกณฑ์ไรนก
อันได้แก่ เหล่ากองหนุนที่ยังซุกตัวอยู่ตามขนนก
โพระดกทั้งป่า  
.     ระดมเรียกให้ออกมาช่วยเสริมกำลังพลเป็น
กรณีฉุกเฉิน
.
.     ถ้าในป่าทุ่งแห่งนี้ มีกล้องวงจรปิด  cctv 
- closed circuit television -โคลส-ดึ เซอร์เคิท 
เทเลวิชั่น  ก็คงจะจับได้คลิปภาพที่สุดอัศจรรย์  
.     ชวนให้เอาไปโพสต์-post ลงในเว็บยูทูบ    
เรียกแต้มซับสไคร้บ์-subscribe  ได้รับอัฐจาก
เหล่าโฆษณาเป็นยิ่งนัก
.
.    นั่นคือ เป็นวิดิโอภาพเคลื่อนไหว ของเหล่า
ประดาไรนกทั้งหลาย
.    ที่ต้องเวทมนตราวิเศษ ถูกดูดตัว -หวือออก
มาจากตัวของเหล่านกโพระดก  แล้วถูกดูดมารวม
กันเป็นสายคลื่นลูกใหญ่ ประหนึ่งฝูงค้างคาวที่
กำลังพากันออกหากิน บินออกจากถ้ำ  
.    แต่คลื่นนี้จะสีเทาๆ ตามสีของตัวไรนก
.
.   สายคลื่นคืบเคลื่อนไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
ราวพายุ     ด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 120 กิโลเมตร 
ต่อชั่วโมง   
.    ทำให้ป่าบางหย่อมมีลมกรรโชกแรง และทะเล
ที่อยู่ห่างแม่น้ำของท่าเรือออกไปสุดไกลก็ยังมีคลื่น
เล็กน้อย
.
.    คลื่นตัวไรนกมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 
สู่หน้าผาหินสูงชัน  ตรงลิ่วไปหานางเหยี่ยน !
.
.
.    เหล่านกโพระดกทั้งป่า พากันร้อง 
 โฮกป๊ก -สาธุ  
.          - โฮกป๊ก-สาธุ
.              - โฮกป๊ก- สาธุ !
.
.     เพราะรู้สึกตัวโล่ง  หายคันคะเยอไป 
ในบัดดลนั้น
.
.      *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.       เหยี่ยนกรีดร้องลั่น
.  สุดจะทน เมื่อกองทัพตัวไรส่วนหนึ่ง 
บุกเข้าไต่ถึงในรูหู และลูกตา

.
.   นางโยนท่อนไม้ทิ้ง  เอามือปัดเขี่ยหู 
ขยี้ตาทั้งสองข้าง
.          เดินโซซัดโซเซ 
.
.  สะเปะสะปะ ไปทางโน้น -- ทางนี้
.     พลางร้องโอดโอยลั่น
.
.         " โอยย--ช่วยด้วย
.   ข้ามองอะไรไม่เห็นแล้วววว -  "
.
.     ทัพตัวไรกระหน่ำรุมไต่นางไม่เลิกรา
จนเหยี่ยนถึงกับบิดตัว ร้องลั่นป่า
.   กระทืบเท้า กระโดดดิ้นไปมาอย่างสุด
จะอยู่นิ่งได้
.
.        และแล้ว  นางเหยี่ยนก็ก้าวเท้า
พลาด  
.   ย่ำเท้าลงในที่ว่างเปล่า-- พลัดตกหน้าผา
ลงไปทันที
.
.    "  วี้ดดดดดดด--- "
.
.        นางหวีดร้องด้วยความตกใจ   
.   เสียงดังโหยหวน ราวกับเสียงของสุกร
ในโรงฆ่าสัตว์  ที่ร้องเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต
ตอนถูกฆ่าเพื่อชำแหละร่าง
.
.       มีเสียงดัง  ตุ๊บ !
.                     - ตั๊บ !
.       และก็ ตุ๊บ !
.                และก็  - ตั๊บ !
.

.     เพราะร่างของนางกระแทกกับก้อนหิน
ใหญ่ๆ เป็นสเต็ป ๆ หลายทอด
.    จนสภาพแหลกเหลว ไม่มีชิ้นดี  
.
.           
.      "  นางทาสี หวีดร้อง ก้องไพรพฤกษ์
.     ก่อนสะอึก กระอักอ่วม เลือดท่วมไหล
.     ตกผาหลั่น ปั้นเปื๊อน  ครืนๆ ไป
.     นางขาดใจ  ด้วยเจ็บปวด แสนรวดร้าว "

.
.
.              แปลก -- แต่จริง
.     และแล้ว - ร่างของนางไพร่เหยี่ยนที่ไร้
วิญญาณ    ก็ค่อยๆ กลับกลายเป็นปลาไหล
น้ำจืดตัวเขื่องตัวหนึ่ง   นอนตายในสภาพสุด
บอบช้ำ มีร่องรอยบาดแผลเหวอะหวะทั่วทั้งตัว

.        
.          นางเหยี่ยน -บ่าวผู้จงรัก
.  ได้จากอัปสราดาราราย-ทูนหัวของมัน 
โดยที่มันไม่มีโอกาสบอกลานาง
.
.  และคืนนี้ --  มันก็ยังไม่ได้นำไก่สองตัว
กลับตำหนักเพื่อเชือดบูชายัญให้นาง !!!
.
.
.        *  *  *  *  *  *  *  *
.
.
.      " จันทรา--
  เปิดประตูเดี๋ยวนี้ !!! "

.    เสียงองค์มาตารานีดังลั่น
หน้าตำหนักรับรอง
.
.      เจ้าหญิงจันทรารีบต่างประทีป
เสด็จออกไปเปิดรับ
.
.        เห็นองค์มาตายืนพักตร์บูดบึ้ง
ด้านหลัง คือมเหสีอัปสราดาราราย และ
อนันตราช กับทหารวัง
.
.      " มีใครอยู่กับเจ้าในห้อง ? "
.
.      ทรงกรรโชกเสียงถาม แสดงถึง
อารมณ์พิโรธ
.
.    จันทรากินรีงุนงง-- 
.          เกิดอะไรหรือ ?
.
.         " อะไรเหรอเพคะ ?
.    หม่อมฉันก็อยู่กับพี่เลี้ยงสองคน
แต่ตอนนี้    โพระดกยังไม่กลับมาจาก
ข้างนอก เพคะ "
.
.      " นั่นไงเพคะ -องค์มาตา "
.   
. ดารารายได้ทีขี้แพะไหล เอ๊ย-ขี่แพะไล่
ทันที
.
.           " จันทรานัดชายชู้มาหา
.   ก็ไล่นังพี่เลี้ยงให้ออกจากตำหนัก
.            เก๋ไปอีก - เพคะ "
.
.         " ดาราราย ...
.  จะมากไปแล้วนะ! ใครคือชายชู้ !--
.       ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด  "
.
.    จันทรากินรีถามกลับเสียงกร้าว  ไม่
พอใจคำพูดพล่อยจากปากมเหสีสัญชาติ
ปลาไหลน้ำจืด
.
.     ทันใดนั้น เขมรัฐก็เดินออกมาจาก
ที่ซ่อน
.   ทำกิริยาเจื่อนๆ เหมือนคนถูกจับผิด
ได้คาหนังคาเขา
.
.        " เขมรัฐ !!
.              ตายล้าววว --
.   อะไรกันนี่ ? 

