ร้อยเรียง-รักแรกที่ตราตรึง แห่งรัชกาลที่ ๕
ร้อยเรียง-เรื่องเล่า สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ รักแรกที่ตราตรึง แห่งรัชกาลที่ ๕
อ่านเรื่องนี้ทีไร... อยากบอกว่าชอบมากคะ เห็นทีต้องเก็บไว้เสียแล้ว เคยไปชมสถานที่แห่งนี้หลายครั้ง ก็ยังชอบมากๆเหมือนเดิม ลงเผยแพร่ผ่านมติชน 10 มิย.2558 โดย : อนุภาค ชัยชนะดารา
(อนุสรณ์แห่งความอาลัย ที่พระราชอุทยานสราญรมย์)
ในประวัติศาสตร์ไทยนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในองค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ของสยามประเทศที่มีพระราชประวัติ และเรื่องราวส่วนพระองค์ ที่น่าสนใจอยู่มากมาย อาทิเช่น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีเลิกทาส, การป้องกันการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และจักรวรรดิอังกฤษ, การใช้ระบบเขตการปกครองใหม่ เช่น มณฑลเทศาภิบาล จังหวัดและอำเภอ, การสร้างรถไฟสายแรก คือ กรุงเทพฯ ถึง เมืองนครราชสีมา (วันที่ ๑ มีนาคม ร.ศ.๑๐๙ / พ.ศ. ๒๔๓๓) ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ ถ้าต้องเล่าเรื่องพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจที่สำคัญ ก็คงต้องเล่ากันหลายหน้ากระดาษ ...แต่ถ้าให้เล่าถึง ความรัก ความผูกพัน ระหว่างพระพุทธเจ้าหลวงและพระอัครมเหสีอันเป็นที่รักยิ่งแล้วนั้น เรื่องเล่าของ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งเป็นเหตุเกิดแห่งตำนาน พระนางเรือล่ม ที่ได้สร้างความโทมนัสแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังคำจารึกไว้อาลัย ที่ปรากฎบน อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ภายในเขตพระราชฐานชั้นใน พระราชวังบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ว่า...
รฦกถึงความรัก แห่ง สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อรรคมเหษี อันเสด็จทิวงคตแล้ว ซึ่งเธอเคยมาอยู่ในสวนนี้โดยความศุขสบายและเปนที่ เบิกบานใจพร้อมด้วยผู้ซึ่งเปนที่รัก และที่สนิทสนมอย่างยิ่งของเธอ อนุสาวรีนี้สร้างขึ้น โดย จุฬาลงกรณ์บรมราช ผู้เปนสวามีอันได้รับความเศร้าโศกเพราะความทุกข์ อันแรงกล้าในเวลานั้นแทบจะถึงแก่ชีวิตร ถึงกระนั้นยังมิได้หักหาย
จุลศักราช ๒๑๔๓
ณ จุดนี้เอง ทำให้ใครหลายคนต่อข้อสงสัยว่า เหตุผลกลใดเรื่องราวของ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระอัครมเหสีพระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงถูกกล่าวขาน และกลายมาเป็นตำนาน พระนางเรือล่ม เรื่องราวและเหตุเกิดนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร ??
(สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์) ผศ.ดร.ปรีดีพิศภูมิวิถีอาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตำนานพระนางเรือล่ม ไว้อย่างน่าสนใจว่า สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นพระอัครมเหสีของรัชกาลที่ ๕ ทรงดำรงตำแหน่งพระอัครราชเทวี ทรงเป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ ๔ ที่ประสูติแต่ เจ้าจอมมารดาเปี่ยม หรือ สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา มีพระขนิษฐาร่วมพระอุทรที่สำคัญ ก็คือ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา) และสมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ (สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี) ซึ่งทั้งหมดถวายตัวเป็นพระมเหสี ในรัชกาลที่ ๕และด้วยพระสิริโฉมที่งดงาม และมีพระราชอัธยาศัยที่เป็นไมตรีมาก รวมถึงพระราชธิดาพระองค์น้อยก็ทรงน่ารัก จึงทำให้พระองค์ทรงเป็นที่โปรดปราน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างยิ่ง แม้จะไม่ใช่ รักแรก เพราะทรงมีเจ้าจอมก่อนหน้าที่ จะเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วก็ตาม แต่ก็ทรงเป็น พระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่งและตราตรึงอยู่ในพระทัยของพระองค์ตลอดมา... ในประวัติศาสตร์ไทยนั้น พระองค์ทรงประสบอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่ม ขณะเสด็จพระราชดำเนินโดยเสด็จรัชกาลที่ ๕ ไปยังบางปะอิน สิ้นพระชนม์พร้อมด้วยพระราชธิดา คือ สมเด็จเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯ และเหตุการณ์นี้เอง คือ ที่มาของ ตำนานพระนางเรือล่ม ในเวลาต่อมา....
(พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์) ต่อข้อสงสัยถึงเหตุการณ์...เรือพระประเทียบ"ปานมารุต" ที่มีสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ซึ่งทรงพระครรภ์ได้5เดือน พร้อมด้วย พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ และพระพี่เลี้ยงประทับอยู่ด้วยนั้น ประสบอุบัติเหตุล่มที่บางพูด เมืองนนทบุรี นั้น
ผศ.ดร. ปรีดี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์นี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงซักถามจาก กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช พระยามหามนตรี และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยพระยามหามนตรีทูลว่า เรือราชสีห์ซึ่งจูงเรือพระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรีนั้นนำหน้าไปทางฝั่งตะวันออก โดยมีเรือโสรวารซึ่งพระยามหามนตรีไปจูงเรือพระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี ตามไปเป็นที่สองในแนวเดียวกัน ส่วนเรือยอร์ชของกรมหลวงวรศักดาพิศาล ซึ่งจูงเรือกรมพระสุดารัตนราชประยูรไปทางฝั่งตะวันตกแล่นตรงกัน กับเรือราชสีห์ หลังจากนั้น เรือปานมารุตแล่นสวนขึ้นมาช่องกลาง ห่างเรือโสรวารประมาณ ๑๐ ศอก พอเรือปานมารุตแล่นขึ้นไปใกล้ เรือราชสีห์ก็เบนหัวออก เรือพระประเทียบเสียท้ายปัดไปทางตะวันออก ศีรษะเรือไปโดนข้างเรือโสรวารน้ำเป็นระลอกปะทะกัน กดศีรษะเรือพระประเทียบจมคว่ำลง
แต่กรมหมื่นอดิศรอุดมเดชกล่าวว่า เป็นเพราะเรือโสรวารหนีตื้นออกมา จึงเป็นเหตุให้เรือปานมารุตแล่นห่างกว่า ๑๐ ศอก ซึ่งกรมหมื่นอดิศรอุดมเดชและพระยามหามนตรีต่างซัดทอดกันไปมา สิ่งสำคัญคือ ขณะที่เรือพระประเทียบล่มนั้น พระยามหามนตรีได้ออกคำสั่งห้ามผู้ใดลงไปช่วยเหลือ ด้วยเป็นการขัดต่อกฎมณเฑียรบาลที่ห้ามให้ผู้ใดแตะต้อง พระวรกายของพระมเหสี และให้โยนมะพร้าวเข้าไปให้เป็นทุ่นเกาะแทน ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้คลี่คลายต่อข้อสงสัย ...จนได้ความจริงขึ้นมาอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา
รายงานข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระราชินีสยาม จากหนังสือพิมพ์ Le monde lllustre ปี ค.ศ.1882 (พ.ศ.2425) (ภาพจาก ไกรฤกษ์ นานา)
ด้วยเหตุแห่งความรัก ความผูกพัน ระหว่าง พระพุทธเจ้าหลวงและพระอัครมเหสีอันเป็นที่รักยิ่ง นี้ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ มติชนอคาเดมี จึงจัดทัวร์ศิลปวัฒนธรรม รักแรกที่ตราตรึง สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ นำโดยอาจารย์ไกรฤกษ์ นานา ที่จะมาล้วงลึกในเหตุการณ์ วิปโยคกลางสายน้ำ กับเรื่องเล่า พระนางเรือล่ม โดยถ่ายทอดเรื่องเล่าจากเอกสารตะวันตก ประกอบบันทึกทางประวัติศาสตร์ไทยถึงเบื้องหลังการสิ้นพระชนม์ แบบฉากต่อฉาก โดยละเอียดรวมทั้งสัมผัสจุดเกิดเหตุ พร้อมกับข้อมูลบางอย่างที่ยังไม่ได้พูด เกี่ยวกับเรื่อง สมเด็จพระนางเรือล่ม
