The world around us: My perspective
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
บทสนทนาโดนๆ จากหนังเรื่อง Inception

วันนี้พึ่งมีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง Inception เป็นครั้งที่สองผ่านเคเบิลทีวี หนังยังสนุกอยู่เหมือนเดิม พร้อมด้วยบทสนทนาคมๆ (แม้จะไม่มีอันไหนคมเท่า Matrix ก็ตาม) และศัพท์กับคำพูดที่ใช้ก็ไม่ได้แปลยากเลย ดังนั้นขอฉลองการกลับมาเขียนบล็อกภาษาอังกฤษของผมอีกครั้งด้วยบทสนทนาง่ายๆ นะครับ

อ้อ ก่อนเข้าเรื่อง แวะเอาใบปิดโฆษณาการ์ตูน prequel ของ Inception ตอน Cobol Job มาให้ดูกันครับ เป็นใบแปะที่ประกาศชัดเลยว่าประเด็นของมันคือ What is reality? ดูน่าสนใจมากมาย



เอ้า โม้มาเยอะแล้ว เริ่มเข้าบทสนทนากันเลยนะครับ

Cobb: How's he doing? (เขาเป็นอย่างไรบ้าง)
Ariadne: He's in a lot of pain. (เขากำลังเจ็บมากๆ)
Cobb: When we get down to the lower levels, the pain will be less intense. (เมื่อเราเข้าสู่ฝันชั้นข้างล่าง ความเจ็บจะน้อยลงเอง)
Ariadne: And if he dies? (และถ้าเขาตายล่ะ)
Cobb: Worst case scenario? When he wakes up, his mind is completely gone. (กรณีที่แย่ที่สุดน่ะเหรอ ก็พอตอนที่เขาตื่นขึ้นมา แล้วสติของเขาก็หายไปหมดเลย)
Saito: Cobb. I'll still honor the arrangement. (ค็อบบ์ ยังไงผมก็จะทำตามสัญญาของเรานะ)
Cobb: I appreciate that, Saito, but when you wake up, you won't even remember that we had an arrangement. Limbo's gonna become your reality. You're gonna be lost down there so long that you're gonna become an old man. (ขอบคุณนะ ไซโตะ แต่พอคุณตื่นขึ้นมา คุณจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเรามีสัญญาระหว่างกัน ฝันชั้นล่างสุดจะกลายเป็นความจริงของคุณ คุณจะติดอยู่ข้างล่างนั่นนานเสียจนคุณกลายเป็นคนแก่)
Saito: Filled with regret. (ที่เต็มไปด้วยความเสียใจ)
Cobb: Waiting to die alone. (เฝ้ารอที่จะตายอย่างเดียวดาย)
Saito: No. I'll come back. And we'll be young men together again. (ไม่หรอก ผมจะกลับมา และเราจะกลับมาเป็นหนุ่มด้วยกันอีกครั้ง)

ศัพท์ที่พอจะน่าสนใจก็มีคำว่า intense ซึ่งเป็นคุณศัพท์ที่แปลว่า เข้มข้น รุนแรง ซึ่งน่าจะจำง่ายนะครับเพราะว่าเราน่าจะเคยปรับความเข้มของหน้าจอคอมพิวเตอร์กันมาก่อนบ้าง ซึ่งเขาก็ใช้คำว่า intensity ที่เป็นนามของเจ้า intense นี่แหละ

ตรงประโยค "honor the arrangement" นั้นอาจจะแปลกตาสำหรับคนไม่คุ้นเคย แต่ถ้าลองแปลตรงๆ ว่า honor คือซื่อสัตย์ (แต่ในที่นี้ใช้เป็นกริยา) ส่วน arrangement คือข้อตกลง ดังนั้น "honor the arrangement" ก็คือการซื่อสัตย์กับข้อตกลง หรือแปลให้อ่านง่ายว่า ทำตามสัญญา นั่นเอง

ประโยคบางอันนี่ เราลองแปลไปตรงๆ ดูก่อนเลยครับ อ่านแล้วจะได้อารมณ์ของประโยค พอนำมาเชื่อมกับบริบทของบทสนทนา เราก็จะรู้ความหมายไปเอง ผมทำแบบนี้บ่อยจนกระทั่งรู้สำนวนฝรั่งอยู่หลายสำนวนโดยไม่ต้องไปหาอ่านจากที่ไหนด้วยซ้ำ

ส่วน I appreciate that นั่นน่าจะได้ยินบ่อยจากในหนังหรือไม่ก็ในทีวี (คนจะฝึกอังกฤษยังไงๆ ก็ควรดูหนังหรือทีวีภาษาอังกฤษเยอะๆ นะครับ) ซึ่งมาจากประโยคเต็มๆ ว่า Thank you. I appreciate it (หรือ that) นั่นเอง เป็นคำขอบคุณของฝรั่งแบบยาวๆ น่ะครับ แต่เราแปลไว้สั้นๆ ก็พอ

ส่วนบทสนทนานี้จบด้วยประโยคที่ผมชอบมาก เพราะสุดท้ายในความฝัน ทั้งคู่ก็ต้องตายเพื่อกลับมาอยู่ในร่างหนุ่มในโลกจริงอีกครั้ง ... ซึ่งถ้าเราฟังบทสนทนาของพระเอกกับภรรยามาตลอด ก็น่าจะรู้ว่าเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับความฝันนั้นเบลอมาก มากเสียขนาดที่ตอนจบผู้กำกับก็ยังเล่นกับประเด็นเดิมนี้อีกด้วยตัว totem ที่ยังหมุนต่อไม่จบ

ดังนั้นถ้าเรามองว่าชีวิตนี้คือความฝัน พอเราตายไป เราก็จะไปสู่ชีวิตใหม่ในโลกหน้าพร้อมร่างกายที่เป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นใช่ไหมล่ะครับ เอ งั้นพวกที่ระลึกชาติได้ก็คงเป็นพวกที่จำความฝันได้น่ะสิเนี่ย

-----------------------------------------------------------------

สำหรับผู้ที่ต้องการพูดคุยกับผม สามารถเข้าไปคุยที่ fan page ได้โดยตรงที่ //www.facebook.com/dr.ekkasit นะครับ

ส่วนผู้ที่ติดตามงานสัมมนาการตลาดของผม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของ สัมมนาการตลาดสถานพยาบาล และ สัมมนาการตลาดสถาบันกวดวิชา ได้ที่ //www.exitcorner.com นะครับ

จบกันตรงนี้ด้วยคำราตรีสวัสดิ์ และขออวยพรให้ฝันดีนะครับ


Create Date : 09 มกราคม 2555
Last Update : 9 มกราคม 2555 1:40:00 น. 0 comments
Counter : 10136 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MrET_TK
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




วิศวกรคอมพิวเตอร์โดยปริญญา แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นอาจารย์ในที่สุด (แถมเป็นคณะวิทยาศาสตร์ด้วย ฮะๆๆ) ปัจจุบันเป็นวิทยากรด้านการตลาดออนไลน์ให้กับสถาบันในเครือกรุงเทพธุรกิจและเว็บ exitcorner รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้บริษัทเอกชน

ปัจจุบันผมเขียนบทความใน fan page เป็นประจำ (http://www.facebook.com/dr.ekkasit กับ http://www.facebook.com/InspireRanger)
Friends' blogs
[Add MrET_TK's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.