jimkong
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




jimkong อ่านว่า จิ้มก้อง
เป็นชื่อ [อดีต] ป้าหมาแก่ที่บ้าน
ไทยหลังอาน ใจโหด หน้าเหี้ยม
ฉลาด ดื้อ และน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jimkong's blog to your web]
Links
 

 

The Brave One : Death Note?


เป็นหนังที่ตั้งใจว่ายังไงก็ต้องดูให้ได้เพราะชื่อผู้กำกับ นีล จอร์แดน มาประสานกับสุดยอดฝีมืออย่าง โจดี้ ฟอสเตอร์ แถมเสริมทัพด้วย เทอเรนซ์ ฮาวเวิร์ด ที่เราติดใจมาจาก Crash ด้วย

พล็อตไม่ได้มีอะไรใหม่หรือน่าตื่นเต้น แต่ที่ชวนให้ติดตามคือ นีล จอร์แดน จะทำออกมายังไงมากว่า

เอริก้า เบน (โจดี้ ฟอสเตอร์) เป็นนักจัดรายการวิทยุอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก เธอเดิน “เก็บเสียง” ไปตามที่ต่างๆ ของเมือง สมกับชื่อรายการว่า StreetWalk มีชีวิตที่เป็นสุข กำลังจะแต่งงานแต่ก็มาถูกทำร้ายปางตายในเซ็นทรัลพาร์กซะก่อน เธอสลบไปสามสัปดาห์แล้วก็รอดมาได้ ส่วนแฟน-ตาย เอริก้ามีชีวิตต่อมาด้วยความหวาดระแวง เธอกลัวที่จะออกไปข้างนอก ได้แต่หมกตัวอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ โลกข้างนอกไม่ปลอดภัยสำหรับเธออีกต่อไป

หลังจากเหตุการณ์นั้น เอริก้าเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบกฎหมายที่ดูเหมือนไม่ได้จริงจังกับการเอาคนผิดมาลงโทษเลย เธอหาทางป้องกันตัวเองด้วยการหาปืนมาไว้ในครอบครอง แล้วมันก็เป็นอย่างที่เธอบอก...เธออยู่ได้ เพราะเธอเปลี่ยนไปแล้ว...

เพราะความที่เอริก้านอนไม่หลับ กลางคืนเธอจึงเดินไปเรื่อย และเปิดโอกาสให้ได้กำจัดคนพาล พิพากษาคนเลวเหล่านั้นด้วยตัวเธอเอง ในลักษณะเดียวกับที่ไลต์ แห่ง Death Note ทำ สุดท้ายไลต์หลงมัวเมากับอำนาจพิเศษนั้น แต่กับเอริก้ายังน่าสงสัยอยู่ว่าเธอจะพาตัวเองเดินไปอยู่จุดเดียวกับไลต์หรือเปล่า

นักสืบเมอร์เซอร์ (ทอเรนซ์ ฮาวเวิร์ด) เป็นด้านตรงข้ามของเอริก้า เขาเชื่อมั่นในระบบการจัดการของกฎหมาย แม้ว่าหลายครั้งจะเห็นอยู่ตำตาว่ากฎหมายไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย หากผู้ต้องสงสัยนั้นสามารถใช้กฎหมายได้เป็นประโยชน์กับตัวเอง (กรุณายกตัวอย่างกันเองในใจ เหอๆๆๆ)

เราว่า นีล จอร์แดน ทำออกมาได้สมราคา พล็อตแบบ cliché แบบนี้ยังทำออกมาได้น่าติดตาม ชวนลุ้นกันตลอดเวลา ใช้คุณสมบัติของความเป็นหนังได้คุ้มดี เราคลิกมากๆ กับฉากที่เอริก้าเดินขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน ถึงมันจะเป็นการสื่อแบบบอกใส่หน้ากันตรงๆ ไม่ได้มีลีลาอะไรพิเศษ แต่มันก็ประกาศตัวออกมาว่า ต่อจากนี้ไปเอริก้าจะมีมุมมองต่อชีวิตเปลี่ยนไปแล้วนะโว้ย! แล้วเธอก็เปลี่ยนแปลงไป...

