ภุชคินทร์ต้องหลุดจากความฝัน เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาลุกขึ้นมาดูเห็นเป็นฟีบี้ จึงไม่ยอมรับสายแล้วเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจโทรศัพท์...
งานเปิดร้านเพชรของเจ้าประกายคำจัดที่โรงแรมหรูระดับห้าดาว มีคุณหญิงคุณนาย และแขกวีไอพีมาร่วมงานกันคับคั่ง แต่ละคนแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเครื่องประดับราคาแพง...ภุชคินทร์ปล่อยให้หม่อมภาณี และ หนูนาเข้าไปในงาน ส่วนเขาแยกออกมาคิดอะไรอยู่ด้านนอก แต่สายตาเหลือบไปเห็นเจ้าอุรคาในชุดสวยสุดเดินเข้ามาในงาน
ภุชคินทร์หันไปมองด้วยความแปลกใจ และพยายามเรียกเธอไว้ แต่ยิ่งเรียก เจ้าอุรคาก็เหมือนจะยิ่งเดินหนีเขาจึงวิ่งตาม แต่วิ่งตามเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะทัน...ภุชคินทร์วิ่งตามมาเกือบจะตกดาดฟ้า โชคดีที่ฟีบี้มากระชากแขนไว้ได้ทัน ภุชคินทร์หันมามองอย่างไม่พอใจ
ฉุดพี่ทำไมฟีบี้
ก็พี่ชายกำลังจะเดินตกดาดฟ้านะสิคะ
ภุชคินทร์นิ่วหน้าชะงักตกใจ กวาดสายตามองแล้วก็เห็นว่าขาตัวเองยืนอยู่บนดาดฟ้า ซึ่งถ้าฟีบี้ไม่ฉุดเอาไว้ คงได้ร่วงหล่นลงด้านล่างแน่ ๆ เฟื่องฟ้าที่เดินมาตามถามอย่างสงสัย
ตามหาใครกันคะ
เปล่าครับ
งั้น...ก็เข้าไปด้านในเถอะค่ะ...พี่ชายมาเดินใจลอยอยู่อย่างนี้ฟีบี้เป็นห่วง
ว่าแล้วฟีบี้ฉวยโอกาสคล้องแขนภุชคินทร์พาเดินเข้างานไป...พอก้าวเข้ามาในงาน เฟื่องฟ้าก็เที่ยวกระซิบบอกกับนักข่าวว่าฟีบี้เป็นแฟนของภุชคินทร์...ฟีบี้พยายามเปิดตัวเต็มที่ด้วยการประกบติดภุชคินทร์เพื่อให้นักข่าวถ่ายรูป จนภิงคารนึกรำคาญ ต้องแยกภุชคินทร์ออกไป
เจ้าอุรคาในชุดสวยหรูดูสง่างามเดินเข้ามาในงาน ทุกสายตาจับจ้องมองเธออย่างตื่นตะลึง โดยเฉพาะภุชคินทร์ และสุบรรณที่ดูจะตะลึงจนออกหน้าออกตา เจ้าอุรคาเดินตรงไปยังเจ้าประกายคำ และทักทายกันอย่างสนิทสนม
ดิฉันเอาเครื่องประดับของภูจำปา มาแสดงในงานด้วยค่ะ เจ้าอุรคาบอกทุกคน
ชรายุเปิดหีบเครื่องประดับออกมา เห็นเป็นมรกต ครุฑธิการ
เครื่องประดับต้นตระกูลของดิฉัน จะมีอยู่สามอย่าง คือ นาคสวาท มรกต และครุฑธิการ
เจ้าอุรคาหยิบเครื่องประดับขึ้นโชว์ทีละชิ้น ทุกคนพากันฮือฮา...ภุชคินทร์เพ่งมองครุฑธิการ มันเหมือนกับแหวนมุกที่เขาเห็นที่ร้าน...หม่อมภาณีมองในหีบไม่มีเครื่องประดับอีกแล้ว
แล้วไหนล่ะคะ ...นาคสวาท เจ้าประกายคำสงสัย
อยู่นี่ค่ะ