(อนุสรณ์แห่งความอาลัยที่พระราชอุทยานสราญรมย์) อย่างไฮไลท์ที่เราจะไปดูครั้งนี้อย่าง พระราชวังบางปะอินซึ่งเป็นที่ประทับในรัชกาลที่๕ที่ทรงสถาปนา ขึ้นบริเวณพระราชวังเดิมที่บางปะอินที่กษัตริย์อยุธยาได้ทรงสร้างไว้ และรัชกาลที่ ๔ ก็ได้ทรงสร้างเพิ่มเติมด้วย ในสมัยรัชกาลที่ ๕ โปรดที่จะเสด็จพระราชดำเนินที่บางปะอินบ่อยครั้ง ทั้งโดยทางรถไฟ และทางเรือพระที่นั่ง แต่เมื่อวันจันทร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการให้แต่งเรือพระที่นั่งเ พื่อเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอิน พร้อมพระมเหสีทุกพระองค์เจ้าจอมมารดาเจ้าจอมและข้าราชบริพาร โดยก่อนวันเสด็จพระราชดำเนินนั้น พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ทรงพระสุบิน(ฝัน) ว่า พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯ ทรงพระดำเนินข้ามสะพานแห่งหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯ ทรงพลัดตกน้ำลงไป พระองค์สามารถคว้าพระหัตถ์เอาไว้ได้ แต่พระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ก็ลื่นหลุดจากพระหัตถ์พระองค์ไป พระองค์ทรงคว้าพระหัตถ์พระเจ้าลูกเธอจนทรงตกลงไปในน้ำด้วยกัน ทั้งสองพระองค์ ถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงหวั่นพระทัย แต่ก็มิได้ทรงกราบบังคมทูลให้พระราชสวามีทรงทราบ และได้ตามเสด็จฯ ประพาสพระราชวังบางปะอินตามพระราชประสงค์ ในวันเสด็จฯ นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เคลื่อนขบวนเรือต่าง ๆ ออกไปก่อนในเวลาประมาณ ๒ โมงเช้า โดยพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ประทับบนเรือเก๋งกุดั่น โดยมีเรือปานมารุตซึ่งเป็นเรือกลไฟจูงเรือพระประเทียบ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสร็จพระราชกิจแล้ว จึงได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยเรือพระที่นั่งโสภณภควดี ตามไปเมื่อขบวนเรือพระที่นั่งไปถึงบางตลาดนั้นจ มื่นทิพเสนากับปลัดวังซ้ายลงมากราบทูลว่า เรือพระที่นั่งพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ซึ่งเรือปานมารุตจูงไปนั้นล่ม ที่บางพูดองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ แลพระชนนีสิ้นพระชนม์ รัชกาลที่ ๕ ทรงเสียพระทัยมากผศ.ดร. ปรีดีกล่าว
และจุดนี้เอง ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการสร้างอนุสาวรีย์ มาจนถึงปัจจุบัน และก่อให้เกิดแนวคิดที่จะสร้างอนุสาวรีย์ หรืออนุสรณ์ ให้กับผู้ที่สิ้นไป ทิวงคต ไป แล้วตามที่ต่างๆ ได้ เพราะหลังจากนั้นจะเกิดอนุสรณ์ตามที่ต่างๆ มากขึ้นมาจวบจนถึงปัจจุบัน ....เพื่อเป็นที่ระลึกถึง บุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง ในเวลาต่อมา...ซึ่งเราจะต้องไปค้นหาคำตอบนี้กันอีกครั้ง
.......................................................................................................
Create Date : 10 มิถุนายน 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 19 กันยายน 2558 5:53:59 น. |
Counter : 4536 Pageviews. |
|
|
|