.            นี่เป็นเจ้าเองหรอกรึ ?
 ที่จันทรานัดให้เข้าหา  "
.
 .      ดารารายแสร้งตกตะลึง ร้องอุทาน
 ต่อว่าน้องชายตัวเอง
.
.      จันทราหันไปเห็นเขมรัฐ   ก็ตกใจ
แทบสิ้นสติ
.
.             " นี่เจ้า---
.   -- เจ้าเป็นใคร ?
.           เข้ามาในนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? "
.
.         "  จันทรา....
.      ไฉนมาพูดกับข้าเช่นนี้ "
.
.   เขมรัฐเดินหน้าตามแผนการ  เดินตรง
เข้าใกล้ชิดจันทรา
.
.    " - ก็เราอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว "
.
.         " ไม่จริง ! ..  "
.
.    องค์หญิงจันทราถอยหลัง ร้องตวาด
เสียงแข็ง
.
.       "  ข้าไม่รู้จักเจ้า !!  "
.
.  เขมรัฐแอบเห็นมเหสีดารารายพยักหน้า
ให้ตน เป็นการส่งซิกแนลให้เดินหมากต่อ         
.  เขมรัฐจึงคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคน ทูลว่า
.
.    " องค์อยู่หัวอนันตราช  และ องค์มาตา 
 รานี พะยะค่ะ - 
.    หม่อมฉัน เขมรัฐ - ต้องขอประทานอภัย
ที่บังอาจแอบลักลอบเข้าพบกับจันทรา
.      โดยปิดบังไม่ให้ผู้ใดรู้ เยี่ยงนี้ "
.
.  อนันตราชหลงเชื่อกลอุบาย ยกนิ้วชี้หน้า
จันทรารัวๆ  ตรัสบริภาษ อย่างกราดเกรี้ยว
.
.      "  เลวจริงๆ ! จันทรากินรี
.   นี่ถ้าข้าไม่เห็นกับตา ข้าคงไม่เชื่อ 
ว่าเจ้าหญิงสูงศักดิ์อย่างเจ้าจะกล้าทำ
เรื่องเลวๆ  สุดบัดสีในวังของข้าได้ถึง
ขนาดนี้  "
.
.       ดารารายแอบหลิ่วตาให้น้องชาย 
 แล้วแสร้งกล่าวแดกดันเขมรัฐว่า
.
 .       " มิน่าเล่า-- เขมรัฐ
.  เจ้าอุตส่าห์เดินทางจากนครดึกดำบรรพ์ 
มาเยี่ยมพี่
 .    มาแล้ว - แทนที่จะพักผ่อนที่ตำหนัก
กลับมาลอบสมสู่ เริงสวาท  กับชู้ของเจ้า
-ที่นี่ "
.
.         จันทรากินรีร่ำไห้  ร้องว่า 
.
.      " ไม่จริง -  ไม่จริง  !!! "
.
             ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
.           มันอะไรกัน ?
.  ทำไมทุกคนจึงรุมใส่ร้ายกันเช่นนี้  
.
.    " เสด็จพี่อนันตราช  และเสด็จมาตา 
เพคะ
.     ทรงโปรดเห็นใจเขาทั้งสองด้วยเถิด
ที่ได้ตกเป็นทาสอารณ์สวาท กระทำสิ่งที่
เป็นกาลกิณีแก่นครกัลปพฤกษ์ของเรา "
.
.    ดารารายแสร้งทูลขออภัยให้ ทำเป็น
สงสาร เห็นใจจันทรา
.
 .      เขมรัฐรีบกล่าวแก้ตัว   
.
.    " แต่หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้
เกิดขึ้นเลย พระเจ้าค่า 
.    องค์หญิงจันทราทรงให้นางพี่เลี้ยง
 มานัดหมายหม่อมฉันเอง...
.     บอกว่า ทรงเสน่หาในตัวหม่อมฉัน "
.   
.     จันทรากินรีได้ฟัง ยกหัตถ์ปิดพักตร์ 
สะอื้นไห้  ส่ายพักตร์ไปมา 
.    ทรงรันทดยิ่งนัก  เพราะสุดจะทนฟัง
คำใส่ร้ายที่กล่าวออกมาอย่างหน้าด้านๆ
.  ไร้ซึ่งความละอายแก่ใจ กันแบบนี้ 
.
.   องค์มาตาก็ทรงอินกับละครแหกเนตร
แหกตานี้  ร่วมชี้หน้า   ประนามเจ้าหญิง
กินรีอีกองค์  ด้วยทรงเชื่อสนิทในคำทูล
ของมเหสีอัปสราดาราราย
.
.        " เลวมาก -จันทรา !
.   เจ้ามาจากหิมพานต์ มาอยู่เมืองมนุษย์ 
ข้าก็ให้ความเมตตาเอ็นดู ยกย่องในศักดิ์
สกุลแห่งวงศ์วานกินรีกินราของเจ้าตลอด
มา
.      หากบัดนี้-  ข้าไม่อยากสัมผัสหญิง
หยั่วเมือง     ในลุคของเจ้าหญิงแสนซื่อ 
อย่างเจ้า อีกต่อไปแล้ว !! "
.  
.    ทรงสะอื้นฮักๆ ด้วยความเสียพระทัย
เมื่อรักมาก-ก็ย่อมเกลียดมาก
.      หันไปตรัสบอกพระโอรส
.
.          "  อนันตราช...
.   เรื่องนี้-แม่รับไม่ได้จริงๆ มันช่างน่า
อับอาย อัปยศสุดจะให้อภัย
.   เจ้าต้องจัดการกับนางจันทรา ตาม
มณเฑียรการปกครอง -ขั้นเด็ดขาด ! "
.
.   อัปสราดารารายได้ที รีบชิงทูลว่า
.
.           " ถ้าเช่นนั้น  
. ก็คือ ต้องจับนางเผาทั้งเป็นกลางเมือง  
ต่อหน้าประชาชน ในวันพรุ่งนี้เพคะ "
.
.      แล้วผายหัตถ์มาทางอนุชาของตน
ที่ประทับยืนคอตก
.
.  " สงสารก็แต่เขมรัฐ  อนุชาแสนซื่อของ
หม่อมฉันองค์นี้
.      มันจะไม่ยุติธรรมกับเขาเลย  ที่ไม่รู้
อิโหน่อิเหน่    มาถูกนางพี่เลี้ยงโพระดก
หลอกให้ลอบเข้าหาเจ้านายของตัว "
.
.    องค์มาตารานีที่ทรงเชื่อทุกคำพูดของ
มเหสีดาราราย หันไปทางเขมรัฐ
.  จ้องพักตร์เจ้าชายวัยรุ่นเขม็ง
.         ตรัสถามว่า
.
.  " เป็นเช่นนั้น จริงรึ-- เขมรัฐ ? "
.
.     " พระเจ้าค่ะ- เสด็จมาตารานี 
.   เป็นดั่งที่พระพี่นางอัปสราดาราราย
ตรัสทูลมา ทุกประการ - พระเจ้าข้า "
.
.   เขมรัฐแป๋งหน้าซื่อ  ถวายบังคมอย่าง
นอบน้อม   ยืนยันคำพูด
.
.        " ถ้าเช่นนั้น--
.   ข้าก็ถือว่า องค์ขะเม๋ไม่ผิด -ขอยกฟ้อง 
ไม่ต้องรับโทษ "
.
.         องค์มาตาสรุปดื้อๆ
.
.  " ส่วนคนผิด ก็คือนางจันทรากินรี -คนเดียว
เต็มๆ !!  "
.
.      จันทรากันแสงสะอื้น รู้สึกชาวูบไปทั้งองค์
ประทับยืนแทบไม่อยู่
.  ส่ายพักตร์ไปมา ร้องปฏิเสธด้วยเสียงแหบพร่า
.        แทบจับความไม่ได้
.
.         "  ฮือ ๆๆ
.    ไม่จริงนะเพคะ --
  .         พวกมันโกหกทุกอย่าง
     พวกมันใส่ร้ายหม่อมฉัน
.            --  ฮือ ๆ "
.
.         " เสด็จพี่เพคะ "
.
.     ดารารายแอบเป่าลมปาก ร่ายเสน่ห์
มนตร์ดำใส่หูเจ้าชายเบาๆ  ยกมือลูบไล้
อกอนันตราชไปมาอย่างโอ้โลม
.       ขณะทูลเสนอว่า
.
 "   ทรงโองการให้ทหารวัง จับนางไปเข้า
คอก ขังคุกไว้ก่อนในราตรีนี้ ซิเพคะ
.    แล้วพรุ่งนี้เช้า  ก็ให้ทหารวังพาตัวนาง 
ไปมัดกับเสาหลักประหาร ที่ลานกลางนคร
.     จากนั้น ให้จุดไฟกับฟืนท่อนใหญ่ๆ
เผาให้นางตายทั้งเป็น ต่อหน้าประชาชน
.   จะได้เป็นการล้างมลทินให้กับนคร
กัลปพฤกษ์ของเรา เพคะ "
.
.         " ทหาร- "
.   อนันตราชที่ต้องมนตร์เสน่ห์ ทรงมีพระ
อาการเหม่อลอย ตรัสสั่งทหารคล้ายท่องจำ 
ในทันที
.
.        "   - ทหาร
.     ทำตามที่พระมเหสีอัปสราดาราราย
ทรงแจกแจงให้ข้าฟัง เป็นฉากๆ
และวางสเต็ปมาให้ แบบละเอียดพิศดาร 
.          --เดี๋ยวนี้ !! "
.
.    ทหารวังที่ถือหอกทวนเป็นอาวุธหมู่หนึ่ง 
รีบตรงเข้าช่วยกันจับกุมเจ้าหญิงจันทรากินรี 
.    เอาเชือกเส้นใหญ่มัดมือ รวบผูกไว้ด้าน
หลัง  ทำให้เจ้าหญิงทรงสิ้นอิสรภาพ เสมือน
ดั่งเป็นจำเลย
.
.      เพียงได้ยินโองการสั่งทหาร จาก
อนันตราช
.    จันทรากินรีก็ทรงเสียพระทัยสุดๆ
นางจ้องมองพระองค์อย่างไม่เข้าใจ
ว่านางไปทำอะไรให้ ธ เธอเคืองขุ่น

