นิยาย " ม.ปลาย วุ่นวายรัก " โดย เหมชาติ ทอง -- ( ตอนที่ 5 . )


                                   5.

.        วัน เวลาผ่านไปเร็วจริง
ซ้อมกีฬา ซ้อมเชียร์ ซ้อมหลีดกัน
ได้ไม่กี่วัน
.      วันนี้ ก็ถึงวันกีฬาสีแล้ว....


.   ปีนี้ แข่งกันวันเดียว ทุกอย่างเบ็ดเสร็จ
ม้วนเดียวจบ
.
.  เด็กนักเรียนตื่นมาโรงเรียนแต่เช้าเป็น
พิเศษ
.  โดยไปพร้อมกัน เพื่อจัดขบวนพาเหรด
ที่สนามโรงเรียนประถม โรงหนึ่ง
 .    ตั้งอยู่เลยตัวตลาดหน้าอำเภอ ไปอีก
ไม่ไกลนัก
.
.    โรงเรียนนี้    ตั้งอยู่ริมถนนหลวงเลย
ก็เป็นเหมือนโรงเรียนพี่  โรงเรียนน้อง
.   เพราะเด็กจบ ป.6 มา แทบจะทั้งหมด
ก็เข้าเรียนต่อมัธยมต้น  และมัธยมปลาย 
ที่โรงเรียนที่ โยธา  บุษบัน และเจี๊ยบ กับ
เพื่อนๆ เรียนอยู่นี้แหละ

.
.        *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.      พอห้าคณะสี มารวมกันที่สนาม
ก็ถูกคณะกรรมการนักเรียนจัดตั้งขบวน
อย่างไม่รอช้า

.     ขณะเดียวกัน ใครจะทำอะไรก็รีบๆ ทำ
ไปด้วยได้เลย
.    เพราะเดี๋ยว เจ็ดโมงสี่สิบห้า ก็จะเคลื่อน
ขบวนทั้งหมด
.
.   คุณครูประจำชั้นทั้งหลาย ต่างวุ่นวายกับ
การไล่เช็คชื่อเด็กนักเรียนในที่ปรึกษา  กัน
ตรงนั้น
.
.     ความตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นแก่เด็กๆ มาก
มาย  
.    เช่น กับหน้าตาเพื่อนๆ บางคนที่มองดู
แปลกตา เปลี่ยนไป
.   คือบางคนถูกจับให้ถือป้าย หรือเป็นหลีด 
หรือขบวนแฟนซี  ก็จะะถูกคุณครูจับแต่งหน้า
มาอย่างหนาเข้ม
.     เขียนคิ้ว ทาปาก ติดขนตาปลอมมาเป็น
แพใหญ่  รวบผมที่เห็นกันทุกวัน กระหน่ำกิ๊บ
ตรึงไว้แน่น  แล้วต่อผมหางม้าปลอมยาวลงไป
ถึงกลางหลัง หรือไม่ก็ครอบผมปลอมทรงหม้อ
ตาลพูนเป็นก้อนสูงให้ 
.   แล้วมายืนนิ่งในแถวในชุดสุดฟู่ฟ่า ไม่ยอม
พูดยอมจา   เพราะกลัวว่าลิปสติกจะหายจาก
ปาก
.     เล่นเอาเพื่อนๆ หลายคน จำไม่ได้จริงๆ
ถามกัน - ว่า นั่นใครอะ ?
.
.          " กะอี่เปิ้ล อะกะ "
.
.         มีคนตอบ  ว่า - ก็อีเปิ้ลไง 
.
.         "  อี่เปิ้ลแต๊อี้ ? "
.        ( เฮ่ย- อีเปิ้ลจริงเหรอ ? )
.
.         " คิงจำปากเต่ยมันบะได้ก๋า ? "
.  
.    คนจำแม่นรีบอธิบายว่า- เอ็งจำปากห้อยๆ 
.  ของมัน ไม่ได้รึไง ?
.
.      ด.ญ.เปิ้ล ที่ยืนสวยสะพรั่งในชุดแฟนซี 
ทนนิ่งเงียบในแถวมานาน
.    สุดจะทนนิ่งต่อ หันหน้ามาด่าคนช่างว่า 
ที่ว่าเธอปากเต่ย-ปากห้อย
.
.       " ป้อคิงหยัง ไอ่แมน !! "
.
.         ( พ่อม-เมิงดิ ไอ้แมน ! )
.         
.         *  *  *  *  *  *  *
.
.    เจี๊ยบกับพงษ์เดินไปมาไม่หยุด
คอยกำกับ จัดขบวนให้คณะสีตัวเอง


