มองภาพแห่งความสำเร็จที่ชัดเจน เดินแต่ละก้าวอย่างมีสติ ด้วยใจที่สงบ
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
13 มีนาคม 2555

วิกฤติ ต้มยำกุ้ง (ตอนจบ)

ไปดูวิกฤติการเงินตัวอื่นกันต่อ...



แวะทักทายนายแว่นธรรมดาได้ที่นี่ครับ...
//www.facebook.com/NaiwaenTammada

ตกแต่งบ้าน และสวนสวย
//homebuyerguides.blogspot.com/2011/09/mdf-index.html

เริ่มต้นลงทุน กับ นายแว่นธรรมดา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=greenpluss&group=44





 

Create Date : 13 มีนาคม 2555
2 comments
Last Update : 13 มีนาคม 2555 8:11:21 น.
Counter : 1119 Pageviews.

 

จอร์จ โซรอส (12 สิงหาคม ค.ศ. 1930 - ) เดิมชื่อ จอร์จี ชวาร์ตซ์ (ฮังการี: György Schwartz) นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี เป็นนักวิเคราะห์ค่าเงิน นักลงทุนหุ้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Soros Fund Management และสถาบัน Open Society Institute

นิตยสาร ฟอร์บส์ ได้จัดให้ จอร์จ โซรอส อยู่ในอันดับที่ 35ของบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินมูลค่าประมาน 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เขาได้บริจาคเงิน 6 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อการกุศลตั้งแต่ ค.ศ. 1979 เป็นต้นมา

โซรอสเคยเป็นสมาชิกในคณะกรรมการของ Council on Foreign Relations และยังเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง Center for American Progress ปัจจุบันจอร์จ โซรอส ก็ยังคงมีตัวแทนในคณะกรรมการอยู่ แม้ว่าตัวเขาเองจะคิดว่าเป็นการกล่าวชมยกยอกันมากเกินไป แต่ชาวรัสเซียและชาวตะวันตกก็มองว่าการสนับสนุนทางการเงินและการจัดการของเขา เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ Georgia’s Rose ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา

อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เขียนถึงจอร์จ โซรอส หลังจากที่เขาออกหนังสือ The Alchemy of Finance เมื่อปี ค.ศ. 2003 ว่า จอร์จ โซรอส ได้สร้างความโดดเด่นในด้านที่เขาเป็นผู้วิเคราะห์มาก โซรอสนับได้ว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และเป็นที่รู้กันในความฉลาดหลักแหลมของเขา เพราะโซรอสจะถอนตัวเมื่อยังอยู่ในจุดที่มีความได้เปรียบ การกระทำของโซรอสได้เพิ่มแรงกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายประเทศให้กลายเป็นประเทศที่สนับสนุนสังคมเปิด

นอกจากโซรอสจะส่งเสริมเสรีทางการค้าแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่ปรับให้ประชาชนเปิดรับความคิดใหม่ๆ ให้ประชนของประเทศนั้นๆ ยอมรับฟังแนวคิดและการกระทำที่แตกต่างออกไป

 

โดย: . IP: 10.52.7.247, 202.44.8.100 17 มีนาคม 2555 11:37:14 น.  

 

งานด้านธุรกิจBlack Wenesday (16 กันยายน 1992) กองทุนของโซรอสขายหุ้นมูลค่ากว่า $1,000,000,000 ปอนด์ โดยเก็งกำไรว่าจะซื้อกลับด้วยราคาที่ต่ำกว่า เพื่อที่จะดูว่าทางธนาคารจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจะได้เทียบเท่ากับค่าเงินยุโรปหรือว่าจะปล่อยให้ค่าเงินลอยตัว ในที่สุดธนาคารอังกฤษถอนเงินออกจาก Europen Exchange Rate Mechanism ทำให้ค่าเงินตก ในการกระทำครั้งนี้ โซรอสสร้างกำไรประมาน 1,100,000,000 เขาขึ้นชื่อว่า “ชายผู้ทำลายธนาคารอังกฤษ” The Times ของวันจันทร์ ที่ 26 ตุลาคม ปี 1992 ได้คัดลอกบทสนทนาของ จอร์จ โซรอส ว่า “ในตำแหน่งของเรา ในวัน Black Wenesday ต้องมีมูลค่าเกือบ $10,000,000,000 แน่ เรากะว่าจะขายมากกว่านั้น ความจริงแล้วตอนที่ Norman Lamont บอกก่อนที่จะค่าเงินตกว่าจะยืมเงินเกือบ $15,000,000,000 เพื่อจะปกป้องค่าเงินของเขา เราก็นึกสนุกขึ้นมาเพราะนั่นคือจำนวนที่เรากะว่าจะขายอยู่พอดี” Stanley Druckenmiller ที่ทำการแลกเปลี่ยนภายใต้การดูแลของโซรอส เป็นผู้เห็นจุดอ่อนในค่าเงินปอนด์ สิ่งที่โซรอสทำคือดันเขาให้ทำให้มันใหญ่ขึ้น ในปี 1997 ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจของเอเชีย นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย มหาธีร์ โมฮาหมัด กล่าวหาโซรอสว่าเขาใช้ความมั่งคั่งลงโทษกลุ่มอาเซียนที่รับพม่าเข้ามาเป็นสมาชิก แต่โซรอสก็ปฏิเสธคำกล่าวหานั้น ในหนังสือของเขาที่ออกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 The New Paradigm for Financial Markets กล่าวถึงกลุ่มที่เรียกว่า “Supperbubble” ซึ่งได้ก่อตัวขึ้นภายใน 25 ปีที่ผ่านมา นี่เป็นหนังสือเล่มที่สามที่เขาได้เขียนที่พยากรณ์ความหายนะ โซรอสได้กล่าวไว้ว่า เขาเป็นเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ หนังสือเล่มแรก The Alchemy of Finance ในปี 1987 แล้วก็ The Crisis of Global Capitalism ในปี 1998 แล้วก็เล่มนี้ เพราะฉะนั้นก็มีหนังสือทั้งหมดสามเล่มที่ทำนายว่าจะมีหายนะเกิดขึ้น หลังจากเด็กเลี้ยงแกะบอกว่าหมาป่ามาสามครั้ง หมาป่าก็มาจริงๆ