เจ้าอรุคายกมือขึ้นลูบไล้บริเวณลำคอขาวผ่อง ทุกคนพากันฮือฮาเห็นเจ้าอุรคาสวมสร้อยที่มีจี้เป็นพลอยนาคสวาทสีเขียวเข้ม สวยงามมาก...ขณะที่ภุชคินทร์เบิกตากว้าง เพราะมันเหมือนกับที่เขาฝันเห็นพญานาคราชกระอักเลือดออกมาเป็นสีเขียวเข้ม ภุชคินทร์หน้าซีด เหมือนมีลมบางอย่างมาปะทะจนตัวชาวูบ จี้นาคสวาทเม็ดนั้น พุ่งเข้าสายตา ทำให้เวียนหัว มึนงง และรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พุ่งเข้าใส่ร่างกาย เหมือนพญานาคราชถูกพญาครุฑทำร้าย
ภุชคินทร์ตวัดสายตาหันไปมองสุบรรณ เห็นเขาจ้องมองนาคสวาทอย่างสนใจ ท่าทางของท่านสุบรรณน่าเกรงขาม จนภุชคินทร์ขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัว รู้สึกถึงร่างกายจะหมดแรงลงเดี๋ยวนั้น แล้วเขาก็ล้มทรุดฮวบลงไป ได้ยินเสียงหม่อมภาณี หนูนา ฟีบี้ และคนอื่น ๆ กรีดร้อง ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบไป
ที่ลำน้ำโขง ภุชคินทร์เดินมา เขาได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้ปิ่มว่าใจจะขาด ภุชคินทร์เดินเข้าไปใกล้ ๆ ด้านหลังของสตรีนางนั้นช่างคุ้นตานัก
คุณ...ร้องไห้ทำไมคุณ...ร้องไห้ทำไมภุชคินทร์ร้องถาม
เธอไม่ตอบ เอาแต่ร้องไห้แบบคนที่หัวใจสลาย ภุชคินทร์ตัดสินใจเอื้อมมือไปดึงไหล่ของเธอ สตรีนางนั้นทำท่าจะหันมา แต่แล้วภุชคินทร์ก็รู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างถูกกระตุกอย่างแรง
ภุชคินทร์ถูกปฐมพยาบาลจนได้สติ ไพศิษฐ์ก้มลงไปใกล้ ๆ ได้ยินภุชคินทร์พึมพำเบา ๆ
คุณ...คุณเป็นใคร คุณร้องไห้ทำไม
แต่พอนาถสุดาถามว่าภุชคินทร์พูดอะไร ไพศิษฐ์กลับบอกว่าฟังไม่ได้ศัพท์ สงสัยจะเพ้อ...ภุชคินทร์เหมือนไม่ได้สติ พิศิษฐ์เข้าไปจับตัวทำท่าจะพาไปหาหมอ ภุชคินทร์ก็ได้สติขึ้นมาบอกว่าไม่เป็นไร ฟีบี้ขออยู่ดูแลภุชคินทร์ในห้อง
แต่ภิงคารปฏิเสธบอกให้หนูนาช่วย
เจออะไรเรียกเสียงดัง ๆ นะชาย ฉันอยู่หน้าห้องอารักขาเพื่อนเต็มที่ ไพศิษฐ์กระเซ้า
จะเจออะไร
ไพศิษฐ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
จะไปรู้เหรอ ตะกี้ตอนหมดสติ นายเอาแต่เพ้อละเมอถาม...คุณ...คุณเป็นใคร...แล้วก็...คุณร้องไห้ทำไม
ภุชคินทร์ตกใจ เขาฝันและละเมอจริง ๆ ฟีบี้ทำท่าสยอง แอบได้ยินไพศิษฐ์กระซิบภุชคินทร์...ภุชคินทร์ถูกหนูนาพาเข้ามาในห้องพัก แต่เขาก็อยู่ได้ไม่นาน ก็รีบลุกพรวดออกจากห้องไปเพราะนึก
สงสัยสร้อยมุกของเจ้าอุรคา ฟีบี้เห็นภุชคินทร์ออกมามองหาใครบางคน ก็พยายามทำตัวเป็นจุดเด่นให้ภุชคินทร์หันมาสนใจตัวเอง รีบสาวเท้าเข้าไปหา แต่ยังไม่ทันถึงตัว ชรายุก็เข้ามายืนขวางหน้า จนแก้วน้ำในมือของชรายุ หกใส่เสื้อชุดสวยจนเลอะไปหมด