.    ดีใจที่เตรียมหลายอย่างมาเยอะจัด
ขบวนเลยออกมาแรงส์ ทีเดียว
.    มีทั้งรณรงค์ไม่ทิ้งขยะ หรือโชว์ลีลา
ประกอบจังหวะ เดินไป- ยกชูอุปกรณ์ไป
พร้อมเพรียงกัน
.   และมีแฟนซีหลากหลาย ให้น้องๆ ใส่
แต่งตัวแบบประหลาดๆ  เรียกความสนใจ
จากสีอื่นได้มาก
.
.    เรียกว่า ความลับทีเด็ดที่แต่ละคณะสี
ปิดกันเงียบกริบ  อมพะนำไว้  ไม่กระโตก
กระตากบอกให้สีไหนระแคะระคาย     
.       ก็ได้มาเผยให้เห็นกันแล้ว  ตรงหน้า 
ณ  ตอนนี้  
.
.       เดย์กลืนน้ำลายเหนียวคอ
เมื่อหันไปเห็นชุดหลีดของคณะ
สีฟ้า - อัมพรพิลาศ
.    คู่ปรับปีที่แล้ว ที่ครองแชมป์

.
 .   ปีนี้ ชุดหลีดของสีฟ้าก็สวยมาก ดูดีอีก
.  เดย์มองแล้ว ให้นึกชอบขนไก่ที่มันฟูฟ่อง
ตรงหัวไหล่ข้างนึง ของหลีดสีฟ้าแต่ละคน
.      สงสัยไปเช่าชุดของโรงเรียนในเมือง
มาอีกแน่เลย
.
.          ซึ่ง-โอเค
.  อาจเป็นชุดหลีดที่โรงเรียนนั้นใช้ใส่หลีด
กันมาหลายครั้งแล้ว  
.      ไม่เห่อแล้ว -เบื่อแล้ว
แต่ก็มาเป็นชุดอันซีนสำหรับแถวนี้ได้อย่าง
เตะตา
.
.    มองไป  ชุดของคณะสีเหลืองก็สวย
ของสีม่วงก็สวยเหมือนกัน
.   แต่เดย์ชอบของคณะสีฟ้าที่สุด
.
.              --ที่จริง
.        ชุดหลีดของสีแดงของเดย์ ก็ดูดี
มาก ไม่ได้แพ้สีฟ้าเลย
.   เพราะนักศึกษาฝึกสอน และฝึกประสบ
-การณ์ ที่มาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่ถูกคำสั่งของโรงเรียนกำหนดให้อยู่คณะ
สีแดง    ก็ช่วยไปขอยืมชุดหลีดของคณะฯ
ที่มหาวิทยาลัย  มาให้ใส่ฟรีๆ
.        แบบมันก็เก๋ ดูอินเตอร์
.
.       ดูไปอีกที สีเขียวดูจะน่าสงสารที่สุด
เดย์คิดว่า สงสัยไม่ลงทุนออกตังค์เช่าหรือ
สั่งตัด
.      เป็นชุดของปีก่อนๆ เอามาใส่สลับชิ้น 
ท่อนบนท่อนล่าง  
.      แล้วหานั่น-นี่ มาใส่เพิ่ม ทำให้ดูรุงรัง 
สะเปะสะปะ
.
.      ..      *  *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
. .      บุษบันยืนถือป้ายโรงเรียนกับ
สงคราม


      เธอแต่งชุดคำแก้วจากเรื่องนาคี ตอนเป็น
นางพญา
.  เป็นเทวีมีมงกุฎสูงแนวเขมร และยังเป็น
ชุดสีแดงเลือดหมูสด ซะด้วย
.     เรียกว่า ก็อปจากละครมาเป๊ะ ๆ
.
.   เอียดแต่งแล้ว ดูสวยสง่า ราวกับแต้ว 2  
.      จนอาจารย์สิริยาชมเปาะ
.
.            " เอ้อ-- สวยมาก
.   เหมือนแต้วเลย--"

.        อ. สิริยาแต่งตัวให้เอียด
พลางก็เล่าให้ฟัง ถึงความตั้งใจครั้งนี้
.  
.     " รู้มั้ย - ครูถ่ายรูปชุดที่แต้วใส่ไว้
ในโทรศัพท์   เดินหาผ้าที่กองเล่าโจ๊ว
จนได้ครบหมด
 .      - ตรงตามแบบทุกอย่าง "     
.
.       กองเล่าโจ๊ว ก็คือ ตรอกเล่าโจ๊ว
เป็นตรอกที่รวมร้านขายผ้าพื้นเมืองสวยๆ
ของตลาดในตัวเมิองเชียงใหม่