ที่ไม่ชมไม่ได้คือ โจดี้ ฟอสเตอร์ เพราะหนังทั้งเรื่องเป็นของเธอจริงๆ ออกมาทุกซีน และทำให้คนดูอย่างเราได้ค่อยๆ เห็นพัฒนาการของตัวละครได้อย่างน่าเชื่อถือมาก คือเราว่าถ้าเล่นมากกว่านี้อีกนิดเดียว มันจะกลายเป็นหนังแอคชั่นดาดๆ ตะลุยไล่ฆ่าเอามันเฉยๆ ถ้าน้อยกว่านี้สักหน่อยก็จะไม่น่าเชื่อถือว่าจะลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ได้ (หลังๆ นี่ โจดี้ ฟอสเตอร์ เลือกเล่นแต่หนังทำนองนี้ เราอยากดูเธอเล่นอะไรแบบ Contact อีกจัง) ดูแล้วก็อดนึกถึง อูม่า เทอร์แมน ใน Kill Bill ไมได้ ทั้ง the Bride และ เอริก้า เลือกที่จะลงมือจัดการปัญหาด้วยตัวเอง เพราะกฎหมายไม่สามารถพึ่งพาได้ทั้งคู่

ชอบหนังเรื่องนี้ แม้ว่าจะมาสะดุดกับฉากจบ สงสัยอยู่ว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า มันดู feel good เกินไปหรือเปล่า แต่พอคิดไปคิดมา ก็ยังนึกไม่ออกว่า ถ้าไม่อย่างนี้แล้วจะแลนดิ้งลงสวยไปกว่านี้อย่างไร สงสัยอีกอย่างด้วยว่า มันควรจะชื่อ “the Brave One” จริงเหรือเปล่า?

ม.ห.1 อีกหนึ่งตัวละครที่ทำเราลุ้นเอาใจช่วยตลอดเรื่องคือน้องหมาตัวนั้น ซึ่งสุดท้ายเราว่าพวกนั้นมันก็เลี้ยงดีอยู่นะ ไม่มีซูบ ไม่มีโทรมเลย
ม.ห.2 ชอบ Torrence Howard จัง (^^)




 

Create Date : 19 กันยายน 2550
7 comments
Last Update : 19 กันยายน 2550 18:27:30 น.
Counter : 585 Pageviews.

 

ก่อนอื่น... คุณจิ้มก้องสับสน "ไลท์" กับ "แอล" แล้วล่ะจ้า อิอิ...



ผมชอบ The Brave One มากๆ เพราะมันลงไปลึกกว่า Death Note (ฉบับหนัง) หลายขุมนัก มันไม่ใช่แค่เรื่องของคนที่เกิดอาการต่อต้านระบบยุติธรรม แต่เป็นเรื่องของคนที่มีบาดแผลในจิตใจ และระบบยุติธรรมไม่อาจเยียวยาได้ จึงต้องหันไปพึ่งวิธีการ Vigilante หรือ ศาลเตี้ย แบบไม่ใคร่เต็มใจนัก

ทำไมผมถึงบอกว่าเธอไม่เต็มใจ? เพราะทั้งเรื่องเราจะเห็นสภาพที่สับสน งุนงง และไม่มั่นใจในตัวตนของตัวเองอยู่ตลอดเวลาของเอริก้า เธอพูดเสมอว่า ตอนนี้เธอกำลังถูก "คนแปลกหน้า" ครอบงำเธออยู่...

แม้เธอจะสับสนว่าควรจะให้คนแปลกหน้าคนนี้กระทำการศาลเตี้ยต่อไปหรือไม่? เธอก็พยายามหลอกตัวเองเช่นกันว่าที่จริงแล้วคนแปลกหน้าคนนี้อาจไม่ได้เป็นเพียงฆาตกร แต่เธอคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อย่างที่ผมสังเกตได้ตอนที่เธอถามนักสืบเมอร์เซอร์ว่า "ตอนคุณยิงคนร้าย มือคุณสั่นมั้ย" และเขาตอบว่า "ไม่" ซึ่งเป็นหนึ่งวันหลังจากที่เธอยิงวัยรุ่นผิวดำสองคนในรถไฟใต้ดินโดยที่มือเธอไม่สั่นเหมือนวันแรก

เวลานั้นเธออาจรู้สึกว่าเป็น "ผู้พิทักษ์" ขึ้นมาจริงๆก็ได้



ในทางกลับกัน เธออย่างเป็นผู้พิทักษ์จริงหรือไม่?
ผมคงตอบว่าไม่
เพราะแม้ว่าเธอจะใช้ปืนของเธอฆ่าคนเลวๆทิ้งไปหลายต่อหลายศพ แต่ท้ายที่สุดแล้วบาดแผลในใจของเธอก็ไม่ได้หายไปไหน... ที่ผ่านมาเธอฆ่าคนด้วยการหลอกตัวเองว่า เธอเป็นผู้พิทักษ์ เธออยากเป็นผู้พิทักษ์ ไม่อยากให้ใครเจอแบบเธออีก

แต่สิ่งที่ติดค้างในใจก็คือ เธอต้องการเอาคืนคนที่ทำกับเธอจนชีวิตเปลี่ยนไปขนาดนี้... และแน่นอน เธอไม่ยอมให้ระบบยุติธรรมเข้ามายุ่มย่ามภารกิจของเธอ

และแล้วเรื่องราวก็นำไปสู่ตอนจบที่ผมมองว่าคลาสสิกมากๆ เพราะมันเหมือนเป็นการปลดล็อกจิตใจของตัวละครหลักทั้งสองคนได้อย่างดีเยี่ยม

ถามว่าหนังเรื่องนี้ควรจะชื่อ The Brave One หรือไม่?
ผมว่าการที่เธอและเขากระทำการแบบนั้น ก็ต้องใช้ความกล้ามากเพียงพอแล้ว... ที่จะสูญเสียตัวตนของตัวเองไป






ปล. ผมลองคิดเล่นๆ บางทีตัวละครเอริก้าอาจจะเป็นสัญลักษณ์แทนอเมริกาหลัง 9/11 ก็ได้นะครับ เพราะทั้งอเมริกาและเอริก้าต่างถูก fucked up จากชาวต่างชาติที่ไหนไม่รู้ ก่อนที่จะดำเนินการ vigilante กับคนอื่นๆที่เอริก้า(อเมริกา)มองว่าเป็นคนผิด
แต่ถ้ามองแบบนี้ หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังโปรอเมริกาไปเลยน่ะสิ อิอิอิ

 

โดย: nanoguy 19 กันยายน 2550 2:45:09 น.  

 

คนที่พิพากษาคนร้ายในเดธโน้ตคือไลท์ค่ะ ไม่ใช่แอล

 

โดย: วาซาบิ IP: 124.121.18.176 19 กันยายน 2550 10:12:38 น.  

 

จริงด้วยคุณนาโนฯ + คุณวาซาบิ ขอบคุณที่ท้วงค่ะ (อายจัง...เอิ๊กกกก )

คุณนาโนฯ
เพิ่งจะเห็นความเห็นของคุณนาโนฯ เพราะมันดันตกไปอยู่ในคอมเม้นต์ที่ถูกแบน...ได้ไงไม่รู้ สงสัยมีคำต้องห้ามในย่อหน้าสุดท้ายน่ะนะ [- -]"

ที่ติดใจกับฉากจบ เพราะดูมันลงตัวเกินไป และสงสัยว่ามันจะเป็นประเด็นใหม่ในใจของทั้งคู่ต่อไปรึเปล่า

เมอร์เซอร์ลงมือกับครั้งนี้ไปแล้ว มันจะเป็น "ครั้งเดียว" หรือว่าจะเป็นแค่เพียง "ครั้งแรก" เพราะดูว่าเขาก็เห็นดีเห็นงามกับเอริก้าอยู่ ว่าทำลงไปแล้วมันได้ผล

ส่วนเอริก้าน่ะ (จากงานภาพที่เห็น) ก็ดูว่าจะยังอยู่ในวังวนความสับสนและมืดดำต่อไป เมอร์เซอร์ปล่อยเธอจากมุมอับ จากประตูที่ติดล็อก แต่ไม่ได้มีอะไรที่จะสื่อเลยว่าเมื่อลงมือกับไอ้พวกนั้นไปแล้ว เธอจะ "หลุดพ้น" หรือ "หยุด" ไว้เพียงแค่นี้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเอริก้าจะทำให้เรานึกถึงไลต์ (รอบนี้ไม่ผิดละนะ ^^') แต่เราคิดว่าเธอคงไม่ลุ่มหลงจนกู่ไม่กลับอย่างไลต์ เพราะยังมีสามัญสำนึกในด้านดีเป็นพื้นฐานอยู่เยอะค่ะ

สำหรับเรา ไอ้คำว่า The Brave One มันเหมือนเป็นภาพลวงว่าฉันกล้าที่จะลุกขึ้นมาสู้เพื่ออะไรบางอย่าง แต่จริงๆ แล้วมันก็เป็นความอ่อนแอของจิตใจอย่างเหลือเกินด้วยเหมือนกันที่ยอมให้ด้านมืดครอบงำและสูญเสียตัวตนไป

 

โดย: jimkong 19 กันยายน 2550 16:45:52 น.  

 

เค้าขออ่านข้ามๆก่อนน้า ยังไม่ได้ดูหนังเลย...
กลัวไม่ลุ้น ฮ่า
ชอบลุคนี้โจดี้ ฟอสเตอร์ แปลกๆด้วยทรงผมเก๋ๆ

 

โดย: tistoo 19 กันยายน 2550 23:01:49 น.  

 

หมาที่บ้านเราชื่อมู่หลาน ทิกเกอร์ กับ มันบด
เราว่าหนังเรื่องนี้มันน่าจะชื่อ The Stranger มากกว่า ตอนดูมีความรู้สึกเหมือนได้ดูหนังเก่าๆ (ประมาณ Leon) บุคลิกตัวละครน่าสนใจมาก โดยเฉพาะเรื่องเสียง มันให้ความรู้สึกแปลกแยกดีจริงๆ แล้วเราเองก็ชอบงานของ นีล จอร์แดน ทุกเรื่อง ไม่รู้ว่าได้ดู Breakfast on Pluto กันรึเปล่า เราได้ดีวีดีมาจากร้านลูกแมว มาบุญครอง อาจจะปีเก้าศูนย์กว่าๆ นี่ก็เจ๋ง ได้ดาราวัยรุ่นที่เล่น 28 days later น่ะ (จำชื่อไม่ได้)
แล้วถ้าชอบหนังแปลกๆแบบไม่ตลาด จะมาชวนไปดูหนังเรื่อง "The Songs of Eh Doh Shi" ใน International Film Festival ที่เอสพลานาท (ตรงข้ามศูนย์วัฒนธรรม) วันพฤหัสสะบอดีที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลาบ่ายโมงตรง
เป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตผู้ลี้ภัย และชาวบ้านลุกขึ้นทวงถามสิทธิอันชอบธรรมของตัวเอง หนังพูดภาษากะเหรี่ยง ซับอังกฤษนะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.worldfilmbkk.com/

 

โดย: mayimstudio (Mayim ) 29 ตุลาคม 2550 9:44:05 น.  

 

สำหรับผมคิดว่าเรื่องนี้บทพูดของเอริก้าดีมากโดยเฉพาะตอนพูดออกอากาศประทับใจครับ
แต่ที่ตะขิดตะขวงในใจก็เป็นฉากจบที่ดูลอยไปนิด ทั้งที่หนักๆมาทั้งเรื่องแต่ฉากจบดูแล้วไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ โดยรวมก็ยังเป็นหนังที่น่าดูครับ ไม่เคยผิดหวังกับผลงานการแสดงของจูดี้ ฟอสเตอร์เลย

ปล.Contact ก็ยังเป็นหนังดวงใจตลอดกาล

 

โดย: Gep IP: 222.123.11.197 24 มกราคม 2551 21:21:28 น.  

 

แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี

 

โดย: koreaserie (loveyoupantip ) 6 สิงหาคม 2554 11:32:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.