.      มาปรักปรำ เหมือนเป็นจำเลยแบบ
หัวซุกหัวซุน
.      นี่หรือพ่อนักบุญ ?
.             --- แท้จริง ธ คือคนป่า !!!
.
.        หึ ! -- ไม่ขอคุกเข่าเฝ้าง้องอน  
แม้ใจจะขาดรอน   ขอตายดีกว่า
.       ไม่ขอร้องใครให้กรุณา ไม่ขอเศร้า
โศกา 
.       หรือบีบน้ำตา อ้อนวอนใครๆ
..    เชฺิญ ธ ลงทัณฑ์ บัญชา  จนสมอุรา
จนสาแก่ใจ ---

.      จันทรากินรียอมพ่ายแพ้แก่ชะตากรรม
นางหลับตา หมดสิ้นเรี่ยวแรง  
.   ทรุดองค์ทอดลงกับพื้นห้องของตำหนัก
รับรอง  สิ้นสติในบัดนั้น
.
.           *  *  *  *  *  *  *  *
.
.        ที่ข้างเล้าไก่ ปลายนา
. นางเหยี่ยนตายสนิท กลายเป็นซากปลาไหล
ตายโหงตั้งแต่หัวค่ำ
.       ปล่อยให้อัปสราดารารายหลงเข้าใจว่า
นังบ่าวได้ทำการเซ่นไหว้ เชือดไก่ บูชายัญ
ให้ตนเหมือนวันก่อนๆ
.   แล้วออกไปไถล ไม่กลับมานอนที่ตำหนัก
.
.  .    ส่วนนางพี่เลี้ยงโพระดกก็ยังถูกมัดมือ
ไพล่หลังติดกับต้นไม้   นางพยายามดิ้น
ให้ปมที่มัดหลุดออก แต่ก็เปล่าประโยชน์  
.    จนสุดท้ายก็ปลงตก ยอมแพ้ ปล่อยเลย
ตามเลย นั่งพิงต้นไม้ และหลับไปด้วยความ
อ่อนเพลีย
.
.          พอตีสี่กว่าๆ --
.  ใกล้เวลารุ่งอรุณของวันใหม่

.
.    บรรดาไก่ในเล้า ก็พากันร้องขัน แข่งกัน
โชว์ลูกคอสิบชั้น ราวกับเตรียมตัวจะไปออก
รายการ  I can see your voice
.
.          เสียงดังลั่น-
.
. " ก็อก ๆ ๆ ๆ  ----
.           อยู่ไป - ก็รกโลก!!
.
.      ก็อก ๆ ๆ ๆ ----
.              อยู่ไป - ก็รกโลก !! "
.
.      โพระดกลืมตาตื่นขึ้น งงกับสภาพ
ตัวเองเล็กน้อย  ถึงจะยังง่วงๆ  แต่นาง
ก็หลับตานอนต่อไม่ไหว เพราะมีน้ำค้าง
หยดใหญ่สองสามหยด คอยร่วงใส่หัว
.       แหมะ-  แหมะ-
.
.       รอบกาย ยังมืดๆ อยู่เลย
.แต่นางก็ยังพอมองเห็นนกฮููกใหญ่
ตัวหนึ่ง
.  มันกำลังยืนอยู่บนพื้นดินตรงหน้า 
จ้องมองเขม็งมาที่นาง 
.
        แล้วมันก็ทำตาโต เลิ่กลั่ก
เอียงคอ  ขยับหงอนหู ยุกๆ ยิกๆ 
ไปมา  เหมือนอาการไม่แน่ใจ
.
.     และแล้ว มันก็ร้องถามว่า
.
.   " ท่านเป็นมนุษย์ หรือนกกันแน่ ?
.               เหตุใด-
  ข้าถึงรูู้สึกว่าท่าน -- โหน๊ก-นก ? "
.
.   โพระดกได้ฟัง ดีใจมาก รีบบอก
นกฮูก
.
.     " ท่านนกฮูก -
.             -ข้าคือกินรี "
.
.         " นั่นไง-- "
.
.         นกฮูกอุทาน
.
.     " ก็ถึงบอก - ว่า โหน๊ก-นก "

