jimkong
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




jimkong อ่านว่า จิ้มก้อง
เป็นชื่อ [อดีต] ป้าหมาแก่ที่บ้าน
ไทยหลังอาน ใจโหด หน้าเหี้ยม
ฉลาด ดื้อ และน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jimkong's blog to your web]
Links
 

 
2006 : BkkFilm : เก็บตก 0225


Iberia :
การแสดงประกอบเพลงที่ประพันธ์โดย Isaac Albeniz โดย Carlos Saura ผู้กำกับคนเดียวกับ Flamengo ซึ่งมาฉายในเทศกาลหนังบางกอกเมื่อหลายปีก่อน อารมณ์ของหนังประมาณเดียวกันแต่ดูง่ายกว่าฟลาเมงโก้ เพราะคราวนั้นเป็นการเต้นระบำฟลาเมงโก้ประกอบการร้องเพลงโดย...ไม่มี sub-title คนดูเดินออกจำนวนมหาศาล ที่เหลือก็หลับๆ ตื่นๆ กัน คราวนี้ดูง่ายขึ้นเยอะเพราะตัวหนังแทบจะไม่มีบทสนทนา หนำซ้ำบทสนทนาที่ปรากฏก็ไม่ได้มีผลต่อเรื่องเลย มีร้องเพลงบ้างเล็กน้อยแต่ก็สื่อด้วยภาพได้เป็นอย่างดี

ในแต่ละเพลงมีลีลาการนำเสนอแตกต่างกันไป มีทั้งเดี่ยวเปียโน (เพลงนี้เป็นลองเทคด้วย) วงโยธวาทิต บัลเลต์ แท้ป ฟลาเมงโก้ กีตาร์โปร่ง moderndance etc. โดยใช้เพียงเวทีกลางแจ้งเป็นที่แสดง แต่ปรับเปลี่ยนฉากให้รับกับการแสดงด้วยระนาบทางตั้ง แสง สี แค่นั้นเองก็ได้อารมณ์หลากหลาย

ดูง่าย สนุก ภาพสวย การเต้นและเล่นดนตรีน่าตื่นตาตื่นใจ ฉากที่เล่นกับพลาสติกใสได้อารมณ์มากๆ



the Giant Buddhas :
สารคดีเกี่ยวกับพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ซึ่งเกิดจากการแกะสลักหน้าผาที่บามิยัน ประเทศอัฟกานิสถานที่ถูกพวกทาลีบันถล่มทำลายท่ามกลางการคัดค้านจากทุกฝ่าย

หนังพยายามนำเสนอจากหลากหลายมุมมองให้ครอบคลุมครบถ้วน ทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมา ชัยภูมิพื้นที่ที่เป็นทางผ่านจากเอเชียตะวันออกไปยังฝั่งยุโรป ๖ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองมีการอ้างอิงถึงบันทึกของพระถังซัมจั๋ง) จนเมืองค่อยๆ ตายไปเมื่อมีเส้นทางใหม่ที่สะวกกว่า และกลับมาถูกค้นพบอีกครั้งโดยนักประวัติศาสตร์/โบราณคดี มีมุมมองจากชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางด้านประวัติศาสตร์ นักข่าวที่ลักลอบเข้าไปถ่ายภาพตอนองค์พระถูกระเบิด ฯลฯ

ส่วนตัวคิดว่าหนังพยายามจะใส่อะไรๆ ลงไปมากเกินไปแต่ยังจัดการมันได้ไม่ดีนัก ยังขาดๆ เกินๆ อยู่ แต่เห็นถึงความตั้งใจดีแบบเกินร้อยที่จะบันทึกประวัติศาสตร์หน้านี้ไว้ให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ อิฉันว่าถ้ามีการตัดต่อใหม่ หนังจะกระชับและน่าสนใจได้มากกว่านี้อีกเยอะ

รอบนี้ไม่มี Q&A แต่มีผู้กำกับมาแนะนำหนังก่อนฉายและเปิดโอกาสให้ซักถาม 2-3 คำถาม



Naked in Ashes :
เป็นหนังสารคดีจากสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับโยคีในอินเดียซึ่งมีการบำเพ็ญเพียรด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป ช่วงต้นที่เปิดเรื่อง เป็นกล้องแฮนด์เฮลด์ถ่ายแบบไหวไปไหวมา รู้สึกเหมือนโยคีอัพยาอ่ะ ดูไปประมาณ 40 นาที รู้สึกว่าไม่มีอะไรใหม่ไปกว่าที่เคยดูจากสารคดีในทีวีเลย แนะนำโยคีคนนี้ คนโน้น คนนั้น, ความเชื่อ ความศรัทธาของผู้คนทั้งที่มีต่อพระเจ้าต่างๆ และต่อโยคี, แม่พระคงคาสำคัญต่อผู้คนอย่างไร

หนังเล่าแบบ...เล่าไปเรื่อยๆ ไม่สรุปประเด็นสักที รู้สึกเหมือนว่าถ่ายมาแล้วก็เอามาใช้ให้หมด ตัดใจตัดทิ้งไปไม่ได้