.     สาวๆ เมืองไหน ถ้ามาแอ่วเจียงใหม่
ไม่ควรพลาดช็อปปิ้งที่นั่น
.    อยู่ติดกับกาดหลวง หรือตลาดวโรรส 
นั่นเอง - เดินลัดเลาะหาไม่ยาก
.
.     หนึ่ง หรือสงคราม ถูกจับแต่งเป็น
ทศพล ตอนเป็นทหาร
.       ถูกให้นุ่งผ้าถุงสีก่ำๆ
.   มีเครื่องประดับใส่คอ-แขนพองาม
และไม่ให้ใส่เสื้อ เพื่ออวดเรือนร่างกำยำ
แข็งแรง โชว์ลอนกล้ามหน้าท้อง
.    มีผ้าแถบสีคลาสสิกของอีสาน พาด
แบบหักทบ   ห้อยไว้ที่อกด้านหน้าของ
เด็กหนุ่มด้วย
.
.       ส่วนโยธา ที่ถือธงโรงเรียน
 ถูกจับแต่งเป็นทศพลเหมือนกัน
.      ตอนที่เป็นนักโบราณคดี
.ได้ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า  ม้วน
พับแขนขึ้น ให้ดูลุยๆ
 .     สะพายกระเป๋าหนังที่มีสายยาวคล้อง
ไว้แบบสะพายเฉียง
.     มีขดเชือกมนิลาขดใหญ่คล้องที่ไหล่ 
และให้สวมแว่นตาที่มีแต่กรอบ ไม่มีเลนส์ 
ทรงเดียวกับที่เคน-ภูภูมิ ใส่ในเรื่อง
.     อ.สิริยายังอุตส่าห์ไปขอยืมกางเกง
ขี่ม้าสีน้ำตาลกากี   ที่มันจะพองๆ ที่ข้าง
ต้นขาทั้งสองข้าง มาจากเพื่อนคนนึง 
.   ที่เขาเล่นกีฬาขี่ม้าที่กองพันสัตว์ต่าง  
ค่ายทหารตากสิน มาให้โยธาใส่
.    แล้วให้ใส่ท็อปบู้ทสีน้ำตาลอ่อน ที่สูง
เกือบชนหัวเข่า  โดยเอาขากางเกงเก็บ
ซ่อนไว้ในบู้ท
.    มีเป้ทหารใบนึง ให้คล้องหลังไว้ กับ
มีหมวกปีกหนังชามัวร์สีน้ำตาลใส่อีกใบ
.
.              เท่มาก --
.       เหมือน อินเดียน่า โจนส์ -
เรื่อง ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า
.          ไงงั้นเลย
.
     *  *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
   วงโยธวาทิตของโรงเรียน
เริ่มบรรเลงเพลงกราวกีฬา

.
.       กีฬา  กีฬา เป็นยาวิเศษ
 .  ฮ่า-ไฮ่ -
 .         ฮ่า-ไฮ่
.
.              ออกเดิน -
.  มาร์ชชิ่ง จากสนามโรงเรียนประถม

.
.    มีดรัมเมเย่อร์ คทากรชาย ม.3
เดินกระตุกขาเป็นจังหวะ 
.
.            แกโยนคทา 
.    แล้วรับ --เหวี่ยงคทา หมุน วิ้ว-วิ้ว
น่าดู 
.    และน่าเสียวไส้ด้วย ว่าจะพลาดตก
ใส่หัวตัวเอง หรืออาจจะจับไม่แน่น หลุด
จากมือ กระเด็นไปฟาดโดนหัวใครๆ แถว
นั้นจัง
.            
 .     ดรัมเมเยอร์ พอโชว์ลีลาผ่าน
.  ก็นำพาขบวนคณะสี ทั้งห้าคณะ ออกเดิน
พาเหรด-parade สู่สายตาประชาชน ชาวบ้าน
ร้านช่อง  
.  ที่พากันยืนดูอยู่ทั้งสองฝั่งถนนของอำเภอ
 . 
.       บุษบัน กับสงคราม ที่แต่งคอสตูม
จากละครโทรทัศน์เรื่องนาคีอย่างเนี๊ยบ
สุดอลังการ
.     ค่อยๆ ก้าวเดินช้าๆ ถือป้ายโรงเรียน
ขวางหน้ากระดานไปตามถนน 
 .  เดินไป ก็ยิ้มน้อยๆ แบบปิดปากพองาม
ไป ตามที่ อ. สิริยาได้ไกด์มา

  .
  .  และโยธาที่แต่งเป็นเคนตอนเป็นนักโบราณ
คดี  ใส่ชุดแบบอินเดียน่า โจนส์  ขุมทรัพย์สุด
ขอบฟ้า ถือธงโรงเรียนอันใหญ่ ที่หนักน่าดู
.     ต้องยื่นธงให้เอียงไปด้านหน้า สี่สิบห้า
ถึงหกสิบองศา และก็ต้องเก๊กหน้าหล่อ เดินไป 
ยิ้มน้อยๆ ไปเช่นกัน 