.        นกฮูกรีบว่าต่อ
.  "  แล้วนี่ทำไม กินรีอย่างท่านต้องมา
อยู่ในสภาพเยี่ยงนี้
.       เล่ามา -ให้ข้ารูู้ "
.
.   นางพี่เลี้ยงจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้นกฮูก
ฟังอย่างละเอียด
.    ตั้งแต่-ที่ต้องเปิดประตูป่าหิมพานต์ เพื่อ
ดั้นด้นตามล่าตัวเจ้าชายอนันตราชถึงยังเขต
เมืองมนุษย์
.   แล้วต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายๆ ต่างๆ 
จนมีสภาพเป็นเช่นที่เห็น
.
 .     นกฮูกฟังแล้วจิตตก  ให้รู้สึกสงสาร
เจ้าหญิงจันทรากินรียิ่งนัก
.
.       " อนิจจา--
.   ป่านนี้เจ้าหญิงกินรี วงศ์วิหคของพวกเรา 
จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ "
.
.    นกฮูกเอาปีกทั้งสองไพล่หลัง  เดินจุ๋งๆ  
วนรอบตัวโพระดก ดูเชือกที่มัดตัวนางแล้ว
บ่นพึมพำ
.    
.         "  เฮ่ย --
.    เชือกเส้นนี้ มันก็เส้นใหญ่ซะเหลือเกิน
 .ข้าเองเพิ่งบินกลับมาจากเกาหลี  ก็ไปทำ
ศัลยกรรมติดเหล็กจัดรูปปากมาใหม่  --นี่ก็
ยังตึงๆ ปากอยู่เลย
.    คงช่วยจิกให้มันคลายออกไม่ได้ "
.
.        พลัน--มันนึกอะไรได้
.
.     "  แต่ท่านอย่าวิตก  รอแผ๊บ --
.   ข้าจะรีบไปจับหนูนา  แล้วบังคับให้มัน
ช่วยกัดมัดเชือกนี้ให้ท่าน เพื่อแลกกับชีวิต
เซอร์ไวเวอร์-survivor รอดตายของมัน "
.
.  " ช่างเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม  
.         - ขอบคุณท่านมาก "
.
.       โพระดกกล่าวชมด้วยความทึ่ง
.แล้วกล่าวออดอ้อนนกฮูกด้วยใจร้อนรุ่ม
.
.       "  ท่านนกฮูกเจ้าขา --
.    โปรดช่วยแก้มัดให้ข้าเร็วๆ ด้วยเถิด    
ข้าเป็นห่วงองค์หญิงจันทราเหลือเกิน "
.
.          นกฮูกพยักคอหยึกๆ  
.    รีบโผบิน ลับหายไปโดยไว
.
.     *    *   *  *   *   *  *   *   *   *   

        อึดใจเดียวก็บินกลับมา 
.  คาบหนูนาตัวใหญ่มาตัวหนึ่ง
.    ยังดิ้นกระแด่ว ๆ คาปาก

.
.    มันอ้าปากวางหนูนาลงกับพื้น จ้องเขม็ง
ด้วยดวงตาที่กลมโต 
.     และรีบออกคำสั่ง เสียงห้าวเข้ม
.
.  " เจ้ารีบไปจัดการกัดปมเชือกที่มัดนางไว้
ให้ขาด ให้ว่อง-
.        มิฉะนั้น- ข้าจะกินเจ้าเป็นอาหารเช้า
แทนซีเรียล "
.
 .     เจ้าหนูนาตัวนั้นฟังแล้ว -ตาเหลือก
รีบตรงไปที่นางโพระดก ไต่ปร๊าดไปหลังตัวนาง 
.   แล้วลงมือใช้ปากกัดปมเชือกให้ -- รัวเร็ว
แบบนันสต็อป เป็นหนูถีบจักร

.        จิ๊ก-จิ๊ก-จิ๊ก -จิ๊ก-จิ๊ก
.            ---   จิ๊ก-จิ๊ก-จิ๊ก-จิ๊ก
.
.    ประเดี๋ยวเดียว เชือกเส้นใหญ่นั้นก็ขาดรุ่งริ่ง 
หลุดออกจากมือ
 .    --- โพระดกเป็นอิสระ 
.
.      นกฮูกถอนหายใจเฮือก พูดกับหนูนา
ว่า
.
.       " เอาละ--
.             ข้าจะนับ 1 ถึง 3
.  เจ้าจงรีบหนีไปให้พ้นสายตาข้าโดยไว
.     ไม่งั้น- เกมชีวิตเจ้ากับข้า ก็จะเริ่มต้น
ออนไลน์ใหม่ กันอีกรอบ  "
.
             " 1- "

.      ยังไม่ทันจะนับต่อ  หนููนาตัวนั้นก็พุ่งจู๊ด
สุดชีวิต.-
.   สวบ ! -เข้าพงหญ้า หายลับไปในบัดดล
.
.      นกฮูกมึน--มองตาม  แล้วค้อนให้อย่าง
หมั่นไส้ที่หนูนาลักไก่กติกา
.
.            นึกด่าในใจ
.
.          ไอ้อ่า-เอ๊ย--
.  ข้ายังไม่ทันได้นับ  2 ถึง 3 เล้ย
เผ่นซะแระ
.        -- เสียดาย 
-นี่หากไม่ติดว่า ต้องติดคุยกับ
นางกินรีต่อ   -เอ็งเสร็จข้าแน่
.
.     " ข้าต้องขอขอบคุณท่านนกฮูกเป็น
อย่างสูง ที่ช่วยชีวิตข้าไว้  และถือว่าท่าน
ได้ช่วยองค์หญิงจันทรากินรีด้วย
.    พระคุณของท่านครั้งนี้ ข้าและเหล่า
กินรา กินรี  จะไม่มีวันลืมเจ้าค่ะ "
.    
.    โพระดกก้มลงกราบนกฮูกกับพื้นดิน 
อย่างสำนึกในบุญคุณ

.   " ไม่เป็นไร--ไม่เป็นไร แม่นางโพระดก 
เราต่างก็เป็นวงศ์วานวิหค -นกน่ารักด้วยกัน
.    ยังไงซะ  พวกเราก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว   
มีอะไรก็ต้องช่วยกันดิ-- เนาะ  "
.
.         นกฮูกกะพริบตา ยิบๆ
.  เมื่อเริ่มมีแสงอาทิตย์อ่อนๆ เริ่มส่องมา
แยงตาของมัน
.
.           " โอ -
.   นี่ก็ อรุณจะรุ่งแล้ว   สายตาข้าเริ่มไม่ค่อยสู้
กับแสงแระ--
.   คอนแท็คเลนส์บิ๊กอายจากเกาหลี คู่ที่ข้าใส่
มาวันนี้ก็กันแสงไม่ค่อยอยู่ซะด้วยสิ
.   งั้น- ข้าต้องขอลาก่อนนะ ขอให้ท่านโชคดี
-และรีบไปช่วยองค์หญิงกินรีเดี๋ยวนี้เลยนะท่าน "
.
.     ว่าแล้ว  นกฮูกก็กระพือปีก โผขึ้น และบิน
จากไป    พร้อมกับโชว์เสียงฮัมเพลงฮิต จาก 
"เพชรตัดเพชร " แบบอารมณ์ดี  
.   ในแนวเพลงเชียร์กีฬาสี- คัลเล่อร์เกมส์
.
.     " นกกับนก-
.                บวกนก เป็นนก
.           ชัด-ชัด -ช่า  "