เป็นเรื่องแรกตั้งแต่ดูหนังในเทศกาลหนังที่ดูไม่จบ! อีกอย่างที่อาจจะถือเป็นความซวยของเราคือนอกจากจะหงุดหงิดกับตัวหนังแล้ว ยังนั่งติดกับผู้กำกับสาวและเพื่อน (อันนี้รู้เพราะมีไปแนะนำตัวก่อนฉายหนัง) เวลาโยคีคนไหนออกมาคุณผู้กำกับก็จะซุบซิบคิกคักกับเพื่อน เล่าให้ฟังอารมณ์ประมาณว่าตอนถ่ายคนนี้เป็นแบบงี้ๆๆๆๆ หรือมีเกร็ดขณะถ่ายทำเล่าให้เพื่อนฟัง จริงๆ เขาคุยกันเสียงเบามากเลยนะ แต่อย่างว่าแหละ เป็นความซวยของเราที่ดันนั่งติดกัน แล้วช่วงนั้นประสาทสัมผัสรับเสียงภาษาอังกฤษได้ดีเป็นพิเศษน่ะ พอเซ็งได้ที่ พิจารณาดูแล้วว่าถ้าพลาดที่เหลือของเรื่องนี้ไป ก็ไม่ได้พลาดอะไรในชีวิตเป็นแน่ เลยออกมาตัดผมแก้เซ็ง (กุดหมดหัวเลย เอิ๊กเอิ๊ก)



Obaba :
หนังเปิดเรื่องด้วยบรรยากาศคลุมเครือ น่าหวาดระแวง เมื่อ ลอร์เดส นักศึกษาวิชาภาพยนตร์มีการบ้านต้องไปถ่ายอะไรก็ได้มา เพื่อนำมาเรียนรู้เรื่องตัดต่อต่อไป เธอเลือกไปที่หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาห่างไกลชื่อ Obaba สิ่งแรกที่ดูไม่ปกติก็คืออิสมาเอล เจ้าของโรงแรมกิ้งก่าที่เธอพักอยู่นั่นเอง อิสมาเอลไล่จับกิ้งก่าเขียวอยู่กลางถนนตอนค่ำมืด มีโรงเลี้ยงกิ้งก่า หนำซ้ำมีคนบอกเธอว่าชายหูหนวกเพื่อนของเจ้าของโรงแรม ถูกอิสมาเอลเอากิ้งก่าใส่หูให้เข้าไปกินสมอง ดังนั้นจากที่เป็นคนฉลาดเมื่อวัยเด็ก เขาก็ค่อยๆ แย่ลงจนเป็นอย่างที่เห็น...เรื่องนี้ดึงดูดลอร์เดสอย่างแรง เธอจึงเริ่มมุ่งเป้าไปที่อิสมาเอลและผองเพื่อนในวัยเด็กที่ถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน ยิ่งค้นลึกลงไปเท่าใด เธอก็ได้ค้นพบตัวเองควบคู่กันไปกับเฉลยปริศนาในวัยเด็กของใครหลายคน

หนังทำได้ดีมากในส่วนของการสร้างอารมณ์ระทึกขวัญ ใช้ภาพและเสียงได้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง



The Consequences of Love (Le conseguenze dell'amore) :
หนังเท่มาก
ภาพสวยมาก องค์ประกอบดีเลิศ (สามารถหยุดภาพแล้วสวยทุกช็อต - ขนาดนั้น?) และดูมีที่มาที่ไป ไม่ใช่ใส่เอาเท่เฉยๆ
The Consequences of Love ใช้สารพัดเทคนิคของศาสตร์ภาพยนตร์มาตรึงคนดู
เอาคนดูอยู่มือด้วยสิ!

ติ๊ตต้าเป็นชายสูงวัยที่อาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งมาแปดปีแล้ว เขาไม่สุงสิงพูดคุยกับใคร กิจวัตรซ้ำเดิมทุกวัน ทุกๆ เดือนจะมีวันที่เขาออกไปข้างนอก เขาอยู่ที่นี่เพื่ออะไร มีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร แล้วทำไมจู่ๆ ถึงเกิดอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตขึ้นมา

จะดูเรื่องนี้ให้สนุก น่าจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเนื้อหามาก่อนเลย เพราะมันมีพลิกไปพลิกมาเป็นระยะ ลุ้นและเกิดคำถามตลอดเวลาดีค่ะ


Create Date : 15 พฤษภาคม 2549
Last Update : 15 พฤษภาคม 2549 22:11:34 น. 2 comments
Counter : 996 Pageviews.

 
ปัดโธ่ มิรอปีหน้าเลยล่ะคร้าบ มารายงานเอาป่านฉะนี้

เห็นพี่เล็กเขาชวนพี่ปิ๊กเขียนในเล่มด้วยนา สนใจมั้ย


โดย: yuttipung (yuttipung ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:11:54 น.  

 
เคยดู Flamengo ครับ
ชอบมากๆ ด้วยครับ
(แต่สารภาพว่าหลับไปวูบนึง)


โดย: Oakyman IP: 58.87.140.55 วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:0:27:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.