ฟีบี้แว้ดใส่ชรายุ เพราะไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ขณะที่ชรายุยืนหน้านิ่งไม่ตอบโต้ใด ๆ นาถสุดามองชรายุอย่างสนใจเพราะจู่ ๆ เธอก็มา แล้วจู่ ๆ เธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...ภุชคินทร์หายไป เจ้าอุรคาก็ไม่อยู่ สุบรรณก็ไม่มีอยู่แถวนั้น ไพศิษฐ์จึงตามหา เลยไม่เห็นว่าสุรินทร์มือสังหารได้เข้ามาปะปนกับแขกในงาน และแอบสบตากับอำนาจอย่างรู้กัน
ภุชคินทร์เห็นเจ้าอุรคา รีบเดินตามมาจนเกือบจะถึงตัว แต่ยังไม่ทันจะเรียกก็เห็นสุบรรณเดินเข้าไปคุยกับเจ้าอุรคาตัดหน้าเสียก่อน ภุชคินทร์จึงได้แต่แอบฟังคนทั้งสองคุยกัน เจ้าอุรคามองสุบรรณด้วยท่าทางสงบ ขณะที่สุบรรณพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนประหม่า ราวกับเด็กหนุ่มที่อยู่ในอาการแรกรัก แต่ดวงตาลึกซึ้งจริงจัง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ผมคิดถึงเจ้ามาตลอด ผมฝันถึงเจ้า อยากมีชีวิตอยู่กับเจ้า
เจ้าอุรคายิ้มน้อย ๆ ฟังแบบไม่ตื่นเต้น ภุชคินทร์เสียอีกที่รู้สึกหึงหวงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
และยิ่งวันนั้น วันที่ผมเกือบจะจมน้ำตาย ผมก็รู้ทันที ถ้ามีชีวิตรอด ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ครองคู่อยู่กับเจ้า...ผมรักเจ้า เจ้าอุรคา สุบรรณมองซึ้งอย่างรักมาก
ภุชคินทร์ตาเบิกโตยิ่งกว่าเก่า ที่สุบรรณสารภาพรัก ส่วนเจ้าอุรคายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะถามหน้าตาเฉย
แต่คุณยังไม่ได้ถามความรู้สึกของดิฉันเลย คุณก็บอกความต้องการเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมื่อใด รักของท่านสุบรรณ ก็เป็นรัก...เพื่อต้องการครอบครองเสมอ เจ้าอุรคายิ้มมีเลศนัย
ก็แล้วมันต่างจากคนอื่นตรงไหน ใคร ๆ ก็ย่อมอยากอยู่กับคนที่เรารักทั้งนั้น สุบรรณเริ่มเสียงดังแบบหลงอำนาจ
เจ้าอุรคามีสีหน้าเจื่อนไปนิด คำพูดของสุบรรณกระทบใจ
ใช่ค่ะ... มนุษย์ทุกคนล้วนอยากอยู่กับคนที่รัก แม้กระทั่งดิฉันเอง แต่ วิธี ต่างหากที่มันแตกต่างกัน เพราะการที่คนสองคนจะได้อยู่ครองคู่รักกัน ต้องมีหัวใจตรงกัน มิใช่เกิดจากการแย่งชิง
ข้อนี้ผมมองต่างกับเจ้า สำหรับผมรักแท้คือการช่วงชิง รักไม่จริงคือการเสียสละ ถ้าผมรักใคร ผมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวเค้ามา...และใครคนนั้นก็คือเจ้า
ภุชคินทร์ทำหน้าเครียด ได้ยินเขาสารภาพรักกัน เจ้าอุรคายิ้มหยัน
ขอบคุณที่ให้ค่าดิฉันขนาดนั้น ซึ่งดิฉันไม่รู้ว่ามันคือความโชคร้ายหรือโชคดี กับการที่มีใครมาทุ่มเทความรักให้เหมือนคุณสุบรรณ
แล้วเจ้ารู้สึกอย่างไรกับผม สุบรรณถามตรง ๆ