.
.      *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.      ฟ้าเริ่มทอแสงยามเช้า
.   โพระดกรีบวิ่งฝ่าทุ่งหญ้า  ลัดเลาะ 
กลับไปยังตำหนักรับรอง
.
.      ประตูตำหนักถูกงับไว้เฉยๆ นางจึงรีบ
ผลักเข้าไป  ก็พบกับความว่างเปล่า
.
.    คำเล่าเย้ยหยันของนางเหยี่ยนที่กรอกหู
เมื่อค่ำวานยังก้องในความทรงจำ
.
    "  โทษของนางครั้งนี้ ก็คือ
. จับเผาไฟทั้งเป็น!!
 .          เพื่อขับไล่การกระทำ
อันเป็นเสนียดจัญไรแก่นครกัลปพฤกษ์  !! "
.

.     ยังมิทันที่โพระดกจะคิดอื่นใดได้
นางก็ได้ยินเสียงผู้คนจำนวนมากเดิน
ออกมาตามถนน เสียงคุยกันดังเซ็งแซ่
.
.    นางรีบฉวยผ้าคลุมมาคลุมผม และรวบ
ปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง แล้วรีบออกจากตำหนัก 
แฝงกายแทรกปะปนไปกับฝูงชน
.
.    " เขาจับนางกินรีขังคุกตั้งแต่เมื่อคืน
แล้วนำตัวไปที่หลักประหารตั้งแต่ตีห้า "
.
.         เงี่ยฟังที่เขาคุยกัน 
 โพระดกพอจะจับความได้อย่างนี้
.
.     " ตกลงจะเผานางทั้งเป็นหรือ
 น่าสงสารออก - "
.
.      " แต่ก็สมควรแล้ว-
   นางนัดให้ชู้เข้าหาถึงตำหนักชั้นใน "
.
.     " ใครกัน ชู้รักของนาง ? "
.
        " ก็องค์เขมรัฐ ไง-
  องค์เม๋ -น้องชายของมเหสีดารารายน่ะ "
.
.   กำลังจะเดินตามกลุ่มผู้คนไปที่ลานประหาร
นางพี่เลี้ยงก็นึกอะไรได้
.    หันหลังทำท่าจะวิ่งกลับ  แต่กลัวชาวบ้าน
จะสงสัยอาการลุกลี้ลุกลนของตน  จึงฝืนเดิน
กลับไปตำหนักอีกครั้งอย่างปกติ
.       เมื่อถึงแล้ว   โพระดกก็รีบเปิดดูใต้กลุ่ม
หมอนหลายใบที่วางปกปิดสิ่งนั้นไว้อย่างมิดชิด 
ตลอดมา
.
.           โล่งใจ--
.   ที่ปีก และหาง ของเจ้าหญิงจันทรากินรี
และของนางเอง ยังอยู่ครบถ้วน !

.
.
.        *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.      ผู้คนทั้งเมืองกัลปพฤกษ์
ต่างอุ้มลูกจูงหลาน พากันออกจาก
อาคารบ้านเรือน มาชุมนุมกันที่ลาน
ประหาร

.      
.     ปากต่อปาก บอกเล่าแก่กันและกัน
ข่าวที่จะมีการเผาเจ้าหญิงกินรีทั้งเป็นจึง
กระจายไปอย่างรวดเร็ว ปานไฟลามทุ่ง
.
.   เพียงแค่เวลายามสายของวัน จำนวน
ผู้คนก็เพิ่มขึ้นมากมาย จนล้นหลาม
.   ต่างยืนเบียดเสียด ล้อมรอบกองฟืน
กองใหญ่กลางลาน 
.      ที่มีเสาหลักตั้งสูงโด่อยู่ตรงกลาง  
และมีร่างของเจ้าหญิงจันทรากินรีถูกมัด
มือไพล่หลังให้ยืนพิงเสาไว้ รอการถูกเผา
บูชายัญ
.
.      ทหารที่ยืนเรียงรายรอบกองฟืน
ถือคบไฟที่จุดไฟไว้แล้วในมือคนละอัน
.     --   รอเพียงคำสั่ง
.
.   อนันตราชประทับที่เก้าอี้ เคียงข้าง
ด้วยมเหสีอัปสราดารารายด้านซ้าย
 .   ส่วนด้านขวา คือองค์มาตารานี-
พระมารดา
.    และผู้ที่นั่งถัดต่อจากดาราราย คือ
เจ้าชายเขมรัฐ
.
.       " อีเหยี่ยนหายหัวไปไหน ...
    ไยจึงไม่มาให้เห็นหน้า
.          ตั้งแต่ค่ำวานนี้แล้ว "
.
.     อัปสราดารารายที่หลงคิดแต่แรก
ว่านางเหยี่ยนได้จับไก่มาฆ่าบูชายัญให้นาง
อย่างเรียบร้อยแล้ว-เมื่อคืน แล้วมันคงออก
ไปเที่ยวเตร่ เร่ร่อน เรื่อยเปื่อย ตามประสา
นังไพร่ผู้สาวขาเลาะ
.   แต่ครั้นเช้ามา  มันไม่โผล่หัวโผล่หน้า
มาให้เห็นเลยแบบนี้   ดูท่าทางจะผิดปกติ
เสียแล้ว
.
.      ดารารายรู้สึกกังวล และสังหรณ์ใจ
ว่า จะต้องมีอะไรร้ายๆ เกิดกับนังเหยี่ยน
แน่ๆ

.
      *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
  อนันตราชยืนขึ้นประกาศ
.
.         " เจ้าหญิงจันทรากินรี--
.   เจ้าได้กระทำผิด  เป็นกาลีบ้านกาลีเมือง
แก่นครกัลปพฤกษ์   โดยเจ้าหลอกล่อให้
เจ้าชายเขมรัตน์เข้าหาถึงพระตำหนักชั้นใน "
.
.        ประชาชนฟังปุ๊บ ก็โห่ร้อง 
.  ก่นด่า สาปแช่งเจ้าหญิงด้วยถ้อยคำต่างๆ 
ทันที
.   สไตล์หมาหมู่ ได้ทีขี่แพะไล่ ขี้แพะไหล
จู๊ดด-
.
.    " โทษของเจ้า คือการถูกบูชายัญ
 เผาให้ตายทั้งเป็น
.     เจ้ายอมรับในสิ่งที่ข้าประกาศมานี้
 ทุกประการ -- ใช่หรือไม่ ?
.
.            อนึ่ง ตามกฎประหาร 
.   เจ้าก็มีสิทธิ์ที่จะกล่าวแก้ตัวต่อหน้า
ประชาชนเป็นครั้งสุดท้ายได้
.       เจ้าจะใช้สิทธิ์นั้นหรือไม่ ?  "
.
.       จันทรากินรีบอกตัวเองให้เข้มแข็ง
 นางประกาศแย้งเสียงดัง
.
.         " ข้าขอใช้สิทธิ์นั้น 
.      ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกๆ เรื่อง
เพราะข้าบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำผิดใดๆ
.     ข้าก็จะขอชี้แจงให้ประขาชนได้ทราบ
ความจริง   แม้ข้าจะต้องถูกบูชายัญ  "
.
.   อนันตราชถอยกลับมาประทับนั่ง
.
.
          ดารารายตกใจมาก !!!
. นางไม่รู้กฎข้อนี้มาก่อน
.     ตายละ - มีการอุทธรณ์ได้ด้วย
เหรอนี่ ?

.
.      จึงรีบทูลเจ้าชายอนันตราชว่า
.
.     " อย่าทรงเสียเวลากับคำแก้ตัว
 น้ำขุ่นๆ ของนางจันทราเลยเพคะ
 .     ทรงรีบโองการ ให้ทหารจุดไฟ
เผานาง บัดนี้เสียเถิด  "
.
.    องค์มาตารานีที่ประทับนั่งติดกันกับ
กษัตริย์อนันตราช  พอได้ยินดารารายทูล
มาเช่นนั้น  ทรงฉุนกึก  
.  หันพระพักตร์ขวับ มาที่อัปสราดาราราย
ทันที ตวาดห้ามดารารายด้วยเสียงอันดัง
.
.       " หยุดเดี๋ยวนี้นะ ดาราราย !
.   นี่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบ้านเมือง
อนันตราชเป็นกษัตริย์ ต้องทรงปฏิบัติตาม
ขั้นตอนของระเบียบนั้น
 .  เจ้าเป็นเพียงแค่มเหสี อย่าริเสนออะไร
ที่ขัดต่อมณเฑียรปกครอง
.         - ข้าไม่เห็นด้วย ! "
.
.      ดารารายตกใจจนหน้าซีด
.       รีบยกมือไหว้มาตารานี
.
.        " เพคะองค์มาตา
.    หม่อมฉันขออภัยเพคะ -- "
.
.      อนันตราชออกไปยืนประกาศ
อีกครั้ง
.
.        " ประชาชนทั้งหลาย 
 . ขอให้ทุกท่านจงเงียบ และฟังคำชี้แจง
ของเจ้าหญิงจันทรากินรี   ที่นางจะกล่าว-
บอกต่อพวกเรา เป็นครั้งสุดท้าย "
.
.      ทุกคนเงียบ -   แทบจะไม่หายใจ
รอฟังเจ้าหญิงจันทรากินรีพูด
. เงียบ-จนคิดว่า แม้เจ้าหญิงจะกระซิบ
เล่า ทุกคนก็คงจะได้ยิน 
.       -ประมาณนั้น
.
.   หากจันทราก็ตรัสด้วยเสียงดังฟังชัด

.   " ข้ากำลังจะบอกทุกคนว่า
.    มเหสีอัปสราดารารายไม่พอใจ 
ที่ข้าจะมาเป็นมเหสีอีกองค์ของที่นี่ - "
 .
.     มีเสียงพูด  " นั่นไง-- กรู ว่าแล้ว "
ดังเบาๆ มาจากฝูงชน
.
.    "   มเหสีดาราราย จึงทำเสน่ห์
. จากวิญญาณผีวัวป่า
.        ---  ใส่องค์อนันตราช ! "
.
.   มีเสียงฮือ- จากเหล่าประชาชนดังขึ้น
ทันที
.
.    องค์มาตารานี และอนันตราชสะดุ้ง
เฮือก
 .   อัปสราดารารายเลิ่กลั่ก หันไปมอง
หน้าน้องชาย
.
.        จันทรากินรีตรัสต่อ
.
.  " ในตัวมเหสีอัปสราดาราราย ขณะนี้  
มีวิญญาณของปีศาจวัวบ้าสิงอยู่
 .   และข้าถูกนางใส่ร้าย    โดยนางให้
เจ้าชายเขมรัฐ -น้องชายของนาง แปลง
กายเป็นหนอนไม้ไผ่ ห่อไว้ในใบตอง
.    ให้ทหารวังเอาห่อใบตองมามอบให้
นางพี่เลี้ยงของข้า นำเข้าไว้ในตำหนัก "
.
.        " อะไรกันนี่--เป็นเช่นนั้นไหม-  
.  ห็า ดาราราย ? "
.
.  อนันตราชรู้สึกเหมือนตนเองจะเห็นด้วย
กับคำบอกเล่าของจันทรากินรี
.
.    ที่เป็นเช่นนี้  เพราะมนตร์ดำแห่งยา
เสน่ห์หมอผีกรั๊วะกำลังเริ่มเสื่อมนั่นเอง
.     วิญญาณผีวัวป่ากำลังอดอยาก
มันไม่ได้รับการบูชายัญด้วยเลือด และ
เครื่องในไก่  ตั้งแต่เมื่อคืนวานที่ผ่านมา
.
.       " เอ่อ ---
.                เอ่อ - "
.
.    ด้วยความตกใจกลัว- ทำให้แทนที่อัปสรา
ดารารายจะรีบปฏิเสธ นางกลับลนลาน สับสน
กระอึกกระอัก  อู้บะถอบ ตอบบะถูก 
.   -พูดไม่ออก ตอบอะไรไม่ได้
.
.            " อุ๊ย --
.     ข้าก็พอนึกออกแล้ว "
.
.      มาตารานีตรัสอุทานขี้นมา
.
.            " ใช่ ๆ --
.   ตอนที่ดารารายนำข้าเข้าไปตรวจค้น
ในห้องบรรทมของจันทรา 
.  ตอนเดินผ่านโต๊ะในครัว ข้าก็เห็นห่อ
ใบตองห่อนั้นเหมือนกันนะ 
.   มันจะต้องเป็นร่างแปลงของเจ้าแน่ๆ
- เขมรัฐ ! "
.
.   เขมรัฐสะดุ้งสุดตัว อ้าโอษฐ์ค้าง  พักตร์
ซีดเผือด
.
.     องค์มาตาจึงตรัสตะคอกสำทับ
.
.      " อ่าว-- 
.                 อึ้ง- ซี อึ้ง !
.   แก้ตัวไม่ออกเลยสิ --ใช่มั้ย ?? "
.
.   เขมรัฐรีบกล่าวปฏิเสธ  แต่น้ำเสียงที่
ฟังแหบพร่า กลับส่อถึงพิรุธ
.
.      "  หม่อมฉัน---
.              หม่อมฉันไม่รู้เรื่อง--  " 
.
.    และหันไปร้องขอความช่วยเหลือจาก
มเหสีดารารายผู้พี่สาว เสียงสั่นด้วยความ
เกรงกลัวอาญา
.
.     " เจ้าพี่ดาราราย --- 
.           --ช่วยน้องด้วยเจ้าค่ะ  - " 
.
.   ดารารายถึงตาจน  ทุกอย่างรุมกดดัน
นางจนไปต่อไม่ถูก 
. ตอนนี้ ทุกคนรู้เบื้องหลังดราม่ายาเสน่ห์
กันหมดแล้ว
.      --ทำยังไงดี ?
.
.    นางจึงตัดสินใจเด็ดขาด  เป็นไงเป็นกัน   
.  ลุกขึ้นจากที่ประทับ เดินดุ่มๆไปหาเหล่า
ทหารที่ยืนเรียงรายรอบกองฟืน
.   
.       มเหสีตะโกนสั่งทหารทันที
.  นางไม่คำนึงแล้ว ว่าการกระทำเช่นนี้
จะเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจกษัตริย์
ขององค์อนันตราช    ผู้ที่ประทับนั่งอยู่
เบื้องหลังนางแท้ๆ
.
.          " ทหาร !  --
.  จุดไฟเผานางจันทรา-- เดี๋ยวนี้ !!  "
.
.    ทหารทุกคนยังชะงัก  เพราะคำสั่งไม่ใช่
โองการจากอนันตราชโดยตรง
.
.        " ยังไม่ทำอีกรึ ? --
.      หรือว่า พวกเจ้าทุกคนอยากหัวกุด 
หลุดขาดออกจากบ่า 
.           --  ใช่มั้ย  ???  
.
.   ดารารายคับแค้นใจยิ่งนักที่ทหารไม่
ยอมทำตามคำสั่งของนาง
.     กระทืบบาทกับพื้นด้วยความโมโห 
ชี้นิ้วไปที่จันทรากินรี ที่ถูกมัดไว้กับเสา
หลักประหารบนกองฟืนมหึมา  
.
.  " ข้าบอกให้จุดไฟ 
.           -- เผานางกินรี  
.   เดี๋ยวเน้ --เน้-เน้-เน้-เน้ -เน้-เน้ ! !  "
.