.
.   แต่ที่ อ.สิริยาว่าจะให้เดินนำป้ายโรงเรียน
 ตอนนี้ กลายเป็นเดินตามหลังป้าย
.
.   ทั้งสามคน- เด็กสาว และเด็กหนุ่ม 
ผู้มีรูปร่าง หน้าตา   เป็นอาวุธพิชิตใจ
ผู้พบเห็นให้ตะลึงมอง
.      ก็สามารถเรียกเสียงปรบมือชื่นชม
จากผู้คนที่ยืนดูข้างถนน   เป็นระยะๆ 
ตลอดทาง
.
.   บางท่าน โผล่หน้ากันออกมาดูจากร้าน
ข้าวมันไก่   
.    ยิ้มแย้ม โบกไม้ โบกมือให้ 
.
.      " เรื่อง นาคี- แม่นก่อเจ้า ? "
.
.    ตะโกนถามมา เสียงดังจากตรงนั้น 
 .
.     เอียดอมยิ้ม พยักหน้าให้คนถาม  แล้ว
หันกลับไปมองข้างหน้าต่อ
.
.     สงครามก็พยักหน้า ตะโกนตอบว่า
.
.             " แม่นค้าบ " 
.
.        แล้วถามกลับดังๆ ว่า 
.
.          " งาม -ก่อคับป้า ? "
.
.       " งาม !  ลูก เหย--งาม
.    เหม๊าะขนาดเลย  ปี๋นี้ "
.
.      ป้าๆ ตะโกนตอบ  ช่วยกันปรบมือ
ให้กำลังใจเด็กๆ  แล้วหันไปหัวเราะชอบใจ
กันกั๊กๆ

.
          *  *  *  *  *  *  *
.
.   บางคน ที่กำลังว่าจะข้ามถนน
ตอนนี้ 
.   -  ก็ข้ามไม่ได้ ซะแระ
.
.      เพราะคุณตำรวจจราจรที่มาช่วยอำนวย
ความสะดวกให้โรงเรียน รีบเป่านกหวีดปรี๊ด--
ยาว   ให้หยุดรอที่ข้างถนน   รอให้ขบวนแห่
พาเหรดของนักเรียนได้ผ่านไปก่อน
.      จึงได้ยืนดูริ้วขบวนอย่างใกล้ชิด อย่าง
เพลินตาเพลินใจ
.
.        ชายวัยกลางคนคนนึง  ท่าทางว่า 
จะชอบดูละครหลังข่าว
.
.         แกมองๆ โยธาที่ถือธง กำลังจะเดิน
ผ่านหน้า 
.           ก็บอกเพื่อนๆ เสียงดังว่า
.
.         " โอ๊ะ - ไอ่น่อยนี่  
.    หยังมาหล่อ---  งามแต๊-น่อ
.         แต่งเป็นพระเอกนาคี นักโบราณคดี
.   จั๊ด-เปิง
.        - เหมือนใบ้ เหมือนบอด " 
.
.     เอียดเดินถือป้ายนำตรงนั้น ได้ยินด้วย
. แอบขำ หัวเราะกี๊ก
.
.         ภาษาเหนือเป็นภาษาที่รุ่มรวยคำ
มีคำสร้อยเปรียบเปรย ที่น่ารัก ๆ เยอะมาก
.
.       " เหมือนใบ้ เหมือนบอด "
  -ก็คือ
.        เหมื๊อน -เหมือน -นั่นเอง
.

.         " เอียด- ขำไร  ? " 
.
.           โยธาถามบุษบันทันที
 รู้นะ- ว่าเอียดกำลังขำตน
.
.       " ก็ลุงคนนั้น- เค้าว่า โยเหมือน 
เคน-ภูภูมิ "
.
.        บอกโยธาไปแล้ว   เอียดก็อดขำ
อีกไม่ได้  กลั้นหัวเราะจนเดินตัวสั่น
.   หนึ่ง-สงครามที่ถือป้ายด้วยกัน ฟังอยู่ 
ก็พลอยหัวเราะ หึ-หึ 
.
.      " เอ๋อ --- เอียด
.                -- จำไว้ "

.
.         สุดหล่อแสนงอน   ก็บอกว่า  
ฝากไว้ก่อน
.
           *  *  *  *  *  *  *
. .      มีคณะกรรมการนักเรียนใส่เสื้อทีม 
ห้อยป้ายบอกชื่อตัวเอง   และหน้าที่ที่รับ
ผิดชอบในงานนี้ ไว้ที่คอ
.    ถือใบรายการ หน้าตาจริงจัง ไม่ยิ้มหัว 
 คอยยืนดักรอถ่ายรูปด้วยกล้องจากโทรศัพท์
มือถือ

.  และให้คะแนน แก่ขบวนพาเหรดของแต่ละ
คณะสี ตามรายทาง

.
.    เดย์จึงเข้มงวด กับครีมทีม เชียร์หลีด
เดอร์ของตน
.      บอกให้ทุกคนเดินเชิดหน้า อกตั้ง  หลัง
แอ่น
.      และเอามือไพล่หลัง  ทำหน้าหยิ่งๆ 
.             ห้ามคิก-คัก
.
.   เดย์เหล่มองมาทางบุญอ่อง กลัวทีมหลีด
ชุดเล็ก จะยืนเล่นกันในแถว ยุกยิก
.       -ทำให้คณะสีเสียคะแนน
.
.     บุญอ่องก็ใช้ได้ -รู้เจตนาเดย์ที่มองเหล่ๆ 
มา
.    บุญอ่องจึงตะโกนเสียงดัง สั่งลูกทีมของ
ตน ที่มีกันถึง 12 คนให้ยืนตรงแบบโพสท่าเก๋
.
.      " หลีด- พ้อม-(พร้อม)  !
.
.                เก็บมือ...
.
.           3 --
.              - 4 ! "