เขาบอกว่าที่เขาประสบความสำเร็จเพราะว่าเขาสามารถบอกได้เมื่อการคาดเดาของเขาผิด ฉันรวยเพียงแค่เพราะว่าฉันบอกได้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันผิด ฉันรอดมาได้ก็เพียงแค่เพราะฉันเอาตัวรอดได้จากข้อผิดพลาดของฉัน ฉันเคยรู้สึกปวดหลังมากๆ เพราะว่าฉันทำพลาดไป ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอทำพลาดเธอต้องสู้ พอคิดได้อย่างงั้นอาการปวกหลังของฉันก็หายไป

กุมภาพันธ์ 2009 โซรอสบอกว่า ระบบการเงินโลกได้แตกตัวออกจากกันอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังไม่มีทางแก้วิกฤติทางเศรษฐกิจอันใกล้นี้อยู่ดี “เราได้พบเจอการล่มสลายของระบบการเงิน และก็ถูกดูแลเป็นพิเศษเพื่อประคองตัวได้แม้แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ และไม่ใกล้เคียงก้นบึ้งเลย”

1988 เขาถูกชักชวนให้ไปร่วมในการยึดธนาคารสัญชาติฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง Societe Generale เขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมและภายหลังยังซื้อหุ้นในธนาคารนั้นด้วย รัฐบาลฝรั่งเศสเริ่มสิบสวนกรณีนี้ในปี 1989 และหลังจากนั้นในปี 2002 ทางศาลของฝรั่งเศสก็ตัดสินมาว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ผิดกฎหมาย โดยใช้ข้อมูลวงในในทางที่ผิด (insider trading) โดยปรับตามกฎหมายฝรั่งเศสเป็นเงิน $2,300,000 ซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่ได้มาจากการกระทำครั้งนี้ แต่ไม่มีรับผิดใดๆ เพราะความล่าช้าในการนำคดีขึ้นศาล โซรอสปฏิเสธการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น และบอกว่าข่าวเรื่องการยึดธนาคารนั้นเป็นข่าวสาธารณะไม่ใช่ข่าววงใน คดีความนี้ได้ขึ้นไปสู้ศาลสูงสุดของฝรั่งเศส ในวันที่ 14 มิถุนายน 2006 และในเดือนธันวาคม ปี 2006 เช่นกัน โซรอสได้นำคดีนี้ขึ้นศาลสิทธิบุคคลของยุโรป เนื่องจากคดีนี้ได้ไต่สวนเกินกว่า 14 ปีแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีการแก้ตัวในชั้นศาลอย่างเป็นธรรม

2005 โซรอสเป็นหุ้นส่วนเล็กในกลุ่มผู้ลงทุน ที่พยายามจะซื้อ Washington Nationals ของ National Leagues ผู้ร่างกฎหมาย republican บางคนพูดว่าพวกเขาอาจจะเปลี่ยนการกะทำของเขาที่มี

 

โดย: . IP: 10.52.7.247, 202.44.8.100 17 มีนาคม 2555 11:37:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นายแว่นธรรมดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่บล็อกนายแว่นธรรมดา บล็อกที่รวมเอาความคิด ความฝัน ความรู้สึกของนายแว่นธรรมดา เพื่อปะติดปะต่อภาพแห่งความรู้สึกในใจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ (ขอสงวนการนำข้อมูลในบล็อกไปใช้ครับ)
Free counters!
New Comments
[Add นายแว่นธรรมดา's blog to your web]