.  เสียงตะเบ็งสั่งของมเหสีอัปสราดาราราย
ดังลั่น  สะท้อนสะท้านไปทั้งลานประหาร  
.   ฟังน่ากลัวยิ่งนัก เพราะเสียงมันแตกพร่า 
ราวกับนางเองกำลังสติแตกเป็นเสี่ยงๆ
.
.    เหล่าพลทหารสยอง กลัวเสียงนาง
จนตัวสั่น  รีบเอาคบไฟช่วยกันจ่อ จุดไฟ
ที่กองฟืน ตามคำสั่งของนาง
.
.  อนันตราชตกตะลึง เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ต่อพระพักตร์เต็มพระเนตร

.   ทรงกริ้วจนพักตร์แดงก่ำ ขบพระทนต์แน่น 
รีบลุกขึ้น เดินองค์ตรง ลิ่วไปที่อัปสราดาราราย
อย่างรวดเร็ว 
.     พอถึงองค์  ก็กระชากไหล่นางให้หันกลับ
อย่างสุดแรง
.  อัปสราตกพระทัยยิ่งนัก แรงกระชากทำให้
นางซวนเซ    และล้มลงกับพื้นต่อหน้าเหล่า
ประชาชน
.
.       อนันตราชทรงชี้หน้านาง ตวาดใส่ 
ด้วยสุรเสียงสุดพิโรธ
.
.         "   ดาราราย --
. นี่เจ้ากล้าอวดดีอย่างไร -ห๊ะ ?
.ไยจึงเป็นคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
.      ช่างโอหัง จองหองผยองตน
กระทำตัวตีเสมอกษัตริย์เช่นข้า
.   นี่คงบรรลุแก่ความมักใหญ่ใฝ่สูง 
แล้วซินะ  ถึงได้บังอาจกล้ามาโองการ
แทนข้า 
.       ต่อหน้าข้า ! -- เยี่ยงนี้ ! "
.

.         อัปสราดารารายสั่นผวา  
.  นางรู้ทันทีว่า ตอนนี้มนตร์เซรั่มยาเสน่ห์
ของหมอผีกรั๊วะแห่งโตนสะเรียม ได้เสื่อม
เวท คลายฤทธิ์ --หมดสิ้นแล้ว !
.
.       *  *  *  *  *  *  *  *

           อนันตราชยืนตะลึง 
.   มองดูกองไฟจากฝีมือสั่งเผาของ
ดารารายที่ลุกฮือ
.     ไฟนั้น- จุดปุ๊บ ติดปั๊บ เพราะฟืน
ถูกอาบน้ำมันยางไม้ไว้ล่วงหน้า แล้ว
ลามไปติดท่อนฟืนใหญ่ทั้งกองอย่าง
รวดเร็ว น่าสะพรึงกลัว
.
.       ทรงห้ามตอนนี้ ก็ไม่ทันเสียแล้ว
ด้วยเชื้อน้ำมันของต้นยางนาที่สุมไว้โดย
รอบนั้น ทำให้กองไฟโหมกระหน่ำสูงขึ้น
-สูงขึ้น
.
.    จันทรากินรีที่ถูกมัดยืนติดกับเสา
หลักประหารเริ่มดิ้นรน สำลักควัน
.   น้ำเนตรองค์หญิงไหลพรากๆ ด้วย
ความหวาดหวั่น    เปลวไฟที่ลุกโชน 
กำลังจะลามมาถึงตัวของนางในไม่ช้า
นี้แล้ว--
.
.    ทรงนึกถึงท้าวเทพปักษาผู้บิดา และ
สุริยันกินราผู้เชษฐา  
.  เจ้าหญิงร่ำไห้ ร้องคร่ำครวญ เรียกหา
พระบิดา และพระเชษฐา 

.    "   เสด็จพ่อเทพปักษา !  เสด็จพี่
สุริยัน !
.        โปรดช่วยหญิงด้วย
.    หญิงกำลังจะถูกเผาไฟบูชายัญ
หญิงกำลังจะต้องตายแล้วเพคะ- "
.
.       *   *  *  *   *  *  *  *
.
. " องค์หญิงงงงงงง
.        --  รีบร่ายมนตร์กินรี
.    --เร็ว-เพคะ !  "

.
.     มีเสียงนี้ ร้องตะโกนก้อง ดังแทรก
ออกมาท่ามกลางกลุ่มฝูงชน
.
.           -ทันใดนั้น
.  ก็ปรากฏร่างของกินรีโพระดก มีปีกมีหาง 
โผบินขึ้นกลางอากาศ ออกมาจากที่ตรงนั้น
.
.       นางกระพือปีกขึ้นสู่ท้องฟ้า
. แล้วบินตรงมาหาจันทรากินรี ที่กำลัง
จะถูกกองไฟเริ่มตีวงรุมสุม
.
.   นางพี่เลี้ยงโพระดกตะโกนร้องสั่ง
องค์หญิงน้อยของตน ด้วยเสียงอันดัง
.
.   " ร่ายมนตร์กินรีเดี๋ยวนี้เพคะ 
- องค์หญิง !! "

.
.
       *  *  *  *  *  *  *  *
.
.    จันทรากินรีได้ยินเสียงสั่ง
ของนางพี่เลี้ยง
.   ก็ทรงตั้งสติ รีบหลับตานิ่ง  เรียก
สมาธิ  ร่ายมนตร์กินรีเป็นภาษาเทพ 
ซ้ำๆ
.
.
.   " โอม ศิวา ปาจเร เมฆา เมฆา
 โอม ศิวา ปาจเร เมฆา เมฆา
    โอม ศิวา ปาจเร เมฆา เมฆา "
.