.
.     เดย์พยักหน้าแบบพอใจมากให้
บุญอ่อง -ที่ยืนเชิดหน้า  แหงนซะ
.     และตีหน้าตาย -ท่านิ่ง หยิ่ง
.
.              เอ้อ-
.     เรื่องท่าเดินขบวนพาเหรดของเหล่า
เชียร์หลีดเดอร์  ดูเหมือนจะเป็นธีม- เชิด
หยิ่ง และ ทนง -นี่ คล้ายกันทุกสีเลยนะ

.
.    ส่วนพงษ์ ช่วยกันกับเจี๊ยบ อย่าง
เอาจริงเอาจัง

.      ถ่ายรูปน้องๆ ไปพลาง
กำชับน้องๆให้เดินแถวให้ตรงกันไปพลาง
.       บอกให้มองข้างๆ ดูให้เรียงตรงกัน
เป็นตับแถว
. และให้ขบวนเดินนับ  -" ซ้าย -ซ้าย "
.
.      บางช่วง ก็ให้ร้องว่า "  สีแดง "
กับ  "- สู้-สู้ "
.   โชว์การยกชูอุปกรณ์กระดาษสีขึ้นลง  
สลับกันให้ดูสวยงาม และมีความพร้อม
-เพรียง
.
.      *   *   *  *   *   *
.
.     ขบวนพาเหรดแห่แหนกัน
ไปตามถนนใหญ่
.    ผ่านที่ว่าการอำเภอ--
 ผ่านโรงพักตำรวจ--

.
.      แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงสามแยกไฟแดง
เข้าสู่ถนนสายเล็กๆ 
.      มุ่งเข้าสู่ตัวโรงเรียน ที่อยู่ลึกเข้าไป
ในตัวหมู่บ้าน
.
.   บริเวณโรงเรียนก็ไม่ได้กว้างขวางนัก
 หากก็มีรั้วรอบขอบชิด
.
.      *  *  *  *  *  *  *  *
.
.    เสียงที่ดังอื้ออึง ของงานกีฬาสี
 ชินหูคนในซอยเข้าโรงเรียนไปแล้ว
.     ไม่มีใครบ่นว่า

.
.     เพราะทุกวัน คนแถวนี้จะได้ยินเสียง
ประกาศผ่านมาทางอากาศจากหน้าเสาธง 
เข้ากรอกหูทั้งคู่อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
.
.      ฟัง และได้ยิน ...จนชาวบ้านรู้หมด
ว่าคุณครูชื่อนี้   เป็นครูประจำชั้นอยู่ห้อง
นั้น    คุณครูชื่อนั้น เป็นครูประจำชั้นอยู่
ห้องนี้ ทั้งที่ไม่เคยเห็นตัวจริง
.  
.     หรือว่า คุณครูคนนั้น  เวลาประกาศ
ไมค์เมื่อไหร่   จะติดชอบพูดว่า " -หนา "
- ทุ้กที ! 
.      จนบางที ทำกับข้าวไป  ได้ยินเสียง
คุณครูท่านที่ว่ากำลังประกาศ   ก็จะแอบ
คอยต่อคำว่า "-หนา " รอให้เล่นๆ
.      และก็ --ไม่เคยพลาด
.
.      "  ให้นักเรียนทุกคน- หนา
เตรียมรูปสองนิ้ว หน้าตรง
 .         ไม่สวมหมวก    --- หนา
 ติดในกระดาษอย่างบาง  - หนา "

.
.      เห็นที กระดาษแบบนี้หายากจัง
เพราะจะต้องบาง และก็ต้องหนาด้วย
.
.   เมื่อชุมชนน่ารัก เป็นกันเองกันอย่างนี้
มาตลอด    โรงเรียนจึงไม่ได้รับเสียงบ่น
หรือร้องเรียนมลภาวะทางเสียงที่เกิดจาก
การกระจายเสียงเลยสักครั้ง
.
 ขบวนพาเหรดเดินเข้าสู่สนาม
ใหญ่ของโรงเรียนแล้ว

.
.        เป็นสนามดิน และหญ้า
.   มองเห็นลู่วิ่งลูกรัง ที่นักการภารโรง 
ช่วยกันกับกรรมการนักเรียน เมื่อวาน
.    เอารถเข็นคันน้อย เข็นโรยปูนขาว
 ทำแนวเส้นสวยงาม
.
.        ประธานในพิธีคือ นายอำเภอ
ท่านนั่งยิ้มใจดีอยู่ในศาลาปะรำพิธี ที่เป็น
อาคารทรงไทย  รอเปิดงานกีฬาสี เป็น
ขวัญและกำลังใจแก่เยาวชน -กำลังของ
ชาติ ในอนาคต
..
..   *  *  *  *  *  *   *
.
.       จบพิธีเปิด
.  สิ้นเสียงพลุ ที่ดัง
. ปุ้งๆ ! -ปุ้งๆ !

.
.      เด็กๆ ทุกคณะสี ก็พากันเดินแถว 
แยกย้ายออกจากสนาม  ขึ้นสู่อัฒจันทร์
ของสีตัวเอง
.
.   รุ่นพี่ที่เป็นสต๊าฟเชียร์รีบจัดให้น้องๆ
ม.ต้น นั่งอัฒจันทร์ตามผังที่วางไว้
.      แล้วเริ่มรัวกลอง ร้องเพลงเชียร์
 และออกมาหลีด-นำการเชียร์  รวมถึง
แปรอักษร ประชันสู้กันทันที
.
.
.    อัฒจันทร์นั้น โรงเรียนทำไว้ให้
อย่างถาวร ห้าตัว

.     ทำด้วยเหล็กกล่อง  อ๊อกซ์เชื่อมไว้
อย่างแข็งแรง  แล้วทาสีดำล้วน มีขนาด
เท่ากัน และแบบเดียวกันเป๊ะ
.    วางเรียงรายหน้ากระดาน ทิ้งช่วงเว้น
ห่างกัน เป็นระยะ
.    
.      ตอนนี้  ทุกอัฒจันทร์ก็ถูกเด็กๆ 
แต่งไว้สวยงามอย่างสุดฝีมือ เสร็จตั้งแต่
เมื่อค่ำวาน
.       ประชันขันแข่งกัน    แบบไม่มีใคร
ยอมใคร   แต่ละอัฒจันทร์ดูโดดเด่น น่า
ชื่นชมทุกคณะสี
.
    *  *  *  *  *  *  *  *
.
.         " ประกาศ
.      วิ่ง 4 คูณ  100  หญิง  ม.ต้น
ทุกคณะสี    รายงานตัวที่เต็นท์กอง
กลางด้วยค่ะ 

.        ประกาศอีกครั้งนึง
 วิ่ง 4 คูณ  100  หญิง  ม.ต้น ทุกคณะสี 
.    รายงานตัวที่เต็นท์กองกลาง  ตอนนี้
เลยนะคะ "

.
.      จบเสียงประกาศเรียกตัวนักกีฬา
ที่เหล่านักศึกษาฝึกสอน  และฝึกประสบ
-การณ์เป็นฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบ
.
.     บุษบันรีบพาน้องๆ  ม.1 -ม.2  ที่ลงวิ่ง
ในรายการ มาหาโยธา
.      เพื่อให้พาไปที่เต็นท์กองกลาง
.
.   "  แล้วรายการต่อไป คือไรโย ? "
.
.      โยธาก้มดูใบรายการแข่งขันในมือ
เงยหน้าบอกเธอว่า
.
.    "  4 คูณ 100  ม. ต้นชาย
 .   เอียดอย่าลืมนะ  ว่า ม.3 ปีนี้   เวลา
แข่งกีฬา ให้ถือเป็น ม.ปลาย ไม่ใช่ ม.ต้น
.       ม.ต้น คือแค่ ม.1 กับ ม.2 " 
.
.         " อือ- เราจำได้ "
.
.    บุษบันทราบมติการกำหนดรุ่นของนักกีฬาดี  
เพราะฝ่ายจัดมีความเห็นว่า  เด็กนักเรียน ม.3 
ส่วนใหญ่กำลังล้วนโตไวแบบพรวดพราด
.  ให้แข่งกีฬา กรีฑา กับเด็ก ม1- ม.2 ก็สามารถ
เอาชนะแบบสบายๆ เกินไป  จึงยก ม.3   ข้ามรุ่น
ไป  ให้แข่งกับ ม.4-5-6  ซะเลย 

.            อากาศเริ่มร้อน --
. โยธามองเห็นเหงื่อสองสามเม็ด ที่หน้าผาก
ของเอียด   
.     จึงถอดหมวกที่ตนกำลังสวมอยู่  ยื่นให้
บุษบัน
.
.        "  อากาศร้อน เอียดเหนื่อยแล้ว
  เอาหมวกโยไปใส่เหอะ  เดี๋ยวไม่สบาย "
.
.           " แล้วโยล่ะ ? "
.
.             " โยมีอีกอัน "
.      โยธาโกหกสีขาว -white lie
.
.     บุษบันรับไว้ เอามันมาสวมทันที
.
.          " ขอบใจมากนะโย 
.    พอดีเอียดลืมเอาหมวกมา "
.
.          โยธายิ้มหวาน
   ทำให้หน้าตาหล่อนั้น ดูเปี่ยมเสน่ห์ยิ่งขึ้น
.
 .      "    ไปละนะ --
.     อย่าลืมเตรียมน้อง 4 คูณ 100 ชาย
.ไว้ให้โยด้วย "
.
.            " โอเค--"
.
.      แล้วเอียดก็หันไปบอกน้องๆ
.
.         "  น้องๆ   สู้ๆ
.      ล่นหื้อเต๋มตี้เลยเน่อ "
.
.      " เจ้า   -ปี้เอียด จูเลียต "
.
         *  *  *  *  *  *  *  *  *
.   
     เอียดเอง--
.   ลงวิ่ง 100  กับ 200 
ม.ปลายหญิง

.
.           100 นั้น-
.     เอียดได้เหรียญทองอย่างขาดลอย
ทิ้งที่สอง ห่างเป็นสองสามวา
.   สมกับที่เคยเป็นนักวิ่งสาวลมกรดจาก
แดนสะตอมาก่อน
.
.       พออีเว้นท์  200 ...
.  เอียดเหนื่อยซ้ำ   เกือบจะแพ้สีเหลือง
อยู่แล้ว
. แต่เดย์ กับโยธา คอยวิ่งกระตุ้นเป็นเพื่อน
ที่ขอบสนามฟุตบอล ข้างๆ ลู่
.      โยธาร้องเชียร์ตลอดทางว่า
.
.       " เร็วเอียดเร็ว--
.                เร็วเอียดเร็ว
.         เร็วๆ ๆๆ  .. "
.

.  บุษบันก็กัดฟัน ฮึดเร่ง แซงสีเหลือง 
ที่  5 เมตรสุดท้ายได้สำเร็จ
.
.      เจี๊ยบเต้นเร่าๆ รอคอยรับตัวเอียด
อยู่ที่เส้นชัย    พอเห็นเพื่อนวิ่งเข้าที่ 1
เจี๊ยบก็สุดดีใจ  ร้องกรี๊ดเหมือนสาวๆ

.
.       *  *  *  *  *  *  *  *  *
.
.  โยธาลง 4 คูณ 100 ม.ปลาย
ชาย
.     และเป็นไม้สุดท้าย

.
.       พงษ์ก็ลงด้วย เป็นไม้สอง
.
.       คู่แข่ง คือทีมของคณะพยับเมฆา สีม่วง
ที่มีสงคราม ม.6 หรืออ้ายหนึ่ง  นักวิ่งฝีเท้าจัด
ของโรงเรียน
.      ที่ก็วิ่งเป็นไม้สุดท้ายเหมือนกัน

.
.   " เอียดคอยเชียร์โยด้วย
.            ไม่งั้น เดี๋ยวโยวิ่งไม่ออก "
.
.          โยธารับน้ำมาดื่ม   ส่งแก้วคืนให้
บุษบัน
.       สบตาหวาน แล้วบอกเธออย่างนี้
.
.         เอียดหัวเราะ   พยักหน้า
.
.                *  *  *  *  *  *  *
.
.      พอสัญญาณปืนดัง  ทุกสี
ก็พุ่งตัว
.     --ทยานออกจากจุดสตาร์ท

.
.        ทุกอัฒจันทร์ ก็พากันหวีดร้องเชียร์
 สีตัวเองกันสุดเสียง
.        กลองก็ตีรัว ไม่หยุด
.
.     สีม่วงนำจริงๆ ด้วย   สมเป็นตัวเต็ง
ไม้หนึ่งส่งให้ไม้สองก่อนสีอื่น
.
.   พงษ์สีแดง พอรับไม้ได้ก็กัดฟันห้อตะบึง
วิ่งไล่กวดประกบ จนทันไม้สองของสีม่วง
.
.      ไม้สองส่งให้ไม้สาม ไล่ๆ กัน
.
.      พอไม้สามจะส่งให้ไม้สี่
.          คราวนี้ดูออกชัด
.   ว่าสีแดง และสีม่วง วิ่งนำสีอื่นๆ สูสีกัน 
จนดูไม่ออก
.
.   สงคราม และโยธารับไม้พร้อมกัน
.
.    ทีนี้-ทั้งเด็ก ทั้งครู พากันฮือ ลุกขึ้น
เชียร์
.
.    สงคราม และโยธากัดฟันวิ่งแบบหน้า
ยิ้มเข้ม
.      - ไม่เหลียวมองกันเลย
.
    แล้วโยธาก็ได้ยินเสียงบุษบัน
ดังปนมากับเสียงร้องเชียร์ที่อื้ออึง
.
.    " โย- เร็วๆๆๆ 
.          โย ---- เร้ว  ! "

.
.       เด็กหนุ่มหัวใจฉีดแรง ทุกฝีเท้า 
ที่ก้าวลงวิ่ง
.    ใจนึกเป็นหน้าของเอียด- รัวเร็วจี๋
.
.          ว่า   -เอียด
.    -เอียด- -เอียด-เอียด
.          - เอียด-  ๆ ๆๆๆๆ...
.
.      สงครามใจหาย --
.          อะไรกัน ?
.    โยธา ม.5  กำลังแซง และนำหน้า
ตน
.        -เป็นไปได้ยังไง ?   
.

.         หนึ่งไม่ยอม-   รวบรวมกำลัง
เร่งฝีเท้า เพื่อไล่จี้
.
.         แต่ไม่ทันแล้ว---
.
.     โยธาเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1
.              ไปก่อน  !!!
.
.     เสียงกองเชียร์ จากอัฒจันทร์
คณะสีแดง -ตะวันเพลิง กรี๊ดดังสนั่น 
ราวกับป่าแตก-
.
.           คุณพระช่วย !
.   ล้มแชมป์เก่า เจ้าประจำได้-อ่า !!
.           ไม่น่าเชื่อ-
.

.       สต๊าฟหน้ากองเชียร์ร้อง -โอีย ๆ  
- ว้าย- ว้าย - ว้าย-
.       ดีใจ กระโดดตัวลอย  กอดกันหน้า
อัฒจันทร์
.
.       แล้วนำน้องๆ ร้องเพลงเชียร์ -
ตีกลองรัว เร็วจี๋ ฉลองชัย   -
.     ดิ้นกันระเบิดระเบ้อ หน้าอัฒจันทร์
 ฝุ่นงี้ -ตลบ คลุ้งไปหมด
.
.    ( ทำนอง ปูไข่ไก่หลง )

.    **  สีแดง สีแดง สีแดง
สีแดง สีแดง สีแดง สีแดง
.      สีแดง สีแดง สีแดง
สีแดง สีแดง สีแดง สีแดง
.    สีแดง สีแดง สีแดง สีแดง ! **
.
.       สี--แดง พวกเรา 
เอ้า - เรา  มาช่วยกันเชียร์
.   ไม่ต้องกลัวอ่อนเพลีย 
ช่วย -- เชียร์   จนถึงเส้นชัย
.
.       อิ่มอกอิ่มใจ 
เรามีชัย สมปรารถ-- ถนา
.      สู้ไปไม่หนีหน้า
สู้เถิดหนา นักกีฬาสีแดง !! "
.
. .  .  .  .  .  .  .  .  .


.       เดย์เปลี่ยนชุดหลีดชั่วคราว
มาใส่ชุดกีฬา รับเอาป้ายเบอร์ มากลัด
ติดเสื้ออีกที ด้วยเข็มซ่อนปลาย
.

.    เพราะเดย์กำลังจะลงเล่นวอลเล่ย์ ม.
ปลาย  แข่งตัดเชือกกับสีเขียว
.
.   ชายจริง ผสมชายหวาน ตบวอลเล่ย์
ใส่กันอย่างดุเดือดเผ็ดมัน

.    แต่สีเขียวเก่งกว่า ผิดพลาดน้อยกว่า
นำสีแดงไป 2 ต่อ 1 เซ็ท
.    สำหรับกีฬาสี  ก็ถือว่าเกมจบ ชนะแล้ว 
ด้วยมีเวลาแข่งที่จำกัด  ไม่สามารถให้แข่ง
แบบฟูลเซ็ท ตามมาตรฐานทั่วไปได้
.
  เดย์รีบกลับมาถอดชุดกีฬาออก เปลี่ยน
เป็นแต่งชุดเชียร์หลีดเดอร์อีกรอบ 

.    เพราะตามรายการฯ  พอแข่งบาสคู่ชิง
เสร็จ  ก็จะแข่งหลีดทุกคณะกัน กลางสนาม
ฟุตบอล
.   จากนั้น จะปิดสนาม ด้วยการแข่งฟุตบอล
คู่ชิง ที่ก็จะเล่นเพียงครึ่งแรก ครึ่งเดียว
.   ขืนแข่งเต็ม นักเรียนจะกลับบ้านเย็น มืดค่ำ
มากไป  อาจเป็นปัญหาอื่นอีก
.
.     พงษ์กับเจี๊ยบ ที่ขึ้นไปเชียร์ปิงปอง
หรือเทเบิ้ลเทนนิสบนหอประชุมเพิ่งเสร็จ  
.    ก็ลงมาถามเดย์ ที่กำลังเติมแป้ง เติม
ลิปส์  และติดขนตาปลอม
.      ว่าผลวอลเล่ย์เป็นไงมั่ง ?
.
.  เดย์จึงตอบว่า  สีเราแพ้สีเขียว  2 -1
ตกรอบซะละ
.
.     เดย์ที่ติดขนตาปลอมยาวเฟื้อยได้
เพียงข้างเดียว    หันหน้ามาบอกเพื่อน
ทั้งสองว่า
.
.     " เปิ้นไม่ได้ไปต่อโอลิมปิก
.              --แล้วน้า -- "
.
.        ดูพูดเข้า -ยังกะว่าตัวเอง เป็น
นักวอลเล่ย์สาวไทยทีมชาติ


.
.
.              ***   จบตอนที่ 5 . ***
.........................................................................................
.  หมายเหตุ :  นำนิยายมาลงในบล็อกใหม่อีกครั้ง         
.  เขียนครั้งแรก  12 พฤศจิกายน 2559
.บันทึกสถิติการเข้าอ่าน 1493 ครั้ง ณ 17 กันยายน  2561
..........................................................................................  



Create Date : 10 ตุลาคม 2563
Last Update : 10 ตุลาคม 2563 9:33:33 น.
Counter : 297 Pageviews.

0 comments

Huean Piang Din
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ตุลาคม 2563

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog