Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
ป้องกันต้อหิน ก่อนจะตาบอด

คนส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคต้อหิน บ่อยครั้งกว่าจะทราบว่าเป็น ตาก็มักจะใกล้บอดแล้ว เพราะฉะนั้นมาทำความรู้จักกับ “ต้อหิน” กันไว้ ก่อนที่จะสายเกินแก้

“ต้อหิน” เป็นโรคความเสื่อมเกิดจากขั้วประสาทตา ซึ่งมีหน้าที่รับสัญญาณภาพส่งไปยังสมองถูกทำลายด้วยความดันลูกตา เซลล์เส้นประสาทที่ตายไปแล้วไม่สามารถทำให้กลับฟื้นคืนมาได้

   โรคต้อหินเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน และส่วนใหญ่ป้องกันไม่ได้ จึงจัดว่าเป็นโรคที่ร้ายแรง เพราะหากได้รับการรักษาช้าหรือไม่ต่อเนื่อง มักจะลงเอยด้วยตาบอด แต่ความก้าวหน้าทางการการแพทย์ปัจจุบัน ทำให้เราสามารถตรวจพบต้อหินได้ตั้งแต่แรกเริ่ม และมีวิธีที่จะรักษามิให้สายตาเลวลงได้ด้วยการใช้ยา แสงเลเซอร์ ตลอดจนวิธีการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับชนิด ระยะเวลาที่เป็น และความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยจึงไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยตาบอดทุกคนอีกต่อไป

   กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นต้อหินมากกว่าปกติ ได้แก่ คนที่มีอายุมากกว่า 40 ปี, มีประวัติครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้องสายตรงเป็นต้อหิน, คนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดในลูกตา มีอุบัติเหตุทางตา, มีสายตาสั้นหรือยาวมาก ๆ, มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไทรอยด์, ใช้ยาสเตียรอยด์เป็นประจำ เช่น คนไข้โรคพุ่มพวง (SLE)

คนกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยจักษุแพทย์ ไม่ควรรอให้เกิดอาการผิดปกติแล้วค่อยไปตรวจ หากตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะแรก ก็สามารถรักษาป้องกันไม่ให้ตาบอดถาวรได้

การรักษาโรคต้อหิน ส่วนใหญ่รักษาด้วยการหยอดยา เพราะสะดวก รวดเร็ว ง่าย สำหรับคนไข้ ยาสำหรับรักษาโรคต้อหินก็สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ อยู่ในบัญชีหลักประกันสุขภาพ นอกจากการหยอดยายังมีวิธีการรักษาโดยการผ่าตัด จะใช้กับคนไข้ที่ใช้ยาไม่ได้หรือใช้ยาไม่ได้ผล สำหรับผู้ป่วยโรคต้อหินชนิดมุมตาเปิดบางชนิดต้องทำการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์

นอกจากการรักษาทั้ง 3 วิธี ปัจจุบันมีข่าวแพร่หลายในสังคมออนไลน์เรื่องการนวดตาเพื่อรักษาต้อหิน โดยการกดที่เปลือกตาอย่างแรงจนถึงขั้นเห็นแสงพร่า นาน 45 วินาที ถึง 2 นาที แล้วค่อยปล่อยมือออกจากเปลือกตา เพื่อให้เลือดสูบฉีดเข้าไปในตาได้ดีขึ้นนั้น ชมรมต้อหินแห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ไม่แนะนำให้ทำการรักษาต้อหินด้วยวิธีดังกล่าว เพราะไม่มีหลักฐานการวิจัยอย่างถูกต้องทางวิชาการสนับสนุนยืนยันการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว

ที่มา : เดลินิวส์








Create Date : 08 เมษายน 2558
Last Update : 8 เมษายน 2558 10:22:09 น. 1 comments
Counter : 662 Pageviews.

 
โรคตาถ้ารักษาแล้วไม่ดีขึ้นให้ลองย้ายที่อยู่ดู


โดย: Tc IP: 1.4.195.179 วันที่: 15 สิงหาคม 2559 เวลา:21:47:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

popv99
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add popv99's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.