( ความหมาย )
.
.  " โอม-ศิวะ จงบันดาล ม่านหมอกควัน
.  อย่างเร็วพลัน ให้ขาวมัว ไปทั่วถิ่น
.  ควันจงปก -คลุมอย่างหนา บังกายิน
.   กินรี จะโผผิน บินหนีภัย "
.

.  โอม ศิวา ปาจเร
.            เมฆา เมฆา
.       โอม ศิวา ปาจเร  
.               เมฆา เมฆา
.      โอม ศิวา ปาจเร
.            เมฆา-
.     - เมฆาาาาาาาา  "

.
 .    ก็บังเกิดกลุ่มควันหนาทึบ
พวยพุุ่งออกมา รอบๆ บริเวณนั้น
ในบัดดล ทันทีทันใด

.  ราวกับมีใครมาชุมนุมเผาไร่ เผาหญ้า
สดๆหน้าหนาว  เพื่อเตรียมดินรอหาเห็ด
ถอบ และยอดผักหวานป่า
.   - พร้อมๆ กัน ร่วมร้อยไร่
.             
.   ผู้คนทั้งบริเวณลานประหารพากันตก
ตะลึงในอานุภาพของเวทมนตร์กินรี
.  ทุกคนรู้ว่า สองกินรีกำลังจะบินหนีจาก
หลักประหาร แต่หมอกควันก็แผ่บังสายตา
หนาทึบจนมองกันไม่เห็น 
.   ต่างร้องเรียกหาญาติสหาย คนที่มา
ด้วยกัน  ที่ตอนนี้เหมือนกำลังพลัดหลง
กัน เซ็งแซ่
.    แต่ควันเวทก็ยิ่งก่อตัวหนาขึ้น  -หนา
ขึ้น ทุกขณะ 
.     จนไม่สามารถมองอะไรเห็นได้เลย
.
. โพระดกรีบแก้มัดให้เจ้าหญิงจันทรา
อย่างรวดเร็ว  จากนั้นก็ส่งปีก และหาง
ให้ทรงสวมใส่

.
.      ซึ่งปีก และหางกินรี พอได้มาอยู่ตรง
ตำแหน่งเดิมของร่างกาย ก็สามารถขยาย
ตัว  และสมานตัวเองกับร่างกายในฉับพลัน
.    กลายเป็นกินรีที่มีปีก และหางสมบูรณ์ 
โดยอัตโนมัติ        
.
.           และแล้ว ---
.   สองกินรี ก็กระพือปีกขึ้นลงสุดแรงเกิด
.        เทค ออฟ - take off
.    พาร่างโผขึ้น ทยานบินสู่ท้องฟ้า  
. แหวกผ่านอากาศไป อย่างสวยๆ
.
.
.        ช่วงนี้เอง-
หมอกควันจากเวท  ก็ค่อยๆ จางลง
.
.   ทำให้ผู้คนชี้กันให้ดูบนท้องฟ้า ที่กลุ่ม
เมฆสูง กลุ่มหนึ่ง 

.       " โน่นไง -โน่นไง
. เจ้าหญิงกินรี กับนางพี่เลี้ยง
.       บินหนีไปโน่นแล้ว "
.
.    " เฮ้ย -- ถ่ายคลิป ๆ 
.             เอาลงยูทูบ "
.
.    ชาวยูทูบเบอร์ - YouTuber  แห่งนคร
กัลปพฤกษ์ที่อยู่กันตรงนั้น รีบบอกต่อๆ กัน
.
.
.      *  *  *  *  *  *  *  *
.
.     อนันตราชวิ่งตามจันทรากินรีและ
พี่เลี้ยง
.    ร้องเรียกให้ทั้งสองบินกลับมา

.
.           ทรงได้สติแล้ว
 .   กลับมาเป็นเจ้าชายอนันตราชคนเดิม
 ที่รักเจ้าหญิงจันทรากินรีหมดฤทัย ด้วย
หัวใจเพียว ๆ
.
.       "  จันทรา--- จันทรากินรี 
.        โปรดกลับมาหาข้า....
.            -ข้าผิดไปแล้ว  "
.
.         ทรงวิ่งตามออกไปยังกลางลาน
ประหาร และโบกพระหัตถ์เรียก 
.      -- แต่ไร้ผล
.    ในที่สุด อนันตราชก็หยุดวิ่ง  ได้แต่ยืน
สะอื้นฮักๆ เมื่อเห็นสองกินรีเร่งบินหนีลับฟ้า
หายไปกับเมฆก้อนไกลๆ โน้น
.     
.  ทรงร่ำไห้ มองขึ้นไปที่ภาพนั้นบนท้องฟ้า
ยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นวิงวอน ร้องคร่ำครวญ 
ขอร้องจันทรากินรีให้กลับมา
.     ท่ามกลางสายตาของเหล่าฝูงชนที่ต่าง
เฝ้ามองเหตุการณ์อย่างเอาใจช่วย
.
.          " จันทรากินรี---
.     โอ้  ยอดรัก 
.             เจ้าอย่าจากข้าไปอย่างนี้  
.     โปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด --  "
.
.
.        *   *  *  *  *  *  *   *  *  *
.
.      อัปสราดารารายยืนมองอนันตราช
ที่วิ่งตาม   และตะโกนร้องเรียกจันทรา
กินรีให้กลับมา
.       น้ำตานางก็คลอเอ่อเบ้าด้วยความ
น้อยพระทัย

.
.     ดารารายรู้สึกว่า ตอนนี้ ตัวเองช่างดูไร้ค่า 
ชีวิตทั้งชีวิตไม่มีคุณค่าอะไรหลงเหลืออีกแล้ว
.   เพราะเวลานี้ ทุกคนก็ล่วงรู้กันหมด ว่านาง
ได้ทำความผิดอย่างมหันต์   จนไม่อาจได้รับ
การให้อภัย
.
            แล้วทันใดนั้น--
.    มเหสีสัญชาติปลาเหยี่ยนน้ำจืด  ก็ให้รู้สึก
อัดแน่นขึ้นมาในวรกาย
.  และเจ็บปวดในช่องท้องของนางเป็นยิ่งนัก
.
.     รู้สึกเหมือนมีตัวอะไร กำลังดิ้นขลุกขลัก
ไปมาอย่่างรุนแรงอยู่ในตัวของนาง
 .   และเหมือนว่า มันกำลังจะพยายามดัน
ตัวเองให้ขึ้นมาทางลำคอ


********************************************

      

                           จบตอนที่   6.
..................................................................

** หมายเหตุ : ครั้งนี้เป็นการนำนิยายมาลงบล็อกใหม่อีกครั้ง

        เขียนลงบล็อกครั้งแรกเมื่อ   19 ตุลาคม 2559                      
      สถิติบันทึกการเข้าอ่าน 2100 ครั้ง   ณ 13 ธันวาคม 2561       **
...................................................................................................   



Create Date : 09 ตุลาคม 2563
Last Update : 23 ตุลาคม 2563 21:41:54 น.
Counter : 693 Pageviews.

0 comments

Huean Piang Din
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ตุลาคม 2563

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog