Bloggang.com : grooveriderz : พาณิชย์มึน-ส่งออกก.ค.เดี้ยงโตแค่ 5.8%

PINK PANDA

สิงหาคม 2550

			1	2	3	4
5	6	7	8	9	10	11
12	13	14	15	16	17	18
19	20	21	22	23	24	25
26	27	28	29	30	31

22 สิงหาคม 2550

พาณิชย์มึน-ส่งออกก.ค.เดี้ยงโตแค่ 5.8%

พาณิชย์มึน-ส่งออกก.ค.เดี้ยงโตแค่ 5.8%

เอกชนโอดถูกกีดกันการค้า-จ่อไล่คนงานครึ่งหมื่น

นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนก.ค.ปี50 ว่า มีมูลค่า 11,810 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.89% ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวสูงถึง 17.7% ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 11,599 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2.44% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ารวม 211 ล้านเหรียญสหรัฐ

การส่งออกเดือนก.ค.ที่ขยายตัวเพียง 5.8% เป็นอัตราที่ต่ำผิดปกติ เราต้องติดตามวิเคราะห์สาเหตุอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าเกิดจากอะไร แต่จากการวิเคราะห์เบื้องต้นน่าจะมีสาเหตุจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้การส่งออกไปตลาดสหรัฐปรับลดลงถึง 13.6% ค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องทำให้ความสามารถในการแข่งขันสินค้าไทยลดลง รวมทั้งผู้ประกอบการส่งออกชะลอการส่งออกจากแรงจูงใจในการส่งออกที่ปรับตัวลดลง เพราะค่าเงินบาทที่แข็งต่อเนื่องจะทำให้อัตรากำไรจากการส่งออกลดลง นายเกริกไกรกล่าว

ทั้งนี้ การส่งออกไปยังตลาดหลักปรับลดลง 1.7% โดยสหรัฐ ปรับลดลง 13.6% สิงคโปร์ ลดลง 25.4% ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น เพียง 1.7% สหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 6.9% อาเซียนเพิ่มขึ้น 0.3% เป็นต้น ส่วนตลาดรองขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.8% ขณะที่ตลาดใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 23.4%

นายเกริกไกร กล่าวถึงการส่งออก 7 เดือนแรก ว่า มีมูลค่า 83,409 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.65% ลดลงจาก 6 เดือนก่อนที่ขยายตัวถึง 18.63% การนำเข้ามีมูลค่า 77,693 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.14% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 5,716 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการส่งออกเดือนก.ค.จะปรับลดลงมากแต่ยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกเดิมที่ 12.5% เพราะขณะนี้ค่าเงินบาทเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะผู้ส่งออกไปเปิดตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ส่วนปัญหาหนี้สินในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในลูกหนี้ด้อยคุณภาพ(ซับไพรม์) ในสหรัฐจะกระทบต่อการส่งออกของไทยหรือไม่ยังตอบไม่ได้ต้องรอดูสถานการณ์ 1-2 เดือน

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจความเห็นผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไทย 9 กลุ่มสินค้าสำคัญซึ่งมีสัดส่วนการส่งออก 60% ของการส่งออกทั้งประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากการออกมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า ว่า จะส่งผลกระทบทำให้การส่งออกไทยปีนี้ปรับลดลง 4,396.99 ล้านบาท ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 5,080.49 ล้านบาท และจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีการปลดคนงานจำนวน 4,935 คน

กลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มสินค้าประมงและประมงแปรรูปส่งออกลดลงประมาณ 257.59 ล้านบาท จากมาตรการด้านสุขอนามัย รองลงมาเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มส่งออกจะลดลง 67.13 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านการจ้างงานมากที่สุดคือ กลุ่มผักและผลไม้จากมาตรการสุขอนามัยเช่นกัน รองลงมาคือกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม นายอัทธ์กล่าว

นายอัทธ์ กล่าวว่า ประเทศคู่ค้าที่มีการออกมาตรการกีดกันทางการค้าและทำให้มูลค่าการส่งออกไทยลดลงมากที่สุดได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ทั้งนี้หากพิจารณาระดับความรุนแรงของมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ในภาพรวมจะเห็นว่ากลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นกลุ่มที่ถูกกีดกันมากและรุนแรงที่สุดเป็นอันดับที่

ข้อเสนอแนะ

จากการวิเคราะห์เบื้องต้นน่าจะมีสาเหตุจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศอเมริกา ทำให้การส่งออกไปตลาดสหรัฐปรับลดลงถึง 13.6% ค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องทำให้ความสามารถในการแข่งขันสินค้าไทยลดลง รวมทั้งผู้ประกอบการส่งออกชะลอการส่งออกจากแรงจูงใจในการส่งออกที่ปรับตัวลดลง เพราะค่าเงินบาทที่แข็งต่อเนื่องจะทำให้อัตรากำไรจากการส่งออกลดลง ภาครัฐควรให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการส่งออกในไทยในเรื่องด้านการเงินจนกว่าเศรษฐกิจของอเมริกาจะดีขึ้น
รัฐบาลควรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านการส่งออกมองหาประเทศอื่นๆ ที่เราจะทำการส่งออกแทนสหรัฐอเมริกาในช่วงนี้ ในด้านสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มสินค้าประมง แปรรูปส่งออกควรมีมาตรการตรวจสอบคุณภาพด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้เป็นที่รองรับของตลาดต่างประเทศ หรือให้ภาครัฐสนับสนุนให้คนไทยเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศเพื่อที่จะสั่งสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปในประเทศนั้นเพื่อช่วยเหลือชาวประมงและเกษตรกรในประเทศไทย

จัดทำโดย
น.ส. นิชกานต์ ศรีสมวงษ์
น.ส. จินตนา สุรชัยเกษม

Create Date : 22 สิงหาคม 2550

Last Update : 22 สิงหาคม 2550 17:27:35 น.

0 comments

Counter : 686 Pageviews.